คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #20 : Chapter 16 : BAD
Chapter 16 BAD
“อื้อ...บีขา..อ๊ะ”เสียงหวานที่แหบพร่าด้วยแรงปรารถนาเรียกชื่อคนที่กำลังซุกไซร้หน้าเข้ากับเนินอกอวบอิ่มของตน
หญิงสาวกัดปากสะกดกลั้นอารมณ์ที่ร่างสูงชักพาแต่คนที่อยู่ด้านบนกลับมองกิริยานั้นว่าเป็นอาการเย้ายั่ว
“อ่าคริส...เซ็กซี่ชะมัดเลยทูนหัว”น้ำเสียงทุ้มต่ำนั้นแหบพร่าไม่แพ้กัน
น้ำทิพย์ยืดตัวขึ้นมอบจูบร้อนแรง
ปลายลิ้นกระหวัดตักตวงความหวานหวามอย่างไม่รู้จักพอ
ก่อนจะก้มลงไปเล่นกับอกคู่สวยอีกครั้ง
เรียวลิ้นร้ายกาจลากไล้สำรวจต่ำลงมาจนถึงศูนย์รวมความหฤหรรษ์
“อืม..บี
อ๊า..”มือเล็กเผลอกดศีรษะอีกฝ่ายให้แนบชิดมากยิ่งขึ้น
ปลายลิ้นร้อนเคลื่อนไหวอย่างมีศิลปะจนพาหญิงสาวขึ้นไปแตะเส้นขอบฟ้าได้อีกครั้ง
น้ำทิพย์ไม่ยอมหยุดกิจกรรมออกกำลังในร่มที่กำลังเรียกเหงื่อได้เป็นอย่างดีไว้แค่นั้น
เธอไล่ใช้ปลายลิ้นทำความสะอาดก่อนยื่นหน้าขึ้นไปจูบอีกหน
ในขณะที่มือเรียวก็ขยับรุกล้ำพื้นที่ส่วนบุคคลที่ตอนนี้ดูเหมือนเธอจะมีสิทธิ์ครอบครองมากกว่าเจ้าของเสียแล้ว
“คริสสวยจัง”คำเอ่ยชมปนเสียงหอบกระเส่าทำให้เจ้าของใบหน้าที่แดงซ่านอยู่แล้วแทบอยากมุดดินหนี
แต่ก็ทำไม่ได้เพราะตอนนี้ติดภารกิจรักที่ยังพัวพันไม่จบสิ้น
“อ๊ะ..บี
คริสมะ..ไม่”เสียงหวานกระท่อนกระแท่นขาดห้วงเพราะจังหวะถูกเร่งเร้าโดยคนคุมเกมที่กำลังตีตราประทับไปทั่วทั้งร่าง
ตุบ!!!
“โอ๊ย”น้ำทิพย์ร้องลั่นเพราะร่างสูงๆของตนเองที่กระแทกพื้นเสียงดังจนพอจะทำให้คนที่เพิ่งตื่นตาสว่างได้ในทันที
ยังไม่นับรวมความเจ็บมึนๆที่หัวก็พอเข้าใจได้ว่าเมื่อครู่เป็นเพียงความฝัน
“ฝันอะไรของกูวะเนี่ย!!!”คนเพิ่งตื่นยีหัวหัวเองแรงๆ
สองสามสัปดาห์ที่ผ่านมาเธอก็มักจะฝันถึงความทรงจำ...อันที่จริงก็ไม่แน่ใจเสียทีเดียวว่ามันเป็นความทรงจำ
แต่พอถามกับศิรินและมาธวีก็ได้คำตอบว่าเหตุการณ์เหล่านั้นเกิดขึ้นจริงๆ
จนตอนนี้น้ำทิพย์คิดว่าความทรงจำของตนเองพอจะกลับมาบ้างแล้ว...แต่ไอ้ฝันเมื่อกี๊นี้ก็ไม่กล้าจะไปถามศิรินหรอกนะ
