ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    MY LADY...โทษที นั่นเมียผม! (MarkBam)

    ลำดับตอนที่ #7 : Re-Chapter 5 ผ้าเช็ดหน้าสีขาว 100%

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.97K
      48
      6 มิ.ย. 63







    Chapter 5 ผ้าเช็ดหน้าสีขาว

     

    “รักแบมนะครับ”

     เสียงทุ้มลึกพวกกับแววตาอันหวานละมุนนั้น ทำให้หัวใจพองโต และเต้นแรงถี่ไม่เป็นจังหวะพร้อมกับอุณหภูมิในร่างกายที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ

    ตั้งแต่คบกันมา นี่เป็นครั้งแรกที่แบมแบมได้สบตา ได้มองหน้ายูคยอมใกล้มากขนาดนี้ หลายคนอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้ของคนเป็นแฟนกัน การทำอะไรแบบนี้มักเป็นเรื่องปกติเสมอ แต่นั่นไม่ใช่สำหรับแบมแบม ถึงจะเป็นแฟนกัน สิ่งที่เธอยอมให้กับยูคยอมได้มากที่สุดแค่ หอมแก้ม หรือ จูบ ที่หน้าผากเท่านั้น…

    ถ้าแบมแบมขยับตัวเมื่อไหร่มีหวังริมฝีปากคงได้ชนเข้าเต็มๆ เธอเลยนอนนิ่งตัวแข็งเป็นหินไม่กล้าขยับเขยื้อนไปไหน ใจจริงอยากผลักให้เขาออกไปจากตัว แต่มือที่นิ่งค้างอยู่บนอากาศไม่ยอมทำตามที่ต้องการเลย

     

    ตั้งสติเดี๋ยวนี้แบมแบม!!!

     

    และแบมแบมก็ต้องกระวันกระวายมากขึ้น เมื่อระยะห่างใบหน้าของยูคยอมใกล้เข้ามาเต็มที เธอพยายามเรียกสติตัวเองกลับมา 

     

    !!!!!!!!!!!!!!!!

     

    ดวงตากลมโตเบิกกว้าง เพียงแค่เสี้ยววินาทีเดียวที่แบมแบมเอามือมาปิดปากตัวเองไว้ทัน ทำให้ริมฝีปากของอีกคนสัมผัสเข้ากับหลังฝ่ามือนุ่มของเธอแทน

     

    เกือบแล้วไหมล่ะ….

     

    ยูคยอมยื่นใบหน้าออกห่าง เอียงคอมองตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจ มันน่าหงุดหงิดใจนิดหน่อยนะ ที่เป็นแฟนมากันตั้งเจ็ดแปดเดือน แต่แค่จูบเดียวของแบมแบม เขาก็ยังไม่เคยได้สัมผัสสักที

     “ทำไมอ่า”

     

    “บอกแล้วไงเราต้องคบกันนานกว่านี้”


     “แค่จุ๊บเดียวเองนะๆ” ยูคยอมทำหน้าอ้อนวอน

     

    “จุ๊บเดียวก็ไม่ได้ ลุกได้แล้ว ง่วง” มือเล็กดันแผงอกของยูคอยมให้ออกห่าง และเขาก็ยอมถอยแต่โดยดี แถมยังทำท่าทีงอนเป็นเด็กๆอีก

     

    “โหยแบมอะ ทำไมโหดร้ายกับเค้าจัง”

     

    “อยากเป็นแฟนแบมแบมก็ต้องทนให้ได้นะคะ” แบมแบมทำเป็นเสียงเข้ม ก่อนจะลุกขึ้นจากโซฟา “ตกลงจะนอนนี่ใช่ไหม”


    “นอนเตียงกับแบมนะ” ตามมาด้วยสายตาอ้อนวอนสุดๆ

     

    “ฝันไปเถอะ นอนข้างนอกนี่แหละ” ปกติเวลายูคยอมมาที่นี้ แบมแบมก็จะให้เขานอนข้างนอกตรงโซฟาตลอด มุขตื้อขอนอนเตียงด้วยนี่เจอมาหลายครั้งล่ะ แต่ก็ได้แค่คำตอบเดิมกลับไป

     

    “คุณแฟนใจร้ายยย จะฟ้องแม่!”

