ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    กิ๊กหัวใจให้ลงล๊อก (Yuri)

    ลำดับตอนที่ #37 : คู่พิฆาต(ตอนแรก)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.4K
      13
      21 ก.ค. 53

    มาอัพแล้วจ้า มารออยู่แล้วล่ะสิ งั้นจะรออยู่ทำไมไปลุ้นเรื่องราวกันต่อเถอะ.... ขออภัยที่อัพช้า ไรเตอร์กำกับคิวบู้เพลินไปหน่อย



    หลังจากที่รัตเกล้าออกมาจากห้องจัดเลี้ยงได้แล้ว เธอก็บอกแผนการเอาคืนให้จิงสงรู้และบังคับให้เขาร่วมมือด้วย แรกๆบอดี้การ์ดหนุ่มไม่เห็นด้วยกับแผนการของเธอสักเท่าไหร่ แต่พอได้ยินเรื่องราวความคับแค้นใจของรัตเกล้าที่ถูกหนุ่มใหญ่สกุลโจวทำไว้ จึงตกลงช่วยเหลือตามที่เธอต้องการ จิงสงจัดการเรียกตัวสาวนักเต้นตามที่รัตเกล้าขอ เมื่อรัตเกล้าแปลงโฉมตัวเองเสร็จเรียบร้อยแผนการที่เธอวางไว้ก็เริ่มขึ้น

    รัตเกล้ายืนสังเกตการณ์อยู่หลังเวที เหตุการณ์ภายในห้องจัดเลี้ยงกำลังตึงเครียด เมื่อสองผู้ยิ่งใหญ่กำลังปะทะคารมกันอย่างดุเดือด จนกระทั้งมังกรสาวหมดความอดทน รัตเกล้าหันไปให้สัญญาณกับจิงสงเพื่อดำเนินแผนการ และทันทีที่ไฟในห้องดับลงรัตเกล้าก็ออกไปยืนยังตำแหน่งที่เธอหมายไว้ทันที แสงไฟของสปอตไลท์สว่างจ้าสาดแสงใส่ร่างเธอ รัตเกล้าค่อยๆเยื้องกายออกจากม่านตะข่าย พร้อมกับโปรยรอยยิ้มไปทั่วห้อง

    “จุ๊ๆ ทุกท่านโปรดอยู่ในความสงบ ขณะนี้พวกเราได้ล้อมพวกท่านไว้หมดแล้ว”เมื่อเธอเอ่ยจบ แสงไฟจากสปอตไลท์หลากสีก็สว่างไปทั่วห้อง พร้อมกับสาวนักเต้นคนอื่นๆที่ไปยืนประจำตำแหน่งที่เตี้ยมกันไว้

    “โปรดยุติการกระทำใดๆที่รุนแรงต่อกัน และมาสนุกกับค่ำคืนนี้ด้วยกันซะ”รัตเกล้าออกลีลาเหมือนเป็นสัญญาณให้คิวต่อไป

    เสียงดนตรีเริ่มบรรเลงในจังหวะที่เร้าใจสาวๆก็โยกย้ายส่ายสะโพกตามจังหวะเพลง รัตเกล้าในชุดมินิสเกิร์ตสีดำกางเกงลายเสือพร่างใบหน้าด้วยหน้ากากขนนกสีดำ ลงมาจากเวทีวาดลีลาดุจนางแมวยั่วสวาท สายตาของเธอจิกไปยังร่างใหญ่ที่ก่อนหน้านี้บึ้งตังด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว แต่พอโชว์ของเธอเริ่มแสดงได้ไม่เท่าไหร่โจวจ้าวสื่อก็เปลี่ยนท่าทีมองพวกสาวๆตาเป็นมัน รัตเกล้าเหยียดยิ้มออกมานึกสมเพชในสันดานของสัตว์ตัวผู้ ที่ชอบเห็นผู้หญิงเป็นแค่ที่ระบายความใคร่เท่านั้น เธอหยิบแส้หนังออกมากวักแกว่งเหมือนใช้เป็นอุปการณ์ประกอบท่าเต้น เมื่อสาวๆล้อมวงเข้ามาเต้นยั่วเธอก็ตวัดแส้ตีไปตามเสียงเพลงเรียกความสนใจจากหนุ่มใหญ่สกุลโจวไม่น้อย จ้าวสื่อหลงกลในเสน่ห์มารยาของหญิงสาวจนเผลอเดินออกมาจากกลุ่มของตน รัตเกล้ายิ้มที่มุมปากเมื่อเห็นเหยื่อกำลังติดกับ และในจังหวะนั้นๆเอง รัตเกล้าก็ตวัดแส้ตีใส่ร่างใหญ่ทันทีที่เขาเดินเข้ามาใกล้พวกเธอ

