ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    So Cool บันทึกรักร้ายนายปีศาจ [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #19 : EP 19 100%

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 633
      0
      5 เม.ย. 53

    19

          ร่างบอบบางของยูนยืนนิ่งอยู่ตรงกลางสวนสาธารณะหันซ้ายหันขวาอย่างไม่แน่ใจแล้วก้มมองใบคำสั่งในมือก่อนจะอดถอนหายใจเฮือกใหญ่ไม่ได้ เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนเขายังนั่งอยู่กับเพียสอยู่เลยแต่บัดนี้กลับต้องมาทำภารกิจติ๊งต๊องเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับลูกที่ไม่เคยถูกกัน

          ขอถอนหายใจสักสิบครั้ง เฮ้อ~

          เหยื่อ (?) ในครั้งนี้รู้สึกว่าจะเป็นชายวัยกลางคนที่มีลูกสาวที่เอาแต่ใจตัวเองอย่างสุดๆ แต่ชายวัยกลางคนนี้ปกติแล้วเป็นคนใจดี แต่ก็เข้มงวดในตัวเอง ถึงอย่างนั้นตอนนี้ก็ยังคิดจะรับลูกบุญธรรมไว้สักคนหนึ่ง และยูนต้องเป็นคนนั้นให้ได้!!

          ต้องเล่นเปียโนได้ด้วยเรอะ?!” เสียงหวานเอ่ยขึ้นขณะนั่นอ่านอยู่ในสวนสาธารณะ จะว่าไป... เราเองก็เคยฝึกๆ อยู่นิดหน่อยนี่นา

          มือบางลองกดเป็นเพลงตามที่เคยเรียนมาเพื่อทบทวนความจำของตัวเอง เสียงหวานฮัมพ์เพลงตามจังหวะที่กด เท้าเล็กก็กระทบพื้นเบาๆ เป็นจังหวะให้ตัวเอง

          นี่... เก่งจังเลยนะ... เสียงของชายวัยกลางคนดังขึ้นทำให้ร่างบางผงะอย่างตกใจก่อนจะมองใบหน้าของคนที่เข้ามาทักอย่างงงๆ

          ...นี่เขายังไม่ทันได้ทำอะไรเลยนะ...

          ใบหน้าของชายวัยกลางคนผู้เป็นเหยื่อปรากฏตรงหน้าทำเอาร่างบางแทบจะถอนหายใจอย่างเหนื่อหน่าย

          อะไรมันจะบังเอิญขนาดนั้น!!!

          ขะ... ขอบคุณครับ ยูนรับคำเบาๆ ก่อนจะพยายามทบทวนต่อไปโดยที่ทำเป็นไม่สนใจชายวัยกลางคนที่มานั่งข้างๆ เขาอย่างเนียนๆ

          ชอบเล่นเปียโนรึเปล่าล่ะ? ชายวัยกลางคนถามขัดขึ้นมาทำให้มือบางชะงัก

          ครับ... ชอบมากครับ ใบหน้าหวานแย้มรอยยิ้มตอบตามที่คิด... เขาชอบเล่นเปียโน ชอบเสียงใสๆ ของมัน

          อยาก... เล่นเปียโนไปตลอดรึเปล่าล่ะ? ชายวัยกลางคนยื่นข้อเสนอ

          เอ๋?!” ใบหน้าหวานหันไปมองอย่างงุนงง... ไม่อยากจะเชื่อว่ามันจะง่ายดายขนาดนั้น

          ฉันสามารถทำเป็นเธอเล่นเปียโนไปเรื่อยๆ ได้ โดยที่ไม่ต้องทำอะไรอย่างอื่นเลย... เพียงแค่มาเป็นลูกบุญธรรมให้ฉันเท่านั้นแหละ

          ทำไม... ยูนเผลอถามกลับ เพราะไม่อยากจะเชื่อว่ามันจะง่ายขนาดนี้... มันง่ายเกินไป

          เพราะลูกสาวของฉันมันไม่ชอบทางด้านนี้น่ะสิ! เป็นผู้หญิงแท้ๆ ทำไมถึงได้ไปสนใจไอ้วิชาป้องกันตัวบ้าๆ นั่นด้วยนะ! อยู่บ้านดีๆ แค่นั้นก็พอแล้วนี่!” ถึงปากจะว่าแบบนั้นและว่าออกไปด้วยน้ำเสียงโมโหแค่ไหนแต่ร่างบางก็รู้... ยูนเห็นแววตาเอ็นดูอย่างปิดไม่มิดของอีกฝ่าย

          แต่... คุณก็รักเธอมากไม่ใช่เหรอครับ? เสียงหวานถามอย่างออกแววยินดี

          ใครบอก!” ทว่าอีกฝ่ายกลับลุกพรวดขึ้นทำเอาร่างบางตกใจผงะถอยหลัง ใครจะไปรักคนที่บ้าแต่การต่อสู้แบบนั้น!”

