ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Got7] SDD : Sleep , Deep , Death [MarkBam]

    ลำดับตอนที่ #1 : Intro

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.88K
      22
      22 ม.ค. 58

    ค่ำคืนที่เงียบสงัด  มีเพียงสายลมพัดผ่านผ้าม่านสีขาว แสงจันทร์สาดส่องในห้องเล็กๆ ที่มืดสนิท เผยให้เห็นใบหน้าของชายหนุ่มร่างกายสมส่วน ในชุดเสื้อกล้ามสีดำกับกางเกงนอนทรงหลวม ใบหน้าที่ติดจะขมวดคิ้วตลอดเวลาแม้ขณะหลับผมสั้นสีแดงที่ขยับน้อยๆตามสายลม จมูกโด่งที่รับกับริมฝีปากหยักหยั่งกะรูปแกะสลัก ร่างสูงที่ดูจะหลับอย่างสบายใจบนเตียงหลังเล็กที่เป็นพื้นที่ส่วนตัว


    ค่ำคืนที่แสนจะปลอดภัยในห้องของตัวเอง



    เงามืดทาบทับแสงจากดวงจันทร์ ก่อนจะปรากฏเป็นเงาคล้ายร่างของใครบางคน

     

    คน?


     

    เงาคน?


     

    จากหน้าต่าง?


     

    บนตึกโทรมๆชั้นสาม?


     

    ที่ไม่มีระเบียง?

     


    เงานั้นวนผ่านร่างสูงก่อนจะลากผ่านผนังรอบห้อง พร้อมกับเสียงลากเท้าชวนขนลุก  ก่อนที่เงานั้นจะหยุดอยู่ที่ปลายเตียงของชายหนุ่ม และค่อยๆเลื่อนขึ้นมาอยู่บนตัวของชายหนุ่ม

    ชายหนุ่มรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยเมื่อรับรู้ได้ถึงสิ่งที่คล้ายว่าจะมีน้ำหนัก กดทับลงบนหน้าอกตนเอง ก่อนจะขยับตัวเล็กน้อยและเปิดเปลือกตาที่หนักอึ้งเพื่อพิจารณาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น



    ภาพผนังห้องที่คุ้นเคยกับโซฟาเก่าๆที่มักจะมีของรกๆวางอยู่เสมอ ถูกบดบังด้วยใบหน้าขาวซีดของสิ่งที่ไม่สามารถอธิบายด้วยวิทยาศาสตร์ เสียงครางเย็นๆ กับสายลมที่อยู่ๆก็พัดกระหน่ำจนผ้าม่านแทบขาด บวกน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆพอจะทำให้ชายหนุ่มรู้สึกได้ว่า เขากำลังเผชิญหน้ากับสิ่งลี้ลับ หรือที่เรียกกันง่ายๆว่า ผีอำ

     
     

    ร่างสูงทำสีหน้าอึดอัดก่อนสะบัดตัวแรงๆเหมือนจะดิ้นให้หลุดแต่กลับไม่เป็นผล เรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะอันหน้าขนลุกให้กับใบหน้าขาวซีดที่กำลังโถมตัวใส่เขาอยู่

     

    เขาหยุดดิ้น ถอนหายใจ ก่อนจะลืมตาเต็มตื่นแล้วค่อยขยับปากชัดถ้อยชัดคำว่า

     

     

    “เอาล่ะ กูเหนื่อยละ มึงเป็นใครและจะลงไปได้ยัง”  คำถามที่แม้แต่ผียังงงออกมาจากชายคนนั้น

    ....


    .........


    ................ 

     

    “ถ้ามึงไม่ลงกูจะเป่าส่งวิญญาณมึงด้วยกระสุนเกลือนี่แหละ” ไม่พูดเปล่าชายหนุ่มหยิบกระบอกปืนโบราณที่สลักอักษรประหลาดจ่อไปที่หน้าอกของสิ่งที่เรียกว่า ผี

     
     

    ใบหน้าขาวซีดเริ่มถอยห่างและซีดลงกว่าเดิม ดวงตาดำสนิทกลับกลายเป็นสีแดง ก่อนจะกรีดร้องออกมาอย่างเดือดดาล

     

     

    กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

     

     



     

    โป้ง!!!!!!

