ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักซาดิสส์ของคุณกิมฮวย

    ลำดับตอนที่ #29 : ฟูโรเนะ VS กิมฮวย ยกที่สอง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 75
      0
      22 ส.ค. 48

      



            

              สภาพบรรยากาศที่มืดสนิทอยู่แล้ว  ยิ่งทวีความมืดมนเข้าไปอีกเมื่อพายุขนาดใหญ่ก่อตัว  รวมกันเป็นมวลหนาทึบ  กักเรือสองลำไว้ในใจกลางตาพายุ



    \"อิโนมิซุโปรดักชั่นภูมิใจเสนอ ........      ลานประลองวายุเมฆา\"   เสียงแหลมใสดังจากเครื่องกระจายเสียงฝั่งตรงข้าม   คงเป็นฟูโรเนะสุดสวยของผมแน่ ๆ



    \"สำหรับกฏของการประลองนะคะ    ใช้อาวุธและเล่ห์กลได้ทุกอย่าง  ทำทุกวิธีทางที่จะทำให้ศัตรูพินาศได้ทั้งนั้น   และการจะหยุดยำคู่ต่อสู้หรือไม่นั้น  ขึ้นกับความพอใจของผู้ชนะ   มีข้อบังคับเพียงข้อเดียวคืออย่าออกจากเขตตาพายุนี่\"



    \"พี่ปริศนาคิดว่านังนั่นเป็นใครคะ   ทำไมปล่อยมันมากำหนดอะไรปาว ๆ แบบนี้\"    สาวน้อยข้าง ๆ กระตุกแขนเสื้อผมจนขาดครึ่งด้วยความไม่สบอารมณ์



    \"อ๋อ  ก็เขาเป็นผู้เหย้า   ปล่อยเขากำหนดจัดการอะไรไปสิ  ดีเสียอีก  เราไม่ต้องลำบากทำเอง



    แล้วอีกอย่างนะ\"    ผมลดเสียงเบาลงหน่อยหนึ่ง   \"ถ้าหากเราเอาชนะพวกนั้นได้ทั้ง ๆ ที่มันได้เปรียบเต็มประตู  มันจะยิ่งเจ็บใจ    ซึ่งพี่เชื่อว่ากิมฮวยจะยิ่งสะใจด้วยเช่นกัน\"   ผมจบด้วยยิ้มเจ้าเล่ห์



    \"พร้อมรึยังครับ    ผมจะปิดตาแล้วนับหนึ่งถึงสิบน้า   รีบ ๆ เตรียมตัวรับความพ่ายแพ้ให้ดี ๆ\"    เสียงที่ถูกกรอกผ่านโทรโข่งทะลุทะลวงความอื้ออึงของลมพายุได้อย่างน่าอัศจรรย์





    \"หนึ่ง......สอง.....สาม......\"          พลัน  เสียงกระหึ่มดุจมังกรคำรามจากกระบอกปืนใหญ่ก็ดังจากเรือรบอิโนมิซุ



    \"ผมก็ไม่คิดว่าคุณจะรอจนถึง 10 อยู่แล้วหล่ะ\"     แสงเลเซอร์จากเรือโกโรโกโสถูกยิงกราดเข้าปะทะและต่อต้าน   ต้องขอบคุณเทคโนโลยีของกิมฮวย  ที่ทำให้เรือของเรามีแสนยานุภาพสูงอย่างน่าเหลือเชื่อ





    \"เดินหน้าเต็มกำลังหักซ้าย ที่แปดนาฬิกา   เล็งปืนไปที่สิบหนึ่งนาฬิกา  มุมเงยสามสิบหกองศา ยี่สิบสองลิปดา  ยิงได้\"



    เสียงบัญชาการรบอื้ออึงจากคนของผม   เนื่องจากผมแทบไม่มีความรู้ด้านการควบคุมเรือ   จึงมอบหน้าที่ให้ต้นหนคนเก่าควบคุมแทน



