ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Got7] SDD : Sleep , Deep , Death [MarkBam]

    ลำดับตอนที่ #22 : Chapter 21

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.36K
      16
      15 เม.ย. 58




    “มีอะไรจะให้ดู” ร่างเล็กพูดอวดๆขณะล้วงบางอย่างจากกระเป๋านักเรียน



    ตอนนี้ยูคยอมกลับมาถึงบ้านตัวเองแล้วและพอมาถึงบ้านก็เจอไอ้เด็กเปี๊ยกยืนอยู่หน้าบ้านเขาอย่างที่นัดหมายกันไว้ ก่อนที่เขาจะทำตัวเป็นเจ้าของบ้านที่ดีโดยการเชิญรุ่นน้องเข้ามาในบ้าน ซึ่งแม่เขาก็จัดหาน้ำท่าของว่างอะไรให้อย่างดี ก่อนที่โจอี้จะเริ่มคุยเรื่องแผนปฏิบัติการขั้นต่อไป

     


    “อะไรอีก” ยูคยอมถาม


    “นี่ไง ผมเจอนี่ในตู้หนังสือ” โจอี้หยิบหนังสือเล่มเก่ามาวางข้างหน้า


    “ฉันต้องเปิดอ่าน หรือว่ายังไง” ยูคยอมลองเปิดหนังสือดูเล่นๆ


    “อ่านไปก็ไม่รู้เรื่องหรอก ผมแค่จะบอกว่าเจอวิธีที่จะกำจัดวิญญาณนี่ถาวรแล้ว”


    “อ่าฮะ..แล้วต้องทำไง” ยูคยอมถามนิ่งๆ


    “ช่วยทำท่าตื่นเต้นสนใจมากกว่านี้ได้ป่ะ” โจอี้บอกหน่ายๆ เรื่องของมึงนะเว้ย!!!
     

    “แค่นี้ทำหงุดหงิดไปได้”  ยูคยอมจิ้มหว่างคิ้วอีกคนที่ขมวดเป็นปม


    “สรุปจะฟังมั้ย” โจอี้ถามอีกคน


    “ก็ฟังอยู่นี่ไง” ยูคยอมยิ้มๆ แกล้งไอ้เด็กนี่มันสนุกจริงๆ


    “พี่ต้องหยุดพรมน้ำมนต์ช่วงหนึ่งให้วิญญาณนั้นปรากฏ”


    “เสี่ยงไปมั้ยเนี่ย” ยูคยอมถาม


    “กลัวอ่ะดิ” โจอี้ถามกลับ


    “ใคร? กลัวอะไร? ปล๊าวววว”ยูคยอมปฏิเสธ โจอี้ได้แต่เบะปาก


    “โอเค จะฟังต่อมั้ย” โจอี้ถาม


    “ก็พูดมาดิ ฟังอยู่”


    “แล้วจากนั้นผมก็จะวาดไอ้นี่” โจอี้กางกระดาษเล็กๆที่มีรูปคล้ายวงเวทอยู่


    “เพื่อสะกดวิญญาณไม่ให้เคลื่อนไหว สิ่งที่พี่ต้องทำคือทำให้ผีนั่นมาอยู่ในวงนี่ พี่สามารถเข้าออกวงนี่ได้สบายแต่วิญญาณถ้าเข้ามาแล้วจะออกไม่ได้” โจอี้พูดไปยิ้มไปอย่างมีความสุขเหมือนงานนี้เป็นเรื่องง่ายๆ


    “แล้วไงต่อ” ยูคยอมถามต่อ


    “เสร็จปั๊บผมก็จะปลดยันต์ที่แขนของผีตนนั้นออกมา โรยเกลือใส่แล้วก็จุดไฟเผา ฟู่ว!! จบ ปิดจ๊อบ” โจอี้ยิ้มร่าเข้าไปอีกเมื่อได้พูดคำว่าปิดจ๊อบ


    “มันจะง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ” ยูคยอมว่า ปลดยันต์ที่แขนผีอ่ะนะ ไม่เห็นเป็นความคิดที่เข้าท่า


