ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    My Animal Davils รักนี้ข้าให้เจ้า [Yaoi / 3P]

    ลำดับตอนที่ #38 : บทส่งท้าย

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.03K
      3
      20 พ.ค. 53

    บทส่งท้าย

          งานแต่งงานถูกจัดขึ้นที่ปราสาทตอนใต้ในโลกปีศาจ ซึ่งเป็นสถานที่ๆ ถ้าหากผู้ที่จะแต่งงานเป็นเชื้อสายกษัตริย์แล้วล่ะก็ต้องมาแต่งที่นี่ (ยกเว้นแวมไพร์ เพราะทางแวมไพร์เองก็มีสถานที่ให้สัตย์สาบานเองอยู่แล้ว)

          ผู้คนที่มาร่วมงานส่วนใหญ่เป็นคนที่มีเชื้อสายกษัตริย์ด้วยกัน หรือไม่ก็คนสนิทเท่านั้น เพราะงานแต่งงานครั้งนี้ต้องการทำให้เป็นกันเองที่สุด

          และผู้แต่งงานครั้งนี้มีด้วยกันสองคู่ด้วยกัน คือ คู่ (ที่อาจจะไม่ใช่คู่) ของไลน์ ฟอกซ์ และชิพที่ร่างบางยืนแอบอยู่หลังเสาต้นหนึ่งด้วยใบหน้าแดงก่ำ และอีกคู่คือเจ้าชายจากปราสาทตะวันตกกับน้องชายของไลน์ที่ยืนทำใบหน้าเฉยชาอยู่โดยที่หลังพิงเสาอยู่ไม่แยแส

          ดีใจนะ ใบหน้าของชายหนุ่มที่เป็นเจ้าบ่าวทั้งสามเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข และแน่นอนว่าเจ้าสาว (?) ก็ควรจะมีความสุขเช่นกัน

          เอาล่ะๆ เสียงของกษัตริย์แห่งปราสาทใต้ (หรือพ่อของไลน์) ตะโกนขึ้น ไปเข้าพิธีกันเลยดีกว่านะ เดี๋ยวค่อยออกมาที่งานเลี้ยงอีกครั้ง

          งานพิธีถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย อย่างที่เคยบอกไปแล้วว่าคนแต่งไม่ถนัดเขียนอธิบายอะไรพวกนี้มากนัก จึงขอข้ามไปยังตอนสุดท้ายเลยก็แล้วกัน

          ดื่มน้ำสัตย์สาบานซะสิ คนเป็นพ่อพูดแล้วมองดูลูกที่กำลังจะเป็นฝั่งเป็นฝาทั้งสองตนอย่างปลื้มใจ เร็วๆ เข้า พ่อลุ้นนะ

          ครับ รับคำพลางอดอมยิ้มขำไม่ได้

          น้ำสัตย์สาบานเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ถวายบูชาให้กับเจ้าปีศาจที่ตายไปเป็นโกฏิปีแล้ว แต่ก็ยังคงหลงเหลือความศักดิ์สิทธิ์ที่แฝงไว้บนมือของรูปปั้นรูปเจ้าปีศาจที่กำลังถือดาบแต่อีกมือหนึ่งแบออกเอาไว้วางโถน้ำ

          ดวงตาของคนรอบข้างจับจ้องคนทั้งห้าที่นั่งคุกเข่าต่อหน้ารูปปั้นเทพอย่างใจจดใจจ่อ

          อึก~!

