ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักซาดิสส์ของคุณกิมฮวย

    ลำดับตอนที่ #20 : พิธีบูชายัญเทพเซเบค

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 81
      0
      17 ส.ค. 48





            กล่องสี่เหลี่ยมทึบแสงสีดำสนิท   เนื้อโลหะของมันดำวาวโดยไม่มีแม้แต่รอยบุบสลายสักนิดจากการระเบิดระดับปฏิกิริยาฟิชชั่น

    ทำให้ผมประหลาดใจอย่างยิ่ง       ทรงเล็ก ๆ น่ารักอย่างนี้ทำให้ผมอดใจไม่ไหวจนต้อง



    ปึง!!!  



    บาทาของผมกระทืบลงไปที่กล่องนั้นจนแทบจมลงไปในดินแข็ง ๆ       ใครนะ  ที่ตั้งกฏแรงปฏิกิริยาเท่ากับแรงกิริยา   ผมอยากไปฆ่ามันนัก



    \"อ้ากกก  เจ็บว้อย\"     สีหน้าบูดเบี้ยวกับลักษณการกุมปลายเท้าโดดเหยง ๆ ของผมทำให้สาวผิวหมึกคาดเดาระดับความเจ็บปวดได้เป็นอย่างดี







    ------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    เวร  เนื้อเรื่องหาย    ผมอัพตอนนี้จนจบแล้วนะเนี่ย  เมื่อวานน่ะ   แล้วทำไมมันหายไปไหน



    แต่งใหม่ก็ได้ฟะ   ขอพระเจ้าจงตบรางวัลคนทำเนื้อเรื่องผมหาย



    เอาเหอะ   ลองเปลี่ยนเนื้อเรื่องดูดีกว่า



    **เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า    ควรเขียนเนื้อเรื่องไว้ในไฟล์เอกสารบนคอมพิวเตอร์ของตนก่อน  จึงค่อยนำขึ้นเว็ป  

    (ปริศนา             : รู้นานแล้วแต่ไม่ทำโว้ย  ไม่ต้องมาสอน  -*-

      ผู้อ่านคนที่สิบสี่  :  ตักเตือนดี ๆ นะเว้ย  ทำขึ้นเสียง  เด๋วปั๊ด  ตบหัวหลุด)

    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------





    \"รู้ว่าเจ็บก็อย่าตื้บมันสิคะ\"   เสียงหวานใสตำหนิผมจากโน๊ตบุ๊ค



    ทันใด    กล่องนั้นก็สั่นไหวอย่างรุนแรง  และแล้ว   มันก็   (เฮ้ย  กล้องซูมภาพกล่องใกล้ ๆ หน่อยเด๊ะ)







    มันก็.....



























    ........นิ่งสนิท..................



    \"เฮอะ    นึกว่าจะมีกระต่ายสาวสุดเซ็กซี่ในชุดบิกินี่ออกมาซะอีก\"



    (ในหัวคุณคิดเป็นแต่เรื่องแบบนี้เหรอครับคุณปริศนา?)



    แต่ทันใดนั้น  !!!!!!  







    อ้าวอย่าทำหน้าเซ็งสิครับ  ช่วยกันทำมาหากินหน่อยสิ    





    เร็วๆๆๆๆๆ  ตื่นเต้นเร็วเข้า  ผมซีเรียสนะ





    ทันใดนั้นเอง     กล่องนั้นมันก็



























    ...............นิ่งงงงงง  สนิททททท...................



    \"เฮ้ย  อย่าทำแบบนี้นะ  ไม่ชอบเลย  เอาของประกอบฉากมาเน้นให้เด่นนี่\"  



    (คุณกล้าเถียงคนเขียนบทเหรอครับ  คุณปริศนา  เด๋วผมให้บท Y กับลิงอุรังอุตังซะเลยนี่ -*- )



    \"บท Y เหรอครับ\"    ผมทำตาวาวและเช็ดน้ำลายที่มุมปาก



    \"เปลี่ยนจากอุรังอุตังเป็นชิมแปนซีได้มั้ยครับ   อุรังอุตังไซส์ใหญ่ไปสำหรับผม\"



    (คุณจะเล่นจริง ๆ เหรอครับ ?)



