คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #52 : นักล่าค่าหัว
ท่ามกลางเสียงกรีดร้องของบรรดาไทยมุงบ้านนอก ที่กำลังส่งเสียงเชียร์มวยหมู่ระหว่างผู้ชายสิบกว่าคนกับผู้หญิงคนเดียว เสียงโฮร้องและเสียงปรบมืออย่างชื่นชมดังขึ้น เมื่อสาวหล่อสามารถจัดการผู้ชายอกสามศอกได้ภายในพริบตา ทุกคนต่างก็ชื่นชมในความสามารถเหนือชายของสาวชาวจีนเป็นอย่างมาก การต่อสู้ดูเหมือนจะยุติลงแต่ก็เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อจู่ๆก็มีดาวกระจายพุ่งเข้าโจมตีร่างสูงนับไม่ถ้วน ความวุ่นวายจึงเกิดขึ้นไทยมุงวิ่งหนีแตกกระเจิงกันไปคนละทิศละทาง
“พวกไม่ได้เรื่อง ไร้ประโยชน์จริงๆ”
รัตเกล้ามองขึ้นไปบนยอดเสาไฟฟ้าด้วยแววตาที่ลุกวาว เมื่อชายในชุดดำที่ยืนอยู่ตรงนั้นเป็นคนที่เธอจำได้ไม่เคยลืม
“รู้สึกว่าพวกเราจะเจอโจทย์เก่าเข้าซะแล้ว”
“หือ นึกว่าใครที่แท้ก็สุนัขรับใช้ของสกุลโจวนั้นเอง ยังเหลือแกอยู่อีกหนึ่งคนนี่ ต้าอี้”มินจูกระตุกยิ้มมองชายหนุ่มผู้เป็นคนสนิทของโจวจ้าวสื่อ
“จางมินจู ความแค้นของสกุลโจวในครั้งนี้ มันยังไม่จบลงง่ายๆหรอก”ต้าอี้คำรามด้วยความแค้น ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่พวกเธออย่างมุ่งร้าย
ข่าวร้ายของสกุลโจวทำให้ต้าอี้แทบช็อค แผนการที่ถูกเตรียมไว้เป็นอย่างดีพังไม่เป็นท่า เมื่อสกุลจางบุกเขามาโจมตีบ้านสกุลโจวเสียย่อยยับ ต้าอี้รู้สึกคับแค้นในใจที่ไม่สามารถอยู่ช่วยเจ้านายของตนได้ และความแค้นในครั้งนี้มันก็ยิ่งฝั่งรากลึกลงไปในใจของสกุลโจวทุกคน
“แกใช่มั้ย ที่ส่งคนมาลอบยิงฉัน”รัตเกล้าเอ่ยอย่างเอาเรื่อง
ต้าอี้แสยะยิ้มไม่สนใจเสียงเจ่ยแจ้วของเธอ ในสายตาชองเขาในตอนนี้มีเพียงจางมินจูคนเดียวเท่านั้น
“เหล่านักล่าค่าหัวทั้งหลายจงออกมา หากว่าผู้ใดสามารถเด็ดหัวของจางมินจูได้ ข้าจะให้รางวัลกับพวกเจ้าอย่างงาม”สิ้นเสียงของต้าอี้ก็ปรากฏร่างของนักล่าค่าหัวซึ่งเป็นนักฆ่าระดับพระกาฬหลายคนออกมาจากจุดต่างๆ จนเหมือนว่าพวกเธอได้ถูกล้อมกรอบจนหมดทางหนี
“คุณมินจู พวกเราถูกล้อม แบบนี้ถ้าไม่ตายกันไปข้างนึง คงจะออกจากวงล้อมของพวกมันไม่ได้แน่”รัตเกล้ากวาดสายตามองไปยังนักล่าทั้งชายหญิงที่ยืนล้อมพวกเธอไว้
“ระวังตัวด้วยโรส ขึ้นชื่อว่าเป็นนักล่าค่าหัว ล้วนแต่มือฝีมือทั้งนั้น”มินจูจับอาวุธคู่กายที่ซ่อนอยู่หลังเสื้อนอกอย่างเตรียมพร้อม
