ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักซาดิสส์ของคุณกิมฮวย

    ลำดับตอนที่ #22 : ใครอยากไปแดนกระต่ายมั่งครับ?

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 89
      0
      4 ส.ค. 48





    \"วะ  ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า\"    ทำไมอีตาบ้านี่หัวเราะน่าเกลียดนักนะ    



    \"กิมฮวย  เห็นมะ  ไอ้ปริศนามันก็แค่คนไร้น้ำยา  ผมว่าเธอเลือกฝั่งผิดซะแล้วหล่ะมั้ง\"   ยิ้มเยาะไปเถอะ   มันน่าควักดวงตาเจ้าเล่ห์นั่นออกมาดองเหล้านัก



    \"ฮี่ฮี่   ในเมื่อก้างขวางคอตายไปแล้ว   เรามาอะจึ๋ย ๆ กันดีกว่า\"    นายนี่มันตัวชั่วสมบูรณ์แบบเลยนะนิรนาม    แต่ไม่เท่าสุดที่รักของชั้นอยู่ดี



    นิรนามย่างสามขุมเข้าหากิมฮวยซึ่งกระถดหนีอย่างตกใจ



    \"อย่ะ...อย่าเข้ามานะ    ไม่งั้นชั้นฆ่านายทิ้งจริง ๆ ด้วย\"      หวังว่ามันจะกลัวนะ



    \"ผมเป็นคนดี   ตายไปก็คงขึ้นสวรรค์   แล้วอีกอย่าง   มีสวรรค์บนดินอยู่แค่เอื้อมกลัวอะไรกับความตายหล่ะ\"   ความหมายสองแง่สองง่ามของมันกับแววตาหื่นจัด  น่ารังเกียจจริง ๆ



    \"นี่คุณนิรนาม\"   ชั้นพยายามรวบรวมความกล้า   \"อย่าทำลายภาพพจน์ความเป็นคนดีกว่าพระเอกทิ้งสิคะ   เป็นคนดีก็เป็นให้ตลอดสิ   อย่าเพิ่งมาชั่วทีหลัง  มันจะทำให้ที่รักชั้นไม่เด่น\"



    ทันใด   ผนังของห้องก็ร้าว  บุบเข้ามา  ราวกับมีปั้นจั่นขนาดใหญ่ทุบอยุ่ด้านนอก    เศษซากหินทรายร่วงพรูลงจากรอยแยกของกำแพง   ความมืดเบื้องนอกทาบทับลงบนเงาของบุคคลลึกลับที่ถือค้อนขนาดใหญ่อยู่



    เสียงที่ชั้นคุ้นเคยเป็นอย่างดีกล่าวว่า   \"ใช่   คนดีก็ไปตายแบบคนดีไป   บทชั่ว ๆ ผมขอรับไว้เอง   หึหึ\"



    \"กรี๊ดดด  ที่รักขา   มาจนได้นะ  มะกี้นึกว่าโดนกำแพงหนีบไส้ไหลไปแล้วนะเนี่ย\"



    \"คำทักทายของเธอเหรอเนี่ย   แน่ใจว่าผ่านเครื่องกรองแล้ว\"    พี่ปริศนาสุดหล่อเดินเข้ามาใกล้ชั้นขณะที่ไอ้นิรนามกำลังตกตะลึง   เขากระชากตระกร้อครอบปากออกให้ชั้นด้วยหล่ะ



    \"พี่จะพยายามทนกับความปาก หมาของเธอหล่ะกัน  เพราะใส่ตระกร้อแล้วดูไม่ได้เลย\"



    \"ดูไม่ได้ก็ไม่ต้องดูสิยะ   ใครเอาตะปูไปตรึงตารุ่นพี่ให้ดูรึป่าวคะเนี่ย\"    ชั้นบ่นกระปอดกระแปดก่อนถอดโซ่เหล็กขนาดใหญ่ที่มัดตนเองไว้ออก    



    \"เข้ามาไม่ทักทายผู้เหย้ากันเลยเหรอครับ  เห็นหัวผมบ้างรึป่าวเนี่ย\"   สม  โดนเมินซะนะอีตาบ้า