    “โอ๊ย!จ้าวสื่อร้องลั่น แต่รัตเกล้าก็ไม่หยุดอยู่แค่นั้น เธอกระหน่ำหวดแส้ใส่ร่างใหญ่ไม่ยั้งด้วยความแค้นที่หนุ่มใหญ่ได้เคยฝากไว้ให้เธอ

    พวกลูกน้องสกุลโจวพยายามจะเข้ามาช่วยเจ้านายของตน แต่ก็ถูกจิงสงเข้ามาขวางไว้ การปะทะคารมของทั้งสองฝ่ายก็เกิดขึ้น รัตเกล้าไม่สนใจสิ่งรอบข้างเอาแต่ไล่ตีจ้าวสื่ออย่างเดียว ก่อนที่จะพุ่งเข้าไปล็อกร่างชายหนุ่มแล้วกดให้คุกเข่าอยู่กับพื้น

    “เป็นยังไง รสชาติที่ถูกผู้หญิงกดขี่ สนุกมั้ยจ้ะ”เธอเอ่ยเหมือนกระซิบที่ข้างหู จ้าวสื่อหันไปมองเธออย่างอึ้ง

    “จางมินจู นังจิ้งจอกลอบกัด ใช้วิธีสกปรกแบบนี้ไม่อายฟ้าดินรึยังไง”เสียงตะโกนด่าของต้าอี้ทำให้จ้าวสื่อหันไปมอง รู้สึกเจ็บทั้งกายและใจเมื่อรู้ว่าทั้งหมดเป็นแผนการของมินจู

    “ฉันจะอายทำไม ในเมื่อพวกแกยังไม่อายเลย แต่ในเมื่อพวกแกกล้าเข้ามาเหยียบจมูกฉันถึงที่นี่ บัญชีเก่าที่ค้างไว้วันก่อนก็ขอคืนเลยก็แล้วกัน”

    “ต้าอี้ ส่งของขวัญให้มันเลย”จ้าวสื่อสั่งการเมื่อเห็นมินจูเอามีดสั้นอาวุธประจำตัวออกมา

    ต้าอี้หยิบรีโมทออกมา เขาแสยะยิ้มสายตามองไปยังขนมเค้กในรถเข็นที่อยู่ด้านหลังพวกสกุลจาง ในจังหวะนั้นเองมินจูที่แอบสังเกตสายตาเจ้าเล่ห์ของต้าอี้ก็รู้ทันทีว่ากำลังจะมีเหตุร้ายเกิดขึ้น เสียงระเบิดดังสนั่น มินจูพุ่งตัวเข้าไปหาหญิงสาวในชุดลายเสือ จังหวะที่มินจูกดร่างของเธอลงกับพื้นหน้ากากก็หลุดออก ทำให้มินจูเห็นใบหน้าที่แท้จริงของเธอ

    “ยัยตัวแสบ! เธอนี่เอง”

    ซวยแล้วเรา รัตเกล้าหน้าเหย่เมื่อถูกมินจูส่งสายตาดุใส่ แต่ยังไม่ทันที่มินจูจะเอ่ยต่อว่าอะไรเธอ พวกสกุลโจวก็บุกเข้ามาทำร้ายคนของสกุลจางที่ยังไม่ทันตั้งตัวทันที การตะลุมบอนของทั้งสองฝ่ายจึงเกิดขึ้น