    \"ไม่จริงหรอกครับ  พูดไปงั้น\"



    (ขอโทษครับ  ผมเขียนบทเรียบร้อยแล้ว)



    \".......\"





    เอาเป็นว่า  กล่องนี้คือของประกอบฉากนะครับ  ไม่ได้มีอะไรสำคัญเป็นพิเศษ    เราไปดูเนื้อเรื่องกันต่อดีกว่า.









    ----------------------------------------------------------------------------------









    \"ย้ากกกกก   กิก้าแสลทชู๊ต!!\"  ไม่มีอะไรครับ   แค่ชื่อกระบวนท่าที่ใช้บาทาร่วมกับกฏสมดุลของโมเมนตัม  ในการส่งกล่องดำเล็ก ๆ นั้นให้กระเด็นไปไกล ๆ teen



    \"พี่ปริศนาขา   อย่าระบายอารมณ์กับกล่องสิคะ\"   เสียงหวานใสเหมือนเสียงเป็ดเทศแรกรักฟังดูแสนจะคุ้นเคย  ดังมาจากกล่องดำใบนั้น



    ผมน้ำตาไหลพรากด้วยความคิดถึง    \"กิมฮวยที่รักหรือจ๊ะ   พี่คิดถึงมากเลย   แล้วไปทำอีท่าไหนถึงโดนฆ่าหั่นศพยัดกล่องหล่ะจ๊ะ    นี่เหลือแต่วิญญาณมาบอกให้พี่ทำบุญไปให้หล่ะสิ\"



    \"อีตาบ้า\"    เสียงขนาดแปดหลอดแผดจากกล่องดำเล็ก ๆ กล่องนั้น  จนพื้นดินสะเทือน   \"แช่งกันแต่เช้าเลยนะยะ  เด๋วงับคอขาดเลยนิ\"



    \"อ๋อ  ยังไม่ตายงั้นก็ดีแล้วจ๊ะ   แล้วทำไมถึงไปอยู่ในกล่องนั้นได้หล่ะ\"    ผมถามด้วยความสงสัยเมื่อเพ่งพิศกล่องขนาดเท่าฝ่าตี น



    \"รุ่นพี่ขา   รู้จักมั้ยคะ  เทคโนโลยีอ่ะ    สะกดตามนะคะ  ที อี ซี เอช เอ็น โอ แอล โอ จี วาย\"



    แหมน่ารักจริง  ประชดซะด้วย   \"พี่ไม่รู้จักหรอกครับ  ไอ้เทคโนโลยีน่ะ   พี่สะกดเป็นแต่คำว่า แอล โอ วี อี  เท่านั้น\"



    เสียงข้าวของดังเปรื่องปร่างจากปลายทางอีกด้าน    แสดงว่ากิมฮวยคงอายถึงขนาดพังสถานที่นั้นเล่น ๆ แก้เขิน



    \"พี่ปริศนาหล่ะก็   มีเครื่องส่งย้ายมวลสารขนาดพกพาด้วย  ถึงส่งน้ำตาลมาให้กิมฮวยกินทุกวันเลย   ไม่กลัวกิมฮวยอ้วนเหรอคะ\"



    \"ไม่กลัวหรอกจ๊ะ    คนอ้วนออกจะน่ารัก  น่ากอด  และน่ากิน\"    ก็น่ากินจริง ๆ นี่นา หึหึ



    \"จะจีบกันอีกนานมั้ยครับ\"   เสียงสุภาพ  ทว่าเย็นชาดังมาจากทางสายของกิมฮวย    



    \"จนกว่าฟ้าดินจะสลายน่ะค่ะ   หึงเหรอคะ  คุณอดีตแฟนขา\"



    \"เธอน่ะ  หุบปากไปเลย   อย่าให้ผมต้องเลื่อนระดับเครื่องประดับของเธอจากตระกร้อครอบปาก มาเป็นเชือกไนล่อนกับเข็มเย็บกระสอบนะเว้ยเฮ้ย\"



    \"งั้นก็มาสิคะ  มาเย็บปากชั้นเลย   ไอ้กิมฮวยคนนี้จะได้สอนให้คุณรู้ว่าวิธีเอาซี่โครงคนเหน็บข้างฝาน่ะทำไง\"



    \"ไม่ต้องท้านะ   ถ้าท้าแล้วดีแต่ปาก\"  



    \"ไหนใครว่าใครดีแต่ปาก   หาว่าชั้นดีแต่ปาก  แล้ววิ่งหนีทำแป๊ะอะไร\"      เสียงถกเถียงกันล้งเล้งจนผมชักรำคาญซะแล้วสิ



