ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fiction] ณ สนามเด็กเล่น - TaoKacha

    ลำดับตอนที่ #9 : ตอนที่8 สุขสันต์ทุกวันที่อยากให้เกิด 100%

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.01K
      1
      2 มิ.ย. 56

    เครื่องปรับอากาศเย็นฉ่ำพาให้ตลอดค่ำคืนหลับสนิทด้วยความสุขแต่ทั้งที่เป็นวันหยุดและอยากจะนอนต่อให้นานกว่าเดิม หากเมื่อขาดไออุ่นที่กอดนอนมาตลอดทั้งคืนกลับทำให้ผมสะดุ้งตื่นปราศจากอาการงัวเงียเหมือนเคย

     

    ยังไม่ทันได้อาบน้ำเปลี่ยนเครื่องแต่งกาย เสียงหัวเราะใสและพูดคุยสนุกสนานก็เรียกให้สาวเท้ามุ่งหน้าสู่พื้นที่ส่วนของห้องครัวในบ้าน

     

    ผมเผยยิ้มออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่เมื่อพบกับคนสามคนในนั้น แม่ที่สารวนอยู่กับแกงในหม้อ มีพ่อช่วยหั่นหมูอยู่ไม่ไกลและคนสุดท้าย...

     

    น้องคชาของผม

     

     

    น้องนั่งอยู่บนโต๊ะตัวใหญ่กลางห้องครัว ขาเหยียดขาวอ้ากว้างวางกะละมังใบย่อมไว้ตรงกลาง มือเล็กเด็ดใบกะเพราอย่างตั้งอกตั้งใจพร้อมกับชนคนนู้นคนนี้คุยเล่าเรื่องระหว่างที่ตัวเองอยู่ต่างจังหวัดอย่างสนุกสนาน

     

    อดใจกับความน่ารักของเขาไม่ได้จนต้องตรงเข้าไปกอดแน่น น้องที่กำลังเพลินสะดุ้งสุดตัวพาให้ของที่อยู่ในมือสะพัดมาฟาดหน้าผมก่อนจะทิ้งอะไรเอาไว้

     

     

    “อ๊า~~~

     

    “อ๊า!!!!!!!!!!!!

     

    “อ๊ากกกกกกกก

     

    “อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก”

     

     

    สี่เสียงประสานร้องขึ้นพร้อมกันลั่นห้องครัว เริ่มต้นด้วยน้อง ตามมาคือผม พ่อยอมวางมีดแล้วร้องตามขณะที่แม่ยอมปล่อยแกงเดือดไว้อยู่แบบนั้น เพราะอะไรน่ะหรือครับ

     

     

    เพราะก้านกะเพราที่น้องปัดมาโดนจมูกมันฝากหนอนตัวเล็กเอาไว้เกาะแน่นอยู่แบบนั้น แม่หัวเราะชอบใจในขณะที่พ่อก็ยังไม่เว้น ส่วนน้องน่ะหรือครับ....

     

     

    หัวเราะเสียงสดใสจนท้องแข็งนอนกลิ้งไปกับพื้นโต๊ะแล้วเรียบร้อย

     

     

    “พอแล้วลูก เดี๋ยวน้องหายใจไม่ออก เต๋าเอาหนอนไปปล่อยไป” ผมเดินผ่านประตูที่ติดกับสวนหลังบ้านพาหนอนตัวน้อยไปปล่อยกลับมาแล้วยังเห็นน้องนอนหอบหายใจเพราะเหนื่อยจากการหัวเราะอยู่บนโต๊ะ

     

    “ฮ่าๆๆ ที่เต๋ากินหนอน พี่เต๋ากินหนอน มีหนอนออกมาจากจมูก” อื้อหือ คำพูดคำจา นึกสภาพผมกลายเป็นศพมีหนอนไชได้เลย

     

    “แล้วใครทำ หืออ ใครทำ” ผมฝังจมูกลงบนท้องแบนราบของเจ้าตัวเล็ก ไซร้หน้าไปมาชวนจั้กจี้ เด็กน้อยก็ดิ้นปัดๆจนขาฟาดลงบนกะละมังที่มีใบกะเพราเด็ดเสร็จแล้วจนเกือบคว่ำ

     

    “พี่เต๋าแกล้งน้องครับคุณลุง” แสบมาก หันไปฟ้องพ่อผมที่พยุงตัวเขาขึ้นกันต่อหน้าต่อตาเลย

     

    “เต๋าไปอาบน้ำไปลูก ลงมากับข้าวคงเสร็จพอดี จะได้ออกไปรอพระหน้าบ้าน

     

