ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    กิ๊กหัวใจให้ลงล๊อก (Yuri)

    ลำดับตอนที่ #50 : In my heart

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.58K
      22
      21 ก.ย. 53

    ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนนะจ้ะ ว่าไรเตอร์จะเอาลงตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว แต่ไม่รู้เวบเป็นอะไรทั้งช้าทั้งอืด ไรเตอร์จึงจำใจปล่อยให้แฟนๆค้างๆคาๆต่อไป แต่วันนี้ไม่ค้างแล้ว เย้ๆๆๆๆ ใกล้จะอวสานเข้าไปทุกทีๆแล้ว และโปรเจคจองหนังสือก็ใกล้เข้ามาแล้วนะจ้ะ พร้อมรึยัง ถ้าพร้อมแล้วก็ไปลุ้นกันต่อรุย...






    ภายในห้องพักของโรงแรม ร่างบางนั่งเงียบอยู่บนโซฟาในมือถือแก้วที่บรรจุน้ำสีอำพันอยู่เกือบเต็มแก้ว ดวงตาเรียวมองไปที่แก้วน้ำเมาแล้วหวนนึกถึงวันวานที่มีร่างหนาอยู่เคียงข้าง ตลอดเวลาที่ผ่านมามินจูรู้สึกมีความสุขมากอย่างบอกไม่ถูก รัตเกล้าสามารถเปลี่ยนคนเย็นชาอย่างเธอ ให้กลายมาเป็นคนที่มีความรู้สึกเหมือนคนทั่วๆไปได้ ทุกครั้งที่มินจูได้อยู่ใกล้ชิดกับรัตเกล้าก็จะรู้สึกแปลกๆทุกครั้ง และความรู้สึกที่มันเกิดขึ้นมานั้นมันไม่ใช่แค่ความใคร่ ที่ต้องการเพียงแค่ร่างกาย แต่มันเป็นความรู้สึกที่ลึกซึ้งจนมินจูยากจะเข้าใจ รัตเกล้าทำให้หัวใจของมินจูเบิกบาน ยามเมื่อพวกเธอได้มาพบหน้าได้พูดคุย หรือแม้แต่กระทั้งยามที่พวกเธอสัมผัสผิวกายของกันและกัน มันช่างเป็นวันเวลาที่แสนสุขจนมินจูถอนตัวไม่ขึ้น เพียงแค่ไม่กี่คืนที่ไม่มีร่างหนาคอยให้ความอบอุ่น มินจูก็นอนไม่หลับ เมื่อเตียงนอนที่เคยหลับสบาย แต่ไม่มีใครให้กอดมันช่างอ้างว้างเสียจริงๆ

    มินจูรีบจัดการเคลียร์ปัญหาทุกอย่างจนหมด แล้วบินลัดฟ้ามาเมืองไทยด้วยหัวใจที่คิดถึงแต่รัตเกล้า แต่ทว่าหัวใจของมินจูก็แทบสะลาย เมื่อได้เห็นรัตเกล้ายืนกอดกับอดีตคนรัก ความผิดหวังบวกกับความเสียใจทำให้มินจูขาดสติคว้ามีดสั้นออกมาหมายจะปลิดชีวิตทอมสาว แต่รัตเกล้ากลับเข้ามาขวางรับคมมีดแทน มินจูนึกถึงใบหน้าและดวงตากลมโตของรัตเกล้าที่มันเธออย่างท้าทาย มันทำให้มินจูแทบคลั่ง มินจูบีบแก้วในมือแตกละเอียดด้วยพลังแห่งโทสะ หยดเลือดในมือชวนในเธอนึกถึงหยดเลือดที่ไหลจากคอของรัตเกล้า หากว่าตอนนั้นเธอใจแข็งพอ เธอคงกดคมมีดให้ตัดเส้นเลือดที่คอหญิงสาว ให้สมกับความผิดที่รัตเกล้าทรยศหักหลังตน แม้บาดแผลที่ข้อมือเรียวจะทำให้มินจูรู้สึกเจ็บแสบ แต่หัวใจของเธอกลับรู้สึกเจ็บแสบมากกว่า

