ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Colorful Review รับวิจารณ์นิยายหลากแนว

    ลำดับตอนที่ #66 : [SEND]:จอมเวทไร้พลัง:hakumen

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 102
      0
      15 เม.ย. 56

    :)  Shalunla

    ผู้วิจารณ์ THEzeroday 

    สวัสดีคะ พี่ฮาคุ ขอเรียกอย่างนี้นะ อายุ 20 อือหือ.. ห่างกันเป็นวาเลยแหม.. แอบเกร็งนะเนี่ยะ แต่ยังไงก็ 5 ดาวแล้วนี่เนอะ งั้นซีขอตรงๆเลยนะ แรงไปก็ขอโทษด้วยแล้วกัน

    ชื่อเรื่อง :: 10/10

    ชื่อเรื่องดี สั้นง่ายได้ใจความ แต่จะดีกว่านี้ถ้ามีชื่อภาษาอังกฤษมันจะทำให้นิยาย ดูหรูขึ้นคือดูมีระดับ ประมาณนั้น แต่ถ้าพอใจอย่างนี้แล้วก็ไม่เป็นไรคะ เพราะยังไงเนื้อในก็สำคัญกว่า

    ความสวยงาม :: 0/10

    ซีไม่ได้เน้นที่ความสวยงาม เพราะนิยายมันไม่ได้ตัดสินที่ตรงนั้น แต่ยังไงมันก็ถือว่ามีส่วนในการเลือกของผู้อ่านเหมือนกัน การแต่งหน้านิยายมันแสดงให้เห็นถึงความเอาใส่ใจก็ผู้เขียนด้วย และที่สำคัญ หน้านิยายนะคะ ไม่ใช่ ตัวนิยายหน้านิยายคือที่ๆเอาไว้ นำเสนอว่านิยายของเรา มีอะไรที่น่าสนใจที่อยากจะสื่อให้ผู้อ่านได้รับรู้ ไม่ใช่ที่ที่เอาไว้ลงนิยายนะคะ แยกให้ออก การลงบทนำไว้ที่หน้านิยายเป็นอะไรที่ผิดพลาดของผิดพลาดสุดๆ ถ้าบทนำสั้นก็แล้วไป แต่บทนำนี่ยาวเป็นพรืด ลองนึกดูสิคะ ว่าถ้าเปิดเป็นตัวเอง เปิดเข้ามาในนิยาย แล้วก็ยังไม่รู้เลยว่ามันเกี่ยวกับอะไร พล็อตเป็นยังไง แล้วมาเจอบทนำยาวเป็นพรืด แถมตัวหนังสือก็เล็กจิดนึง ถ้าเป็นซี ซีปิดคะ มันไม่ได้อยากอ่านมากขนาดที่ต้องมาเพ่งตามองคอมอ่านนิยายที่ไม่รู้เรื่องเลยว่ามันเกี่ยวกับอะไร เดี๋ยวเกิดไม่ถูกใจก็เสียเวลาเปล่า ร้อยทั้งร้อย ไม่ว่าจะเป็นนิยายเรื่องไหน ความอายอ่านที่เปิดนิยายเข้ามาครั้งแรกต้องเริ่มจาก 0 พอเห็นเรื่องย่อ ว่าเนื้อเรื่องเป็นยังไง มันถึงจะเปลี่ยนแปลง จะเพิ่มขึ้นหรือลดลง ส่วนนึงมาจากพล็อตของคุณอีกส่วนมาจากความชอบของคนๆนั้น นิยายก็เหมือนอาหาร เรื่องย่อเปรียบเหมือนอาหารที่ให้ทดลองชิม ถ้าลองชิมแล้วคนชิมถูกใจ เขาก็ซื้อกลับ เขาไม่ถูกใจก็ไม่ซื้อ และแน่นอนจะให้ชิมก็ต้องให้ชิมคำเล็กๆ ถ้าคำใหญ่ๆเดี๋ยวเกิดไม่อร่อยขึ้นมาจะทำยังไง เดี๋ยวเกิดมันเผ็ดล่ะ มันเค็มไปล่ะ ถูกไหม? เพราะฉนั้นคุณต้องจัดลำดับขั้นตอนให้ดี ชื่ออาหารก็เหมือนชื่อนิยาย ชื่อน่ากินเขาก็ลองชิม ชื่อแปลกก็ไม่ชิม หน้าตาของอาหารก็คือหน้านิยาย หน้าตาน่ากินเขาก็กิน แต่ก่อนกินก็ต้องลองก่อน เดี๋ยวเกิดซื้อมาไม่ชอบก็เสียเงินเปล่า เพราะฉนั้นเรื่องย่อก็คือสิ่งที่ให้เขาลองอ่าน ลองชิม พล็อตถูกใจ อาหารอร่อย เขาก็ซื้อ มันต้องค่อยเป็นค่อยไป จากเล็กไปใหญ่ ค่อยๆตะล่อมๆให้เขามาอ่านของเรา แต่การที่เราเอาบทนำไปวางเลยเนี่ยะมันเหมือนการยัดเยียดว่า กินเข้าไปๆ  โดนแบบนั้นใครจะชอบล่ะคะ มันไม่มีอะไรเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจเลยว่าจะกินดีหรือไม่ดี อ่านหรือไม่อ่าน และเพื่อความปลอดภัย เขาก็ต้องเลือกที่จะปฏิเสธอยู่แล้ว

