ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    กิ๊กหัวใจให้ลงล๊อก (Yuri)

    ลำดับตอนที่ #34 : จับผิด

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.78K
      13
      5 ก.ค. 53

    เสียงเอะอะที่ดังแว่วมาจากด้านล่างทำให้ร่างบางที่นั่งอยู่บนโต๊ะทำงานละสายตาจากหน้าจอโน้ตบุ๊ก มินจูขมวดคิ้วเรียวเล็กมองไปทางหน้าต่างอย่างสงสัย เฉินลองที่กำลังตรวจดูเอกสารอยู่ไม่ไกลก็หันไปมองด้วยเช่นกัน และด้วยสัณชาติญาณของผู้มีวิชาเมื่อฟังเสียงที่แว่วมาตามลมก็รู้ได้ทันทีว่ากำลังเกิดการต่อสู้ขึ้น มินจูรีบลุกขึ้นไปดูที่หน้าต่างอย่างร้อนรนและตามมาด้วยเฉินลอง ภาพที่ทั้งสองได้เห็นคือ จิงสงที่กำลังถูกรัตเกล้าหวดด้วยคมแฝกจนเซ

    “นึกว่ามีเรื่องอะไรเสียอีก ที่แท้ก็กำลังสนุกอยู่นี่เอง”มินจูมองภาพที่เกิดขึ้นด้านล่างอย่างพอใจ เมื่อได้เห็นรัตเกล้ากลับมาสดใสอีกครั้ง

    ซึ่งต่างจากเฉินลองที่มองรัตเกล้าอย่างระแวดระวังภัย หญิงสาวได้ครอบครองอาวุธคู่กายอีกครั้ง เธอคงกำลังคิดที่จะทำอะไรอยู่แน่ แต่จะเป็นเรื่องอะไรนั้นเขาคงจะต้องสืบหาด้วยตัวเองเสียแล้ว

     

    ที่พื้นสนามหญ้าเบื้องล่างเสียงปรบมือจากผู้ชมที่ยืนดูการต่อสู้ ระหว่างศิลปะมวยจีนกับศิลปะมวยไทยอย่างตื่นเต้น เทียนสินที่ไม่เคยรู้ว่าเวลาที่หญิงสาวเอาจริงจะน่ากลัวถึงเพียงนี้ จิงสงยอมรับและนับถือความสามารถในชั้นเชิงการต่อสู้ของรัตเกล้า ถึงขนาดยกย่องหญิงสาวให้เป็นจอมยุทธ์คมแฝก

    “คุณจิงสงก็พูดเกินไป ฉันไม่ได้เก่งถึงขนาดเป็นจอมยุทธ์อะไรนั้นหรอกค่ะ”รัตเกล้าเอ่ยถ่อมตน

    “ใช่แล้วค่ะ โรสมันก็เป็นแค่มือสมัครเล่น ถ้ามันเก่งจริงคงไม่ถูกพวกนั้นลักพาตัวมาได้ง่ายๆหรอก”กีรติแอบเหน็บ

    “ไม่หรอกครับ ผมว่านายหญิงน้อยมีฝีมือร้ายกาจมากเลยทีเดียว เมื่อครูนี้ถ้านายหญิงน้อยไม่ยั้งมือไว้บ้าง ผมคงเจ็บหนักกว่านี้”จิงสงเอ่ยพร้อมกับเอามือไปกุมที่สีข้างตำแหน่งที่ถูกเธอตี

    “เอ๊ะ!คุณจิงสงรู้ได้ยังไงค่ะ”รัตเกล้าถามอย่างแปลกใจ

    “จากน้ำหนักที่นายหญิงน้อยตีผมยังไงล่ะครับ ปกติถ้าโดนไม้เนื้อแข็งขนาดนี้เข้าไป จะทำให้เกิดอาการฟอกช้ำจากข้างในได้ แต่ที่นายหญิงน้อยตีใส่ แค่ต้องการให้ผมหยุดชะงักเท่านั้น ผมพูดถูกหรือเปล่าครับ”คำอธิบายของจิงสงทำให้รัตเกล้าถึงกับทึ้ง เพราะสิ่งที่บอดี้การ์ดหนุ่มพูดมานั้นเป็นเรื่องจริงทั้งหมด