“คุณไม่บอก ฉันก็พอจะเดาออกว่าพวกนี้ไม่ธรรมดา”รัตเกล้าเริ่มกังวลเมื่อเหล่านักล่ามีมากกว่าพวกเธอ ภาพความร้ายกาจของเถาไปไปนักฆ่าคนแรกที่เธอเคยประลองฝีมือด้วยผุดขึ้น ถ้าจะให้เปรียบเทียบระหว่างเธอในตอนนั้นกับตอนนี้ รัตเกล้าคิดว่าตนสามารถอยู่ข้างกายมินจูได้โดยไม่เป็นภาระของเธออีกต่อไปแล้ว
“นี่น่ะหรอ คือจางมินจูผู้ยิ่งใหญ่ เงินรางวัลค่าหัวในครั้งนี้จะต้องตกเป็นของข้าอย่างแน่นอน”นักล่าจากแดนอาทิตย์อุทัยเอ่ยพร้อมกับจับดาบของตนมั่น
“ใครบอก มันต้องเป็นของข้าต่างหาก”เกิดการโต้เถียงขึ้นในหมู่นักล่าด้วยกัน เมื่อต่างฝ่ายต่างก็อยากได้ค่าหัวในครั้งนี้
“หุบปากเดี๋ยวนี้! ไม่ว่าใครก็ตามที่สามารถเด็ดหัวของมันได้ รางวัลก็จะตกเป็นของคนๆนั้น”ต้าอี้ตะโกนแทรกขึ้นเพื่อตัดรำคาญ
สายตาของเหล่านักล่าทุกคนจึงจับจ้องไปที่ร่างสูงที่ยืนนิ่งไม่ไหวติง ราวกับว่าเห็นมินจูเป็นเหยื่ออันโอชะที่พวกตนสามารถขย่ำเมื่อไหร่ก็ได้ แต่มินจูกลับหาได้หวั่นเกรงต่อสายตาของพวกนั้นไม่
“ชิ! ไอ้พวกสุนัขรับใช้สกุลโจว อย่าคิดว่าคนอย่างจางมินจูจะยอมเป็นเหยื่อให้พวกแกได้ง่ายๆ เข้ามาเลย! “มินจูคำรามลั่นพร้อมกับควงมีดสั้นหัวมังกร เพื่อแสดงให้เห็นว่าเธอไม่ใช่หมูในอวยที่จะถูกจับเชือดเมื่อไหร่ก็ได้
เหล่านักล่าพุ่งเข้าโจมตีร่างสูงด้วยเป้าหมายเดียวกันคือต้องการเอาชีวิตเพื่อเอาเงินรางวัล การต่อสู้แบบตัวต่อตัวก็เริ่มขึ้น แต่ก็มีนักล่าบางคนที่ไม่ได้หวังแค่การได้ประลองฝีมือ พวกมันต้องการเพียงแค่ค่าหัวราคาสูงลิบจึงไม่สนใจในวิถีแห่งจอมยุทธ์ กรูกันเข้าไปโจมตีมินจูพร้อมๆกัน
“บ้าจริง! แบบนี้มันรุมกันชัดๆ”รัตเกล้าเริ่มกังวลที่มินจูถูกโจมตีที่มันไม่ต่างอะไรกับพวกหมาหมู่ ที่ชอบใช้กำลังที่เหนือกว่าทำร้ายคนที่มีกำลังน้อยกว่าตน
“นายหญิง! ผมจะไปช่วยนายหญิงเดี๋ยวนี้แหละครับ”จิงสงถลาเข้าไปช่วยเจ้านายของตนที่กำลังถูกพวกนักล่ารุมด้วยกระบวนท่ามีดสั้นของเขา
รัตเกล้าอยากจะเข้าไปช่วยแต่ก็ติดอยู่ตรงที่ว่าเธอไม่มีอาวุธที่เหมาะกับตัวเองเลย และเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อมินจูถูกหนึ่งในนักล่าโจมตีถูกที่มือเข้า ทำให้มินจูมิอาจทนต่ออาการบาดเจ็บที่มีอยู่ก่อนหน้านี้ไว้ไม่อยู่ ร่างสูงกระโดดหลบการโจมตีของฝ่ายตรงข้ามถอยออกมาตั้งหลัก
