คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #20 : EP 17 100%
17
“เอ๋?! ท่านอีริคน่ะเหรอครับ? คนรักของ ‘บุตรแห่งพระเจ้า’ น่ะ!!” ชิพร้องลั่นเมื่อรู้ความจริง “ไม่อยากจะเชื่อ ถึงแม้ทั้งสองท่านจะสนิทกันมากแค่ไหนก็เถอะครับ”
“ใช่มั้ยล่ะ? ถ้าไม่ติดว่าฉันบังเอิญไปเจอเข้าตอนที่กำลังโจ๊ะครึ่มๆ กันอยู่พอดีล่ะก็นะ” ชายแปลกหน้าหัวเราะคิกคักเหมือนเรื่องสนุก
“โจ๊ะครึ่มๆ คืออะไรเหรอครับ?” ชิพถามกลับอย่างไม่เข้าใจ
“จริงสิ ลืมไปว่านายอยู่ที่นี่ที่เดียว ไม่เหมือนฉันที่ทัวน์ไปทั่วโลกแล้วล่ะ” ชายแปลกหน้าพูดอย่างขบขัน “มันก็คือ...”
“ไม่ต้องบอกนะ!” ไลน์พูดขึ้นเสียงดัง “เดี๋ยวคืนนี้ข้ากับฟอกซ์จะสอนชิพเอง”
“งั้นเหรอ? ก็ดีนะ” ว่าจบก็หัวเราะคิกๆ ด้วยความสนุกสนานทำเอาคนสองคนที่รู้ความหมายอดที่จะหน้าแดงไม่ได้ “เอาล่ะ เดี๋ยวคนอ่านจะงงว่าฉันเป็นใครนะ จะขอแนะนำตัวก่อนล่ะ”
“อืม” ไลน์รับในลำคอก่อนจะมองหน้าอีกฝ่ายนิ่งอย่างพิจารณา
“ฉันไม่มีชื่อ” ชายแปลกหน้าพูดด้วยรอยยิ้ม “สัตว์ปีศาจของโลกเทพจะไม่มีสิทธิ์มีชื่อ ฉันทำผิดกฎโดยการไปที่โบถส์ซึ่งเป็นข้อห้ามที่พันกว่าๆ อย่าไปรู้เลยดีกว่า ฉันได้ไปเกิดเป็นมนุษย์เริ่มต้นที่ลอนดอน แล้วก็ไล่ไปเรื่อยๆ ตอนนี้ดันหลงทางอยู่ที่เกาะมาดากัสก้า (?) เดินไปเดินมาพอดีมิติบิดเบือนก็เลยแว๊บเข้ามาเดินเล่นที่นี่ จบข่าว”
“เดินเล่น?!”
“ใช่ไง ทำไมเหรอ?” บุคคลที่ไม่มีชื่อพูดแล้วหัวเราะนิดๆ
โลกสัตว์ปีศาจน่ากลัวจะตาย! ดันคิดว่าเป็นที่เที่ยวซะงั้น!
“มันน่าสนุกดีออกนะ พวกมนุษย์น่ะน่าเบื่อ เพราะเป็นเรื่องปกติของมนุษย์ที่เกิดมาด้วยความโลภอยู่แล้ว แต่ก็แล้วแต่ว่ามีมากมีน้อยล่ะนะ”
“แล้ว...”
“โลกนี้น่ะดูๆ ไปแล้วสบายกว่าเยอะแยะเลย พวกที่มีจิตโลภก็จะโลภสุดๆ แต่ถ้าเป็นพวกไม่มีจิตแบบนั้นก็จะประมาณชิพนี่แหละนะ”
“ชิพน่ะ... ตอนที่อยู่บนโลกแห่งเทพมีความสุขมั้ย?” ฟอกซ์ถามขึ้นทำให้คนโดนพาดพิงหันขวับไปมองอย่างไม่เข้าใจ
“อืม... ถ้านับเป็นสัดส่วนก็จะเป็น 5 ต่อ 95 ล่ะนะ 5 คือความสุขนะ” คนไม่มีชื่อพูดขึ้นทำเอาคนสองคนที่พึ่งรู้ต้องเผลอแสดงสีหน้าไม่เข้าใจอย่างแท้จริง “ฉันน่ะ เป็นสัตว์ที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในโลกแห่งเทพ ที่เรียกว่า ยูนิคอร์น และมีอยู่ครั้งหนึ่งที่แอบลงมาดูพวกเทพธรรมดา”
“อ่า...” ฟอกซ์ทำสีหน้าบื้ออย่างไม่เข้าใจอย่างแท้จริง
“พอลงมานะ มันจะเป็นส่วนแบ่งแยกอย่างชัดเจนมากเลยล่ะ ส่วนที่อยู่สูงขึ้นไปประมาณชั้นที่ 3 ขึ้นไปน่ะจะมีแต่พวกเทพใจดี ชวนฉันไปงานบ่อยๆ นะ แต่ชิพดันซวยเกิดมาในชั้นที่ 1 ซึ่งเป็นชั้นแรกและต่ำสุด ก็เลยไปเจอแต่พวกแย่ๆ น่ะสิ”
“งั้นเหรอครับ?”
