ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ซีรี่ส์รัก -- รัก...เธอ {มี ebook meb}

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 2 เผลอตัว เผลอใจ เผลอไป--รีไรท์

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 343
      3
      18 ก.ค. 63

    ตรงหน้าบ้านหลังเล็ก น้ำเพชรนั่งรออยู่บนเก้าอี้อัลลอยสีขาว ส่วนสีฟ้าได้พาตัวเองเข้าไปภายในบ้านหลังนั้น ด้วยถือสิทธิ์ความเป็นเจ้าของทุกอย่างที่อยู่ในเขตรั้วบ้านของตน กลิ่นน้ำหอมผู้ชายหอมสะอาดที่ลอยมาแตะจมูกนั้น มาพร้อมชายหนุ่มมาดนิ่ง ผู้มีใบหน้าหล่อเหลาที่เปิดประตูห้องนอนออกมา

            ภาคีเปิดประตูออกมาก็เจอผู้บุกรุก ไม่ใช่สิต้องเรียกว่าเจ้าของบ้าน

    ...บ้านที่สีฟ้าประกาศปาวๆ ว่าเป็นของตน

    สีฟ้ายืนเอามือข้างหนึ่งไพล่ไว้ด้านหลัง มืออีกข้างถือกรอบรูปเอาไว้ ก่อนจะวางมันลงไว้ที่เดิม หันมามองชายหนุ่มเจ้าของรูปที่เขาหยิบขึ้นมาดู พลางทำเสียงหึในลำคอ

    ...เสียงที่คล้ายกล่าวเย้ยคนตัวสูงกว่า เมื่อคืนทำเหมือนไม่อยากไป แต่มาตอนนี้แต่งตัวเสียหล่อ ที่บอกว่าไม่ไปก็คงแค่เล่นตัวสินะ

    หล่อ ?

    ใช่... ภาคีหล่อ เป็นผู้ชายที่เรียกว่าหล่อได้เต็มปาก ไม่ใช่ผู้ชายแบบเขาที่ไม่เคยมีใครชมว่าหล่อ

    ภาคีดูหล่ออย่างมากในชุดสูทแบบลำลองสีเทาเข้ม ไม่บ่อยที่จะเห็นชายหนุ่มหน้านิ่งและเงียบขรึมแต่งตัวด้วยชุดเช่นนี้

    หล่อดีนี่

    คำทักทายที่ไม่เหมือนคำทักทาย ภาคีรับฟังด้วยความรู้สึกว่างเปล่า แต่ก็เสียดแทงหัวใจไม่น้อย

    ชินแล้วกับคำพูดประชด รวมถึงน้ำเสียงดูถูกด้วย ถ้าไม่ติดว่าพี่สาวขอร้องไม่ให้ย้ายออกไปอยู่ที่อื่น เขาคงย้ายออกไปนานแล้ว ถึงจะรัก ถึงจะอยากเห็นหน้าแทบตาย แต่เขาก็ไม่อยากทนกับท่าทีดูถูกที่อีกฝ่ายมีให้

    สีฟ้าเดินเข้าไปใกล้ร่างสูง ใช้สายตาคู่เก่งมองตั้งแต่หัวจรดเท้า ส่วนคนที่ถูกไล่สายตามองนั้น รู้สึกอึดอัดอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน สายตาสีฟ้ามองราวกับเขาเป็นตัวอะไรสักอย่างที่เจ้าของมีสิทธิ์บังคับให้ทำอะไรก็ได้

    ฟูลออฟชันเลยนะวันนี้

    มีอะไรกับผมหรือเปล่าครับคุณลม

    ภาคีทำลืมๆ น้ำเสียงดูถูกของอีกฝ่ายไปเสีย เพราะใส่ใจไปก็เท่านั้น
    คนอย่างสีฟ้าเคยรู้ตัวที่ไหนว่าทำให้เขาเจ็บมามากเท่าไร แล้วคำพูดดีๆ อย่าหวังจะได้ยิน แม้แต่หางตาก็คงเสียดายหากจะใช้มองเขาด้วยความเป็นมิตร หากไม่ใช่เพราะช่วยเพื่อน โอกาสได้สบตากัน ได้ยืนคุยกัน มีค่าเท่ากับศูนย์

    ฉันเหรอจะกล้ามีอะไรกับนายคนร่างบางยักไหล่  

    ถ้าไม่มีอะไร ผมขอตัวนะครับคร้านจะคุยด้วย ภาคีเลยเดินเลี่ยงออกมา ได้ยินเสียงอีกฝ่ายตามหลังมาติดๆ

    ต่อไปนายก็คงสบาย

    ภาคีหยุดชะงัก พยายามระงับอารมณ์ขุ่นไว้ในใจ ไม่รู้ว่าต้องทนฟังคำถากถางพวกนี้ไปอีกเท่าไร

    หลายปีแล้ว ตั้งแต่สีฟ้าเรียนจบกลับจากเมืองนอก เขาต้องเจอกับถ้อยคำดูถูกทุกครั้งที่บังเอิญเจอกัน ไม่รู้จะเกลียดอะไรเขานักหนา เรื่องนั้นก็ผ่านมานานมากแล้ว เรื่องที่เขาเคยปฏิเสธเพื่อนรักของสีฟ้า

    ...แค่เขาไม่รักน้ำเพชรอย่างที่สีฟ้าอยากให้เป็น

    ...แค่เขารักคนอื่นหมดหัวใจ เขาต้องกลายเป็นคนผิด ที่สีฟ้าต้องตามฆ่าด้วยคำดูถูกถากถางพวกนี้เชียวหรือ ?

