ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    กิ๊กหัวใจให้ลงล๊อก (Yuri)

    ลำดับตอนที่ #24 : คืนข้ามปี

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.53K
      13
      15 พ.ค. 53

    บนเตียงนอนเดียวขนาดมาตรฐานมีสองร่างที่นอนหลับสนิท เพราะเหนื่อยอ่อนจากกิจกรรมยามราตรี จนกระทั้งตะวันขึ้นสู่ท้องฟ้า ร่างหนาในอ้อมกอดรู้สึกตัวตื่นขึ้นเพราะแสงสว่างที่ส่องลอดมาจากหน้าต่าง รัตเกล้าเหลือบไปมองใบหน้าที่หลับสนิทของมินจูก่อนที่จะค่อยๆแกะแขนเรียวออกจากร่างตัวเองช้าๆขยับจะลุกออกจากเตียง แต่กลับถูกฉุดกลับลงไปนอนบนเตียงนุ่มอีกครั้งด้วยฝีมือของคนที่เธอคิดว่ายังไม่ตื่นนั้นเอง

    “จะไปไหน”

    “คุณมินจู ตื่นแล้วหรอค่ะ”รัตเกล้ามองร่างบางที่ลุกขึ้นมาคร่อมร่างของตัวเอง เธอรู้สึกตกใจเพราะไม่คิดว่าจะถูกมินจูจู่โจมแบบนี้

    “ตื่นแล้วๆเธอจะไปไหน ยังไม่ได้ตอบคำถามของฉันเลย”

    “วันนี้เป็นวันส่งท้ายปีเก่า พรุ่งนี้จะปีใหม่แล้วฉันจะออกไปหาซื้อของมาทำบุญค่ะ”เธอตอบ

    “จริงสินะ พรุ่งนี้จะปีใหม่แล้ว งั้นเดี๋ยวค่อยไปก็แล้วกัน”มินจูพูดจบก็เอาจมูกเล็กๆของตัวเองซุกไซ้ไปตามซอกคอของรัตเกล้า

    “เอ๊ะ!อย่าค่ะ คุณมินจู เมื่อคืนคุณก็แทบจะไม่ได้นอนเลยนะ”รัตเกล้าพยายามดันร่างบางออก แต่มินจูกลับกอดรัดแน่นมากขึ้นจนเอไม่อาจต้านทานอารมณ์เสน่หาได้

    “เธอรู้มั้ย ว่าฉันต้องเร่งงานให้เสร็จทั้งหมดเพื่อที่จะได้หยุดอยู่กับเธอนะ เพราะฉะนั้นเธอห้ามขัดใจฉัน”

    “นี่ คุณอย่าบอกนะว่าคุณจัดการเคลียร์งานเพื่อที่จะมาอยู่กับฉันในวันหยุดปีใหม่”

    “อย่าเข้าใจผิด ไม่ใช่เพื่อเธอสักหน่อย ฉันอยากจะมาหาความสุขใส่ตัวเองมากกว่า คนอย่างฉันไม่เคยมีวันหยุดหรอก”

    “งั้นคุณก็ไม่เคยได้หยุดพักผ่อนบ้างเลยหรอ”

    “ส่วนใหญ่ฉันจะพักเพื่อซ้อมวิชา”

    “นั้นไม่ได้เรียกว่าหยุดพักหรอกนะคุณมินจู แล้วที่คุณกำลังจะทำอยู่เนี่ยเค้าไม่ได้เรียกว่าพักผ่อนหรอก”พูดไปเธอก็ดันร่างบางที่ยังคงซุกไซหยอกอยู่ที่หน้าอกที่มันเริ่มจะตื่นตัวขึ้นมาอีกครั้งด้วยแรงปรารถนาที่มินจูจุดประกายให้

    “แต่สำหรับฉันมันคือการพักผ่อน หุบปากของเธอซะ”มินจูตัดรำคาญด้วยการปิดปากของรัตเกล้า