“คุณมินจู!”รัตเกล้าตกใจที่มินจูถูกนักล่าเล่นงาน เธอสังเกตเห็นว่ามือของมินจูมีเลือดออกมา “แย่แล้ว”
“เป็นอะไรไป จางมินจู หรือว่าเกิดใจเสาะขึ้นมาถึงได้ล่าถอยออกไปแบบนั้น”ต้าอี้ที่ยืนดูการต่อสู้อยู่บนยอดเสาไฟแสยะยิ้มออกมา เมื่อฝ่ายของตนเริ่มเป็นต่อ แล้วสายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นสาเหตุที่ทำให้มินจูต้องล่าถอย
“นี่แกบาดเจ็บอยู่อย่างนั้นรึนี่ หึๆ นักล่าทั้งหลายรีบจัดการมันเลย”ต้าอี้ตะโกนสั่งการ
เหล่านักล่าเห็นว่าเป็นโอกาสที่จะปลิดชีวิตเหยื่อได้ จึงพุ่งเข้าไปโจมตีมินจูพร้อมๆกัน มินจูพยายามตั้งรับแต่เพราะอาการบาดเจ็บที่มันยังคงมีอยู่ทำให้เธอพลาดท่าถูกนักดาบฟันเข้าที่กลางหลัง
“คุณมินจู!”รัตเกล้ากรีดร้องออกมาด้วยความตกใจ เธอถลาเข้าไปหาคนรักของตนหวังที่จะเข้าไปช่วยโดยไม่ทันระวัง ต้าอี้ที่ยื่นดูมินจูที่กำลังถูกพวกของตนเล่นงานอย่างสนุกสนานนั้น เห็นรัตเกล้ากำลังจะเข้าไปช่วยร่างสูงก็คว้าเอาอาวุธลับออกมาขว้างใส่ร่างหนาทันที
“นายหญิงน้อย ระวัง!”จิงสงหันไปเห็นเข้าพอดี จึงกระโดดพุ่งตัวเข้าไปรับดาวกระจายนั้นแทนเธอ
“คุณจิงสง!”รัตเกล้าหันกลับไปมองอย่างตกตะลึง เมื่อบอดี้การ์ดของเธอล้มลงไปกองอยู่กับพื้น ที่กลางลำตัวมีดาวกระจายเหล็กแหลมคมสามเล่มปักฝั่งร่างแน่น
“นายหญิงน้อย ไม่เป็นไรนะครับ”เขาเงยหน้าขึ้นไปมองรัตเกล้าที่ถลาเข้ามาประคองตนให้ลุกขึ้น
“คุณจิงสง อดทดไว้นะ เดี๋ยวฉันจะพาคุณไปหาหมอ”เธอมองหยดเลือดที่ไหลออกมาจากบาดแผลอย่างลนลาน
“จิงสง!”มินจูอัดพลังใส่นักล่าที่ล้อมกรอบตนไว้ด้วยความโมโห จนพวกมันกระเด็นออกไปคนละทิศคนละทาง ก่อนที่จะถลาเข้าไปหาบอดี้การ์ดคนสนิท
“จิงสง นายเป็นยังไงบ้าง”
“ไม่ต้องห่วงผมนายหญิง รีบพานายหญิงน้อยหนีไปก่อนเถอะครับ”
“ฉันไม่ทิ้งให้นายอยู่ที่นี่หรอก จิงสง”มินจูจับมือของบอดี้การ์ดหนุ่มไว้เพื่อแสดงว่าตนจะไม่ไปไหนหากไม่มีเขาไปด้วย
“หนี...อย่างนั้นหรอ คำๆนี้มันไม่เคยมีอยู่ในหัวสมองของฉันเลย”รัตเกล้าว่าพร้อมกับกวาดสายตามองไปรอบๆกายเหมือนหาอะไรบางอย่าง และแล้วสายตาของเธอก็ไปสะดุดกับอะไรบางอย่างเข้า รัตเกล้าผละออกจากร่างบอดี้การ์ดหนุ่มพุ่งเข้าหาเป้าหมายเบื้องหน้าอย่างรวดเร็ว