     

          ในงานเลี้ยงคู่แต่งงานทั้งสองต่างก็โดดเด่นด้วยเครื่องแต่งกายประจำตระกูลของตัวเอง

          ชิพยืนมองทุกอย่างด้วยความตื่นเต้น มองไปรอบๆ อย่างสนใจ อยากที่จะจับนู้นหยิบนี้ซะหมดแต่ก็โดนร่างสูงและร่างโปร่งที่ประกบข้างคอยปรามอยู่ตลอด

          ดวงตาใสมองใบหน้าของคู่แต่งงานอีกคู่อย่างประหลาดใจเล็กน้อย ตัวร่างบางเองที่แต่งงานนั้นทั้งตื่นเต้นและรู้สึกแปลกๆ ตลอดเวลา แต่ว่าเด็กหนุ่มของอีกคู่หนึ่งกลับที่ใบหน้าที่เฉยชาและติดจะรำคาญอยู่ตลอดเวลา

          ไลน์ครับ ทำไมมายด์ถึงทำหน้าแบบนั้นล่ะ? ไม่ตื่นเต้นเลยเหรอ? ร่างบางถามเป็นชุดอย่างสงสัย ร่างบางแทบจะพูดไม่ออกเลยตั้งแต่ดื่มน้ำสาบานที่เฝื่อนคอสุดยอดแต่เย็นเฉียบถึงใจ

          ร่างบางถามถึงเด็กหนุ่มคนที่ตนจ้องมอง

          อืม ก็... นิสัยเขาเป็นอย่างนี้นี่นะ ร่างสูงยักไหล่อย่างไม่อยากจะสนใจก่อนจะสะดุ้งพรวดเมื่อมือหนาของใครบางคนตะปบเข้าที่ไหล่

          ไง!” ทักเสียงดังแล้วยิ้มให้อย่างเป็นกันเอง

          โหย... เพียส ถ้าเจ้าคิดจะมาอย่างนี้อีกล่ะก็ ข้าฆ่าเจ้าแน่ ร่างโปร่งที่พลอยตกใจไปด้วยหันไปว่าอย่างเคืองๆ เพื่อนรักอีกคน

          อย่าหวังๆ แวมไพร์ร่างสูงหัวเราะหึๆ ในคำคอก่อนจะจ้องใบหน้าของร่างบางเขม็ง อืม...

          เฮ้ย! อย่าจ้องมากโว้ย หวง!” ฟอกซ์พูดราวกับจะโวยวายแต่กลับหัวเราะอย่างถูกอกถูกใจนักหนา ไม่เคยเห็นใช่มั้ยล่ะ? นี่แหละ ชิพของพวกข้าล่ะ

          เหรอ... ร่างสูงมองอย่างไม่แน่ใจ ยูนของข้ายังน่ารักกว่าอีก

          ยูนของเจ้าอ่ะนะ ร่างโปร่งเอ่ยอย่างแหยงๆ ไม่ล่ะ ร้ายเกินไปนิด ไม่ใช่เสป็คข้าวะ

          ว่าแต่... คนของเจ้าไปอยู่ไหนซะล่ะ? ร่างสูงเอ่ยถามเมื่อไม่เห็นคนที่เพื่อนรักน่าจะหอบหิ้วมาด้วย น่าจะตัวติดกันนี่

          ข้าก็อยากให้เป็นอย่างนั้นอ่ะนะ แต่แวมไพร์หนุ่มกลับถอนหายใจอย่างเซ็งๆ ยูนคงเห็นเค้กสำคัญกว่าข้า

          พลั๊ว!

          แวมไพร์ร่างสูงกระตุกพรวดเมื่อมือบางแต่แรงเยอะของใครบางคนตบเข้าที่หลังอย่างแรง ก่อนจะหันไปมองอย่างตื่นๆ

          นินทากันรึไง? เสียงหวานมาพร้อมกับใบหน้าที่หวานไม่แพ้กันเอ่ยถาม ว่าไง ชิพ

          อ๊ะ ท่าน... ร่างบางตกใจที่เห็นอีกฝ่ายที่นี่ ข้าไม่นึกว่า...