    “คุณจิงสงนี่เก่งพอๆกับคุณมินจูเลย”

    “ไม่หรอกครับ นายหญิงใหญ่กับผมฝีมือเทียบกันไม่ได้หรอกครับ”จิงสงไม่ได้เอ่ยถ่อมตน หากแต่ฝีมือในการต่อสู้ของมินจูนั้นเลิศล่ำเหนือคำบรรยายจริงๆ

     

    ประตูห้องนอนใหญ่ของเจ้าบ้านเปิดออกพร้อมกับร่างหนา ที่เดินถือถุงผ้าที่ห่อคมแฝกไว้เข้ามาอย่างอารมณ์ดี หลังจากที่ส่งเพื่อนสาวกับสองแม่ลูกเข้าห้องพักที่เธอให้สาวใช้จัดเตรียมไว้ให้เรียบร้อยแล้ว เธอจึงกลับมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องเพื่อรอเวลาลงไปรับประทานอาหารเย็น รัตเกล้าชะงักฝีเท้าเมื่อเห็นร่างบางของเจ้าของห้อง นั่งทำงานผ่านหน้าจอโน้ตบุ๊กอยู่ที่โต๊ะหนังสือ เธอหยุดมองมินจูแล้วครุ่นคิดถึงเรื่องที่หนี่วาได้บอกกับเธอไว้ ใบหน้าเนียนก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ พักนี้มินจูดูแลเอาใจใส่นุ่มนวลอ่อนหวานกับเธอมาก แม้นว่าเมื่อคืนสองร่างจะประสานกายแนบชิดกันแต่มินจูก็ไม่ได้บังคับเหมือนช่วงแรกที่เธอมาอยู่ที่บ้านหลังนี้ เธอถูกร่างสูงนั้นสัมผัสอย่างอ่อนหวานทุกอณูจนหลงเพลิดเพลินกับความหวานนั้นจนเกือบรุ่ง

    มินจูนั่งตรวจเช็คตารางงานของตนอยู่ได้ยินเสียงประตูเปิด เธอก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นรัตเกล้าที่เข้ามา เพราะไม่มีใครที่สามารถเดินเข้าออกห้องนี้ได้นอกจากเจ้าของห้องกับเธอเท่านั้น เสียงฝีเท้าของหญิงสาวเงียบไปทำให้มินจูเหลือบไปมอง ใบหน้าของรัตเกล้าแดงก่ำจนมินจูต้องใจร้องออกมา

    “เธอเป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมหน้าแดงแบบนี้”ร่างสูงรีลุกขึ้นไปหาคนที่ยืนเงะงะอย่างเป็นห่วง

    “ฝืนออกแรงมากไปจนมีไข้หรือเปล่า ไหนมาให้ฉันดูหน่อยซิ”มือบางจะเอื้อมไปแตะหน้าผาก แต่รัตเกล้ากลับเบี่ยงตัวหลบด้วยความตกใจ ทำให้มินจูต้องคว้าแขนเธอดึงกลับมา ร่างหนาจึงเซถลาเข้าหาอ้อมกอดของมินจูอย่างไม่ได้ตั้งใจ จนเธอเผลอทำถุงคมแฝกหลุดมือโดยไม่รู้ตัว

    “จะหนีฉันไปไหนล่ะ ขอฉันดูหน่อยว่าเธอมีไข้หรือเปล่า”มินจูดุร่างที่ยืนตัวเกร็งอยู่ในอ้อมแขน ก่อนที่จะใช้มือบางแตะที่หน้าผากของเธอ

    “ตัวก็ไม่ร้อนมาก แต่ทำไมหน้าแดงแบบนี้”มินจูเอ่ยอย่างสงสัย

    “ก็ฉัน...ไม่ได้เป็นอะไรนี่ค่ะ ปะ..ปล่อยได้แล้ว”รัตเกล้าเอ่ยตะกุกตะกัก รู้สึกว่าหัวใจจะเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมา เมื่อใบหน้าของมินจูโน้มเข้ามาใกล้

