คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #29 : EP 26 100%
26
“มาแล้วเหรอ...” ร่างโปร่งเอ่ยขึ้นกับเทพสาวที่มีท่าทางเป็นเด็ก ก่อนจะเหลือบไปมองเพื่อนรักที่แกล้งทำเป็นหลับได้เหมือนยิ่งกว่าหลับจริงซะอีก (?)
“อืม ก็มาแล้วน่ะสิ ไหน? ขอผมเจ้าหญิงหิมะหน่อยสิ แลกกับข่าววันนี้” หญิงสาวเอ่ยออกมาอย่างไม่มีพิธีรีตรอง
“งกจริง เจ้าน่ะ” ว่าจบก็ควักเอาเส้นผมเจ้าหญิงหิมะให้อีกฝ่ายก่อนจะเอ่ยถึงเรื่องที่ต้องการ “ตอนนี้ที่โลกแห่งเทพเป็นยังไงบ้าง?”
“ถ้าให้บอกตามจริงก็สงบขึ้นเยอะ หลังจากที่บุตรแห่งพระเจ้าเลิกยุ่งกับเทพลูกครึ่งตนนั้น” หญิงสาวเก็บเส้นผมไว้อย่างดีก่อนจะยักไหล่อย่างไม่แคร์ “แต่ก็มีข่าวลืออยู่เยอะแยะจนไม่รู้ว่าอันไหนจริงรึเปล่า แต่จะบอกอันที่พอจะมีหลังฐานให้บ้างก็ได้นะ”
“ว่ามาสิ” ร่างโปร่งฟังอย่างตั้งใจทันที
“อันแรกเลยก็คือ... เขาว่าบุตรแห่งพระเจ้าไปแย่งเอาเทพลูกครึ่งมาจากคนรักน่ะ เลยทำให้เทพลูกครึ่งนั่นร้องไห้มาตลอดหลายอาทิตย์”
“หา...”
“อ้อ แล้วก็อีกเรื่องก็คือเขาว่าคนรักของเทพลูกครึ่งตามไปหาถึงโลกแห่งเทพเลยนะแต่ว่าไม่ได้เจอเทพลูกครึ่งหรอก เจอแต่เวทย์ลวงตาของบุตรแห่งพระเจ้าน่ะสิ”
“หมายความว่า...”
“อ้อ แต่ว่าถึงคนรักของเทพลูกครึ่งตนนั้นจะไปหาตอนนี้ก็คงจะไม่มีประโยชน์อะไรอีกแล้วล่ะ นี่ไม่ใช่ข่าวลือนะ ข่าวจริงแท้แน่นอนเพราะว่าฉันเห็นมากับตาว่าเทพลูกครึ่งออกมาจากป่าด้วยสภาพอย่างกับคนที่ไม่ได้กินอะไรเลยมาเกือบสองอาทิตย์ โทรมอย่างกับอะไรดีแน่ะ”
“..........”
“อ๋อ แล้วนี่เรื่องสุดท้ายเกี่ยวกับเทพลูกครึ่งแล้วนะ เพื่อนข้าบอกว่าแม่ของเพื่อนข้าคนนี้น่ะได้รับมอบหมายให้ดูแลเทพลูกครึ่ง แต่ปรากฏว่าพออาบน้ำเสร็จคุยเรื่องๆ หนึ่งกับแม่ของเพื่อนข้าปุ๊บ เทพลูกครึ่งตนนั้นก็หนีไปจากโลกแห่งเทพทันที”
“เรื่องอะไร?”
“อ๋อ ก็เรื่องพอแม่ของเทพลูกครึ่งไง ที่ว่าแม่เป็นเทพ พ่อเป็นปีศาจที่หนีการจับกุมตัวของเหล่าเทพและปีศาจอยู่น่ะ แม่ของเพื่อนข้า...คือเพื่อนข้าไปแอบฟังมาน่ะ...บอกเทพลูกครึ่งว่าพ่อแม่ของเทพลูกครึ่งอยู่ที่โลกปีศาจในป่าต้องคำสาปทางทิศเหนือ”
“แล้ว...”