“เพราะกฎห้ามไม่ให้เทพแต่ล่ะชั้นล่วงเกินไปชั้นอื่น นายก็เลยไม่กล้าที่จะออกไปจากสถานที่โสมมแบบนั้นสินะ”
“ครับ” ชิพชักเหงื่อตกเมื่อเห็นสีหน้าของคนตรงข้ามโหดขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับลุกขึ้นเพื่อที่จะด่าได้ถนัดมากยิ่งขึ้น
“ฉันน่ะ อุตส่าห์ร่อนหาทางช่วยนายนะ! แต่พอจะช่วยได้ๆ ก็หายไปซะงั้น! แถมยังไม่มีใครรู้อีกต่างหาก! แล้วตอนนั้นบุตรแห่งพระเจ้าก็ดันหายพระเศียรไปไหนก็ไม่รู้!”
“ขะ ขอโทษครับๆ” ชิพก้มหัวขอโทษขอโพยอย่างหวาดกลัว “ข้า... ข้าไม่รู้นี่ครับ”
“ชิส์!” ชายแปลกหน้าใบหน้าหวานจิ๊ปากก่อนจะกระแทกตัวลงนั่งอีกครั้ง “ให้ตายสิ รู้บ้างมั้ยว่าพอนายโดนส่งลงมาที่นี่ปุ๊บ ข้าก็โดนถีบส่งลงมาเกิดเป็นมนุษย์ปั๊บเลย น่ารำคาญเป็นบ้า!”
“ข้า... ข้าผิดเหรอครับ?”
“เออ! ผิด!” คนอารมณ์เสียตอบกลับส่งๆ
“วันนั้นข้ายังเห็นท่านอีริคบินผ่านหัวข้าอยู่เลย” ชิพพูดขึ้นลอยๆ “ข้ารู้นะครับว่าท่านอีริคเป็นเทพส่งสารของโลกแห่งเทพเพื่อสงสารไปที่โลกปีศาจบ้าง หรือที่อื่นๆ บ้าง แต่ว่าท่านอีริคจะมาทำอะไรที่โลกปีศาจนี่ล่ะครับ เพราะปกติแล้วเทพอย่างเราๆ เกลียดปีศาจอย่างกับอะไรดี”
“นั่นสินะ” ชายแปลกหน้ายิ้มแปลกๆ ทำเอาชิพชักรู้สึกถึงรางร้ายขึ้นมาตงิดๆ
“เอาเป็นว่าฉันขอตัวก่อนก็แล้วกันนะ เดี๋ยวต้องกลับไปที่โลกมนุษย์แล้วไปที่อังกฤษต่อ” พอชายแปลกหน้าผู้เหมือนหญิงสาวลุกขึ้นยังไม่ทันได้ไปไหนก็มีคนสองคนก้าวเข้ามาในถ้ำ
“สวัสดี ทุกๆ ท่าน” ชายหนุ่มร่างใหญ่ผู้แต่งตัวด้วยชุดราวกับไมเคิล แจ็คสัน แต่ด้วยผมสีแดงนั่นก็เลยคิดว่ามันน่าจะเลียนแบบคนอื่นมากกว่าทักขึ้น พร้อมกับเต้นท่า ‘ลูบเป้า’ โชว์สักสองรอบ
“สวัสดี” เสียงชายวัยทองดังขึ้นโดยที่ไม่สามารถเห็นใบหน้าได้แม้แต่นิดเดียวเพราะชุดฮูดถูกดึงปิดบังใบหน้าและร่างกายทั้งหมดเอาไว้ กับหลังค่อมๆ ที่ไม่รู้ว่าค่อมจริงหรือจงใจให้ค่อมกันแน่
“สวัสดีครับ” ชิพทักกลับ
“สวัสดี” บุคคลปริศนาทักกลับ
“ไง” ฟอกซ์ทักกลับ
“โฮ่ๆๆ” เสียงชายแก่ดังขึ้นจากภายใต้ชุดฮูดทำเอาชายปริศนาอยากจะแง้มดูสักหน่อย “ไม่ทักพวกข้าหน่อยรึ ไลน์?”