    “สงสัยว่า ฉัน...คงแค่เหนื่อย พักสักครู่คงจะดีขึ้น”

    “คงจะเล่นสนุกมากเกินไป จนฝืนกำลังของตัวเอง ทีหน้าทีหลังก็ระวังหน่อย”มินจูคลายวงแขนออก และทันทีที่เธอเป็นอิสระ รัตเกล้าก็รีบผละออกจากร่างสูงอย่างรวดเร็ว

    “เอ่อ...ฉันขอตัว ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะค่ะ”รัตเกล้าบอกก่อนที่จะวิ่งหายเข้าไปในห้องน้ำ

    มินจูมองร่างที่ลับหายเข้าไปในห้องน้ำอย่างเป็นห่วงก่อนที่จะเหลือบไปเห็นถุงผ้าที่ตกบนพื้น เธอเก็บมันขึ้นมาด้วยความแปลกใจ ว่าทำไมรัตเกล้าถึงทำของสำคัญตกไว้แบบนี้

    รัตเกล้ายืนเหงื่อแตกซิกอยู่หลังประตูห้องน้ำพร้อมกับเอามือทาบที่หน้าอกด้านซ้าย ที่มันยังคงเต้นตึกตักๆเหมือนกลองรัว มันเกิดอะไรขึ้นกับหัวใจของเธอนะ รัตเกล้าสูดลมลึกๆหายใจเข้าเต็มปอดเพื่อหวังบรรเทาอาการ แต่มันกลับไม่เป็นอย่างที่เธอหวัง เมื่อภาพใบหน้าที่โน้มเข้ามาใกล้เธอของมินจูผุดขึ้นมา หัวใจก็เต้นรัวไม่ยอมหยุด จนเธอควบคุมความรู้สึกของตัวเองไม่ได้ นี่...เธอเผลอมีใจให้มินจูเข้าแล้วหรือนี่

                    ..................................................................................

    โต๊ะอาหารถูกจัดที่นั่งเพิ่มอีกสามที่สำหรับแขกของรัตเกล้า ที่ได้รับสิทธิพิเศษให้พักที่บ้านหลังนี้ได้จากมินจู เทียนสินกับเหมยลี่ถึงกับมองอาหารตำหรับฮองเต้ที่มีอยู่มากมายเต็มโต๊ะอย่างตื่นเต้น ค่างจากกีรติที่รักษามารยาทบนโต๊ะอาหารสมกับเป็นลูกคุณหนูเจ้าของร้านทอง และเมื่อมินจูกับรัตเกล้านั่งประจำที่ทุกคนจึงลงมือรับประทานอาหารพร้อมๆกัน บรรยากาศบนโต๊ะอาหารแม้จะดูอึดอัดไปบ้าง แต่จิงสงก็ค่อยสร้างสีสันให้พุกคนได้ผ่อนคลายเมื่อเขาเอ่ยชมนายหญิงของตน ที่ได้คนมีฝีมืออย่างรัตเกล้ามาอยู่ข้างกาย

    “ดิฉันก็ได้ยินมาจากพวกเด็กๆในครัวเหมือนกัน ว่าได้เห็นความสามารถของนายหญิงน้อย เสียดายที่ดิฉันไม่ได้ออกไปเห็นด้วยตาของตัวเอง เห็นพวกเด็กๆว่านายหญิงน้อยมีความสามารถเหมือนนายหญิงใหญ่”แม่นมเหวินเอ่ยอย่างภูมิใจในตัวรัตเกล้ามาก

    “ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ คุณแม่นม ถ้าพูดถึงเรื่องนี้หนูเทียบกับคุณมินจูไม่ติดหรอกค่ะ”เธอเอ่ยด้วยความสัจจริง เพราะได้เห็นความร้ายกาจของมีดสั้นอาวุธประจำกายของมินจูมาแล้ว

