ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เพลิงรักมาเฟีย

    ลำดับตอนที่ #25 : บทที่ ๗ แมวเมรี (๒)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 481
      2
      9 ก.ย. 59

    พื่อนซี้คู่หูสัดส่วนคล้ายคลึงกันแต่งตัวด้วยชุดสีดำเซ็กซี่พิมพ์เดียวราวฝาแฝด คืนนี้บรรณาธิการสาวแต่งเครื่องหน้าให้โดดเด่นด้วยการกรีดดวงตาด้วยอายไลเนอร์สีน้ำตาลเข้ม ริมฝีปากแต้มด้วยลิปสติกสีน้ำตาลอ่อน ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าล้วนน่ามอง

    นางแมวเหมียวแคทเทอรีนก็ไม่ต่างกัน ผมสีน้ำตาลยาวถูกรวบขึ้นสูงปล่อยปลายให้พลิ้วไหว ความยาวของชุดเคลียเข่า ทว่าช่วงบนกลับเน้นสัดส่วน โชว์หวิวให้หนุ่มๆ ในผับได้ตาร้อน รับกับเครื่องหน้าเซ็กซี่คล้ายแมวยั่วสวาท เรียกสายตาสิเน่หาให้หันมองจนเหลียวหลัง ทำให้บอดี้การ์ดในผับนับสิบคนจำไม่ได้กับรูปโฉมที่เปลี่ยนไป ไม่อย่างนั้นคงมีรายงานถึงหูใครบางคนไปแล้ว

    วันนี้สองสาวเลือกนั่งในโซนส่วนกลางของผับ หย่อนสะโพกนั่งลงบนเก้าอี้บาร์สีแดงแสบตา เบื้องหน้ามองเห็นวงดนตรีร็อกบรรเลง ข้างๆ กายมีหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ทำตาพราวระยับส่งให้

    เฮ้ย! ไอ้ลูกค้าผู้ชายพวกนั้นมันมองอะไรกันนักหนาวะ”

    การ์ดหนุ่มรูปร่างล่ำสัน สูงราวหนึ่งร้อยเก้าสิบเซนติเมตรหันไปถามเพื่อนสนิท อีกคนชะเง้อมองตามแล้วกระตุกยิ้ม

    “มองของดีมั้ง แกอยากเห็นไหมล่ะ”

    “ไม่ดีกว่า พ่อมาโน่นแล้ว”

    ร้องบอกออกไปแค่นั้นก็รีบปรี่ไปหาคนเป็นนาย ค้อมศีรษะทำความเคารพอย่างคุ้นชิน ฟาบริช คาร์มิโอยกยิ้มที่มุมปากให้ ก่อนจะหมุนกายเดินขึ้นสู่ชั้นวีไอพีพร้อมสาวชุดแดงเซ็กซี่ที่เกาะแขนซบไหล่บึกบึนไม่ห่างตั้งแต่มาถึง

    มุมหนึ่งไม่ไกลนัก ลิสซี่ เพิร์ลรัซถึงกับต้องเบิกตาโต อยากจะยกมือน้อยขยี้ตา แต่เกรงเครื่องสำอางที่แต่งแต้มลงบนใบหน้ามาอย่างดีจะเละเทะไม่น่าดู ทำได้แค่กระตุกแขนเพื่อนรัก แล้วพยักพเยิดให้มองตาม

    “แคท แกต้องไม่เชื่อแน่ว่าฉันเห็นอะไร”

    แคทเทอรีนค่อยๆ วางแก้วน้ำพันช์ในมือลงอย่างช้าๆ ก่อนจะจ้องมองไปยังภาพที่เพื่อนชักชวนให้ดู บันไดวนของชั้นวีไอพีมีหนุ่มสาวสองคนเคลียคลอโอบกอดชิดใกล้ เรียกความรู้สึกบางอย่างให้วิ่งพล่าน ถึงแม้จะเห็นเพียงแค่แผ่นหลัง แต่สาบานได้เลยว่าเธอจำชายหนุ่มได้จนขึ้นใจ

    “น้อง! ขอวอดก้ามาร์ตินีชุดใหญ่”

    ร้องสั่งด้วยน้ำเสียงห้วนสนิท บริกรหนุ่มจ้องตาไม่กะพริบแต่ก็รีบกุลีกุจอนำมาเสิร์ฟอย่างรวดเร็ว บรรณาธิการสาวได้แต่กลืนน้ำลาย เพื่อนเธอต้องเพี้ยนไปแล้วแน่ๆ ที่เปลี่ยนจากน้ำพันช์เป็นวอดก้า นี่มันขนาดแอลกอฮอล์ต่างกันราวฟ้ากับเหว

    “แกจะดื่มไอ้นี่เหรอ เป็นอะไรมากหรือเปล่าเนี่ย!