    \"ไม่เห็นต้องทักเลยนี่ครับ  เราเจอกันหลายรอบแล้ว  และค่อนข้างสนิทกันมาก     ส่วนถามว่าเห็นหัวคุณมั้ย  ก็พอเห็นอยู่ครับ   แต่ว่าเงาหัวคุณน่ะหายไปไหนไม่ทราบแล้วหล่ะ\"    ฮ่าฮ่าฮ่า   ฆ่ามันเลยพี่ปริศนา  ไม่เอาเชียร์งี้ไม่ได้  เสียภาพพจน์หมด



    \"ทั้งคู่น่ะ  หยุดไปเลย      ทำไมถึงดีกันไม่ได้คะ  หรือเป็นเพราะชั้นคนนี้  ถึงทำให้พวกคุณต้องมาห้ำหั่นกัน

    ถ้าเป็นเช่นนั้น  ชั้นขอลาโลกไปดีกว่า  หากว่ามันจะช่วยให้เกิดสันติภาพระหว่างพวกคุณ\"     ชั้นหยิบส้อมข้าง ๆ มาจะปาดคอตนเอง



    \"เดี๋ยวก่อนกิมฮวย\"   เสียงของชายทั้งคู่ดังขึ้นพร้อมกัน   ฮ่าฮ่า   เป็นห่วงใช่มั้ยหล่ะ



    \"เธอยังไม่ได้ทำพินัยกรรมเลยนะ    พี่ไม่เอาอะไรมากหรอก  อย่างน้อยก็เขียนยกที่ดินสองไร่แถว ๆ ลาดพร้าวให้พี่หน่อยสิ\"



    \"เฮ้ย  ได้ไงวะ  ที่ดินผืนนั้นผมก็เล็งอยู่นะเฟ้ย  กิมฮวย   ในฐานะที่เราเป็นคนรักเก่า  ยกให้ผมสักอย่างก็ยังดี\"



    เวร  ไม่ใช่ลูกไม่ใช่หลานยังมาแย่งมรดก      ชั้นอยากจะวีนนัก   แต่ฐานะนางเอกค้ำคอ



    น้ำตาใส ๆ ซึมลงมาที่หางตา  และร่วงพราวลงมาที่ข้างแก้มประดุจสายไข่มุก



    \"และแล้ว  ชั้นก็รู้   ว่าคุณสองคนไม่ได้รักชั้นที่หัวใจเลย  คุณหวังเพียงแค่ทรัพย์สมบัติ    ใช่สินะ  ความรู้สึกของกิมฮวยคงไม่มีค่าเพียงพอสำหรับใคร   นับแต่วันนี้ไปพวกเราอย่าเจอกันดีกว่า\"      ชั้นกรีดนิ้วปาดน้ำตา   และวิ่งหายไปทางที่พี่ปริศนาพังเข้ามา



    เดี๋ยวก็คงมีคนตามมาปลอบ   ชั้นคิดเข้าข้างตนเองขณะที่วิ่งไปตามทางเดินมืด ๆ ในปิรามิด



    ชั้นวิ่งไปเรื่อย ๆ...



    วิ่งอีก....



    วิ่ง...





    และวิ่ง....





    (กิมฮวย : เฮ้ย  เหนื่อยแล้วนะเว้ย)



    เงียบ   ไม่มีแม้แต่สัญญาณว่าพวกเขาจะตามมา   ชั้นเริ่มกลัว  กลัวความมืด  กลัวคำสาป  กลัวกับดัก



    แหลนหลาวจำนวนมากที่พุ่งออกมา  หวังจะเสียบร่างผู้ผ่านทางให้พรุน   เสียงลมวืดข้างหน้า  ทำให้ชั้นต้องขว้างมีดแกะสลักออกไปโดยสัญชาติญาณ



    เสียงอาวุธปะทะกันถี่ยิบในความมืด   จนกระทั่งเสียงโครมครามที่กลไกถูกทำลาย  ดูเหมือนว่ามีดสั้นของชั้นจะมีฤทธิ์กว่าที่คิด



