ลำดับตอนที่ #29
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #29 : ฟูโรเนะ VS กิมฮวย ยกที่สอง
 
       
          สภาพบรรยากาศที่มืดสนิทอยู่แล้ว  ยิ่งทวีความมืดมนเข้าไปอีกเมื่อพายุขนาดใหญ่ก่อตัว  รวมกันเป็นมวลหนาทึบ  กักเรือสองลำไว้ในใจกลางตาพายุ
\"อิโนมิซุโปรดักชั่นภูมิใจเสนอ ........      ลานประลองวายุเมฆา\"  เสียงแหลมใสดังจากเครื่องกระจายเสียงฝั่งตรงข้าม  คงเป็นฟูโรเนะสุดสวยของผมแน่ ๆ
\"สำหรับกฏของการประลองนะคะ    ใช้อาวุธและเล่ห์กลได้ทุกอย่าง  ทำทุกวิธีทางที่จะทำให้ศัตรูพินาศได้ทั้งนั้น  และการจะหยุดยำคู่ต่อสู้หรือไม่นั้น  ขึ้นกับความพอใจของผู้ชนะ  มีข้อบังคับเพียงข้อเดียวคืออย่าออกจากเขตตาพายุนี่\"
\"พี่ปริศนาคิดว่านังนั่นเป็นใครคะ  ทำไมปล่อยมันมากำหนดอะไรปาว ๆ แบบนี้\"    สาวน้อยข้าง ๆ กระตุกแขนเสื้อผมจนขาดครึ่งด้วยความไม่สบอารมณ์
\"อ๋อ  ก็เขาเป็นผู้เหย้า  ปล่อยเขากำหนดจัดการอะไรไปสิ  ดีเสียอีก  เราไม่ต้องลำบากทำเอง
แล้วอีกอย่างนะ\"    ผมลดเสียงเบาลงหน่อยหนึ่ง  \"ถ้าหากเราเอาชนะพวกนั้นได้ทั้ง ๆ ที่มันได้เปรียบเต็มประตู  มันจะยิ่งเจ็บใจ    ซึ่งพี่เชื่อว่ากิมฮวยจะยิ่งสะใจด้วยเช่นกัน\"  ผมจบด้วยยิ้มเจ้าเล่ห์
\"พร้อมรึยังครับ    ผมจะปิดตาแล้วนับหนึ่งถึงสิบน้า  รีบ ๆ เตรียมตัวรับความพ่ายแพ้ให้ดี ๆ\"    เสียงที่ถูกกรอกผ่านโทรโข่งทะลุทะลวงความอื้ออึงของลมพายุได้อย่างน่าอัศจรรย์
\"หนึ่ง......สอง.....สาม......\"          พลัน  เสียงกระหึ่มดุจมังกรคำรามจากกระบอกปืนใหญ่ก็ดังจากเรือรบอิโนมิซุ
\"ผมก็ไม่คิดว่าคุณจะรอจนถึง 10 อยู่แล้วหล่ะ\"    แสงเลเซอร์จากเรือโกโรโกโสถูกยิงกราดเข้าปะทะและต่อต้าน  ต้องขอบคุณเทคโนโลยีของกิมฮวย  ที่ทำให้เรือของเรามีแสนยานุภาพสูงอย่างน่าเหลือเชื่อ
\"เดินหน้าเต็มกำลังหักซ้าย ที่แปดนาฬิกา  เล็งปืนไปที่สิบหนึ่งนาฬิกา  มุมเงยสามสิบหกองศา ยี่สิบสองลิปดา  ยิงได้\"
เสียงบัญชาการรบอื้ออึงจากคนของผม  เนื่องจากผมแทบไม่มีความรู้ด้านการควบคุมเรือ  จึงมอบหน้าที่ให้ต้นหนคนเก่าควบคุมแทน
เรือรบอิโนมิซุพยายามใช้เรือนร่างอันใหญ่โตของมันไล่บดขยี้  เรือเอฟเวอร์อีเวิลของผมอย่างเมามันส์