    “เอ่อ...นายหญิงครับ ผมมีเรื่องอยากจะเรียนให้นายหญิงทราบ เกี่ยวกับงานครบรอบ50ปีของโรงแรมเรา ปีนี้พวกพนักงานของเราทั้งหมดอยากจะจัดงานฉลองวันเกิดให้กับนายหญิงด้วย มิทราบว่านายหญิงจะว่าอย่างไหรครับ”เฉินลองว่า

    “วันเกิดของคุณมินจู เมื่อไหร่หรอค่ะ”รัตเกล้าหันไปถามร่างสูงที่นั่งอยู่ข้างกายอย่างสนใจ

    “มะรืนนี้น่ะ แต่ไม่เห็นว่าจะต้องทำให้เป็นเรื่องวุ่นวายเลย แค่จัดเลี้ยงให้กับพวกพนักงานเหมือนปีที่ผ่านๆมาก็พอ”มินจูบอกกับรัตเกล้าก่อนที่จะหันไปเอ่ยกับเฉินลอง

    “ทำแบบนี้ไม่ได้นะค่ะ ที่พนักงานของคุณทุกคนตั้งใจจัดงานเลี้ยงวันเกิดให้คุณ นั้นแสดงว่าพวกเค้าเคารพรักคุณมาก คุณจะปฏิเสธน้ำใจของพวกเค้าแบบนี้หรอค่ะ”รัตเกล้าแสดงความคิดเห็นออกมา และทุกคนก็ต่างเห้นพ้องกับเธอด้วย

    “ถ้านั้น ก็เอาตามนั้นก็ได้”มินจูว่า

    “นายหญิงใหญ่ก็ให้นายหญิงน้อยออกงานด้วยสิค่ะ จะได้เปิดหูเปิดตาบ้าง อยู่แต่ในบ้านทั้งวันนายหญิงน้อยคงจะเบื่อแย่”แม่นมเหวินเสนอ

    “โอย...ไม่เอาหรอกค่ะ ให้เจ้าของงานไปน่ะถูกแล้ว”รัตเกล้ารีบปฏิเสธทันที

    “เอาอย่างนั้นก็ได้”มินจูเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉยเหมือนเดิม แต่ทำให้ทุกคนหันไปมองอย่างตกใจ

    “ห๋า!”รัตเกล้าอ้าปากค้าง

    “ฉันเบื่อที่ต้องออกงานคนเดียว เอาเป็นว่าให้เธอไปด้วยก็แล้วกัน”คำสั่งของเจ้าบ้านใหญ่ทำให้แม่นมเหวินกับจิงสงดีใจจนออกนอกหน้า

    “เอ่อ...ไม่ดีมั้ง ฉันไม่เคยออกงาน เดี๋ยวจะทำให้คุณขายหน้าเปล่าๆ”

    “ไม่ต้องห่วงหรอก อยู่กับฉันๆไม่ปล่อยให้เธอเป็นแบบนั้นหรอก เตรียมตัวไว้ด้วยก็แล้วกัน”มินจูสรุปอย่างได้ใจความว่ายังไงๆรัตเกล้าก็ต้องไป อย่าขัดขืนให้มากความมิฉะนั้นอาจจะโดนมิใช่น้อย

     

    รัตเกล้าถือถอดอาหารมาวางลงบนโต๊ะข้างเตียง ดวงตากลมโตมองไปที่ร่างบางที่นั่งเหม่ออยู่บนเตียง หนี่วายังคงถูกโรคพิษรักเล่นงานจนร่างกายอ่อนแอลงทุกวันๆ แม้ว่าแม่นมเหวินจะให้หมอประจำบ้านมาตรวจดูอาการแล้วก็ตาม แต่โรคที่เกิดจากสภาพจิตใจแบบนี้ต่อให้เป็นหมอเทวดาก็รักษาไม่หาย รัตเกล้าแวะเวียนมาหาหญิงสาวทุกวัน แต่หนี่วาก็ไม่ยอมพูดกับเธออีกเลย ร่างหนานั่งลงบนเก้าอี้ข้างเตียง รัตเกล้าพยายามคิดหาทางช่วยหนี่วาแต่คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออกเสียที

