ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    กิ๊กหัวใจให้ลงล๊อก (Yuri)

    ลำดับตอนที่ #26 : กับดัก

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.39K
      11
      30 พ.ค. 53

    ตั้งแต่น้องปูนำข่าวลับๆของเทียนสินมาบอกเล่า รัตเกล้าก็คอยแอบสังเกตพฤติกรรมของเด็กหนุ่มอยู่ตลอดเวลา จนกระทั้งปิดร้านรัตเกล้าก็บอกกับกีรติว่าจะออกไปซื้อของ แต่ความจริงแล้วเธอแอบสะกดรอยตามเด็กหนุ่มไปจนถึงสวนสาธารณะ รัตเกล้าเห็นเทียนสินโบกไม้โบกมือให้กับเด็กหนุ่มอีกคนหนึ่งที่มายืนรออยู่ก่อนหน้านี้แล้ว เทียนสินทักทายเด็กหนุ่มคนนั้นพร้อมกับล้วงเอาอะไรบางอย่างออกมาจากกระเป๋าสะพายส่งให้ ส่วนเด็กหนุ่มคนนั้นเมื่อได้รับของก็ส่งเงินให้ รัตเกล้าที่แอบซุ่มอยู่ไม่ไกลนักมั่นใจว่าสิ่งที่เธอเห็นคือการซื้อขายยาเสพติดอย่างแน่นอน แต่ทว่าสิ่งที่เห็นในตอนนี้มันไม่เพียงพอที่จะเอาผิด คนอย่างเทียนสินคงไม่ยอมรับง่ายๆแน่ เห็นทีว่าเธอจะต้องหาหลักฐานให้มันมากกว่านี้เสียแล้ว

     

    รถยนต์สีดำคันใหญ่แล่นเข้ามาจอดที่หน้าสถานบันเทิงซึ่งก็เป็นหนึ่งในกิจการของตระกูลโจว ร่างสูงในชุดสูทสีดำเดินออกมาจากรถ เด็กรับรถที่ยืนให้บริการและเรียกแขกอยู่ข้างหน้า เห็นว่าเป็นต้าอี้ก็รีบเข้ามารับหน้าอย่างประจบประแจง

    “สวัสดีครับ หัวหน้าต้า”

    “ตันซูอยู่มั้ย”ต้าอี้ถาม

    “อยู่ครับหัวหน้า เชิญทางนี้เลยครับ”เด็กรับรถรีบนำทางต้าอี้ไปพบกับคนที่ต้องการทันที

    เด็กนำทางพาต้าอี้ไปยังห้องอาบน้ำรวม ซึ่งที่นั้นเองก็มีลูกค้าชายมาใช้บริการอยู่หลายคน ต้าอี้เดินตามร่างเล็กของเด็กรับรถจนมาถึงโซนวีไอพี และที่นั้นเองเขาก็ได้พบกับคนที่เขาต้องการ ตันซู หรือที่ใครๆเรียกว่าพี่ใหญ่ตันกำลังนอนให้สาวทรงโตนวดเฟ้นตามร่างกายอย่างสบายอารมณ์

    “อ้าว!หัวหน้า จะมาทำไมไม่โทรนัดผมล่ะครับ”ตันซูรีบลุกขึ้นเชื้อเชิญต้าอี้อย่างเกรงใจ ก่อนที่จะไล่ให้สาวๆออกไปก่อน

    “พอดีฉันมีเรื่องด่วนก็เลยไม่ได้โทรบอกแกก่อน ว่าแต่ว่ากิจการเป็นยังไงบ้างล่ะ”ต้าอี้นั่งลงที่เก้าอี้ไม่ซึ่งลูกน้องของตันซูจัดหามาให้อย่างเอาใจ

    “ก็ดีครับหัวหน้า ว่าแต่หัวหน้ามีอะไรให้ผมรับใช้หรือครับ ถึงได้มาอย่างกะทันหันแบบนี้”ตันซูเอ่ยพร้อมกับเสริฟน้ำชาให้อย่างนอบน้อม

    “ฉันมีงานให้แกทำ”ต้าอี้เอ่ยพร้อมกับหยิบซองสีน้ำตาลออกมาจากประเป๋าเสื้อสูทส่งให้ตันซู เขารับพร้อมกับเปิดออกดู