กลุ่มเด็กวัยรุ่นที่ได้ยินว่ามีคนตีกันที่ท้ายตลาด ก็รีบออกมาช่วยเพราะคิดว่าเป็นพวกของตนโดนคู่อริรุมทำร้ายด้วยอาวุธครบมือ แต่พอเห็นว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้าไม่ใช่แค่การวิวาทกันธรรมดาก็ยืนมุงดูอยากสนใจใคร่รู้ ขณะที่กลุ่มที่มีจำนวนคนน้อยกว่ากำลังตกอยู่ในสถานการณ์ย่ำแย่ แต่จู่ๆหญิงสาวร่างอวบก็วิ่งออกจากกลุ่มพุ่งเข้ามาหาพวกตน
“ไม่ให้หนีไปได้หรอกน่า”ต้าอี้คิดว่ารัตเกล้าพยายามจะหลบหนีก็ขว้างอาวุธลับดาวกระจายเข้าใส่ร่างที่กำลังวิ่งทันที
“ส่งคมแฝกมาให้ฉันเดี๋ยวนี้!”รัตเกล้าตะโกนสั่ง เด็กวัยรุ่นคนหนึ่งในกลุ่มที่ยืนอยู่ด้านหน้าสุดตกใจที่เห็นเธอวิ่งเข้ามา ก็โยนคมแฝกในมือของตนส่งให้ ทันทีที่คมแฝกได้มาอยู่ในมือของรัตเกล้า พลังและความสามารถเหนือมนุษย์ก็พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว
สัมผัสที่หกเริ่มส่งสัญญาณให้รัตเกล้าได้รู้ตัวว่าเบื้องหลังของตนนั้น กำลังมีวัตถุอันตรายพุ่งเข้ามาด้วยความเร็วสูง ร่างหนาดีดตัวหันหลังกลับพร้อมกับเหวี่ยงคมแฝกออกไป ตีโต้ดาวกระจายของต้าอี้กลับได้อย่างแม่นยำ ดาวกระจายพุ่งกลับไปหาเจ้าของอย่างรวดเร็วจนต้าอี้เกือบจะหลบคมของดาวกระจายนั้นไม่ทัน
“ไอ้ลูกเทวดาทั้งหลายจงดูเอาไว้ให้ดีๆ ว่าคมแฝกไม่ได้มีไว้ให้มาทำร้ายกัน แต่มีไว้เพื่อช่วยเหลือคนและปกป้องคนที่เรารัก”รัตเกล้าหันกลับไปมองพวกเด็กวัยรุ่นแวบนึงด้วยแววตาดั่งนางเสือดาว ก่อนที่จะหันกลับไปส่งสายตาท้าทายต้าอี้
“ถ้าคิดว่าฉันจะหนีล่ะก็ ขอบอกไว้เลยว่าแกคิดผิด”
เหล่านักล่าเบนสายตาไปมองรัตเกล้าอย่างสนใจ เพราะอาวุธที่เธอใช้เป็นเพียงแค่ไม้ธรรมดาๆเท่านั้น จิงสงกับมินจูก็หันไปมองร่างหนาที่ยืนประจัญหน้ากับพวกศัตรู กำลังใจก็กลับมาอีกครั้ง มินจูประคองร่างจิงสงให้ลุกนั่งในท่าที่สบาย ก่อนที่จะยันกายให้ลุกขึ้นเต็มความสูงอีกครั้ง มือเรียวกระชับมีดสั้นหัวมังกรแน่นพร้อมกลับสู่สั่งเวียนเดือดอีกครั้ง
“พวกแกมองอะไรกันอยู่ ตั้งใจจะมาเอาชีวิตฉันไม่ใช่รึไง”เสียงท้าทายของมินจูทำให้พวกนักล่าหันกลับไปสนใจเธออีกครั้ง
“ไม่ต้องห่วงไปหรอกว่าจะตายช้า เพราะว่าฉันคนนี้แหละที่จะเป็นคนเด็ดหัวของแกเอง”นักล่าผู้ใช้ดาบแสยะยิ้มออกมาก่อนที่จะพุ่งเข้าใส่มินจูหมายปิดบัญชี มินจูกระโดดหลบด้วยวิชาตัวเบาแล้วโต้กลับพวกนั้นอย่างไม่ยอมแพ้เช่นกัน
“มังกรพิฆาตวายุ!”