“เขาว่ากันมาว่าเทพลูกครึ่งกำลังไปตามหาพ่อกับแม่ของตนอยู่น่ะ แล้วก็ใจเด็ดมากเลยนะ ไปคนเดียวแถมยังไม่พกอะไรติดตัวไปสักอย่างอีกต่างหาก”
“บ้าจริง!” ฟอกซ์ถึงกับเผลอสบถออกมาอย่างทนไม่ไหว เหลือบไปเห็นมือหนาของเพื่อนซี้ที่กำแน่นจนเล็บจิกเข้าไปในเนื้อ
“อ๊ะ ฉันคงต้องกลับก่อนแล้วนะ เพราะเดี๋ยวจะมีเรียนต่ออีก ถ้าอยากใช้บริการอีกเมื่อไหร่ก็เรียกได้เสมอนะ” หญิงสาวพูดฉอดๆๆๆ ก่อนแล้วร่างจึงเลือนหายไปกับแสงจันทรา
“ชิพไปหาพ่อกับแม่ของตัวเองงั้นเหรอ? ไลน์ เจ้าจะเอายังไง” ฟอกซ์หันไปถามเพื่อนรักทั้งๆ ที่ตนมีคำตอบอยู่ในใจอยู่แล้ว
“อย่ามาถามมากน่า ข้ารู้ว่าเจ้าก็รู้ว่าข้าคิดยังไง” ร่างสูงย้อน ทำให้ฟอกซ์ต้องพยักหน้ารับ “เจ้าคิดว่าควรจะไปตอนไหนดี... วันนี้... พรุ่งนี้... หรือว่าคืนนี้...”
“ไม่รู้สินะ” ฟอกซ์ถอนหายใจเฮือกใหญ่ “ถ้าถามตามใจจริงแล้วข้าอยากจะไปตอนนี้เลยด้วยซ้ำ”
ร่างสูงผุดลุกขึ้นจากท่านอนเปลี่ยนเป็นนั่งพิงต้นไม้แทนถอนหายใจออกมาเบาๆ ดวงตาสีเข้มมองออกไปในท้องฟ้าสีมืดของยามราตรี เสียงลมหายใจแผ่วๆ ของสองสัตว์ปีศาจหรือจริงๆ คือปีศาจสายเลือดแท้และบริสุทธิ์
“ป่านนี้... เจ้านั่นจะเป็นยังไงบ้างนะ...” ไลน์พูดเสียงแผ่ว ฟอกซ์เหลือบตามองเมื่อได้ยินเจ้าชายผู้สูงศักดิ์เสียงสั่นริกๆ “ฟอกซ์... ตอนนี้... ข้า...”
“..........” ร่างโปร่งนั่งลงไม่ไกลนักฟังในสิ่งที่เพื่อนรักกำลังจะระบายออกมา
ถ้าระบายแล้วจะทำให้สบายใจขึ้นแม้เล็กน้อย... มันก็ยังดีกว่าเก็บไว้แล้วอึดอัดภายในหัวใจจนแทบจะระเบิด
“รู้รึเปล่า... ข้า... ข้าเคยคิดนะ... ถ้าหากว่า... ลองใช้มันล่ะก็... ถ้าลองใช้มัน... จะทำให้ได้ตัวชิพมา... โดยที่ไม่ยากลำบากอะไรเลย... ไอ้อำนาจความเป็นเจ้าชายนั่นน่ะ...”
พอจบประโยคฟอกซ์แทบจะส่ายหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อว่าความคิดมักง่ายแบบนี้จะปรากฎออกมาในหัวอีกฝ่าย แต่แล้ว... ไลน์กลับเป็นคนที่ส่ายหัวซะเอง
“แต่ว่า... ข้าไม่ชอบเลย... ข้าไม่เคยนึกหวังกับอำนาจนั่นเลยสักครั้ง... ยิ่งใช้มัน... ก็จะยิ่งเห็นแก่ตัว... ก็จะไม่รู้จักกับคำว่าพยายาม... ไม่รู้จักกับคำว่าแท้จริง... แล้ว... ถ้าเกิดชิพคิดว่าข้าเป็นคนที่ใช้แต่อำนาจขึ้นมาล่ะ... ถ้าชิพรังเกียจข้าล่ะ...”
ดวงตาสีเข้มของร่างสูงสั่นระริกราวกับกำลังจะร่ำไห้ แต่ว่าไม่มีแม้แต่น้ำตาสักหยดไหลลงมา... เก็บมันเอาไว้... ข้าต้องเข้มแข็ง!!