    \"กิมฮวยครับ  ทำตัวให้น่าสงสารสมบทนางเอกหน่อยสิครับ  เรตติ้งจะตกเอา\"    ได้ผลชะงัดครับขู่เรื่องเรตติ้งเนี่ยเจ๊แกไม่ยอมใคร



    เสียงกระซิก ๆ ตามสายบ่งบอกถึงการถูกทารุณกรรมทางจิตใจอย่างรุนแรง



    (กิมฮวยครับ  เอาตุ๊กตาทองปีนี้มั้ยครับ ?)



    \"ฮือ ฮือ   พี่ปริศนาขา  ชะ..ช่วยกิมฮวยด้วยนะคะ      กิมฮวยเจ็บปวดและทรมานใจมาก  ที่ต้องห่างไกลคนหล่อ ๆ แบบพี่

    กิมฮวยเป็นแค่เด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ น่าสงสาร  จะไปสู้รบปรบมือกับใครได้   แล้วดูสิ   ไอ้นิรนาม  คนหน้าเนื้อใจดิรัจฉาน  กลับกล้าหยามย่ำยีกิมฮวยถึงเพียงนี้   มันถึงกับเอาข้อได้เปรียบทางร่างกายมากดขี่ข่มเหงราวกับกิมฮวยไม่ใช่มนุษย์



    ทำไมพี่ปริศนาถึงทิ้งกิมฮวยไว้กับตัวอันตรายแบบนี้ได้  ทำไมคะ  ทำไมกัน  ฮือ ฮือ  กระซิก ๆ

    หรือพี่เห็นกิมฮวยเป็นแค่ดอกหญ้าริมทาง  เมื่อเชยชมแล้วก็ทอดทิ้งให้ตกในเงื้อมมือมาร  โดยไม่ใส่ใจในชะตากรรมอันอาภัพของบุปผชาติซึ่งนับวันมีแต่จะเหิ่ยวเฉาลงทุกทีเมื่อขาดน้ำรักหล่อเลี้ยง....\"



    \"พอครับ..\"  ผมต้องรีบตัดบทเมื่อเห็นการรำพันคร่ำครวญเกินความจำเป็น    \"สรุปสั้น ๆ ได้มั้ยครับกิมฮวย\"



    เสียงปาดน้ำตาดังปื้ดด!!!  สั่งน้ำมูกปรี๊ด!!!  เมคอัพอีกนิดหน่อย    กิมฮวยก็เปลี่ยนสภาพเป็นสาวมั่น



    \"สรุปเหตุการณ์ในรอบหนึ่งวันนะคะ  เมื่อเวลาสิบเอ็ดนาฬิกาสามสิบนาที  เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พบว่านางสาวกิมฮวย  ไม่ทราบนามสกุล  ได้หายตัวไปจากที่เกิดเหตุในเขตพื้นที่ของทะเลทรายซาฮาร่า     เจ้าหน้าที่ได้มุ่งประเด็นไปที่ความหึงหวง  โดยนางสาวกิมฮวยได้มีเรื่องระหองระแหงกับชู้รักคนเก่าก่อนหน้า    พบหลักฐานเป็นกล่องดำซึ่งบันทึกคำให้การของผู้เสียหายตกอยู่ในบริเวณเขตวิจัยรกร้างประเทศไนจีเรีย



    ต่อไปนี้คือโฉมหน้าผู้ต้องสงสัย...... \"



    \"พอครับ  ผมขอคุยกับนิรนามจะดีกว่า\"     ผมถอนหายใจกับรายงานข่าวยาวยืดของเธอ    \"คุณนิรนาม  คุณมีสิทธิที่จะพูด  หรือจะพูด ก็ได้   คำให้การของคุณจะไม่เป็นหลักฐานในชั้นศาล   เพราะผมจะเก็บคุณทันทีที่พบหน้า  คุณมีสิทธิหนึ่งครั้งในการออกปากยอมแพ้และยอมศิโรราบทุกประการ  ไม่งั้นก็ ตาย!!!\"



    \"อย่ามาขู่ผมครับ   ผมไม่ใช่คนเส้นตื้นที่กลัวความตายจนต้องเอาขี้ไปไว้ในหัวแบบคุณ  ว่าแต่  ผมอยากรู้จังนะว่าคุณจะทำอะไรได้ในเมื่อไม่ทราบว่าผมอยู่ที่ไหน   และกำลังทำอะไร\"