    “เรา ไม่ใช่แค่ฉันคนเดียว เราสองคนจะดื่มไอ้นี่ให้หมด!” ย้ำเน้นพร้อมจัดการชงเครื่องดื่มด้วยตัวเอง “และอีกอย่างฉันปกติดี ไม่รู้สึกอะไรทั้งนั้น”

    คนพูดขึ้นเสียงสูง ลิสซี่พยักหน้าหงึกๆ อย่างยอมเชื่อ มองคนไม่เป็นอะไรแม้สักนิดเดียวยกเครื่องดื่มดีกรีสูงกลืนเข้าลำคอราวกับน้ำเปล่า ทั้งที่รสของมันขมแทบกลืนไม่ลง ผ่านไปไม่ถึงวินาทีตัวเองก็โดนคะยั้นคะยอให้ดื่มตามไปติดๆ

    “ยัยแคท เบาๆ หน่อย นี่มันวอดก้านะ ไม่ใช่น้ำพันช์ถึงได้ดื่มหนักขนาดนี้”

    อดไม่ได้ที่จะร้องเตือน แคทเทอรีนเหลือบสายตามองเพื่อนรักแล้วส่ายหน้า ไหวไหล่น้อยๆ ก่อนจะยืนกราน

    “แค่นี้ไม่เมาหรอก จิ๊บจิ๊บ”

    “น้ำเสียงแกเริ่มยานเหมือนคุณยายวัยห้าสิบแล้วนะ เบาๆ หน่อยก็ดี” ลิสซี่ เพิร์ลรัซร้องเตือนอีกครั้ง แต่ผลก็ยังคงออกมาเหมือนเดิม หนำซ้ำยังยืนกรานหนักแน่นอีก

    “ต่อให้กินอีกสิบแก้ว ก็ไม่เมาหรอกน่า”

    คนฟังได้แต่แค่นยิ้มฝืดเฝื่อนเต็มทน จ้องมองเพื่อนรักที่ยกวอดก้าแก้วแล้วแก้วเล่าเข้าปาก นึกอยากจะวางยาตัวเองไม่ขอรับรู้อะไรอีก ปล่อยให้คุณเธอได้ทำอะไรอย่างที่ปรารถนา แต่สุดท้ายแล้วบรรณาธิการสาวก็ทำได้เพียงแค่ยกมือขึ้นกุมขมับพร้อมร้องออกมาเสียงดังลั่น

    โอ๊ย! ฉันควรจะโทรตามนายดัคซ์ให้มาลากยัยแคทกลับบ้านดีไหมนี่”

    ผ่านไปเกือบสิบนาที คนที่บอกไม่เป็นอะไรเริ่มโงนเงนซ้ายขวา มือบางของบรรณาธิการรีบฉวยแก้วเหล้าที่กำลังถูกยกขึ้นจ่อปากอิ่มพร้อมตะเบ็งเสียงแข็งกับดนตรีค่อนข้างดัง

    “พอเถอะยัยแคท ฉันเริ่มมึนหัวแล้ว เดี๋ยวขับรถไม่ไหวนะแก”

    “ฉันขับเอง”

    เสียงครางยานของคุณทวดอายุร้อยปีดังขึ้น ลิสซี่ตีสีหน้าอยากตาย

    “ถ้าแกขับ ฉันยอมนอนริมฟุตปาท”