    “ที่แท้ก็เป็นเธอนี่เอง”จ้าวสื่อหันไปมองพวกเธอ ขณะที่ต้าอี้กำลังช่วยพยุงให้เขาลุกขึ้น ดวงตาที่หนุ่มใหญ่มองรัตเกล้าบ่งบอกได้ถึงความแค้นที่ถูกเธอหยามเกียรติของลูกผู้ชาย

    “ไอ้บ้ากามอย่างแก โดยแค่นี้มันยังน้อยไป”รัตเกล้าลุกขึ้นมาตอกกลับอย่างไม่ยอมใครเช่นกัน

    จ้าวสื่อแค้นเธอมากจึงหยิบเอาปืนที่ซ่อนไว้ในเสื้อสูทออกมาหมายจะยิงเธอเสียให้ตาย แต่มินจูก็ไม่ยอมปล่อยให้เขาทำได้สำเร็จ ปืนถูกมีดสั้นที่มินจูขว้างไปปัดหลุดออกจากมือหนากระเด็นออกไปไกล

    “เธออยู่ตรงนี้แหละ เดี๋ยวฉันจะจัดการเอง”มินจูหันไปสั่งเธอก่อนที่จะพุ่งตัวเข้าไปจัดการกับศัตรู แต่คนอย่างรัตเกล้ามีหรือจะยอมอยู่เฉยๆ เธอหันไปมองร่างใหญ่คู่อาฆาตของเธอทันที

    จ้าวสื่อกำลังมองร่างบางที่ยืนตัวสั่นอยู่มุมห้องจัดเลี้ยง ตอนนี้ทุกคนกำลังต่อสู้กันจนชุลมุนคงไม่มีใครสังเกตว่าหนี่วายืนอยู่ตรงนั้น ลางสังหรณ์ของรัตเกล้าก็รู้สึกได้ทันทีว่าหนุ่มใหญ่กำลังคิดไม่ซื่อกับหนี่วา และเธอก็ไม่ปล่อยให้เขาทำได้อย่างที่คิดแน่ รัตเกล้าวิ่งเข้าไปขวางจ้าวสื่อไว้ได้ทันก่อนที่เขาจะถึงตัวหนี่วา

    “ฉันรู้หรอกว่าน้ำหน้าอย่างแก ดีแต่รังแกผู้หญิง”รัตเกล้าส่งสายตาดุร้ายใส่

    “หือ!เธอนี่มันฤทธิ์เยอะจริงๆ วันนั้นก็เล่นฉันเสียเกือบแย่ วันนี้ก็ทำให้ฉันต้องอับอายต่อหน้าสาธารณชนอีก ผู้หญิงอย่างเธอถ้าไม่สั่งสอนให้รู้สำนึกเสียบ้าง ก็คงไม่มีใครกลัวฉันอีกแน่”

    “พูดอย่างกับว่าตัวเองเนี่ย ดีตายล่ะ”รัตเกล้าตั้งกาดมวยไทย แม้ว่าตอนนี้เธอจะไม่มีอาวุธใดๆ แต่ก็ขอสู้ตายกับผู้ชายคนนี้ ด้วยศักดิ์ศรีของหญิงไทยที่ไม่อาจยอมได้เมื่อถูกใครเหยียดหยาม

    จ้าวสื่อแสยะยิ้มมองร่างหนาตั้งท่ามวยสู้ก่อนที่จะพุ่งตัวเข้าไปหาเธออย่างรวดเร็ว ดวงตากลมโตของรัตเกล้าเบิกกว้างเมื่อจู่ๆร่างใหญ่ที่พุ่งเข้ามาหาหายแวบไปต่อหน้าต่อตา ด้วยประสาทสัมผัสทำให้เธอเหวี่ยงศอกกลับด้านหลังแต่ก็ช้ากว่าจ้าวสื่อไปเพียงนิดเดียว เธอถูกเขาจับได้เสียแล้วแม้ว่าเธอจะพยายามสะบัดยังไงมือใหญ่ก็ยิ่งบีบแน่นมากขึ้น รัตเกล้าเริ่มตระหนักแล้วว่าโจวจ้าวสื่อคนนี้ก็เป็นคนมีวิชาเหมือนกัน แต่กว่าเธอจะรู้ตัวเธอก็เสียท่าให้หนุ่มใหญ่เสียแล้ว