          ฮะๆ ก็คำทำนายมันดันเป็นจริงน่ะสิ ยูนหัวเราะคิกคัก ก่อนจะเปลี่ยนอารมณ์มาจ้องใบหน้าของอีกฝ่ายนิ่ง นายเองก็เถอะนะ ทำคนอื่นเขาเป็นห่วงไปทั่วเลยนี่

          เอ๋? ใบหน้าหวานมองอีกฝ่ายอย่างงงงวยพร้อมกระพริบตาปริบๆ เล่นเอาคนพูดต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่...ลืมไปว่าหมอนี่บริสุทธิ์แบบหาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว

          ช่างเถอะๆ ร่างบางบอกปัดก่อนจะตักเค้กขึ้นมากิน ก่อนจะมองคนทั้งสามยิ้มๆ ยังไงก็... วันนี้ก็วันแต่งงานนี่นะ ขออวยพรก่อนจะลืมตัวล่ะกันนะ

          กินเค้กจนลืมอวยพรล่ะสิ เสียงทุ้มของแวมไพร์หนุ่มดังขึ้นเบาๆ ตามมาด้วยการร้องเสียงหลง โอ๊ย!”

          ...เพราะยูนกระทืบเข้าแบบเต็มแรงที่เท้าของเขานั่นเอง

          ขอให้รักกันนานๆ นะ อย่าทะเลาะกันบ่อยนักล่ะ ประโยคหลังหันมาเน้นให้กับร่างสูงและร่างโปร่ง ชิพ นายเองก็ถ้าเห็นสองตนนี้ทะเลาะกันก็ปรามๆ ซะมั้ง ไม่ใช่ร้องไห้อย่างเดียว

          คำพูดเล่นเอาใบหน้าหวานแดงก่ำอดแยกเขี้ยวงุดใส่อีกฝ่ายในใจไม่ได้

          แต่งกันแล้วก็มีความสุขมากๆ นะ อย่าให้ใครหน้าไหนมาแยกพวกนายได้ล่ะกัน พูดจบก็ทำหน้าครุ่นคิด นึกออกแค่นี้แหละ ฝากพูดที่เหลือด้วยนะ เพียส

          แล้วยูนก็ก้าวไปที่โต๊ะวางเค้กอีกครั้งเมื่อเค้กในมือหมดแล้ว! มันหมดตอนไหน...

          เอาเป็นว่าเชื่อมั่นในกันและกัน แค่นี้แหละ อ้อ แล้วก็... มีปัญหาอะไรก็อย่าเอาอารมณ์มาตัดสินอย่างยูนนะ

          เพี๊ยะ!

          อีกครั้งที่ร่างสูงโดดตบเข้าที่หลังแต่เสียงคราวนี้ฟังดูน่าจะเจ็บมากกว่า

          อย่านินทากันสิเพียส อย่าลืมนะ ฉันอ่านใจได้ ร่างบางว่าก่อนจะเดินไปที่โต๊ะวางเค้กอีกครั้งแล้วหยิบจานที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ของวันมากิน

          กลับไปที่ปราสาทคงจะต้องให้งดกินเค้กสักอาทิตย์สองอาทิตย์ แวมไพร์ร่างสูงพูดกลั้วหัวเราะ ว่าแต่ เรียกน้องชายเจ้ามาคุยด้วยกันก่อนสิ ข้าจะได้อวยพรให้

          เอาสิ ร่างสูงรับคำเบาๆ ก่อนจะหันไปมองเด็กหนุ่มที่ยืนเหม่อออกไปข้างนอกช้าๆ ทำให้มายด์ค่อยๆ หันมามองก่อนจะถอนหายใจน้อยๆ

          มือบางของเด็กหนุ่มอย่างมายด์ชักแขนเสื้อของอีกฝ่ายเบาๆ (รังเกียจสุดชีวิต) ก่อนจะพูดอะไรสองสามคำแล้วอีกฝ่ายก็เดินตามร่างบางมาหาไลน์

          พี่มีอะไรกับพวกข้ารึเปล่า? มายด์ถามก่อนจะมองร่างบางที่ยิ้มให้อย่างเป็นกันเองทุกครั้งที่เจอหน้า หรือว่าจะอวยพรไอ้งานแต่งบ้าๆ นี่

