ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักซาดิสส์ของคุณกิมฮวย

    ลำดับตอนที่ #17 : กระดาษใบนั้นมีอะไร

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 84
      0
      17 ส.ค. 48

        

      :   21  นาฬิกา   ม่านรูดไวท์ฮาเร็ม  :



    \"อาห์  อย่าเลยค่ะ  อย่าจับตรงนั้น\"   เสียงสาวน้อยหอบหายใจปนเหนื่อยอ่อนที่ต้องปัดป้องส่วนสงวนให้พ้นมือชายหนุ่ม



    \"ทำไมหล่ะครับ   สนุกนะ  ลองดูสักครั้งสิ\"   หนุ่มหล่อคนหนึ่งพยายามเกลี้ยกล่อมสาวน้อยให้ตกเป็นของเขาแต่โดยดี



    \"ซี้ดด  ไม่นะ  อ๊ะ  ตรงนั้นอย่า  อะ อะ อาห์  อย่า....หยุดค่ะ\"   ทัณฑ์ทรมานจากเพลิงสวาทที่ถูกเร่งเร้าทำให้เด็กสาวครางแทบไม่เป็นภาษา



    \"อย่าหยุดใช่มั้ยครับ    งั้นผมจัดการเลยนะ\"   ไอ้หล่อตู่เอาคำครางของหล่อนเป็นคำอนุญาตซึ่ง ๆ หน้า



    \"อูยยย   อาห์   นี่  ..เป็นครั้งแรกของคุณเหมือนกันใช่มั้ยคะ\"    สาวน้อยเผลอตัวถามคำถามที่ยากจะตอบ

    ชายหนุ่มหยุดการเล้าโลมทันที   แววตาเขาสำนึกผิด      



    \"ไม่ใช่หรอกครับ  ผมเสียความบริสุทธิ์ไปแล้ว   แล้วคุณจะรังเกียจผมรึป่าว\"    สายตาเว้าวอน   น่าสงสาร  ทำให้เธอหัวใจอ่อนยวบ  เธอเอื้อมมือไปกุมมือเขาเบา ๆ



    \"ไม่รังเกียจหรอกค่ะ   ร่างกายบริสุทธิ์ของคุณ  ไม่สำคัญเท่ากับรักบริสุทธิ์ที่คุณมอบให้ฉัน\"   เด็กสาวเว้นจังหวะหายใจชั่วครู่หนึ่ง



    \"แต่ว่า  แม่นั่นชื่ออะไรเหรอคะ\"  หล่อนอดถามไม่ได้



    \"เธอคนนั้น  ที่พรากความบริสุทธิ์ของผมไป   ชื่อว่ามาหยารัศมี   หรือที่เคยรู้จักในนามวิลิศมาหรา\"

    มือเล็ก ๆ ที่กุมมือของชายหนุ่มอยู่บีบตัวเข้าหากันจนเกิดเสียงดังกร๊อบ  ขณะที่เขานั้นสีหน้าเหยเกด้วยความเจ็บปวด



    \"คุณจะมีอะไรกับใครก็ได้   แต่ไม่ใช่กับนังแพศยานั่น\"     สาวน้อยเกิดเดือดปุด ๆ ขึ้นมาเมื่อทราบชื่อ

    ชายหนุ่มเลือดขึ้นหน้าด้วยความโกรธ  เขาสะบัดมือให้หลุดจากจากการเกาะกุม  แต่ท่าจะสะบัดแรงไปหน่อย   เกิดเสียง  กร๊อบ!!  พร้อม ๆ กับไหล่ของเธอทรุดลงทันที   คาดว่าคงเป็นกระดูกไหล่เคลื่อน



    \"นี่  คุณจะมาเรียกอดีตคนรักผมว่านังแพศยาไม่ได้นะ  ถึงมันจะเลวยังไง  การที่เรียกมันว่านังแพศยาย่อมหลู่เกียรติผมไปด้วย\"