ว่าเรื่องจริงมั้ย
ร่างสูงโปร่งที่นั่งอยู่บนพื้นถอนหายใจพรืด
ปาดเหงื่อที่เกาะพราวอยู่เต็มหน้าผากเพราะฝันชวนตื่นเต้นเมื่อครู่ก่อนแลบลิ้นเลียริมฝีปากที่แห้งผากเบาๆอย่างเสียดาย
ถึงจะเป็นแค่ฝัน..แต่ก็น่าจะต่ออีกซักนิด
เสียดายฉิบ..กำลังได้อารมณ์เลย
“คุณหนูบีคะ
เป็นอะไรรึเปล่าคะ”เสียงเรียกชื่อเธอและเสียงเคาะประตูทำให้น้ำทิพย์หยุดความคิดไว้แค่นั้น
เธอเดินไปเปิดประตูบอกป้าจิตที่สงสัยเสียงดังตุบเมื่อครู่ว่าไม่มีอะไร ก่อนจะตรงเข้าห้องน้ำไปจัดการตัวเองให้อยู่ในสภาพพร้อมทำกิจวัตรประจำวัน
“อ้าวลงมาแล้วเหรอ
แม่กำลังจะไปตามพอดี...หนูคริสมาหาแน่ะ”มาธวีกวักมือเรียกพร้อมเดินเข้ามาหาน้ำทิพย์ที่กำลังสงสัยว่าศิรินมาทำไมตั้งแต่เช้า
“ทำไมวันนี้คริสมาเช้าจัง”ร่างสูงเอ่ยถามขณะที่ทั้งคู่พากันมานั่งคุยรออาหารเช้าจากป้าจิตที่ศาลากลางสวน
บรรยากาศยามเช้าร่มรื่นและเต็มไปด้วยกลิ่นอายความบริสุทธิ์ช่วยให้ทั้งสองผ่อนคลายกับการคุยกันมากขึ้นกว่าเดิม
“วันนี้คริสมีงานน่ะ
ส่วนตอนเย็นมีปาร์ตี้กับพวกเจนี่ วุ้นเส้นน่ะ อืม..บีไปด้วยป้ะ”น้ำทิพย์ส่ายหน้า
อันที่จริงเธอก็พอจะจำพวกเพื่อนๆของศิรินได้ลางๆตอนที่สาวหมวยพามาแนะนำก่อนออกจากโรงพยาบาล
แต่ถ้าจะให้ไปทำความรู้จักค่อยๆทักทายในปาร์ตี้เพื่อนสาวสุดแซ่บคงไม่เหมาะเท่าไรนัก
“ว้า..เสียดาย”สาวหมวยทำหน้างุยแบบที่ชอบทำตอนมีเรื่องขัดใจ
แต่ก็พบความผิดปกติเพราะน้ำทิพย์ที่เอาแต่จ้องหน้าเธอแทบไม่วางตา
ทั้งที่ปกติเจ้าตัวมักจะชอบทำเป็นชมนกชมไม้มากกว่า
“บี?
หน้าคริสมีอะไรติดรึเปล่า”พอดีกับที่อาหารเช้าง่ายๆอย่างแซนด์วิชไข่ต้มกับน้ำผลไม้สำหรับศิรินและแซนด์วิชทูน่ากับนมสำหรับน้ำทิพย์มาเสิร์ฟ
ทำให้ศิรินไม่ได้สนใจคำตอบมากนักเพราะท้องที่ยังว่างเริ่มร้องประท้วงทันที
รอช้าอยู่ไย..คนตัวเล็กรีบจัดการกับอาหารมื้อแรกของวันก่อนที่น้ำทิพย์จะได้หยิบจานใส่แซนด์วิชชิ้นใหญ่น่ากินนั่นมาพิจารณาเสียอีก
คนตัวสูงอดที่จะขำไม่ได้กับอาการของสาวหมวยตรงหน้า
“เออ
แล้วเมื่อคืนบีฝันอะไรบ้างป้ะ”
พรวด!!!