    ทบทวนเรื่องราวระหว่างเขากับสีฟ้า เมื่อครั้งเป็นเด็กนักเรียนมัธยม ตอนนั้นสีฟ้าโดดเด่นมากในโรงเรียน ด้วยหน้าตาที่สวยหวานเกินกว่าจะเรียกว่าหล่อ ฐานะครอบครัวเรียกว่ามหาเศรษฐี เรียนดี ทำให้คำว่าเพอร์เฟกต์เป็นอะไรที่สีฟ้าได้รับมาตลอด นอกจากนั้นยังเป็นที่หมายปองของใครหลายคน ไม่ว่าจะหญิงหรือชาย

    ส่วนเขาเป็นแค่คนที่ครั้งหนึ่งเคยเดินชนสีฟ้า เป็นคนที่คอยมองหาสีฟ้าทุกวัน บางวันแม้เห็นเพียงแวบเดียว แต่ก็ทำให้เขามีความสุขไปทั้งวัน ไม่ได้หวังให้สีฟ้ารู้ว่าเขารู้สึกอย่างไรกับเจ้าตัว เพราะฐานะที่ต่างกันมากทำให้เขาเจียมตัว ทำได้แค่แอบมองและแอบรักอยู่ในมุมของตัวเอง

    เมื่อน้ำเพชรเพื่อนสนิทของสีฟ้าเกิดสนใจเขา เขาถึงได้เจอสีฟ้าบ่อยขึ้น ได้เห็นหน้าใกล้ขึ้น ได้มีโอกาสพูดคุยกันมากขึ้น แม้จะเป็นเพราะเรื่องของน้ำเพชรก็ตาม

    แต่เมื่อเขาปฏิเสธน้ำเพชร ทำให้สีฟ้าโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เขาคิดว่าเรื่องคงจะจบไปเมื่อเรียนจบ ต่างคนต่างแยกย้าย คงไม่มีโอกาสได้เจอสีฟ้าอีกในชีวิตนี้ เนื่องจากสีฟ้าไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ แค่ในรั้วโรงเรียนเดียวกัน เขากับสีฟ้าก็เหมือนอยู่กันคนละโลก เมื่อสีฟ้าไปเรียนถึงต่างประเทศ โอกาสเจอกันคงเท่ากับศูนย์

    เขาทำใจแล้วว่ารักครั้งนี้ไม่มีทางสมหวัง เพราะสีฟ้าไม่ชอบหน้าเขาและไปไกลถึงต่างแดน แต่แล้วโลกก็กลมอย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อเขาต้องมาอยู่ร่วมรั้วเดียวกับสีฟ้า คนที่เกลียดเขาเข้าไส้ ทั้งที่เขา... รักสีฟ้าหมดหัวใจ

    นับตั้งแต่ย้ายเข้ามาอยู่ร่วมรั้วเดียวกัน สีฟ้าก็ก่อกวนเขาเรื่อยมา แม้ไม่บ่อย แต่ทุกครั้งที่เจอหน้ากันก็หนีไม่พ้นคำดูถูก คำพูดกระแหนะกระแหนที่สรรหามาว่าให้เจ็บเล่นๆ เหมือนในตอนนี้

    ตกถังข้าวสารเลยนะนั่น” สีฟ้าก้าวตามมาจนทัน

    หมายความว่าไงครับ

    ภาคีหันกลับไปถาม แต่สีฟ้ากลับเดินเอามือไพล่หลัง เดินผ่านเขาไปหาน้ำเพชร ไม่คิดจะรับผิดชอบคำพูดของตัวเอง

    น้ำเพชรยิ้มทันทีเมื่อเห็นชายหนุ่มในดวงใจเดินตามหลังสีฟ้าออกมาด้วยชุดสูทแบบลำลองที่ขับให้ร่างสูงใหญ่ดูเท่และหล่อยิ่งกว่าทุกวัน เธอดีใจมากที่ภาคียอมไปดินเนอร์ด้วยในคืนนี้

    มาแล้วนะพ่อเทพบุตรของเธอน่ะเสียงของสีฟ้าไม่เบาเลย ดังพอที่จะทำให้คนที่ก้าวตามออกมาได้ยิน ซึ่งก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่นิรดาในชุดกระโปรงยาวสีชมพูหวานเดินเข้ามาพอดี

    นิรดาเดินผ่านสีฟ้าและน้ำเพชรไปยืนข้างตัวภาคี เธอมองคนทั้งสอง ความสวยของสาวร่างบางพอสูสีกับเธอได้เลย แต่กับชายหนุ่มหน้าหวานอย่างสีฟ้า นิรดายอมรับว่าเทียบกันไม่ได้ ทั้งที่สีฟ้าเป็นผู้ชาย และเธอเป็นผู้หญิง ซึ่งไม่น่าจะเอามาเทียบกันได้ แต่เธอก็อดเปรียบเทียบให้เจ็บใจไม่ได้

    ไปกันหรือยังคะตินนิรดายกมือขึ้นคล้องแขนภาคี เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของให้สีฟ้าและน้ำเพชรเห็น ให้รู้ไว้ซะว่าเธอเป็นอะไรกับผู้ชายคนนี้

    ครับภาคีตอบ สร้างความงุนงงให้สีฟ้าและน้ำเพชรอย่างมาก

    สองเพื่อนรักมองหน้ากัน น้ำเพชรทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ ร้อนถึงสีฟ้าที่ทนเห็นเพื่อนมีน้ำตาไม่ได้ ต้องรีบออกโรงอาละวาดทันที