    หญิงสาวตกอยู่ใต้อำนาจแห่งการควบคุมของมินจูอีกครั้ง รัตเกล้าไม่สามารถปฏิเสธจุมพิตที่มินจูมอบให้ได้เลยสักครั้ง รัตเกล้าไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมเธอต้องยอมผู้หญิงคนนี้อยู่เรื่อย หรือว่าเป็นเพราะเธอชอบเรื่องบนเตียงหรือเปล่านะ หรือไม่ก็อาจจะเป็นเพราะพวกเธอต่างก็เหงา จึงทำให้พวกเธอรู้สึกต้องการกันและกันอย่างไม่รู้จักคำว่าพอ และมันก็เป็นคำถามที่ผุดขึ้นมาในใจของรัตเกล้าทุกครั้งที่ถูกมินจูกอด

     

    สองข้างทางบนท้องถนนในเซี้ยะเหมินถูกประดับประดาด้วยโคมไฟสีแดง เพื่อเตรียมฉลองต้อนรับปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่ชั่วโมง ผู้คนในเมืองต่างก็ออกมาจับจ่ายซื้อของในตลาดร้านค้ากันอย่างเนื่องแน่นตั้งแต่เช้าแล้ว สองสาวเดินฝ่าฝูงชนออกจากย่านร้านค้าอย่างทุลักทุเล แม้จะซื้อของแค่นิดเดียวแต่ก็ต้องเดินเบียดเสียดกับคนมากมายที่ออกมาหาซื้อของเพื่อฉลองวันปีใหม่ มินจูโอบเอวหนาของรัตเกล้าแนบกับตัวเพื่อกันเธอให้ออกห่างจากคนที่ส่วนไปมา รัตเกล้ามองใบหน้านวลของคนข้างกายรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาอย่างประหลาด มันเป็นความรู้สึกที่เธอต้องการและเคยได้รับสัมผัสนี้จากใครบางคนเมื่อนานมาแล้ว

    รัตเกล้ากับมินจูช่วยกันทำอาหารเพื่อฉลองคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ตามแบบฉบับของรัตเกล้า เธอคอยสั่งมินจูให้จัดนั้นทำนี่ ร่างสูงก็ทำตามที่เธอบอกอย่างเห็นว่าเป็นเรื่องสนุก จนกระทั้งโต๊ะอาหารสำหรับสองคนก็เสร็จพร้อมรับประทาน รัตเกล้าทำอาหารง่ายๆจากวัตถุดิบที่พวกเธอเพิ่งออกไปซื้อมาเมื่อตอนเย็นนั้นเอง และช่วงเวลาดีๆของทั้งสองสาวก็เกิดขึ้น รัตเกล้ารู้สึกมีความสุขและความอบอุ่นอยู่รอบๆตัวยามเมื่อได้อยู่ใกล้ชิดกับมินจู ส่วนมินจูนั้นก็รู้สึกดีที่ได้มีรัตเกล้ามาอยู่เคียงข้างในคืนที่เธอไม่เคยเห็นว่ามันสำคัญเหมือนกับคนอื่นๆ ที่ยึดเอาวันนี้เป็นวันสำคัญของตัวเอง ในใจของมินจูเองก็รู้สึกมีความสุขอย่างที่ไม่เคยได้รู้สึกมาก่อน....

     

    ขณะเดียวกันที่ด้านหลังร้านอาหารจานด่วน เทียนสินในชุดดำอำพรางตัวเดินย่องมาที่ประตูหลังร้าน เด็กหนุ่มแอบเข้ามาทางห้องครัวเพื่อมาเอาของส่วนหนึ่งที่เขาได้แอบซุกซ่อนเอาไว้ในห้องครัว เทียนสินเปิดตู้ที่อยู่ใต้อ่างล้างจานเพื่อหยิบเอาห้อสีดำที่เขาแอบเอามาไว้เมื่อวานนี้ก่อนที่ร้านจะปิด เด็กหนุ่มยิ้มที่มุมปากเมื่อได้ของที่ต้องการ เสียงฝีเท้าของคนในบ้านทำให้เทียนสินสะดุ้งรีบมุดเข้าไปหลบอยู่ใต้โต๊ะที่ใช้สำหรับวางของ ประตูห้องครัวถูกเปิดออกพร้อมกับน่องขาอวบๆที่เขาคุ้นเคย ของนางมารร้ายนั้นเอง และอีกเรียวขาคู่หนึ่งที่เขาไม่คุ้นเอาซะเลย