“แค่กๆ”ร่างสูงพ่นนมสดที่เพิ่งดื่มออกมาก่อนจะไอโขลกๆเพราะอาการสำลัก
ดีที่หันหน้าออกไปทางอื่นทันก่อนที่มันจะกลายเป็นเล่นสงกรานต์น้ำนมใส่ศิรินเต็มๆ
“บี! เป็นอะไรรึเปล่าเนี่ย
ดื่มดีๆสิ”คนตัวเล็กกว่ายื่นผ้าเช็ดหน้ามาซับริมฝีปากที่เปื้อนเปรอะไปด้วยของเหลวสีขาว
“แค่กๆ..บีโอเค”ร่างสูงยกมือห้ามก่อนที่ศิรินจะโวยวายให้แม่เธอรู้แล้วก็โดนเอ็ดเอาอีก
“อ่ะบี...แล้วที่สำลักนี่คงไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องที่คริสถามหรอกนะ”คำถามลองเชิงจากศิรินดูจะได้ผลชะงักเพราะน้ำทิพย์กำลังเบือนหน้าหนีสายตาจับผิดของคนถาม
“ไม่หรอกๆ
เอ่อ...เมื่อคืนบีไม่ได้ฝันอ่ะ”ศิรินทำท่าหรี่ตาแบบที่น้ำทิพย์เคยทำบ่อยๆตอนจับผิดเธอ
แต่แทนที่จะดูดุๆกลับกลายเป็นทำให้ใบหน้าแบบคนหมวยๆนั้นแทบจะเหมือนกับมีสี่คิ้ว
แล้วตาล่ะหมวย..ต้องไปแจ้งความตาหายมั้ยนั่น
เป็นโชคดีของน้ำทิพย์ที่เสียงข้อความแจ้งเตือนจากแอพลิเคชั่นสื่อสารยอดฮิตอย่างไลน์ดังขึ้นเรียกความสนใจจากหญิงสาวไปเสียก่อน
พอได้กวาดตาอ่านข้อความที่ส่งมาจากผู้จัดการส่วนตัวอย่างหวานเจี๊ยบ
ใบหน้าที่ไม่ได้แต้มแต่งด้วยเครื่องสำอางก็ยู่เข้าหากันแล้วเจ้าตัวก็จือปากอย่างนึกขัดใจ
“คริสต้องรีบไปถ่ายละครแล้วอ่ะ
พี่หวานเจี๊ยบบอกคิวผิด...วันนี้คงไม่ได้เจอกันแล้วอ่ะเนอะ”น้ำทิพย์ทำได้เพียงยิ้มรับ
ไม่กล้าพูดอะไรมากไปกว่านั้น
แต่ความจริงก็...
อยากอยู่ด้วยเหมือนกันแฮะ
“ตั้งใจทำงานแล้วกันนะคะ”ศิรินยิ้มกว้างทันทีที่ประโยคนั้นออกมาจากปากแฟนสาว
เธอมั่นใจว่าอีกไม่นานความทรงจำของน้ำทิพย์จะกลับคืนมาเป็นปกติแน่
เพราะเมื่อก่อนคำพูดนี้น้ำทิพย์มักจะพูดกับเธอก่อนเธอไปทำงานเสมอ
ต่างกันนิดหน่อยตรงที่วันนี้..ไม่มีจูบที่หน้าผากหรือหอมแก้มก็เท่านั้นแหละ
“ไปละ
เจอกันนะบี”น้ำทิพย์หัวเราะเบาๆเพราะมือเล็กฉวยเอาแซนด์วิชที่ยังวางอยู่บนจานอีกชิ้นติดไม้ติดมือไปด้วย
หญิงสาวเจ้าของใบหน้าคมแอบผิดหวังเล็กๆที่ศิรินกลับเร็วเกินคาด
นอกจากหล่อนแล้ว..วันๆนึงเธอก็แทบไม่ได้เจอใครเลย เพราะมาธวียังไม่อนุญาตให้เธอออกจากบ้านไปทำงานเป็นปกติด้วยซ้ำ
ยิ่งเรื่องอนิภรณ์ยิ่งไปกันใหญ่...แค่จะแชทคุยยังต้องแอบขึ้นไปแชทบนห้อง
“เฮ้อ..ทำไรดี”แม้ว่าน้ำทิพย์จะติดต่อกับเพื่อนๆอย่างพวกออร์แกนหรือคุยกับผู้จัดการแอนบ้างแล้ว
และก็ยอมรับว่าเริ่มสนิทและเข้าใจศิรินมากขึ้น
แต่มันมีบางอย่างที่ทำให้เธออดคิดถึงคนรักอีกคนไม่ได้
เสียงโทรศัพท์มือถือที่อยู่ในมือกรีดร้องฉุดความสนใจของน้ำทิพย์ก่อนจะเบิกตาอย่างตระหนกเมื่อพบว่าใครเป็นคนติดต่อมา