    “อ่อนหัดจริงๆ”จ้าวสื่อจับร่างหนายกขึ้นเหวี่ยงจนตัวลอยไปกระแทกกับโต๊ะอาหารพังพินาศ

    “กรี๊ด! คุณโรส”เสียงกรีดร้องของหนี่วาทำให้มินจูละสายตาจากคู่ต่อสู้ของตนหันไปมองตามเสียง

    รัตเกล้ากำลังถูกจ้าวสื่อไล่เหยียบเธอพยายามกลิ้งหลบฝ่าเท้าทรงพลังของชายหนุ่ม แต่ก็ไปไม่รอดถูกจ้าวสื่อเตะเข้าที่ท้องน้อยจนจุกนอนตัวงอเป็นกุ้ง ภาพรัตเกล้าที่ถูกทำร้ายต่อหน้าต่อตาทำให้ความโกรธแค้นของมินจูเพิ่มมากขึ้น ดวงตาคมกรบเปลี่ยนสีเป็นสีแดงเพลิง

    “อย่ามาแตะต้องผู้หญิงของฉันนะ!

    มินจูระเบิดพลังออกมาด้วยความโกรธ รัศมีของพลังอัดกระแทกร่างของต้าอี้และคนอื่นๆที่อยู่ภายในห้องกระเด็นลอยกลางอากาศลงไปกระแทกกับพื้นผนังห้อง ดวงตาสีแดงเพลิงเหลือบไปมองร่างใหญ่ที่นั่งคุกเข่าต้านแรงปะทะคลื่นพลังของมินจู

    “หึๆ นี่แกโกรธมากถึงขนาดนี้เลยรึเนี่ย ผู้หญิงคนนี้มีความสำคัญกับแกจริงๆด้วยสินะ”จ้าวสื่อค่อยยันกายลุกขึ้นแสยะยิ้มมองไปยังร่างสูง ที่ยังคงส่งกระแสจิตสังหารกดดันเขาไว้

    ตอนนี้การต่อสู้ของทั้งสองตระกูลหยุดชะงักลง เพราะทุกคนถูกแรงอัดพลังของมินจูเข้าไปทำให้ทุกคนได้รับบาดเจ็บไปไม่น้อย จะมีก็แต่รัตเกล้าที่ไม่ได้รับผลจากพลังของมินจูเพราะนอนจุกอยู่กับพื้น

    “โจวจ้าวสื่อ แกมันหน้าตัวเมีย ทำร้ายได้แม้กระทั้งผู้หญิงที่ไม่มีทางสู้”มินจูเอ่ยเสียงเหี้ยมนัยตาสีเพลิงยังคงจับจ้องไปยังร่างของศัตรูคู่อาฆาต

    “เหอๆ จริงๆฉันก็ไม่อยากลงไม้ลงมือสักเท่าไหร่หรอก แต่ผู้หญิงของแกก็แสบไม่ใช่เล่น ก็เลยต้องสั่งสอนกันเสียหน่อย”จ้าวสื่อว่าพลางเหลือบไปมองร่างหนาที่พยายามช่วยเหลือตัวเองให้ลุกขึ้น เธอมองเขาด้วยแววตาดุร้ายแม้จะบาดเจ็บแต่ก็ยังส่งสายตาข่มขู่

    หนี่วาที่นั่งแอบอยู่ใต้โต๊ะก็ค่อยๆคลานออกมาหารัตเกล้าเพื่อช่วยพยุงให้เธอได้ลุกขึ้นอีกครั้ง สายตาที่โลมเลียของจ้าวสื่อกำลังเพ่งมองไปยังเนินเนื้อที่ล้นออกมาจากชุดเกาะอก ร่างหนารีบดึงผ้าคลุมโต๊ะมาคลุมร่างของตัวเองทันทีที่รู้สึกได้ถึงความน่ารังเกียจของสายตาคู่นั้น