    การดำเนินเนื้อเรื่อง :: 6/10

    พล็อตมันดูพื้นๆไปหน่อย ดูไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจ ไม่น่าตื่นเต้น คือมันสามารถเดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป แล้วมันจะเกิดความไม่สนุก ถ้าจะบอกว่ามันยังไม่เข้าเนื้อเรื่อง มันมีอะไรมากกว่านั้นอีก แล้วคนอ่านเขาจะรู้เหรอ เพราะฉนั้นสิ่งที่คุณต้องทำคือดึงผู้อ่านไว้ให้ถึงสิ่งที่คุณจะสื่อ ขอเปรียบเป็นอาหารอีกแล้วกัน ถ้าเกิดคนเขากินเขาไป เคี้ยวแล้วรู้สึกว่ามันจืดๆ เหนียวๆเย็นๆ ไม่ชอบ เขาก็ไม่กินต่อ แต่ถ้าคุณบอกว่า กินไปเรื่อยๆสิ แล้วรสชาติมันค่อยๆเผยออกมาทีละนิดๆ ใครเขาจะไปรู้ล่ะว่าจะต้องกินต่อไปถึงเมื่อไรถึงจะเจอกับไอรสชาติที่ว่านั่น เพราะฉนั้นคุณก็ต้องทำให้อาหารของคุณมันมีรสชาติบ้าง คือใส่จุดน่าสนใจลงไปบ้างระหว่างที่ยังไม่ถึงเนื้อเรื่อง