    จะไปไหน!” เสียงที่ถามดังเสียจนนิรดาเผลอก้าวถอยไปแอบหลังภาคีในทันที

    สีฟ้าจ้องเขม็งไปที่ภาคี ก่อนตวัดสายตาไปยังนิรดา มองชนิดที่ว่าทำให้หญิงสาวไม่กล้าสบสายตาด้วยเลย

    นายรับปากว่าจะไปกับแพทดึงสายตากลับมาที่ตัวต้นเหตุ

    ผมบอกแล้วว่าผมไม่ว่าง ผมต้องไปงานเลี้ยงกับนุ่นภาคีบอก พลางเอื้อมไปกุมมือนิรดาอย่างปลอบโยน ทำให้หญิงสาวใจชื้นขึ้น ซึ่งมันก็มากพอที่จะทำให้เธอกล้าสบตากับสีฟ้าได้บ้าง... อย่างผู้ชนะ

    แต่นายต้องไปกับเพื่อนฉันสีฟ้าไม่ยอมแพ้ หน้าตาเอาเรื่องสุดๆ เพราะภาคีกล้าปฏิเสธคำสั่งของเขา

    ที่สีฟ้าแสดงอาการไม่ยอมนั้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะชายหนุ่มสู้แทนเพื่อนรักที่ทำท่าจะร้องไห้ อีกส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าเขารู้สึกเสียหน้าที่โดนภาคีตอกกลับ ทั้งที่เขาคิดว่าภาคีควรจะยอมเขา สั่งให้ทำอะไรก็ต้องทำทุกอย่าง ไม่ใช่มาปฏิเสธเขาแบบนี้ แล้วรอยยิ้มสะใจของนิรดาก็ทำให้เขาต้องการเอาชนะ ต้องทำให้ภาคีไปกับน้ำเพชรให้ได้

    ทำไมผมต้องไป ในเมื่อผมนัดกับนุ่นแล้วอาการเอาเรื่องของสีฟ้า
    ไม่ได้ทำให้ภาคีกลัว... กลัวทำไม ในเมื่อชีวิตเป็นของเขา สีฟ้าไม่มีสิทธิ์

    แต่นายต้องไป

    ไปกันเถอะครับนุ่นภาคีหันไปพูดกับนิรดา ไม่สนว่าสีฟ้าจะตะโกนดังลั่นแค่ไหน เขาก็มีขีดจำกัดเหมือนกัน และยอมให้ได้ในบางเรื่องแต่ไม่ใช่ทุกเรื่อง

    ค่ะนิรดารับคำทันที รอยยิ้มของผู้ชนะยังแต้มแต่งบนใบหน้า

    ภาคีกระชับมือนิรดาแน่นขึ้น ต้องการปลุกปลอบเธอ เพราะนิรดากำลังถูกคุกคามจากสายตาเกลียดชังของสีฟ้า ก่อนหันไปบอกน้ำเพชรที่ยืนเงียบ มีไม่คำพูดใด แต่มีน้ำตามาคลอที่หน่วย รอเวลาไหลอยู่นานแล้ว

    ผมขอโทษด้วยนะครับคุณแพท วันนี้ผมไม่ว่างจริงๆ ไว้โอกาสหน้านะครับภาคีบอกด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

    ...ไม่ใช่การให้ความหวัง เป็นแค่คำบอกกล่าวของคนที่เคยรู้จักกัน เขาไม่อยากเห็นใครเสียน้ำตาเพราะเขา ใจแข็งไม่พอ แต่ก็ไม่เคยใจอ่อนตอบรับความรักของเธอคนนี้ เขาไม่อยากสร้างปัญหาให้ยุ่งยากในภายหลัง เพราะไม่ว่าอย่างไรเขาก็รักเธอไม่ได้ ใจเขาเป็นของคนดื้อด้านคนนั้นไปหมดแล้ว

    น้ำเพชรพยักหน้าพร้อมน้ำตาที่รินไหล ร้อนถึงสีฟ้าต้องรีบดึงตัวเธอมากอดปลอบ แต่ตากลับจ้องไปที่ภาคีและนิรดาเขม็ง

    ไปกันเถอะครับนุ่น

    ค่ะ แต่ว่าไปรถนุ่นนะคะ

    ครับภาคีไม่สนใจสายตาสีฟ้าที่จ้องมา มองเขาอย่างไรก็ช่าง เขาไม่ใช่ทาสที่จะต้องทำตามคำสั่งสีฟ้าทุกอย่าง ที่ผ่านมาเขายอมมากพอแล้ว

    ไม่ร้องนะแพท...ส่วนนายน้ำตาบนแก้มเพื่อน ทำให้สีฟ้าอยากจะกระชากมือของคนทั้งคู่ออกจากกันนัก แต่ถูกน้ำเพชรรั้งไว้ก่อน 

    อย่าลมเธอเอ่ยห้าม ดึงแขนเพื่อนเอาไว้

    แต่...”

    สีฟ้าอยากโวยวาย อยากอาละวาดใส่คนที่ทำให้เพื่อนเขามีน้ำตา ผู้ชายที่เดินควงแขนไปกับผู้หญิงที่เขาเกลียดขี้หน้าที่สุดในชีวิต แต่เพราะเพื่อนห้าม แล้วยังดึงแขนเขาไว้ เลยทำอย่างใจต้องการไม่ได้ ได้แต่มองตามคนทั้งคู่ไป ด้วยความรู้สึกโมโหอย่างที่สุดที่ทำอะไรดังใจอยากไม่ได้เลย!