    “ฉันต้องการตัวผู้หญิงในรูปนี้ ยิ่งเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี ส่วนเงินนั้นเป็นรางวัลเล็กๆน้อยๆจากนายใหญ่”ต้าอี้อธิบายเมื่อตันซูเปิดดูรูปของเป้าหมายที่อยู่ในซองพร้อมกับเงินสดจำนวนหนึ่ง

    ตันซูอ่านรายละเอียดและดูรูปถ่ายอย่างพิจารณา ก่อนที่จะเอ่ยออกมาอย่างมั่นใจ

    “ไม่มีปัญหาครับ ผมจะจัดให้ตามที่หัวหน้าต้องการ ในไม่ช้านี้อย่างแน่นอนครับ”

                    ................................................................................................

    ในเย็นวันหนึ่งขณะที่ทุกคนกำลังช่วยกันเก็บกวาดร้าน เทียนสินเก็บขยะหน้าร้านใส่ถุงดำก่อนที่จะเดินหิ้วไปด้านหลังร้าน รัตเกล้าเห็นเด็กหนุ่มหายเข้าไปในห้องครัวก็แอบเดินตามโดยที่เด็กหนุ่มไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกเธอจับตามองอยู่ รัตเกล้ายืนหลบอยู่ที่หลังประตูห้องครัว ระหว่างนั้นเทียนสินก็กลับออกมาจากทิ้งขยะเดินเข้าห้องครัวมาพอดี เด็กหนุ่มเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าอ่างล้างจาน และเมื่อเห็นว่าไม่มีใครเข้ามาแล้วเขาก็ก้มลงไปเปิดตู้ที่อยู่ใต้อ่างล้างจาน ควานหาสิ่งที่ต้องการก่อนที่จะหยิบออกมาใส่กระเป๋ากางเกง กิจการลับๆของเขากำลังไปได้สวย มีคนสนใจสินค้าของเขาเพิ่มขึ้น เขาจึงจำเป็นต้องเอาของบางส่วนแอบเอามาซ่อนไว้ที่ร้าน เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเสียเวลากลับไปเอาที่บ้าน เด็กหนุ่มจัดการปิดประตูตู้ให้เรียบร้อยก่อนที่จะฮัมเพลงออกมาอย่างอารมณ์ดี แต่ก็ต้องสะดุ้งเมื่อนางมารร้ายยืนอยู่ที่หน้าประตู

    “นั้น เธอทำอะไรน่ะ”รัตเกล้ามองเด็กหนุ่มด้วยแววตาดุดัน

    “เปล่านี่ ฉันก็แค่เอาขยะไปทิ้ง”เทียนสินทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้จะเดินออกจากห้องครัว แต่รัตเกล้ากลับเดินเข้ามาขวางไว้

    “เธอซ่อนอะไรไว้ในตู้นั้น อย่านึกว่าฉันไม่รู้นะ”รัตเกล้าเอ่ยเสียงแข็งจนเด็กหนุ่มเริ่มใจฝ่อแต่ก็ทำเป็นปากแข็ง

    “เธอพูดอะไร ฉันไม่เห็นจะรู้เรื่องเลย”

    “อยากให้รู้เรื่องใช่มั้ย แล้วนี่อะไร!”รัตเกล้ากระชากเอาสิ่งที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงของเด็กหนุ่มออกมา สร้างความตกใจให้เทียนสินไม่น้อย

    “อะ...นะ...นั้นมันเรื่องของฉัน”เทียนสินตรงเข้าไปแย่งห่อกระดาษเล็กๆจากมือของรัตเกล้า จึงเกิดการยื้อแย้งกันขึ้น แต่รัตเกล้าได้แสดงถึงกำลังที่เหนือกว่าทั้งรูปร่างและสัดส่วน ผลักร่างของเด็กหนุ่มกลับเข้าไปในห้องครัว

    “ฉันไม่นึกเลยนะ ว่าเธอจะกล้าทำเรื่องเลวๆแบบนี้อีก”รัตเกล้ากดร่างบางของเด็กหนุ่มติดกำพื้นด้วยกำลังที่เหนือกว่า แต่เทียนสินก็ยังไม่ยอมจำนนง่ายๆ

    “อย่ามายุ่งกับเรื่องของฉันนะ เอาของๆฉันคืนมา”

