ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Nor like(yaoi)

    ลำดับตอนที่ #25 : Nor Like 22 - Our promise

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.81K
      16
      5 ก.ค. 53

    Nor like

    Chapter 22 Our Promise

    By HS Black Ranger



    ย่างเข้าเดือนกรกฎาคม พายุฝนถูกแทนที่ด้วยอากาศที่เริ่มร้อนอบอ้าวขึ้นตามลำดับ อุณหภูมิที่สูงขึ้นนั้นไม่ใช่เป็นเพราะอากาศเพียงอย่างเดียว หากแต่รวมถึงบรรยากาศระอุอ้าวเนื่องจากการแข่งขันอินเตอร์ไฮน์รอบคัดเลือกที่ใกล้จะมาถึง ซึ่งทำให้บรรดาชมรมกีฬาทั้งหลายกระตือรือร้นเต็มที่ และเพิ่มตารางเวลาซ้อมให้แน่นเอี้ยดกว่าเดิม

    ...แม้แต่ชมรมคาราเต้ที่ปกติก็ซ้อมโหดอยู่แล้ว...

    ทาคาฮาระ มิสึรุ ได้แปรตนเองมาเป็นผู้จัดการชมรมอย่างสมบูรณ์ และทำให้คนในชมรมรู้ว่าหน้าตาไม่ได้บอกทุกสิ่งเสมอไป... เวลาจริงจังของมิสึรุคือจริงจัง ยามใดที่สวมชุดคาราเต้ เด็กหนุ่มร่างเล็กจะแปลงร่างจากเทวดาตัวน้อยไปเป็นจอมมารในพริบตา

    และคนที่ซวยที่สุดในที่นี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากกัปตัน มัตสึริ มินามิ ผู้ที่ซวยซ้ำซวยซากต้องมาเป็นคู่ซ้อมให้ผู้จัดการกิติมศักดิ์ยามที่ท่านต้องการจะสาธิตให้คนในชมรมดู เพราะมิสึรุยืนกรานหนักแน่นว่ายังไงๆ ก็จะ ‘ไม่ยอม’ ให้สึโยชิเป็นคู่ซ้อมแน่ๆ กัปตันผู้น่าสงสารเลยต้องรับเคราะห์แทนไปตามระเบียบ

    แต่ถึงกระนั้น...ความเอาจริงเอาจังเนื่องจากการแข่งขันอินเตอร์ไฮน์ที่ใกล้จะมาถึงก็ไม่อาจกลบกระแสข่าวลือกระฉ่อนสะท้านโรง เรียนที่ว่า สุดหล่อแห่งปี 1 คาวามูระ นารุมิ มีความสัมพันธ์ลึกลับกับ เอจิซึ ยูยะ เพื่อนสนิทที่เป็นผู้ชาย! และแน่นอน... คนปล่อยข่าวลือจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากพ่อสื่อตัวดีที่ปล่อยข่าวคาวให้กระจายไปทั่วโรงเรียน

    แผนการณ์ของสึโยชิคือสร้างกระแส...ยิ่งนารุมิได้รับความนิยมจากสาวๆ มากเท่าไหร่แผนของเขาก็ยิ่งประสบความสำเร็จมากขึ้นเท่านั้น จากนิสัยของนารุมิ ถ้ายูยะโดนรังแกล่ะก็หมอนั่นจะไม่มีวันอยู่เฉยๆแน่ แถมยูยะก็จะได้เห็นความดีของนารุมิ

    ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว!

    แถมตอนนี้...ในสายตาของยูยะภาพลักษณ์ของเขาเริ่มจะแตกเป็นเสี่ยงๆ หลายวันมานี้เขาพูดกับยูยะนับคำได้ และแน่นอน ...ทุกคำมีแต่ความเย็นชา... จนบางทีที่เขาเห็นสีหน้าของร่างบอบบางนั่น ก็เกือบจะเผลอใจอ่อนไปหลายครั้ง ....แต่อะไรบางอย่าง... กลับคอยเตือนเขาเสมอว่าต้องทำให้สำเร็จ เพราะไม่อยาก ...ให้นารุมิต้องผิดหวัง...