    บอกอย่างหัวเสีย แล้วกระแทกแก้วเหล้าลงบนโต๊ะค่อนข้างแรง ยกมือเรียกบริกรมาเก็บเงินหย็อยๆ แต่คนที่เดินหน้าเข้มตรงดิ่งเข้ามาหานี่สิ ทำให้รู้สึกว่าร่างกายของตัวเองแข็งทื่อ ยิ่งสบเข้ากับดวงตาสีเพอร์ริดอตอันโกรธเกรี้ยวนั้น มือที่กำลังประคองเพื่อนรักก็เริ่มสั่นอย่างช่วยไม่ได้

    “กลับกันเถอะแคท”

    น้ำเสียงแหลมเล็กรีบกระซิบบอก แต่คนเมาก็ออกฤทธิ์ขยับดิ้นหนีกลายๆ

    “ไม่กลับ”

    คนฟังได้แต่ทำหน้าอยากตาย หันไปยิ้มแหยๆ ให้กับยักษ์ที่ตีสีหน้าถมึงทึง พร้อมร้องทักเบาหวิว

    “เอ่อ...คุณฟาบริช”

    บรรณาธิการสาวปล่อยเพื่อนรักเป็นอิสระแทบจะทันที แค่เห็นทีท่าของบุรุษหนุ่มตรงหน้า ลิสซี่ก็ร้องหาพระเจ้าเสียงสั่น

    ฟาบริช คาร์มิโอกำหมัดทั้งสองข้างแน่น ใบหน้าเข้มๆ นั้นฉายแววถมึงทึงน่ากลัว ดวงตาดุกร้าวกวาดมองรอบๆ ผู้ชายอายุตั้งแต่วัยละอ่อนยันแก่ชราจ้องมองร่างที่เมาปลิ้นราวกับจะกลืนกินไปถึงไหนต่อไหน ก่อนหน้านี้ห้านาทีเขาเพิ่งได้รับรายงานจากลูกน้องที่จ้องมองภาพผ่านจอมอนิเตอร์ขนาดเล็ก เห็นแม่ตัวดีนั่งดื่มยั่วสวาทหนุ่มๆ ก็รีบกระโจนออกมาดูให้เห็นกับตา แล้วดูสภาพแม่คุณสิ มันน่าฆ่าให้ตายคามือนัก ไหนจะชุดที่เจ้าหล่อนสวมใส่ ทำไมไม่แก้ผ้ามาซะเลย

    “เอาเหล้ามานะยายลิส ฉันจะดื่มมัน”

    เสียงยานคางที่เปล่งออกมาจากเรียวปากสีแดง แทบทำให้ลิสซี่อยากกลั้นใจตายไปซะให้รู้แล้วรู้รอด จะเข้าไปคว้าตัวเพื่อนรักก็ช้าไป เมื่อดวงตาแฝงรังสีอำมหิตทำให้แข้งขาของตัวเองอ่อนแรง มองเลยไปด้านหลังก็เห็นการ์ดชุดดำที่ยืนประกบเจ้านายจ้องมองด้วยสายตาบอกให้อยู่นิ่งเฉย บรรณาธิการสาวจึงได้แต่จ้องมองความหายนะของเพื่อนด้วยความรู้สึกขยาด

    “นี่คุณทำบ้าอะไรแคทเทอรีน” เสียงกร้าวตวาดลั่น “บอกผมสิ ว่านี่มันเรื่องบ้าอะไร”

    มือหนาราวกับปลอกเหล็กบีบเข้าที่ท่อนแขนกลมกลึงสุดแรง จนเกิดรอยแดงเป็นปื้น ร่างระหงของคนเมาค่อยๆ ปรือตาที่จวนปิดขึ้นมอง สะบัดแขนออกจากการกอบกุม

    “ปล่อยนะ ผู้ชายบ้า ไปให้ไกลๆ เลย เอาเหล้ามานี่”

    บอกออกไปด้วยน้ำเสียงกระท่อนกระแท่น พร้อมไขว่คว้าหาแก้ววอดก้าของตัวเอง มาเฟียหนุ่มกระตุกยิ้มเย็น มองภาพแม่แมวสาวในชุดดำเซ็กซี่ด้วยดวงตาอำมหิต ก่อนเสียงลอดไรฟันจะดังขึ้น

    “ได้!