     

    รัตเกล้ามาถึงโรงแรมใหญ่ประจำจังหวัดซึ่งเป็นที่พักชั่วคราวของมินจู พร้อมด้วยจิงสงบอดี้การ์ดประจำตัวของเธอ ที่ทำหน้าที่เป็นสารถีและคนนำทางพาเธอมาถึงห้องพัก หลังจากที่พวกเค้าได้สอบถามจากพนักงานโรงแรมจนได้ความว่า มินจูกลับมาถึงห้องพักก็สั่งรูมเซอร์วิสให้เอาเครื่องดื่มขึ้นไปส่งที่ห้องพักทันที รัตเกล้ารู้สึกหนักใจกับสถานการณ์อันเลวร้าย ที่มันกำลังคุกรุ่นอยู่ข้างในห้องพักเบื้องหน้าของเธอ จิงสงใช้มาสเตอร์คีย์ปลดล๊อกประตูห้องให้เปิดออก

    “แน่ใจนะครับ นายหญิงน้อย ว่าจะไม่ให้ผมเข้าไปดูนายหญิงใหญ่ก่อน”จิงสงเอ่ยถามด้วยสีหน้าที่เป็นกังวัลไม่แพ้เธอ

    “ไม่เป็นไรหรอก ถ้าเค้าคิดจะฆ่าฉันจริงๆ ก็คงเชือดคอฉันตายตั้งแต่ตอนนั้นแล้วล่ะ”

    “แต่ว่าอารมณ์ตอนนี้ของนายหญิงใหญ่มันไม่เหมือนทุกทีนะครับ”

    “ฉันรู้ค่ะ แม้จะไม่แน่ใจว่าจะสามารถเอามินจูคนเดิมกลับมาได้ แต่อย่างน้อยฉันก็ได้ทำตามเสียงเรียกร้องของหัวใจฉัน”เธอเอ่ยทิ้งท้ายไว้ก่อนที่จะเดินเข้าห้องพักไป

    จิงสงมองบานประตูที่ถูกปิดลงกลอนอัตโนมัติ ด้วยความหวังว่าเจ้านายสาวของตนจะเข้าใจถึงความรู้สึกที่แท้จริงของรัตเกล้า

                                    ..................................................................

    ภายในห้องพักที่ถูกตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ชั้นดีบ่งบอกถึงฐานะของผู้เช่าว่าอยู่ในระดับใด ร่างบางนั่งนิ่งอยู่ที่โซฟา บนโต๊ะกระจกทรงเตี้ยมีแต่ขวดเปล่าของสุรานอกราคาแพงหลายขวด รัตเกล้าเดินเข้าหาร่างบางอย่างเป็นห่วง แต่กลับถูกเจ้าของห้องตวาดใส่

    “มาทำไม!

    “คุณมินจู...ฉัน...”พอเจอบทโหดของมินจูเข้าไป รัตเกล้าก็ทำอะไรแทบไม่ถูก

    ใบหน้าที่นิ่งสนิทไม่บ่งบอกความรู้สึกใดๆของมินจูยามนี้ รัตเกล้ารู้สึกได้ถึงความน่าสะพรึงกลัวที่แอบซ่อนอยู่ข้างใน สายตาของเธอไปสะดุดกับรอยเลือดที่เลอะพรม ทำให้รัตเกล้ารู้ว่ามือทั้งสองข้างของมินจูถูกพันด้วยผ้าพันแผล แต่มือขวาของเธอกลับชุ่มโชกไปด้วยเลือด

    “คุณมินจู คุณบาดเจ็บ”เธอถลาเข้าไปดูบาดแผลที่มือ แต่มินจูกลับสะบัดมือออกไม่ยอมให้เธอแตะต้อง