    “ตอนนี้รู้สึกยังไงบ้างล่ะสึโยะจัง?”คำถามของมิสึรุที่ดูเหมือนคนฟังจะไม่ได้ยินเพราะจิตใจล่องลอยไปไกลแสนไกล...

    สนามหญ้าหลังโรงเรียนกลายเป็นที่กินข้าวกลางวันของมิสึรุกับสึโยชิไปโดยปริยาย เนื่องจากสึโยชิต้องการจะหลบหน้ายูยะและทำเหมือนกับว่าเขาและมิสึรุมี ‘อะไรๆ’ ที่พิเศษต่อกัน อีกทั้งยังเป็นการเปิดโอกาสให้ยูยะกับนารุมิ แต่ดูเหมือนแผนนี้คนที่ไม่พอใจที่สุดกลับกลายนารุมิไปเสียได้?

    “จะกลับไปกินข้าวที่ห้องก็ได้นะสึโยะจัง เดี๋ยวกลับไปกินเป็นเพื่อน”เมื่อเห็นว่าสึโยชิไม่ตอบและเอาแต่จ้องไปยังห้องเบื้องบน มิสึรุเลยตอบให้เสร็จสรรพ

    ร่างเล็กบางยิ้มนิดๆให้กับเพื่อนตั้งแต่เด็กที่หันกลับมามองอย่างรวดเร็ว มิสึรุทำนิ่งเสียเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นและรอให้อีกฝ่ายเอ่ยออกมาเอง

    “นายคิดว่าฉันอยากขึ้นไปกินข้าวข้างบนมากนักหรือไง?”สึโยชิทำสีหน้าปั้นยาก ลุกลี้ลุกลนเหมือนทุกครั้งที่เคยโกหก แค่เห็นมิสึรุก็รับรู้ได้ทันที

    “ก็เห็นสึโยะจังมองไปทางชั้นสามบ่อยๆ ก็นึกว่าอยากกลับไปกินที่ห้อง”

    “ไม่ใช่ซะหน่อย”เด็กหนุ่มตอบอุบอิบ ก้มลงสนใจกับกล่องข้าวที่ถูกลืมเลือนอีกครั้ง

    มิสึรุได้แต่ถอนหายใจเฮือกใหญ่กับความดื้อรั้นของคนตรงหน้า เป็นเพื่อนกันมาสิบกว่าปี ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าสึโยชิน่ะรู้สึกยังไงบ้าง? แต่ความดื้อดึงของเจ้าตัวน่ะแหละที่เป็นอุปสรรคสำคัญ แถมยังหัวแข็งยิ่งกว่าใครๆ...บางที...เจ้าตัวเองก็อาจจะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ารู้สึกยังไงกันแน่...



    “ทำอย่างนี้ ระวังจะเสียใจเองนะสึโยะจัง”คำพูดที่เรียกสายตาของคนฟังให้เงยขึ้นมอง นัยน์เล็กหยีกระพริบถี่ๆ 2-3 ครั้งอย่างไม่ค่อยจะเข้าใจนัก

    “เสียใจเรื่อง?”

    “ก็นารุมิ...กับยูยะ”

    “ไม่เห็นมีอะไรจะต้องเสียใจ สองคนนั้นไปด้วยกันได้ดีน่ะมันก็ดีกับฉันจะตาย”สึโยชิหลบสายตาคาดคั้นของมิสึรุ เด็กหนุ่มทำทีเป็นสนใจกล่องข้าวว่างเปล่าเสียเต็มประดา

    “คิดอย่างนั้น...แน่เหรอสึโยะจัง?”

    คำพูดที่แผ่วหวิวคล้ายสายลมพัดแต่กลับบาดลึกไปถึงขั้วหัวใจ... ความเงียบครอบคลุมในบรรยากาศจนรู้สึกถึงเสียงหัวใจที่เต้น...รุนแรง...ด้วยความกลัวที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน...

    “แน่นอนสิ...”คำพูดที่เหมือนย้ำกับตนเองมากกว่าคำตอบ และมิสึรุก็รับรู้ได้...