     

    นาทีนี้ไม่มีคำว่ายูคยอมผู้มาดแมนอีกต่อไป เมื่อคนตรงหน้าทำท่าทีเหมือนกับเด็กอนุบาล ที่เอะอะอะไรก็จะฟ้องแม่อย่างเดียว

     

    “แล้วแต่ค่ะ ปิดไฟด้วยนะ บายยยย”

     

    แต่ก็อย่าหวังว่าเล่นแบบนี้แล้วแบมแบมจะใจอ่อนให้นอนที่เตียงด้วย ตราบใดที่ยังไม่แต่งงาน ก็อย่างหวังเลยค่ะ แบมแบมเซกู๊ดบาย ก่อนจะเดินเข้าห้องตัวเองไปโดยไม่สนใจใยดียูคยอมเลยสักนิด เขาเลยได้แต่เบ้ปากอย่างน้อยใจ แล้วล้มตัวนอนลงบนโซฟาสีขาว หยิบโทรศัพท์ราคาแพงออกมาจากกระเป๋ากางเกง 

    MINHO THE WIN

    ไอ้นั่นหรอ ชื่อมาร์คอยู่ถาปัตย์ 

    สาวในมหาลัยรุมชอบชิบหาย

    อยากเห็นหน้าก็ไปดูในเว็บมหาลัย คณะที่มันเรียนเอง

     

    ก่อนจะมาที่นี้ยูคคยอมได้ทำตามที่รุ่นพี่มินโฮบอก และพอเข้าไปในเว็บเขาก็จำได้ทันทีว่าผู้ชายที่รุ่นพี่มินโฮกล่าวถึงว่าเห็นเดินมากับแบมแบม และพาเธอซ้อนบิ๊กไบค์ออกไปนั้น คือคนเดียวกันกับที่เคยเจอเมื่อหลายวันก่อน ตอนที่ไปรับแบมแบม และหมอนั่นก็ยืนคุยอยู่กับกลุ่มเพื่อนๆของเธอ แค่เห็นสายตาครั้งแรกที่มองมาทางแบมแบม มันก็ไม่น่าไว้ใจ…. จนมาถึงวันนี้ยูคยอมคิดว่าตัวเองคิดไม่ผิดจริงๆ

     

    “ถึงกับส่งถึงบ้าน…เหอะ ไอ้นี่…”

     

    เช้าวันต่อมา

     

    แปดโมงกว่าสำหรับเวลาตื่นนอนของแบมแบม ซึ่งเป็นเวลาปกติถ้าไม่มีเรียนเธอก็จะตื่นในเวลาประมาณนี้ ถ้าวันไหนขี้เกียจตื่นสุดๆก็คงสักสิบโมง

    หลังจากที่แบมแบมเข้าห้องน้ำล้างหน้าแปรงฟันเสร็จเรียบร้อย พอเดินออกมาก็เห็นแฟนกนุ่มนอนตัวขดอยู่บนโซฟา หลับไม่รู้เรื่องรู้ราว เธอเลยปล่อยให้เขานอนต่อไป ส่วนตัวเองก็เข้าครัว เปิดตู้เย็นหยิบกล่องซีเรียลออกมา 

    หลังจากที่จัดการกับความหิวของกระเพาะตัวเองเรียบร้อย แบมแบมก็เดินกลับไปดูยูคยอมที่โซฟาอีกรอบ เห็นเขานั่งสะลึมสะลือ แถมหัวยังฟูเป็นรังนกอีกต่างหาก มันทำให้แบมแบมอดขำไม่ไหว


    “พึ่งตื่นล่ะสิ หัวฟูอีกแล้วอะ ฮ่าๆ” เธอชี้ไปที่หัวฟูๆของยูคยอมแล้วหัวเราะจนท้องแข็ง แต่อีกคนกลับไม่มีทาทียังไง แต่กลับพูดออกงึมงำออกมาเสียงเบาจนแทบจะไม่ได้ยิน


    “โอยง่วง”

     

    “ก็นอนสิ แต่คิดค่าเช่าเพิ่ม”

     

    “งก” เขาตอบกลับมาทั้งที่นั่งหลับตาอยู่

     