    \"ปิรามิดแห่งกิซ่าค่ะ  หลังที่สองจากทางซ้ายมือ  ประตูสีแดง ๆ กำแพงสีเขียว... อุ๊บ...\"



    \"ไม่ต้องสนใจครับ  แค่สัญญาณรบกวน\"   เสียงอู้อี้ดังจากกล่องดำนั้น  ผมคาดเดาได้ว่าสัญญาณรบกวนที่ว่า  กำลังโดนตัดออกจากเครือข่ายอยู่



    \"มาต่อกันนะครับ    เอาเถอะ  ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้วผมจะบอกให้เอาบุญ  ผมกับกิมฮวยจะรอคุณอยู่ที่ปิรามิดแห่งกิซ่า  ตำแหน่งตามที่คุณได้ยินจากสัญญาณรบกวนเมื่อครู่   หากอยากได้ตัวนังนี่ไปแบบศพสวย ๆ ให้คุณรีบมาภายในสามสิบหกชั่วโมง   ก่อนที่ผมจะทนไม่ไหวที่ต้องอยู่กับกิมฮวยสองต่อสอง  จนต้องยิงตัวตาย  เพราะประสาทแดก    แค่นี้นะ  บาย\"



    ไม่เปิดโอกาสให้เถียงเลยเรอะ   หึหึ   แกเจอทบต้นทบดอกแน่ไอ้นิรนาม



    เสียงสังเคราะห์ดังขึ้นจากกล่องนั้นว่า     \"เครื่องส่งสัญญาณจะทำลายตนเองภายใน  3   2    1   ......\"















    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------



    วันที่ 2 สิงหาคม พศ. 2548  ประวัติศาสตร์โลกได้จารึกไว้ว่า   เกิดอุบัติเหตุทางนิวเคลียร์ที่น่าเศร้าในเขตสถาบันวิจัยของไนจีเรียถึงสองครั้งซ้อน  

    ขอไว้อาลัยให้แก่ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนั้น   อาเมน



    --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------







    เหอะเหอะ  พระเอกย่อมต้องรอดเป็นธรรมดา   ทำไงได้  คนมันหล่อ  ฉลาด   เก่ง  และดวงดีนี่หว่า



    ว่าแต่เจ้าหน้าที่องค์กรสาวผิวหมึก  ทำไมถึงยังรอด  ทั้ง ๆ ที่ยัยนี่ไม่หล่อ  ไม่ฉลาด   ไม่เก่ง  และดวงซวย (ที่เจอกับผมไง)



    ม่ายน้า  ผมไม่อยากถูกจัดไว้ในระดับเดียวกับยัยนี่  





    แต่เอาเถอะ  ไหน ๆ ก็รอดแล้ว   ใช้ให้คุ้มดีกว่า



    **สมมุติว่ามีซับไตเติ้ลภาษาไทย



    \"เมื่อกี้คุณพูดว่าอะไรนะครับ\"    ผมถามย้ำเพื่อความแน่ใจจากปากของหล่อน



    \"เสียงผู้ชายที่คุณได้ยินจากกล่องเมื่อครู่เป็นเสียงของผู้จัดการใหญ่ภาคพื้นมหาสมุทรแปซิฟิคน่ะเค่อะ  เดี๊ยนจำได้\"



    \"ไอ้บ้านิรนามเนี่ยนะ    เป็นถึงระดับผู้บริหารขององค์กรเรา  ต้องมีอะไรผิดพลาดแหงม ๆ  คุณโกหกรึป่าวนี่\"



    \"ป่าวนะคะ  เดี๊ยนไม่เห็นจะรู้จักคนที่ชื่อนิรนามเลย   เดียนก็แค่ทำงานของเดี๊ยน   จะมาหาว่าเดียนแหลได้ยังไงกัน\"



    \"ยังไงกันแน่เนี่ยคุณ doughther of a   b-itch   เดี๋ยวก็ว่าไม่รู้จัก  เดี๋ยวก็ว่ารู้จัก   พูดดี ๆ นะครับ  อย่าให้ผมต้องมีน้ำโห\"