    \"ฉันจะเรียกน่ะใครจะทำไม   นังแพศยา  นังแพศยา  นัง....\"    เพี๊ยะ!!  เสียงฝ่ามือปะทะกับแก้มนุ่ม ๆ  ของเด็กสาว   เลือดซึมออกจากปากนิด ๆ   และแก้มของเธอบวมเป่งราวกับยัดไข่ไก่ไว้ภายใน   น้ำลายปนเศษเลือด  และซากฟันหน้า  ร่วงลงแหมะ ๆ กับที่นอน



    เขาชักรู้สึกว่าตนเองทำรุนแรงไป  และยิ่งเสียใจเมื่อเด็กสาวเอาแต่ฟุบหน้าลงกับที่นอน   ไหล่ของเธอสั่นเทาราวกับกำลังกลั้นสะอื้น

    ชายหนุ่มค่อย ๆ วางมือลงที่หัวไหล่เธอ  หวังจะปลอบใจแต่คิดหาคำพูดดี ๆ ไม่ออก



    ทันใด  เขารู้สึกถึงสัญญาณอันตราย  จึงรีบโดดถอยหลังมาทันที   ไลท์เซเบอร์ยาวเกือบ  1.5 เมตร  ตวัดออกจากภายในอุ้งมือที่กุมหน้าร้องไห้ของเด็กสาวเมื่อสักครู่   ทว่าดาบนั้นยังคงทิ้งรอยไหม้จาง ๆ ไว้ที่ผิวหน้าท้องของเขา



    \"แค่ตบแค่นี้  ถึงกับจะฆ่ากันเลยเหรอ\"  ด้วยความโมโห  ชายหนุ่มคว้ากระชากเอาเสาค้ำเตียงโลหะหลุดออกมา   เขาจับรวบมันทั้งสี่อัน  แล้วมัดรวมให้เป็นเกลียวของตะบองขนาดใหญ่



    \"งั้นลองชิมนี่ดูหน่อยมะ    จะได้รู้ว่าใครควรจะมีสิทธิ์เอ่ยปากกันแน่\"  ชายหนุ่มตวัดตระบองหมุนควงจนข้าวของยับไปทั้งห้อง   ขณะที่สาวน้อยเม้มปากแน่น   และใช้ไลท์เซเบอร์ต้านรับพายุตะบอง



    อาวุธลับจำพวกไขควงและของมีคมเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น  กรรไกรตัดหญ้า  คัทเตอร์   กบเหลาดินสอ  และกรรไกรตัดเล็บ   ลอยออกมาปะทะกับชายหนุ่มไว้เพื่อรบกวนสมาธิเมื่อเขาเข้าไปใกล้หล่อนเกินไป  ทำให้เขาต้องเปลี่ยนแผนใหม่



    เขาปักปลายตะบองลงเบื้องหน้า  ก่อนใช้ค้ำยันดีดตัวลอยขึ้นไปในอากาศ  หลังจากนั้นใช้แรงเหวี่ยงที่ยังคงหลงเหลือ  ตวัดปลายตะบองขึ้นจากพื้น  ฟาดลงมาจากเบื้องบนอากาศด้วยความเร็วสูง   เมื่อเห็นดังนั้น   เด็กสาวก็ไม่ยอมแพ้  หล่อนสปริงตัวขึ้นจากเตียงสปริง  แสงของไลท์เซเบอร์สว่างวาบพาดผ่านอากาศเป็นรุ้งขาวยาวเหยียด   ตะบองโลหะในมือชายหนุ่มสะท้อนแสงและลุกโชนราวดวงอาทิตย์