    มัมมี่สองตัวที่ตกใจจากเสียงโครมครามได้พังฝาโลงเก็บศพออกมาเพื่อขย้ำคอผู้บุกรุก    ชั้นหลับตาปี๋ด้วยความกลัว   ไลท์เซเบอร์ในมือตวัดทีสองที  เหตุที่ตกใจมาก  ๆ    อาจจะทำให้แรงชั้นเยอะผิดปกติ   ซากศพแห้ง ๆ เซลล์ผิวหนังกระดำกระด่าง  ดวงตาลึกกลวงโบ๋  และแก้มตอบ ๆ ของมันถูกฟันยับเป็นชิ้นเล้กชิ้นน้อย



    ชั้นกรีดร้องเมื่อหนอนซากศพตัวหนึ่งกระโดดมาเกาะริมฝีปากของชั้น  ก่อนกัดงับหนอนตัวนั้นขาดกลางลำตัวโดยอัตโนมัติ



    ฮือฮือ  ทำไมชั้นต้องเจออะไรแบบนี้ด้วย    พี่ปริศนาอยู่หนายยยยยย  มารับที      





    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------





    มีใครพอจะทราบป่าวนี่  ว่าการที่ผมไล่กิมฮวยไป  เป้นแผนการอย่างหนึ่ง  เพื่อป้องกันเธอไม่ให้ได้รับอันตรายจากการต่อสู้ของผมและนิรนาม



    เอาเถอะ  ถึงจะมีแต่คนหาว่าผมไร้น้ำใจ   งก  ห่วงทรัพย์สมบัติ   ไม่มีความรักให้ใคร   ก็ว่าไปเถอะ ( เพราะมันเป็นความจริงทุกประการ ? )

    ขอเพียงแต่กิมฮวยยังรักและเข้าใจผมก็พอ



    อย่าทำหน้าอย่างนั้นครับ  ข้าวเย็นไม่อร่อยเหรอ  ถึงทำท่าจะอ้วก..........





    \"ฮ่าฮ่าฮ่า    แกคิดว่าบุกมาถึงนี่แล้วจะชนะได้งั้นเหรอวะ\"        มันยักคิ้วได้กวนโอ้ยจริง ๆ   ผมเหรอ  ขี้เกียจพูดมาก   ปืนกลพลร่มขนาดพกพาง่ายถูกนำออกมาใช้งานอย่างเมามันส์



    นิรนามกระโดดโหยงเหยงหลบกระสุน  สาดเป็นสายคล้ายพิรุณชุ่มฉ่ำ    เมื่อผมเห็นว่าป่วยการเปล่าที่จะยิงลิงยิงค่างด้วยปืนกล  ในเมื่อมันหลบได้หมด        กระสุนนาปาล์มถกบรรจุเข้าเครื่องยิงทันที



    นิรนามเลิกคิ้วสุงชันด้วยความตกใจ  เพราะเขาตระหนักถึงอานุภาพยุทโปกรณ์ชิ้นนี้เป็นอย่างดี  \"เฮ้ย   ใช้ไอ้นี่อยากตายพร้อมกันรึไงวะ\"

    ผมขี้เกียจตอบ    เลยกล่าวคำทักทายอีกครั้งด้วยลูกกระสุนแดงเพลิง



    สะเก็ดไฟแตกระเบิด  และกระจายไปติดส่วนต่าง ๆ ของห้อง   ไฟของระเบิดชนิดนี้เกิดจากการเผาไหม้ของวัสดุคล้าย ๆ เยลลี่  ซึ่งเมื่อติดกับอะไรแล้ว  มันจะเผาจนสิ่งนั้นเป็นผุยผงจึงจะดับ



    ขอให้ติดแม้สะเก้ดเล็ก ๆ นิรนามก็จะเหลือแต่ชื่อ   ไม่สิ   โดนลบออกไปจากห้วงภพนี้ทันที



    เปลวเพลิงลุกลามไปทั่วห้องแสงไฟสีส้อสดเต้นระบำลามเลียข้าวของภายใน   รวมทั้งพระศพฟาโรห์ด้วย