    “คุณหนี่วาค่ะ ฉันไม่รู้ว่าฉันควรจะทำยังไง เพราะตัวฉันเองก็ไม่คิดว่าตัวเองจะเดินมาไกลขนาดนี้”รัตเกล้าหยุดพูดเพื่อดูปฏิกิริยาตอบรับจากหญิงสาว แต่เธอก็ยังคงนิ่งเฉยเหมือนเดิม

    รัตเกล้าคิดทบทวนถึงเรื่องราวต่างๆที่ผ่านเข้ามาตั้งแต่ที่เธอได้เข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ ความรู้สึกดีๆที่ทุกคนมีให้มันเริ่มมีมากขึ้นโดยเฉพาะกับจางมินจู มันคล้ายกับมีเส้นใยบางๆที่มัดค่อยๆพันธนาการพวกเธอไว้ด้วยกัน หากว่าเธอยังคงปล่อยให้เส้นใยนี้พันต่อไปต่อไปเรื่อยๆจนรัดแน่นไปกว่านี้ รัตเกล้าคงไม่มีวันตัดขาดจากมินจูได้อย่างแน่นอน และทางออกเดียวในตอนนี้ ก็คือเธอต้องรีบตัดมันเสียก่อนที่ทุกอย่างมันจะเสียเกินไป

    “คุณหนี่วา คุณเคยบอกกับฉันว่า คุณมินจูเค้ารักฉัน แต่ฉันกลับมองว่าไม่ใช่แบบนั้นเลย คุณมินจูก็แค่เห็นฉันเป็นของแปลกเท่านั้นแหละ ไม่นานเค้าก็จะเบื่อ แต่ฉันจะไม่รอให้ถึงวันนั้นหรอก อีกไม่นานฉันก็จะไปจากบ้านหลังนี้เอง เพราะว่าฉันไม่สามารถทนอยู่ในกรอบบ้าๆนี่ กับคนที่ฉัน...ไม่ได้รักไม่ได้หรอก”รัตเกล้าเอ่ยน้ำเสียงชิงชังออกไป

    ร่างบางที่นั่งเหม่ออยู่บนเตียงหันไปมองเธอ รัตเกล้าเห็นว่าหนี่วายอมหันหน้ามามองเธอก็รู้สึกยินดี ก่อนที่จะเอ่ยออกไปอีกว่า “ฉันอยากให้คุณลองเปลี่ยนแปลงตัวเองเสียใหม่ เพื่อดึงความสนใจจากคุณมินจูบ้าง เพราะคนอย่างคุณมินจูคงไม่ชอบอะไรที่เรียบง่ายจนเกินไป แล้วก็รีบมาแย่งเค้าไปจากฉันซะ”เธอเอ่ยทิ้งท้ายไว้ก่อนที่จดินออกจากห้องไป

     

    “นั้น คุณคิดจะทำอะไรกับอาวาน่ะ”เสียงหนึ่งดังขึ้นขณะที่รัตเกล้ากำลังปิดประตูห้องของหนี่วา

    เฉินลองที่ขึ้นมาเยี่ยมลูกสาวที่นอนป่วยอยู่ในห้อง บังเอิญได้ยินในสิ่งที่รัตเกล้าพูดกับลูกสาวเข้าจึงเกิดความสงสัยในตัวของเธอมากขึ้น รัตเกล้าหันไปมองร่างสูงใหญ่ของบอดี้การ์ดคู่ใจของเจ้าบ้าน ที่มองเธอด้วยแววตาที่ไม่เป็นมิตร ตั้งแต่รัตเกล้ามาอยู่ที่บ้านนี้ คงจะมีแต่เฉินลองเท่านั้นที่ไม่สนใจฐานะที่ทุกคนในบ้านต่างยกย่องเธอ

    “ฉันก็แค่อยากทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นเท่านั้นค่ะ”เธอเอ่ยเรียบๆ แต่ดวงตาของคนตรงหน้ากำลังมองเธออย่างจับผิด