    \"ย้ากกกก  รุ้งขาวทะลุตะวัน!!!\"     กระบวนท่าของเด็กสาวก่อให้เกิดเสียงปะทะกันอย่างถี่ยิบระหว่างโลหะกับเลเซอร์     เศษเสี้ยวของพลังงานในรูปลำแสง  กระจัดกระจายออกรอบข้างราวกับเป็นรัศมีของดวงอาทิตย์ที่ถูกทำลาย  ทั้งคู่กลับลงมาตรงพื้นบริเวณตำแหน่งเดิม  แต่ท่าทางได้รับบาดเจ็บทั้งคู่  รอบบริเวณเป็นรูพรุนไปหมดเนื่องจากกระบวนท่าเมื่อครู่



    \"คัท\"  ผู้กำกับเอ่ยอย่างหวาด ๆ เมื่อเห็นการแสดงที่ราวกับจะฆ่ากันตายเมื่อครู่  ครามจริงเขาสั่งคัทไปหลายทีแล้วหล่ะ  แต่ไม่มีใครได้ยิน



    ผมเลยหันไปถามผู้กำกับด้วยความคาดหวัง   \"เป็นไงครับ  ผมแสดงหนังนู้ดได้ดีมั้ย\"

    ผู้กำกับส่ายหน้าช้า ๆ  ผมสลดลงด้วยความผิดหวัง       \"แต่ว่า....\"   ผู้กำกับเอ่ยค้าง



    แม้จะเป็นเศษของความหวังแต่ทั้งคู่ก็จะคว้าไว้อยู่ดี   กิมฮวยจึงถามต่อ  \"แต่อะไรเหรอคะ\"



    \"คุณทั้งคู่ไม่คิดจะลองสมัครแสตนอินด์บทบู๊ดูหรือ   เมื่อครู่สู้ได้ดุเดือดสมจริงมากเลยนะ\"    กิมฮวยตวัดสายตามองหน้าผม  

    ผมรู้เธอกำลังคิดในใจว่า    ไม่ใช่สมจริงหรอก  สู้กันจริง ๆ เลยต่างหาก  ใครใช้ให้นายพูดชื่อนั่นหล่ะ  เวรเอ๊ย!!!



    เอาเถอะ   แสตนอินด์  ก็  แสตนอินด์วะ  ดีกว่าว่างไม่มีงานทำช่วงซัมเมอร์   ไรว้า  คนหล่อ ๆ แบบนี้ทิ้งไว้หลังม่านมายาได้ยังไงกันเนี่ย



    กิมฮวยไม่ยอมแพ้   \"งั้นก็ให้เราเป็นดาราคิวบู๊เลยสิคะ  จะได้ไม่ต้องจ้างแสตนอินด์ให้เปลืองโสหุ้ยเพิ่ม\"   โอ  ว่าที่ภรรยาผม  ไอเดียบรรเจิดจริง ๆ  คิดไปได้ไงเนี่ย



    \"ไม่ได้หรอกครับ   ช่วงนี้นางเอกที่มีขนหน้าอกยังไม่ค่อยได้รับความนิยม     แต่คุณปริศนาพอได้อยู่นะ\"   กิมฮวยขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจ  นี่เขาเอาจุดเด่นของเรามาล้อเล่นเลยหรอ  อย่าให้รู้จักบ้านนะ  ตามบึ้มแน่



    \"ถ้าคุณปริศนาได้คนเดียว  แต่ดิฉันไม่ได้  ก็ไม่ต้องหรอกค่ะ  พวกเรารักกันมาก  และจะไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด\"

    อิจฉาก็บอกสิกิมฮวย  ผู้กำกับมองหน้าผมเชิงถามความเห็น



    ผมส่งกระดาษที่มี  เลขจำนวนหนึ่งเขียนไว้ในนั้น   พร้อมกล่าวประโยคกำกับ    



    \"เช่นนั้น แล้ว หากว่า ผม มิอาจ จะ ทำการ ติด ข้อเสนอ ต่อ ทีมงาน ไป ได้นั้น ภาย หน้าขอ หลัง จากไป ครับ\"



