ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    So Cool บันทึกรักร้ายนายปีศาจ [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #29 : EP 29 100%

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 476
      0
      27 ก.ค. 53

    29
          “พี่ ถามอะไรหน่อยสิ” เสียงน้องชายพูดขึ้นทำให้ใบหน้าหวานที่ซีดเผือดหันไปมองอย่างอ่อนแรง ผลกระทบเริ่มขึ้นแล้ว “ไหวมั้ยอ่ะ?”
          “ฮะๆ” เสียงหัวเราะแห้งๆ ดังขึ้นทำให้คนเป็นน้องชายไม่ค่อยอยากจะเชื่อคำตอบที่ตามมานัก “สบายมากน่า!”
          “ให้มันจริงเหอะ”
          ยังไม่ทันขาดคำร่างบางก็ทรุดลงกับพื้นหอบหายใจระรัวเมื่อเริ่มเข้าเขตหุบเขา ทำให้พระเจ้ากับราชินีแห่งแสงที่เดินนำไปก่อนเล็กน้อยหยุดชะงักแล้วหันมามองอย่างเป็นห่วง
          “นี่ อุ้มยูนหน่อยสิ” ราชินีแห่งแสงบอกก่อนจะลูบใบหน้าหวานของร่างบางเบาๆ “ปีนี้เป็นปีโรคุซะด้วยสิ”
          “ฮึบ~ ปีโรคุเหรอครับ” น้องชายแบกร่างบางขึ้นหลังก่อนจะถามออกมา
          “ปีที่พลังของยูนจะลดลงถึงขีดสุดน่ะสิ ทำไมต้องเป็นปีนี้ด้วยก็ไม่รู้นะ” ใบหน้าของพระเจ้าที่อธิบายแทนราชินีแห่งแสงฉายแววกังวลอย่างเห็นได้ชัด “อาการก็เลยกำเริบหนักกว่าทุกที”
          “งั้นก็ต้องรีบแล้วสิครับ” น้องชายพูดก่อนจะเหลือบมองใบหน้าหวานซีดเผือดที่เกยอยู่ที่ไหล่ของเขา ริมฝีปากที่เคยอิ่มสวยได้รูปบัดนี้ซีดเผือดอีกทั้งยังแตกด้วย ดวงตาสีที่ลืมเริ่มเหม่อลอยราวกับสติไม่อยู่กับที่แล้ว หูที่เคยได้ยินเสียงชัดเจนก็เริ่มพร่าเลือนไปเรื่อยๆ
          “ก็นะ ต้องรีบแล้วล่ะ” พระเจ้าว่าก่อนจะเร่งความเร็วเท้าเพิ่มขึ้นอีก “ที่นี่จะใช้เวทย์ก็ไม่ได้ เพราะเป็นกฎ เฮ้อ... สักวันจะยกเลิกมัน คอยดูสิ”
          “นี่...” เสียงหวานๆ แหบพร่าดังขึ้นทำให้น้องชายหันไปมองเล็กน้อย
          “ครับพี่”
          “ช่วย... พูดอะไรก็ได้... แค่ก! กับฉันหน่อย... สิ…” น้ำเสียงที่เริ่มขาดช่วงพร้อมกับอาการไอเป็เลือดทำให้น้องชายสะดุ้ง
          “พระเจ้า! (ไม่ใช่คำอุทานนะ) พี่เขาไอเป็นเลือดด้วย ปีก่อนๆ เคยเป็นรึเปล่าครับ?”
          “ไม่เคยเลย เด็กคนนี้ไม่เคยไอเป็นเลือดเลยสักครั้ง” ราชินีแห่งแสงตอบแทนพระเจ้าที่บัดนี้มีสีหน้าไม่สู้ดีนัก
          “ง่า... งั้นก็แย่สุดๆ แล้วสิเนี้ย!” เสียงของน้องชายร้องลั่นทำให้ยูนต้องยิ้มออกมาเบาๆ
          “นี่... หาเรื่องอะไรก็ได้คุย... กะ... กับฉันหน่อยสิ มันแปลกๆ นะที่ไม่ได้คุยด้วยกันน่ะ... แค่ก!” เสียงหวานแหบพร่าและขาดห้วงทำเอาน้องชายแทบจะกลายร่างเป็นนักวิ่งลมกรดเพื่อให้พี่ชายตัวเองไปถึงที่ให้ทันเวลา
          “ก็... อืม...” น้องชายครางงึมในลำคออย่างครุ่นคิดทั้งๆ ที่เท้าเริ่มเร่งสปีดขึ้นอีกขั้น “ตอนพี่อยู่กับหมอนั่นเป็นยังไงบ้างฮะ?”