พายุใบมีดโหมกระหน่ำใส่ร่างนักล่า แต่ทว่าความรุนแรงของกระบวนท่าในตอนนี้มันไม่มากพอที่จะทำให้พวกมันหยุดการโจมตีได้ นักล่าสาวผู้ใช้โซ่เหล็กเหวี่ยงปลายโซ่ที่มีใบมีดคมกริบพุ่งเข้าใส่ร่างสูงด้วยความเร็วสูง
“อย่ามาแตะต้องคุณมินจูของฉันนะ!”รัตเกล้าพุ่งเข้ามาหาร่างสูงพร้อมกับเหวี่ยงคมแฝกตีสกัดปลายมีดของโซ่กระเด็นออกไป
“โรส อย่าเข้ามาขวางน่า”มินจูหันไปแห้วใส่เธอ
“ฉันไม่ได้เข้ามาขวาง แต่ฉันมาเพื่ออยู่เคียงข้างคุณ ต่อสู้ร่วมกับคุณในฐานะของคนสกุลจาง”รัตเกล้าหันไปสบตามังกรสาวผู้ทระนง
“แต่ฉันเป็นผู้นำของตระกูล ไม่จำเป็นต้องให้เธอมาปกป้อง”มินจูยังคงดื้อดึงไม่ยอมท่าเดียว
“จนป่านนี้แล้วคุณยังไม่เข้าใจอีกหรอ คุณมินจู”รัตเกล้าส่ายหัวอย่างระอา
“ตอนนี้เธอเป็นคนของสกุลจางแล้วก็จริง แต่หน้าที่ปกป้องเมียมันเป็นของหน้าที่ของฉัน”ประโยคนี้ของมินจูทำเอารัตเกล้าถึงกับอ้าปากค้าง แต่ไม่ทันได้เถียงกลับพวกนักล่าก็โจมตีเข้ามาอีกครั้ง
“มัวแต่ทะเลาะกันอยู่นั้นแหละ งั้นก็ไปทะเลาะกันต่อในนรกทั้งคู่นั้นแหละ”นักล่าสาวสะบัดโซ่เหล็กพุ่งใส่ร่างหนา
มินจูผลักรัตเกล้าออกเข้าไปรับโซ่เหล็กแทน ทำให้สายโซ่ตวัดคล้องแขนเรียวแน่น นักล่าสาวเหยียดยิ้มก่อนที่จะกระตุกโซ่ดึงร่างสูงให้ลอยคว้างบนอากาศ ก่อนที่จะบังคับเหวี่ยงร่างนั้นให้กระแทกเข้ากับกำแพงอิฐอย่างแรง
“คุณมินจู!”รัตเกล้าร้องเสียงหลง เมื่อมินจูถูกโซ่ที่สะบัดไปมาเหมือนมีชีวิตจับร่างเหวี่ยงซัดกำแพงจนพังถล่มลงมา เธอรีบถลาเข้าไปหามินจูที่อยู่ในสภาพสะบักสะบอมพยายามดึงตัวเองให้ออกจากซากกำแพง
“คุณมินจู ไม่เป็นไรนะค่ะ”
“หนอย...ไอ้พวกชั้นต่ำ พวกแกจะดูถูกคนอย่างฉันมากไปแล้วนะ”มินจูยังคงดื้อรั้นสลัดมือหนาที่เข้ามาช่วยประคองตนออกอย่างเจ็บใจ
“ถอยออกไปโรส อย่าเข้ามายุ่ง!”
“ฉันไม่ถอย ขืนปล่อยให้คุณเข้าไปสู้กับพวกมันในสภาพแบบนี้ ไม่ต่างอะไรกับปล่อยให้คุณไปตาย”รัตเกล้ารั้งแขนร่างสูงเอาไว้ไม่ยอมปล่อย
“คนอย่างจางมินจู แม้จะต้องมาตาย ก็ตายอย่างมีศักดิ์ศรี”
“ถ้าคุณตาย แล้วฉันล่ะ!?! คุณจะทิ้งให้ฉันต้องอยู่คนเดียวหรอ”คำพูดของรัตเกล้าทำให้มินจูหันไปมองอย่างอึ้งๆ ใบหน้าที่แสดงถึงความเจ็บปวดที่ต้องมาเห็นคนที่ตัวเองรักอยู่ในสภาพเช่นนี้ มันทำให้รัตเกล้าเจ็บมากกว่าที่มินจูเจ็บหลายเท่า ดวงตากลมโตบัดนี้มีหยดน้ำใสๆเอ่อล้นออกมาด้วยความเสียใจ เพียงแค่คิดว่าจะต้องอยู่บนโลกนี้คนเดียวโดยไม่มีเธออยู่เคียงข้างกันเหมือนอย่างวันวาน
“ไหนคุณบอกว่า คุณจะอยู่กับฉันตลอดไปยังไงล่ะ ถ้าหากว่าคุณจะต้องตาย ฉันก็จะตายไปพร้อมกับคุณ”รัตเกล้าเอ่ยด้วยน้ำเสียงปนสะอื้น