    ทว่า....ยังไม่เห็นซาก   หรือสิ่งที่บ่งบอกถึงการสิ้นชีพของนิรนามเลยแม้แต่น้อย



    เพื่อความแน่ใจ  ผมจึงส่งระเบิดนาปาล์มลงไปอีกลูก



    ครึ้ม!!!   พื้นหินที่ผมยืนอยู่สั่นไหวอีกครั้งจากแรงกระแทกอันรุนแรง      ปลวเพลิงซึ่งร้อนจัดอยุ่แล้วยิ่งปลดปล่อยพลังงานของมันเพื่อเผาผลาญทุกสิ่งให้สิ้น



    ทุกสิ่งกำลังถูกกัดกินโดยอัคคี  ยกเว้นแต่       ....ม่านสีฟ้าเหลือบเงิน  ซึ่งปกคลุมร่างของนิรนามอยู่    มันเดินตัดเปลวไฟร้อนแรงมาอย่างไม่สะทกสะท้าน



    ผมเห้นว่าท่าไม่ค่อยดีจึงสาดกระสุนปืนกลไปที่ตัวมันอีก    แต่  ม่านสีฟ้าจางนั้นกลับป้องกันกระสุนทั้งหมดไว้



    \"แสดเอ๊ย!!   เล่นเชี่ยไรวะ\"      นิรนามตอบด้วยการหัวเราะอย่างลำพองใจ  ก่อนก้าวเท้าเข้าใกล้เรื่อย ๆ     มือซึ่งเกร็งแน่น   บรรจุไว้ด้วยความเคียดเเค้น  กำลังเข้ามาใกล้ผมทุกขณะ



    \"เฮอะ  ไม่นึกว่าแกจะเป็นพวกมิวแทนท์เหมือนกัน\"



    นิรนามผงะไปชั่วครู่



    \"แกรุ้จักเหรอ ?\"



    คราวนี้ตาผมแล้ว   ผมยื่นมือออกไปข้างหน้าช้า ๆ ในระดับดวงตาของมัน    เพียงโบกมือวูบเดียว   มันก็เหลือแต่ดวงตาที่จ้องมองอย่างไร้จุดหมาย  และร่างกายซึ่งไร้สติควบคุม



    \"ขอให้สนุกในโลกของผมนะครับ....\"     ไม่มีความจำเป็นใด ๆ ที่ผมจะต้องอยู่ต่อ  ไม่มีความจำเป็นที่ต้องฆ่า    ผมอยากให้มันลิ้มรสความรู้สึกพ่ายแพ้ก่อน    ให้เจ็บปวดครั้งแล้วครั้งเล่า     ทุ่มสุดตัวแต่ก็พ่ายแพ้ทุกครั้ง    ยิ่งมันแค้น  แต่ทำอะไรไม่ได้  มันก็จะยิ่งทรมาน



    \"เฮือะ ฮ่าฮ่าฮะ\"   เสียงหัวเราของผมดังก้องไปในความมืดมิดของปิรามิดนั้น



    -----------------------------------------------------------------------------------------------------------------  

    ****เยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปีควรมีผุ้ปกครองควบคุมในการเข้าชม   และควรใช้วิจารณญาณในการอ่าน  หึหึ





        กระต่ายสาวสุดเซ็กซี่ในชุดทูพีช  จำนวนมาก   (หูกระต่าย กับถุงมือ)   เดินว่อนอวดความเต่งตึงไปทั่วบริเวณ

    ปทุมถันของพวกหล่อน สั่นไหวเมื่อย่างก้าว   สะโพกที่ยักคิ้วให้  ประดุจแย้มยิ้มเชิญชวนให้ชายหนุ่มลิ้มลองรสสเน่หา



    นิรนามปาดน้ำลายออก   นัยตาวาววูบ   และบางส่วนในร่างกายขยายออกถึง 6 เท่า   ( ดวงตาน่ะครับที่ขยาย )

    เขาหน้าแดงจัดและหูก็เริ่มดำสนิทจนคล้ายกับภาชนะชนิดหนึ่ง  แต่เป็นขั้นรุนแรงพิเศษ



    สาวสวยนางหนึ่งเดินมาใกล้เขาซึ่งเข่าอ่อน แต่บางอย่างแข็ง  ( ปากยังแข็งอยู่ครับ  ไม่ยอมพูดเลย)   เธอโน้มใบหน้างามลงมาใกล้ ๆ กับหน้าผากของนิรนาม   ทำให้สายตาของเขาปะทะกับโนมเนื้อเต็ม ๆ