    “ไม่รู้แหละ จะนอนต่อก็จ่ายมาซะดีๆ”

     

    “เดี๋ยวเถอะ” พูดจบแค่นั้น ร่างของยูคยอมก็ล้มตัวลงไปนอนกับโซฟาต่อ จนแบมแบมอดยิ้มกับภาพน่ารักๆแบบนี้ไม่ได้

     

    เมื่อเขาง่วง แบมแบมเลยปล่อยให้เขานอนไปหายง่วงเมื่อไหร่ก็ตื่นมาเองแหละ เป็นแบบนี้ครั้งแรกซะเมื่อไหร่ ส่วนตัวเองก็กลับเข้ามาในห้องนอนเพื่อจะทำความสะอาดฆ่าเวลาไปพลางๆ อีกอย่างหนึ่งก็คือ ห้องมันรกมากด้วย

    แบมแบมมาหยิบไม้กวาด ที่ตักผง และผ้าขี้ริ้วในห้องครัว กลับเข้าไปทำความสะอาดในห้อง อันดับแรกเธอกะว่าจะรื้อของที่ไม่ได้ใช่ออกก่อน โดยเริ่มจากโต๊ะเครื่องแป้ง 

    แบมแบมหยิบแท่งลิปสติกที่ใช้หมดแล้วออก ก่อนจะเปิดดูตรงลิ้นชักว่ามีอะไรที่เธอต้องทิ้งอีกไหม จนไปเจอเข้ากับผ้าเช็ดหน้าสีขาวผืนหนึ่ง…

    มือเล็กหยิบผ้าเช็ดหน้านั้นออกมาดูอีกครั้ง เป็นเพียงผ้าเช็ดหน้าสีขาว และตรงมุมล่างขวาก็มีตัวหนังสือภาษาจีนสีน้ำเงินปักอยู่ ซึ่งแบมแบมอ่านภาษาจีนไม่ออก ทำให้ไม่รู้ว่าตัวที่ปักนั้นแปลว่าอะไร แต่ที่แน่ๆผ้าเช็ดหน้าผืนนี้ไม่ใช่ของเธอ

     

    ผู้ชายที่ติดฝนใต้อาคารด้วยตอนนั้นต่างหาก...เป็นคนให้ผ้าเช็ดหน้าผืนนี้กับแบมแบมมา

     

    “เขาเป็นใครกันนะ?”

     

     30%

     

     

                       โทร

     

                       ไม่โทร

     

                        โทร

     

                       ไม่โทร

     

                      เอาไงดีวะ…

     

    ตั้งแต่ลืมตาตื่นนอน สิ่งแรกที่มาร์คทำคือการหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดหน้าจอดูเบอร์น้องแบม….

     

    BABY

     

    คนหล่อกำลังคิดหนักว่าเขาควรจะโทรไปดีรึเปล่า เอาจริง ในใจนี่โคตรอยากโทรหาเลย แต่มันติดอย่างเดียวล่ะวะ


    …. คือคนมันไม่กล้า

     

    นิ้วชี้ยาวทำท่าลังเลจะกดโทรแต่ก็ไม่กดสักที การที่จะโทรหาน้องแบมนั้นมาร์คต้องรวบรวมความกล้ามากแค่ไหนถามใจดู มันน่าตื่นเต้นซะยิ่งกว่าโดนอาจารย์เรียกตอบคำถามในชั้นเรียนซะอีก

    เวลาล่วงเลยผ่านไปหลายนาที โทรศัพท์ราคาแพงก็ยังคงอยู่ในมือใหญ่ไม่ไปไหน เขาถอนหายใจออกมาหลายครั้งแทบจะทุกๆห้าวิ แต่ถึงอย่างนั้นความกล้าของผู้ชายคนนี้ก็ยังไม่ปลดปล่อยออกมาสักที

     

    ….

     

    จนสุดท้าย ! มาร์คก็ตัดสินใจกดโทรเบอร์น้องแบม!!!!!!!!