          ก็นะ ไม่ใช่พี่หรอก เพื่อนพี่ต่างหาก ใบหน้าหวานของมายด์หันไปมองร่างสูงนิดๆ ก่อนจะก้มหน้าลงเป็นการขอบคุณ

          รักกันนานๆ นะ อย่าทะเลาะกันล่ะ แต่ล่ะประโยคเล่นเอาใบหน้าหวานบิดเบี้ยวก่อนจะคิดในใจว่า ทำไม่ได้’ “ยังไงก็... มีความสุขมากๆ นะ

          ขอบคุณครับ ร่างบางรับคำเบาๆ ก่อนจะหันกลับไปยืนเหม่อที่เดิม

          ขอบใจนะ ทิ้งไว้เพียงร่างสูงที่เป็นเจ้าบ่าวของมายด์ที่ยืนยิ้มแย้มอย่างชอบใจอยู่ตรงนั้น

          ขอถามจริงๆ เถอะนะ ยูริซิส แวมไพร์หนุ่มเอ่ยขึ้น คนรักของเจ้าไม่ชอบข้ารึเปล่า?

          ฮ่าๆๆๆ ร่างสูงหัวเราะก้อง เปล่าหรอกๆ ข้าว่าเขาชอบเจ้าไม่น้อยเลยนะ แต่ว่าอารมณ์ของมายด์ตอนนี้ไม่ดีอย่างสุดๆ ที่ต้องมาแต่งงานกับข้า

          หมายความว่า...

          โดนจับแต่งน่ะ อย่างไม่เต็มใจด้วยนะยูริซิสว่าพลางยิ้มขำๆ แต่สำหรับข้า เต็มใจสุดๆ เลย ไม่อยากจะบอก

          สำหรับไลน์ ฟอกซ์และเพียสแล้ว ถึงยูริซิสจะไม่ได้เป็นเพื่อนซี้ปึกอย่างพวกเขาเองก็ตาม แต่ก็ถือว่าเป็นคนรู้จักที่นิสัยดีในระดับหนึ่ง

          เหอะๆ งั้นที่ข้าอวยพรไปเมื่อกี้... เพียสทำหน้าปุเลี่ยน

          ก็... อ่ะนะ ยูริซิสหัวเราะกึกๆ อย่างสนุกสนาน ก่อนจะเปลี่ยนมาจ้องคนที่เหมือนๆ จะเป็นเพื่อนของตัวเอง ขอโทษด้วยที่ตอนที่เจ้าแต่งงานข้าไม่ได้ไป

          ช่วยไม่ได้นี่นา แล้วคนที่มาก็เป็นพ่อของเจ้าไม่ใช่รึไงกัน? แวมไพร์ร่างสูงพูดก่อนจะหัวเราะอย่างไม่ถือสา

          อืม... ก็อ่ะนะ

     

          ใบหน้าหวานจ้องมองไปที่บรรยากาศที่คุ้นเคยของโลกสัตว์ปีศาจ ทุกกลิ่น (แม้จมูกจะไม่ดีนักก็ตาม) ช่างทำให้ร่างบางรู้สึกดี งานแต่งงานที่ผ่านมาเมื่อหนึ่งอาทิตย์ก่อนก็ราวกับเป็นความฝัน

          ดวงอาทิตย์ใกล้ลับขอบฟ้าเต็มทีแต่ร่างบอบบางยังไม่คิดจะจากที่ๆ ตนนั่งอยู่ไปไหน โดยที่ใกล้ๆ มีร่างของเพื่อนสาวครึ่งปลาที่เมื่อครู่นั่งฟังเรื่องจากปากของเขาอย่างสนอดสนใจกำลังจ้องมองใบหน้าหวานๆ ของชิพ

          มือบางของทั้งสองตนจับกันแน่น ความรู้สึกกับคำว่าเพื่อนท้วมท้นออกมาแม้จะไม่ได้เจอกันมากมายนัก แต่ต่างฝ่ายก็จริงใจกับอีกฝ่ายหนึ่งอย่างแท้จริง