“เฮ้อ...” ร่างสูงถอนหายใจนิดๆ ก่อนจะยอมทัก “สวัสดีนะ ดวงตาสวรรค์”
“สวัสดีทุกๆ ท่าน อ่าฮ่า~” ชายในชุดไมเคิล แจ็คสันพูดแล้วทำเสียงราวกับติ๊ด ชิโรโร่แถมท้ายทำเอาร่างสูงต้องถอนหายใจหน่ายๆ
“สวัสดี ทั้งสองท่าน” ไลน์พูดก่อนจะผายมือเชิญให้ทั้งสองคนนั่งลงฝั่งตรงข้ามกับชายหน้าหวานปริศนา ส่วนตนและชิพ อ้อ ‘แถม’ ด้วยฟอกซ์อีกตัวจะยืนเอง ส่วนชายปริศนาก็กำลังจะกลับ...
“อ่า~ ได้ข่าวว่าดวงตาสวรรค์ทำนายแม่นร้อยเปอร์เซ็นต์สินะ” ชายปริศนาที่ทำท่าจะออกไปเดินกลับเข้ามานั่งที่เดิมทันที “ช่วย... ดูให้หน่อยสิ”
“หือ... งั้นเหรอ...” ชายแก่งึมงำในลำคอก่อนจะผายมือให้ไมเคิล แจ็คสันที่นั่งอยู่ข้างๆ “ดวงตาสวรรค์ ดูให้คนๆ นี้หน่อยสิ”
“หา~!!!” เสียงชิพร้องดังลั่นสนั่นเมือง เออ... ไม่สิ ดังลั่นถ้ำเล่นเอาปวดหูหนึบๆ
ไลน์และฟอกซ์ลอบยิ้มขำๆ เพราะปฏิกิริยานี้มันเหมือนตอนที่พวกเขารู้กันครั้งแรกอยู่แล้ว แต่แปลกใจนิดหน่อย... ทำไมไอ้หน้าหวานไม่มีชื่อนั่นถึงได้ไม่ตกใจเลยล่ะ
“อย่ามองหน้าฉันแบบนั้นสิ ไลน์ เดี๋ยวก็จูบซะหรอก!” ชายหน้าหวานแปลกหน้าหันมาพูดด้วยน้ำเสียงล้อเล่นทำเอาไลน์ผงะถอยหลัง “ฮ่าๆๆ ตลกชะมัดเลยนะ หน้านายตอนเหวอเนี้ย?! อย่าคิดมากเลยน่า ฉันไม่คิดจะจูบกับคนที่ไม่ได้รักหรอกนะ”
“อ่าฮะ” ไลน์รับเสียงแห้ง
“แต่ข้าก็หึงนะครับ” ชิพขยิบตาซ้ายให้ชายปริศนาก่อนจะจุ๊บลงบนริมฝีปากของร่างสูงเบาๆ “ก็ไลน์น่ะ เป็นของข้านี่นา~”
ใครสั่งใครสอนให้พูดน่ารักแบบนี้!! เดี๋ยวก็หม่ำซะหรอก!!
“เอาล่ะ จะเริ่มล่ะนะ” ไมเคิล แจ็คสัน (?) หยิบลูกแก้วที่เป็นเหมือนล็อคเก็ตที่ห้อยอยู่ที่คอออกมา ก่อนจะแนบริมฝีปากตัวเองเบาๆ “อืม... เอาเรื่องไหนดี”
“ทุกเรื่อง ว่ามาได้เลย” ชายหนุ่มร่างบางผู้ไม่มีชื่อยิ้มนิดๆ “ฉันรับได้หมดนั่นแหละ”
“ในอนาคตเจ้าจะเจอคนที่ใช่”
“คนที่ใช่งั้นเหรอ?? อืม... สวยมั้ย? หน้าตาเป็นไง?”