น้ำทิพย์รีบก้าวขายาวๆของตนเองเพื่อพาร่างเพรียวบางของตนเองขึ้นไปบนห้อง
เพราถ้ารับโทรศัพท์ตรงนี้มีหวังโดนตัดขาดกันอย่างถาวรแน่
“ฮัลโหลแนท..”น้ำทิพย์รีบกดรับโทรศัพท์เพราะเกรงว่าอีกฝ่ายจะวางสายไปเสียก่อน
ทว่าก็ต้องประหลาดใจเล็กน้อยเพราะน้ำเสียงของปลายสายนั้นสดใสแทนที่จะต้องเหวี่ยงวีนที่เธอรับโทรศัพท์ช้าแบบที่ควรจะเป็น
[พี่บีคะ..วันนี้ออกมาเที่ยวกันเถอะ] คิ้วเรียวสวยเลิกสูงทันทีที่ฟังจบ
ให้ออกไปทำงานยังไม่ได้..แล้วเธอจะขอออกไปเที่ยวได้อย่างไรกัน
“แนท..พี่ก็อยากไปนะคะ
แต่ว่าแนทก็รู้นี่คะว่าคุณแม่พี่....”
[แต่พี่บีคะ..ช่วงนี้เราไม่ค่อยได้เจอกันเลยนะคะ
พี่บีไม่คิดถึงแนทแล้วเหรอ..] เสียงของอนิภรณ์เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นออดอ้อนแกมน้อยใจ
“พี่ก็คิดถึงแนทนะคะ
แต่ว่า...”สีหน้ายุ่งยากลำบากใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าคม
[ไม่รู้ล่ะ ถ้าพี่บีไม่มาวันนี้แนทจะโกรธจริงๆด้วย จะไม่ยอมคุยกับพิ่อีกเลย!!!]
น้ำเสียงเง้างอนของคนปลายสายยิ่งทำให้น้ำทิพย์ต้องกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก
“กะ..ก็ได้ค่ะ”
[ดีค่ะ เจอกันที่เดิมของเรานะคะ...จำได้รึเปล่าเอ่ย]
“ค่ะ
จำได้อยู่แล้ว...งั้นเจอกันนะคะ”
[น่ารักที่สุดอ่ะ บายค่ะจุ๊บๆ]
และที่อนิภรณ์ทิ้งไว้คงเป็นความวิตกกังวลล้วนๆ
แต่ใจนึงน้ำทิพย์ก็คิดว่าถ้าหากเธอออกไปได้...ก็คงได้เจอหญิงสาวตาคมผมยาวอันเป็นที่รักให้หายคิดถึง
ร่างสูงส่ายหน้ากับตัวเองแล้วทิ้งตัวลงบนเตียงเพื่อคิดแผนการณ์ขอคุณแม่สุดที่รักให้อนุญาตให้เธอออกจากบ้านเสียที
“เรียบร้อย”เสียงหวานที่ถูกดัดเพื่อออดอ้อนคนปลายสายสุดซื่อบื้อเมื่อครู่กลับสู่ความเรียบสงบและแฝงไปด้วยความเย็นเยียบเหมือนเดิม
“คุณนี่มารยาร้อยเล่มเกวียนจริงๆ”เสียงหัวเราะในลำคอของผู้ร่วมห้องทำให้ริมฝีปากที่เคลือบด้วยสีแดงสดของลิปสติกยกขึ้นอย่างอัตโนมัติ
“คุณยังไม่รู้จักฉันดีพอ...มาหาว่าฉันมารยาร้อยเล่มเกวียนมันเร็วไปรึเปล่า”ธราภุชกระตุกยิ้มก่อนดึงตัวหญิงสาวที่กำลังส่งยิ้มยั่วยวนให้เข้ามาแนบชิด
“แล้วคุณมีมากกว่านี้เหรอ...อืม
เท่าที่ผมได้ยินมา ซักห้าร้อยเล่มเกวียนคงเหมาะกับคุณได้รึเปล่า”อนิภรณ์ยิ้มร้าย
มือเรียวลูบไล้ไปตามแผ่นอกเปลือยเปล่า
“ไม่รู้สิ...ไม่เคยนับซะด้วย
เอาเป็นว่ามากพอจะทำให้ใครๆหลงหัวปักหัวปำ...รวมทั้งคุณด้วยนะ เซนต์”
“โธ่แม่คะ นะ...ให้บีออกไปเถอะ”น้ำทิพย์กำลังขอร้องอ้อนวอนอยากออกไป ทิ้งตัวลงคุกเข่ากอดขาแม่เอาไว้ เอิ่ม..