          ...โกหกชัดๆ...

          ร่างบางแย้มรอยยิ้มนิดหน่อยก่อนจะแกล้งถอนหายใจออกมาเบาๆ

          แต่ว่าการที่มีผมเข้าไปในบ้านแบบนี้เธออาจจะไม่พอใจเอานะครับ ผมน่ะไม่อยากจะ... เสียงหวานยังไม่ทันจบประโยคอีกฝ่ายก็ขัดขึ้น

          ไม่เป็นไร! เดี๋ยวฉันจะหาบอร์ดี้การ์ดให้สองคน ทีนี้ก็ไม่ต้องไปห่วงอะไรอีกแล้วใช่มั้ย? โอเค ไปกันได้แล้ว พูดเองเออเองจบก็ดึงแขนเล็กของยูนให้เดินตาม แน่นอนว่าร่างบางไม่มีทางขัดขืนเพราะตั้งใจจะให้เป็นอย่างนี้อยู่แล้ว

     

          ท่านพ่อ! ท่านแม่! ยูนอยู่ไหน?!” เพียสโวยวายในห้องทำงานของผู้ใหญ่ทั้งสองตั้งแต่ตอนเช้าจนบัดนี้เกือบจะเที่ยงอยู่แล้วยังไม่หยุดโวย บอกข้ามาเดี๋ยวนี้นะ ท่านพ่อ ท่านแม่

          คนเป็นผู้ใหญ่กว่าทั้งสองต้องถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายเพราะทั้งรำคาญไอ้ลูกคนเดียวนี่ และทั้งยังไม่ได้ทำงานที่ต้องทำอีกด้วย

          หยุดโวยวายแล้วกลับห้องไปซะเถอะ เพียส เสียงเฉียบขาดของผู้เป็นมารดาดังเข้าหูของร่างสูงทำให้เพียสแทบอาละวาทอีกรอบ

          หุบปากสักที เสียงทุ้มของผู้เป็นบิดาดังขึ้นทำเอาร่างสูงชะงักกึก

          คนๆ นี้เป็นคนเดียวที่ร่างสูงไม่อยากจะมีเรื่องด้วย... เพราะมีเรื่องทีไรมันจบไม่สวยสักที ยิ่งตอนที่ท่านพ่อเอาจริงยิ่งน่ากลัวพิลึก เหมือนปีศาจดีๆ นี่เอง (แล้วแกไม่ใช่ปีศาจเรอะ?) น่ากลัวแบบที่แค่จ้องตายังต้องขนลุกพรวดๆ

          ท่าน... พ่อ...

          ถ้าคิดจะไปโลกมนุษย์ล่ะก็... ใบหน้าเคร่งเครียดเงยขึ้นมาสบตา แต่พอเพียสเห็นแววตาของพ่อตนแล้วก็แทบจะถอนหายใจ เพราะมันสั่นระริกอย่างสนุกสนาน ต้องทำงานให้เสร็จก่อนล่ะ แล้วจะไปตายที่ไหนก็ไปซะ ไอ้ลูกหมา

          ครับ ท่านพ่อ!!” ร่างสูงรับคำทันทีแล้ววิ่งพรวดออกจากห้องอย่างไม่สนมารยาทใดๆ ทำเอาหญิงสาวคนเดียวในห้องต้องถอนหายใจแล้วมองใบหน้าของผู้เป็นสามี

          คุณน่ะ ให้ท้ายลูกเกินไป เธอว่าแล้วถอนหายใจเล็กน้อย เดี๋ยวก็เสียคนหรอก

          ฮ่าๆๆ ไม่หรอกน่า นี่ก็เป็นวิธีสั่งสอนวิธีหนึ่งของข้านะ ชายหนุ่มพูดแล้วตบๆ เก้าอี้ที่อยู่ข้างๆ ให้หญิงสาวเดินมานั่งตามที่อีกฝ่ายบอกอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง แต่ยังคงจับจ้องใบหน้าของอีกฝ่ายไม่ยอมคลาดสายตา แล้วจะได้รู้ว่า โลก น่ะ มันโหดร้ายมากกว่าสวยงาม

     

           “ทะ.. ที่นี่มัน...” ใบหน้าหวานอึ้งค้างอ้าปากแบบไม่มีรักษาหน้าตาของตัวเองเลยสักนิด “ใหญ่เว่อร์อ๊า~!