    ข้อความที่ฟังดูแทบไม่เป็นประโยค  ซึ่งผมมั่นใจว่ากิมฮวยไม่มีทางถอดรหัสได้แน่นอน

    ผู้กำกับดูตัวเลขในกระดาษนั้น    \"00100\"  พร้อมกับพยักหน้าช้า ๆ



    \"คุณว่าอะไรเหรอคะ  เมื่อกี้นี้\"     เธอกระซิบกระซาบถามผมเมื่อจนปัญญาถอดความ

    \"ผมปฏิเสธเขาไปน่ะครับ\"   ผมกระซิบด้วยเสียงที่เบาไม่แพ้กัน    \"ถ้าผมไปเป็นดาราคนเดียว  กิมฮวยก็เหงาปากแย่น่ะสิ\"

    เธอฉีกยิ้มแฉ่งหน้าบาน    โดยไม่ทราบว่าข่าวสารที่ถูกผมส่งไปนั้นคือ



    แล้วผมจะติดต่อไปภายหลังครับ  /gg





    -----------------------------------------------------------------------------------------------------





    คงยังจำครั้งที่พบเก็กฮวยเมื่อตอนที่แล้วได้นะครับ   ไม่เจอกันหนึ่งอาทิตย์รู้สึกว่าโตขึ้นมาก    วันนี้เธอนัดออกเดทกับผม



    บางคนอาจจะอยากด่าด้วยความริษยา   \"ไอ้เลวโลลิค่อนเอ๊ย  คั่วทั้งพี่ทั้งน้องเลยเหรอวะ    ...ว่าแต่  แบ่งกันมั่งเดะ\"  



    หึหึ  คุณคงไม่ทราบว่าการเดทครั้งนี้เป็นพันธสัญญาที่ถูกผูกมัดไว้   ไม่ได้เกิดจากความยินยอมพร้อมใจของผมแต่อย่างใด Y_Y



    \"พี่คะ   พาหนูไปเล่นอันนั้นที\"   สาวน้อยน่ารักในชุดสีดำสนิทหวานแหววชี้นิ้วไปยังชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่

    หนทางไกลไม่ใช่น้อยเลย  กว่าจะไปถึงจุดชิงช้าสวรรค์นั้น  และยิ่งไกลขึ้นไปอีกเมื่อเก็กฮวยชี้โน่น ชี้นี่



    \"พี่คะ  ไอติม   หนูอยากกิน\"   \"พี่ชายสุดหล่อขา  พาหนูแวะเล่นบ้านผีสิงก่อนนะคะ\"   \"อุ๊ย  ม้าหมุนน่าสนุก  ไปลองนั่งดูกันค่ะ\"



    น้ำเสียงน้อย ๆ ช่างจำนรรจา  เกือบจะเผาเงินผมให้โบยบินจนหมดเกลี้ยง  ดีนะที่พกของเล่นมานิดหน่อย  

    เลยขอร้องยามหน้าประตูบ้านผีสิงให้เข้าฟรีได้    และเกลี้ยกล่อมให้คนขายไอติม  แจกไอติมฟรีเฉพาะเก็กฮวย

    แต่กรณีม้าหมุนนั้น  เก็กฮวยมีตัวอย่างที่ดีแล้ว  จึงลองทำการขอยืมเหรียญไปหยอดม้าหมุน  จากเด็ก ๆ แถว ๆ นั้น  



    \"เย้  ถึงชิงช้าสวรรค์แล้ว\"    ปัง!!  ปัง!!   ปัง!!   เสียงกัมปนาทของท่อนเหล็กสีดำเมี่ยมในมือของเก็กฮวยซึ่งควันยังกรุ่นอยู่ที่ปากกระบอก  