          “หมอไหนล่ะ? โขลกๆๆ” ร่างบางปิดปากตัวเองแน่นพยายามกลั้นอาการไอเต็มที่ “แฮ่ก... โอย... เหนื่อยจัง... ตอนอยู่กับเพียสเหรอ? ก็สนุกดีนะ ได้คุยกัน ได้เล่นกัน ได้ทำให้เป็นห่วง ได้หวง ได้หึง ได้มีความสุข... อ่า... ตอนนั้นน่ะแหละดีจริงๆ”
          “พี่อยากอยู่กับหมอนั่นเหรอ?” ร่างบางถามเบาๆ ก่อนจะสะดุ้งเมื่อพึ่งรู้ตัวว่าตัวเองถามอะไรออกไป
          “ใช่สิ ก็อยู่แล้วมีความสุขก็ต้องอยู่สิ” ร่างบางหันมายิ้มให้อย่างอ่อนแรง “นายก็เหมือนกัน... ถ้าอยู่กับใครแล้วรู้สึกดี... ก็อยู่กับคนนั้นไปเถอะ... แค่กๆ อ่า... อย่าปฏิเสธเพราะแค่เป็นปีศาจกับเทพหรืออะไรทั้งสิ้น ถ้ามีความสุขก็ทำไป แต่อย่าไปเหยียบย้ำทำร้ายจิตใจคนอื่นล่ะ... มันไม่... ดี... นะ...”
          “เออ... พี่!” น้องชายพยายามเรียกสติร่างบางให้กลับคืนมา “ฟังผมเล่าตอนที่เจอกับไอ้สีดำนั่นมั้ยล่ะ? พี่ยังไม่รู้นี่นา”
          “อืม... เอาสิ” พอน้องชายทำท่าจะเล่าพระเจ้าก็เรียกเสียงดัง
          “เฮ้! สองตนนั้นน่ะ ถึงแล้วนะ!” เสียงหวานของพระเจ้าบอกทำให้คนเป็นน้องแอบฮึดฮัดอย่างไม่พอใจที่มีคนมาขัดจังหวะได้ตลอด
          “ชิชะ!”
          “อย่ามาทำค้อนนะ เอ้า! วางยูนไว้ตรงนี้” พระเจ้าบอกก่อนจะวาดวงเวทย์ แล้วน้ำน้ำศักดิ์สิทธิ์สี่ชนิดหยดที่มุมทั้งสี่ทิศ “เอ้า! แล้วเธอจะอยู่ตรงนั้นทำไม ออกมาสิ”
          น้องชายสบัดหน้าหนีอย่างไม่สบอารมณ์เมื่อไม่ได้อยู่กับพี่ชาย ซึ่งปกติแล้วเทพธรรมดาไม่จำเป็นต้องทำพิธีนี้ แต่ว่าเพราะร่างบางเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ก็เลยต้องทำ
          “เอาล่ะนะ” ว่าจบก็ร่ายคาถาไปอ่านตำราที่เป็นที่มาของคาถาไป ฟังไปประมาณสองหน้าครึ่งน้ำแข็งก็เริ่มจับที่ข้อเท้าของร่างบาง
          “น้ำแข็งที่ไม่มีวันทำลายได้...” ราชินีแห่งแสงพูดกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะหันมามองน้องชายที่ยืนมองด้วยความสงสัยอยู่ตรงนั้น “เธอคงจะไม่เคยเห็นสินะ ยูนเขาต้องอยู่ในน้ำแข็งนั่นสามเดือนเพื่อกักเก็บพลังชีวิตน่ะ มันก็แค่นั้นแหละ”
          “ครับ” รับคำเบาๆ พร้อมกับมองพี่ชายตัวเองอย่างอาลัยอาวรณ์
          “อ๊ะ จริงสิ” ร่างบางอุทานเสียงเบาเหลือบมองน้ำแข็งที่เริ่มเกาะช่วงสะโพก “ฝากเอานี่ให้...”
          แกร๊ก...