    มือของน้ำเพชรเย็นเฉียบ แตกต่างจากใจของสีฟ้าที่ร้อนราวกับจะ
    เดือดเสียให้ได้ ยิ่งเห็นคนทั้งคู่เดินควงแขนกันไปที่รถ ตรงนั้นภาคีเปิดประตูให้นิรดาเข้าไปนั่ง ก่อนที่จะเดินอ้อมไปเปิดประตูฝั่งคนขับ ไม่ถึงนาทีรถเก๋งสีขาวก็วิ่งออกไปไกลเรื่อยๆ และหายไปจากสายตาในที่สุด

    สีฟ้าหงุดหงิดแทบอยากเผาบ้านที่ไร้เจ้าของทิ้งซะให้รู้แล้วรู้รอด จะได้ไม่ต้องอยู่ร่วมรั้วบ้านเดียวกันอีกต่อไป

     

    เครื่องดื่มแก้วแล้วแก้วเล่าที่ภาคีรับมาจากบริกรของงานเลี้ยง เขาดื่มราวกับเป็นน้ำหวานลื่นคอ นิรดาที่นั่งอยู่ข้างๆ ต้องหันมาห้าม เพราะเธอไม่เคยเห็นชายหนุ่มดื่มเยอะขนาดนี้มาก่อน

    ดื่มเยอะไปแล้วนะ พอเถอะค่ะนิรดาแย่งแก้วในมือภาคี ส่งคืนให้บริกรของงาน ชายหนุ่มไม่ได้ว่าอะไร เพราะสมองของเขาตอนนี้มันยุ่งเหยิงไปหมดแล้ว

    คิดอะไรอยู่คะเธอถามพลางวางมือทาบบนหลังมือใหญ่ ลูบน้อยๆ ให้ชายหนุ่มรับรู้ถึงความห่วงใยของเธอ

    เปล่าครับ

    ภาคีปฏิเสธ แล้วดึงมือออกช้าๆ สัมผัสของนิรดาทำให้ชายหนุ่มรู้สึกแย่ขึ้นกว่าเดิม

    กลับกันเถอะครับเขารู้ว่าคงไม่มีอะไรดีขึ้นหากยังนั่งอยู่ในงานนี้ ยิ่งนั่งยิ่งฟุ้งซ่าน เขานั่งคิดถึงแต่ใครอีกคนที่โกรธจนตัวสั่น หน้าตาสวยหวานบูดบึ้งกว่าครั้งไหน มันไม่ใช่ใบหน้าที่เขาอยากเห็นสักนิด และมันทำให้เขากลัวว่าสีฟ้าจะโกรธและเกลียดเขามากยิ่งขึ้น จนไม่อยากเสียเวลาแม้สักเสี้ยววินาทีเดียวมาประชดประชัน หรือดูถูกถากถางเขาเหมือนเดิมอีกต่อไป

    ต่อให้เขาเจ็บปวดกับคำพูดถากถางเท่าไร ทว่าเขาคงจะทรมานมากกว่า หากไม่ได้เห็นหน้า ไม่ได้ยินเสียงของสีฟ้า...

     

    เที่ยงคืนพอดีที่ภาคีกลับถึงบ้านหลังเล็กของเขา ก่อนหน้านี้เขาพานิรดาไปส่งที่บ้านของเธอ ไม่ฟังคำอ้อนใดๆ ที่รบเร้าให้เขาเข้าไปในบ้านด้วยกัน จากนั้นเขาก็ขับรถของเธอไปเรื่อยๆ อย่างไร้จุดหมาย

    ภาคีไม่อยากกลับบ้าน เขาสังหรณ์ใจว่าใครบางคนคงตั้งตารอการ
    กลับมาของเขา และไม่ผิดไปจากที่คิด เมื่อแสงไฟภายในตัวบ้านสว่างโร่แสดงว่ามีคนอยู่ในบ้านของเขา ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเป็นใครที่ถือวิสาสะขนาดนั้น ก็มีสีฟ้าคนเดียวที่กล้าทำ กล้าบุกรุก กล้าประกาศตัวว่าเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้

    ใจหนึ่งก็ดีใจที่จะได้เห็นหน้าอีกฝ่ายเหมือนคนแอบรักทั่วไป แต่ว่าอีกใจก็อ่อนล้าเกินกว่าจะบรรยายได้ว่าเป็นเพราะอะไร อาจเป็นเพราะว่าเขาไม่ใช่สิ่งของและเขาไม่ใช่ของของสีฟ้า

    แต่สีฟ้ากลับทำให้เขารู้สึกว่าเป็นสิ่งของ เป็นของของสีฟ้า ที่เจ้าตัวจะจับทำอะไรก็ได้ตามแต่ความต้องการของตน ไม่เคยคิดถึงหัวจิตหัวใจเขาเลยว่าจะรู้สึกอย่างไร ที่ผ่านมาเขาทนเพราะอยากทน เผื่อความเกลียดชังจะลดน้อยลง แต่มันกลับยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่เห็นหนทางที่ความหวังจะเป็นจริง วันนี้เขายังทนได้เพราะอยากทน วันไหนที่เขาต้องฝืนทน วันนั้นเขาจะออกไปจากบ้านหลังนี้ เพื่อที่จะไม่ต้องพบเจอกันอีกตลอดชีวิต

    ...แต่เขาก็รู้ดีว่า คงไม่มีวันนั้น วันที่เขาทำได้

    นานกว่าที่เขาจะตัดสินใจเดินเข้าไปในบ้านของตน เมื่อสีฟ้าเห็นเขา ประโยคแรกที่เอ่ยออกมา ทำให้เขาเหนื่อยจนอยากหันหลังและหนีไปให้ไกล