    “เอาจานวางเลยค่ะ เดี๋ยวฉันล้างเอง”รัตเกล้าหันไปบอกร่างสูงที่เดินตามหลังเธอเข้ามา พร้อมกับวางแก้วน้ำลงในอ่างล้าง

    รัตเกล้าลงมือล้างจานเก็บแก้วอย่างรวดเร็ว โดยมีมินจูยืนพิงขอบโต๊ะวางของมองแผ่นหลังที่อยู่หน้าตู้เก็บจาน ก่อนที่จะเดินเข้าไปสวมกอดร่างอวบนั้นจากด้านหลัง

    “อุ้ย!อย่านะ เดี๋ยวเถอะ”รัตเกล้าหันไปส่งสายตาดุๆใส่มินจูที่กำลังสนุกอยู่กับการขย่ำหน้าอกเธอเล่น

    “หยุดก่อนได้มั้ยค่ะ เดี๋ยวคืนนี้พวกเรายังต้องฉลองปีใหม่อีกนะ ฉันจะเอาเทียนไปจุดที่หน้าต่างห้อง”รัตเกล้าพยายามแกะมือปลาหมึกของมินจูออก

    “จะจุดเทียนทำไม นี่!อย่าบอกนะว่าเธอเป็นพวกซาดิสซ์ชอบเอาแส้เฆี่ยนเอาเทียนลน”

    “จะบ้าหรอ จุดเทียนฉลองปีใหม่ย่ะ ปล่อย!”รัตเกล้าสลัดมินจูหลุดได้ก็รีบเดินออกไปทันที โดยที่ยังคงมีมินจูตามประกบไม่ยอมห่าง

    เสียงปิดประตูตามมาด้วยเสียงของฝีเท้าที่เบาลง ร่างที่แอบอยู่ใต้โต๊ะก็ค่อยๆคลานออกมา เด็กหนุ่มรู้สึกอึ้งที่ได้รู้รสนิยมของรัตเกล้า มิน่าล่ะ นางมารร้ายตัวนี้ถึงได้ชอบโขกสับเขานัก ที่แท้ก็ไม่ชอบของแท้นี่เอง แล้วคนที่เป็นคู่ของเจ้าหล่อนก็รู้สึกคุ้นๆเหมือนเคยเจอที่ไหนเสียด้วย เทียนสินรีบปัดภาพของสองสาวที่เพิ่งเห็นในห้องครัวนี้ออกไป เก็บของที่ตัวเองต้องการลงกระเป๋าก่อนที่จะย่องออกไปเงียบๆ

                                    ..........................................................................

    แสงเทียนสีทองที่ส่องประกายอยู่ที่ริมหน้าต่าง สร้างความเพลิดเพลินใจให้แก่รัตเกล้าไม่น้อย ทำให้ร่างที่นอนเหยียดยาวอยู่บนเตียงลอบมองเธออย่างสนใจ รัตเกล้าขยับกายลุกขึ้นไปเปิดโน้ตบุ๊กที่วางอยู่บนโต๊ะ เสียงเพลงเบาๆดังคลอเข้ากับบรรยากาศ มินจูยันกายลุกขึ้นนั่งมองร่างอวบที่เดินกลับมานั่งจ้องแสงเทียนที่หน้าต่างอีกครั้ง รัตเกล้าฮึมเพลงเบาๆมินจูก็นั่งมองเธอเหมือนคนที่ตกอยู่ในมนต์สะกด ยิ่งกายสาวต้องแสงเทียนด้วยแล้ว ยิ่งทำให้มินจูแทบไม่ยอมละสายตาจากรัตเกล้าเลยสักวินาที

    “เพลงอะไรน่ะ”มินจูถาม

    “เพลงคืนข้ามปีค่ะ”เธอหันมาตอบก่อนที่จะเปล่งเสียงร้องออกมาอย่างเต็มเสียง

                    อยากมีคนพิเศษอยู่ในคืนพิเศษ

    คืนสำคัญอีกคืนที่ต้องอยู่อย่างเหงาใจ

    อยากมีคนพิเศษ จับมือเดินข้ามผ่าน...

