คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #50 : In my heart
ภายในห้องพักของโรงแรม ร่างบางนั่งเงียบอยู่บนโซฟาในมือถือแก้วที่บรรจุน้ำสีอำพันอยู่เกือบเต็มแก้ว ดวงตาเรียวมองไปที่แก้วน้ำเมาแล้วหวนนึกถึงวันวานที่มีร่างหนาอยู่เคียงข้าง ตลอดเวลาที่ผ่านมามินจูรู้สึกมีความสุขมากอย่างบอกไม่ถูก รัตเกล้าสามารถเปลี่ยนคนเย็นชาอย่างเธอ ให้กลายมาเป็นคนที่มีความรู้สึกเหมือนคนทั่วๆไปได้ ทุกครั้งที่มินจูได้อยู่ใกล้ชิดกับรัตเกล้าก็จะรู้สึกแปลกๆทุกครั้ง และความรู้สึกที่มันเกิดขึ้นมานั้นมันไม่ใช่แค่ความใคร่ ที่ต้องการเพียงแค่ร่างกาย แต่มันเป็นความรู้สึกที่ลึกซึ้งจนมินจูยากจะเข้าใจ รัตเกล้าทำให้หัวใจของมินจูเบิกบาน ยามเมื่อพวกเธอได้มาพบหน้าได้พูดคุย หรือแม้แต่กระทั้งยามที่พวกเธอสัมผัสผิวกายของกันและกัน มันช่างเป็นวันเวลาที่แสนสุขจนมินจูถอนตัวไม่ขึ้น เพียงแค่ไม่กี่คืนที่ไม่มีร่างหนาคอยให้ความอบอุ่น มินจูก็นอนไม่หลับ เมื่อเตียงนอนที่เคยหลับสบาย แต่ไม่มีใครให้กอดมันช่างอ้างว้างเสียจริงๆ
มินจูรีบจัดการเคลียร์ปัญหาทุกอย่างจนหมด แล้วบินลัดฟ้ามาเมืองไทยด้วยหัวใจที่คิดถึงแต่รัตเกล้า แต่ทว่าหัวใจของมินจูก็แทบสะลาย เมื่อได้เห็นรัตเกล้ายืนกอดกับอดีตคนรัก ความผิดหวังบวกกับความเสียใจทำให้มินจูขาดสติคว้ามีดสั้นออกมาหมายจะปลิดชีวิตทอมสาว แต่รัตเกล้ากลับเข้ามาขวางรับคมมีดแทน มินจูนึกถึงใบหน้าและดวงตากลมโตของรัตเกล้าที่มันเธออย่างท้าทาย มันทำให้มินจูแทบคลั่ง มินจูบีบแก้วในมือแตกละเอียดด้วยพลังแห่งโทสะ หยดเลือดในมือชวนในเธอนึกถึงหยดเลือดที่ไหลจากคอของรัตเกล้า หากว่าตอนนั้นเธอใจแข็งพอ เธอคงกดคมมีดให้ตัดเส้นเลือดที่คอหญิงสาว ให้สมกับความผิดที่รัตเกล้าทรยศหักหลังตน แม้บาดแผลที่ข้อมือเรียวจะทำให้มินจูรู้สึกเจ็บแสบ แต่หัวใจของเธอกลับรู้สึกเจ็บแสบมากกว่า
รัตเกล้ามาถึงโรงแรมใหญ่ประจำจังหวัดซึ่งเป็นที่พักชั่วคราวของมินจู พร้อมด้วยจิงสงบอดี้การ์ดประจำตัวของเธอ ที่ทำหน้าที่เป็นสารถีและคนนำทางพาเธอมาถึงห้องพัก หลังจากที่พวกเค้าได้สอบถามจากพนักงานโรงแรมจนได้ความว่า มินจูกลับมาถึงห้องพักก็สั่งรูมเซอร์วิสให้เอาเครื่องดื่มขึ้นไปส่งที่ห้องพักทันที รัตเกล้ารู้สึกหนักใจกับสถานการณ์อันเลวร้าย ที่มันกำลังคุกรุ่นอยู่ข้างในห้องพักเบื้องหน้าของเธอ จิงสงใช้มาสเตอร์คีย์ปลดล๊อกประตูห้องให้เปิดออก
“แน่ใจนะครับ นายหญิงน้อย ว่าจะไม่ให้ผมเข้าไปดูนายหญิงใหญ่ก่อน”จิงสงเอ่ยถามด้วยสีหน้าที่เป็นกังวัลไม่แพ้เธอ
“ไม่เป็นไรหรอก ถ้าเค้าคิดจะฆ่าฉันจริงๆ ก็คงเชือดคอฉันตายตั้งแต่ตอนนั้นแล้วล่ะ”
“แต่ว่าอารมณ์ตอนนี้ของนายหญิงใหญ่มันไม่เหมือนทุกทีนะครับ”
“ฉันรู้ค่ะ แม้จะไม่แน่ใจว่าจะสามารถเอามินจูคนเดิมกลับมาได้ แต่อย่างน้อยฉันก็ได้ทำตามเสียงเรียกร้องของหัวใจฉัน”เธอเอ่ยทิ้งท้ายไว้ก่อนที่จะเดินเข้าห้องพักไป
จิงสงมองบานประตูที่ถูกปิดลงกลอนอัตโนมัติ ด้วยความหวังว่าเจ้านายสาวของตนจะเข้าใจถึงความรู้สึกที่แท้จริงของรัตเกล้า
..................................................................