     

    เสียงปืนดังขึ้นพร้อมกับพร้อมวิญญาณที่เคยอยู่ตรงหน้ากลายเป็นธุลีก่อนจะกระจายหายไปในอากาศ แต่...เสียงปืนมาจากไหน เขายังไม่ได้เหนี่ยวไกเลย  ร่างสูงได้แต่คิดก่อนจะหันไปอีกฟากของผนังที่มีเตียงเก่าๆอีกหลัง พร้อมร่างที่มีใบหน้าคล้ายตนเองแต่ตัวเล็กกว่ากำลังเช็ดปากกระบอกปืนด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์สุดๆ

     
    “พูดมากลีลาอยู่นั่นแหละ ไอ้พี่มาร์ค ผมไม่ได้นอนพอดี” ร่างเล็กกว่าบ่นก่อนเก็บปืนกระบอกยาวเข้าใต้เตียง


    “ไอ้คุณน้องโจอี้ นี่มึงไม่คิดจะถามเขาหน่อยเหรอว่าเขาอยากได้อะไรมั้ย มาทำไม มีไรให้ช่วย หัดหาลูกค้าบ้างสิมึง” คนที่ถูกเรียกว่ามาร์คพูดก่อนปาหมอนใส่คนที่ได้ชื่อว่าเป็นน้องชายแท้ๆของตัวเอง


    “อยากได้เฮียเป็นผัวมั้ง คร่อมซะขนาดนี้ อีกอย่างผมไม่ทำธุรกรรมกับผี เพราะผม...ไม่สิ เรา...ตระกูลเราเป็นนักปราบผี เข้าใจป่ะเฮีย!!!” โจอี้พูดพร้อมซุกหน้าลงกับหมอนอย่างหงุดหงิด


    “เผื่อมีงานให้ตามหาร่าง ตามหาศพไง” มาร์คว่าก่อนล้มตัวลงนอนบ้าง


    “ถ้านั่นเป็นงาน งั้นตำรวจทั้งประเทศก็ติดเงินเราเป็นล้านๆวอนแล้ว งานเหี้ยอะไรทำไปไม่ได้เงิน เลิกพล่ามแล้วนอนซะ พรุ่งนี้ผมมีเรียน” โจอี้หันหลังให้พี่ชายเป็นสัญญาณว่าเข้าสู่ sleep mode

     


    มาร์คล้มตัวลงก่อนจะเอามือก่ายหน้าผาก ใช่ตระกูลต้วนของเขาเป็นนักปราบผีมาตั้งแต่บรรพบุรุษ อาชีพที่ไม่มีทางหาเงินได้ในยุคที่วิทยาศาสตร์ก้าวหน้า แต่ทำไงได้ มันเหมือนเป็นภารกิจจากรุ่นสู่รุ่น  พ่อเคยให้เหตุผลก่อนจะวางมือว่า


    “ถ้าเราไม่ทำ ใครจะทำ”


    แต่ก็ใช่ว่าที่บ้านของมาร์คจะยึดติดกับอาชีพนี้ไปจนนิจนิรันด์ อันที่จริงบ้านเขาก็มีธุรกิจเล็กๆรับจ้างจัดการงานศพ ตัวเขาเองก็เรียนมหาวิทยาลัย โจอี้ก็เรียน ม.ปลายใช้ชีวิตแสนธรรมดาในอพาร์ตเมนท์โทรมๆ ส่วนงานปราบผีก็ถือเป็นงานอดิเรกขำๆไปซะ