    “กลับไปซะ อย่ามายุ่งกับฉัน”

    “โธ่...คุณมินจู นี่ไม่ใช่เวลามางอนฉันนะ ขอให้ฉันได้ทำแผลให้คุณก่อนได้มั้ย”

    “แผลแค่นี้มันเล็กน้อยกว่าข้างใน ที่มันเจ็บปวดเจี่ยนจะตาย”ถ้อยคำตัดพ้อของมินจูทำให้รัตเกล้าเข้าใจถึงความรู้สึกของเธอ

    “คุณมินจู คุณฟังฉันก่อนจะได้มั้ย คุณกำลังเข้าใจฉันผิดนะค่ะ”

    “เข้าใจผิดงั้นหรอ ถ้าฉันไม่มาเห็นด้วยตาของตัวเอง ฉันก็คงไม่มีวันรู้หรอก ว่าเธอกำลังคิดทรยศฉัน”มินจูส่งสายตาดุร้ายใส่รัตเกล้า

    “ไม่จริงนะ ฉันไม่เคยคิดทรยศคุณ”

    “ยังจะมาปากแข็งอีกหรอ!มินจูขว้างขวดเหล้าทิ้งด้วยความโมโห ก่อนที่จะถลาเข้าไปคว้าคอรัตเกล้า

    “คะ...คุณมินจู...”รัตเกล้าเอ่ยตะกุกตะกักเพราะแรงบีบของมือเรียว

    “ผู้ร้ายปากแข็งอย่างเธอ ถ้าไม่ลงมือก็คงไม่ยอมสารภาพหรอก”มินจูเอ่ยเสียงเหี้ยม ดวงตาเรียวเล็กจ้องมองเธออย่างไร้ความปรานี

    รัตเกล้าถึงกับน้ำตาร่วงเจ็บทั้งแผลที่คอและเจ็บที่หัวใจ เมื่อถูกมินจูกระทำอย่างป่าเถื่อน รัตเกล้ารู้ดีว่าสิ่งที่มินจูทำลงไปนั้นเป็นเพราะความเข้าใจผิด และมันก็ทำให้เธอรู้สึกเสียใจไม่น้อยที่มินจูไม่ยอมเชื่อใจเธอ

    “ถ้าคุณ...อยากจะฆ่าฉัน...ก็ลงมือเถอะ ตลอดเวลา...ที่ผ่านมา คุณได้...ช่วยชีวิตฉันไว้...ตั้งหลายครั้ง...ตอนนี้...ชีวิตของฉัน...มันเป็นของคุณ ฉันจะไม่...เสียใจเลย ที่ได้ตาย....ด้วยน้ำมือ....ของคุณ”รัตเกล้ามองหน้ามินจูทั้งน้ำตา ก่อนที่จะปิดเปลือกตาลงเพื่อรอการพิพากษา

    มินจูเห็นเธอหลับตาพริ้มเหมือนคนกำลังมีความสุข ความโกระแค้นที่มีต่อหญิงสาวก็ผ่อนลง มือที่ออกแรงบีบก็เริ่มสั่นรู้สึกอึดอัดที่หัวใจเหมือนถูกใครบีบจนหายใจไม่ออก ใบหน้าหวานที่หลับตานิ่งเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเขียวไร้สีเลือด มือเรียวคลายออกจากคอของรัตเกล้า ร่างหนาทรุดฮวบลงไปนอนหอบหายใจอยู่กับพื้น มินจูมองมือของตัวเองที่เปื้อนเลือดจากบาดแผลที่ปริออกจากคอของรัตเกล้า ก่อนที่จะเหลือบไปมองร่างหนาที่พยายามฟื้นตัวเองนอนหอบหายใจเหมือนคนใกล้ตาย แม้ใจอยากจะเข้าไปช่วยเธอแต่ด้วยความทิฐิ ทำให้มินจูเปลี่ยนใจกลับไปนั่งสงบจิตใจที่โซฟาตัวเดิม