    ยายหน้าจืดนุ่นมีดีตรงไหน นายถึงได้กล้าปฏิเสธเพื่อนฉัน!” ต่อให้นิรดาแต่งหน้าจัดและสวยหยาดฟ้าขนาดไหน สีฟ้าก็มองว่าใบหน้านั้นจืดชืด สวยสู้เพื่อนตนไม่ได้ ไม่ใช่แค่เรื่องหน้าตา เรื่องฐานะด้วย

    สีฟ้านั่งรอภาคีหลังจากที่น้ำเพชรกลับไปพร้อมคราบน้ำตาและความผิดหวัง เพื่อนเขาร้องไห้หนัก กว่าจะหยุดได้ก็ปลอบกันเกือบชั่วโมง นี่ถ้าไม่ติดว่าต้องบินไปฝรั่งเศสพรุ่งนี้ สีฟ้าคงรั้งให้น้ำเพชรอยู่เคลียร์เรื่องนี้ด้วยกันไปแล้ว เอาให้จบ รักหรือไม่รัก จะได้เลิกหวังสักที เขาก็เหนื่อยเหมือนกัน ไม่อยากช่วยน้ำเพชร แต่ก็ทำใจแข็งไม่ช่วยไม่ได้

    ผมไม่ขอตอบ!” ชายหนุ่มบอกเสียงแข็ง ครั้งแรกกระมังที่ภาคีพูดเสียงแข็งใส่สีฟ้า ที่ผ่านมาต่อให้สีฟ้าพูดหรือทำอะไรตน ภาคีก็ทำไม่สนใจ ไม่แสดงออกว่าไม่พอใจ ต่างจากครั้งนี้ที่ความขุ่นเคืองถูกแสดงออกมาทันที คงเพราะน้ำเปลี่ยนนิสัยที่ดื่มเข้าไปเป็นแน่ ทำให้กล้าถึงเพียงนี้ได้

    ดีเหมือนกันสีฟ้าจะได้รู้เสียทีว่าเขาไม่ใช่สิ่งของ ไม่ใช่ของของสีฟ้า ไม่ใช่คนที่สีฟ้าจะทำอะไรด้วยก็ได้ เขามีหัวใจ เจ็บเป็น ส่วนความอดทนก็มีขีดจำกัด ไม่ใช่รักแล้วจะยอมทุกอย่าง

    ...แม้ว่าเขาอยากจะยอมสีฟ้าทุกอย่างก็ตาม

    แต่นายต้องตอบฉันสีฟ้าลุกขึ้น เดินเข้าไปใกล้ภาคี ใกล้พอที่เขาจะเงยหน้ามองคนตัวสูงโดยไม่ต้องลำบากมากนัก

    ถึงสีฟ้าจะไม่ใช่คนตัวเตี้ย แต่ชายหนุ่มก็สูงสู้อีกคนไม่ได้ แต่ตอนนี้ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ความสูง มันอยู่ที่ภาคีกล้าพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้างต่างหาก มันทำให้สีฟ้าหงุดหงิด เขาไม่ชอบท่าทางต่อต้านและไม่ยอมลงให้เขาของภาคี เสียเวลานั่งรออยู่นานหลายชั่วโมง จะให้ฟังคำปฏิเสธอย่างนั้นหรือ ใครจะยอม! 

    ผมเหนื่อย ผมขอตัว

    นายยังไม่ตอบคำถามฉัน

    ผมขอตัวคงไม่ต้องทำตัวเป็นเจ้าบ้านที่ดีอีกต่อไป ในเมื่ออีกฝ่ายไม่ได้ทำตัวเป็นแขกที่ดี ภาคีจึงตัดปัญหาด้วยการเดินหนีเข้าห้องนอน ทิ้งให้สีฟ้ายืนไม่พอใจกับการกระทำนั้นอย่างที่สุด

    เสียงปิดประตูห้องนอนในเวลาต่อมา บอกให้สีฟ้าทำอะไรสักอย่าง
    เขาตัดสินใจตามเข้าไปในห้องนั้น สถานที่ที่เขาไม่เคยรุกล้ำเข้าไปสักครั้ง

    ภาคีที่กำลังถอดเสื้อสูทพาดไว้ที่เก้าอี้ หันกลับมามองคนบุกรุกทันทีเมื่อประตูห้องนอนถูกเปิดเข้ามา สีฟ้าจะถือสิทธิ์มากเกินไปแล้ว แม้กระทั่งห้องนอนที่ควรเป็นห้องส่วนตัวของเขา สีฟ้ายังกล้าเข้ามาอย่างไม่เกรงใจ

    นี่มันห้องนอนผมนะครับ... คุณลม

    เขาพยายามทำเสียงเรียบข่มความโกรธที่พุ่งขึ้น ขณะที่ข่มความรู้สึกไม่ให้โมโหผู้บุกรุกไปมากกว่านั้น มือก็เอื้อมไปคว่ำกรอบรูปบนโต๊ะข้างเตียงลง ไม่ให้ใครได้เห็นสิ่งหวงแหน

    ฉันมาเอาคำตอบสีฟ้าจ้องตาเจ้าของห้องนายต้องตอบคำถามของฉันก่อนอะไรที่สีฟ้าอยากได้ อยากรู้ มันต้องได้และต้องรู้ให้ได้ ถึงจะยอมจากไป แต่ถ้ายังไม่ได้ ถ้ายังไม่รู้ สีฟ้าก็จะอยู่เค้นเอาจนได้และจนรู้

    สีฟ้าเดินเข้าใกล้อีกนิด ในระยะที่เขาเงยหน้ามองได้สบายเหมือนทุกครั้ง ดวงตาบรรจุด้วยความขุ่นเคืองจ้องไม่ยอมลดละ เขาทันเห็นเจ้าของห้องคว่ำกรอบรูปเล็กๆ นั้นลง เพื่อหนีสายตาเขา