    “คู่ต่อสู้ของแกคือฉัน โจวจ้าวสื่อ”มินจูเอ่ยเสียงผ่านไรฟันโมโหจัดจนขว้างมีดสั้นออกไป

    จ้าวสื่อรู้สึกตัวรีบเบี่ยงตัวหลบอาวุธร้ายของมังกรสาว แต่คมมีดก็แหวกตัดอากาศทำให้ใบหน้าของเขาเกิดรอยเลือดเป็นทางยาว

    “ชิ!นังมินจู แกบังอาจทำให้ใบหน้าอันหล่อเหลาของข้ามีบาดแผล”คราวนี้เป็นฝ่ายจ้าวสื่อที่โกรธขึ้นมาบ้าง

    “งั้นก็มาปิดบัญชีของเรากันเลยดีกว่า”มินจูกระตุกยิ้มเมื่อมีดสั้นคู่ใจถลากลับเข้าสู่มือเจ้าของ มังกรสาวใช้วิชาตัวเบากระโดดพุ่งเข้าไปหาศัตรูเปิดฉากการต่อสู้ก่อน

    “นายท่านรับ!”ต้าอี้ส่งอาวุธของตัวเองให้กับเจ้านายของตน เมื่อเห็นว่าฝ่ายตรงข้ามเริ่มโจมตีก่อน

    “แกคิดว่าวิชาของแกสุดยอดงั้นหรอ นังมินจู”ทันทีที่มีดสั้นของต้าอี้ส่งถึงมือ จ้าวสื่อก็กระโดลอยขึ้นไปปะทะกับมินจูกลางอากาศ จ้าวสื่อใช้อาวุธชนิดเดียวกันกับมินจูแลกกระบวนท่าใส่กันไม่ยั้ง การต่อสู้ของผู้เยี่ยมยุทธ์ทั้งสองทำให้หัวใจของรัตเกล้าเต้นแรงสูบฉีดเลือดหล่อเลี้ยงร่างกาย จนทำให้เธอลืมความเจ็บปวดที่เคยได้รับก่อนหน้านี้ไปจนหมด

    “มังกรวายุพิฆาต!

    มินจูเห็นว่าฝีมือการใช้มีสั้นของจ้าวสื่อไม่ด้อยไปกว่าตนจึงตัดสินใจใช้เพลงยุทธ์สยบเขา มีสั้นทั้งสองเล่มของมินจูถูกขว้างออกไปด้วยความเร็วที่ไม่เท่ากันพุ่งเข้าหาร่างใหญ่อย่างรวดเร็ว จ้าวสื่อตีลังกากลางอากาศหลบคมมีดที่ทะยานตัดอากาศได้ ด้วยความเร็วที่ตัวเขามีอยู่แล้ว และจังหวะเดียวกันเมื่อหลบอาวุธพ้นเขาก็ขว้างมีดสั้นที่อยู่ในมือด้วยท่วงท่าเดียวกันกับมินจู มีดสองเล่มของจ้าวสื่อพุ่งทะยานเข้าหามินจูอย่างรวดเร็ว แต่มินจูก็ไวไม่แพ้กันเธอตีลังกาหลบคมมีดของศัตรู รับมีดที่บินถลากลับเข้ามาหาเจ้าของม้วนตัวลงมาแตะที่พื้น เงยหน้าขึ้นไปมองมีดสั้นที่บินถลากลับเข้าหามือหนาอย่างตะลึง

    “นั้นมัน...เป็นไปไม่ได้!”พวกสกุลจางต่างก็ตะลึงในสิ่งที่ได้เห็นไม่ต่างจากมินจูเลย

    “ฮ่าๆ แกคิดว่าแกใช้มีดบินได้คนเดียวอย่างนั้นเรอะ”จ้าวสื่อร่อนถลาลงมาแตะพื้น พวกสกุลโจวก็ส่งเสียงเชียร์เจ้านายของตัวเองลั่น

    “แกคงไม่รู้สินะ ว่าข้าคือสุดยอดวิชากระจกเงามรณะ ไม่ว่าแกจะใช้กระบวนท่าไหนมา ข้าก็สามารถเอากระบวนท่านั้นมาใช้ได้เหมือนกัน”