    “คะ...คุณ มินจู...”รัตเกล้าเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่แห้งผาก ดวงตากลมโตจับจ้องไปที่ร่างสูงที่เอาแต่นิ่งเงียบ ไม่ยอมเอ่ยอะไรออกมาอีก แค่มินจูฉุดเธอให้พ้นจากความตาย รัตเกล้าก็พอจะรู้ว่าในใจของหญิงสาวยังคงมีตนอยู่ในนั้นแน่นอน

    ร่างหนาค่อยๆคลานเข้าไปหาร่างที่นั่งอยู่บนโซฟา มือหนาที่สั่นสะท้านค่อยๆเอื้อมไปดึงมือเรียวที่มีรอยเลือดแห้งกรัง ก่อนที่จะบรรจงแกะผ้าพันแผลผืนเก่าออกเพื่อดูบาดแผล

    “คุณโดนเศษแก้วบาด ฉันจะให้รูมเซอร์วิสให้เอายาขึ้นมาให้”รัตเกล้าเอ่ยออกมาเบาๆแล้วจัดการโทรเรียกรูปเซอร์วิส ก่อนที่จะหันมาสนใจมืออีกข้างที่มันถูกพันไว้ด้วยผ้าพันแผลด้วยเช่นกัน

    “คุณไปทำอะไรมา ทำไมผิวถึงได้ลอกเหมือนไฟลวกเลย”เธอตกใจไม่น้อยเมื่อเห็นรอยแผลฉกรรจ์บนมือเรียว

    “อย่ามาสนใจฉันเลย กลับไปสนใจคนรักของเธอดีกว่า ที่ฉันยังไว้ชีวิตเธอ ก็เพื่อให้เธอรีบไปให้มันพ้นๆหน้าฉัน”มินจูเอ่ยเสียงแข็งกระด้าง

    “ฉันไม่ไปหรอก จะหาว่าฉันหน้าด้านก็ได้ เพราะฉันจะไม่ยอมไปไหนทั้งนั้น”เธอเงยหน้าขึ้นไปสบตามินจู พร้อมกับเอ่ยออกมาอีกว่า

    “คุณกำลังเข้าใจฉันผิดอยู่นะค่ะ คุณมินจู ฉันกับอุ้มเราจบกันไปนานแล้ว และตอนนี้เค้าก็ได้รับบทเรียนจากสิ่งที่เคยทำไว้ในอดีตแล้วด้วย เค้าแค่ให้คำมั่นสัญญากับฉัน ว่าต่อจากนี้ไป เค้าจะดูแลเอาใจใส่คนรักของเค้าไปตลอดชีวิต แล้วคนรักของเค้า ก็ไม่ใช่ฉัน”มินจูอึ้งไปเล็กน้อยเมื่อได้รับรู้เรื่องราวจากปากของเธอ

    “คุณจะไม่เชื่อในสิ่งที่ฉันพูดก็ได้ แต่ฉันอยากให้คุณได้รู้ไว้ ว่าที่ฉันไม่ยอมจากคุณไปไหน เพราะหัวใจของฉันมันร่ำร้องให้อยู่ใกล้ๆคุณ แม้ว่าจะต้องตาย ฉันก็ยอม”รัตเกล้าได้เผยความรู้สึกของตนให้มินจูได้รับรู้จนหมด

    เสียงเคาะประตูห้องของบอดี้การ์ดหนุ่ม ทำให้รัตเกล้าละสายตาจากมินจูหันไปมองร่างชายหนุ่มที่เดินเข้ามาพร้อมกับรถเข็นของรูมเซอร์วิส จิงสงเห็นกล่องยาที่รูมเซอร์วิสนำขึ้นมาให้ ทำให้เขาพอจะเดาออกว่าเหตุการณ์ด้านในได้สงบลงแล้ว เมื่อกล่องยามาถึงรัตเกล้าก็จัดการทำแผลที่มือของมินจูจนเรียบร้อย