    ทำให้เด็กและผู้ใหญ่ในบริเวณชิงช้าสวรรค์ส่งเสียงกรีดร้องด้วยความตกใจกลัว



    \"ไม่ต้องกลัวค่ะ  หนูแค่อยากเล่นชิงช้าสวรรค์\"  นางฟ้าตัวน้อยแจ้งความประสงค์แก่พนักงาน ซึ่งทรุดเข่าอ่อนลงกับพื้น

    ทั้งคู่ก้าวขึ้นไปบนชิงช้าสวรรค์อย่างพระราชา      



    นั่งชมวิวไปได้สักครู่  เสียงไซเรนก็แว่วมาจากทางด้านประตูสวนสนุก   ยัยตัวเล็กถามผมขึ้นว่า

    \"พี่ปริศนา  คิดว่า  พวกนั้นจะรอดมั้ยคะ\"    เธอชี้นิ้วไปยังผู้คนซึ่งยืนมุงดูอยู่ด้านล่าง



    ผมส่ายศีรษะด้วยความเศร้าสร้อย   \"ช่วยไม่ได้น่ะเก็กฮวย   แก๊สไร้สีไร้กลิ่นที่พี่เตรียมไว้  จะท่วมพื้นผิวบริเวณสูงประมาณสามเมตร   ถ้าจะโทษ  ก็โทษที่พวกเขามีความอยากรู้อยากเห็นเอง   ไม่งั้นคงมีแต่ตำรวจที่ตาย\"



    \"แก๊สธรรมดารึป่าวคะ\"   เก็กฮวยถามเสียงไร้เดียงสา    ผมลูบหัวเบา ๆ ด้วยความเอ็นดูต่อความอยากรู้อยากเห็นของเธอ



    \"เป็นแก๊สสำหรับฆ่าคนแบบธรรมดานี่หล่ะ  ถูกวิจัยโดยเหล่านาซีเมื่อสงครามโลกครั้งที่สอง   ถึงจะไร้สีไร้กลิ่น  แต่สูดไปอึกสองอึกก็ม่องเท่งแล้ว    พี่อุตส่าห์นำเข้ามาเป็นพิเศษเผื่อยามจำเป็นเลยนะนี่\"



    \"แล้วตอนนี้มันเรียกว่าจำเป็นเหรอคะ\"   สาวน้อยช่างขี้สงสัยเสียจริง   ผมรีบเบนความสนใจของเธอเมื่อรถตำรวจเข้าล้อมชิงช้าสวรรค์    

    \"ดูนั่นสิ   มีเทวทูตมารับตัวพวกเขาแล้ว\"      ลูกโป่งรูปเทวทูตมีปีกสีขาวงดงาม  ลอยโผล่พ้นยอดไม้ข้าง ๆ ชิงช้าสวรรค์    มันลอยขึ้นเหนือพื้นนิดหน่อย  ความสวยงามและอลังการของเทวทูต  ทำให้ผู้คนอ้าปากค้างด้วยความงดงามที่สุด  ก่อนความตาย!!



    ลูกโป่งเทวทูตนั้นแตกระเบิดออกเหนือศรีษะของคนเบื้องล่าง   มวลหนัก ๆ  ถูกปลดปล่อยลงจากสิ่งนั้น   และปกคลุมโถมทันทั่วบริเวณให้เจิ่งนองไปด้วยมวลสารของมัน



    ผู้คนเบื้องล่างล้มลงดุจใบไม้ร่วงเป็นทอด ๆ    ล้มลงอย่างรวดเร็วยิ่ง  ราวกับว่าเขาเหล่านั้นเผลอหลับไปชั่วนิรันดร์

    ทว่า   ตำรวจนายหนึ่งยังคงกุมคออยู่  และบิดตัวอยู่กับพื้นด้วยความทรมาน   จนเก็กฮวยอดเอ่ยปากไม่ได้



    \"ลุงตำรวจคนนั้นน่าสงสารจัง   ไหนพี่ว่าสูดอึกสองอึกก็หลับสบายแล้วไงคะ\"