           ใบหน้าของชายวัยกลางคนแย้มรอยยิ้มขึ้นอย่างพึงพอใจ แต่อะไรบางอย่างกลับทำให้ชายวัยกลางคนเร่งพาให้ร่างบอบบางที่หน้าตาน่ารักอย่างกับผู้หญิงคนนี้เข้าบ้าน

          “เข้าไปในบ้านกันดีกว่า เร็วเข้า เดี๋ยวฉันเรียกลูกสาวมาแนะนำให้รู้จักกันซะนะ” ยูนเผลอเดินตามและพยักหน้าตามอย่างลืมตัว อาจเพราะไม่เคยมาจุติแล้วได้บ้านที่ใหญ่มหาสารขนาดนี้มาก่อน

          แต่พอชายวัยกลางคนให้ร่างบางนั่งรอที่ห้องรับแขกแล้วตนก็ไปเรียกลูกสาวให้ จิตใจของยูนก็ฟุ้งซ่านขึ้น ใบหน้าหวานหมองลงเมื่อคิดถึงตอนที่ได้อยู่กับเพียส แต่ตอนนี้แค่ห่างกันไม่กี่ชั่วโมงกลับคิดถึงใจจะขาด

          ถึงการแสดงความรักของร่างบางจะแปลกๆ ไปบ้างแต่ก็ไม่เคยหลอกความรู้สึกตัวเองว่าตนรู้สึกอย่างไร บอกตามตรงว่าตอนที่แวมไพร์สาวมานอนกับร่างสูงตอนนั้นสติของร่างบางแตกกระจายไม่เหลือชิ้นดี ความรู้สึกที่พึ่งเคยรู้จักเป็นครั้งแรกพลุ่งพล่านออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ ไม่เคยเป็นมาก่อนเลย... ครั้งแรกเกิดขึ้นกับเพียส...

          หึง...หวง...

          รู้ดีว่าถ้าหากว่าทำอะไรรุนแรงลงไปอาจจะดูเหมือนเป็นคนที่นิสัยไม่ดี แต่ว่า...มันก็เป็นการแสดงความรู้สึกของร่างบางอย่างหนึ่ง บางครั้ง... ยูนแอบรู้สึกน้อยใจที่ร่างสูงเอาแต่ทำงาน แม้นั่นจะเป็นงานที่เป็นการเตรียมงานหมั้นของทั้งคู่ก็ตาม

          “นี่... นี่...” เสียงของชายวัยกลางคนดึงให้ความคิดทั้งหมดจบลงและกลับมาทำภารกิจของตนให้เสร็จ... และจะได้กลับไปหาเพียสสักที...

          “ครับ?” ใบหน้าหวานยิ้มกลบเกลื่อน

          “นี่ลูกสาวของฉัน วีนัส”

          ใบหน้าหวานหันไปมองทางที่มือของชายหนุ่มผายให้ดู ก่อนที่ดวงตาใสจะเบิกกว้างอย่างตกใจ เพียงแค่เห็นใบหน้าอีกฝ่ายมือไม้ก็พาลสั่น

          ...เหมือนเพียส

          แต่หัวใจกลับไม่ได้เต้นแรงระรัวอย่างตอนที่อยู่กับร่างสูงทำให้ร่างบางค่อยๆ คลายอารมณ์ให้เป็นปกติ ใบหน้าหวานแย้มรอยยิ้มให้อีกฝ่ายอย่างเป็นมิตร

          “ยินดีที่ได้รู้จักครับ ผมชื่อ ยูน ครับ” ว่าแล้วก็มองใบหน้าของอีกฝ่ายอย่างพินิจพิเคราะห์

          ถึงแม้อีกฝ่ายจะมีใบหน้าและส่วนสูงกับอายุพอๆ กับเพียส แต่ว่าคนตรงหน้านี้กลับดูมีทรวดทรงมากกว่า แล้วยังผมที่แม้จะซอยจนสั้นนั้นก็ยังคงมีความเป็นผู้หญิงหลงเหลืออยู่ ใบหน้าก็ติดจะหวานกว่าด้วย

          “หึ ยินดีที่ได้รู้จัก” อีกฝ่ายกลับตอบกลับอย่างไม่ค่อยจะสนใจนัก

          “อืม รู้จักกันแล้วสินะ จะไปไหนก็ไปได้แล้ววีนัส” ชายวัยกลางคนพูดเป็นเชิงไล่ “ส่วนยูน เธอน่ะมาเดินดูบ้านกับฉันก่อนก็แล้วกันนะ”

          “ครับ” ร่างบางรับคำอย่างไม่แน่ใจเพราะหญิงสาวคนเดียวแสดงสีหน้าไม่เป็นมิตรให้กับเขาก่อนจะกระแทกเท้าเดินจากไป “ผมว่า...”