    \"เป็นอะไรเหรอคะ  ทำไมนั่งอยู่เฉย ๆ หล่ะ\"   สาวสวยเอ่ยปากถามนิรนาม  โดยที่ไม่ทราบว่าบางส่วนของตนแกว่งจนเกือบจะโดนจมูกของเขาอยู่แล้ว



    \"มาสนุกกันดีกว่าค่ะ.....ว๊าย   ตายแล้ว  เป็นอะไรไปคะเนี่ย\"   สาวโนตมคนนั้นทาบอกด้วยความตกใจ  เมื่องจากเลือดกำเดาของเขาพุ่งกระฉูดมาติดกับปลายยอดปทุม



    แต่เธอก็ตั้งสติได้  จึงกวักมือเรียกเพื่อนสาวอีกคนซึ่งเซ็กซี่ไม่แพ้กันให้มาช่วยปฐมพยาบาล



    \"เขาใส่เสื้อผ้าเยอะอย่างนี้  ต้องอึดอัดมากแน่ ๆ เลยเธอ\"   ความจริง  นิรนามใส่เสื้อผ้าเพียงสี่ชิ้น



    \"จริงเหรอเนี่ย  งั้นเราจับเขาถอดออกให้หมดดีกว่า\"  



    นิรนามรู้สึกเป็นสุขยิ่งกว่าอยู่บนสวรรค์  เมื่อมือนุ่มนิ่มจำนวนมากลูบไล้ไปตามส่วนต่าง ๆ  ของเขา  ไม่เว้นแม้แต่ตรงจุดนั้น



    \"โอ้ย  รูดซิบออกยากจัง  เธอช่วยทีสิ\"



    \"จะไม่ยากได้อย่างไรหล่ะจ๊ะ  ในเมื่อที่เธอจับอยู่มันใหญ่  และยาวเกินกว่าจะเป็นหัวซิบ\"



    สาวสวยที่กำลังรูดซิบ  ??  อยู่   ถอนมือออก  หน้าเธอแดงด้วยความอาย    เธอแหงนหน้าขึ้นฟ้าเพื่อจะได้ไม่ต้องมองขนาดของชายหนุ่ม

    ส่วนมือเล็ก ๆ นั้น  จับคลำเบา ๆ  เพื่อหาหัวซิบที่แท้จริง



    นิรนามตอนนี้หน้าตาเหยเกมาก   เมื่อกางเกงเขาถอดยากที่สุด  แล้วมีสาวสวยสองคนช่วยกันปล้ำถอดออกให้ได้

    มือนุ่ม ๆ สัมผัสครั้งแล้วครั้งเล่า  จนเขาทนไม่ไหว



    \"คุณกลัวพวกเราเหรอคะ  ถึงกับฉี่รดกางเกงเลย\"      



    (นักอ่านคนที่?? :  พอแล้วเว้ย ไอ้ปริศนา   วรรณกรรมเพื่อเยาวชนนะ   ไม่ต้องบรรยายขนาดนั้น

      ปริศนา          :  พอได้ไง   ถามคนอ่านส่วนใหญ่สิ  ว่าอยากดูมั้ย   ประชาธิปไตยน่ะรู้จักอ๊ะป่าว

    นักอ่านคนที่?? :  เฮอะ  เตือนแล้วไม่ฟัง   โดนแบนแล้วจะรู้สึก

    ปริศนา           :  อ่ะอ่ะ   ไม่เขียนโดยตรงก็ได้วะ   เห็นใจเด็ก ๆ  )



    \"อาห์...\"   นิรนามครางอย่างเป็นสุข  เมื่อสาว ๆ เอาผ้ามาเช็ดคราบน้ำออกให้    ขนหยาบ ๆ ของผ้าเสียดสีกับเนื้อ  โอววว