    ผมพยายามกระชากคอเสื้อเธอ  แต่สิ่งที่คว้าไว้คือก้อนเนื้อกลม ๆ นุ่มนิ่ม  มีปุ่มปมเล็ก ๆ ตรงกลาง









    สิวบนหัวไหล่ของหล่อนน่ะครับ  คุณผู้อ่านคิดไปถึงไหนแล้วเนี่ย



    \"ต๊ายกลัวจังเลยเค่อะ    ว่าแต่คุณ s-hit  man ช่วยเอามือโสโครกออกไปจากตัวเดี๊ยนด้วยนะเคอะ



    เดี๊ยนจะบอกให้ประดับความโง่นะเคอะ   คนที่คุณเรียกว่านิรนามน่ะ  ไม่มีตัวตนในองค์กรของเรา   ผู้จัดการใหญ่ภาคพื้นมหาสมุทรแปซิฟิคคนใหม่รู้จักในนาม Mr.Noname    ฉะนั้นคนที่ควรถูกตำหนิน่าจะเป็นคุณมากกว่า  เพราะการที่เอาแต่ยัดขยะเข้าสมองของคุณจนไม่รู้จักแยกแยะข้อมูล\"



    เผ็ดจริงนะสาวน้อย     แต่ผมชักขี้เกียจเถียงกับเธอหล่ะ    \"เอาเถอะ   แล้วคุณมีวิธีอะไรที่ช่วยให้ผมไปกิซ่าได้ภายใน  36  ชั่วโมงป่าว\"



    เธอเดือดทันทีเมื่อผมขอความช่วยเหลือ    \"คุณยังมีหน้ามาถามเดี๊ยนอีกเหรอเค๊อะ  ดูความวินาศสันตะโรที่คุณทำสิ   แล้วจะให้เดี๊ยนหาอุปกรณ์ที่ไหนมาช่วยคุณหล่ะเคอะ\"    ซากสิ่งก่อสร้างและหมู่บ้านที่ย่อยยับจากปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิชชั่น  เป็นตัวฟ้องการกระทำของผมได้เป็นอย่างดี



    \"เหอะเหอะ   คุณอย่าลืมสิครับ   ว่าความเสียหายครึ่งนึงให้คิดบัญชีที่ Mr.Noname  ไม่ใช่ความผิดของผมแต่เพียงผู้เดียวสักหน่อย\"



    หล่อนสะบัดหน้าด้วยความขัดใจ  เมื่อทราบว่าข้อนี้เถียงไม่ได้    สาวผิวหมึกเดินตัดหน้าเขาไปอีกทางก่อนกวักมือเรียกให้เขาตามไป



    \"พฤติกรรมของพวกคุณสองคนจะถูกรายงานไปที่สำนักงานใหญ่  เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้  



    และ ถ้าหากคุณต้องการไปถึงกิซ่าภายในเวลา  กรุณาตามเดี๊ยนมา\"



    ผมสาวเท้าตามเธอไปอย่างรวดเร็ว     พวกเราบุกป่าผ่าดงท่ามกลางเปลวแดดที่ร้อนระอุ   ผ่านฝูงสิงโตนักล่า  และเหล่าหมาป่าไฮยีน่าผู้หิวโหย      ผ่านความแร้นแค้นกันดานของทุ่งหญ้าสะวันน่าอันเป็นภูมิประเทศดาษดื่นของแถบนั้น



    หลังจากที่ผ่านไปเจ็ดวันเจ็ดคืน   เราก็มาถึงแม่น้ำเชี่ยวกรากกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตาสายหนึ่ง



    \"นี่คุณ\"   สาวผิวหมึกทักท้วง    \"ไม่ต้องบรรยายการเดินทางเจ็ดแปดก้าวไปยังคลองเล็ก ๆ หลังบ้านเดี๊ยนถึงขนาดนั้นก็ได้ค่ะ\"



    ถึงหล่อนจะว่ามันเป็นคลองเล็ก ๆ และถึงผมจะกล่าวเวอร์ไปในบางที   แต่แม่น้ำนั้นกว้างจริง ๆ  แสงระยิบจากดวงอาทิตย์ยามบ่ายสะท้อนผิวน้ำจนดูพร่าเลือน    ความกว้างไกลของมันทำให้มองแทบไม่เห็นอีกฝั่ง     ผิวน้ำสีเงินกระเพื่อมเป็นระลอกเล็ก ๆ   และปั่นป่วนเชี่ยวกรากในบางจุด