    “อยากได้ของๆเธอคืนนักใช่มั้ย งั้นก็ได้ แต่เธอต้องสัญญากับฉันก่อน ว่าเธอจะเลิกขายเลิกยุ่งเกี่ยวกับของเลวๆแบบนี้อีก”รัตเกล้าเอ่ยเสียงเหี้ยม

    เทียนสินมองใบหน้าที่ดูน่ากลัวของรัตเกล้าพร้อมกับกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น นางมารร้ายตัวนี้น่ากลัวจริงๆ แต่เพื่อให้ได้ของแล้วยังไงก็คงต้องยอมรับปากไปก่อน

    “กะ...ก็ได้”เด็กหนุ่มตอบไปแบบส่งๆ

    รัตเกล้าปล่อยร่างเด็กหนุ่มให้เป็นอิสระพร้อมกับโยนห่อกระดาษของต้องห้ามทิ้งอย่างไม่ใยดี

    “ฉันจะเชื่อเธอ แต่ถ้าเธอยังทำอีกล่ะก็ อย่าหาว่าฉันไม่เตือน”รัตเกล้าปรายสายตามองเทียนสินอีกครั้งก่อนที่จะเดินออกไป

    เทียนสินถึงกับเข่าอ่อน เพียงแค่เห็นดวงตาดุร้ายของนางมารเขาถึงกับหมดเรี่ยวหมดแรง แววตาของนางมารร้ายทำเอาเด็กหนุ่มถึงกับเสี้ยวสันหลังไม่หาย เห็นทีเขาต้องหาวิธีอื่นไม่ให้นางมารร้ายตัวนี้จับได้อีกเสียแล้ว

     

    คืนนั้นกีรติต้องแปลกใจอีกครั้งเมื่อเห็นรัตเกล้าควงคมแฝกฟาดใส่หุ่นฟาง เธอเริ่มวิตกกังวลเพราะเกรงว่าจะมีเรื่องเหมือนครั้งนักฆ่าเถาไปไป เพราะใบหน้าของเพื่อนสาวดูน่ากลัวขึ้นทุกทีที่วาดกระบวนท่าคมแฝก ด้วยความเป็นห่วงกีรติจึงตัดสินใจเดินเข้าไปถาม

    “โรส แกมีเรื่องอะไรในใจหรือเปล่า”

    รัตเกล้าชะงักมือที่กำลังตวัดตีหุ่นฟาง หันไปมองเพื่อนสาวนิดนึงก่อนที่จะตอบ

    “เปล่านี่”พูดจบเธอก็วาดคมแฝกอีกครั้ง

    “บอกตามตรงนะ ทุกครั้งที่ฉันเห็นแกเอาคมแฝกออกมาตีทีไร ฉันก็กลัวว่าแกจะมีเรื่องเหมือนกับคราวก่อนอีกว่ะ”ใบหน้าของกีรติยามนี้ดูเศร้าหมองจนรัตเกล้าต้องหยุด แล้วหันไปปลอบเพื่อนแทน

    “แกอย่าเป็นกังวลไปเลย ที่ฉันเอาคมแฝกออกมาตีก็เพราะว่าฉันแค่เครียดๆเลยอยากระบายออกก็เท่านั้นเอง”

    “ถ้าแกเครียด งั้นเราก็ปิดร้านไปเที่ยวคลายเครียดกันดีมั้ย”

    “อย่าเลย แกอย่าลืมสิว่าเงินที่หมุนร้านของเราให้พี่เหมยลี่กู้ไปจนติดตัวแดงไปหมด แล้วอีกอย่างพวกเราก็เพิ่งปิดร้านไปตอนปีใหม่จะให้ฉันหยุดได้ยังไง แกอย่าห่วงฉันจนเวอร์ไปเลย เนี่ย!ฉันหายเครียดแล้ว พวกเราก็เข้าบ้านกันเถอะ”รัตเกล้าดันร่างของเพื่อนรักให้เข้าบ้านโดยที่เธอกอดคอกีรติไว้เพื่อปลอบใจ

    รัตเกล้ารู้ดีว่ากีรติเป็นห่วงเธอมาก เรื่องร้ายๆที่ผ่านเข้ามาหากไม่ได้เพื่อนคนนี้คอยช่วยอยู่ข้างหลัง เธอก็คงไมได้มีชีวิตรอดมาจนถึงทุกวันนี้แน่ ต่อไปนี้เธอคงต้องระวังเรื่องความห่ามของตัวเองไม่ให้เพื่อนสาวต้องเป็นห่วงอีก