    สาว ๆ  กลับแปลเจตนาของเขาผิด



    \"อุ๊ย  เขากำลังจะตาย   ดูสิ  ตรงนี้แข็งทื่อเลย\"    นางหนึ่งจับหัวซิบ ?? ประจำตัวของนิรนามแล้วรูดลงให้เพื่อน ๆ ดูชัด ๆ



    \"โหย  แดงแจ๊ดเลยเธอ  เขาต้องเป็นไข้หนักแน่ ๆ\"



    \"ทำไงดีหล่ะ  ทำไงดี  เอางี้ดีกว่า  เดี๋ยวชั้นให้ความอบอุ่นเค้าเอง   ได้ยินมาว่า  ถ้าตัวอุ่นจะหายจากหวัด\"



    สาวงามนางนั้นทอดร่างลงทาบทับนิรนามไว้   พร้อมกับกอดเขาแน่นเพื่อความอบอุ่น     ทันใด  ดวงตาของเธอเบิกกว้างเมื่อเกิดเรื่องไม่คาดฝันกับเบื้องล่างของเธอ  บางสิ่งที่รุกล้ำเข้าไปกำลังทำงานอย่างหนัก  เรียกเสียงครางจากทั้งคู่





    เอาเป็นว่า  เกิดเรื่องอย่างนี้กับกระต่ายสาวทุกตัวที่อยู่ในดินแดนนั้นหล่ะกัน   ...........







    -----------------------------------------------------------------------------------





    ผมมองดูนิรนาม   ซึ่งกำลังนอนพริ้มตาอย่างมีความสุขอยู่กับพื้น     ของเหลวสีขาวบางอย่างหรือพลังงานของเขา  กำลังไหลออกมาจากเป้ากางเกงซึ่งตุงโด่เด่   มันเปื้อนติดเป็นคราบ ๆ ไปทั้งกางเกง   และซึมลงไหลนองกับพื้นเรื่อย ๆ



    ผมลองเหยียบเท้าไปที่เป้าของมัน  กลับพบว่าบางอย่างทำตัวราวกับแกนเหล็ก  ค้ำยันเท้าผมเอาไว้จนไม่สามารถเหยียบเป้าของมันให้แบนราบได้



    ผมพบว่าพลังสะกดจิตสร้างมิติของผมใช้ได้ผลดียิ่ง  จึงถอนตัวจากบริเวณนั้น  ทิ้งไว้แต่นิรนามซึ่งกำลังชักกระตุก  และปล่อยพลังงานออกมาอย่างต่อเนื่อง



    -----------------------------------------------------------------------------------







    \"กิมฮวยจ๋า    กิมฮวยที่รัก  อยุ่ไหนจ๊ะ  ยู้ฮูววว\"  เสียงสะท้อนของผมก้องไปมาในบรรยากาศอึมครึม    ความเงียบสงัดไร้ซึ่งสรรพสำเนียงใด ๆ ทำให้รู้สึกไม่ดีเลย



    เงาตะคุ่มตรงมุมห้อง  พุ่งวูบจากจุดเดิมหายไปจากคลองจักษุ    ฝูงค้างวคาวตกใจกับบางอย่าง  มันกระพือปีกดังแซ่ก ๆๆ    พรูมาจากร่องรูเบื้องบน

    ผมเปิดใช้พลุเพลิง  ส่องแสงสีแดงสดจัดจ้าสว่างไสวไปทั้งห้องนั้น



    เงาเดิมพุ่งวูบไปเบื้องหลัง   รอยดำ ๆ เลือนรางอันเกิดจากแสงไฟส่องกระทบร่าง   ทำให้ผมรู้สึกถึงสิ่งปกติ



    ฝูงค้างคาวเงียบไปแล้ว  ขณะที่ผมหันรีหันขวางอยู่กลางห้อง  พลุเพลิงในมือถูกเผาผลาญใกล้จะหมดเต็มที



    เหงื่อบาง ๆ  อออกมาจากอุ้งมือผมจนชุ่มปืนรีวอลโว่    เสียงสกิดพื้นเบา ๆ แต่ไม่หลุดรอดหุไปได้ดังขึ้นมาจากเบื้องหลัง