    “อะไร ก็บอกแล้วไงว่ามืออาชีพ” โจอี้ชักหงุดหงิดกับอีกคน


    “พี่มาร์คช่วยด้วยรึเปล่า”


    “เอ่อ เปล่า แบบว่า...งานนี้...มีแค่พี่กับผมอ่ะ ไว้ใจกันหน่อยดิ” โจอี้พยายามข่มเสียงไม่ให้สั่น


    “ฉันว่านายไปบอกพี่มาร์คให้ช่วยไม่ดีกว่าเหรอ ยอมโดนสวดนิดเดียวก็ไม่เป็นไรหรอกน่า”


    “ไม่ได้นะ!!!! พี่ไม่รู้จักเฮียมาร์คดีพอ ถ้างานนี้เฮียรู้ ผมโดนส่งกลับไปไต้หวันแน่เลย พี่อย่าบอกนะ นะๆๆๆๆ” โจอี้แทบจะลงไปกราบอีกคน


    “ดุเหรอเฮียมาร์คของนายน่ะ” ยูคยอมถาม ก็ดูไม่ได้ดุอะไรนักหนานิ่


    “ปกติก็ไม่ดุหรอก แต่อย่าให้ขึ้นนะ บอกเลยผมกลัวเฮียมากกว่าพ่อแม่ผมอีก”


    “โอเคๆ ไม่บอกไม่บอก”


    “ดีมาก ทีนี้มาถึงปัญหาสำคัญ” โจอี้รีบเปลี่ยนท่าที เมื่อยูคยอมตกลง


    “เดี๋ยวนะ ตั้งแต่ที่นั่งฟังมาฉันว่ามันก็มีแต่ปัญหา” ยูคยอมเกาท้ายทอย


    “แต่นี่คือปัญหาสำคัญสุด งานนี้ต้องทำตอนกลางคืน แล้วประเด็นคืออะไรรู้มั้ย ผมจะแอบเฮียมาร์คออกมาจากห้องตอนกลางคืนได้ไง” โจอี้ขยี้หัวตัวเองอย่างหัวเสีย


    “วางยามั้ย” ยูคยอมเสนอ


    “จะบ้าเหรอ เฮียมันไม่ตกหลุมมุกโง่ๆแบบนั้นหรอก” คนอย่างมาร์คอ่ะนะ เซนส์ดีอย่างกับหมาตำรวจไม่มีทางจะโดนของง่ายๆแบบนั้นหรอก


    “งั้นเอางี้มั้ย วันอาทิตย์จะมีงานเลี้ยงที่บ้านพี่เจบีช่วงเย็นๆไปจนถึงค่ำๆ เราก็หลอกให้พี่แกอยู่ถึงดึกๆหน่อยก็ได้ พี่มาร์คดื่มเหล้ามั้ยล่ะ” ยูคยอมถาม โจอี้พยักหน้าช้าๆ


    “ก็ให้พี่เจบีมอมไปเลย เอาให้เมากลับบ้านไม่ถูกแล้วก็ค้างที่นั่นไปเลยยิ่งดี” ยูคยอมว่าต่อ


    “แต่เฮียมันคอแข็งนะแล้วอีกอย่าง งานบ้านพี่เจบีพี่ไม่ต้องไปด้วยเหรอไง” โจอี้ถาม


    “ก็แว่บออกมาได้น่า จะทำพิธีที่ไหนล่ะ”


    “อืม.....บ้านพี่เจบีอยู่ไหนอ่ะ”


    “แถวสวนสาธารณะนู้นน่ะ ติดๆกับสถานีรถไฟใต้ดิน” ยูคยอมชี้ไปทิศที่ตรงข้ามกับบ้านเขา


    “อ๋อ...งั้นก็ สนามบาสในสวนสาธารณะนั่นแหละ รู้จักใช่ป่ะ” โจอี้บอกเขาเคยไปเล่นบาสกับมาร์คบางครั้งบางคราว


    “อ่า..ถ้าหัวค่ำคนจะเยอะมั้ย” ยูคยอมขัด


    “งั้นก็สักสี่ทุ่ม พี่ก็บอกพี่แบมแบมดึงๆเฮียมาร์คไว้หน่อย ลองพี่แบมแบมเอ่ยปากเฮียมันก็ไม่ไปไหนแล้ว”