    เรือรบอิโนมิซุพยายามใช้เรือนร่างอันใหญ่โตของมันไล่บดขยี้   เรือเอฟเวอร์อีเวิลของผมอย่างเมามันส์

    แต่ฝ่ายผมเองนั้นก็เต็มไปด้วยกะลาสีชำนาญการซึ่งนำพาให้เรือของเราหลบรอดไปได้อย่างหวุดหวิด    



    ความใหญ่โตของอิโนมิซุกลับเป็นอุปสรรค  เนื่องจากง่ายต่อการเล็งเป้าของฝ่ายเรา  พวกมันจึงถอนตัวจากวงประชิดและเปลี่ยนแผนใหม่

    คลื่นใหญ่โต  และปั่นป่วน  เคลื่อนตัวแทบพลิกเอฟเวอร์อีเวิลให้คว่ำไปกับกระแสน้ำ     ทว่าสมดุลของอับเฉาเราดีเพียงพอที่จะหลบรอดจากความโหดร้ายของท้องทะเลนี้ได้



    ฟูโรเนะให้สัญญาณ  พวกของตน    เพื่อปลดปล่อยเรือบดจำนวนหนึ่งแล่นออกมาจากดาดฟ้าเรือลงตามสะพานน้ำถึงเบื้องล่าง



    หน่วยจู่โจมชั้นยอดในชุดพรางสีดำเข้ากับความมืด   ถูกบรรจุลงลำเรือคนแล้วคนเล่า  โดยมีเป้าหมายมาที่เรือเอฟเวอร์อีเวิลของเรา



    ผมคาดว่า  ฟูโรเนะคงอยุ่ในลำเรือลำใดลำหนึ่งเป็นแน่  เห็นทีจะไม่ไปต้อนรับด้วยคนเองคงจะไม่ได้แล้ว    





    --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------





    \"เตรียมใจพ่ายแพ้แล้วใช่มั้ยคะ  กัปตันปริศนา\"    ดาบเสี้ยววงเดือนในมือของสาวผมสีเพลิงสะท้อนประกายวาววับแม้ในค่ำคืนที่มืดสนิทและปั่นป่วนเช่นนี้  พื้นไม้ลั่นเอี๊ยดอ๊าด โคลงเคลง



    บุคคลในเงามืด  ก้าวออกมาตามคำท้า    \"เฮอะ หากว่าชั้นไม่มาแทนนี่หล่อนคงจัดการงาบพี่ปริศนาไปเรียบร้อยแล้วหล่ะสิ  เห็นคิดถึงกันเหลือเกิ้น\"



    ฟูโรเนะหันขวับไปตามเสียง    



    \"พี่ปริศนาเขาไม่มาหรอกย่ะ   ตัวประกอบกระจอก ๆ แบบนี้  ให้ชั้นจัดการยังรู้สึกว่าเกินความจำเป็นด้วยซ้ำ\"



    \"โทษทีนะ   ชั้นไม่อยากฆ่าสัตว์สงวนมีนอ  อย่างแก\"    หล่อนเก็บดาบเข้าซองหนังข้างลำตัว   ทำให้ชั้นจี๊ดขึ้นมาทันที



    ฉึก !!   เสียงวัตถุบางอย่างปักลงบนพื้น  พร้อมกับกลิ่นเหม็นไหม้ของเห็ดราที่ถูกความร้อนแรงแผดเผา

    ไลท์เซเบอร์ขนาดยาวใหญ่พิเศษ  ถูกเขวี้ยงไปปักระหว่างปลายเท้าทั้งสองของฟูโรเนะ



    หล่อนเลิกคิ้วสูงชันด้วยความโกรธ    \"แกทิ้งอาวุธเองนะ\"     หล่อนดีดตัวปราดพุ่งมาเบื้องหน้าของชั้นพร้อม ๆ กับโลหะวาววับในมือ