    \"เลิกชมดูแม่น้ำได้แล้วค่ะ  หันมาสนใจนี่หน่อย\"       หล่อนกระตุกคอเสื้อผมจนกระเดือกแทบปลิ้น   ผมต้องหันไปมองอย่างเคียดแค้นและถูกมือเรียวยาวของหล่อนนำสายตาให้ไปปะทะกับบางอย่าง





    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------



    \"เฮ้ย  จะให้ผมมัดตัวไปกะไอ้เศษฟางเนี่ยจริงนิ  ฆ่ากันทางอ้อมชัด ๆ\"    ผมโวยวายเมื่อเห็นสภาพแพเก่าคร่ำคร่าปุรำปุรา  หน้าตากระดำกระด่างพังมิพังแหล่   โครงยักแย่ยักยันแทบจะหลุดเป็นชิ้น ๆ   ของมัน   ถึงขนาดจะห่างไกลกับคำว่าเศษฟาง    แต่การนั่งแพอันตรายขนาดนี้  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถูกมัดไป นั้นแทบไม่ต่างอะไรกับการเหยียบเศษฟางข้ามน้ำเลย



    หล่อนฉีกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์   ยิ้มที่น่าเกลียด  จนชั่วแว่บหนึ่ง  ผมปิ๊งไอเดียเลาะกระโหลกหล่อนมาทำที่เขี่ยบุหรี่



    \"ให้ตายสิ   ผมว่าเอางี้ดีกว่า    คุณขึ้นมาด้วยกัน    ช่วยผมก็ช่วยให้ถึงที่สุด   ไหน ๆ คุณก็ไม่มีอะไรทำที่นี่แล้ว\"



    ผมสกิดความทรงจำของหมู่บ้านที่พินาศของหล่อน  ถ้าผมดูไม่ผิดเปลวเพลิงคุกรุ่นในดวงตาของหล่อนลุกพรึ่บมาชั่วแว่บ  ก่อนจะดับลงด้วยเสียงใสหวานดุจน้ำผึ้ง



    \"คงไม่หรอกค่ะ  เดี๊ยนมีงานที่ต้องทำเยอะแยะเลย  ไม่ว่าจะเป็นเก็บศพ  กลบฝัง  ทำลายหลักฐาน  และอื่น ๆ อีกมากมาย\"



    แกร๊ก  เสียงขึ้นไก .357   ในมือของผม  ปากแห่งความตายของมันเตรียมจุมพิตที่หัวสวย ๆ ของหล่อน



    \"ไม่เอาน่า  อย่าดื้อสิครับ  ไปกับผมดี ๆ เถอะ  ผมเหงานะ  ไปคนเดียวนี่อ่ะ  ^o^\"



    เหงื่อของหล่อนตกซิกเลยเมื่อนิ้วมือผมจมลึกลงไปในไกเรื่อย ๆ  เสียงครืดเบา ๆ ที่เป็นผลจากกลไกเสียดสี  ทำให้เธอต้องรีบตัดสินใจอย่างรวดเร็ว



    \"ปะ...ปะ..ไป ก็ได๋ค่ะ\"



    ปัง!!   กระสุนแฉลบข้างศรีษะหล่อนไปกระทบหินด้านหลัง   รอยไหม้บาง ๆ  ที่ทิ้งไว้ข้างหัวหล่อน  ทำให้สาวน้อยแทบเสียสติ



    \"แหม  ยิ้มแย้มหน่อยสิครับ    ไม่ได้มีใครบังคับซะหน่อย   อย่าทำหน้าเครียดแบบนั้นสิ  ผมไม่ชอบฝืนใจใครนะครับ ^_^



    มามะอยู่นิ่ง ๆ ให้ผมได้มัดคุณไว้กับแพสักหน่อย\"    ผมรับเชือกจากมือหล่อนด้วยอาการบังคับ   และกดตัวของสาวผิวหมึกทาบทับลงบนแพไม้ก่อนมัดตราสังข์อย่างชำนิชำนาญ



    \"ผมปิดตาให้ด้วยดีมั้ยครับ\"    โดยไม่รอคำอนุญาต  ผมฉีกปลายผ้านุ่งของหล่อนมาแถบหนึ่งและคาดไว้ที่ดวงตา   เพื่อป้องกันความใจอ่อนจากการเว้าวอนด้วยสายตาของเธอ