    “นี่ไม่ได้กำลังเชียร์พี่ชายนายใช่มั้ย” ยูคยอมหรี่ตามองอีกคนอย่างหงุดหงิด


    “คิดมากน่า” โจอี้ส่ายหน้ายิ้มกวนๆ


    “สรุปว่าวันอาทิตย์สี่ทุ่มสนามบาสที่สวน แล้วฉันต้องหยุดพรมน้ำมนต์เลยมั้ย”


    “หยุดตั้งแต่พรุ่งนี้เลย”


    “หวังว่างานนี้จะได้ผลนะ” ยูคยอมถอนหายใจ


    “ไว้ใจได้เลย”  โจอี้กอดอกอย่างมั่นใจ

     



    .............................................................................................................................................

     


    ตอนนี้ก็ทุ่มกว่าแล้ว มาร์คเดินขึ้นมาหลังจอดเวสป้าไว้ที่ลานจอดรถใต้อพาร์ตเม้นท์ จริงๆมาร์คไม่ได้ตั้งใจจะกลับค่ำหรอกนะ แต่กำลังนั่งคิดเรื่องที่ไอ้คิมจงอินอะไรนั่นพูด ขัดขวางงั้นเหรอ? ขัดขวางอะไรวะ เกี่ยวกับไอ้เจบีมั้ยวะ แต่ที่สำคัญไอ้ที่บอกให้ไปถามไอ้โจอี้คืออะไร ก็เลยตัดสินใจเตร็ดเตร่ใช้ความคิดไปเรื่อย


    ร่างสูงหยุดตรงหน้าห้องตัวเอง แสงไฟในห้องบ่งบอกว่าน้องชายตัวดีกลับมาแล้ว งานนี้คงต้องถามกันตรงๆ ก็ไม่อยากจะคิดหรอกนะว่าไอ้โจอี้มันกำลังปิดบังอะไรอยู่ คราวที่แล้วที่มันฝ่าฝืนคำสั่งของเขาก็โดนไปหนักอยู่นะ ยังจะสร้างปัญหาอะไรอีกเหรอวะ มาร์คตัดสินใจเปิดประตูถอดรองเท้า ก่อนจะมองเข้าไปเห็นน้องชายนั่งกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปหน้าทีวี



    “มีไรกินป่าวเฮีย” โจอี้ทักเมื่อเห็นพี่ชายเข้ามาในห้อง


    “ไก่มั้ยล่ะ” มาร์คโยนถุงไก่ทอดให้น้องชาย


    “เอาหมด” โจอี้รับก่อนฉกไก่ทอดเข้าปาก

     


    มาร์คปรายตามองน้องเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้าไปวางกระเป๋าที่เตียงนอน มาร์คเดินเข้าไปนั่งข้างน้องชายที่กินอย่างเอาเป็นเอาตายหน้าทีวี ในทีวีฉายอะไรมาร์คไม่ได้สนใจ ตอนนี้กำลังสนใจว่าไอ้เด็กข้างๆกำลังปิดอะไรรึเปล่า

     


    “วันนี้หลังเลิกเรียนไปไหนมารึเปล่า” มาร์คเปิดบทสนทนา


    “เปล่านิ่ จะให้ไปไหนล่ะ” โจอี้โกหก โชคดีที่วันนี้มาร์คกลับช้าเลยไม่ต้องหาข้ออ้าง โกหกจนเป็นนิสัยซะแล้ว


    “ก็ถามดู” มาร์คว่าเหมือนไม่ใส่ใจ

    “มึงจำเรื่องที่มึงเคยสัญญากับกูได้มั้ย” มาร์คถามต่อ


    “เรื่องไหนอ่ะ” โจฮี้ถามกลับ มึงให้กูสัญญาเป็นร้อยเรื่องได้มั้งเฮีย


    “ก็ทุกเรื่อง เรื่องที่มึงสัญญาว่าจะไม่โกหก เรื่องที่มึงสัญญาว่าจะไม่ปิดบังอะไรกับกู เรื่องที่มึงจะไม่ฉายเดี่ยว และเรื่องที่ถ้ามึงมีปัญหาให้รีบมาปรึกษากูคนแรก และอีกหลายๆเรื่อง” มาร์คว่า