    ฉับพลัน  ไลท์เซเบอร์ถอนตัวลอยจากพื้นอย่างปาฏิหาริย์     มันพุ่งฉวัดเฉวียนเข้าปกป้องชั้นจากการโจมตีสายฟ้าแลบของนังนั่น



    ฟูโรเนะพลันเปลี่ยนรูปแบบการโจมตีกลางอากาศ  หล่อนพลิกตัวเตะกราดเข้าที่ท้องน้อยของชั้น  ทำให้ชั้นต้องยุบยุบตัวย่อกระดูก  และเกร็งลมปราณถอยห่างไปสองสามเชียะ



    สาวอารมณ์ร้อนไม่หยุดแต่เพียงเท่านั้น    หล่อนใช้เท้าขวาดีดยันไปเบื้องหลัง   แล้วเท้าซ้ายเป็นแกนค้ำยัน   หมุนร่างของตนเตะตวัดเป็นจักรผันไปเบื้องหน้า



    ใบมีดที่ส้นรองเท้าของมันทิ้งรอยแผลจาง ๆ ไว้บนหัวไหล่ของชั้นรอยหนึ่ง



    \"เล่นสกปรกชัด ๆ\"  สภาพที่ต้องต้านรับกับของมีคม  พุ่งฉวัดเฉวียนไปมาด้วยความเร็วของเพลงเตะ  ทำให้ชั้นมือไม้ปั่นป่วน



    \"ไม่นิ  ชั้นก็แค่ทำตามกฏ\"   ฟูโรเนะยิ้มเยาะ  และเพิ่มความเร็วของตนให้สูงยิ่งไปอีก   ปลายเท้าของเธอเหลือเพียงเงาวูบวาบที่สะบัดไปมา  แต่หากท่านไปสัมผัสเข้าคงได้แผลเหวะหวะเป็นแน่



    \"อีกอย่าง  อาวุธของชั้นด้อยกว่าแกมาก\"    ถึงจะพูดเช่นนั้น แต่สาวผมแดงก็ยังรับมือกับไลท์เซเบอร์บินได้สบาย



    ชั้นรีบดึงกระตุกเส้นเอ็นที่ร้อยดาบไว้  ให้มันกลับมาอยู่ในมืออีกครั้ง       ฟูโรเนะ  ไม่ยอมให้ตั้งตัว   หล่อนสะบัดปลายเท้าเตะเหนือหัวสามชั้น  รองเท้าและคมมีดของหล่อนคงทำจากโลหะพิเศษ  เพราะไม่หลอมละลายเมื่อเจอกับแสงเลเซอร์ที่ถูกใช้ในการต้านรับเพลงเตะราวพายุของหล่อน



    ด้วยความฟลุ๊คหรืออะไรก็ตามแต่    ประกายดาบของชั้นทิ้งรอยไหม้ไว้ที่ข้างเอวของนังไซเรนตาสีน้ำทะเล  เป็นสายเล็ก ๆ



    \"อยากให้ชั้นเอาจริงใช่มั้ย\"  ดวงตาสวยของหล่อนเบิกกว้างอย่างโกรธจัด    ชั้นผงะถอยหลังด้วยลมพายุที่พัดออกจากร่างของฟูโรเนะ



    หล่อนกางแขนทั้งสองออก   และลอยตัวขึ้นไปในอากาศเบื้องบนช้า ๆ   ลมรุนแรงพัดหมุนวนรอบ ๆ ตัวและปะทะกับชั้นจนต้องยกแขนปิดใบหน้า



    \"ลองชิมนี่หน่อยเป็นไง      อะต๊า อะต๊า อะต๊า  เพลงเตะวายุกระซิบ\"   หล่อนระดมเท้าจากบนอากาศราวกับเหาะเหินได้ดั่งใจ   พลังวายุคมกริบที่แฝงอยู่ในเพลงเตะ  กรีดจนเกิดแผลตามแขนและร่างของฉันจำนวนมาก