    ตะเบ็งแข่งกับดนตรีแค่นั้น ก็ยกวอดก้าขึ้นมาทั้งขวด รินใส่เหยือกน้ำแข็งที่วางอยู่ใกล้ๆ พร้อมน้ำเสียงเฉียบเย็นดังตามมาติดๆ

    “อยากดื่มนักใช่ไหม ผมจะจัดให้”

    จบประโยคนั้นเหยือกน้ำแข็งขนาดราวสองลิตรกว่าก็ค่อยๆ ราดรินลงบนศีรษะของแคทเทอรีน สองสาวเพื่อนซี้ส่งเสียงโวยออกมาในโทนเดียวกัน

    “ว้าย!

    แม่แมวสาวเต้นเร่าๆ เครื่องหน้าทรงผมกับชุดที่รังสรรค์มาอย่างดีหมดสภาพ แถมยังส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง จากที่เมาแทบไร้สติ ตอนนี้เบิกตาโตเท่าไข่ห่านจ้องมองคนบ้าอำนาจด้วยดวงตาสีขุ่น

    มาเฟียหนุ่มก้มหน้าลงมาใกล้ แค่นเสียงเหี้ยมให้ได้ยิน

    “เป็นไงสะใจคุณหรือยัง...เคที่”

    เสร็จสรรพก็โยนเหยือกน้ำแข็งในมือทิ้ง ต่อให้หล่นลงบนหัวใคร ชายหนุ่มก็ไม่คิดจะใส่ใจ อุ้งมือร้อนผ่าวฉวยข้อมือเล็กของคนฮึดฮัดได้ ก็ดึงรั้งหรือเรียกอีกอย่างว่าลากแม่ตัวดีออกจากผับแทบไม่ทัน เล่นเอาบรรณาธิการสาวรีบตะโกนไล่หลังดังลั่น

    “นี่คุณ จะพาเพื่อนฉันไปไหน นี่นายฟาบริชปล่อยเพื่อนฉันเดี๋ยวนี้นะ”

    เจ้าของผับหยุดกึก หันกลับมามองอย่างช้าๆ พร้อมแสยะยิ้ม มือหนาชี้กราดมาตรงหน้าบรรณาธิการสาวพร้อมร้องสั่งเสียงดังลั่น

    “หุบปาก แล้วก็ย้ายก้นของเธอกลับบ้านไปได้เลย ส่วนแม่นี่ ผมจะจัดการเอง

    ลิสซี่ได้แต่อ้าปากพะงาบๆ กับน้ำคำแสนเผด็จการนั้น พยายามจะพูดทัดทานออกมาอีกครั้งหากเจ้าของน้ำเสียงเข้มๆ ก็หันไปเอ่ยกับลูกน้องที่เดินไล่หลังตามมาติดๆ

    “ดอม นายจัดการกับผู้หญิงคนนี้ด้วย”

    สั่งการจบก็ลากคนที่กระทืบเท้าอยู่ข้างๆ ให้ตรงดิ่งไปยังรถคันโปรด เปิดประตูรถได้ก็ยัดแม่แมวเปียกชื้นเข้าไปทันที ก่อนจะรีบกระโดดขึ้นรถเหยียบคันเร่งออกไปแทบมิดไมล์

    ลิสซี่ เพิร์ลรัซได้แต่มองตามท้ายรถไปจนลับสายตา ก่อนจะหันมามองคนที่ก้าวมาประชิดตัว พร้อมโพล่งถามด้วยความสงสัย

    “เจ้านายคุณคงไม่ฆ่าเพื่อนฉันหรอกใช่ไหม”

    “คงงั้น” ดอม เคิร์ทบอกออกมาพร้อมยักไหล่

    “ให้ตายสิ คำตอบของคุณนี่มันทำให้ฉันอยากจะบ้าตายจริงๆ พอกันเลยทั้งเจ้านายและลูกน้อง”

    ต่อว่าแค่นั้นบรรณาธิการสาวก็สะบัดหน้าพรืดใส่ เดินนวยนาดกลับไปที่รถคันโปรด ก้าวขึ้นรถได้ก็ยกมือปิดหน้าปิดตาพร้อมพึมพำเบาๆ

    “แด็ดปีเตอร์ขา...อย่าฆ่าลิสซี่เลยนะคะ ลิสซี่ขอโทษ”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×