    “ทุกเรศสิ้นดี แบบนี้มันก๊อบปี้กันนี่หว่า”รัตเกล้าเอ่ยอย่างเอาเรื่อง

    “ฮ่าๆ ยังปากดีแบบนี้แสดงว่ายังไม่เข็ด รอก่อนก็แล้วกัน ฉันคิดบัญชีกับนังมินจูเสร็จเมื่อไหร่ ก็ถึงตาแกแน่”จ้าวสื่อมองหน้ารัตเกล้าเอ่ยเสียงเหี้ยมผ่านไรฟัน

    “คุณมินจูไม่มีทางแพ้คนอย่างแกหรอก ของลอกเลียนแบบหรือจะสู้กับของแท้ได้ คุณมินจูจัดการมันให้หมอบไปเลย”รัตเกล้าตะโกนเชียร์ทำให้พวกสกุลจางโฮร้องร่วมเชียร์ด้วย

    “ถึงเธอไม่บอก ฉันก็ทำอย่างนั้นอยู่แล้ว”มินจูกระตุกยิ้มมิได้หวั่นเกรงต่อฝีมือของศัตรู เธอวาดกระบวนท่าควงมีดสั้นข่มขวัญศัตรู สายตาคมกริบจับจ้องไปที่ร่างใหญ่อย่างท้าทาย

    “เข้ามาเลยจางมินจู วันนี้ต้องเป็นวันที่แกต้องสยบต่อตระกูลโจว”

    “คิดว่าทำได้ก็ลองดู!มินจูดีดร่างตัวเองพุ่งเข้าหาจ้าวสื่ออย่างรวดเร็วปานจรวด แต่เรื่องความเร็วของจ้าวสื่อก็ไม่ด้วยเช่นกัน เขาดีดตัวพุ่งเข้าไปปะทะกับมินจูตัวต่อตัว

    เคร้ง! เสียงคมมีดที่ดังแสบแก้วหูเกิดขึ้นพร้อมกับประกายไฟ ที่เกิดขึ้นทุกครั้งที่คมมีดทั้งสองเล่มเข้าห้ำหั่นกัน ศึกการต่อสู้ของผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสองไม่ได้รู้กันแค่คนทั้งสองตระกูล แต่หากว่าที่นอกห้องจัดเลี้ยงก็ยังมีนักข่าวจากหลายสำนักพิมพ์ ที่ได้รับผลกระทบจากพลังของมินจูก็ยังสู้อุตส่าห์ล้มลุกคลุกคลานขึ้นมาทำข่าว พวกเขาทั้งอึ้งและทึ้งเหมือนได้มาชมการประลองศึกชิงจ้าวยุทธภพข้างสนามประลอง เสียงเชียร์จากสองตระกูลที่ดังลั่นออกมายิ่งทำให้บรรยากาศการต่อสู้ยิ่งตื้นเต้นมากขึ้น เมื่อเจ้านายของตนเข้าโจมตีฝ่ายตรงข้ามได้เสียงเชียร์ก็จะยิ่งดังมากขึ้นกว่าเดิม แต่การต่อสู้ดูเหมือนว่ามันจะยืดเยื้อเกินไปเพราะทั้งสองต่างก็ไม่มีใครยอมแพ้ ต้าอี้ที่ยืนเชียร์เจ้านายของตนเกิดความคิดบางอย่างขึ้น เขาอยากช่วยให้จ้าวสื่อชนะการต่อสู้ในครั้งนี้ จึงหยิบเอาอาวุธลับที่ซ่อนไว้ออกมา ก่อนที่จะอาศัยจังหวะที่ทุกคนเอาแต่สนใจการต่อสู้ขว้างมันออกไป

    ลูกดอกปลายแหลมพุ่งเข้าหาร่างบางจากด้านหลัง มินจูที่กำลังวาดคมมีดใส่จ้าวสื่อสัมผัสได้ถึงอันตราย ก็เบี่ยงตัวหลบจึงทำให้โอกาสตกไปที่ฝ่ายจ้าวสื่อ

    “มังกรวายุพิฆาต!