    “นายหญิงน้อย แผลที่คอยังมีเลือดออกอยู่เลยนะครับ”จิงสงเอ่ยทักขึ้นเมื่อสังเกตหน้ารอยเลือดที่มันซึมออกมาจากผ้าพันแผล

    “เธอ...มานี่สิ”มินจูเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง มือเรียวเอื้อมไปแตะลำคอของรัตเกล้า ทำเอาเธอสะดุ้งไปเล็กน้อย

    มินจูค่อยๆแกะผ้าพันแผลออก ดวงตาคมสะท้อนเงาของความปวดร้าว เมื่อได้เห็นร่องรอยของบาดแผลที่ตนได้กระทำไว้ ลำคอที่เคยเนียนสวยมีรอยกรีดจากคมมีดและรอยเขียวคล่ำจากแรงบีบ ทำให้ปากแผลที่ยังไม่สมานกันดีนักแตกออกจนเลือดไหลซึมออกมา

    “อยู่นิ่งๆฉันจะทำแผลให้”

    รัตเกล้ามองหญิงสาวที่กำลังบรรจงแต้มยาลงรอยบาดที่คอ แม้ว่ามันจะแสบจนทำให้ใบหน้าของเธอเหย่เก แต่สีหน้าของมินจูกลับรู้สึกเจ็บมากกว่าเธอถึงสองเท่า ใบหน้าของมินจูตอนนี้มันช่างเหมือนกับตอนที่คอยเฝ้าดูแลเธอไม่ยอมห่าง เหมือนมินจูคนเดิมที่เธอเคยรู้จัก หรือว่า...มินจูของเธอกลับคืนมาแล้ว

    “เจ็บมากมั้ย ถ้าเจ็บจะได้กินยา”ถ้อยคำและน้ำเสียงที่แสดงถึงความเป็นห่วงทำให้รัตเกล้าถึงกับน้ำตาซึม

    “ไม่เลย ไม่เจ็บเลยสักนิด คุณต่างหากที่เจ็บมากกว่าฉัน คุณยังไม่ได้ตอบฉันเลยนะ ว่าทำไม มือคุณถึงได้บาดเจ็บแบบนี้”

    มินจูถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนที่จะเล่าถึงที่มาของบาดแผลให้เธอฟัง

    “ต่อไปนี้จะไม่มีศัตรูของสกุลจางอีกแล้ว จะไม่มีใครกล้ามาทำร้ายเธออีกต่อไปแล้ว”มินจูเอ่ยอย่างภาคภูมิใจ

    “คนบ้า! ทำไมถึงทำอะไรบ้าบิ่นแบบนี้ ฉันรู้ว่าคุณเป็นคนเก่ง แล้วถ้าหากคุณพลาดพลั้งให้พวกมันล่ะ ฉันจะทำยังไง ฉันอยู่ทางนี้ฉันจะช่วยคุณได้ยังไง”รัตเกล้าต่อว่ามินจูทั้งน้ำตา มินจูตกใจมากที่เห็นเธอร้องไห้ฟูมฟาย

    “เธอเป็นห่วงฉันด้วยหรอ”

    “ถ้าไม่เป็นห่วง ฉันคงนั่งหัวเราะเยาะคุณไปนานแล้ว คุณคิดว่าเรื่องที่คุณทำลงไป มันเป็นเรื่องเล่นๆรึไง ทำไมไม่บอก ไม่มาปรึกษาฉันสักนิด อือๆ”เธอร้องไห้หนักกว่าเดิมจนมินจูแทบทำอะไรไม่ถูก