    คืนสำคัญอีกคืนที่ความเหงาคืบคลาน...หัวใจ

    มินจูขยับกายเข้าหารัตเกล้าเหมือนกับว่าเธอเป็นดั่งแม่เหล็ก ที่ดึงดูดให้มินจูเข้าหา

    “แล้วฉัน พอจะเป็นคนพิเศษให้กับเธอ ในคืนนี้ได้มั้ย”รัตเกล้านิ่งอึ้งสบสายตากับดวงตาเล็กเรียวที่มองเธออย่างหวานซึ้ง

    “ฉันไม่เตยมีคนพิเศษอยู่ฉลองปีใหม่ด้วยเลย ถ้าคุณอยากเป็น คุณก็จะเป็นคนพิเศษคนแรกของฉัน”เธอตอบอย่างเขินๆ

    “ฉันเองก็ไม่เคยฉลองปีใหม่กับใครเลยเหมือนกัน”

    “คุณทำแต่งานอย่างเดียวเลยหรือไง”

    “อืม...แล้วฉันก็ไม่เห็นว่าวันนี้มันจะสำคัญอะไรด้วย”

    “แล้วตอนนี้ล่ะ คุณคิดว่ามันต่างไปจากเดิมที่คุณเคยคิดมั้ย”คำถามของรัตเกล้าทำให้มินจูถึงกับเงียบ ดวงตาเรียวหรี่สายตาลง

    “นั้นสิ ฉันรู้สึกได้ว่ามันต่างไปจากเดิม”

    “ฉันก็รู้สึกเหมือนกัน ขอบคุณนะค่ะ ที่อยู่เป็นคนพิเศษของฉันในคืนข้ามปี”รัตเกล้าส่งยิ้มบางๆให้มินจู

    เสียงเฮดังแววมาแต่ไกล นี่คงใกล้จะถึงเวลาที่จะสิ้นสุดปีเก่าแล้วแน่ๆ ที่ตรงบริเวณมหาวิทยาลัยถึงได้กู่ร้องตะโกนบอกต่อๆกัน บรรดานักศึกษาแล้วประชาชนที่อยู่ร่วมฉลองในคืนวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ต่างก็ตะโกนนับถอยหลัง รัตเกล้ารู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที

    “คุณมินจู ใกล้ถึงเวลาแล้ว เรามาเคาร์ดาวน์กันเถอะ”

    “5...4...3...2...1...เฮ้!~

    “สวัสดีปีใหม่ค่ะ คุณมินจู”รัตเกล้าเอ่ยเสียงใส

    “สวัสดีปีใหม่ โรส...”มินจูส่งยิ้มบางๆให้

    สองสาวสบตากันนิ่งหัวใจของรัตเกล้าเต้นแรงเหมือนกลองรัว เมื่อสัมผัสได้ถึงลมหายใจของมินจู ดวงตากลมโตของรัตเกล้ามองคนตรงหน้าที่แสดงถึงบางสิ่งบางอย่างที่ซ่อนลึกอยู่ในใจ หัวใจของมินจูเองก็เต้นแทบไม่เป็นจังหวะด้วยเช่นกัน ใบหน้านวลทั้งสองเริ่มเข้าหากันช้าๆเหมือนเป็นแม่เหล็กขั้วบวกกับขั้วลบ ริมฝีปากบางสัมผัสกันอย่างแผ่วเบาสร้างความรัญจวนใจอย่างประหลาดให้กับพวกเธอยิ่งนัก มินจูพรมจูบที่พวงแก้มแดงของรัตเกล้าอย่างทะนุทนอม สองมือเรียวก็ลูบไล้แผ่นหลังหนา  รัตเกล้าตอบสนองรสสัมผัสของมินจูด้วยเสียงครางเบาๆ สองมือก็โอบกอดโน้มคอระหงให้แนบชิดลึกซึ้งกว่าเดิม มินจูรู้สึกพออกพอใจกับปฏิกิริยาของรัตเกล้าเธอจึงไม่อ้อมค้อมอีกต่อไป

    “เธอต้องการฉันหรือเปล่า”คำถามที่ถูกกระซิบอย่างแผ่วเบาที่ข้างหูของรัตเกล้าทำให้เธอหน้าแดงซ่าน เธอมองหน้ามินจูพร้อมกับพยักหน้ายอมรับ

    มินจูยิ้มรับอย่างยินดีก่อนที่จะเริ่มทำตามใจปรารถนาของรัตเกล้า ท่ามกลางเสียงโฮ่ร้องฉลองต้อนรับปีใหม่ที่ดังแววมาตามสายลม