     

     

    ผมผิวปากก้าวขึ้นบันไดสู่ห้องน้ำชั้นบนอย่างว่าง่าย ไม่ลืมแหกปากร้องเพลงลั่นห้องน้ำด้วยอารมณ์ที่ยากเกินจะบอกว่ามันดีขนาดไหน การตื่นเช้าไม่ใช่ปัญหาของผมอีกต่อไป ถ้าเป็นแบบนี้ได้ทุกวันคงดีไม่น้อยเลยว่าไหมครับ

     

     

     เรายืนเรียงกันมีน้องคอยวางดอกไม้เป็นลำดับสุดท้าย มือป้อมประนมไหว้คล่องแคล่วเหมือนเด็กที่คุ้นชินกับการทำบุญไหว้พระ ผมได้แต่มองแล้วแอบชื่นชมอยู่ในใจ น้องดูสดใสเกินกว่าจะนิ่งเฉยปล่อยให้ภาพนี้หลุดลอยไปได้ จนต้องยกสมาร์ทโฟนขึ้นมากดบันทึกวีดีโอไว้ดูยามนึกถึง

     

     

     

     

    “พี่เต๋าทำอะไรน่ะ” น้องชี้มาที่กล้องพร้อมใบหน้าสงสัย คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันร้องโวยวายอยากดูว่าผมถ่ายอะไรไว้

     

    “สวัสดีหน่อยสิครับ เช้านี้น้องคชามาทำอะไรเอ่ย?” น้องยังสงสัยแต่ก็ยอมทำตาม

     

     

    “น้องคชามาใส่บาตรวันเดพี่เต๋าครับ สุขสันต์วันเกิดนะครับ น้องคชารักพี่เต๋า บ้ายบายยย” น้องโบกมือลาแล้วก็เหนี่ยวแขนดึงกล้องในมือออกไปในขณะที่ผมสติแทบไม่อยู่กับตัว กว่าจะเรียกกลับมาได้ก็ตอนที่น้องร้องอยากดูคลิปของตัวเอง

     

    “น้องคชาจะดูอันเมื่อกี้ ต้องกดตรงไหน” ผมกดให้น้องดู เขายิ้มน้อยยิ้มใหญ่วนอยู่หลายรอบก่อนจะหันมาบอกผม

     

     

    “น้องคชารักพี่เต๋าจริงๆนะครับ”

     

     

     

     

     

    หน้าตาของความสุขมันเป็นแบบนี้เอง

     

    ..........................................


     

    ส่งน้องกลับบ้านตัวเองไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเพราะเรามีนัดกันว่าจะไปเยี่ยมคนป่วยที่โรงพยาบาล อีกอย่าง ใกล้วันเปิดเทอมของน้องแล้วด้วยผมเลยว่าจะพาเด็กดีไปซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่และอุปกรณ์การเรียนซักหน่อย

    นั่งรอไม่นานเสียงเจื้อยแจ้วก็ร้องเรียกอยู่หลังรั้วทรงเตี้ย แล้วผมก็ต้องสะดุดลมหายใจตัวเองเพราะชุดน่ารักของเขา

    เสื้อยืดสีสดทับด้วยเอี๊ยมสีอ่อน น่ารักหาใดเปรียบต่างกับผมที่สวมเพียงเสื้อยืดสีขาวกับยีนส์ตัวโปรด เอาน่าสาวๆสมัยนี้ชอบหล่อเซอร์ 

    "พี่เต๋าอุ้มหน่อยสิครับ" สองแขนเล็กกางออกกว้างให้ทำตามที่บอกแต่ผมไม่เห็นด้วย

    "เข้าทางประตูสิครับ ข้ามรั้วไม่ดีนะเดี๋ยวพลาดขึ้นมาตกลงไปเจ็บจะทำยังไง" 

    "พี่เต๋าไม่ทำตกหรอกน้องคชารู้" 

    "ไม่ได้ครับ" 

    "แต่วันนี้วันเกิดพี่เต๋าต้องตามใจน้องคชานะครับ" เดี๋ยวนะวันเกิดผมก็ต้องตามใจผมไม่ใช่เหรอ? สุดท้ายเลยต้องยอมช้อนตัวเขามาไว้ในอ้อมกอด ตัวเล็กหอมกลิ่นอ่อนจากผิวเนื้อและแป้งเด็กจนอดใจไม่ได้ที่จะซุกจมูกลงกับแก้มใสหลายที