    “จำได้ นี่ก็ทำอยู่นี่ไง” โจอี้พูดเสียงเรียบทั้งที่ในใจรู้สึกผิดจะแย่ นึกคึกอะไรมาจี้ใจดำกันวะ

    “ก็ดีแล้ว กูไว้ใจมึงนะ” มาร์คลูบหัวโจอี้อย่างที่นานๆทีจะทำ


    “เฮีย...เป็นไรป่าว” โจอี้หันมาถามเมื่อเห็นท่าทีแปลกๆของพี่ชาย


    “เปล่าหรอก........เออนี่..มึงรู้จักใครในเกาหลีที่ทำงานแบบเราบ้างมั้ย” มาร์คเปลี่ยนเรื่องเมื่องน้องชายเริ่มจับสังเกตได้


    “ก็ลุงควอนไง แล้วก็มีครอบครัวลีที่เชจูอีก เฮียก็รู้จักป่ะ” โจอี้พยายามนึกแต่ก็นึกออกแค่นั้น


    “แถวๆนี้ล่ะมีมั้ย”


    “อืม....ไม่นะ ไม่นิ่ มีเหรอ” โจอี้ถามกลับ


    “นี่ไม่ได้กำลังโกหกใช่มั้ยวะ”


    “เออดิ จะโกหกทำไมวะ เฮียเป็นอะไรเนี่ยถามจริง” โจอี้ชักหงุดหงิด อันที่โกหกก็ไม่สงสัย อันที่พูดจริงดันมาสงสัย


    “เออๆ ขอโทษ ไม่มีก็ไม่มีกูก็ถามไปงั้นแหละ” มาร์คเอ่ยขอโทษน้องชาย


    “ไม่อ่ะ เฮียมีอะไรแน่ๆ เฮียก็เหมือนกัน อย่ามาปิดบังกันดิวะ” โจอี้เริ่มเค้นบ้าง มาร์คทำตัวผิดปกติจริงๆ


    “มึงไม่ได้รับงานอื่นอยู่ใช่มั้ยตอนนี้” มาร์คตัดสินใจถามตรงๆ


    “ทำไมถึงถามอย่างนั้น” โจอี้ถามกลับทั้งที่ในใจเต้นรัวด้วยความกลัว


    “ตอบมาดิ” มาร์คยังคาดคั้น


    “ไม่เฮีย....ผมไม่ได้รับ” ฝ่ายน้องชายข่มความกลัวก่อนจะตอบออกไป โกหกอีกแล้วกู

    “เฮียไปได้ยินอะไรมารึเปล่า” โจอี้ถามกลับเมื่อไม่แน่ใจว่าบางทีมาร์คอาจรู้เรื่องงานยูคยอมแล้ว


    “เปล่าหรอก ขอโทษ กูคิดมากไปเอง” มาร์คถอนหายใจอย่างโล่งอก โจอี้เองก็ได้แต่มองพี่ชายเงียบๆพลางขอโทษอีกคนในใจ


    “เออ วันอาทิตย์มีงานเลี้ยงที่บ้านเจบี ไปด้วยกันดิไอ้เจบีชวน แต่กูอาจจะค้างที่คอนโดแจ็คสัน พอดีมีเรื่องยังเคลียร์ไม่หมด” มาร์คพูดต่อ


    “เอ่อ...เหรอ...ค้างด้วยดิ” เข้าทางโจอี้สิครับ ง่ายกูเลย


    “เออ ไปด้วยกันป่ะ” มาร์คถามอีกครั้ง


    “อืม...ไม่ดีกว่าเฮีย อ่านหนังสือว่ะ” โจอี้บอก ข้ออ้างอ่านหนังสือของเด็ก ม. ปลายปีสุดท้ายใช้ได้เสมอ