    ชั้นเห็นว่าไม่ได้การ  จึงแบ่งพลังจากดาบเลเซอร์เป็นม่านแสงที่ฝ่ามือ



    \"หนอยยัยตัวแสบ   คิดว่าแค่นี้จะทำไรชั้นได้รึไงยะ\"      ชั้นตวัดฝ่ามือให้แยกเป็นเงานับพันนับหมื่นรับมือกับเพลงเตะวายุกระซิบของฟูโรเนะ

    ฉับพลัน  มวลหมอกเมฆ  ก่อตัวล้อมบดบังทัศนวิสัยของนังตัวแสบ    ฝ่ามือเคลือบเลเซอร์ซุกซ่อนในม่านหมอกระดมตบไปที่ใบหน้าของนังนั่นแบบไม่ยั้ง   \"โฮะโฮะโฮะ   เห็นฤทธิ์ฝ่ามือเมฆาล่องลอยรึยังยะ   ชิมนี่อีกซะ   เมฆาไร้จีรัง!!!\"     ฝ่ามือทั้งสองข้างของชั้นสะบัดตบซ้ายและขวาโดยที่แฝงความจริงเท็งลวงล่อไว้ในเพลงตบ



    \"ยังอ่อนด้อยนัก\"    เสียงเหิ้ยมดังจากเบื้องหลังของชั้น   พร้อม ๆ กับที่ชั้นพบว่ากำลังตบกับอากาศอยู่

    ฟูโรเนะรวบพลังวายุกลับคืนจนชั้นแทบเสียหลัก   พร้อม ๆ กับสลายเมฆาที่ปกคลุมบริเวณนั้นอยู่ด้วย



    \"เตรียมใจรับกระบี่เซียนซะ\"   หล่อนชักเซเบอร์สีเงินออกมาอีกครั้ง    ทันใด  รอบข้างทั่วบริเวณล้วนหยุดนิ่ง   ราวกับภาพสโลว์โมชั่นถึงที่สุด

    ความโคลงเคลงจากคลื่นลม  รวมทั้งสภาพธรรมชาติเคลื่อนไหวเมื่อครู่ราวกับมายา  เพราะว่าขณะนี้  ทุกสิ่งล้วนหยุดนิ่ง



    ริมฝีปากของฟูโรเนะขยับเบา ๆ   พลังปราณกระบี่ที่กดดันชั้นอยู่จนทำให้รู้สึกได้ถึงความสิ้นหวัง   ความเจ็บปวดท่วร่างที่เกิดจากรอยแผลซ้ำแล้วซ้ำเล่าในห้วงมิตินี้ทำให้ชั้นแทบกรี๊ด



    เสียงของฟูโรเนะที่เพิ่งเดินทางเข้ามาถึงใบหูชั้นพร้อม ๆ กับ  คลื่นลมที่พัดต่อตามปกติ



    \"กระบี่ที่ 13   ไร้เทียมทานมิอาจต้าน\"  ชั้นเจ็บปวดจนแทบหลุดเป็นชิ้น     แต่ยังพอมีแรงเหลือไว้ฝากคำได้อยู่เป็นประโยคสุดท้าย



    \"เฮอะเฮอะ   ถึงแกจะชนะชั้นได้   แต่แกชนะพี่ปริศนาไม่ได้แน่นอน    แค่ความคิดแกยังตามไม่ทันเลย  ว่าทำไมที่รักชั้นถึงไม่มาต้อนรับแกด้วยตนเอง   อ่อก...\"





    ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------





    ฟูโรเนะมีสีหน้าตกใจราวกับนึกถึงเรื่องหนึ่งได้   เธอรู้สึกถึงจิตสังหารเบื้องหลัง   จึงหมุนตัวกลับไปอย่างรวดเร็ว



    ทว่า  เสียงเบา ๆ จากฝีเท้ากระทบแผ่นไม้กลับเกิดขึ้น ณ จุดที่กิมฮวยอยู่เมื่อครู่

    ผมซึ่งประคองกิมฮวยในสภาพเลือดโชก   กำลังจ้องหล่อนด้วยแววตาโกรธแค้น ณ ที่นั้น



    \"คุณคงจะต้องชดใช้กับเรื่องที่เกิดขึ้น...\"  ผมส่งร่างของกิมฮวยให้กับคนสนิทที่ติดตามมาด้วย