          ชิพ! กลับกันเถอะ เสียงทุ้มถูกเปล่งออกมาพร้อมๆ ที่ร่างคนรักทั้งสองของร่างบางจะก้าวออกมาจากซอกหินที่อยู่ไม่ไกลนัก

          อ๊ะ ขอโทษครับ ข้าอยากดูดวงอาทิตย์ตกครับ ฟิชบอกว่าสวยมากเลย ใบหน้าหวานหันไปยิ้มแหยๆ ให้อีกฝ่าย ดูด้วยกันมั้ยครับ? ...เออ ขอโทษครับ ถ้าไม่อยากดู...

          ดูสิ ว่าจบก็นั่งลงใกล้ๆ กับร่างบาง

          .......... ต่างคนก็ไม่รู้จะพูดอะไรเลยได้แต่นิ่งเงียบไป แม้แต่คนที่ชอบพูดอย่างฟอกซ์ก็ยังจ้องมองใบหน้าหวานๆ ของร่างบางที่กระทบแสงแดดยามเย็น

          ...สวย...

          เมื่อพระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าไปแสงจันทราก็มาแทนที่ หญิงสาวครึ่งปลาก็ยิ้มให้ร่างบางน้อยๆ ก่อนจะมุดหายเข้าไปในน้ำ

          เจอกันพรุ่งนี้นะ ชิพ ทิ้งไว้เพียงคำพูดที่ทำให้ร่างบางต้องรับคำแบบปฏิเสธไม่ได้ (เพราะตัวคนถามไม่อยู่แล้ว)

          ชิพ... เสียงทุ้มของไลน์และฟอกซ์เอ่ยขึ้นพร้อมกันเบาๆ

          ครับ? ใบหน้าหวานหันมามองอย่างสงสัย

          ข้ารักเจ้านะ คำพูดที่แผ่วเบาแต่แสนหนักแน่นทำให้ใบหน้าหวานแดงก่ำพร้อมๆ กับที่หัวใจเต้นแรงระส่ำ

          อะ... อะไรล่ะครับ? ร่างบางทั้งเขินทั้งอายเอ่ยถามออกไปพร้อมกับที่ยกมือมาแนบแก้มที่ร้อนผ่าวๆ ของตัวเอง

          ไม่รู้สินะ สงสัยบรรยากาศพาไปน่ะ ร่างโปร่งพูดแล้วก็หัวเราะก่อนจะฉุด (เอ๊ย!) ร่างบางให้ลุกขึ้น กลับถ้ำกันเถอะนะ

          ครับ ร่างบางที่ยืนขึ้นอย่างว่าง่ายหันไปมองร่างสูงแล้วยื่นมือไปตรงหน้าไลน์ ไปกันเถอะนะครับ

          อืม รับคำเบาๆ พร้อมกับรอยยิ้มประดับใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความสุข

     

          ข้า...เพียงเห็นก็ใจเต้น... เพียงสัมผัสก็ถูกชักพา... เพียงรู้สึกก็แทบทนไม่ไหว...

          รัก...เป็นสิ่งที่เกิดขึ้น... เป็นสิ่งที่นำพาให้พานพบ... เป็นสิ่งที่ข้าได้รู้สึกับคำนี้...

          เจ้า...ผู้ที่เกิดมาได้บริสุทธิ์... ผู้ที่เหมือนพระเจ้าพระทาน... ผู้ที่เป็นดั่งทุกสิ่งทุกอย่าง...