          และแล้วน้ำแข็งก็เกาะจนหมดทั้งตัวโดยที่ร่างบางยังอยู่ในท่าที่กำลังยื่นกำไลเปลือกหอยให้แต่ว่าพระเจ้าจะเอากำไลก็ไม่ได้เพราะอยู่ในน้ำแข็ง ทำลายก็ไม่ได้ แถมยังไม่รู้ว่าจะเอาให้ใครอีก (แม้จะพอเดาออกก็ตามที)
          “ว้า~ แย่จริงเลย ทำไมเธอไม่นึกให้ออกก่อนที่จะทำพิธีเล่า!” พระเจ้าบ่นอุบอิบ
     
          “เดี๋ยวนะ พรุ่งนี้วันอะไร?” เนอเรียสถามร่างสูง (ที่เตี้ยกว่าตน) พลางมองใบหน้าหล่อเหลาไม่แพ้เขา
          “วันที่ xx เดือนนั้นนี้ ทำไมเหรอ?” ร่างสูงเอ่ยถามเสียงเครียดอยากจะไปหายูนใจจะขาดแล้วแต่ว่าตอนนี้ยังไม่ได้ออกจากห้องเลย
          “ก็พรุ่งนี้มันวันเกิดเจ้าไม่ใช่รึไง? ลืมเหตุผลที่มาซะสนิทเลยสิ” ประโยคหลังเนอเรียสพูดกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองใบหน้าของน้องชาย “เจ้าไปไหนไม่ได้นะ เพราะว่าวันพรุ่งนี้จะมีงานเลี้ยงวันเกิด”
          “ข้าไม่เลี้ยงอะไรทั้งนั้นแหละ จนกว่ายูนจะกลับมา!” เสียงทุ้มเอ่ยอย่างดื้อดึงทำท่าจะไปหาร่างบางให้ได้จนเนอเรียสต้องทุบหัวน้องตัวเองหนึ่งที (แรงๆ)
          พลั๊ว!
          “อ้ากกกก~! เจ็บนะพี่! พี่ก็รู้ว่าตัวเองแรงฟายขนาดไหน!” มือหนากุมหัวตัวเองมองใบหน้าอีกฝ่ายอย่างเอาเรื่อง
          “เสียใจนะ ถึงเจ้าจะพยายามไปก็เถอะ แต่ถ้าไม่มีข้าเจ้าก็ไปโลกแห่งเทพไม่ได้หรอก” เนอเรียสบอกพร้อมกับแสยะยิ้มเจ้าเล่ห์ “ช่วยว่าง่ายๆ ไปจนถึงพรุ่งนี้เถอะนะ”
          “ไม่เอา!” มือหนาสะบัดมืออีกฝ่ายที่จับหัวเขาราวกับเด็กๆ ออกอย่างโกรธเคือง “ข้าจะไปหายูน!”
          “เลิกหายใจเข้าออกเป็นยูนสักแป๊บได้มั้ย?” เนอเรียสเสยผมตัวเองด้วยท่าทีที่สาวๆ เห็นแล้วต้องกรี๊ด “เจ้าเทพนั่นไปแค่สามเดือนเองนะ แล้วอีกอย่าง ไปวันนี้หรือไปพรุ่งนี้มันก็เหมือนกันนั่นแหละ รอให้ผ่านวันเกิดไปก่อนไม่ดีรึไง?”
          “วันเดียวก็ไม่ให้ไปไหนหรอก!” ร่างสูงว่าอย่างหวงๆ “ไปวันนี้กับพรุ่งนี้มันต่างกันที่ความคิดถึงที่มันมากขึ้นๆ จนจะทนไม่ไหวนี่แหละ! ไม่ต้องรอให้ผ่านวันกงวันเกิดมันแล้ว!”
          “ขอโทษที่ต้องมาขัดจังหวะพี่น้องเถียงกันนะ” เสียงที่คุ้นเคยของคนเป็นพ่อ (และลุง) ดังขึ้นทำเอาเพียสสะดุ้งเฮือก “แต่ข้าไม่อนุญาตให้เจ้าไปไหนทั้งนั้นจนกว่าจะจบงานเลี้ยงวันเกิดวันพรุ่งนี้ เพราะฉะนั้นทำตัวให้สงบเสงี่ยมเดี๋ยวนี้!”
          คำพูดที่ดูราวกับไร้น้ำใจทำให้ร่างสูงโกรธจัดจนแทบจะร้องไห้พรากๆ (โกรธจริงๆ นะ) กัดฟันกรอดๆ ระงับอารมณ์เต็มที่จนกระทั่งพ่อตัวเองเดินออกจากห้องไป
          “ปัดโธ่เว้ย!!” เมื่อไม่รู้จะระบายอารมณ์ยังไงก็ทำท่าจะเตะตู้หนังสือแต่ก็ต้องชะงักไปซะก่อน
          “อะไร? ทำไม?” เนอเรียสเห็นอาการที่หยุดชะงักแล้วมองตู้หนังสือนั้นอย่างสงสัย
          “ก็ตู้หนังสือนี่ยูนชอบมากนี่นา ไม่งั้นข้าไม่เอาไอ้ตู้หนังสือบ้าๆ นี่มาไว้ในห้องหรอก รกจะตาย” เสียงทุ้มว่าก่อนจะหันไปทำท่าจะระบายอารมณ์ใส่อย่างอื่นแทน... แต่ว่า...