     

    ตู๊ด ตู๊ด

     

    คนถือสายรีบเด้งตัวขึ้นนั่งบนเตียงอัตโนมัติ รอให้ปลายสายรับอย่างใจจดใจจ่อพลางกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ด้วยหัวใจที่ตื่นเต้นสุดๆ

    แต่ก็ไม่มีท่าทีว่าอีกฝ่ายจะรับสายจนเบอร์ถูกตัดสายไป มาร์คแผ่ตัวนอนลงบนเตียง ดึงมาห่มมากอดแล้วนอนกลิ้นไปมา เพราะน้อยใจและเสียใจที่แบมแบมไม่รับโทรศัพท์เขา

     

    “ฮืออออออออ อ๊ากกกกกกกกกกก”

     

    Rrrrrr

     

    มาร์คที่ซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม เอื้อมมือออกมาหยิบโทรศัพท์ที่ส่งเสียงดัง เอาผ้าห่มที่ปิดหน้าออกก่อนจะกดเลื่อนรับสายโดยไม่ทันดูเบอร์ที่โทรเข้ามา

     

    “ครับ”

     

    ‘นี่เบอร์ใครคะ’

     

    หืออ ใครวะ?

     

    เอาโทรศัพท์ที่แนบหูออกมาดูเบอร์บนหน้าจอสี่เหลี่ยมอย่างสงสัย ว่าผู้หญิงที่เขาคุยด้วยเป็นใคร

     

    BABY

     

    เชี่ย แบมแบมโทรมา !!!!!!!!!!!!!

     

    ‘ใครคะ? จะวางสายแล้วนะ’

     

    พูดไม่ทันไร แบมแบมก็ตัดสายไปทิ้งไป มาร์คอ้าปากค้างมองหน้าจอโทรศัพท์ที่อยู่ในหน้าจอหลัก อย่างไม่น่าเชื่อว่าเมื่อกี้น้องแบมโทรมาหาเขา!!

     

    โอยยยยยย ฟินสาสสสสสสสสส

     .


    ในสวนหย่อมมุมหนึ่งที่เงียบสงบในมหาลัยนั้นเอง ชายหนุ่มผมทองนั่งมองหน้าจอกล้องถ่ายรูปราคาแพง นิ้วเรียวกดปุ่มเลื่อนดูรูปในกล้องไปเรื่อยๆ พลางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่

     

    เหมือนคนบ้า ตอนนี้มาร์คดูเหมือนคนบ้าจริงๆ

     

    คนบ้าคนนี้มองรูปแบมแบมทุกกิริยาบท ที่ถูกถ่ายโดยฝีมืออันล้ำเลิศของตัวเอง ซึ่งมากกว่าหนึ่งร้อยรูป จากการแอบสอดส่องและตามถ่ายตลอดเกือบเดือน ใครจะว่ามาร์คโรคจิต เขาก็ยอมรับ แต่แค่กับน้องแบมคนเดียวเท่านั้นแหละ คิก

    ตามถ่ายรูปซะขนาดนี้ คลั่งมากแค่ไหนละคิดดู ไปเปิดบ้านแฟนไซน์น้องแบมเถอะ ทำงานด้านนี้ถ้าจะรุ่ง พ่อแฟนบอยมาร์ค….

     

    วันต่อมา

     

    ระหว่างที่รออาจารย์เข้าสอน แบมแบมนั่งเล่นโทรศัพท์เข้าเล่นนู่นนี่นั้นไปเรื่อยฆ่าเวลาแก้เบื่อ ส่วนยองแจกับจูเนียร์ก็พากันไปเข้าห้องน้ำ หายไปตั้งนานไม่เห็นจะกลับมาสักที

    ตอนนั้นเอง วี หรือ คิม แทฮยอง หนุ่มหล่อเพื่อนร่วมคลาสเรียนของแบมแบมก็เดินตรงมาหาที่โต๊ะพร้อมกับหนังสือเรียนหนึ่งเล่ม

     

    “แบมแบม ว่างไหมอะ” เสียงจากแทฮยองทำให้แบมแบมต้องละสายตาในจอโทรศัพท์ หันไปพูดคุยกับเขา

     

    “อือ ทำไมหรอ”

     

    “คือเราไม่เข้าใจทฤษฎีอันนี้ อธิบายให้เราฟังหน่อยดิ” แทฮยองรีบเปิดเนื้อหาในส่วนที่เขาไม่เข้าใจพร้อมกับใช้นิ้วชี้ให้แบมแบมดู