    "วันนี้เราจะไปไหนกันก่อนครับ?" น้องถามพร้อมกับคลำแก้มตัวเองที่เป็นรอยแดง ผมถึงนึกขึ้นได้ตอนนั้นว่าลืมโกนหนวดนี่คงเป็นตอทิ่มแก้มน้องจนเจ็บแต่คนดีของผมก็ไม่ปริปากบ่นซักคำ

    "ไปซื้อของที่ซุปเปอร์ก่อนดีกว่าครับ หลังจากเยี่ยมพี่เจมส์เสร็จเราค่อยไปหาอะไรทานแล้วเดินเล่นซื้อของกันนะ" 

    น้องตกลงตามนั้นไม่นานเราก็มาอยู่ในซุปเปอร์ใกล้โรงพยาบาล น้องดีใจที่ได้นั่งบนรถเข็นแถมยังขอให้ซิ่งจนเกือบชนกับแม่บ้านท่านอื่น 

    "น้องคชาขอโทษนะครับพี่สาว" ความน่ารักของเขาทำให้หญิงวัยกลางคนหันมายิ้มเอ็นดู ถ้าผมไม่รีบเข็นรถจากไป เดาได้เลยว่าน้องจะต้องโดนทั้งหอมทั้งลูกแก้มลูบผมเพราะความน่ารักแน่ๆ ไม่ได้หรอกครับ ผมหวงของผม อีกอย่างมือใครต่อมือใครสะอาดหรือเปล่าไม่รู้

     

    เพราะฉะนั้น

     

    นอกจากผมก็ไม่ควรมีใครมาถูกเนื้อต้องตัวน้องอีก

     

    “พี่เต๋าเอาอั้นนั้นด้วย พี่เจมส์ชอบ” เจมส์มันคงไม่ชอบปีโป้หลากสีมั้ง

     

    “รู้ได้ยังไงว่าพี่เจมส์ชอบ  พี่ว่าน้องคชาจะทานเองมากกว่าม๊างงงงง “

     

    “พี่เจมส์ต้องชอบ เชื่อน้องสิ” เชื่อก็เชื่อ ผมก็ว่าง่ายพอที่จะหยิบใส่รถเข็นให้เขา

     

    “เอาอันนั้นด้วยครับ” น้องยืนบนรถเข็นหันไปเหนี่ยวกล่องโคอาล่ามาร์ชมาเขย่ามันส์มือแล้วผมก็ต้องหยุดถาม

     

    “ทำไมเขย่าแบบนั้นล่ะครับ มันก็แตกหมดสิ”

     

    “ตอนนี้กำลังฮิตครับ ถ้าเขย่าครบ 5000 ครั้งจะกลายเป็นช็อกบอล” อื้อหือ เด็กสมัยนี้ไปไวจริงๆ

     

    “แบบนี้ซื้อช็อกบอลทานเลยไม่ดีกว่าเหรอ”

     

    “โหยยยย พี่เต๋าแก่แล้วไม่เข้าใจหรอก” โอ้โห ปากคอเราะร้าย ระวังจะได้ร้องไห้ขอให้คนแก่อุ้ม!

     

    เราเลือกซื้อผลไม้กับสลัดผักและเสบียงอีกหลายอย่างจนเต็มรถเข็น ชำระค่าเสียหายตรงเคาท์เตอร์แล้วก็เตรียมมุ่งสู่จุดหมายต่อไปถ้าไม่ติดว่าเมือเล็กจะกระตุกเสื้อผมรัวๆเสียก่อน

     

    “พี่เต๋า น้องคชาปวดปีปี้”

     

    ห๊ะ?!

     

    “ปวดอะไรนะครับ?”

     

    “ปวดปีปี้” น้องปล่อยให้ผมงงอยู่ไม่เกินสามวิเจ้าตัวเล็กก็แสดงออกมาด้วยการงอตัวแถมทำเสียงพร้อมสีหน้าให้ดู พอรู้แบบนั้นพี่ชายอย่างผมเลยต้องพาเขาไปหาห้องน้ำที่ใกล้ที่สุดทันที

     

    คิดจะเลี้ยงเด็กต้องหมั่นศึกษานะครับ ศัพท์แปลกๆเขาเยอะเหลือเกิน

     

    พาน้องเข้าห้องน้ำพร้อมสอนวิธีปลดสายเอี๊ยมแล้วก็ชวนให้คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยระหว่างรอ นี่ถ้าเขาโตขึ้นแล้วยังแต่งตัวแบบนี้คงน่ารักไม่น้อยนะครับ  ชุดสบายใส่ง่ายถอดง่าย เอ่อ...ผมหมายถึงว่าน้องจะสะดวกในการดำเนินชีวิตแต่ละวัน ไม่ต้องเดฟขาลีบแบบทุกวันนี้