    \"คนบางคนก็มีภูมิคุ้มกันต่อแก๊สนี้  เลยยังไม่ตายง่าย ๆ   เก็กฮวยอยากช่วยลุงเขาให้พ้นความทรมานมั้ยครับ\"    นางฟ้าตัวน้อยผงกศรีษะเบา ๆ   ผมจึงส่งไรเฟิลพร้อมกล้องส่องให้เธอ



    ผมยื่นมือมาแตะตรงคอของเก็กฮวย  \"เอาตรงก้านคอ  ตรงนี้นะครับ  ตัดหลอดลมให้ขาด  ลุงเขาจะได้ไม่ต้องหายใจเอาอากาศที่แสนทรมานเข้าไปอีก   ตามด้วยตรงนี้นะครับ\"   ผมแตะที่หน้าอกข้างขวาของเก็กฮวย   (ผู้อ่านคนที่ห้า :  เฮ้ย  หลอกแต๊ะอั๋งเด็กเหรอ )

    \"ลุงเขาจะได้หลับสนิทตลอดไป\"



    \"โอเคค่ะ\"   เธอเล็งปืนไปยังคนผู้นั้นอย่างว่าง่าย  เสียงฟุ่บ ๆ  เมื่อกระสุนผ่านกระบอกเก็บเสียง  ดังขึ้นสองครั้ง  แล้วทั่วทั้งบริเวณก็ตกอยู่ในความเงียบ    ชิงช้าสวรรค์ซึ่งมีแต่เราสองคนอยู่    แสงแดดยามเย็นจะลับขอบฟ้าย้อมชิงช้าให้เป็นสีทองอร่าม



    \"พี่ว่าบรรยากาศโรแมนติคมั้ยคะ\"  นางฟ้าตัวน้อยทำตาหวานซึ้ง  แต่ผมไม่หลงกลหรอกน่า  เดี๋ยวก็คงหลอกให้สัญญาอะไรอีก

    ผมไม่ตอบว่าอะไรได้แต่หัวเราะหึหึ    เธอทำสีหน้าเศร้าขึ้นมาทันที   \"พี่ปริศนาคงอยากจะอยู่ในบรรยากาศแบบนี้กับพี่เก็กฮวยมากกว่าสินะคะ\"



    โถ น้อยใจซะแล้ว



    \"ที่หนูนัดพี่ออกมาเดทวันนี้   เพื่อเป็นการเก็บความประทับใจไว้  ก่อนที่จะตัดใจจากพี่ชายแสนดีที่หนูรักที่สุด  

    ต่อไปนี้หนูคงได้แต่เฝ้ามองพี่อยู่ห่าง ๆ    พี่ปริศนาช่วยมอบความทรงจำดี ๆ กับหนูเป็นครั้งสุดท้ายก่อนได้มั้ยคะ\"
         สาวน้อยพริ้มตารอการจุมพิตจากชายหนุ่ม



    ผมเขินมาก  หน้าแดงแปร๊ดเลย  แต่ก็ตัดสินใจโน้มคอลงที่ริมฝีปากน้อย ๆ สีชมพูของเธอ



    แชะ!!   เสียงชัตเตอร์กล้องซึ่งผมพบว่าอยู่ในมือของเก็กฮวย



    \"ขอบคุณนะคะ  พี่ปริศนา  ทีนี้หนูก็มีรูปตอนจูบกับแฟนไปอวดเพื่อน ๆ แล้ว   พี่หล่อขนาดนี้เพื่อน ๆ หนูต้องอิจฉา แน่ ๆ เลย   ฮิฮิ\"



    กำ  ตูเจอเด็กหลอกเหรอเนี่ย  =_+\"





    ------------------------------------------------------------------------------------------------





    \"ขอบคุณมากนะคะ   วันนี้สนุกมากเลย\"    