     

    “อ่อ อันนี้หรอ เอาตามที่เราเข้าใจนะ”

     

    “โอเคๆ” ว่าแล้วก็นั่งลงตรงเก้าอี้ที่ว่างข้างๆ ฟังที่แบมแบมอธิบายอย่างตั้งใจทันที

     

    การกระทำทั้งหมดของแทฮยองถูกสายตากลุ่มเพื่อนสนิทสี่หน้าคนจากหลังห้องจับจ้อง ทุกคนรู้เจตนาที่แทฮยองตั้งใจเข้าหาแบมแบม ไม่ใช่แค่เรื่องไม่เข้าใจทฤษฎีบ้าบออะไรนั้น แต่มันกำลังพยายามเข้าหาเพราะ ชอบ แบมแบมอยู่ต่างหากล่ะ  

     

    “กูยอมใจไอ้วีมันเลยวะ แบมแบมมีแฟนก็ยังคิดจะตามไม่เลิก” จีมินส่ายหน้าเหนื่อยใจ 


    ทุกคนในห้องเนี่ยใครๆก็รู้ว่าแบมแบมมีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้ว ใช่! วีเองก็รู้ แต่หมอนั้นก็ยังไม่วายจะเอาของคนอื่นมาเป็นของตัวเอง จีมินเคยเตือนหลายครั้งให้เลิกตัดใจซะ แต่มีหรอว่าคนอย่างไอ่วีจะตัดใจอะไรง่ายๆ

     

    คนอย่างมัน…อยากได้อะไรก็ต้องได้

     



    12.15 นาที

     

    มาร์คจอดบิ๊กไบค์คู่ใจไว้ริมถนนหน้าร้านเบเกอรี่ชื่อดัง เขาตั้งใจจะมาซื้อกาแฟซักแก้วก่อนจะเข้าเรียนภาคบ่ายต่อ เพราะอาจารย์ชอบสอนง่วงชะมัด หรือเป็นเพราะตัวเขาที่ง่วงเองก็ไม่รู้

    มือใหญ่กำลังจะผลักประตูกระจกเข้าไปในร้าน แต่แล้วก็ต้องชะงักเมื่อมาร์คได้พบเจอกับคนบางคนที่ทำให้ใจของเขาเต้นแรงขึ้น

     

    “แบม”

     

    มาร์คดึงประตูเข้าหาตัวเพื่อเปิดประตูให้แบมแบมเดินออกมา ซึ่งคนตรงหน้าเองก็ตกใจไม่น้อยที่จู่ๆก็ได้มาเจอมาร์คโดยไม่ทันตั้งตัว

     

    แต่จะว่าไป ทำไมช่วงนี้เจอพี่มาร์คบ่อยจัง

     

    “อ้าวพี่มาร์ค…สวัสดีค่ะ” แบมแบมเอ่ยทักทายใบหน้ายิ้มแย้ม เกือบทำให้อัตราการเต้นหัวใจมาร์คเป็นจังหวะโจ๊ะๆ (อะไร????)

     

    “แบมเลิกเรียนแล้วเหรอ” มาร์คมีท่าทีประหม่าอย่างเห็นได้ชัด เขาเลียริมฝีปากตัวเองบ่อยมาก ซึ่งนั้นเป็นนิสัยที่แก้ไม่หายสักที

     

    “เลิกแล้วค่ะ”

     

    “อ่อ แล้วซื้อเค้กอะไรเยอะเยะ” สายตาเหลือบไปเห็นในมือแบมแบมที่หิ้วถุงเค้กสองสามถุง

     

    “นิดเดียวเอง”

     

    “ไม่กลัวอ้วนเหรอ หรือว่าซื้อให้ใครรึเปล่า” ก็เขาเห็นปกติพวกผู้หญิงกลัวอ้วนกันจะตาย การที่เห็นแบมแบมซื้อเค้กไปเยอะแบบนี้ก็เลยอดสงสัยไม่ได้

     

    “ก็เก้าสิบเปอร์เซ็นของแบมหมดแหละค่ะ” อู้วววววววววว ผู้หญิงกินเก่งไม่กลัวอ้วนนี่สเปคมาร์คเลยล่ะ รู้ยังๆ