ภายในห้องพักที่ถูกตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ชั้นดีบ่งบอกถึงฐานะของผู้เช่าว่าอยู่ในระดับใด ร่างบางนั่งนิ่งอยู่ที่โซฟา บนโต๊ะกระจกทรงเตี้ยมีแต่ขวดเปล่าของสุรานอกราคาแพงหลายขวด รัตเกล้าเดินเข้าหาร่างบางอย่างเป็นห่วง แต่กลับถูกเจ้าของห้องตวาดใส่
“มาทำไม!”
“คุณมินจู...ฉัน...”พอเจอบทโหดของมินจูเข้าไป รัตเกล้าก็ทำอะไรแทบไม่ถูก
ใบหน้าที่นิ่งสนิทไม่บ่งบอกความรู้สึกใดๆของมินจูยามนี้ รัตเกล้ารู้สึกได้ถึงความน่าสะพรึงกลัวที่แอบซ่อนอยู่ข้างใน สายตาของเธอไปสะดุดกับรอยเลือดที่เลอะพรม ทำให้รัตเกล้ารู้ว่ามือทั้งสองข้างของมินจูถูกพันด้วยผ้าพันแผล แต่มือขวาของเธอกลับชุ่มโชกไปด้วยเลือด
“คุณมินจู คุณบาดเจ็บ”เธอถลาเข้าไปดูบาดแผลที่มือ แต่มินจูกลับสะบัดมือออกไม่ยอมให้เธอแตะต้อง
“กลับไปซะ อย่ามายุ่งกับฉัน”
“โธ่...คุณมินจู นี่ไม่ใช่เวลามางอนฉันนะ ขอให้ฉันได้ทำแผลให้คุณก่อนได้มั้ย”
“แผลแค่นี้มันเล็กน้อยกว่าข้างใน ที่มันเจ็บปวดเจี่ยนจะตาย”ถ้อยคำตัดพ้อของมินจูทำให้รัตเกล้าเข้าใจถึงความรู้สึกของเธอ
“คุณมินจู คุณฟังฉันก่อนจะได้มั้ย คุณกำลังเข้าใจฉันผิดนะค่ะ”
“เข้าใจผิดงั้นหรอ ถ้าฉันไม่มาเห็นด้วยตาของตัวเอง ฉันก็คงไม่มีวันรู้หรอก ว่าเธอกำลังคิดทรยศฉัน”มินจูส่งสายตาดุร้ายใส่รัตเกล้า
“ไม่จริงนะ ฉันไม่เคยคิดทรยศคุณ”
“ยังจะมาปากแข็งอีกหรอ!”มินจูขว้างขวดเหล้าทิ้งด้วยความโมโห ก่อนที่จะถลาเข้าไปคว้าคอรัตเกล้า
“คะ...คุณมินจู...”รัตเกล้าเอ่ยตะกุกตะกักเพราะแรงบีบของมือเรียว
“ผู้ร้ายปากแข็งอย่างเธอ ถ้าไม่ลงมือก็คงไม่ยอมสารภาพหรอก”มินจูเอ่ยเสียงเหี้ยม ดวงตาเรียวเล็กจ้องมองเธออย่างไร้ความปรานี
รัตเกล้าถึงกับน้ำตาร่วงเจ็บทั้งแผลที่คอและเจ็บที่หัวใจ เมื่อถูกมินจูกระทำอย่างป่าเถื่อน รัตเกล้ารู้ดีว่าสิ่งที่มินจูทำลงไปนั้นเป็นเพราะความเข้าใจผิด และมันก็ทำให้เธอรู้สึกเสียใจไม่น้อยที่มินจูไม่ยอมเชื่อใจเธอ
“ถ้าคุณ...อยากจะฆ่าฉัน...ก็ลงมือเถอะ ตลอดเวลา...ที่ผ่านมา คุณได้...ช่วยชีวิตฉันไว้...ตั้งหลายครั้ง...ตอนนี้...ชีวิตของฉัน...มันเป็นของคุณ ฉันจะไม่...เสียใจเลย ที่ได้ตาย....ด้วยน้ำมือ....ของคุณ”รัตเกล้ามองหน้ามินจูทั้งน้ำตา ก่อนที่จะปิดเปลือกตาลงเพื่อรอการพิพากษา