    “เออ ก็ได้ มึงอ่านหนังสือบ้างก็ดีเหมือนกัน กูลากมึงมาทำงานบ่อยเกินไปละ” มาร์ควางมือบนหัวน้องชายก่อนจะลุกขึ้นยืน


    “ไปไหนล่ะนิ่ ไม่ดูแล้วเหรอทีวี” โจอี้ถามอีกคนที่ทำท่าจะเดินไปห้องนอน


    “อาบน้ำ เดี๋ยวจะนอนละ เหนื่อยๆว่ะ” มาร์คเดินไปที่เตียง หยิบผ้าเช็ดตัวพาดบ่า ก่อนจะหันมาทางน้องชายอีกรอบ


    .


    .


    .


     

    “โจอี้” มาร์คเรียกอีกคน


    “ฮะ?” โจอี้เองก็ขานรับพลางเลิกคิ้วถามเหมือนว่ามีอะไรรึเปล่า


    “สัญญากับเฮียอีกข้อดิ” มาร์คแทนตัวเองว่าเฮีย ซึ่งโจอี้รู้ดีว่าเมื่อไรที่มาร์คแทนตัวเองว่าเฮียแสดงว่าเรื่องนั้นสำคัญและจริงจังมาก


    “อืม ว่ามาดิ” โจอี้หันไปฟังอย่างตั้งใจ


    “สัญญาว่าจะไม่ทำให้เฮียต้องเป็นห่วง ทำได้มั้ย” มาร์คจ้องหน้าน้องชาย


    .


    .


    .

    “ได้อยู่แล้วเฮีย เชื่อใจได้เลย” โจอี้ยิ้ม

     

     

    มาร์คเองก็ยิ้มให้น้องชาย ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป  ร่างเล็กพรูลมหายใจออกมาทั้งโล่งใจ ทั้งกังวลใจไปพร้อมๆกันอย่างบอกไม่ถูก ความรู้สึกผิดก่อขึ้นในใจของโจอี้ ยังไงซะทางที่ดีที่สุดคือจบงานนี้ให้เร็วแล้วกลับไปเป็นน้องชายที่ว่านอนสอนง่ายของมาร์คเหมือนเดิม 






    ขอโทษนะเฮีย








    ขอโทษที่ไม่รักษาสัญญา

     

    ................................................................................................................................

     


    JB : คุณพ่อมด  (Read 21.30)


    JB : คุณพ่อมดครับ (Read 21.30)


    JB : คุณพ่อมดคร้าบบบบบบบบ (Read 21.33)


    JB : จินยอง (Read 21.33)


    JB : ปาร์ค จินยองครับ (Read 21.33)


    JB : อ่านแล้วไม่ตอบ ต่อไปจะใช้นามสกุลผมนำหน้าชื่อคุณแล้วนะ (Read 21.34)


    Nyong : อะไร!!!


    Nyong : ผมง่วงนอน มีอะไรก็ให้รีบ


    JB : วันอาทิตย์คุณจะมาใช่มั้ย  (Read 21.36)


    JB : มานะ  (Read 21.37)


    Nyong : เออ รู้แล้ว แค่นี้ใช่มั้ย ผมจะไปนอน


    JB : จริงๆอยากคุยมากกว่านี้ แต่ถ้าคุณจะนอน ผมก็ไม่กวนดีกว่า (Read 21.40)


    JB : ฝันดีเผื่อผมด้วยนะ (Read 21.40)


    Nyong : ไว้จะฝันเผื่อละกัน อย่างคุณคงไม่เคยฝันอะไรดีๆ

     



    เจบีกำลังนอนเล่นไลน์อยู่ตรงห้องนั่งเล่นของบ้าน โปรแกรมแชทยอดฮิตของวัยรุ่นกำลังปรากฏข้อความระหว่างคนสองคน ถึงไม่ได้เป็นประโยคที่ฟังรื่นหูนักแต่แค่อีกคนตอบมาก็ทำเอาเจบียิ้มจนหุบไม่ลง ขณะกำลังนั่งปลื้มใจกับไลน์อยู่ เจบีก็รู้สึกได้ถึงน้ำหนักที่ทับลงมาบนหลังเขาพร้อมกับมือเล็กๆที่บีบนวดเบาๆที่ไหล่ จะเป็นใครได้ที่ทำแบบนี้ถ้าไม่ใช่น้องชายตัวดีของเขา