    \"อย่าดีกว่าค่ะ  คุณชนะชั้นไม่ได้หรอก\"  ดูท่าหล่อนจะมั่นใจในกระบี่ที่ 13 มาก

    \"ไหน ๆ ชั้นก็กำจัดตัวกวนให้แล้ว  เรามาสนุกกันดีกว่าค่ะสุดหล่อ\"



    \"อืม..น่าสน\"    (นักอ่านคนที่ XX :  ไอ้ปริศนา  ไอ้เลว   ว่าที่ภรรยาเจ็บปางตายยังคิดเรื่องนี้ได้อีก)

    ผมเผยยิ้มเจ้าเล่ห์    \"เสียดายแต่ว่า......ผมชอบข่มขืนมากกว่า    ไม่ชอบพวกใจง่ายทอดร่างให้\"



    ผมกระโจนเข้เปประชิดตัวหล่อน  และมุ่งจู่โจมทำลายเท้าร้ายกาจคู่นั้นทิ้ง



    ฟูโรเนะถลันหลบด้วยท่วงท่าประดุจลมพริ้วเมฆไหว     \"สุรานำเสนอไม่ชอบ  ชอบสุราจับกรอก   แล้วเราจะได้เห็นดีกัน\"



    เราทั้งคู่   ปะทะหมัดเท้ากันในระยะประชิด  จนเกิดเสียงลมอื้ออึงขึ้น    \"สุราจับกรอก  คือคุณอยากโดนข่มขืนแล้วใช่มั้ย\"



    \"ไม่รู้สิคะ ...แล้วแต่จะคิด\"   หล่อนพลันพลิกกายเข้าสู่อ้อมอกผมด้วยท่าทียั่วยวน  ก่อนใช้ปลายมีดที่ซุกในแขนข้างซ้ายแทงท้องน้อยผมจากจุดอับ



    \"ต่ำช้าจริง ๆ\"  ผมหงายตัวพลิกเตะมือของหล่อนได้อย่างหวุดหวิด   หล่อนกระโจนตัวจ้วงแทงลงมาใส่ผมซึ่งหงายอยู่กับพื้น

    ผมพลิกตัวรอดไปได้อีกครั้ง   ดีดตัวขึ้นมาและจับแขนของหล่อนฟาดทุ่มข้ามศีรษะไปด้านหลัง



    \"อิปป้ง\"  



    หล่อนดีดตัวปราดขึ้นมาอีกครั้ง  นัยน์ตาวาวโรจน์ดุจนางสิงห์บาดเจ็บ

    วายุก่อตัวเป็นรูปอีกครั้ง    หล่อนคงทราบดีแล้วว่าระยะประชิดตัวสู้ผมไม่ได้



    หล่อนลอยตัวขึ้นกลางอากาศ    อืม  ระยะโจมตีของผมพอดี

    ผมผนึกยันต์ด้วยนิ้วมือแล้วโคจรพลังเพลิงน้ำแข็งทันที



    \"ฝ่ามือเทพยูไล   พระโยกขุนเขา!!!\"



    พลังปราณระเบิดจากเรื้อเรือจนไม้แตกปลิวว่อน  ปะทุกระแทกกระทั้นขึ้นไปบนอากาศ  ฟูโรเนะ  พยายามต้านด้วยเพลงเตะวายุกระซิบอย่างสุดฤทธิ์  แต่ผลที่ได้คือหล่อนต้องร่วงลงมาราวกับนกปีกหัก



    ฟูโรเนะไม่ยอมถอดใจ  หล่อนปาดโลหิตที่กระอักมาทางมุมปากทิ้ง  แล้วใช้เพลงเตะวายุกระซิบอีกครั้ง