     

          ชิพ... สำหรับตัวข้าแล้ว... สำหรับเจ้าชายไลน์อย่างข้าแล้ว คำว่ารักนั้นข้าไม่เคยแม้แต่จะนึกถึง ข้าเพียงแค่มีชีวิตอยู่เพื่อสนุกไปวันๆ และรอที่จะครองราชย์ต่อจากท่านพ่อ แต่ว่า...เมื่อได้พบกับเจ้าแล้ว ข้าที่พูดไม่เก่ง ข้าที่อาจจะเงียบไปบ้าง ได้รับรู้ทันทีกับคำว่ารัก แม้มันจะเป็นเวลาเพียงน้อยนิด แต่หัวใจข้ากลับยอมรับได้อย่างง่ายดายว่า ข้ารักเจ้า

     

          ชิพ... ข้านั้นเกิดมาก็ไม่รู้จักพ่อและแม่ของตัวเอง... ข้าเองก็เคยคิดว่าคนอย่างฟอกซ์... จะไม่คู่ควรกับเจ้า แต่ว่าคนอย่างข้าก็ต้องการความรัก ต้องการคนรัก ต้องการเจ้า คนที่ทำให้ข้าได้รู้จักรัก และเป็นคนเดียวที่ทำให้ข้ารู้สึกได้แบบนี้ เพียงแค่สบตาเจ้า... ข้าก็ได้รับรู้แล้วว่าหัวใจของข้าเป็นของเจ้า เพียงแค่เจ้าเอ่ยคำเดียวออกมาก็สามารถทำให้ข้าเป็นหรือตายได้ทันที บางครั้ง...ข้ากลัวที่จะรับรู้มัน... แต่สุดท้ายแล้ว... ข้าก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ข้ารักเจ้า มากแค่ไหน

     

          ไลน์ครับ... ฟอกซ์ครับ... ตัวข้านั้นเมื่อมีชีวิตอยู่ด้วยคำว่าไร้ค่า ข้าไม่มีสิทธิ์ในสิ่งใดๆ ทั้งนั้น แต่พอถูกสาปแล้ว... ข้าคิดว่าคำสาปก็ไม่ได้เลวร้ายไปซะทั้งหมด แม้จะทำให้ข้ากลายเป็นสัตว์ปีศาจ แม้จะทำให้ข้าต้องรับรู้คำว่าสูญเสียอีกครั้งในชีวิตกับครอบครัวที่รับข้าที่สิ้นหวังไปเลี้ยงดู แต่แล้ว...เมื่อวันที่ข้ารู้สึกท้อแท้อย่างถึงที่สุด พวกท่านก็เข้ามาในชีวิต เข้ามาให้ความหวังในการมีชีวิตอยู่ให้กับข้า แม้ตอนแรกข้าจะไม่แน่ใจกับความรู้สึกของตัวเองมากนัก แต่ว่า... หัวใจของข้ารับรู้และเข้าใจว่าพวกท่านเป็นคนสำคัญ... เป็นสิ่งสำคัญ... ที่ข้าขาดไม่ได้... แม้เพียงแค่คิดว่าจะต้องสูญเสีย ข้าก็รู้สึกราวกับตกอยู่ในความทุกข์อันแสนสาหัด และข้าไม่มีวันผ่านมันไปได้แน่นอน แต่เมื่อพวกท่านเข้ามาแล้ว พวกท่านคือแสงสว่างสำหรับคนอย่างข้า คนไร้ค่าที่ไม่เคยมีใครต้องการ พวกท่านทำให้ข้ารู้จักคำว่ารัก พวกท่านทำให้ข้าได้พบกับพ่อแม่ พวกท่านเติมเต็มชีวิตของข้าอย่างสมบูรณ์ แม้ใครจะหาว่าข้าหลายใจ แต่ข้าอยากบอกว่าข้าขาดใครไม่ได้จริงๆ บางครั้งก็รู้สึกไม่ดีที่รักคนสองคนในเวลาเดียวกัน แต่พวกท่านกลับยอมรับข้าได้อย่างจริงใจ... และข้าก็อยากจะพูดคำนี้ให้พวกท่านได้รับรู้ทุกวัน (ถ้าไม่ติดว่าอายนะ) ว่า... ข้ารักพวกท่าน สุดหัวใจ

     

    …The End…

     

     

     

    มีบทต่อไปด้วยนะ อ่านก่อนๆ

     

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×