“ไปไหน
คิดว่าแม่ไม่รู้เหรอ เดี๋ยวแกก็เมากลับมาอีก”สรรพนามถูกเปลี่ยนจาก ‘ลูก’ เป็น ‘แก’ เพื่อแสดงให้เห็นว่ามาธวีเองก็ไม่ได้ยอมง่ายๆ
“แหม
บีก็ออกไปกับเพื่อนนี่คะ อีกอย่างนะบีก็จำได้เกือบหมดแล้วด้วย
ไม่แน่ได้ออกไปสังสรรค์กับเพื่อนอาจจะความจำกลับมาครบร้อยปิ๊งปั๊งทำงานได้เหมือนเดิมไง
นะน้า..นะคะแม่”มาธวีกลอกตากับการแอคติ้งราวจะตายถ้าไม่ได้ออกไปของน้ำทิพย์
“นะค๊า~~~~~~~”คนเป็นแม่ถอนหายใจซ้ำเป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ไม่ได้นับ และสุดท้ายก็ต้องใจอ่อนให้กับลูกสาวขี้อ้อนจนได้
“เฮ้อ
ไปกี่โมง”เด็กหญิงน้ำทิพย์ยิ้มกว้างก่อนจะตอบอย่างฉะฉานยิ่งกว่าไปสอบสัมภาษณ์เข้ามหาวิทยาลัยเสียอีก
“ไปตอนค่ำๆค่ะ
ประมาณทุ่มนึงที่ Volcano Pub ไม่ต้องห่วงค่ะแม่
ร้านประจำ”มาธวีขมวดคิ้วทันทีที่ได้ยินชื่อสถานที่
“แต่ลูกไม่ได้ไปที่นั่นมาตั้งแต่เลิกกับยัยแหนดอะไรนั่นไม่ใช่รึไง
แล้วยังมาบอกว่าร้านประจำอีก ความจำกลับมาแน่แล้วเหรอ”เจ้าของใบหน้าคมอ้าปากค้างสามวิเพราะลืมคิดถึงเรื่องนี้ไปเสียสนิท
ถ้ามาธวีรู้เรื่องนี้ละก็..