     

    เด็กหนุ่มสองคนเดินเข้าสถานบริการอาบอบนวด ซึ่งมันก็เป็นเรื่องปกติของที่นี่ที่มักจะมีแขกหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่เข้ามาใช้บริการเป็นประจำ แต่สองหนุ่มคนล่าสุดที่เพิ่งเดินเข้าไปไม่ได้มาเพื่อใช้บริการ แต่มาเพื่อจุดประสงค์อื่นมากกว่า เทียนสินเดินเหวี่ยงแข้งเหวี่ยงขาอย่างหงุดหงิด จนเพื่อนที่มาด้วยรู้สึกสงสัยว่าอะไรทำให้เพื่อนของเขามีอาการอย่างนี้

    “เป็นอะไรของแกวะ เทียนสิน”

    “อารมณ์ไม่ดีวะ”

    “แล้วมันเรื่องอะไรหรอวะ บอกข้าได้นะเผื่อจะมีทางแก้”

    “ก็นางมารร้ายที่ร้านที่ข้าทำงานอยู่นะสิ มันจับได้ว่าข้าเอาของไปพักไว้ในร้าน ข้าก็เลยหงุดหงิดอยู่นี่ไงล่ะ”

    “โธ่ แล้วแกจะกลัวทำไมว่ะ  สั่งสอนมันไปเลยสิ”

    “ข้าไม่ได้กลัวมัน แต่แม่ข้าต้องทำงานที่ร้านนั้นเพื่อใช้หนี้ ถึงข้าจะมีเงินใช้หนี้ แต่นังนั้นมันก็ไม่ยอมรับ มันจะให้ข้าทำงานแทนการใช้หนี้”เทียนสินออกตัวเพราะเกรงว่าเพื่อนจะรู้ว่าตนนั้นกลัวรัตเกล้า

    “โห โคตรเคี่ยวเลยวะ ข้าว่านะ ถ้ามีโอกาสเล่นงานต้องเอาให้เจ็บซะบ้าง”

    เทียนสินมองหน้าเพื่อนอย่างเห็นด้วย สองหนุ่มเดินมาถึงหน้าห้องทำงานของตันซู ทั้งสองโค้งให้ชายวัยกลางคนที่กำลังนั่งดูดบุหรี่ไปพลางดูรูปไปพลางอยู่ที่โต๊ะทำงาน

    “ว่ายังไง เทียนสิน ช่วงนี้กิจการของนายดูเหมือนว่ากำลังไปได้สวยเลยนี่”ตันซูเอ่ยทักพร้อมกับเอารูปโยนทิ้งบนโต๊ะ

    “ครับ ผมถึงต้องมาขอซื้อของเพิ่มจากพี่ใหญ่อีกไงล่ะครับ”เทียนสินเอ่ยอย่างนอบน้อม

    ตันซูมองหน้าเด็กหนุ่มยิ้มน้อยๆที่มุมปาก ก่อนที่จะหยิบเอาของที่ห่อด้วยกระดาษสีน้ำตาลออกมาจากลิ้นชักโต๊ะ เทียนสินหยิบเงินค่าของส่งให้ตันซูนับที่โต๊ะ

    “ต้องอย่างนี้สิ อยู่กับข้าแล้วจะรุ่ง จำไว้นะ”ตันซูนั่งนับเงินก้อนนั้นอย่างอารมณ์ดี

    เทียนสินหยิบห่อสีน้ำตาลนั้นที่โต๊ะเมื่อชำระค่าของเป็นไปอย่างถูกต้อง แล้วสายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นรูปถ่ายบนโต๊ะ เด็กหนุ่มหยิบรูปใบนั้นขึ้นมาดู ดวงตาเบิกกว้างอย่างตกใจ

    “ทำอะไรน่ะ”ตันซูส่งสายตามองเด็กหนุ่มอย่างไม่พอใจที่มาหยิบของบนโต๊ะโดยพลการ

    “เอ่อ...คือว่าผู้หญิงคนนี้...”

