คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #33 : EP 33 100%
33
ปัง!
ประตูห้องพักของยูนในโลกแห่งเทพเปิดพลั๊วออกมาอย่างรวดเร็ว ทันทีที่เพียสก้าวมาถึง แล้วร่างสูงก็จ้ำเข้าไปแบบไม่แคร์สายตาใคร
“ยูน!” มือหนาจับข้อมือของร่างบางแต่ว่าคนที่นั่งงงอยู่บนเตียงกลับสะบัดมือวูบออกอย่างหวาดระแวงทันที “ยะ... ยูน...”
“นาย... นายเป็นใคร... ฉันเป็นใคร... คนพวกนี้เป็นใคร อ๊า~!” เสียงหวานร้องลั่นเมื่อความรู้สึกปวดแปล๊บแล่นเข้ามาในหัว ดวงตาใสสั่นระริกฉายแววเจ็บปวดทำให้ร่างสูงผงะถอยไป
“ยูน...” ร่างสูงเรียกเบาๆ ทำให้ดวงตาใสช้อนตาขึ้นมอง “ยูน...”
“นั่นชื่อของฉันเหรอ?” เสียงหวานถามแผ่วๆ ก่อนจะถลาเข้ามาหาร่างสูงอย่างต้องการคำตอบ “นี่! ฉันชื่อยูนงั้นเหรอ?!”
“ใช่... ใช่ เจ้าชื่อยูน” ร่างสูงตอบก่อนจะเม้มริมฝีปากแน่น คนอื่นในห้องออกไปจากห้องตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ แต่ว่า... ภายในห้องตอนนี้มีเพียงตัวเขาและคนรักเท่านั้น
“แล้วนายล่ะ... นายรู้จักฉัน... นายเป็นใคร?” เสียงหวานแล้วมองหน้าตาหล่อเหลา ก่อนที่อะไรบางอย่างมากระตุกใจให้รู้สึกวูบวาบแถวใบหน้า ต้องเผลอหลบสายตาก้มหน้างุดอย่างช่วยไม่ได้
“ข้าชื่อ เพียส... คนรักของเจ้า” เสียงทุ้มตอบอย่างมั่นใจทำให้ใบหน้าหวานเหวอทันที
“คนรัก...!?” ร่างบางร้องเสียงหลงอย่างตกใจทำเอาคิ้วของเพียสชักกระตุก “กับผู้ชายด้วยกันเนี้ยนะ?!”
“แล้วยังไง? ข้ารัก... เจ้ารัก... เรารักกันซะอย่าง” ร่างสูงยักไหล่พร้อมตอบอย่างไม่แคร์ ทำให้ร่างบางชักจะเชื่อจริงๆ ว่าเป็นคนรักกัน... แต่ว่า...!
“งั้น... เราเคย... เออ... จูบกันรึเปล่า?” ร่างบางถามออกมาตามประสาคนที่สูญเสียความทรงจำก็ต้องซื่อ (แบบบื้อๆ)
“หึ... ยิ่งกว่านั้นก็ยังเคยมาแล้ว” ร่างสูงบอกพร้อมกับเคลื่อนตัวเข้าใกล้ มือหนาโอบเอวบางให้แนบชิดร่างตนก่อนจะก้มหน้าลงไปห่างกันเพียงไม่กี่เซนต์
“นะ... นาย...” ใบหน้าหวานขึ้นสีระเรื่อก่อนที่มือบางจะพยายามดันตัวร่างสูงให้ออกไป แต่มีรึจะออก เพราะแรงของเพียสย่อมมากกว่าอยู่แล้วเป็นเรื่องปกติธรรมดา
“อยากจะลองดูมั้ยล่ะ...” คำถามแบบไม่รอคำตอบของร่างสูงจบปุ๊บ ริมฝีปากร้อนก็ทาบทับอย่างเร่าร้อนจนร่างบางแทบจะละลายคาอกแกร่ง
“อือ... อืม...” เสียงครางแว่วหวานในลำคอแทบจะทำให้ร่างสูงอดใจไม่ไหว ก่อนที่มือหนาจะดันเอาร่างบางออกก่อนจะเผลอทำอะไรร้ายแรงลงไป “อา... แฮ่ก... แฮ่ก...”