“หล่อ... เป็นผู้ชาย... ตัวสูงโปร่ง... อ๊า~ ริมฝีปากน่าจุ๊บเป็นบ้า~”
“เออ... พี่ท่าน... หลุดแล้วๆ” ชายไม่มีชื่อทักท้วง “ต่อๆ แล้วไงต่อ”
“เขาจะมอบชื่อให้เจ้า หากเจ้าเจอคนๆ นั้น เวลานั้นจะเป็นเวลาที่เจ้าสับสนความรู้สึกที่สุด แต่เพียงไม่นานมันจะชัดเจนขึ้นจนเจ้ารู้ตัว... หากเป็นคนที่เจ้ารัก... เขาจะคอยปลอบโยนเจ้า... จะคอยเป็นกำลังใจให้เจ้า... จะคอยเป็นห่วงเจ้า... จะหึง ห่วง และหวงแทบตลอดเวลา... ข้าดีใจด้วยนะ ที่มีคนที่เจ้ารักขนาดนี้อยู่ข้างกาย” ไมเคิล แจ็คสันยิ้มอย่างจริงใจเป็นครั้งแรกให้ชายหนุ่มผู้ไม่มีชื่อ
“ฮะๆ นั้นสินะ สำหรับสัตว์เทพแบบยูนิคอร์นอย่างฉัน... คงจะหาคนที่รักจริงแบบนี้ไม่เจอแน่ๆ” พูดจบก็หัวเราะเป็นเชิงเยาะเย้ยตัวเองก่อนจะเดินออกจากถ้ำไปโดยที่ทุกคนมองตามอย่างเป็นห่วง
“ไม่ไหวๆ แต่อีกไม่นานหรอกนะ” ไมเคิล แจ็คสันปล่อยคำพูดให้หายไปในสายลมโดยที่เจ้าของคำทำนายไม่ได้ยินแต่อย่างใด
“ว่าแต่... พวกท่านมาทำอะไรที่นี่กันแน่?” ไลน์หันไปเค้นคำตอบจากไมเคิล แจ็คสันแทนเมื่อเห็นว่าชายปริศนาหายไปจากสายตาเรียบร้อยแล้ว
“คำทำนาย... ใหม่! อนาคตมีการเปลี่ยนแปลง เพราะ... เทพท่านหนึ่ง... ผู้ซึ่งเป็นจุดศูนย์รวมใจของบรรดาเทพทั้งหลาย จะมา... พรากสิ่งสำคัญในชีวิตของพวกเจ้าไป... จงพยายาม... จงตะเกียดตะกาย... จงเสาะแสวงหา... วิธีที่จะเอาของรักกลับคืนมา... แม้จะเป็นไปไม่ได้... แม้จะผิด... แม้จะถูกฆ่าก็ตาม!!”
ป๊อง~
ทั้งไลน์ ฟอกซ์ และชิพนั่งงงอยู่บนโซฟาอย่างเดิม โดยที่ผู้มาเยือนทั้งสองได้หายไปจากถ้ำตั้งสองชั่วโมงแล้ว
“นี่มัน... จะเกิดอะไรขึ้นอีกล่ะเนี้ย??” ฟอกซ์เบ้หน้าอย่างไม่ชอบใจก่อนจะหันมาพูดกับไลน์ “ของรักงั้นเหรอ... เจ้าคิดออกมั้ย?”
“ของรักของเราทั้งสาม... จะถูกพราก... สำหรับข้าของรักคือ...” สายตาของร่างสูงพุ่งมาที่ร่างบางที่นั่งทำหน้าไม่เข้าใจอยู่ตรงกลางระหว่างร่างสูงและร่างโปร่ง
“ใช่มั้ยล่ะ? ของข้าน่ะ...”
“หือ??” ใบหน้าหวานเงยขึ้นเล็กน้อยเมื่อคนรักทั้งสองมองหน้าของตกนิ่ง ทำให้ชิพเอียงคออย่างไม่เข้าใจแต่ก็ยิ้มหวานๆ ให้
อดไม่ได้ที่จะยิ้มตอบ...
“ถ้าเป็นจริงนะ...” ไลน์และฟอกซ์ชะงักไปเมื่อร่างบางเปรยขึ้นมา “ข้าคงจะ... ไม่หลงเหลือความหวังที่จะมีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้วล่ะครับ”
“ไม่ได้นะ! ถึงเจ้าจะศูนย์เสียอะไรไป! แต่พวกข้าจะยืนเคียงข้างเจ้าเอง! ห้ามเด็ดขาดเลยนะ! ห้ามหมดหวังที่จะมีชีวิตอยู่นะ!”
“ครับ...” ใบหน้าหวานแย้มรอยยิ้มให้อย่างอ่อนหวานก่อนที่ม่านเวทย์ที่ปิดบังถ้ำไว้จะถูกทำลายโดยใครบางคน
โครม!
ง่ะ... ชักเสียศุนย์ซะแล้วสิ
ไหงไม่มีใครมาเม้นตอนนี้ให้เลยอ่า...
เม้นหน่อยน้าๆๆๆ
ความคิดเห็น