    “ทำไม แกรู้จักอย่างนั้นหรอ”ตันซูเลิกคิ้วถาม

    “คะ...ครับ ผมรู้จักผู้หญิงคนนี้ หล่อนเป็นเจ้าของร้านที่ผมไปทำงานตอนกลางวันครับ พี่ใหญ่”

    “ดี ดีมาก เทียนสิน แกอยากได้เงินเพิ่มอีกมั้ย”ตันซูมองหน้าเด็กหนุ่มอย่างมีความนัย

    “อยากสิครับ ว่าแต่มีงานอะไรให้ผมทำหรอครับ”เทียนสินถามอย่างยินดี

    “ฉันต้องการตัวผู้หญิงคนนี้ แกจะพาตัวมาให้ฉันได้มั้ย งานนี้ฉันให้ค่าจ้างแกงามแน่นอน”

    “เอาตัวนางมารร้ายเนี่ยนะครับ! ทำไมพี่ใหญ่ถึงอยากได้หล่อนล่ะครับ”

    “ไม่ใช่ว่าฉันนึกอยากจะได้ นายใหญ่ต่างหากที่อยากได้ ว่าไง ทำได้หรือเปล่า”

    “ทำได้ครับ ทำได้ แล้วพี่ใหญ่จะเอาตัวหล่อนเมื่อไหร่ล่ะครับ”

    “ถ้าเป็นไปได้ พรุ่งนี้เลยก็ยิ่งดี”เทียนสินพยักหน้ารับ สายตามองไปที่รูปถ่ายอีกครั้ง

    ภาพของหญิงสาวที่ถูกขยายจนเห็นหน้าตาอย่างชัดเจน แม้จะไม่มีแว่นตาเหมือนอย่างที่เขาเคยเห็นแต่เทียนสินก็จำได้ว่าเธอคือใคร เด็กหนุ่มนึกกระหยิ่มอยู่ในใจ คราวนี้แหละคงถึงเวลาที่จะได้แก้แค้นเสียที

                                    .................................................................................

    บรรยากาศในช่วงกลางวันของร้านอาหารจานด่วนยังคงเนืองแน่นไปดูกลุ่มนักศึกษา ที่เข้ามาฝากท้องไว้ที่ร้านอาหารไทยแห่งนี้ เทียนสินก็ยังคงทำงานที่ร้านตามปกติ โดยที่ยังคงมีสายตาของใครบางคนที่แอบมองชำเลืองเด็กหนุ่มอยู่เป็นระยะๆ รัตเกล้าคอยสังเกตพฤติกรรมของเทียนสินอยู่ตลอดเวลา เธอยังไม่ไว้วางใจในตัวของเด็กหนุ่มนัก เพราะเธอรู้ดีว่าหากก้าวเข้าสู่วงการมืดนี้แล้วก็ยากนักที่จะถอนตัวออกมาได้ง่าย จนกระทั้งถึงเวลาปิดร้าน รัตเกล้าเห็นเทียนสินทำลับๆล่อๆอยู่ที่ประตูหลังห้องครัวก่อนที่จะผลุบหายเข้าไป เธอจึงไม่รอช้ารีบสะกดรอบตามเทียนสินออกไปทันที เด็กหนุ่มเดินออกจากประตูหลังร้านไปพบเด็กหนุ่มอีกคนหนึ่ง ซึ่งคงมายืนรออยู่ก่อนหน้านี้แล้ว

    “รอนานมั้ยวะ”เทียนสินเอ่ยทักเด็กหนุ่มคนนั้น

    “ข้าเพิ่งมาถึง แล้วของล่ะได้มาแล้วหรือยัง”

    “ได้มาแล้ว เราไปกันเถอะ เดี๋ยวพี่ใหญ่จะรอนาน”เทียนสินเอ่ยพร้อมกับดันร่างของเพื่อนชายให้ออกเดินไปด้วยกัน

    รัตเกล้าที่แอบมองอยู่หลังประตูห้องครัว เห็นภาพเหตุการณ์ของทั้งสองหนุ่มก็รู้สึกสงสัยในพฤติกรรมของเด็กหนุ่มทั้งสอง จนพวกเขาพากันเดินออกไปรัตเกล้าจึงตัดสินใจสะกดรอยตาม

     