    ฟึ่บ   ผมหันหลังกลับและเล็งปืนไปทันที  เงานั้นพุ่งตัวไปด้านซ้ายอย่างรวดเร็ว   ผมรีบสาดกระสุนไล่มันไปติด ๆ    



    เสียงกระสุนระเบิดดังถี่ยิบ  แต่ผมรู้สึกได้ว่าไม่มีนัดไหนโดนมันเลย





    สักพัก   เหลือแต่ความเงียบสงบ   แต่ว่า  ผมยังรู้สึกถึงการคงอยู่ของมัน      เงานั้นคงซุ่มซ่อนตัวรอโจมตีอยู่ ณ จุดใดจุดหนึ่ง

    อากาศรอบ ๆ หนักอึ้งไปด้วยแรงกดดันจากจิตสังหาร



    แฉว่บ!!  ของมีคมบางอย่างกรีดผ่านผิวเนื้อตรงสีข้างของผม



    ผมรีบกลิ้งตัวนอนหงายกับพื้น  และสาดกระสุนขึ้นไปเบื้องบน

    เงาดำ ๆ นั้นพลันแยกตัวออกเป็นสี่ส่วนเมื่อเจอกระสุน    แล้วถ่วงร่างของตนลงมา  เล็บคมวาวของมันสะท้อนแสงราง ๆ   และพุ่งลงมาปักแขนขาผมด้วยความเร็วสูง



    ผมดีดตัวขึ้นด้วยการกระทืบปลายเท้าทันที   เล็บที่กรัดผ่านอากาศปะทะกับโกร่งปืนอย่างแม่นยำ   ผมใช้ความรวดเร็วสูงสุดเท่าที่จะทำได้ในการรับมือกับตัวประหลาดสี่ตัว  แต่ยังไม่วายได้แผลเลือดซิบจำนวนหนึ่ง



    มือขวาผมใช้รับมือกับพวกมัน  แต่มือซ้ายเอื้อมไปปลดพลุเพลิง  และปามันไปเสียบคาแท่นบูชาแท่นหนึ่ง

    จังหวะที่เสียสมาธิชั่วแวบ   ผมก็ได้แผลเพิ่มตรงคออีกแผล



    แสงเจิดจ้าของพลุเพลิงทำให้ห้องสว่างไสว  และสามารถสังเกตศัตรูได้อย่างชัดตา



    ให้ตายสิ   หน้าตามันไม่เหมือนสิ่งมีชีวิตที่พระเจ้าสร้างเลยแม้แต่น้อย   ลำตัวของมันเป็นก้อนเยลลี่ใส  สีเขียวอ่อน    ภายในร่างมีเส้นเรือง ๆ   เชื่อมโยงไปมาราวกับเส้นประสาท

    ขนาดของมันประมาณชามเล็ก ๆ   ขาทั้งสี่ของมันกลับเป็นมีดลักษณะคล้ายเขี้ยวโง้ง  ยาวและคมกริบ



    เห็นชัดแบบนี้ก็สวยสิ   ผมยิงเข้าไปที่กลางลำตัวของมันอย่างแม่นยำ   แต่กลับเกิดเรื่องพิสดารขึ้น     เนื้อหยุ่นเหนียวของมันถูกอัดกระแทกจากกระสุน  แต่กลับไม่ทะลุออกไป   กระสุนนั้น ๆ เด้งกลับออกมาหล่นลงยังพื้นทันที



    \"ตัวบ้าไรวะเนี่ย    แล้วจะฆ่ามันยังไงวะ\"



    \"ไม่มีทางหรอกครับ  ร่างของมันต่อต้านปฏิกิริยาเคมีทุกชนิด\"    นิรนามนั่นเอง   คงเพิ่งหลุดจากฝันสุขสม    เขาลากตัวเองมายังห้องนี้ด้วยแขนสองข้าง  เพราะขาของเขาไม่เหลือแรงเพียงพอแล้ว