มินจูเห็นเธอหลับตาพริ้มเหมือนคนกำลังมีความสุข ความโกระแค้นที่มีต่อหญิงสาวก็ผ่อนลง มือที่ออกแรงบีบก็เริ่มสั่นรู้สึกอึดอัดที่หัวใจเหมือนถูกใครบีบจนหายใจไม่ออก ใบหน้าหวานที่หลับตานิ่งเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเขียวไร้สีเลือด มือเรียวคลายออกจากคอของรัตเกล้า ร่างหนาทรุดฮวบลงไปนอนหอบหายใจอยู่กับพื้น มินจูมองมือของตัวเองที่เปื้อนเลือดจากบาดแผลที่ปริออกจากคอของรัตเกล้า ก่อนที่จะเหลือบไปมองร่างหนาที่พยายามฟื้นตัวเองนอนหอบหายใจเหมือนคนใกล้ตาย แม้ใจอยากจะเข้าไปช่วยเธอแต่ด้วยความทิฐิ ทำให้มินจูเปลี่ยนใจกลับไปนั่งสงบจิตใจที่โซฟาตัวเดิม
“คะ...คุณ มินจู...”รัตเกล้าเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่แห้งผาก ดวงตากลมโตจับจ้องไปที่ร่างสูงที่เอาแต่นิ่งเงียบ ไม่ยอมเอ่ยอะไรออกมาอีก แค่มินจูฉุดเธอให้พ้นจากความตาย รัตเกล้าก็พอจะรู้ว่าในใจของหญิงสาวยังคงมีตนอยู่ในนั้นแน่นอน
ร่างหนาค่อยๆคลานเข้าไปหาร่างที่นั่งอยู่บนโซฟา มือหนาที่สั่นสะท้านค่อยๆเอื้อมไปดึงมือเรียวที่มีรอยเลือดแห้งกรัง ก่อนที่จะบรรจงแกะผ้าพันแผลผืนเก่าออกเพื่อดูบาดแผล
“คุณโดนเศษแก้วบาด ฉันจะให้รูมเซอร์วิสให้เอายาขึ้นมาให้”รัตเกล้าเอ่ยออกมาเบาๆแล้วจัดการโทรเรียกรูปเซอร์วิส ก่อนที่จะหันมาสนใจมืออีกข้างที่มันถูกพันไว้ด้วยผ้าพันแผลด้วยเช่นกัน
“คุณไปทำอะไรมา ทำไมผิวถึงได้ลอกเหมือนไฟลวกเลย”เธอตกใจไม่น้อยเมื่อเห็นรอยแผลฉกรรจ์บนมือเรียว
“อย่ามาสนใจฉันเลย กลับไปสนใจคนรักของเธอดีกว่า ที่ฉันยังไว้ชีวิตเธอ ก็เพื่อให้เธอรีบไปให้มันพ้นๆหน้าฉัน”มินจูเอ่ยเสียงแข็งกระด้าง
“ฉันไม่ไปหรอก จะหาว่าฉันหน้าด้านก็ได้ เพราะฉันจะไม่ยอมไปไหนทั้งนั้น”เธอเงยหน้าขึ้นไปสบตามินจู พร้อมกับเอ่ยออกมาอีกว่า
“คุณกำลังเข้าใจฉันผิดอยู่นะค่ะ คุณมินจู ฉันกับอุ้มเราจบกันไปนานแล้ว และตอนนี้เค้าก็ได้รับบทเรียนจากสิ่งที่เคยทำไว้ในอดีตแล้วด้วย เค้าแค่ให้คำมั่นสัญญากับฉัน ว่าต่อจากนี้ไป เค้าจะดูแลเอาใจใส่คนรักของเค้าไปตลอดชีวิต แล้วคนรักของเค้า ก็ไม่ใช่ฉัน”มินจูอึ้งไปเล็กน้อยเมื่อได้รับรู้เรื่องราวจากปากของเธอ