    รูปอะไร ? ต้องสำคัญมากๆ ถึงได้รีบเอาซ่อนสายตาเขาขนาดนั้น และเพราะอยากรู้ ปากเลยถามออกไปอย่างใจใคร่รู้

    รูปใคร ?” ภาคีมองตามสายตาคนถาม เขาไม่ตอบและดึงสีฟ้ากลับไปเรื่องเดิม ไปให้ห่างจากเรื่องรูปที่เขาต้องการให้เป็นความลับ

    นี่มันห้องนอนผม คุณไม่มีสิทธิ์เข้ามา

    ทำไมฉันจะเข้ามาไม่ได้ อะไรก็ตามที่มันอยู่ในรั้วบ้านฉัน มันคือของของฉัน ฉันมีสิทธิ์จะทำอะไรก็ได้ใบหน้าสวยเชิดอย่างถือสิทธิ์ แขนเล็กยกขึ้นกอดอกท้าทาย มองหน้าเจ้าของห้องที่ยังไม่ขยับปากตอบโต้กลับมาหึ...เถียงไม่ออกล่ะซี้ทำเสียงเยาะเย้ย

    “…..” ที่ภาคีไม่ตอบโต้ เพราะพยายามระงับอารมณ์โกรธของตัวเอง
    ไม่ให้เพิ่มมากขึ้น แต่สีฟ้ากลับทำให้ทุกอย่างแย่ลง ตั้งใจจะยั่วยุให้เขาระเบิดอารมณ์ออกมาให้ได้เลยหรือไง 

    ตอบคำถามฉันมา ยายหน้าจืดนุ่นมีอะไรดี หรือว่ายายนั่นเป็นเมียนายแล้ว หึ...นายก็น่าจะฉลาดเลือกหน่อยนะ

    คุณลม!” ภาคีเรียกชื่ออีกฝ่ายเสียงดัง ตามอารมณ์ที่ถูกยั่วยุ เขาสบตาคู่สวยอย่างเอาเรื่อง ไม่คิดว่าคนตัวเล็กตรงหน้าจะกล้าพูดประโยคนี้ออกมา คำพูดนั้นดูถูกทั้งเขา ดูถูกทั้งนิรดา

    ทำไม ? ฉันพูดอะไรผิด เห็นออเซาะกันขนาดนั้น ไม่พามาอยู่ด้วยเลยล่ะ พามาอยู่สิ ฉันจะได้ยกบ้านหลังนี้ให้เป็นของขวัญแต่งงานของนาย กับยายนั่น ในฐานะผู้ใหญ่ฝ่ายชายปากอิ่มเหยียดยิ้มเย้ย ไม่สะทกสะท้านกับแววตาจ้าจัดด้วยความโกรธของคนฟัง

    ถ้าผมจะแต่งงานกับนุ่น ผมคงไม่พาเธอมาอยู่ที่นี่หรอกครับคุณลม
    ...
    เกรงใจภาคีโต้กลับ เขาลงเสียงหนักในสองคำสุดท้าย

    สีฟ้าเบ้ปากใส่คำพูดนั้น

    จะไปอยู่บ้านเมียว่างั้น

    “…..” ไร้คำตอบ

    ดีเหมือนกันนะ มีเมียให้เกาะ

    คุณลม!!”

    ภาคีอยากกระชากร่างเล็กเข้ามาเขย่าให้สาแก่ใจกับคำพูดเจ็บแสบพวกนั้นเหลือเกิน ทว่าเขาทำได้แค่คิด ส่วนเจ้าของใบหน้าสวยเกินชายยังคงยิ้มภูมิใจในคำพูดของตัวเอง มือที่กำแน่นเพื่อกดอารมณ์โกรธคลายออกจากกัน ภาคีสูดลมหายใจเข้าลึกอยู่หลายครั้ง ก่อนเอ่ยออกมาว่า   

    ผมจะเกาะใคร ก็เรื่องของผม ไม่ใช่เรื่องของคุณลม ออกไปจากห้องผมได้แล้ว...เชิญครับภาคีเดินผ่านร่างเล็กไปยังประตูห้อง แล้วผลักมันให้เปิดกว้างมากขึ้น เพื่อไล่คนที่ยืนหน้าเชิดให้ออกไปเสียโดยเร็ว

    สีฟ้าแค่มองการกระทำนั้นอย่างไม่สนใจ

    เชิญครับภาคีบอกย้ำเมื่ออีกฝ่ายยังปักหลักยืนอยู่ที่เดิม ซ้ำยังจ้องหน้าเขาอย่างท้าทาย ราวกับจะบอกว่า ...แน่จริงก็เอาตัวฉันออกไปให้ได้สิ!

    ไม่มีหรือสีฟ้าจะยอม ยอมก็ไม่ใช่สีฟ้าสิ ยิ่งโดนอีกฝ่ายไล่ด้วย
    ยิ่งไม่มีทางจะก้าวขาออกไปง่ายๆ ต่อให้ยืนจนถึงเช้า สีฟ้าก็ทำได้ เพื่อเอา
    ชนะอีกฝ่าย

    นานหลายนาทีที่คนทั้งคู่ยืนเล่นสงครามเงียบกัน สีฟ้ายืนกอดอก
    อยู่กลางห้อง ภาคียืนจับลูกบิดประตูไว้ ก่อนที่จะต้องยืนเช่นนี้ไปจนถึงเมื่อไรไม่รู้ ก็เป็นภาคีที่ก้าวออกจากที่มั่นของตน เดินเข้าหาคนตัวเล็กกว่า คว้าหมับเข้าที่ต้นแขนเล็ก หมายกระชากเอาตัวสีฟ้าออกไปจากห้องเขา

    ปล่อย!” สีฟ้าตวาดใส่ สะบัดแขนอย่างสุดแรง จนหลุดออกจากมือใหญ่ได้ เขาคลำต้นแขนที่โดนบีบจนเจ็บ ภาคีบีบแขนเขาแรงมาก

    ออกไป!”