    “แบม” เจบีพยายามหันหน้าไปมองพร้อมกับพลิกตัวให้อีกคนหล่นจากหลัง


    “เฮ้ย พี่บีเดี๋ยวตก ลุกแล้วๆ” แบมแบมลุกขึ้นยืนพร้อมกับหัวเราะ


    “เดี๋ยวนี้ไม่ได้ตัวเบาๆแล้วนะ” เจบีลุกขึ้นนนั่ง ก่อนที่แบมแบมจะมานั่งข้างๆ


    “พี่บีคุยกับใครอ่ะ” แบมแบมถามหลังจากสังเกตพี่ชายมาพักหนึ่ง


    “ฮะ..เอ่อ...ก็....จินยองน่ะ” เจบีเกาท้ายทอยเขินๆ


    “ทำไมต้องเขิน” แบมแบมเหล่มองพี่ชายยิ้มๆ


    “เขินอะไร ไม่ได้...”


    “พี่ปิดแบมไม่ได้หรอก” แบมแบมขัดขึ้นมาซะก่อนที่อีกคนจะปฏิเสธจบ


    “โอเค ยอมรับก็ได้” เจบีวางโทรศัพท์ ยกมือยอมแพ้


    “พี่จินยองน่ารักดีนะครับ ใจดีด้วย” แบมแบมบอก


    “น่ารักน่ะใช่ แต่ใจดีนี่ใช่เหรอแบม” เจบีถามพลางหัวเราะ


    “ใจดีสิ เวลาบังเอิญเจอที่มหาลัยพี่จินยองก็ทักแบมตลอดเลย บางครั้งก็เอาขนมให้แบมกินด้วย” แบมแบมบอก ช่วงหลังๆแบมแบมมักเจอจินยองบ่อยๆที่หอสมุด จินยองก็ทักทายทุกครั้ง ก็ไม่ได้เม้าแตกอะไรหรอกแต่ก็ถามสารทุกข์สุขดิบนั่นแหละ บางครั้งก็ถามเรื่องเจบีบ้าง


    “แบมเจอบ่อยเหรอ ขนาดพี่บุกไปส่องที่คณะยังไม่ค่อยเจอเลย” เจบีว่าหน่ายๆ คณะข้างๆแท้ๆ


    “หอสมุด ชั้นสอง โต๊ะที่ห้าติดหน้าต่าง ถ้าหาที่คณะไม่เจอ พี่ก็ลองไปดูนะ” แบมแบมยิ้มๆ


    “เจ้าเล่ห์เหมือนใครเนี่ย” เจบีแกล้งล็อคคอน้องชาย


    “แบมช่วยอยู่นะเนี่ย” แบมแบมโวยวายเล็กน้อย


    “มาช่วยพี่ แล้วว่าแต่เราเถอะ เอาตัวรอดรึยัง” เจบีปล่อยคออีกคนก่อนจะถามบ้าง


    “เอาตัวรอด? จากอะไรอ่ะ?” แบมแบมถามงงๆ


    “ก็ไอ้มาร์คไง”


    “พี่มาร์ค พี่มาร์คทำไมเหรอ” แบมแบมแกล้งกลบเกลื่อน


    “แบมดูไม่ออกเหรอ มาร์คมันชอบแบมนะ” เจบีพูดตรงๆ คือถ้ามันขอกูได้คงขอไปแล้ว


    “พี่บีไปรู้มาจากไหน มั่วแล้ว” แบมแบมยังคงกลบเกลื่อน


    “หรือไม่จริง” เจบีถาม แบมแบมเลือกที่จะไม่มองหน้าพี่ชายเพราะรู้อยู่แก่ใจว่ามาร์คคิดยังไง ก็พี่มาร์คเองก็เล่นบอกมาตรงๆซะขนาดนั้น