    ผมไม่อยากรุนแรงกับสาวสวยมากนักจึงผนึกยันต์ท่าแรก



    \"ฝ่ามือเทพยูไล  ปฐมแสงธรรม!!!\"     แสงเจิดจ้าพลันบังเกิดขึ้นจากพลังฝ่ามือ     ฟูโรเนะหลับตาลงและโจมตีเข้าสู่แกนกลางของแสงนั้น

    เสียงปลายเท้าปะทะกับฝ่ามือดังถี่ยิบ



    ผลปะทะครั้งนี่คือทั้งคู่เสมอกัน



    \"เฮอะ   เก่งแต่ใช้พลังขี้โกง   มาเจอนี่หน่อยมั้ย\"



    \"มีลูกเล่นอะไรอีก   แสดงให้หมดสิครับ\"    ผมท้าทาย



    ฟูโรเนะผนึกยันต์ด้วยนิ้วมือบ้าง  แต่เป็นรูปแบบพิศดารที่ผมไม่เคยพบเห็นมาก่อน



    \"แยกเงาพันร่าง!!!\"    ฉับพลัน   ฟูโรเนะนับร้อยก็ปรากฏล้อมผมไว้รอบ ๆ บริเวณ   ในท่าที่พร้อมโจมตี



    \"คงรู้นะคะ   ถ้าร่างทั้งหมดของชั้นใช้กระบี่ที่ 13  อะไรจะเกิดขึ้น\"  



    \"ใช่ผมรู้  ผมอาจจะพ่ายแพ้   แต่...\"   ผมลอบผนึกยันต์ขึ้นอีกครั้ง



    \"ศึกยังไม่จบ  อย่าเพิ่งนับศพทหาร   รับมือซะ  ฝ่ามือเทพยูไล  แสงธรรมส่องหล้า!!!\"      ประกายแสงของโคมธรรมปธีป   กระจายไปทั่วบริเวณ   และระเบิดตัวออกอย่างต่อเนื่อง   แสงเจิดจ้าปกคลุมไปทั่วบริเวณพร้อม ๆ กับพลังที่กระจายตัวอย่างนุ่มนวล



    \"สกิลหมู่ที่ได้ผลดี  คุณว่ามั้ย\"    ผมยักคิ้วให้กับฟูโรเนะที่เหลือเพียงตัวคนเดียวในสภาพบอบช้ำ



    \"ชั้นยังไม่ยอมแพ้หรอก   ให้ตายสิ\"   หล่อนกัดปลายนิ้วให้เลือดไหลซึมออกมา  และจารึกอักรขะพิเศษลงบนพื้นเป็นวงไสยเวท



    \"ด้วยพันธสัญญาแห่งโลหิตข้า   เพื่อมอบร่างชั่วคราวแก่เจ้า  ขอเจ้าจงอยู่ภายใต้อาณัฐ   คาถาเชิญ!!!\"       หมอกควันทึบก่อตัวรอบ ๆ ฟูโรเนะ     สายฟ้าแลบแปลบปลาบ  เมื่อเงาดำทะมึนของผู้เฝ้าประตูนรกปรากฏบนเรือเอฟเวอร์อีเวิล   ความใหญ่โตของมันทำให้เรือเอียงลาดไปเล็กน้อย



    อาคันตุกะเขี้ยวคมน้ำลายไหลยืดจากศีรษะทั้งสามของมัน     นัยน์ตาสีแดงเพลิงทะลุทะลวงจากออร่าสีดำซึ่งคุกรุ่นระเหยอยู่รอบ ๆ เซอบีรัส

    เจ้าของเสียงคำรามในคอที่ทำให้คุณหายใจไม่ทั่วท้อง  อยู่ห่างจากเบื้องหน้าผมไม่กี่เมตร