    เมื่อรัตเกล้าเอาแต่ร้องไห้ไม่ยอมหยุด มินจูจึงคว้าตัวเธอเข้ามากอดเพื่อปลอบใจ ร่างหนาสั่นสะท้านด้วยแรงสะอื้นอยู่ในอ้อมกอดที่คุ้นเคย

    “รู้มั้ย ว่าฉันกลัว...กลัวว่าจะไม่มีคุณอยู่ข้างๆฉันแบบนี้อีก”ความในใจของรัตเกล้าทำให้มินจูเริ่มตระหนักถึงความรู้สึกของตัวเองมากขึ้น

    จิงสงเห็นว่านายสาวทั้งสองคนปรับความเข้าใจกันได้แล้ว ก็ค่อยๆหลบฉากออกไปจากห้องอย่างรู้งาน

    “ฉันขอโทษนะ ที่ทำร้ายเธอ”มินจูสำนึกได้ถึงสิ่งที่ตนได้กระทำลงไป

    “ไม่เป็นไร ฉันรู้ว่าที่คุณทำไป เพราะคุณเข้าใจฉันผิด ตอนนี้ฉันได้คุณมินจูคนเดิมกลับมา ฉันก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว”เธอเอ่ยเสียงปนสะอื้น

    “หยุดร้องเถอะนะ คนเก่งของฉัน”มินจูคลายวงแขนออกมองใบหน้าที่อาบด้วยน้ำตาก่อนที่จะโน้มใบหน้าของตนเข้าหา ริมฝีปากบางค่อยๆจูบซับน้ำตาให้รัตเกล้า สัมผัสอ่อนโยนที่เธอได้รับจากมินจูทำให้อาการสะอื้นนั้นหายไป สายตาทั้งสองคู่ประสานกันนิ่งเพื่อถ่ายทอดความรู้สึกทั้งหมดให้กันและกัน ริมฝีปากบางแตะสัมผัสเรียวปากนุ่มเบาๆก่อนที่จะแทรกลิ้นผ่านเรียวปากเข้าไปข้างในอย่างโหยหา รัตเกล้าตอบสนองความรู้สึกของมินจูให้เธอได้รู้เช่นกัน ว่าตนนั้นต้องการเพียงเธอคนเดียวเท่านั้น ไม่ต้องมีคำพูดเอื้อนเอ่ยใดๆออกมา พวกเธอก็เข้าใจถึงความรู้สึกของกันและกันผ่านจุมพิตที่แสนหวาน

    รัตเกล้าขืนกายมิยอมให้มือเรียวหยอกเย้าผิวกายใต้ร่มผ้า ถอนริมฝีปากออกจนทำให้มินจูหน้ามุ่ยเมื่อถูกขัดใจ

    “คุณพักผ่อนเถอะค่ะ ยังบาดเจ็บอยู่แบบนี้ ต้องรักษาให้หายก่อนนะค่ะ”รัตเกล้ารวบมือเรียวทั้งสองของร่างสูงมากุมไว้

    “หึๆ นั้นสินะ งั้นฉันจะรีบหายเร็วๆ เธอจะได้ไม่ต้องทนรอนาน”มินจูหัวเราะในลำคออย่างเข้าใจความนัยของเธอ

    “บ้าหรอ ฉันไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นสักหน่อย”รัตเกล้าหลบสายตาวิบๆวับๆของคนตรงหน้า จะลุกขึ้นหนีแต่ก็ถูกเรียวแขนของมินจูรั้งเอาไว้

    “จะไปไหนล่ะ ฉันเป็นคนป่วยนะ จะไม่ดูแลฉันเลยรึไง”มินจูแสร้งทำเป็นตัดพ้อ ดึงร่างหนาให้กลับมาแนบชิดตัว

    “ฉันก็ทำแผลให้คุณแล้วไง”