    นายไม่มีสิทธิ์มาไล่ฉัน... นี่มันบ้านฉัน!” สีฟ้าโกรธมากที่ภาคีกล้าทำกับเขาแบบนี้ ทำเขาเจ็บ แล้วยังขึ้นเสียงใส่เขาอีก

    งั้นหรือครับ

    คล้ายเส้นความอดทนของภาคีใกล้ขาดเต็มที ที่ผ่านมาเขายอมมากพอแล้ว ยอมทั้งที่สีฟ้าทำราวกับเขาเป็นสิ่งของ ชายหนุ่มกระชากไหล่บางเข้าหาตัว โชคดีที่สีฟ้าใช้มือดันแผ่นอกไว้ทัน ก่อนที่จะปะทะให้ต้องเจ็บตัว

    ผมบอกให้ออกไปเขากดเสียงต่ำ จ้องเข้าไปในดวงตาอวดเก่ง

    ไม่ออก!” สีฟ้าตะโกนใส่หน้า ไม่เกรงกลัวสายตาดุกร้าวของภาคี

    ชายหนุ่มร่างบางพยายามสะบัดไหล่ให้หลุดจากมือใหญ่ที่บีบแน่น แต่ไม่ได้ผล ซ้ำร้ายยังถูกกระชากให้เข้าใกล้อกกว้างมากขึ้น มือที่ดันอยู่นั้นก็แทบต้านแรงไม่ไหว เขาได้กลิ่นเหล้าอ่อนๆ เป่ารดอยู่เหนือผิวแก้ม รู้สึกหวิวๆ บอกไม่ถูก เหมือนกำลังตกอยู่ในเขตอันตราย ต้องเป็นเพราะเหล้าอย่างแน่นอนที่ทำให้ภาคีกล้าทำกับเขาแบบนี้ ทั้งขึ้นเสียงใส่ ทั้งทำให้เขาเจ็บ  

    นายไม่มีสิทธิ์มาทำแบบนี้กับฉันสีฟ้าตะโกนลั่น แม้จะอยู่ในสถานการณ์ที่รู้สึกว่ามันอันตราย แต่ก็ยังฝืนทำใจกล้า ตวาดอีกฝ่ายเสียงดัง สบตาขึ้งโกรธอย่างไม่หวาดกลัว ทั้งที่ในใจเริ่มสั่นรัวแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เพราะแววตาที่เปลี่ยนไปของอีกฝ่าย มันดูอันตรายเหลือร้าย

    ผมให้โอกาสคุณแล้ว แต่คุณดื้อเองนะคุณลมพูดด้วยเสียงแข็งที่กดต่ำ ความคิดแรกของภาคีคือต้องสั่งสอนให้สีฟ้าจำเสียบ้าง ส่วนความคิดที่ตามมาภายหลังคือสิ่งที่มาจากความรู้สึกที่กักเก็บมาเนิ่นนาน

    ปล่อยฉัน!” ถึงจะเริ่มกลัว แต่สีฟ้าก็ข่มขู่ด้วยเสียงที่ดังลั่นห้องนอนฉันบอกให้ปล่อยไง นายไม่มีสิทธิ์มาทำแบบนี้กับฉัน ถ้าไม่ปล่อย ฉันจะฟ้องพี่ลินทุกครั้งที่ขู่ภาคี สีฟ้ามักอ้างชื่อพี่สะใภ้เสมอ ภาคีก็จะไม่กล้าทำอะไรเขา แต่ครั้งนี้ไม่ได้ผล ชื่อของนลินไม่ได้ทำให้ภาคีหยุดความคิดของตนได้

    มีสิทธิ์สิครับ เพราะนี่มันห้องนอนของผม คุณเดินเข้ามาหาผมเอง

    พูดจบ ภาคีก็เหวี่ยงร่างบางไปบนเตียง ก่อนจะโถมตัวเข้าไปหาอย่างรวดเร็ว ไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายหนีไปไหนได้ไกลเกินเตียงนอน

    สีฟ้าถอยร่นไปจนสุดทางที่หัวเตียง แต่ภาคีก็ตามไปรั้งเอวบางเอาไว้ได้ ดึงให้เข้ามาอยู่ใต้ร่างตนได้อย่างง่ายดาย

    ปะ...อื้ออ...”