“เอ่อ...บีไปกับพวกพี่แอนน่ะค่ะแม่
ไม่มีอะไรหรอก”สปิริตนักแสดงล้วนๆบวกกันการกะพริบตาออดอ้อนตามแบบเจ้าตัว แค่นี้ก็น่าจะพอจะทำให้คนเป็นแม่ยอมปล่อยผ่านไปได้
เธอเชื่อแบบนั้น
“อ่ะๆ
แล้วห้ามกลับเกินเที่ยงคืน...ไม่งั้นแม่จะขังลืมซะให้เข็ด”ร่างสูงที่ยังกอดผู้เป็นแม่ราวลูกแมวส่งยิ้มแบบแทบจะเห็นฟันครบสามสิบสองซี่เมื่อได้ยินคำตอบที่รอคอยแล้ววิ่งหายขึ้นไปบนห้อง
“ฉันตามใจลูกมากไปรึเปล่าเนี่ย”มาธวีส่ายหน้ากับตัวเองเบาๆ
รู้สึกว่าพอตั้งใจจะทำตัวดุทีไรก็ต้องพ่ายแพ้ให้ลูกอ้อนของแม่ตัวดีจนได้
Volcano
Pub
ดวงตาคมสวยที่ถูกกรีดด้วยอายส์ไลน์เนอร์จนมันดูดุขึ้นมาอีกหลายเท่ากำลังกวาดไปทั่วทั้งสถานบันเทิงยามราตรีที่คลาคร่ำไปด้วยนักเที่ยวหลากหลายช่วงวัย
เสียงเพลงจังหวะเร้าใจและแสงไฟหลากหลายสีที่สาดส่องไปมาทำให้หัวใจเต้นโครมครามเนื่องด้วยไม่ได้มาในสถานที่แบบนี้มานานหลายเดือน
น้ำทิพย์ยกยิ้มมุมปากเพราะสังเกตเห็นหญิงสาวที่เป็นจุดเด่นอยู่ท่ามกลางผู้คน
ด้วยชุดเดรสเปิดแผ่นหลังเนียนน่าสัมผัสสีแดงเพลิงที่ทำเอาชายหนุ่มหลายคนเผลอน้ำลายหก
แต่ก็ไม่ใช่อนิภรณ์เพียงคนเดียวที่เป็นจุดเด่น น้ำทิพย์เองก็เช่นกัน..ด้วยส่วนสูงเกือบหนึ่งร้อยแปดสิบเซนติเมตรที่มากเกินชาวบ้านชาวช่องเขา
แต่มันยังไม่ชวนสะดุดตาเท่าชุดเกาะอกสีขาวที่สั้นจนเผยให้เห็นเรียวขาสวยของเจ้าตัว
ซึ่งกำลังก้าวเดินไปหาคนที่กำลังส่งยิ้มรออยู่ที่โต๊ะอยู่แล้ว...
“พี่บีคะ
นี่เซนต์เป็นเพื่อนแนทเองค่ะ”เมื่อเดินมาถึงเธอก็ส่งยิ้มให้ชายหนุ่มที่นั่งดื่มอยู่ด้วยกันกับคนรักอีกสองคน
น้ำทิพย์จับมือทักทายตามมารยาท
แม้จะรู้สึกตงิดๆเหมือนเคยเห็นหน้าผู้ชายสองคนนี้ที่ไหนมาก่อน แค็คิดว่าคงเป็นผู้คนในวงสังคมชั้นสูงเลยเคยเห็นหน้ามาบ้างและไม่ได้ติดใจอะไรมากนัก
“ส่วนนี่พี่ฮิม..พี่ชายเซนต์ค่ะ”ชายหนุ่มที่ใส่แว่นทั้งสองคนที่ดูจะไม่มีท่าทางกะลิ้มกะเหลี่ยใส่อนิภรณ์
นั่นคือสิ่งที่ทำให้น้ำทิพย์ไว้ใจและเริ่มพูดคุยกับพวกเขา
โดยไม่รู้ตัวเลยว่าเหตุการณ์ครั้งนี้อยู่ในสายตาใครบางคนตลอดเวลาจากห้องกระจกจากชั้นบนของโซนวีไอพี
“วู้ววว นานๆจะได้มาครบแก๊งค์ วันนี้ไม่เมาไม่เลิกใจนะ”วิริฒิพาเอ่ยเสียงดังแข่งกับเสียงดนตรีที่เปิดกระหึ่ม
“อ่ะ