“คุณจะไม่เชื่อในสิ่งที่ฉันพูดก็ได้ แต่ฉันอยากให้คุณได้รู้ไว้ ว่าที่ฉันไม่ยอมจากคุณไปไหน เพราะหัวใจของฉันมันร่ำร้องให้อยู่ใกล้ๆคุณ แม้ว่าจะต้องตาย ฉันก็ยอม”รัตเกล้าได้เผยความรู้สึกของตนให้มินจูได้รับรู้จนหมด
เสียงเคาะประตูห้องของบอดี้การ์ดหนุ่ม ทำให้รัตเกล้าละสายตาจากมินจูหันไปมองร่างชายหนุ่มที่เดินเข้ามาพร้อมกับรถเข็นของรูมเซอร์วิส จิงสงเห็นกล่องยาที่รูมเซอร์วิสนำขึ้นมาให้ ทำให้เขาพอจะเดาออกว่าเหตุการณ์ด้านในได้สงบลงแล้ว เมื่อกล่องยามาถึงรัตเกล้าก็จัดการทำแผลที่มือของมินจูจนเรียบร้อย
“นายหญิงน้อย แผลที่คอยังมีเลือดออกอยู่เลยนะครับ”จิงสงเอ่ยทักขึ้นเมื่อสังเกตหน้ารอยเลือดที่มันซึมออกมาจากผ้าพันแผล
“เธอ...มานี่สิ”มินจูเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง มือเรียวเอื้อมไปแตะลำคอของรัตเกล้า ทำเอาเธอสะดุ้งไปเล็กน้อย
มินจูค่อยๆแกะผ้าพันแผลออก ดวงตาคมสะท้อนเงาของความปวดร้าว เมื่อได้เห็นร่องรอยของบาดแผลที่ตนได้กระทำไว้ ลำคอที่เคยเนียนสวยมีรอยกรีดจากคมมีดและรอยเขียวคล่ำจากแรงบีบ ทำให้ปากแผลที่ยังไม่สมานกันดีนักแตกออกจนเลือดไหลซึมออกมา
“อยู่นิ่งๆฉันจะทำแผลให้”
รัตเกล้ามองหญิงสาวที่กำลังบรรจงแต้มยาลงรอยบาดที่คอ แม้ว่ามันจะแสบจนทำให้ใบหน้าของเธอเหย่เก แต่สีหน้าของมินจูกลับรู้สึกเจ็บมากกว่าเธอถึงสองเท่า ใบหน้าของมินจูตอนนี้มันช่างเหมือนกับตอนที่คอยเฝ้าดูแลเธอไม่ยอมห่าง เหมือนมินจูคนเดิมที่เธอเคยรู้จัก หรือว่า...มินจูของเธอกลับคืนมาแล้ว
“เจ็บมากมั้ย ถ้าเจ็บจะได้กินยา”ถ้อยคำและน้ำเสียงที่แสดงถึงความเป็นห่วงทำให้รัตเกล้าถึงกับน้ำตาซึม
“ไม่เลย ไม่เจ็บเลยสักนิด คุณต่างหากที่เจ็บมากกว่าฉัน คุณยังไม่ได้ตอบฉันเลยนะ ว่าทำไม มือคุณถึงได้บาดเจ็บแบบนี้”
มินจูถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนที่จะเล่าถึงที่มาของบาดแผลให้เธอฟัง
“ต่อไปนี้จะไม่มีศัตรูของสกุลจางอีกแล้ว จะไม่มีใครกล้ามาทำร้ายเธออีกต่อไปแล้ว”มินจูเอ่ยอย่างภาคภูมิใจ
“คนบ้า! ทำไมถึงทำอะไรบ้าบิ่นแบบนี้ ฉันรู้ว่าคุณเป็นคนเก่ง แล้วถ้าหากคุณพลาดพลั้งให้พวกมันล่ะ ฉันจะทำยังไง ฉันอยู่ทางนี้ฉันจะช่วยคุณได้ยังไง”รัตเกล้าต่อว่ามินจูทั้งน้ำตา มินจูตกใจมากที่เห็นเธอร้องไห้ฟูมฟาย
“เธอเป็นห่วงฉันด้วยหรอ”