    ไม่ทันได้แผลงฤทธิ์ ริมฝีปากหวานก็ถูกทาบปิดด้วยกลีบปากหยัก ดักทุกคำขู่ให้กลืนหายไปกับเรียวลิ้นของฝ่ายที่รุกเข้ามาอย่างกระหาย สีฟ้าผลักใบหน้าหล่อเป็นพัลวัน แต่ไม่สามารถหยุดสิ่งที่เกิดขึ้นได้เลย ริมฝีปากร้อนบดขยี้รุนแรง ลิ้นร้อนจาบจ้วงอย่างร้ายกาจและไม่ให้เกียรติ

    ภาคีรวบมือเล็กทั้งสองข้างไว้เหนือศีรษะเจ้าของมัน ด้วยมือเพียงข้างเดียว เมื่อคนใต้ร่างเริ่มใช้กำปั้นเล็กทุบตีเขา มองตาคู่สวยด้วยสายตาดุดันใคร่อยาก ปากอิ่มที่หอบเอาอากาศเข้าปอดเมื่อครู่ ตอนนี้เม้มแน่นไม่ยอมเปิดออก เพราะกลัวจะถูกรังแกซ้ำเป็นหนที่สอง

    ภาคีเสียเวลาสบตาคู่สวยเพียงครู่เดียว ก่อนค้นหาความหวานจากซอกคอขาวแทนกลีบปากอิ่ม ที่เจ้าของปากนั้นกัดเม้มไม่ให้ล่วงล้ำเข้าไปชิมความหวานได้อีกครั้ง มือข้างที่เหลือสอดเข้าไปสัมผัสผิวเนื้อใต้ชุดนอนเนื้อดี

    ร่างข้างใต้ที่ขัดขืนในหนแรกเริ่มอ่อนระทวย เพราะแรงสัมผัสวาบหวามที่รุกเร้าและหลอกล่อ สองมือที่ถูกรวบไว้เหนือศีรษะอ่อนแรงต้านเมื่อถูกปล่อยให้เป็นอิสระก็กลับกลายมาเป็นโอบรัดร่างของคนด้านบนเอาไว้ ดึงให้ลงมาแนบชิดตามอารมณ์ที่โหมพาไป ปากหยักที่ซุกไซ้โลมเลียพาเตลิดไปไกล มือใหญ่ที่ลูบไล้ทั่วเนื้อตัวก็ทำให้เผลอแอ่นกายเข้าหา เพื่อให้สัมผัสได้ใกล้ขึ้น ร่างกายบอบบางได้ตอบสนองการบุกรุกนั้นอย่างเผลอไผล

    เพราะเรียวแขนที่โอบกอดเขากลับ เพราะการกระทำที่สนองตอบมาราวกับน้ำผึ้งหวาน เรียกสติและความถูกต้องกลับคืนมาให้ภาคีทันทีทันใด ชายหนุ่มถอนริมฝีปากออกจากผิวกายขาวละเอียดอย่างรวดเร็ว ราวกับความนวลเนียนนั้นเป็นของร้อน ที่กำลังแผดเผาให้มอดไหม้ดับสูญ วินาทีที่ผละออกมาเขาเสียดายความหวานที่ได้ลิ้มลองเป็นครั้งแรก เขายังอยากเชยชมผิวกายขาวกับกลิ่นกายหอมหวานอีกสักนิด แต่ต้องหักห้ามใจตนและความปรารถนาเร่าร้อนเอาไว้เพียงเท่านี้ พร้อมกับปล่อยร่างบางเป็นอิสระ

    ภาคีค่อยๆ ลุกขึ้นนั่ง เขาหันหลังให้ร่างที่นอนหอบเหนื่อยอยู่นั้น และรู้สึกผิดจนไม่กล้ามองใบหน้าที่ขึ้นสีแดงจัดนั้นเลย

    ...แม้แต่หายใจยังไม่กล้า

    สีฟ้าลุกขึ้นช้าๆ ปรับสมองและความคิดให้เป็นปกติ จับดึงเสื้อผ้าให้เข้าที่ พลางหลับตาลง กลั้นอาการปวดหนึบที่หัวใจและความอับอาย ไม่ให้เจ้าของแผ่นหลังกว้างเห็น ก่อนที่อีกฝ่ายจะพูดเสียงเรียบออกมาว่า

    คุณออกไปเถอะ ขอร้องอย่ามายุ่งกับผมอีก ส่วนเรื่องคุณแพท มันเป็นไปไม่ได้เพราะผมมีคนที่ผมรักอยู่แล้วสิ้นคำพูดที่พยายามบังคับน้ำเสียงของตนให้เป็นปกติที่สุดคือ... ใครคนนั้นจากออกไป

     

    สีฟ้าวิ่งผ่านหน้าพี่ชายและพี่สะใภ้ ที่เพิ่งกลับจากงานเลี้ยงข้างนอกมา เขาไม่มีกะจิตกะใจเอ่ยทักคนทั้งคู่เลยสักนิด นั่นทำให้คนเป็นพี่นึกสงสัยอย่างมาก

    วิ่งหนีอะไรมาลมเมฆาตะโกนถาม เมื่อคนเป็นน้องเอาแต่ก้มหน้าก้มตาวิ่งขึ้นบันไดไป ไม่ยอมทักทายพี่ชายอย่างเขาเลย

    ไม่มีอะไรครับพี่ฟืนคนเป็นน้องตะโกนตอบกลับไป ไม่ได้หยุดเท้าไว้แม้แต่วินาทีเดียว จนเข้าห้องมาได้ก็โถมตัวลงบนที่นอนทันที

    สีฟ้าซบหน้าลงกับหมอน ชายหนุ่มหน้าหวานปลดปล่อยความรู้สึก
    ทุกอย่างออกมาเป็นน้ำใสไหลจากหน่วยตาสวย ในห้องที่มีเพียงเขาคนเดียว จึงไม่จำเป็นต้องกักเก็บสิ่งใดเอาไว้ให้ทรมานตัวเอง

    เขาปล่อยน้ำตาของความรู้สึกเหลวแหลกออกมาราวกับพายุฝน ในคืนที่ฟ้ามืดมิด สีฟ้าเจ็บที่หัวใจ เขาเจ็บที่เผลอไผลไปกับการกระทำของภาคีเสียแล้ว

    ...เขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนล่ะทีนี้


    จบตอนที่ 2


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×