“ข้ารู้... ไลน์ ข้าเข้าใจ” ฟอกซ์พูดพลางก้มหน้าลง ดวงตาคมหมองลงมาก
จากคนที่เคยร่าเริงและกวนประสาทเป็นอันดับหนึ่ง กลับกลายเป็นคนที่มีแววตาเศร้าสร้อยอย่างที่ไม่มีใครเคยคาดว่าจะเกิดขึ้น
“ข้าเอง... ก็เหมือนกับเจ้า...”
ร่างสูงเงยหน้ามองใบหน้าที่ติดจะหล่อของอีกฝ่าย ไม่ใช่เพราะแปลกใจ... แต่เพราะมันตรงกับที่คิดไว้ต่างหาก
“มันอึดอัดนะ... หัวใจบีบรัด... หายใจแทบจะไม่ออก... อยู่ๆ ก็รู้สึกเหงา... ทั้งๆ ที่แต่ก่อนก็เคยอยู่แบบนี้ได้มาแล้ว... แต่ตอนนี้กลับรู้สึก... ทนไม่ไหว... มือสั่นระริก... น้ำตาพาลจะไหลได้ตลอดเวลา... มัน... แทบจะไม่ไหวแล้ว... ใช่มั้ยล่ะ?”
เสียงที่สั่นระริกของอีกฝ่ายทำให้ไลน์ต้องถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะตัดสินใจ
“เอาน่า คราวนี้... คราวนี้เราลองไปถามกับเจ้าตัวเลยดีกว่านะ ไปถามให้รู้กันไปเลย... รู้จากปากชิพนั่นแหละ” เสียงทุ้มหนักแน่นมั่นคง
ทว่าฟอกซ์กลับตอบกลับด้วยน้ำเสียงไม่แน่ใจว่า “เจ้าคงจะเห็นภาพใช่มั้ย? ว่าถ้าหากว่าคราวนี้เราโดนปฏิเสธ ‘จากปาก’ ของชิพแล้ว... จะเป็นยังไง?”
สายตาของร่างสูงปรากฎแววเศร้าขึ้นมาเพียงแว๊บเดียวก่อนจะถูกลบให้เลือนหายไป ปกปิดอารมณ์ไว้ในส่วนลึก...
“เชื่อใจชิพสิ...”
“แฮ่ก... แฮ่ก...”
ใบหน้าหวานของชิพชื้นเหงื่อทั้งยังซีดขาวจนราวกับกระดาษ ริมฝีปากบางเม้มแน่นอย่างอดทน พยายามผ่อนลมหายใจที่ติดขัดให้เป็นปกติ คิ้วเรียวขมวดมุ่นกับดวงตาที่ฉายแววกังวลอย่างเห็นได้ชัด ร่างบอบบางที่สั่นระริกด้วยความกลัว
“ปะ... ไปรึยังน่ะ...” เสียงหวานแผ่วจนแทบจะไม่พ้นริมฝีปาก ดวงตาใสเหลือบมองไปยังหลังก้อนหินที่ตนกำลังแอบอยู่
สิ่งมีชีวิตขนาดมหึมากำลังเหลียวไปมา รูปร่างที่ไม่ใช่ทั้งมนุษย์และสัตว์ หรือแม้แต่สัตว์ปีศาจก็ไม่ได้เป็น แขนที่แม้จะมีสองแขนแต่ว่าขากลับมีถึงสี่ขา รูปร่างโก่งโค้ง มือและเท้าทั้งสองมีนิ้วแค่สามนิ้วและมีเล็บยาวเกือบเมตรใบหน้าที่ราวกับที-เร็กซ์แต่กลับมีผมที่ยาวจนลากกับพื้น น้ำลายที่หยดเป็นทางแทบตลอดเวลาเรียกความสยดสยองให้กับร่างบางได้เป็นอย่างดี
“โธ่... รีบๆ ไปสักทีเถอะ” เสียงหวานสั่นระริกพอๆ กับขาเรียวบางที่สั่นไม่แพ้กันอย่างหวาดกลัวจนแทบจะทรุด
กรร... แก... อยู่ไหน... กรร
“พะ... พูดได้...” ดวงตาใสเบิกกว้างอย่างตกใจระคนช็อค
ในใจร่างบางตื่นตระหนกอย่างหนัก เรี่ยวแรงที่ไม่ค่อยจะมีราวกับหายวับไปกับตา... ไม่เหลือเรี่ยวแรงแม้แต่น้อย
น่ากลัวเป็นบ้า!!!