    มีดสั้นสองเล่มพุ่งเข้าหามินจูอย่างรวดเร็ว เธอหมุนตัวหลบพายุใบมีดที่พุ่งเข้าหาร่างตัวเอง จากมีดสั้นที่มีเพียงสองเล่มหมุนวนพุ่งเข้าใส่ ก็เหมือนมีมีดสั้นหลายสิบเล่มพุ่งโจมตีไม่ยั้ง รัตเกล้าถึงกับกัดฟันกร๊อดๆเจ็บใจที่มินจูถูกเล่นงานอยู่ฝ่ายเดียว เธอยืนลุ้นมินจูที่กำลังกระโดดหลบมีดสั้นกลางอากาศไปมาจนตัวเกร็งไปหมด แต่มินจูก็สามารถพลิกเกมโดยการระเบิดพลังภายในอัดกระแทกคมมีดหลายสิบเล่มแตกกระจายออกไปได้

    “ไอ้หมาลอบกัด อย่านึกว่าฉันไม่เห็นนะว่าแกปาอาวุธลับใส่นายหญิง”เฉินลองเห็นท่าทางที่ผิดปกติของมินจู จึงแอบสังเกตไปยังกลุ่มของสกุลโจว เขาเห็นต้าอี้ยิ้มเหมือนมีเลศนัยก็เข้าใจได้ทันทีว่าการต่อสู้ในครั้งนี้มีตัวช่วยแอบซ่อนอยู่

    “ว่าไงนะ นี่พวกแกโกงหรอ”รัตเกล้าหันไปมองหน้าต้าอี้อย่างเอาเรื่อง

    “พูดแบบนี้ก็ไม่ถูกนะ เจ้านายของพวกแกมันอ่อนหัดเองต่างหากล่ะ”ต้าอี้ตอกกลับด้วยท่าทางยียวนกวนประสาท

    “แก!ฉันจำได้แล้ว แกนี่เองที่ปาผงยาสลบใส่ฉัน”รัตเกล้าชี้หน้าต้าอี้โวยวายลั่น เมื่อนึกถึงวันที่เธอถูกต้าอี้ใช้กลลวงทำให้เธอหมดทางหนีกลับบ้าน

    “ยัยตัวแสบนี่เสียงดังดีจริงๆ น่าเสียดายที่ยังไม่ทันได้ยินเสียงตอนที่อยู่บนเตียง”จ้าวสื่อแสยะยิ้มกวนมินจูอีกครั้ง

    แต่ไม่ใช่แค่มินจูเท่านั้นที่กำลังโมโหจนเลือดขึ้นหน้า รัตเกล้ากัดฟันกร๊อดๆหายใจฟืดฟัด ดวงตากลมโตฉายแววมุ่งร้ายไปยังร่างหนุ่มใหญ่

    “พวกแกก็ดีแต่ดูถูกศักดิ์ศรีของผู้หญิง ดูถูกฉัน ดูถูกคุณมินจู คุณจิงสง! ขอที่ฉันต้องการล่ะ!?!รัตเกล้าในยามที่โกรธจนเลือดขึ้นหน้า ส่งเสียงกังวานดั่งนางพญาสั่งบอดี้การ์ดของเธอลั่น

    “ได้แล้วครับ ของที่นายหญิงน้อยต้องการ”จิงสงวิ่งเข้ามาพร้อมกับส่งถุงผ้าขนาดยาวให้เธอ

    “ชอบลอกเลียนแบบวิชาของคนอื่นนักใช่มั้ย งั้นลองก๊อบวิชาของฉันหน่อยเป็นไง”รัตเกล้าดึงคมแฝกออกมาจากถุงผ้า ทุกคนจับตามองไปที่เธอเป็นตาเดียวกัน เมื่อสิ่งที่รัตเกล้าเอาออกมานั้นสร้างความสนใจให้ทุกคนไม่น้อย รัตเกล้ายิ้มที่มุมปากดวงตากลมจิกสายตาไปยังร่างใหญ่อย่างมาดมั่น

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×