     

    งั้นก็แสดงว่าสิบเปอร์เซ็นที่เหลือก็ของคนอื่นสินะ… หึ งอนนนน

     

    ….แล้วตัวเองมีสิทธิ์ไรไปงอนเขาวะ

     

    “ดูเหมือนแบมจะชอบเค้กมากเลยนะเนี่ย” แบมแบมได้ยินก็ยิ้มอย่างเขินๆ 

     

    “แล้วพี่มาร์คมาซื้อเค้กเหมือนกันหรอคะ”

     

    “แค่กาแฟน่ะ ร้านในมหาลัยไม่อร่อยเลยออกมาซื้อที่นี่” มองหน้าแบมแบมสักพัก ก่อนจะนึกอะไรขึ้นได้ “เดี๋ยวแบมจะกลับบ้านเลยรึเปล่า”

     

    “เอ่อ ยังค่ะ กะว่าจะแวะเอาเค้กไปให้ยูคยอมก่อน”

     

    นั้นไงมึง… ชื่อไอ้ยูคยอมมันตามมาหลอกหลอนกูอีกล่ะ

     

    “แหม ว่าแล้วเชียว” เขาทำเป็นแกล้งแซวไปงั้น แต่ใจจริงไม่ฮาด้วยหรอก อยากจะร้องไห้มากกว่า ฮืออ

     

    “งั้นแบมไปก่อนนะคะ” แบมแบมโค้งลาตามมารยาท ก่อนจะเดินตรงไปริมฟุตบาทมองหน้ารถแท็กซี่

     

    มาร์คมองแบมแบมขึ้นแท็กซี่คันหนึ่งออกไป ก่อนจะรีบวิ่งมาที่บิ๊กไบค์ของตัวเอง ใส่หมวกกันน็อคให้เรียบร้อย รีบสตาร์ทบิดเกียร์เร่งความเร็วตามแท็กซี่คันนั้นไปทันที

     

    คอนโด คิม ยูคยอม

     

    มาร์คจอดรถทิ้งไว้ตรงริมถนนด้านนอกพร้อมล็อกกุญแจคอรถไว้อย่างดี ก่อนจะซุ้มรอแบมแบมอยู่ด้านล่างหลายนาที เหมือนยูคยอมฐานะครอบครัวท่าทางจะดูดีอยู่เหมือนกัน ดูจากสภาพคอนโดที่อยู่แล้ว แพงใช่เล่น…

    มาร์คตามแบมแบมมา เพราะเป็นห่วง อีกอย่างคืออยากรู้ที่อยู่ไอ้ยูคยอมมันด้วยแหละ ไม่นานคนที่เขาเฝ้ารอก็เดินออกมาจากตัวอาคาร

     

    แบมร้องไห้?

     

    ท่าทางกึ่งเดินกึ่งวิ่งและมือเล็กที่ปาดแก้มทั้งสองข้าง ทำให้มาร์คสงสัยว่าอย่างนั้น แล้วทำไมแบมแบมต้องร้องไห้ด้วย เกิดอะไรขึ้น???

     

    "แบม!!!"

     

    แฟนหนุ่มในเสื้อคลุมอาบน้ำสีขาวหลุดลุ้ย วิ่งตามแบมแบมออกมาติดๆท่าทางรีบร้อนแต่เขามาช้าเกินไปเพราะแบมแบมขึ้นแท็กซี่กลับออกไปแล้ว ยูคยอมหน้าตึง พร้อมกับขยี้ผมที่ไม่ได้จัดทรงอย่างหัวเสีย แล้ววิ่งกลับเข้าคอนโดตัวเองไป โดยไม่ทันสังเกตเห็นมาร์คที่ซุ้มมองอยู่หลังเสาต้นใหญ่

     

    หมายความว่าไงวะ แบมร้องไห้ ไอ้ยูคยอมวิ่งตามลงมาในสภาพนี้???

     

    มึงทำอะไรน้องแบมของกู!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!



    #ficmyladyMB

    _____________________________

     อะไร เกิดอะไรขึ้น???

    แบมของฉันเป็นอะไร!!!!!!!!!!!




    O W E N TM.
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×