     

    ช่วงเวลาที่ได้อยู่ร่วมกับรัตเกล้ามันทำให้หัวใจของมินจูรู้สึกเป็นสุขยิ่งนัก จนแทบไม่อยากจะออกห่างจากเธอเลยสักวินาที แต่รัตเกล้าก็ชอบขัดใจเธออยู่ร่ำไป มินจูจำใจออกไปเดินเที่ยวเล่นกับรัตเกล้าในย่านการค้าของวัยรุ่นตามความต้องการของเธอ หญิงสาวเดินดูอยู่หลายร้านจนมาหยุดอยู่ที่ร้านขายเสื้อผ้าร้านหนึ่ง รัตเกล้าชี้ไปที่เสื้อเชิ้ตตัวหนึ่งให้คนขายหยิบเอามาให้ เสื้อเชิ้ตแบบวัยรุ่นทันสมัยถูกทาบลงบนตัวของมินจู

    “น่ารัก คุณใส่เสื้อตัวนี้แล้วน่ารักนะ”รัตเกล้าอมยิ้มในขณะที่มินจูขมวดคิ้วมองเธอเงียบๆ

    รัตเกล้าจัดการจ่ายเงินค่าเสื้อเชิ้ตตัวนั้นอย่างไม่ลังเลใจ แต่มินจูกลับรู้สึกไม่ชอบใจเอาเสียเลยที่รัตเกล้าทำตัวเป็นเจ้าบุญทุ่มซื้อของให้ตัวเอง

    “ทำไมไม่ให้ฉันจ่ายล่ะ”

    “ของแค่นี้ ฉันจ่ายให้คุณได้น่า คุณอย่าคิดมากเลย ข้าวของมากมายคุณก็ซื้อให้ฉันตั้งเยอะ ฉันซื้อเสื้อให้คุณตัวไม่กี่ตังแค่นี้เอง ถือซะว่านี่คือของขวัญปีใหม่จากใจฉันก็แล้วกันนะค่ะ”รัตเกล้าส่งถุงเสื้อให้มินจู ร่างสูงมองถุงเสื้อที่รัตเกล้าซื้อให้อย่างลังเล

    “คุณมินจู การที่คุณเป็นผู้ให้มันก็ดีนะ แต่คุณก็ควรที่จะเป็นผู้รับบ้าง”

    สาวสองยืนสบตากันนิ่ง จนรัตเกล้าต้องเป็นฝ่ายละสายตาออกไปก่อนเพราะสำนึกได้ว่าตอนนี้พวกเธอนั้นอยู่ที่ไหน แล้วยัดถุงเสื้อใส่มือมินจู ร่างสูงยืนมองถุงนั้นอย่างกับว่ามันคือสิ่งที่เธอไม่เคยรู้จัก

    “ทำไมไม่ชอบหรอ”รัตเกล้าถาม

    “เปล่า แค่...รู้สึกดี”มินจูตอบอ้อมแอ้มใบหน้านวลแดงระเรื่อ

    รัตเกล้าเองก็รู้สึกดีเช่นเดียวกันกับมินจู เธอเดินเข้าไปคล้องแบนเรียวอย่างออดอ้อน มินจูรู้สึกแปลกใจกับการกระทำของรัตเกล้า เพราะเธอไม่เคยทำแบบนี้กับมินจูเลยสักครั้ง เวลาเดินด้วยกันทีไรรัตเกล้าจะระวังไม่ให้ถูกตัวของมินจูอยู่เสมอ แต่ท่าทางขี้อ้อนของคนข้างกายมินจูในตอนนี้นั้น ทำให้มินจูมองรัตเกล้าด้วยสายตาที่หลงใหลมากกว่าเดิม

    ร่างสูงชะงักฝีเท้าเมื่อสัมผัสได้ถึงความไม่ชอบมาพากลบางอย่าง มินจูหันกลับไปมองด้านหลังอย่างรวดเร็ว ดวงตาเล็กเรียวพยายามจับผิดทุกโฟกัสที่น่าสงสัย ใบหน้าที่เคร่งขรึมของมินจูทำให้รัตเกล้ารู้สึกแปลกใจ

    “มีอะไรหรอค่ะ คุณมินจู”