    ปัง!!!!  กระสุนอีกนัดสอยนกอัลบาทรอส หล่นตุ๊บลงมากลางหลังของเธอ   ทำให้เธอสะดุ้งเฮือก



    \"มีมารยาทหน่อยก็ดีนะครับคุณสุภาพสตรี  ผมอุตส่าห์ทำให้ตั้งหลายอย่างคุณไม่คิดจะขอบอกขอบใจผมหน่อยเหรอ\"



    น้ำหูน้ำตา  และน้ำบางอย่างที่ราดลงมาตามขาของหล่อน  พร้อมกับอาการตัวสั่นสุดขีด   เป็นปฏิกิริยาที่ผมไม่ชอบเอาเสียเลย   ผมถือคติว่า  ไม่ควรปล่อยให้เหยื่อตายโดยปราศจากอาการยิ้มแย้ม



    \"อ่ะ ครับ   พูดไม่ออกก็ไม่เป็นไร   ไหน ๆ ก้ไม่ต้องใช้ปากแล้ว   ให้ผมกรีดมันออกมาหรือเอาอะไรยัดปากไว้ดีครับ\"



    เธออ้าปากเหวอด้วยความตกใจ  ผมจึงรีบเอาซากนกยัดเข้าไปในปากของหล่อนทันที   แล้วถีบแพนั้นจากริมฝั่งให้ลอยไปกลางน้ำ



    หล่อนถุยซากนกออกจากปากจนได้  และเริ่มกรีดร้องคร่ำครวญ  เมื่อทราบชะตากรรมของตน



    \"ฮือฮือ  ไอ้ชั่ว  ไอ้เดนมนุษย์   แกมีหัวใจรึป่าว  ทำไมเอาเดี๊ยนมาลอยแพแบบนี้   ด้วยอิทธิฤทธิ์แห่งวูดู  เดี๊ยนขอสาปแช่งแก    ให้แกตายอย่าง...อั่ก...กรี๊ดดดดด\"



    ผมต้องรีบส่งกระสุนไปที่น่องคล้ำ ๆ ของหล่อนเพื่อหยุดเสียงอันน่ารำคาญ  แต่เสียงโวยวายของหล่อนยังไม่หยุด



    \"คุณครับ   อย่าส่งเสียงมากเกินไป    ระวังสมุนของเทพเซเบค   จะรำคาญจนต้องลากคุณลงไปเล่นใต้น้ำนะ\"



    ได้ผลชะงัด  หล่อนหยุดร้องคร่ำครวญก่อนหันหน้าซึ่งถูกปิดดวงตาไปรอบ ๆ อย่างหวาดกลัว  แต่สายไปเสียแล้ว    กลิ่นคาวเลือดจากน่องของหล่อนไปเข้าจมูกของเจ้าของตาสีเหลืองชั่วร้ายปริ่มน้ำตัวหนึ่ง   น้ำกระเพื่อมวูบวาบรอบ ๆ แพ    เสียงฉุดกระชากแพไม้  เสียงฉีกขาดของเนื้อ   เสียงแตกหักของกระดูก   ผสานกับเสียงกรีดร้องครั้งสุดท้ายของหล่อน   ช่างเป็นอุปรากรที่น่าดูชมยิ่ง    



    เพียงชั่วครู่  ผิวน้ำบริเวณนั้น  ก็เหลือเพียงน้ำสีแดงขุ่นจาง  และเศษซากไม้ที่ลอยอยู่เพียงเบาบาง   รอยกระเพื่อมของผิวน้ำเคลื่อนไกลออกไปจนบริเวณนั้นสงบนิ่งดังเดิม    ผมส่งจูบลาให้แก่เธอเป็นครั้งสุดท้าย



    \"ดีใจเถอะนะครับ  อย่างน้อยการตายของเธอก็ช่วยให้สัตว์โลกหนึ่งตัวได้อิ่มไปหนึ่งมื้อ   คุณเกิดมาไม่เสียชาติเกิดแล้วหล่ะ\"





    ----------------------------------------------------------------------------------------------------------



    to be continued





    **เทพเซเบคเป็นเทพองค์หนึ่งของอียิปต์  หน้าที่เหรอ  ช่างหัวมันเถอะ  จำไม่ได้น่ะ   ลักษณะเป็นกึ่งมนุษย์มีหัวเป็นจระเข้  





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×