          “หยุดอีกทำไมล่ะ? ไม่ระบายความโกรธออกบ้างมันจะจุกอกตายนะ”
          “ก็... ของในห้องนี้มีแต่ของที่ยูนชอบแล้วก็ใช้ประจำอยู่ทั้งนั้นเลยนี่นา ไม่อยากทำร้ายน่ะ” ร่างสูงพูดก่อนจะเดินไปนอนลงกับเตียงอย่างเหนื่อยๆ “อยากเจอเจ้าจังเลย... ยูน...”
          “ช่วยรับรู้ด้วยเถอะว่าตอนนี้ข้าก็อยู่ในห้อง อย่าพึ่งคิดถึงเจ้าเทพนั่นนักเลย” เนอเรียสว่าอย่างเหนื่อยๆ กับนิสัยน้องชาย “อีกไม่นานหรอกน่า... แค่พรุ่งนี้เอง ทนๆ ไปเหอะ”
          “อือ...” ร่างสูงงึมงำในลำคอก่อนจะเหม่อลอยทั้งๆ ที่ใบหน้าซุกกับเตียงอีกครั้ง
          “เฮ้อ!” เนอเรียสถอนหายใจหนักๆ ก่อนจะเดินออกนอกประตูไปแล้วปิดอย่างแรง “สงสัยโรคบ้ารักกำเริบแหงๆ เลยน้องชายข้า”
     
          “นี่ ท่านแม่ ผมจะทำยังไงดีล่ะ?” น้องชายของยูนรีบกลับบ้านทันทีที่งานเสร็จแล้วเอ่ยปากถามคนที่เลี้ยงตัวเองตอนที่เกิดเป็นมนุษย์ “พี่ชายอยากให้ของกับใครคนหนึ่งอ่ะ แต่ของนั่นดันให้ไม่ได้น่ะ”
          “ลูกก็เอาไปให้แทนสิ”
          “ก็ไม่ได้อยู่ดี ของมันติดอยู่กับพี่ที่อยู่ในน้ำแข็งศักดิ์สิทธิ์อ่ะ” น้องชายถอนหายใจก่อนจะทรุดตัวลงนั่งกับพื้น “ท่านแม่... ผมไม่รู้จะทำยังไงแล้ว... ผมทำให้พี่ชายเสียใจ...”
          “..........” คนเป็นแม่มองใบหน้าหมองๆ ของลูกตัวเองก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อมันห่วงพี่ชายตัวเองเกินเหตุ
          “พี่ชายต้องเกลียดผมแน่ๆ เลย” ใบหน้าของน้องชายเบ้ลงราวกับจะร้องไห้
          “ไม่มีทางหรอก” คนเป็นแม่บอกก่อนจะหันมามองลูกชายคนเล็กตอนเป็นมนุษย์ “พี่เขารักลูกจะตาย จะเกลียดลูกได้ยังไงกัน?”
          “แต่ว่าผม...”
          “งั้นก็เอาอย่างนี้ล่ะกันนะ ไปหาคนๆ นั้นแล้วบอกสาเหตุที่พี่ชายไปไม่ได้สิ เขาจะได้ไม่เข้าใจผิดไง” คนเป็นแม่แนะนำวิธีทางแต่ว่าลูกชายก็ส่ายหน้าปฏิเสธ
          “ไม่ได้อ่ะ เขาอยู่โลกปีศาจ ผมไปไม่ได้หรอก” น้องชายบอกก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่ “ครั้งที่เอาตัวพี่มาก็เพราะพระเจ้าใช้เวทย์ให้แท้ๆ”
          “งั้น... ถ้าเขาคนนั้นอยากได้ของขวัญมากๆ” พอพูดประโยคนี้ลูกชายตนก็พยักหน้ารับราวกับจะบอกว่าคนๆ นั้นต้องอยากได้ของขวัญมากๆ แน่นอน “ก็รอจนกว่าเขาคนนั้นจะขึ้นมาที่โลกแห่งเทพนี้ แล้วนำทางเขาไปหาพี่ชายสิ”
          “อ๋า~” น้องชายร้องเสียงลั่น “จริงด้วยสิ!”
          “ใช่มั้ยล่ะ? ก็ลูกเป็นคนเฝ้าประตูอยู่แล้วนี่นา” คนเป็นแม่ขยิบตาให้ “เรื่องนี้ผิดกฎเพราะฉะนั้นบอกใครไม่ได้ แล้วก็... รีบๆ ไปทำงานได้แล้ว! เดี๋ยวก็คลาดกับคนๆ นั้นหรอก”
     
     
    ช่วงก่อนเป็นช่วงสอบ
    ขอโทษด้วยนะที่ไม่ได้อัพมานานนนนนนนนน
     
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×