     มาร์คที่เริ่มจะนอนไม่หลับหันไปมองนาฬิกาที่บอกว่าตอนนี้เป็นเวลาตีสามแล้ว ก่อนจะลุกแล้วพาร่างตัวเองเดินเข้าไปในครัว ร่างสูงเริ่มเปิดตู้เก็บของในครัว



    1....2…..3 อะไรวะ เหลือเกลือแค่สามกระปุก” มาร์คบ่นก่อนจะหยิบเกลือกระปุกที่เหลือเพียงครึ่งเดียวออกมาวางไว้ที่โต๊ะกลางห้องครัว อันที่จริงจะเรียกห้องครัวก็ดูไม่ถูกนัก เพราะที่โต๊ะมีมีดเงินเรียงเป็นแถบ แท่นหล่อ แม่พิมพ์ต่างๆ ปลอกกระสุน ผงกำมะถัน และที่สำคัญเกลือ แน่นอนว่ามันฟังดูงี่เง่าเกี่ยวกับความเชื่อที่ว่าเกลือเป็นสิ่งบริสุทธิ์สามารถใช้ไล่ปิศาจได้ แต่เชื่อสองพี่น้องตระกูลต้วนเหอะว่ามันเวิร์คมากๆ

     

    มาร์คหย่อนตัวลงบนเก้าอี้ก่อนจะเทเกลือใส่กระดาษแล้วค่อยๆกรอกลงไปในปลอกกระสุนที่หล่อมาสักสองสามวันได้แล้ว ก่อนจะยัดหมอนกระสุนที่ทำจากเศษกระดาษอัดลงไปแน่นๆ

     

    ไหนๆพรุ่งนี้ก็เรียนแค่เล็คเชอร์สองชั่วโมงเช้า กุโดดละกันนะ

     

     

     

    ...............................................................

     



    ห่างออกไปจากอพาร์ตเมนท์เก่าๆเพียงไม่กี่กิโลเมตร

     



    บนค่ำคืนที่ดึกสงัดแต่กลับมีเสียงของความวุ่นวาย ในตึกที่ผู้คนเรียกว่า โรงพยาบาล



    เสียงฝีเท้าของคนกลุ่มหนึ่งในชุดขาวกำลังวิ่งมาที่เปลเข็นร่างของชายหนุ่มคนหนึ่ง เสื้อสีน้ำเงินที่ตอนนี้ถูกย้อมไปด้วยคราบสีแดงจนกลายเป็นทีน้ำเงินหม่นๆ  เสียงโหวกเหวกโวยวายของเจ้าหน้าที่ไม่ได้ทำให้ร่างสูงที่อยู่ในเปลเข็นรู้สึกตัวขึ้นมาเลยสักนิด


    “เหตุอะไรครับ” ชายใส่แว่นดูภูมิฐานหรือที่เรียกกันติดปากว่าหมอเอ่ยขึ้นขณะวิ่งมาที่ข้างๆเปล


    “รถชนต้นไม้ ผู้บาดเจ็บสองรายค่ะ คนนี้สาหัส ส่วนอีกคนดูเหมือนจะแค่บาดเจ็บเล็กน้อยค่ะ” หญิงสาวในชุดขาวสวมหมวกสีขาวเอ่ย


    “สัญญาณชีพคงที่มั้ยครับ” หมอถามอีกครั้ง


    “สัญญาณชีพดีค่ะ แต่ตั้งแต่ที่เกิดเหตุยังไม่รู้สึกตัวค่ะ” พยาบาลสาวเอ่ยรายงาน


    “รูม่านตายังตอบสนองครับ แต่ระดับการรู้สึกตัวไม่ดีเลย เตรียมใส่ท่อช่วยหายใจด้วยครับคนไข้ไม่รู้สึกตัว โทรไปที่ ไอซียูด้วยครับว่ามีเตียงว่างมั้ย หมอจะจองเตียง” คนเป็นหมอเอ่ยก่อนปิดไฟฉายในมือ แล้ววิ่งไปยังร่างเล็กที่ยืนตัวสั่นหน้าห้องฉุกเฉิน