    สำนวนการเขียน :: 8/10

    ภาษาสวยจริงๆ แต่มีบางจุด..ไม่ใช่สิ เท่าที่เห็นนี้เยอะเลยอ่ะ ที่ใช้คำแปลกๆ อย่างเช่นตรงบทนำ คิดอย่างเผ็ดร้อน คือนึกภาพไม่ออกว่าคิดแบบเผ้ดร้อนมันเป็นยังไง เพราะปกติแล้วคำว่าเผ็ดมันใช้กับรสชาติ  เอามาใช้บรรยายความคิดมันก็กระไรอยู่ มันจินตนาการไม่ออก ถ้าจะเปรียบเทียบควรเปรียบเทียบในสิ่งที่ใกล้เคียงหรือพอจะคล้องกันอยู่บ้าง อย่างเช่นพูดจาอย่างเผ็ดร้อน มันยังจะพอนึกภาพออกว่าเป็นยังไง ทางที่ดีควรเลือกใช้คำที่เหมาะกว่านี้เช่น คิดอย่างแค้นเคือง คิดอย่างน้อยใจ อันนี้ซีคิดว่าพี่ฮาคุตั้งใจจะซีอย่างนี้นะ เพราะซีก็ไม่รู้ว่าพี่ตั้งใจจะสื่ออะไร อีกจุดที่โคตรจะขัดกัน ตรงดาบหล่นราวกับใบไม้ร่วง อย่างที่บอกไปว่าจะเปรียบเทียบควรเปรียบในสิ่งที่ใกล้เคียง ดาบกับใบไม้ คนละเรื่องเลยคะ ดาบคืออาวุธ เอาไว้โจมตี เป็นเหล็ก มีความแข็งแรง ใบไม้เป็นพืช ลักษณะบางๆ ฉีกก็ขาด ที่สำคัญ มันเบา เวลาร่วงมันจะค่อยๆร่วงแบบนุ่มๆ แต่ดาบมันแข็ง หนัก ร่วงทีเสียงดังมาก เอามาเปรียบกันมันไม่ใช่อ่ะค่ะ แล้วก็บางจุดที่ใช้คำไม่สละสลวย ยกตัวอย่างตรงบทนำอีกเช่นกัน (บทนำมีเยอะมาก) ตรงคำว่า เพื่อนหญิง ทางที่ดีใช้เพื่อนสาวจะเหมาะกว่า มันให้คำความรู้สึกว่าตัวละครนั้นๆเป็นผู้หญิงที่อยู่ในช่วงสาว วัยรุ่น ซึ่งช่วงเวลานั้นมันเป็นช่วงเวลา...เอ่อ...ขอใช้คำว่าเจริญพันธุ์แล้วกัน เป็นช่วงเวลาที่กำลังมีความรัก ผิวพรรณเปล่งปลัง หรือที่เขาเรียกกันว่าเอาะๆนั่นแหละ มันจะทำให้เวลาอ่านแล้วจินตนานการเนี่ยะ มันจะรู้สึกพลิ้วๆ โลกนี้ช่างสวยงาม (ว่าไปนั่น) เอาเป็นว่ามันจะทำให้อ่านแล้วมันไม่ติดขัด แล้วก็ปัญหาคำเกิน มีบรรยายเกินๆอยู่บ้าง ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรมาก แต่บางทีมันก็ไม่ดี จะชี้จุดใหญ่ๆให้คือในตอน 1เช่นเดียวกับบุรุษชายหนุ่มตัดคำว่าบุรุษออกไป แค่คำว่าชายหนุ่มก็รู้เรื่องแล้ว เพราะเราแค่ต้องการจะสื่อว่า อาเจ๊คนนี้เขาทำตัวเหมือนผู้ชาย คำว่าบุรุษมันเป็นการเน้นย้ำให้ความหมายของ ผู้ชายชัดเจนมากขึ้น แล้วมันไม่ใช่ประเด็นที่เราจะสื่อ เพราะฉนั้นตัดออกไป ให้กระชับ มันจะทำให้ลื่นขึ้น

    การใช้ภาษา :: 10/10 ไม่ขอพูดอะไรมาก เพราะพูดมาเยอะแล้ว //หอบ



    เซ็นรับทางนี้เลยขอรับ

     

    นามปากกา:
    ชื่อบทความ:
    มาเซ็นรับวันไหนเอ่ย:
    พอใจกับคำวิจารณ์หรือเปล่า:
    อยากฝากบอกอะไรให้ทางร้านหรือให้นักวิจารณ์ปรับปรุงอะไรมั้ย:
    ช่วยแปะแบนเนอร์ของทางร้านด้วยนะจ๊ะ :
    ไว้มาอีกนะคะ ขอบคุณจ้าา:

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×