     

    “เสร็จแล้วครับ ใส่ให้หน่อย” น้องกอดอกแน่นเพราะสายเอี๊ยมที่ยังไม่ถูกติดเข้าที่เดิม

     

    “ติดแบบนี้นะครับ ค่อยๆทีละข้าง ให้ลงล็อก เวลาแกะก็ค่อยๆดึงออกนะอย่ากระชาก”

     

    “อยากให้พี่เต๋าช่วยน้องคชาติดแบบนี้ไปจนโตเลยได้ไหมครับ”

     

     

    อ่า... คือ......

     

    “ถ้าน้องคชาโตขึ้นพี่อาจจะช่วยแกะอย่างเดียวนะครับ”

     

    ชิบหาย!! ผมคิดดังไป!

     

    “ทำไมไม่ติดด้วยล่ะครับ” น้องก็ถามพาซื้อ ผมเลยไม่รู้จะทำยังไงเปลี่ยนเรื่องชวนน้องไปขึ้นรถแทน ไม่นานก็มาถึงโรงพยาบาลเอกชนซึ่งเป็นที่หมาย ผมหอบหิ้วของเต็มมือในขณะที่น้องยังจดจ่อสมาธิอยู่กับการเขย่ากล่องโคอาล่ามาร์ช แต่น้องก็ยังใจดีช่วยเอื้อมมือไปเปิดประตูห้องให้

     

    เสียงโหวกเหวกโวยวายด้านในเปลี่ยนหัวข้อสนทนามาเป็นการทักทายน้องทันที เด็กดีของผมเป็นที่เอ็นดูของพี่ๆทั้งกลุ่มเลยได้รับสิทธิพิเศษให้ประจำที่ข้างกับคนป่วยบนเตียง

     

    “อ่าวต้น กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่?”

     

    “เมื่อกี้นี้เอง ก่อนกำหนดนิดหน่อย แต่ก็ดีที่กลับมาก่อน ไม่งั้นคงไม่รู้หรอกว่ามีคนป่วยแล้วไม่ยอมบอกกันซักคำ”

     

    เหมือนว่าก่อนหน้านี้จะมีเหตุมาคุในห้องนี้ถ้าผมเดาไม่ผิด และแน่นอนมันไม่เคยผิด

     

    “เจมส์มันคงไม่อยากให้เป็นห่วง” ผมกับต้นหันไปช่วยกันจัดของใส่จาน

     

    “เราก็ไม่ได้จะเป็นห่วงใคร ที่มานี่ก็แค่ไม่ให้เสียมารยาทเท่านั้นแหล่ะ น้องในกลุ่มป่วยทั้งทีจะไม่มาก็ดูแล้งน้ำใจ”

     

    หือ...นี่ปากเพื่อนผมแข็งกว่าฝรั่งนะนี่พูดเลย เอามีดเฉาะซักทีคงหาย!

     

    “เอาน่า...อย่าไปงอนน้องมันมากนักเลย น้องมันยังเด็กไม่ทันคิดอะไรหรอก”

     

    “เดี๋ยวนี้ดูเข้าอกเข้าใจเด็กเป็นพิเศษนะ” ชะอุ่ย! ทำไมเหมือนเข้าตัว พอหันไปมองเต็มตาถึงได้รู้ว่าต้นยิ้มเจ้าเล่ห์ส่งมาให้อยู่ นี่คงรู้แล้วสินะ

     

    “น้องยังเด็ก จะทำอะไรก็ห้ามๆใจหน่อยแล้วกัน อีกอย่าง อนาคตจะเป็นยังไงก็ไม่รู้ น้องอาจจะชอบสาวๆน่ารักมากกว่าก็ได้”

     

    ผมรู้...แอบคิดมาตลอดแต่ก็พยายามลบมันออกไปแล้วแทนที่ด้วยคำว่า “ปัจจุบัน” เพื่อความสุขเท่าที่มีและเป็นไปได้ในตอนนี้

     

    “อย่าเศร้าน่า...น้องหิวขนมแล้วมั้ง ไม่รีบไปขัดจังหวะหน่อยเหรอ เฟรมมันจ้องจะฟัดน้องนายอยู่นะ” ผมเลยยกจานผลไม้กับปีโป้ถุงใหญ่ไปเสิร์ฟ จริงอย่างคชาว่า เจมส์มันกินปีโป้คนเดียวแทบหมดถุง ดีนะที่พี่ชายตัวโตมีน้ำใจแกะให้น้องตัวเล็กข้างๆทานด้วยกัน ไม่งั้นกระเพาครากๆของมันคงมีแต่เยลลี่เต็มไปหมด