     

    “เอ่อ..ญาติคุณ...เอ่อ.....อิม แจบอม ใช่มั้ยครับ” หมอถามพลางมองชาร์ตคนไข้ที่อยู่ในมือ


    “ใช่ครับ” ร่างเล็กเอ่ยด้วยเสียงสั่นเทา


    “คนไข้ไม่รู้สึกตัวนะครับ หมอจะทำการใส่ท่อช่วยหายใจ อาการตอนนี้ยังไม่พ้นขีดอันตรายนะครับ ถ้ายังไงญาติรอข้างนอกก่อนนะครับ” พูดจบหมอก็เดินกลับเข้าไปอย่างเร่งรีบ


     

    ร่างเล็กที่ตอนนี้ยังอยู่ในช่วงช็อค ตกใจ สับสน เสียใจ ปนเปกันไปหมดได้แต่ยืนตัวสั่นเทา รอยถลอกที่แขนขนาดใหญ่ในตอนนี้มีแต่ความรู้สึกชาไปหมด ม่านน้ำตาที่บดบังการมองเห็นจนภาพตรงหน้าเป็นแค่ฝ้าเลือนๆ หูทั้งสองข้างอื้ออึงราวกับไม่เคยได้ยินส่งที่หมออธิบายเมื่อกี้

     

     

    “แบม!!......”

     

    “แบมแบม!!!!!

     


    เสียงหญิงวัยกลางคนที่เต็มไปด้วยความกังวลเรียกสติร่างเล็กที่ยืนอยู่ ก่อนที่ร่างเล็กจะหันไปหาต้นเสียงนั้น

     


    “ม...แม่....แม่ครับ” ร่างเล็กโผเข้ากอดผู้เป็นมารดาแน่นก่อนจะปล่อยโฮออกมาอย่างไม่อายใคร


    “เป็นไงบ้างลูก เจ็บตรงไหนบ้าง ทำไมไม่ทำแผลล่ะ” หญิงกลางคนจับตัวลูกชายคนเล็กบิดสำรวจไปมาก่อนจะพบรอยแผลที่แขน


    “ผมไม่เป็นไรครับแม่  พ..พ่อล่ะครับ” ร่างเล็กถามหาบุพการีอีกคน


    “พ่อวนหาที่จอดรถอยู่น่ะ แม่ว่าแบมไปให้คุณพยาบาลทำแผลก่อนมั้ย” คนเป็นแม่ลูบผมสีดำของลูกชายอย่างปลอบประโลม


    “ม..ม..แม่ครับ พ..พี่...พี่บี...ฮือๆ” เด็กหนุ่มร่างน้อยหรือที่ถูกเรียกว่า แบมแบมโผเข้าหามารดาอีกครั้ง


    “ฮึก...พ...พี่บี...ย..ยังไม่...ฮึก...ฟื้น....หมอ...หมอบอกว่า...ต้อง...ฮึก....ใส่ท่อ...ฮึก...ช่วยหายใจ” แบมแบมฝืนพูดอย่างยากลำบาก พร้อมกอดมารดาแน่น


    “ไม่เป็นไรนะลูก ไม่เป็นไรนะครับแบม พี่เจบีของแบมเป็นคนดี  พี่เขาจะไม่เป็นไร” ผู้เป็นมารดาพยายามข่มอาการกังวลเมื่อพูดถึงลูกชายคนโต

     

     




    ค่ำคืนที่แสนยาวนาน ของครอบครัว อิม

     



    ขอให้ อิมแจบอม หรือ เจบี พ้นขีดอันตรายด้วยเถอะ


    ..........................................................................................................................

    อินโทร สั้นไป? ยาวไป? ยังไงนะ? 5555 ฝากติดตามด้วยนะคะ เรื่องเทคนิคปราบผีไรท์เอามาจากซีรีย์ Supernatural นะ 555555 ขอบคุณที่หลงเข้ามอ่านมาเม้นท์นะคะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×