ขอให้รวยๆ สวยๆหาผัวได้นะจ๊ะอีเจี๊ยบบบ”คำอวยพรแรกเป็นของศิรินที่ส่งแก้วไวน์มากระทบเสียงดังกริ๊งเพื่อฉลองวันเกิดให้เพื่อนสาว
“แหมผัวน่ะหาเมื่อไหร่ก็ได้จ้ะเพื่อน
ว่าแต่แกเห๊อะ...ติดผัวไม่ยอมมาปาร์ตงปาร์ตี้กับเพื่อนเลยนะยะ”เอาแล้วไงหมวย จะพูดเรื่องผัวทำไมมันต้องย้อนกลับเข้าตัวเองทุกทีเลย
“เออใช่ๆ
ว่าจะเมาท์..วันนั้นเป็นไง สรุปน้ำหอมฟีโรโมนกับลิปสติกปลุกเซ็กส์นี่อะไรดีกว่ากัน”เป็นอลิชาที่ถามขึ้นหลังจากวางแก้วน้ำส้มลง
เพราะเนื่องด้วยเธอกำลังตั้งครรภ์ทำให้ไม่สามารถฉลองด้วงไวน์และแชมเปญแบบชาวแก็งค์เพื่อนสาวได้
“อะไรยะ
แกก็ถามไม่เกรงใจน้องเบบี๋ในท้องเลย มานี่ฉันถามเองดีกว่า..สรุปเป็นไงคะเพื่อน
วันนั้นเนี่ยยิ้มกันถึงเช้าใช่ป้ะ ฉันรู้นะแกเพิ่งมาเปิดอ่านตอนบ่ายสาม”เป็นเจ้าของวันเกิดที่อาสารับหน้าที่สอดแส่สาระแนและสอใส่เกือกเสียเอง
“บ้าเหรอแก
ยิ้มเยิ้มอะไรล่ะ ฉันแฮงค์อยู่หรอกคิดอะไรอกุศล”คนถูกจับผิดต้องปฏิเสธเป็นพัลวัลแล้วแสร้งยกแก้วไวน์ขึ้นมาดื่มกลบเกลื่อน
“แหม..แต่ก็ได้กันแล้วไม่ใช่เร๊อออ”ถึงนานาจะมาเงียบๆแต่นานาก็รู้มาเพียบนะคะ
รู้ขนาดว่าทั้งศิรินและน้ำทิพย์ตัวติดกันอย่างกับปาท่องโก๋ แถมช่วงที่น้ำทิพย์เกิดอุบัติเหตุศิรินก็มีสภาพคล้ายจะตายได้ทุกเมื่อขนาดนั้น
“ก็...อือ”สุดท้ายก็ต้องยมรับเพราะมิอาจต่อต้านขบวนการนางฟ้าทั้งห้าได้
ทำไมห้า?...ลืมบอกไปรึเปล่าว่าวันนี้พอลล่านางไปดินเนอร์ฉลองวันอะไรซักอย่างกับสามี
ไม่แน่ใจว่าวันที่จับมือกันวันแรกหรือกอดกันวันแรกหรือได้กันวันแรก
หมวยไม่อยากไปจำปฏิทินของพอลล่ามันเพราะเยอะมากกก (ก.ไก่ล้านตัว)
“นั่นไงเห็นมั้ย”วิริฒิพาตบเข่าฉาด
ไม่เว้นช่วงให้คนถูกซักหายใจหายคอก็รุกถามต่อทันที
“แล้วสรุปเป็นไง
บี น้ำทิพย์ สามีแห่งชาติคนล้านเมียที่สาวๆเค้ากรีดร้องอยากได้มาเป็นผะหลัวจนตัวสั่นน่ะ
แซ่บ-ป้ะ”ศิรินรู้ว่าเพื่อนรักจงใจเน้นคำหลังให้ดังจนได้ยินกันทั่ววงสนทนา
“ก็...ของแบบนี้เค้าไม่พูดกันหรอก”เสียงโห่ดังขึ้นทันทีแบบไม่ได้นัดหมายจากห้าสาวที่ตั้งหน้าตั้งตารอฟัง
แต่ก็ต้องหูผึ่งกับประโยคถัดมา ที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะออกมาจากปากคนขี้อายประจำแก๊งค์
“แต่เค้าเคยทำสถิติสูงสุดไว้เกินเวลานอนพวกแกอ่ะนะ”