    “แค่ทำแผลมันยังไม่พอหรอก เธอรู้มั้ย ตอนที่เธอไม่อยู่ นอนคนเดียวทีไรฉันนอนไม่ค่อยจะหลับทุกที”มินจูแทรกใบหน้าแนบชิดกับแก้มเนียน จนสัมผัสได้ถึงความร้อนจากแก้มสาว

    “จะบอกว่าคุณขาดความอบอุ่นว่างั้นเหอะ คุณเนี่ยผู้ใหญ่เจ้าปัญหาจริงๆ”รัตเกล้าแกล้งแขวะอย่างหมั่นไส้

    “เธอว่าฉันเป็นผู้ใหญ่มีปัญหา แล้วเธอล่ะ เป็นอะไร อืม...เป็นยัยตัวแสบ ที่ชอบหาเรื่องปวดหัวให้ฉัน จนชีวิตที่สงบสุขของฉันมีแต่ความวุ่นวาย”

    “โหย ก็ฉันอยู่ของฉันดีๆ แต่คุณมายุ่งกับฉันก่อนทำไมล่ะ”

    “เอ๊ะ! แต่ที่ฉันจำได้ เธอไม่ใช่หรอที่เข้ามายุ่งกับฉันก่อน”รัตเกล้าถึงกับสะอึกเมื่อนึกถึงความหลังของตนได้ เพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์แท้ๆที่ทำให้เธอเมาจนขาดสติ ไปปลุกปล้ำขืนใจหญิงสาวเข้า มินจูเห็นว่าคนในอ้อมแขนของตนนั้นนิ่งเงียบไปก็ลอบยิ้มออกมา เมื่อรู้ว่าเธอจำเรื่องราวต่างๆได้จนเถียงไม่ออก

    “แต่มันก็ดีนะ ถ้าไม่เกิดเรื่องในคืนนั้น ฉันก็คงไม่มีเธอในวันนี้”

    “ไม่เห็นจะดีเลย น่าอายจะตาย”รัตเกล้าหน้าแดงก่ำด้วยความอับอาย

    “หึๆ อย่างน้อยมันก็ทำให้ฉันได้รู้ว่า ผู้หญิงไม่ได้มีดีแค่เรื่องบนเตียงเท่านั้น”

    “อ๋อ! งั้นที่ผ่านมาคุณก็ชอบฟันแล้วทิ้งงั้นสิ”รัตเกล้าสะบัดออกจากใบหน้าของคนเจ้าเล่ห์อย่างเคืองๆ

    “ก็ผู้หญิงพวกนั้นน่าเบื่อ น่ารำคาญจะตายไป ฉันไม่ชอบให้ใครมาทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ ไม่เหมือนเธอเลยสักนิด ยิ่งฉันเข้าใกล้ เธอก็ยิ่งหนีฉัน”

    “ก็เพราะว่าฉันไม่ชอบให้ใครมาทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของน่ะสิ”รัตเกล้าแกล้งย้อนคำพูดของเธอ จนมินจูชักเริ่มเคืองกอดรัดเธอแน่นมากขึ้น

    “แต่ตอนนี้ เธอเป็นของฉัน”น้ำเสียงแข็งๆที่แสดงอาการหึงหวงของมินจูทำให้รัตเกล้ารู้สักตัว ว่าตนนั้นดันไปแหย่โดนจุดเดือดของเธอเข้า

    “คุณมินจู ปล่อยฉันเถอะค่ะ คุณจะได้ไปนอนพักสักที”รัตเกล้าไม่อยากให้บรรยากาศดีๆนั้นเสียไปจึงเปลี่ยนเรื่องคุย

    “ไปนอนก็ได้ แต่คืนนี้เธอต้องนอนกับฉันนะ ถ้าไม่มีเธอฉันก็คงนอนไม่หลับ”มินจูทำเสียงอ้อนๆจนรัตเกล้าถอนหายใจออกมาอย่างระอา

    “ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ฉันจะอยู่ให้คุณกอดไปตลอดชีวิตเลยล่ะ”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×