“ถ้าไม่เป็นห่วง ฉันคงนั่งหัวเราะเยาะคุณไปนานแล้ว คุณคิดว่าเรื่องที่คุณทำลงไป มันเป็นเรื่องเล่นๆรึไง ทำไมไม่บอก ไม่มาปรึกษาฉันสักนิด อือๆ”เธอร้องไห้หนักกว่าเดิมจนมินจูแทบทำอะไรไม่ถูก
เมื่อรัตเกล้าเอาแต่ร้องไห้ไม่ยอมหยุด มินจูจึงคว้าตัวเธอเข้ามากอดเพื่อปลอบใจ ร่างหนาสั่นสะท้านด้วยแรงสะอื้นอยู่ในอ้อมกอดที่คุ้นเคย
“รู้มั้ย ว่าฉันกลัว...กลัวว่าจะไม่มีคุณอยู่ข้างๆฉันแบบนี้อีก”ความในใจของรัตเกล้าทำให้มินจูเริ่มตระหนักถึงความรู้สึกของตัวเองมากขึ้น
จิงสงเห็นว่านายสาวทั้งสองคนปรับความเข้าใจกันได้แล้ว ก็ค่อยๆหลบฉากออกไปจากห้องอย่างรู้งาน
“ฉันขอโทษนะ ที่ทำร้ายเธอ”มินจูสำนึกได้ถึงสิ่งที่ตนได้กระทำลงไป
“ไม่เป็นไร ฉันรู้ว่าที่คุณทำไป เพราะคุณเข้าใจฉันผิด ตอนนี้ฉันได้คุณมินจูคนเดิมกลับมา ฉันก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว”เธอเอ่ยเสียงปนสะอื้น
“หยุดร้องเถอะนะ คนเก่งของฉัน”มินจูคลายวงแขนออกมองใบหน้าที่อาบด้วยน้ำตาก่อนที่จะโน้มใบหน้าของตนเข้าหา ริมฝีปากบางค่อยๆจูบซับน้ำตาให้รัตเกล้า สัมผัสอ่อนโยนที่เธอได้รับจากมินจูทำให้อาการสะอื้นนั้นหายไป สายตาทั้งสองคู่ประสานกันนิ่งเพื่อถ่ายทอดความรู้สึกทั้งหมดให้กันและกัน ริมฝีปากบางแตะสัมผัสเรียวปากนุ่มเบาๆก่อนที่จะแทรกลิ้นผ่านเรียวปากเข้าไปข้างในอย่างโหยหา รัตเกล้าตอบสนองความรู้สึกของมินจูให้เธอได้รู้เช่นกัน ว่าตนนั้นต้องการเพียงเธอคนเดียวเท่านั้น ไม่ต้องมีคำพูดเอื้อนเอ่ยใดๆออกมา พวกเธอก็เข้าใจถึงความรู้สึกของกันและกันผ่านจุมพิตที่แสนหวาน
รัตเกล้าขืนกายมิยอมให้มือเรียวหยอกเย้าผิวกายใต้ร่มผ้า ถอนริมฝีปากออกจนทำให้มินจูหน้ามุ่ยเมื่อถูกขัดใจ
“คุณพักผ่อนเถอะค่ะ ยังบาดเจ็บอยู่แบบนี้ ต้องรักษาให้หายก่อนนะค่ะ”รัตเกล้ารวบมือเรียวทั้งสองของร่างสูงมากุมไว้
“หึๆ นั้นสินะ งั้นฉันจะรีบหายเร็วๆ เธอจะได้ไม่ต้องทนรอนาน”มินจูหัวเราะในลำคออย่างเข้าใจความนัยของเธอ
“บ้าหรอ ฉันไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นสักหน่อย”รัตเกล้าหลบสายตาวิบๆวับๆของคนตรงหน้า จะลุกขึ้นหนีแต่ก็ถูกเรียวแขนของมินจูรั้งเอาไว้
“จะไปไหนล่ะ ฉันเป็นคนป่วยนะ จะไม่ดูแลฉันเลยรึไง”มินจูแสร้งทำเป็นตัดพ้อ ดึงร่างหนาให้กลับมาแนบชิดตัว
“ฉันก็ทำแผลให้คุณแล้วไง”