          “ไม่ต้องไปสนใจหรอก ลูกสาวฉันก็เป็นอย่างนั้นมาแต่ไหนแต่ไรแล้วล่ะ ดื้อ ไม่ยอมฟังกันซะบ้างเลย” ชายวัยกลางคนพูดอย่างเหนื่อยหน่าย

          “ผมว่า... เริ่มดูบ้านเลยดีกว่าครับ”

          การเดินดูบ้านนั้นก็ธรรมดา แต่ก็จะมีการแนะนำคนใช้คนสวนหรืออะไรสารพัดที่ร่างบางจำได้ไม่หมด แค่จำชื่อก็เวียนหัวแล้ว เพราะชื่อแต่ล่ะคนก็แปลกๆ กันทั้งนั้น

          พอเดินดูบ้านเสร็จแล้วก็พาร่างบางให้ไปดูห้องนอนแล้วให้นอนเล่นหรือนอนพักในห้องนั้นไปก่อน ส่วนตัวชายวัยกลางคนจะไปทำงานที่บริษัทต่อให้เสร็จ พอชายวัยกลางคนจากไปในหัวของร่างบางก็ฟุ้งซ่านอีกครั้ง

          จนบางทีก็เผลอนึกรำคาญที่ตัวเองเอาแต่คิดถึงร่างสูงอย่างไม่รู้จักเบื่อ...

          อยากรู้จังว่าตอนนี้เพียสจะทำอะไรอยู่นะ... คิดถึงเราบ้างรึเปล่านะ... หรือว่ากำลังโวยวายปราสาทแตก... คิดถึงแค่ตอนนี้ร่างบางก็เผลอหลุดหัวเราะออกมากับนิสัยของอีกฝ่าย อาจจะจริงก็ได้ล่ะมั้ง... ชอบตอนที่ได้อยู่กับร่างสูงมาก... ไม่ใช่เพราะสามารถเอาแต่ใจตัวเองยังไงก็ได้... ที่เอาแต่ใจนั้นน่ะ... เพียงแค่อยากให้ร่างสูงหันมาสนใจบ้างเท่านั้นเอง ที่ชอบที่ได้อยู่กับร่างสูงก็เพราะรู้สึกอบอุ่นที่ได้อยู่ใกล้ ปลอดภัย ไม่ต้องกลัวอะไร ถึงแม้ว่าตัวเองจะไม่ได้มีศัตรูที่ไหนก็ตามที

          ก๊อกๆ

          ร่างบางสะดุ้งออกจากภวังค์ มองไปทางประตูอย่างสงสัย ชายวัยกลางคนคนนั้นก็ออกไปข้างนอกได้สักพักแล้ว แล้วนี่เป็นใครกันที่มาหาเขาตอนนี้... เดาไม่ยากเท่าไหร่... คุณหนูคนนั้น...

          “ครับ?” ร่างบางเดินไปเปิดประตูด้วยรอยยิ้มเป็นมิตรให้อีกฝ่าย แต่ดูเหมือนวีนัสจะไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่นัก “มีอะไรรึเปล่าครับ?”

          “นายต้องการอะไร?” คำถามของอีกฝ่ายทำให้ใบหน้าหวานเลิกคิ้วสูงอย่างสงสัยแกมหยอกล้อ

          “หมายถึงอะไรครับ? ผมไม่เข้าใจ คุณหนูวีนัส” น้ำคำของร่างบางคงไปกระตุ้นอารมณ์โกรธของอีกฝ่ายเข้าทำให้วีนัสตวัดเท้าเตะก้านคอของร่างบาง แต่แน่นอนว่าร่างบางหลบไม่ทันแน่ เพราะไม่ได้ฝึกอะไรพวกนี้ไว้ แต่ไม่ใช่ปัญหาอะไรนัก แค่ใช้พลังเวทย์กั้นซะก็หมดเรื่อง “อันตรายนะครับ”

          “ออกไปจากบ้านหลังนี้ซะ ฉันเกลียดนาย!

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×