ดวงตาคมจับจ้องใบหน้าหวานที่เขาแสนจะคิดถึงที่บัดนี้ขึ้นสีเรื่อและเหนื่อยหอบซบลงที่อกของเขา
“ฟุดฟิด~” จมูกบางที่ซุกลงบนไหล่แกร่งดมกลิ่นอีกฝ่ายอย่างไม่เกรงใจ “นายเป็น... ปีศาจ!”
ถึงแม้กลิ่นที่ได้รับรู้จะคุ้นแสนคุ้น แต่ว่าที่รู้แน่ชัดในตอนนี้คืออีกฝ่ายเป็นปีศาจที่แสนน่ากลัว และมีตำนานที่ฝั่งใจคือปีศาจนั่นล่าเทพดั่งของเล่น...
“ข้าบอกเจ้าแล้ว...” ใบหน้าหล่อเหลาแนบชิดกับหน้าหวานเล่นเอาร่างบางวูบวาบแปลกๆ “ไม่ว่าข้าจะเป็นอะไร... ไม่ว่าเจ้าจะเป็นอะไร... ข้ารู้เพียงข้ารักเจ้า”
“กับปีศาจ...” ร่างบางมีท่าทีไม่อยากจะเชื่อแต่ก็ไม่ได้แสดงท่าทางปฏิเสธแบบต่อต้าน ออกจะค่อยๆ ยอมรับอย่างช้าๆ มากกว่า “แต่... เฮ้อ... ช่างมันเถอะ”
...ซะอย่างนั้น
คำพูดที่ราวกับจะถามต่อแต่ก็ตัดบทไปทำเอาใบหน้าหล่อเหลาอมยิ้มน้อยๆ กับนิสัยที่ยังไงก็ไม่เคยเปลี่ยนของร่างบาง (ประหลาดเหมือนเดิม)
“แล้วคนพวกนั้นเป็นใคร?” ใบหน้าหวานเหล่ตามองที่ประตู (ที่พวกพระเจ้าแอบดูอยู่) ทำให้ประตูรีบปิดหนีดังปัง “คนพวกนั้นไม่ยอมบอกอะไรเลย เอาแต่...”
“พวกนั้นเหรอ? ก็เป็นพระเจ้า เป็นราชินีแห่งแสง แล้วก็เป็นน้องชายเจ้าไง” เสียงทุ้มเฉลยก่อนที่ร่างบางจะพูดจบ
“พระเจ้า? อ๋อ!” ร่างบางทำท่านึกออกก่อนจะแย้มรอยยิ้มอย่างคุ้นเคย
...ความทรงจำเริ่มกลับมาแล้วเหรอ?
“ราชินีแห่งแสง? อืม... อือๆ” ใบหน้าหวานพยักหน้ากับตัวเองหงึกหงัก
...ความทรงจำชัดเจนขึ้นแล้วเหรอ?
“น้องชายเหรอ? หรือว่าเป็นตอนนั้น...” ใบหน้าหวานแสดงสีหน้าราวกับจะนึกก่อนจะพยักหน้าหงึกหงักอีกรอบ “อ่ะฮะ จำได้แล้วล่ะ”
“แล้วจำข้าได้รึเปล่า? ที่รัก?” เสียงทุ้มพูดเสียงนุ่มก่อนจะดันลำตัวบางแนบไปกับเตียงนุ่ม
“แฮะๆ จำได้สิ ก็เพียสก็คือเพียสไง!” ใบหน้าหวานแย้มรอยยิ้มน้อยๆ ก่อนจะกลิ้งตัวหนีจากร่างสูง “ก็พระเจ้าก็คือพระเจ้า ราชินีแห่งแสงก็คือราชินีแห่งแสง ส่วนน้องชายก็คือน้องชายไง”
คำพูดนี้ราวกับจุดประกายความหวังให้กับคนที่แอบฟังอยู่ข้างนอก แต่คนที่อยู่ด้วยแทบตลอดเวลาอย่างเพียสมีรึจะมองไม่ออก
“งั้นช่วยบอกทีว่าน้องชายของเจ้า เจอกับเจ้าครั้งแรกที่ไหน?” คำถามนี้ทำให้ร่างบางเอียงคออย่างงงๆ ไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายจะถามทำไม
“ไม่ได้เจอกันบนโลกเทพนี่เหรอ?” คำถามย้อนกลับทำให้ความหวังของคนด้านนอกพักครืน
นี่ไม่ได้จำได้เลยนี่หว่า???