    “แล้วแบมล่ะ?” เจบีถามต่อ


    “แบม? แบมทำไมเหรอครับ” แบมแบมมองอีกคนอย่างสงสัย


    “แบมรู้สึกยังไงกับมาร์ค มีซื้อของให้ด้วยนี่” เจบีแกล้งแซว


    “แบมบอกไปแล้วไงว่าแค่ของไว้ขอบคุณ” แบมแบมบ่ายเบี่ยง


    “แล้วแบมรู้สึกยังไง” เจบียังต้อนน้องชายอยู่


    “ก็ดีครับ เหมือนมีพี่ชายอีกคน” แบมแบมตอบ


    “เหรอ? แค่พี่ชาย?” เจบียังสงสัยต่อ


    “ก็ใช่สิครับ พี่บีจะให้เป็นแบบไหนล่ะ”  แบมแบมถามกลับ


    “ไม่หรอก จริงๆพี่ว่ามาร์คมันก็เป็นคนดี ถ้าแบมชอบมันพี่ก็อาจจะขัดขวางมันน้อยหน่อย” เจบีว่าตามประสาคนขี้หวง


    “พี่บีพูดอะไรเล่า แบมจะไปชอบพี่มาร์คได้ไง ก็บอกแล้วไงว่าแบมรู้สึกเหมือนพี่มาร์คเป็นพี่ชายอีกคนน่ะ” แบมแบมที่เริ่มเขิน เริ่มจะเก็บอาการไม่อยู่  จริงๆการที่มาร์คทุ่มพลังให้เจบีกลับเข้าร่างมาได้ก็ทำให้แบมแบมปลื้มอยู่ไม่น้อย แต่คนเพิ่งจะรู้จักกันไม่กี่เดือนจะให้ตกหลุมรักง่ายๆแบบนั้นได้ไงเล่า


    “โอเคๆ พี่ชายก็ได้ แต่จำไว้นะแบม ถ้ารู้สึกกันแบบพี่น้องจริงๆ เขาไม่เขินกันแบบนี้หรอก” เจบียีหัวน้องชายก่อนจะหยิบโทรศัพท์มาเล่นต่อพร้อมกับเดินจากไป

     


    แบมแบมเอ้ย ตั้งใจจะมาแซวพี่บีแท้ๆแต่โดนย้อนซะไปไม่เป็นเลยแฮะ ขณะที่ร่างเล็กกำลังหงุดหงิดที่โดนพี่ชายต้อนซะเอง เสียงเตือนจากโปรแกรมเขียวๆตัวเดียวกันกับพี่ชายตัวเองก็ดังขึ้นจากโทรศัพท์ของแบมแบม มือเล็กหยิบมันขึ้นมามองข้อความในนั้นอยู่พักนึง

     



    M_Tuan : นอนยังเนี่ย

     




    แบมแบมยกยิ้มเมื่อเห็นว่าใครส่งมา

     

    BAMx2 : ยังครับ แล้วพี่มาร์คไม่นอน? (Read 22.15)