    “ตั้งแต่คุณเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ ลูกสาวผมก็ป่วยจนกระทั้งวันนี้อาการก็ยังไม่ดีขึ้น คุณจะให้ผมคิดว่าสิ่งที่คุณพูดกับอาวามันจะทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นมาได้อย่างนั้นหรอ”

    “ได้ไม่ได้ก็ต้องลองดู เพราะว่าฉันก็ไม่อยากเห็นเธอในสภาพแบบนี้เหมือนกัน”รัตเกล้าว่าก่อนที่จะเดินผ่านหน้าเขาไป

    “คุณกำลังมีแผนอะไรหรือเปล่า”คำถามของเฉินลอง ทำให้รัตเกล้าชะงักหันไปมองหน้าเขาอย่างไม่งุนงง

    “ที่คุณหลอกล่อนายหญิงไว้ อย่าคิดนะว่าผมจะไม่รู้ว่าคุณกำลังมีแผนการที่ชั่วร้ายอยู่”รัตเกล้าได้ยินสิ่งที่เฉินลองเอ่ยออกมาก็ถึงกับอึ้ง นี่เขาคิดว่าเธอร้ายกาจถึงขนาดจะทำร้ายมินจูได้อย่างนั้นหรือ บอดี้การ์ดหนุ่มคนนี้คงไม่ปลื้มเธออยู่แน่ๆ

    “ก็แล้วแต่คุณจะคิดก็แล้วกัน”เธอตอบแบบส่งๆ

    “ถ้าอย่างนั้น คุณก็ควรจะระวังตัวให้ดีเถอะ เพราะผมจะจับตามองคุณทุกฝีก้าว คุณอย่าหวังเลยว่าผมจะปล่อยให้คุณทำร้ายทุกคนในบ้านตระกูลจางนี้ได้”

    รัตเกล้าถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เข้าใจอย่างชัดเจนว่าเฉินลองคนนี้คิดว่าเธอเป็นคนของศัตรูที่จะเข้ามาทำลายตระกูลจางนี่เอง มิน่าล่ะเขาถึงคอยพูดจาดักคอเธออยู่ตลอดเวลา รัตเกล้าเริ่มจะเบื่อหน่ายกับการถกเถียงกับร่างสูงอีกแล้ว

    “งั้นฉันก็หวังว่า คุณจะจับผิดฉันให้ได้เร็วๆก็แล้วกัน”

     

    ร่างหนาทิ้งตัวลงกับเตียงนอนจนทำให้เพื่อนสาวที่นั่งดูรายการโทรทัศน์อยู่หันไปมอง รัตเกล้าหลบผู้คนในบ้านมาหาที่พักใจในห้องพักของกีรติ รัตเกล้าไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเฉินลองถึงไม่ค่อยชอบเธอนัก เพราะเขาคิดว่าเธอเข้ามาในบ้านหลังนี้เพื่อทำลายตามคำสั่งของกลุ่มศัตรู เธอรู้สึกหงุดหงิดกับคำพูดของร่างใหญ่นั้น

    “เป็นอะไรของแกวะ โรส”กีรติรู้ได้จากสีหน้าของเพื่อนสาวว่าตอนนี้เธอกำลังมีเรื่องกลุ้มอยู่ในใจ

    “ฉันแค่...อยากจะไปเป็นตัวฉันคนเดิมให้ได้เร็วๆ ก็แค่นั้นเอง”

    “โรส แกรู้มั้ยว่าที่แกอยู่เนี่ย เหมือนแกกำลังจะหนีอะไรบางอย่างอยู่นะ”รัตเกล้าหันไปมองหน้ากีรติอย่างตื่น เมื่อคำพูดของเพื่อนสาวนั้นแทงเข้าที่ใจดำ