    “ฉันรู้สึกเหมือนกับว่า กำลังถูกใครบางคนจับตามองอยู่”มินจูเอ่ยหลังจากที่เงียบไปสักพัก รัตเกล้าจึงช่วยส่งสายตามองหาแต่มองไปตรงไหนก็มีแต่คู่หนุ่มสาวที่ออกมาเดินเที่ยวฉลองปีใหม่กันทั้งนั้น

    “ไม่เห็นจะมีอะไรเลย ฉันว่าคุณคิดไปเองหรือเปล่า ที่คุณบอกว่ามีคนมองเรา อาจจะเป็นเพราะว่าพวกเราเป็นผู้หญิงเหมือนกันหรือเปล่า”รัตเกล้าเริ่มกังวลกับวัฒนธรรมและประเพณีของที่นี่

    “ไม่ใช่หรอก ที่นี่สังคมยุคใหม่มันเปิดกว้างแล้ว และที่สำคัญคนอย่างฉันถ้าพอใจจะทำอะไร ก็ไม่มีใครหน้าไหนมีสิทธิ์มากำหนดฉัน”

    “งั้น...ฉันคิดว่าคงไม่มีอะไรหรอกมั้ง พวกเราไปกันต่อเถอะค่ะ”รัตเกล้ากระตุกแขนเรียวเป็นเชิงให้ออกเดินไปด้วยกัน

    มินจูจึงจำใจเดินตามที่รัตเกล้าต้องการ แต่ภายในใจของเธอนั้นยังคงสงสัยถึงความรู้สึกที่สัมผัสได้ก่อนหน้านี้

     

    ร่างใหญ่ในชุดเสื้อโค้ทหนายืนซุ่มอยู่ตรงมุมร้านค้า สายตาก็จบจ้องไปที่สองสาวที่เดินควงแขนเข้าร้านขายโทรศัพท์มือถือ ร่างนั้นค่อยๆเดินฝ่าผู้คนที่ออกมาเดินเที่ยวฉลองปีใหม่กันอย่างคลาคล่ำ กล้องดิจิตอลขนาดเล็กถูกเอาออกมาจากกระเป๋า จับภาพไปที่สองสาวนั้นอย่างจงใจ สาวร่างสูงที่กำลังช่วยหญิงสาวอีกคนเลือกโทรศัพท์อยู่ภายในร้านหันควับมามองยังตำแหน่งที่ร่างใหญ่ยืนอยู่ แต่เจ้าของกล้องก็ไวเช่นกัน หลบสายตาระวังภัยของคนตรงนั้นได้ทัน

     

    “มีอะไรหรอค่ะ คุณมินจู”รัตเกล้าหันไปถามคนข้างกายของตัวเอง เมื่อเห็นว่ามินจูมัวแต่มองออกไปนอกร้าน

    “ปะ...เปล่า ไม่มีอะไร”มินจูหันมาเอ่ยกับเธอ

    “ฉันว่าคุณไม่เห็นจำเป็นต้องซื้อโทรศัพท์ให้ฉันเลยนะ”

    “จำเป็นสิ ถ้าเกิดว่าฉันมีอะไรอยากจะคุยกับเธอ จะได้ไม่ต้องโทรไปฝากเพื่อนเธออีกยังไงล่ะ”มินจูจัดการจ่ายเงินค่าโทรศัพท์ให้ ก่อนที่จะส่งถุงโทรศัพท์นั้นให้เธอ รัตเกล้ามองที่ถุงสลับกับใบหน้าของมินจู

    “ไม่ต้องคิดมากเลย ของที่ฉันซื้อให้เธอต้องรับ”

    รัตเกล้าจึงจำใจรับถุงโทรศัพท์ซึ่งเป็นแบบใหม่ล่าสุดและดีที่สุดในร้าน

    “อ๋อ!แล้วถ้าฉันโทรหาเมื่อไหร่ เธอต้องรับ ห้ามช้า เข้าจัย!”พูดจบก็เดินลากร่างอวบออกไปด้วยกันทันที

    รัตเกล้าได้แต่ถอนหายใจอย่างระอาในนิสัยเอาแต่ใจตัวเองของมินจู แต่ก็แอบอมยิ้มอยู่ในใจที่มินจูซื้อโทรศัพท์ให้

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×