    M_Tuan : สี่ทุ่มอยู่เลยนะแบม


    BAMx2 : ไม่ได้ทำงานอยู่ใช่มั้ยครับ


    M_Tuan : ป่าวเลย ว่างงานมาก


    BAMx2 : ดีแล้วครับ


    M_Tuan : ดียังไงล่ะแบม พี่จะอดตายเอานะ


    BAMx2 : ก็มันอันตรายนี่ครับ


    BAMx2 : พี่มาร์คจะไม่อดตายหรอก แต่จะตายเพราะอย่างอื่นก่อนน่ะสิ


    M_Tuan : โหยแบม พี่หนังเหนียวนะ รอดมาได้ทุกครั้งแหละน่า


    BAMx2 : อย่าประมาทสิครับ


    M_Tuan : แบมเป็นห่วงพี่อ่ะดิ


    BAMx2 : แบมก็ห่วงหมดแหละทั้งพี่มาร์คทั้งน้องพี่มาร์ค


    BAMx2 : พี่จินยองแบมก็ห่วง พี่แจ็คสันก็ด้วย


    BAMx2 : ไม่ใช่พี่มาร์คคนเดียวหรอกครับ


    M_Tuan : ก็ยังดีนะพี่ว่า


    M_Tuan : ดีกว่าไม่ห่วง


    BAMx2 : พี่มาร์คน่ะควรจะห่วงตัวเองบ้างนะครับ


    M_Tuan : ครับๆ ต่อไปจะระวังให้มากกว่าเดิมอีก โอเคมั้ย


    BAMx2 : ดีมากครับ


    M_Tuan : เห็นมั้ยพี่ว่านอนสอนง่าย


    M_Tuan : อยู่ก็ง่าย กินก็ง่าย


    M_Tuan : รับไว้พิจารณามั้ยครับ

     




    หมดประโยคที่มาร์คพิมพ์แบมแบมถึงกับหลุดขำออกมาอย่างไม่ตั้งใจ เห็นนิ่งๆแต่ชอบยิงมุกเสี่ยวตลอดเลย แต่ร่างเล็กคงไม่ได้สังเกตว่าพี่ชายตัวดีที่ทำท่าเดินออกไปตั้งนานแล้ว กลับมายืนพิงประตูดูเขายิ้มใส่โทรศัพท์ตั้งนานแล้ว









    “คุยกับใครอ่ะแบม” เจบีแกล้งถามเสียงดังก่อนชะโงกหน้ามาจากข้างหลังน้องชายเพื่ออ่านหน้าจออีกคน


    “พี่บี!!...ไหนว่าจะไปแล้วไง” แบมแบมรีบบังหน้าจอ


    “ไม่ได้บอกสักหน่อยว่าจะไปแล้ว   แล้วสรุปว่าคุยกะใครอ่ะ” เจบีปฏิเสธ ก่อนจะถามต่อ


    “เพื่อนครับ” แบมแบมว่าก่อนทำท่าจะเดินหนี


    “เพื่อนไหนอ่ะ  นามสกุลมันคุ้นๆเหมือนนามสกุลใครน้า ต้วนน่ะ นึกไม่ออกแฮะ” เจบีแกล้งแหย่แบมแบม ขอบคุณสมาร์ทโฟนที่ผลิตหน้าจอใหญ่ยักษ์ทำให้แอบอ่านง่ายขึ้น


    “ก็...เพื่อน....เพื่อนพี่บีนั่นแหละ...แบมไปนอนแล้วนะ” แบมแบมรีบชิ่งหนีออกไปก่อน

     



    เจบียิ้มน้อยๆกับท่าทางเขินๆของน้องชาย ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ตัวเองมาเปิดโปรแกรมแชทยอดฮิต แล้วกดไปที่แอคเคาท์หนึ่งที่ชื่อว่า M_Tuan  ก่อนจะพิมพ์ลงไปว่า




    JB : คิดจะแดกน้องกู อย่าหวังว่าจะผ่านกูไปง่ายๆ

     








    ข้อความกดส่งไปได้สักพัก ก่อนจะขึ้นว่าอ่านแล้วแล้วมีข้อความตอบกลับมา

     








    M_Tuan : แต่ถ้ามึงคิดจะแดกเพื่อนกู

     

     

     

     








    M_Tuan : กูใส่พานถวายให้เลย

     

     

    มาร์คต้วนเป็นคนรักเพื่อน จริงๆนะ

    .....................................................................................................

    สวัสดีปีใหม่ไทย สงกรานต์ไม่ค่อยร้อนเลยว่ามั้ย วันอื่นๆร้อนกว่าเนอะๆๆๆ แต่งแล้วก็แบบโจอี้เป็นเด็กเลี้ยงแกะมากอ่ะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ เห็นเม้นแล้วก็มีกำลังใจ จะพยายามต่อไป แต่งไปแต่งมาอาจจะดูรวบรัดแต่ไรท์อยากให้มันจบก่อนมิถุนาอ่ะ ช้าสุด เพราะแบบหลังมิถุนาไรท์จะจัดเต็มกับชีวิตมาก แต่ก็จะพยายามยั้งมือตัวเองไม่ให้รวบรัดมาก ขอบคุณที่ติดตามนะคะ รักรีดเดอร์ทุกคนจากใจ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×