    “ฉันไม่รู้ว่าแกจะทำแบบนี้ไปทำไม ในเมื่อตอนนี้สิ่งที่แกมีอยู่ มันก็น่าจะทำให้แกมีความสุขได้ ฉันดูออกนะว่าคุณมินจู เค้ามีใจให้แก”เธอเอื้อมไปแตะบ่าเพื่อนสาว พร้อมกับเอ่ยออกมาอีกว่า “ถ้าหากว่าแกมีโอกาสใหม่เข้ามา ทำไมแกไม่ลองดูล่ะ ในเมื่อโอกาสนี้มันจะทำให้แกมีความสุข”

    รัตเกล้าได้แต่นิ่งเงียบไม่กล้าเอ่ยคำใดๆออกมา ความสับสนและความว้าวุ่นใจเข้าโจมตีจนรัตเกล้าทัดทานเอาไว้ไม่ไหว

     

    ร่างสูงของเจ้าบ้านที่เดินเข้ามาในห้องนอนของพยาบาลสาวพร้อมกับคนสนิท เพื่อดูอาการของหนี่วาที่ป่วยหนักอยู่หลายวัน แต่เมื่อเดินเข้ามาในห้องก็ต้องแปลกใจ เพราะหญิงสาวเจ้าของห้องกลับไม่ได้นอนอยู่บนเตียง แต่เธอกลับเดินออกมาต้อนรับพวกเค้าในชุดไปรเวทที่ใส่อยู่กับบ้าน

    “เธอไม่เป็นอะไรแล้วใช่มั้ย อาวา”มินจูเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง รู้สึกผิดในใจที่พักนี้ตนมัวแต่ยุ่งเรื่องงานกับเรื่องของรัตเกล้า จนละเลยอาการเจ็บป่วยของเธอ

    “ขอบคุณนายหญิงที่เป็นห่วงนะค่ะ ดิฉันรู้สึกค่อยยังชั่วแล้วล่ะค่ะ”เธอว่า

    “อืม...เห็นทุกคนบอกว่าเธออาการแย่ลงทุกวันๆ ฉันเองก็มัวแต่ยุ่งๆอยู่เลยไมได้มาเยี่ยมเธอ หวังว่าเธอคงจะไม่โกรธฉันนะ”

    “ดิฉันไม่เคยโกรธนายหญิงเลยค่ะ แค่รู้ว่านายหญิงเป็นหวัง ดิฉันก็ดีใจแล้วค่ะ”หนี่วาเดินเข้าไปจับมือร่างสูง รู้สึกยินดีที่มินจูยังมีความห่วงใยในตัวเธออยู่

    หลังจากที่รัตเกล้าได้เอ่ยคำบางอย่างทิ้งท้ายไว้ เธอก็นั่งคิดทบทวนประโยคนั้นจนเข้าใจในสิ่งที่รัตเกล้าต้องการจะบอก ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้มีใจให้นายหญิงของเธอจริงๆ มีแต่นายหญิงเท่านั้นที่หลงใหลได้ปลื้มไปเอง เพราะฉะนั้นแล้วเธอจะต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองเสียใหม่ เพื่อให้ได้หัวใจของมินจูตามที่รัตเกล้าได้เอ่อทิ้งไว้ หนี่ว่าเข้าไปคล้องแขนร่างสูงเหมือนอย่างที่เคยทำในวับเด็ก แม้ในสายตาของมินจูจะมองเธอเป็นน้องสาวขี้อ้อน แต่ร่างบางกลับมองมินจูด้วยความรักที่มุ่งมั่นอย่างเต็มเปี่ยม



    ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า ขอขอบคุณ ทุกคนมากคร่าที่เป็นห่วงไรเตอร์

    ตอนนี้หัวใจของไรเตอร์เข้มแข็งขึ้นมาได้เยอะแล้ว

    ไม่ใช่เพราะเค้าคนนั้นกลับมา แต่เป็นเพราะไรเตอร์ได้รับกำลังใจจากทุกคน

    ทำให้วันนี้ไรเตอร์สามารถยืนลุกขึ้นสู้มาได้ ไม่อ่อนแอเหมือนกับวันวาน

    แม้คนๆนั้นจะไม่เห็นคุณค่าในตัวไรเตอร์ แต่ยังดีที่มีอีกหลายๆคนเห็นคุณค่าที่ไรเตอร์มี

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×