     

    “พี่เฟรมเขย่าได้เท่าไหร่แล้วครับ”

     

    กลายเป็นว่าโคอาล่ามาร์ชกล่องนั้นถูกวนเขย่าจนทั่วกลุ่ม เพราะไอ้พวกเด็กโข่งก็อยากรู้ด้วยเหมือนกันว่ามันจะออกมาเป็นช็อกบอลจริงไหม

     

    “ได้แล้วๆ แกะได้เลย” เป็นภาพที่มีกล่องขนมบนโต๊ะกลางห้องและมีผู้ชายหน้าตาดีมากหลายคนห้อมล้อมอยากรู้กับผลงานของตัวเอง พอแกะออกมาได้ก็รีบหยิบมือถือมาถ่ายรูปลงโซเชียลกันใหญ่

     

    นี่ผมว่ามันเป็นอะไรที่ปัญญาอ่อนระดับแปดเลยเถอะให้ตาย!!

     

    “แล้วใครจะกิน” ไทด์เอ่ยถาม เพราะดูสภาพแล้ว..เอ่อ...มันก็กลมอยู่หรอกนะ แต่

     

    “เอามานี่เดี๋ยวกินเอง” ไอ้เจมส์ครับ ปีโป้ห่อเดียวมันยังไม่อิ่ม  อ้นเลยโยนก้อนกลมๆนั่นไปให้มัน กินจนเกือบหมดถ้าไม่ติดว่ามีเสียงหนึ่งดึงความสนใจและรวบความสงสัยไว้เสียก่อน

     

    “น้องคชาว่ามันเหมือนปีปี้ของน้องคชาวันนี้เลย”

     

    “อะไรคือปีปี้??”

     

     

    การอธิบายความหมายจากน้องจึงเริ่มขึ้นตอบทุกความสงสัยในห้องเดี๋ยวนั้น

     

     

    เราอยู่คุยกันจนเย็นถึงได้เวลาไปทำธุระที่เหลือและปล่อยให้คนป่วยมันพักผ่อนกับบุรุษพยาบาลพิเศษจะได้ปรับความเข้าใจกันให้เรียบร้อย

     

    “พี่เต๋าครับ เราซื้อชุดว่ายน้ำกับกระบะตักทรายด้วยได้ไหม?”

     

    คำขอของน้องทำให้ผมสงสัย

     

    “จะซื้อไปทำไมครับ?”

     

    “คุณแม่บอกว่าอีกสองวันจะพาไปเที่ยวทะเล ให้ชวนพี่เต๋าไปด้วยแหล่ะ ไปกันนะครับนะๆๆ คุณพ่อคุณแม่ไป เค้นท์ก็ไป พี่เต๋าไปด้วยกันนะครับ อาณัฐก็ไป”

     

     

    “อาณัฐก็ไปหรือครับ?” ผมหลุดถามออกไป แต่น้องคงไม่สงสัย

     

    “ใช่ครับ อาณัฐบอกด้วยว่าจะพาน้องคชาไปว่ายน้ำ พี่เต๋าไปด้วยกันนะ”

     

     

     

    “ได้สิครับ...พี่เต๋าจะพาน้องคชาไปว่ายน้ำเอง ไม่ต้องลำบากคุณอาหรอก”

     

     

     

    ผมแค่ไม่อยากขัดใจน้องเท่านั้นเอง หึๆ




    Talk : สวัสดีนักอ่านที่น่ารักทุกท่านค่ะ มาต่อจนครบ 100% แล้วน๊าาาา แต่ว่ายังไม่ได้รวจคำผิดเลยล่ะ รีบลงมาก ขโมยคอมน้องชายลง ฮรี่ๆ ต่อจะจะลงเรื่อง stubborn ยังไงก็ ฝากอ่านนิยายเบาสมองด้วยนะคะ สำหรับ Love song II กับ "ณ ตรอกกลิ่นโคลน" จะตามมาค่ะ ฝากด้วยนะคะ 

    ปล. อัพเดทข่าวสารและพูดคุยเรื่องฟิค แอดมาได้ที่ Line ID : mint_minnii ทักมาว่า "ณ" แล้วเราจะลากเข้ากรุ๊ปนะคะ 


    ไว้พบกันค่ะ 


    ด้วยรัก...
    จาก...ณ





     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×