บางคนอาจจะคิดว่าศิรินอวดผะหลัว
แต่มันเป็นเรื่องจริงนะ!! มันมีอยู่วันหนึ่งเมื่อสองสามเดือนก่อนที่พวกเธอได้หยุดตรงกันในรอบหลายสัปดาห์
เธอเองก็ไม่รู้ว่าน้ำทิพย์ไปคึกอะไรมาจากไหน
แต่วันทั้งวันก็ไม่ได้ทำอะไรนอกจากจุดสามจุดกันและสลบเป็นตาย
ตื่นมาอีกทีก็ข้ามวันแล้ว..โอ้โห ไรท์ไม่อยากมโนภาพเลย
พอคุยเรื่องผัวเพื่อนผัวเขาผัวเราผัวใครกันจบก็เป็นเรื่องสัพเพเหระที่หาสาระไม่ค่อยจะได้
ปาร์ตี้เรื่อยเปื่อยจนทั้งอลิชาและเจนสุดาต้องขอตัวออกไปยืดเส้นยืดสายที่ฟลอร์
ส่วนศิรินก็ซัดไวน์ไปเกินครึ่งขวดเริ่มจะมีสีแดงเป็นแถบๆที่ใบหน้าขาวใส
“เฮ้ยเจี๊ยบ
แกมาช่วยฉันดูนี่ดิ๊เผื่อฉันเมา”วิริฒิพาเรียกเจ้าของวันเกิดที่กำลังคุยเรื่องคอลเลคชั่นใหม่จากชาแนลกับนานาให้มาช่วยดูบางอย่าง
ดวงตาของเจนี่จับจ้องไปในทิศทางเดียวกับที่นิ้วเรียวสวยจากเพื่อนสาวชี้ไป
ก่อนที่ดวงตาคู่สวยจะเบิกกว้างแล้วยกมือขึ้นขยี้ตาอย่างไม่เชื่อตาตัวเองเท่าใดนัก
“ชัดเลย”สองสาวมองหน้ากัน
ก่อนจะค่อยๆหันหน้าสโลว์โมชั่นไปที่ศิรินที่ยังคงคุยกับนานาอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว
“หมวย”ศิรินเลิกคิ้วสงสัยว่าเหตุใดสองเกลอถึงเรียกเธออย่างพร้อมเพรียงกันได้
“อะไรวะ”
“แกช่วยดูหน่อยสิว่านั่นไม่ใช่ผัวแก”เจนี่ชี้ไปที่ใกล้ๆประตูทางออกที่กำลังมีใครสองคนเดินนัวเนียกันอยู่
ศิรินค่อยๆกวาดตามองหาคนที่วิริฒิพาว่า
ก่อนที่สายตาจะสะดุดเข้ากับหญิงสาวสองคนที่นับว่าเด่นพอสมควร
นั่นคือใครบางคนที่เห็นเพียงแผ่นหลังก็จำได้ขึ้นใจ...
“บี!!!”
~~~~~
โฮกกกก ไม่คิดว่าตอนนี้มันจะยาวขนาดนี้ เฮ้ยนี่มันยาวจริงๆนะ ไม่เคยเขียนตอนไหนถึง 3450 คำเลย นี่ยังไม่จบนี่ต้องไปต่อภาค 2 กำลังจะเข้าไคลแม็กซ์ และช่วงนี้ต้องอ่านหนังสือเตรียมสอบเข้าม.4 โอ้โห...คิดไปคิดมางานนี่เยอะ เหมือนกัน แต่ไม่ต้องห่วงไรท์เขียนทุกวันเพราะความขยัน ความบ้าและความไม่อยากขาดแคลนโมเม้นคู่
เอ่อลืมถาม สงกรานต์พวกยูวไปเที่ยวไหนกันบ้างเปล่า ไปไหนก็ระวังร่างละลาย แดดมัน #ร้อนจนต้องร้องขอชีวิต เล่นน้ำดีๆรักษาสุขภาพอย่าตากแดดมากเดี๋ยวเป็นลมนะยูวว
รักคุณยิ่งกว่าการบินไทยและใส่ใจยิ่งกว่ายางมิชลิน
ไรท์คนเดิมเพิ่มเติมคือสงกรานต์นอนอยู่บ้าน
ความคิดเห็น