    เทียนสินกับเพื่อนชายเดินหายเข้าไปในสถานเริงรมสำหรับผู้ชายแห่งหนึ่ง โดยมีสายตาคู่หนึ่งที่แอบตามมาหลบอยู่ตรงหัวมุมถนน รัตเกล้ากวาดสายตาสำรวจถนนที่ทั้งสองข้างทางเต็มไปด้วยแหล่งบันเทิงยามราตรี แล้วอดสงสัยไมได้ว่าเทียนสินมาทำอะไรในสถานที่แบบนี้ หรือว่าที่นี่เป็นแหล่งยาเสพติดที่เด็กหนุ่มเอามาขาย หากว่าสิ่งที่เธอกำลังคิดอยู่นั้นเป็นเรื่องจริงเห็นทีเธอคงต้องขอคำปรึกษาจากมินจูเสียแล้ว รัตเกล้าเดินออกมาจากที่หลบซ่อนเพื่อกลับไปยังบ้านพัก แต่ทว่าร่างของเด็กหนุ่มที่เธอเห็นเดินหายเข้าไปในร้านอาบอบนวดนั้น เดินออกมาจากร้านขายเหล้าที่อยู่ถัดไปไม่ไกลนักเข้ามาขวางทางเดินของเธอ

    “ตามฉันมาทำไม จะมาหาเรื่องอะไรฉันอีก”เทียนสินตวาดอย่างเอาเรื่อง

    “ก็ถ้าเธอไม่ผิด เธอจะร้อนตัวทำไม”รัตเกล้าตอกกลับอย่างไม่ยอมแพ้เช่นกัน

    “ฉันไมได้ทำอะไรผิดทั้งนั้น”เด็กหนุ่มยังคงเถียงกลับ

    “เชอะ ก็ขอให้มันจริงเหอะ หลีกไป ฉันจะกลับ”รัตเกล้าตวาดลั่นส่งสายตาดุดันใส่

    “หลีกหรอ เห็นทีฉันคงจะหลีกทางให้เธอไม่ได้หรอกนะ เพราะว่ามีคนๆนึงเขาอยากเจอเธอ”รัตเกล้าจ้องหน้าเด็กหนุ่มอย่างไม่เข้าใจ

    ขณะที่รัตเกล้ากำลังยืนถกเถียงกับเทียนสินอยู่นั้นเอง ชายฉกรรจ์สี่คนเดินมาออกมาจากที่ซ่อนยืนอยู่เบื้องหลังเธอ รัตเกล้าสัมผัสได้ถึงอันตรายบางอย่าง เธอหันควับไปมองเห็นว่ามีผู้ชายท่าทางไม่น่าไว้วางใจอยู่ข้างหลังก็ส่งสายตามองอย่างเอาเรื่อง

    “เทียนสิน พี่ใหญ่ให้ฉันมาเอาของ”ชายหนึ่งในสี่เอ่ยขึ้นพร้อมกับกวาดสายตามองรัตเกล้าอย่างสำรวจ วันนี้คงเป็นเพราะเธออยู่ในชุดเสื้อยืดกางเกงวอร์มธรรมดาๆล่ะมั้ง พวกมันถึงได้มองเธอเหมือนตัวประหลาด

    “เชิญพวกพี่เอาไปได้เลย ผมจะได้ขอรับค่าเหนื่อยเลยทีเดียว”รัตเกล้ามองเทียนสินสลับกับกลุ่มชายฉกรรจ์อย่างงุนงง

    ชายคนนั้นแสยะยิ้มก่อนที่จะพยักเพยิกหน้า พวกที่เหลือก็ตรงเข้าไปจับร่างของเธอ

    “ว้าย!อะไรกันเนี่ย พวกแกมาจับฉันทำไม ปล่อยนะ!”รัตเกล้าตกใจร้องลั่นพยายามสะบัดแขนให้หลุดจากพันธนาการ

    “หนวกหูจริง! จัดการทีสิ”

    ชายอีกคนที่มาด้วยกันหยิบเอาอะไรบางอย่างออกมาจากประเป๋าเสื้อ รัตเกล้าที่กำลังยื้อยุดฉุดกระชากอยู่กับชายอีกสองคน ไม่ทันระวังมือใหญ่ที่ถือผ้าสีขาวเข้ามาปิดจมูกและปากของเธอ กลิ่นยาเหม็นๆจากผ้าทำให้สติของรัตเกล้าดับวูบลง...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×