“เฮ้อ...” ร่างสูงถอนหายใจหนักก่อนจะล้มตัวลงนอนกับเตียง แต่ไม่วายคว้าเอวบางมาแนบกายไว้แน่น “ก็แค่รับรู้ตามคำเท่านั้นสินะ”
“ทำไมล่ะ?” ร่างบางพลิกตัวนอนคว่ำมองหน้าอีกฝ่ายอย่างไม่เข้าใจ “ผิดเหรอ?”
“คือ...” ร่างสูงชักหนักใจ แล้วจะให้เขาอธิบายให้ฟังยังไงดีล่ะเนี้ย?? “มันลึกซึ้งว่านั้นนิดหน่อยน่ะนะ”
“อื๋อ??”
“พระเจ้ากับราชินีแห่งแสงนี่เจ้าออกจะสนิทกับพวกท่านนี่” ร่างสูงบอกทำเอาร่างบางถึงกับเลิกคิ้ว “ส่วนน้องชายเจ้า เจ้าได้เจอตอนเจ้าโดนทำโทษ ไปเกิดที่โลกมนุษย์ไม่ใช่เหรอ?”
“คนอย่างฉันนี่นะ? จะไปสนิทกับราชินีแห่งแสงกับพระเจ้า?” คำถามนั้นทำให้ร่างสูงต้องหัวเราะขำๆ
“ก็อ่ะนะ” ไหล่แกร่งถูกยักขึ้นเบาๆ อย่างจะบอกว่า ‘ช่างมันเหอะ’ “แล้วเจ้าอยากจะอยู่ที่นี่หรือว่าอยากจะไปอยู่กับข้าล่ะ?”
“ก็ต้องอยากไปอยู่กับเพียสสิ! อยู่ที่นี่ฉันไม่รู้จักใครเลยนี่นา” ใบหน้าหวานฉายแววเศร้าหน่อยๆ ทำเอาร่างสูงอดเห็นใจไม่ได้
“นี่...” เสียงเรียกทำให้ใบหน้าหวานเงยขึ้นมามองก่อนที่ดวงตาใสจะต้องเบิกกว้างอย่างตกใจ “..........”
เมื่อริมฝีปากอุ่นทาบทับลงมาที่ปากบางอีกครั้งทำเอามือบางขย้ำแขนเสื้อของร่างสูงแน่นก่อนจะหลับตาพริ้มรับสัมผัสที่โหยหา
...ราวกับ คิดถึง
...ราวกับ เรียกร้อง
...ราวกับ ต้องการ
...ราวกับ รัก
“เพียส...” เสียงหวานเรียกเบาๆ “คิดถึงเพียสจังเลย อยากเจอมากๆ”
“หือ?” ร่างสูงจับจ้องใบหน้าหวานอย่างตกใจ “เจ้าจำได้แล้วเหรอ?”
“หา? จำอะไรอ่ะ?” เสียงหวานถามอย่างไม่เข้าใจที่ร่างสูงทำท่าทางราวกับจะตกใจแบบนั้น “จะให้ฉันจำอะไรเหรอ?”
“ก็เมื่อกี้เจ้าพูดอย่างกับ...”
“พูดเหรอ? เออ... นั่นสิ เมื่อกี้นี้เราพูดอะไรไปหว่า??” ใบหน้าหวานเหมือนจะพยายามนึกเท่าไหร่แต่ก็นึกไม่ออกสักที ก่อนจะหัวเราะแหะๆ ใส่ใบหน้าหล่อเหลา “จำไม่ได้แล้วอ่ะ”
“นี่มัน... หมายความว่ายังไงล่ะเนี้ย??” ร่างสูงได้แต่มองใบหน้าหวานที่ยิ้มให้เขาอย่างไม่เข้าใจเท่าไหร่นัก “หรือว่า... เป็นเหมือนกับมีสองจิตวิญญาณ?”