    ...สึโยะจังน่ะโกหกไม่เก่งเลยนะ...





    “นายหลบหน้าฉันทำไมสึโยชิ?”

    มาแล้ว....น้ำเสียงเย็นชากว่าเคยด้วยสิคราวนี้...

    สึโยชิค่อยๆเงยหน้าขึ้นมาผชิญกับร่างสูงกว่าที่ดักรอเขาอยู่ที่ห้องเรียนตอนเย็น เด็กหนุ่มส่งยิ้มสดใสขัดตาทัพก่อนจะเดินตรงไปหาเจ้าของดวงหน้าเย็นเยียบที่นั่งรออยู่บนโต๊ะของเขา

    “ยูยะล่ะ?”คำถามแรกของวันดูเหมือนจะไม่ค่อยเข้าหูนารุมินัก เพราะหมอนั่นไม่ตอบ ได้แต่ทำหน้าบูดบึ้งเหมือนไปโกรธใครมาเป็นปีๆ

    “นายตอบไม่ตรงคำถามสึโยชิ...ฉันถามว่านายหลบหน้าฉันทำไม?”

    “ก็...ไม่ได้หลบ”

    “โกหก”น้ำเสียงของนารุมิเริ่มจะเย็นเยียบขึ้นทุกขณะ และสึโยชิก็ชักจะเริ่มโมโหขึ้นมาตะหงิดๆ เหมือนกัน

    “ฉันจะหลบหน้านายทำไม หืม...นารุมิ สำคัญตัวผิดไปหน่อยรึเปล่า?”

    สิ้นคำ นัยน์ตาของนารุมิลุกโชติช่วงถลึงมองร่างเบื้องหน้าที่ยังคงแย้มยิ้มหวาน เด็กหนุ่มรู้สึกเหมือนโดนตบหน้าจนชาด้วยคำพูดของร่างโปร่งตรงหน้า และก็ยิ่งรู้สึกเหมือนถูกน้ำเย็นสาดซ้ำด้วยคำพูดต่อมา...

    “ฉันก็แค่ไปอยู่กับมิสึรุเพื่อเปิดโอกาสให้นายเท่านั้น ไม่ได้หลบหน้าสักหน่อย”

    “...แล้วหลายวันมานี้อยู่กับยูยะน่ะมีอะไรคืบหน้าบ้างรึเปล่าล่ะ?”คำถามต่อมาของสึโยชิได้เพียงความเงียบเป็นคำตอบ...

    หัวใจของเด็กหนุ่มเต้นโลดเมื่อดวงตาคมเข้มเบื้องหน้าจ้องลึกเข้าไปในดวงตาเขาคล้ายจะหยั่ง ร่างโปร่งจ้องตอบได้เพียงไม่นานก็ต้องเบือนสายตาหนีเสียเพราะอะไรบางอย่างมันบีบหัวใจจนเจ็บจี๊ดเพียงเพราะแค่เห็นความผิดหวังฉ ายวาบในประกายตาของคู่สนทนา

    “นายยังจำสัญญาของเราได้ไหมนารุมิ...”เขาพูดโดยไม่มองหน้า และอีกฝ่ายก็ยังยอมไม่ตอบคำถามใดๆ

    “ที่ฉันบอกว่า...ถ้านายเดทครั้งแรกกับยูยะเสร็จฉันจะบอกว่าต้องทำอะไร...”

    “แต่ฉันยังไม่ได้เดทกับยูยะ?”

    “แต่ฉันจะบอกไว้ก่อน”สึโยชิพูดรัวเร็ว จ้องตอบนัยน์ตาสีดำสนิทคู่นั้น

    หัวใจของเขาถูกบีบจนชา... มันทรมานแบบที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน แต่...ในเมื่อก้าวมาแล้วเขาก็ไม่คิดจะถอยหลัง... สัญญาคือสัญญา

    “เสาร์นี้ นายไปเดทกับยูยะซะฉันจะเตรียมโปรแกรมไว้ให้..แล้ว...”



    “นายต้องสารภาพรักกับยูยะ...”






    To be continue
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×