มินจูถึงกับอึ้งอีกครั้ง จากที่ร้อนแรงด้วยไฟแห่งโทสะก็ดับวูบลง เพียงแค่ได้สบสายตาที่อาบด้วยน้ำตาของหญิงอันเป็นที่รัก เธอครุ่นคิดทบทวนถึงคำพูดของหญิงสาวนิ่ง คำมั่นสัญญาที่ตนได้เอ่ยไว้ว่าจะอยู่ด้วยกันตลอดไปทำให้มินจูมีสติกลับคืนมาอีกครั้ง
“น่าประทับใจจริงๆกับนิยายรักน้ำเน่าเรื่องนี้ แต่ว่าตอนนี้มันไม่ใช่เวลาที่พวกแกจะมาทำซึ้งกัน ถ้าอยากจะอยู่ด้วยกันก็ตามไปอยู่ด้วยกันในนรกทั้งคู่เสียเลย นักล่าทุกท่านช่วยสังเคราะห์ให้กับความรักอันชวนให้สะอิดสะเลียนนี้ที”ต้าอี้เอ่ยด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน ดวงตาของเขาจ้องมองไปยังทั้งสองอย่างแค้นเคือง ถึงเวลาแล้วที่จะปิดบัญชีแค้นของสกุลโจว ในที่สุดเขาก็สามารถแก้แค้นให้กับเจ้านายที่ต้องมาพลาดท่าตายด้วยน้ำมือของจางมินจูได้
เหล่านักล่าทั้งชายหญิงค่อยๆย่างสุ่มเข้ามาหาทั้งสองสาว สายตาทุกคู่จับจ้องไปที่พวกเธออย่างนึกสมเพช
“ไหนๆพวกแกก็จะตายอยู่แล้ว จะมีอะไรสั่งเสียสักหน่อยมั้ย”เสียงแหลมๆของนักล่าหญิงทำให้พวกมันทุกคนหัวเราะออกมาอย่างสะใจ
“ฮ่าๆวันนี้จะเป็นวันที่จางมินจูจะสิ้นชื่อ ด้วยน้ำมือของข้าคนนี้แล้ว”นักล่าอีกคนหนึ่งเอ่ย มองไปยังร่างหญิงสาวทั้งสองเหมือนกำลังคิดว่าตนจะจัดการพวกเธออย่างไรดี
“ไม่มี!”มินจูเอ่นห้วนๆออกมา ดวงตาเรียวเล็กกวาดมองนักล่าทุกคนก่อนที่จะเอ่ยออกมาอีกว่า
“เพราะว่า ฉันจะไม่ยอมตายจนกว่าจะฆ่าพวกแกให้หมด”
“หนอย!!! ปากดีแบบนี้ก็อย่าอยู่เลยแก ตายซะ!!!”ด้วยความโมโหนักดาบจึงพุ่งเข้าหามินจูพริ้มกับวาดคมดาบใส่
แก๊ง! มินจูเอามีดสั้นของตนขึ้นมากันคมดาบไว้ได้ พร้อมกับดันพลังใส่ปลายมีดผลักร่างใหญ่ของนักดาบให้กระเด็นออกไป นักล่าสาวเห็นว่ามินจูยังไม่สิ้นฤทธิ์ก็ตวัดโซ่เหล็กพุ่งเข้าใส่ในจังหวะที่เธอไม่ทันระวังตัว กึ๊ก! แต่ก็ถูกคมแฝกของรัตเกล้าตีปัดออกไปได้
“คุณมินจู นี่คือสิ่งที่ฉันต้องการจะบอกคุณมาตลอด วันนี้คุณพลาดพลั้งเสียทีให้กับศัตรู จนตัวเองต้องเป็นฝ่ายเสียเปรียบ หากเป็นคุณคนก่อนที่เราจะรู้จักกัน คุณคงดื้อดึงสู้กับพวกมันจนตัวตายไปแล้ว แต่ว่า...ตอนนี้มันไม่เหมือนตอนนั้นอีกแล้ว เพราะว่าคุณยังมีฉันที่คอยอยู่เคียงข้าง ฉันจะเป็นเพื่อนคู่คิดให้คุณ แล้วจะเป็นคู่หูให้คุณในยามที่คุณเข้าตาจน ฉันจะสู้อยู่เคียงข้างคุณไม่ทอดทิ้งคุณไปไหนแน่ เพราะว่าฉัน...รักคุณ”มินจูถึงกับอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก เมื่อรัตเกล้าเอ่ยคำที่เธอคาดไม่ถึงออกมา
รัตเกล้าหันกลับไปส่งสายตาดุดันใส่เหล่านักล่าอย่างเอาเรื่อง พร้อมกับควงคมแฝกข่มขวัญพวกมัน
“ถ้าคิดจะมาแตะต้องคุณมินจูของฉันอีกล่ะก็ ข้ามศพฉันคนนี้ไปก่อนเถอะ”
ความคิดเห็น