จิตใจของชิพเผลอนึกไปถึงคนรักสองตนที่น่าจะยังอยู่ที่โลกสัตว์ปีศาจอย่างนึกโหยหา นึกสงสัยว่าอีกฝ่ายกำลังทำอะไรอยู่กันแน่... บางทีก็เผลอคิดไปว่าทั้งสองตนอาจจะมาช่วยตนได้ด้วยซ้ำ แต่ก็ต้องตบหน้าตัวเองเบาๆ เพื่อปลุกให้ตื่นขึ้นมาพบกับความเป็นจริงว่าตอนนี้อีกฝ่ายยังอยู่ที่โลกปีศาจอยู่เลย
“ตั้งสติหน่อยสิเรา” เสียงหวานพูดอีกครั้งด้วยความดังอย่างเดิม “จะไปหาท่านพ่อกับท่านแม่ไม่ใช่รึไง นี่เป็นเรื่องของตัวเองนะจะให้คนอื่นมาช่วยได้ยังไงกัน”
“พวกข้าเป็นคนอื่นงั้นเหรอ? ชิพ” เสียงทุ้มดังใกล้ๆ หูเรียกหยาดน้ำตาของแห่งความปีติและคิดถึงร่วงผล็อยอาบแก้มนวล
“ไลน์กับฟอกซ์เหรอครับ?” เสียงหวานเอ่ยขึ้นพร้อมกับหยาดน้ำตาอาบแก้มก่อนจะหันกลับไปก่อนที่จะต้องเบิกตากว้างอย่างตกใจ “ไม่!!!”
การกรีดร้องครั้งแรกในชีวิตเมื่อเห็นปีศาจตนที่ตัวเองกำลังหลบซ่อนแสยะยิ้มแล้วยื่นห้าเข้ามาใกล้ใบหน้าหวานที่ซีดเผือดอย่างหวาดกลัวสุดชีวิต ร่างทั้งร่างสั่นระริกก่อนจะทรุดลงนั่งกับพื้นอย่างหมดเรี่ยวแรง
“ทำไม... ทำไมถึง...” เสียงหวานสั่นระริกก่อนจะร่ำไห้อย่างทั้งหวาดกลัวสุดชีวิตและไม่อยากจะเชื่อในทุกสิ่งทุกอย่าง
“เจ้ามาที่นี่โดยไม่รู้อะไรเลยงั้นรึ? ข้าน่ะ อ่านจิตใจได้นะ เป็นไงล่ะ ความรู้สึกสิ้นหวังนี้... มันเป็นรสชาติที่สุดยอดเลยใช่มั้ยล่ะเจ้า” พูดด้วยน้ำเสียงของไลน์ทำเอาชิพร้องไห้อย่างหนักด้วยความคิดถึงสุดชีวิต
“อย่ามา... อย่ามาใช้น้ำเสียงของไลน์กับฟอกซ์นะ...” แม้จะเสียใจสักแค่ไหนแต่ว่าร่างบางยังสามารถคุมเสียงตัวเองให้เรียบเฉยได้ “อย่าบังอาจ...”
“อะไรกัน?” น้ำเสียงของฟอกซ์ถูกปล่อยออกมาทำให้อารมณ์ทั้งหมดของร่างบางถึงจุดสิ้นสุด
“ไม่นะ! อย่ามาใช้น้ำเสียงของทั้งสองตนนะ!!” เสียงหวานกรีดร้องจนเรียกว่าเกรี้ยวกราดจนทำให้ปีศาจตนนั้นชะงัก มองดวงตาหวานใสที่บัดนี้แสดงความมุ่งร้ายจนร่างของปีศาจเผลอสะท้านสั่นอย่างหวาดกลัวกับประกายในแววตานั้น
ด้วยสายเลือดครึ่งเทพครึ่งปีศาจในตัวของร่างบางทำให้เมื่ออารมณ์พุ่งขึ้นสูงถึงจุดขีดสุดสายเลือดปีศาจในตำนานก็กระจายไปทั่วทั้งร่าง
บัดนี้ดวงตาใสที่เคยดำสนิทและหวานเล็กน้อยกลับแปรเปลี่ยนเป็นดวงตาสีน้ำเงินเย็นชาอย่างน่ากลัว
“กะ... แก...”
“เจ้าไม่มีสิทธิ์!!!”
ฟึบ!
----------------------------
คนแต่งจะอัพ เมื่อคนอ่านเม้นนะจร้า~!!
ความคิดเห็น