    \"และแน่นอนกันไฟด้วย\"   เขากล่าวเตือนเมื่อผมจะยิงระเบิดนาปาล์มอีกรอบ



    เยยลี่เขียวทั้งสี่  เด้งดึ๋งเข้าโจมตีผมอีกครั้งโดยไม่ยอมให้พัก   \"ตายแหง๋มครับ  ไม่ต้องสู้หรอก\"   ให้กำลังใจกันดีเหลือเกินนะคุณนิรนาม



    \"ถึงผมจะไม่ได้ฆ่าคุณด้วยมือของตนเอง  แต่อย่างน้อยผมก็ได้เห็นคุณตายด้วยตาของตนเอง   ดูท่าคุณคงจะเหนื่อยมากแล้วหล่ะสิ   เป็นอย่างนี้ต่อไป  ตายแหง๋ม\"   มันแช่งอีกรอบ



    ก็จริงอยู่  ผมรู้สึกว่าตนเองไม่คล่องแคล่วเท่าเดิม  และบาดแผลที่ได ้รับเริ่มฉกรรจ์ขึ้นทุกที   นิรนามสลบไปอีกครั้ง  คงพูดมากไป  พลังงานเลยหมด



    \"มันสักเสือเผ่นด้วย  คุณถึงยิงไม่เข้า\"   โถ  ขนาดหลับยังละเมอโอ้อวดอีก



    ใช่สิเสือ       อะฮ้า  ผมคิดแผนการออกแล้ว



    \"วี้ดดด วิ้ววว\"  ผมผิวปากเรียกกองกำลังจากภายนอกปิรามิด   เสียงดังครึ่กๆ   เกิดขึ้นทันทีเมื่อกองทัพเสือเขี้ยวดาบบุกตะลุยฝ่าดงมัมมี่และกับดักเข้ามายังห้องพิธีกรรม



    \"แดกมันซะ\"   ผมชี้ไปสั่งน้อง ๆ  ให้กินเยลลี่อวบอ้วนทั้งหมด   พวกมันรุมสกรัม  เล็บของมันจิกเข้าไปในเนื้อของเยลลี่เหล่านั้น   แต่ยังมีแรงต้านอยู่  ทำให้พวกมันเด้งดึ๋งไปมาในกลุ่มของเหล่าทหารเสือ



    ใครมาเห็นภาพตอนนี้คงบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า เสือเล่นวอลเล่บอล



    ในที่สุด  ก็มีตัวหนึ่งเขมือบเยลลี่เนื้อนุ่มลงไปได้   แล้วก็ตามด้วยตัวที่สอง  ตัวที่สาม  และตัวที่สี่



    \"ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า\"  ผมหัวเราะเยาะใส่สิ่งที่มีสภาพคล้ายศพซึ่งทอดร่างขวางประตูอยู่  ก่อนเดินนำเหยียบย่ำไปบนร่างของมันเพื่ออกจากปิรามิด



    \"ยังแข็งแกร่งเหมือนเดิมนะ\"  ผมอดชมมันไม่ได้เมื่อเกือบเดินสะดุดเป้ากางเกงแข็ง ๆ ของนิรนาม   ฝูงเสือเขี้ยวดาบเดินเชิดหน้าอย่างหยิ่งยโสไปบนร่างของมัน  ตามรอยเท้าของผมไป  นิรนามคงไม่มีค่าเพียงพอที่น้อง ๆ ผมจะใช้เป็นอาหาร



    แสงสว่างซึ่งรอผมอยู่เบื้องนอกทำให้ตาพร่าไปชั่วขณะ  ผมยิ้มออกมาได้เมื่อเห็นกิมฮวยนั่งจับเจ่ารออยู่นอกปิรามิดแล้ว     ใบหน้าบึ้งตึงของเธอบอกได้ว่ายังคงโกรธผมไม่หาย

      

    ผมยื่นมือให้เธอ    กิมฮวยทำหน้าเบ้  ก่อนส่งมือให้    ผมฉวยโอกาสตอนจังหวะที่เธอกำลังจะลุก  ตวัดตัวมาอุ้มไว้ในวงแขน   และโอบอุ้มเธอไปพร้อมกับที่ดวงอาทิตย์เตรียมลาขอบฟ้ายามสนธยา





    --------------------------------------------------------------------------------



    to be continued



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×