“แค่ทำแผลมันยังไม่พอหรอก เธอรู้มั้ย ตอนที่เธอไม่อยู่ นอนคนเดียวทีไรฉันนอนไม่ค่อยจะหลับทุกที”มินจูแทรกใบหน้าแนบชิดกับแก้มเนียน จนสัมผัสได้ถึงความร้อนจากแก้มสาว
“จะบอกว่าคุณขาดความอบอุ่นว่างั้นเหอะ คุณเนี่ยผู้ใหญ่เจ้าปัญหาจริงๆ”รัตเกล้าแกล้งแขวะอย่างหมั่นไส้
“เธอว่าฉันเป็นผู้ใหญ่มีปัญหา แล้วเธอล่ะ เป็นอะไร อืม...เป็นยัยตัวแสบ ที่ชอบหาเรื่องปวดหัวให้ฉัน จนชีวิตที่สงบสุขของฉันมีแต่ความวุ่นวาย”
“โหย ก็ฉันอยู่ของฉันดีๆ แต่คุณมายุ่งกับฉันก่อนทำไมล่ะ”
“เอ๊ะ! แต่ที่ฉันจำได้ เธอไม่ใช่หรอที่เข้ามายุ่งกับฉันก่อน”รัตเกล้าถึงกับสะอึกเมื่อนึกถึงความหลังของตนได้ เพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์แท้ๆที่ทำให้เธอเมาจนขาดสติ ไปปลุกปล้ำขืนใจหญิงสาวเข้า มินจูเห็นว่าคนในอ้อมแขนของตนนั้นนิ่งเงียบไปก็ลอบยิ้มออกมา เมื่อรู้ว่าเธอจำเรื่องราวต่างๆได้จนเถียงไม่ออก
“แต่มันก็ดีนะ ถ้าไม่เกิดเรื่องในคืนนั้น ฉันก็คงไม่มีเธอในวันนี้”
“ไม่เห็นจะดีเลย น่าอายจะตาย”รัตเกล้าหน้าแดงก่ำด้วยความอับอาย
“หึๆ อย่างน้อยมันก็ทำให้ฉันได้รู้ว่า ผู้หญิงไม่ได้มีดีแค่เรื่องบนเตียงเท่านั้น”
“อ๋อ! งั้นที่ผ่านมาคุณก็ชอบฟันแล้วทิ้งงั้นสิ”รัตเกล้าสะบัดออกจากใบหน้าของคนเจ้าเล่ห์อย่างเคืองๆ
“ก็ผู้หญิงพวกนั้นน่าเบื่อ น่ารำคาญจะตายไป ฉันไม่ชอบให้ใครมาทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ ไม่เหมือนเธอเลยสักนิด ยิ่งฉันเข้าใกล้ เธอก็ยิ่งหนีฉัน”
“ก็เพราะว่าฉันไม่ชอบให้ใครมาทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของน่ะสิ”รัตเกล้าแกล้งย้อนคำพูดของเธอ จนมินจูชักเริ่มเคืองกอดรัดเธอแน่นมากขึ้น
“แต่ตอนนี้ เธอเป็นของฉัน”น้ำเสียงแข็งๆที่แสดงอาการหึงหวงของมินจูทำให้รัตเกล้ารู้สักตัว ว่าตนนั้นดันไปแหย่โดนจุดเดือดของเธอเข้า
“คุณมินจู ปล่อยฉันเถอะค่ะ คุณจะได้ไปนอนพักสักที”รัตเกล้าไม่อยากให้บรรยากาศดีๆนั้นเสียไปจึงเปลี่ยนเรื่องคุย
“ไปนอนก็ได้ แต่คืนนี้เธอต้องนอนกับฉันนะ ถ้าไม่มีเธอฉันก็คงนอนไม่หลับ”มินจูทำเสียงอ้อนๆจนรัตเกล้าถอนหายใจออกมาอย่างระอา
“ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ฉันจะอยู่ให้คุณกอดไปตลอดชีวิตเลยล่ะ”
ความคิดเห็น