    \"ไม่เป็นไรครับ  พี่ก็สนุกเหมือนกัน\"   ผมยิ้มเหิ้ยมเมื่อหวนคิดถึงฉากสังหารหมู่ด้วยแก๊สพิษ



    \"แล้วเจอกันใหม่นะคะ\"    ถ้าผมดูไม่ผิด  รอยรื้นของหยดน้ำใส ๆ ปรากฏในดวงตาเล็ก ๆ ของเธอ



    สาวน้อยรีบวิ่งเข้าบ้าน  ไม่กล้าแม้แต่จะเหลียวหลัง.............เพราะกลัวตัดใจไม่ได้



    ผมมองตามเธอไป  สับสนกับความรู้สึก      เก็กฮวย   คำพูดของเธอคำไหนเป็นความจริงกันแน่?





    -----------------------------------------------------------------------------------------------















    วันนี้ก็มีฉากเลิฟซีนของผมกับสองสาวมาให้ดูนะครับ    ว่าแต่มีใครสงสัยรึป่าวว่าในกระดาษที่ผมส่งให้เก็กฮวยเมื่อวันก่อนมีอะไร





    คนอ่านคนที่หก  :  ฉากแรกอ่ะนะเรียกว่าเลิฟซีน



    ปริศนา            :  เอาเหอะน่า  มันคือเลิฟซีนแน่นอน    ไม่เชื่อใช่มะ  เดี๊ยะปั้ดพ่อสับคอหลุด



    คนอ่านคนที่เจ็ด  :   กระดาษไรวะ  จำไม่เห็นได้



    ปริศนา             :   อะไรนะ   จำเนื้อหานิยายผมไม่ได้    ท่าจะรำคาญชีวิตเต็มทน



    คนอ่านคนที่แปด :   เฮ้  อย่ามัวแต่โอ้เอ้  รีบเฉลยมาได้แล้ว



    ปริศนา             :   เห็นว่าคนอยากรู้เยอะหรอกนะ   เลยจะเฉลยให้นะเนี่ย อ่ะ  นี่ข้อความในกระดาษ



                                     \"ครั้งกาละผ่านพ้น              ชราตนเอกากาย

                                  อ้างว้างและเสียดาย               จะริรักมิอาจฝัน

                                  เพียงหวังคนึงมิตร                 ฤาสนิทฤดีปัน

                                  ผ่านคืนทิวารวาร                   อุรอุ่นระอุไอ\"





    คนอ่านคนที่เก้า :   เวอร์แล้ว ๆ    ในเรื่องมีเวลาแค่ไม่ถึงเสี้ยววินาที  อุตส่าห์เขียนได้ถึงขนาดนี้เลยเหรอ    แหลชัด ๆ



    ปริศนา            :  ไม่เชื่ออย่าลบหลู่สิครับ  -*-   เอาเป็นว่า  ผมเขียนประมาณบอกเก็กฮวยว่า  อายุเราต่างกันเกินไป  ขอให้ตัดใจซะ  มาเป็นเพื่อนกันแทน



                             แล้วก็ไม่ต้องสงสัยนะครับว่าทำไมอักษรหายไปเมื่อกิมฮวยเปิดอ่าน  ผมเขียนด้วยหมึกล่องหนที่จะหายไปเมื่อเวลาผ่านไปพักหนึ่ง

                             และจะปรากฏอีกทีเมื่อถูกความชื้น   (ผลึกของสารเคมี   ที่เมื่อมี H2O  เป็นส่วนประกอบแล้วจะมีสีเปลี่ยนไป  เช่นจุนสี)



    คนอ่านคนที่สิบ  :   มัวแต่พล่ามอะไรอยู่ได้  รีบ ๆ ลงตอนใหม่ซะ



    ปริศนา            :   ครับ ๆ  ได้เลยครับ  คุณคนอ่านบังเกิดเกล้า   -*-







    -----------------------------------------------------------------------------------------------------------





    to  be continued.......

      
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×