    \"กลัวแล้วหล่ะสิ    ตัวสั่นเข้าไป  กับความมืดมนถึงที่สุดของนรก  แต่ไม่ต้องห่วง  ชั้นไม่เอาคุณถึงตายหรอก  อย่างน้อยคุณต้องมาเป็นเครื่องเล่นให้ชั้นก่อนสักเดือน\"



    ผมไม่ตอบ    ไลท์เซเบอร์ในมือที่ถูกกุมไว้มั่น   แทนคำตอบดีอยู่แล้ว



    ยมทูตสามหัวก้าวเท้าเข้าใกล้ผม  จนกลิ่นเหม็นเน่าจากซากศพโชยกระทบจมูกอย่างจัง  มันตวัดเขี้ยวงับผมด้วยความเร็วที่เหลือเชื่อ   ผมผงะถอยหลัง  และใช้ไลท์เซเบอร์ยันเขี้ยวของมันไว้   แขนที่สั่นระริกต้านแรงกดดันจากหันหนึ่งในสามของมันคงเป็นที่สังเกตได้สำหรับฟูโรเนะ



    หล่อนไม่ปล่อยโอกาสงาม ๆ  เช่นนี้เป็นแน่



    ทันใด   หล่อนปรากฏตัวจากด้านหลังผมซึ่งกำลังพันตูกับเซอบีรัสอยู่   เซเบอร์เงินในมือของหล่อนเงื้อและเตรียมที่จะสังหารผมเต็มพิกัด



    หล่อนคงจะได้รับชัยชนะสมประสงค์  หากว่ากระบวนท่าที่ผมเตรียมไว้ไม่ถูกใช้ออกมา



    ในชั่วพริบตา   ศีรษะทั้งสามของเซอร์บีรัสก็กลิ้งลงมาจากร่าง     แววตาของฟูโรเนะไม่เชื่อถือในความพ่ายแพ้   เมื่อหงส์เพลิงสีสันสดใสร่อนผ่านเบื้องหลังของหล่อน



    \"อาส์   คุณคงรู้สึกได้ใช่มั้ย  ถึงลมหายใจของสุซาคุ\"  



    ฟูโรเนะล้มลงกับพื้น     ขณะที่ผมยังยืนนิ่งคิดอยู่



    \"คุณชนะแล้ว  อยากทำอะไรก็เชิญ    อยากฆ่าชั้นมากใช่มั้ย  มาฆ่าซะสิ  ฮือฮือ\"    หล่อนร้องไห้เป็นเด็ก ๆ



    \"..ผมกำลังเสียดายอยู่\"



    \"จะมาเสียดายชั้นทำไม  ชั้นมันก็แค่นังแพศยาร่านสวาทไร้ค่าสำหรับคุณอยู่แล้วนี่  กระซิก ฮึ้ก ฮึ้ก\"   หล่อนตัดพ้อต่อว่า



    \"ผมแค่เสียดายว่า   ท่าเมื่อกี้ของผมเท่ห์มาก   น่าจะหากล้องวิดีโอ  มาถ่ายอัดไว้    เรามาแสดงกันอีกรอบดีมั้ยหล่ะ   ผมจะได้ให้ลูกน้องไปเตรียมกล้อง\"    ผมพูดหน้าตาย  เรียกเสียงหัวเราะคิกจากสาวผมแดงขี้แยเมื่อครู่



    หล่อนดีดตัวปราดราวกับไม่บาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย  ทำให้ผมแปลกใจมาก

    \"ช่างเถอะ  ยกนี้คุณชนะไป   แต่เดี๋ยวก็รู้ว่าใครจะได้หัวเราะทีหลังกันแน่\"   ฟูโรเนะส่งจูบให้ผมแล้วกระโจนลงน้ำเพื่อกลับเรือของตน



    \"ผมไม่ใส่ใจกับผลแพ้ชนะหรอกนะ   แล้วเธอจะได้รู้ว่าการพ่ายแพ้ที่งดงามที่สุดเป็นแบบไหน\"  ผมรำพึงเบา ๆ กับความมืดข้าง ๆ





    ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------





    to be continued.

















    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×