“ก็ประมาณนั้น” เสียงของคนที่แอบฟังอยู่นาน (เมื่อพ้นฉากอันตรายแล้ว) จึงออกมาบอกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น “แต่เหมือนกับว่าเป็นวิญญาณเดียวกันแต่จะคล้ายๆ กับสองบุคลิก จะจำได้บ้างบางครั้ง แต่ส่วนใหญ่จะจำไม่ได้มากกว่า”
“อ๋อ / อ๋อ” เสียงทุ้มและเสียงหวานประสานกันอย่างเข้าใจ ก่อนจะมองหน้ากันเองแล้วหัวเราะออกมาเบาๆ อย่างขบขัน
“แต่มันก็ถือว่าเป็นสัญญาณดีล่ะนะ ที่ความทรงจำยังคงมีอยู่ในสมอง (และหัวใจ) ไม่ใช่ว่าถูกทำลายไปกับน้ำแข็งนั่นแล้ว” พระเจ้าบอกอย่างโล่งอกก่อนจะถอนหายใจอีกครั้ง “ยังไงก็... ยูน เอานี่ไปห้อยไว้ก่อนนะ มันจะช่วยพยุงอาการของเจ้าไว้ก่อนไม่ให้แย่มากนัก”
ว่าแล้วก็เอาสร้อยเส้นเล็กสีขาวบริสุทธิ์ใส่ที่คอบางยิ่งขับให้ผิดขาวเนียนยิ่งขาวมากขึ้นไปอีก (ไม่ใช่ซีดนะ) ดูท่าสร้อยเส้นนี้จะเข้ากับร่างบางจริงๆ
“แต่ว่ามันก็ไม่ใช่ว่าจะมีฤทธิ์นานนักนะ ทางที่ดีรีบทำให้ความทรงจำกลับคืนมาจะดีกว่า จะได้ไม่เป็นอันตรายกับร่างกายนะ” พระเจ้าบอกก่อนจะถอนหายใจ “ฉันไม่อยากจะแช่แข็งทั้งๆ ที่ยังจำอะไรไม่ได้แบบนี้ ถ้าทำไปอาจจะทำให้ลืมเลือนไปตลอดกาลก็ได้”
“อือ” เสียงหวานรับคำเบาๆ ก่อนจะพยักหน้าหงึกหงัก “เข้าใจแล้ว”
...ไม่เข้าใจชัดๆ
ท่าทางติดจะน่าเอ็นดูของร่างบางทำเอาพระเจ้าอดหัวเราะออกมาเบาๆ ไม่ได้ ก่อนจะอวยพรให้แล้วเดินออกจากพระตูห้องไป พร้อมกับลากเอาราชินีแห่งแสงและเจ้าเด็กน้อยอีกคนไปด้วย
“ยังไงก็ขอให้จำได้เร็วๆ ล่ะกันนะ”
“ยินดีต้อนรับกลับบ้านจ้า~!!” เสียงพูดดังลั่นของแม่ของเพียสดังลั่นก่อนจะถลาเข้ามาลูบๆ กอดๆ ร่างบางยกใหญ่ “เป็นยังไงบ้างลูก? ได้ข่าวว่ามีเรื่องผิดปกติ”
“อ่ะ... เออ...” ร่างบางได้แต่ยืนงง จำอีกฝ่ายไม่ได้ก็จริงแต่ว่าความรู้สึกไม่ได้บอกว่ารังเกียจก็เลยไม่ได้ปฏิเสธอะไรไป
“ยูนความจำเสื่อมครับ ท่านแม่” เพียสเลยต้องตอบแทนร่างบางที่ยืนเอ๋อไป
“ตายแล้ว!” เสียงอุทานอย่างตกใจทำให้คนเป็นราชาต้องโผล่หน้าออกมาจากห้องทำงาน มองภรรยาตัวเองที่ส่งเสียงวี๊ดว๊ายอยู่ตรงทางเดินแบบนี้
“เป็นอะไรไปรึ?” เสียงทุ้มถามขึ้นก่อนจะจ้องมองร่างบางนิดๆ เมื่อลูกรัก (?) เปลี่ยนไป
“ยูนความจำเสื่อมน่ะครับพ่อ” เมื่อคนเป็นแม่ของตัวเองเงียบร่างสูงเลยจำต้องตอบแทนให้อีกรอบอย่างจำใจ
“ความจำเสื่อม!” รอบนี้เสียงทุ้มเป็นฝ่ายตะโกนแทน เล่นเอายูนที่ยืนอย่างงงๆ ต้องงงกับตัวเอง
นี่เขาเป็นที่รักของคนอื่นมากขนาดนี้เลยเหรอเนี้ย...อ่า... ยังไงก็ช่วยแวะไปอ่านอีกโครงการหนึ่งของเราด้วยนะ
[FIC Reborn] HistoryOfVangola บันทึกรักฉบับนายวองโกเล่ Yaoi
ขอบใจจ้า~
ความคิดเห็น