แต่ฝ่ายผมเองนั้นก็เต็มไปด้วยกะลาสีชำนาญการซึ่งนำพาให้เรือของเราหลบรอดไปได้อย่างหวุดหวิด   
ความใหญ่โตของอิโนมิซุกลับเป็นอุปสรรค  เนื่องจากง่ายต่อการเล็งเป้าของฝ่ายเรา  พวกมันจึงถอนตัวจากวงประชิดและเปลี่ยนแผนใหม่
คลื่นใหญ่โต  และปั่นป่วน  เคลื่อนตัวแทบพลิกเอฟเวอร์อีเวิลให้คว่ำไปกับกระแสน้ำ    ทว่าสมดุลของอับเฉาเราดีเพียงพอที่จะหลบรอดจากความโหดร้ายของท้องทะเลนี้ได้
ฟูโรเนะให้สัญญาณ  พวกของตน    เพื่อปลดปล่อยเรือบดจำนวนหนึ่งแล่นออกมาจากดาดฟ้าเรือลงตามสะพานน้ำถึงเบื้องล่าง
หน่วยจู่โจมชั้นยอดในชุดพรางสีดำเข้ากับความมืด  ถูกบรรจุลงลำเรือคนแล้วคนเล่า  โดยมีเป้าหมายมาที่เรือเอฟเวอร์อีเวิลของเรา
ผมคาดว่า  ฟูโรเนะคงอยุ่ในลำเรือลำใดลำหนึ่งเป็นแน่  เห็นทีจะไม่ไปต้อนรับด้วยคนเองคงจะไม่ได้แล้ว   
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
\"เตรียมใจพ่ายแพ้แล้วใช่มั้ยคะ  กัปตันปริศนา\"    ดาบเสี้ยววงเดือนในมือของสาวผมสีเพลิงสะท้อนประกายวาววับแม้ในค่ำคืนที่มืดสนิทและปั่นป่วนเช่นนี้  พื้นไม้ลั่นเอี๊ยดอ๊าด โคลงเคลง
บุคคลในเงามืด  ก้าวออกมาตามคำท้า    \"เฮอะ หากว่าชั้นไม่มาแทนนี่หล่อนคงจัดการงาบพี่ปริศนาไปเรียบร้อยแล้วหล่ะสิ  เห็นคิดถึงกันเหลือเกิ้น\"
ฟูโรเนะหันขวับไปตามเสียง   
\"พี่ปริศนาเขาไม่มาหรอกย่ะ  ตัวประกอบกระจอก ๆ แบบนี้  ให้ชั้นจัดการยังรู้สึกว่าเกินความจำเป็นด้วยซ้ำ\"
\"โทษทีนะ  ชั้นไม่อยากฆ่าสัตว์สงวนมีนอ  อย่างแก\"    หล่อนเก็บดาบเข้าซองหนังข้างลำตัว  ทำให้ชั้นจี๊ดขึ้นมาทันที
ฉึก !!  เสียงวัตถุบางอย่างปักลงบนพื้น  พร้อมกับกลิ่นเหม็นไหม้ของเห็ดราที่ถูกความร้อนแรงแผดเผา
ไลท์เซเบอร์ขนาดยาวใหญ่พิเศษ  ถูกเขวี้ยงไปปักระหว่างปลายเท้าทั้งสองของฟูโรเนะ
หล่อนเลิกคิ้วสูงชันด้วยความโกรธ    \"แกทิ้งอาวุธเองนะ\"    หล่อนดีดตัวปราดพุ่งมาเบื้องหน้าของชั้นพร้อม ๆ กับโลหะวาววับในมือ
ฉับพลัน  ไลท์เซเบอร์ถอนตัวลอยจากพื้นอย่างปาฏิหาริย์    มันพุ่งฉวัดเฉวียนเข้าปกป้องชั้นจากการโจมตีสายฟ้าแลบของนังนั่น
ฟูโรเนะพลันเปลี่ยนรูปแบบการโจมตีกลางอากาศ  หล่อนพลิกตัวเตะกราดเข้าที่ท้องน้อยของชั้น  ทำให้ชั้นต้องยุบยุบตัวย่อกระดูก  และเกร็งลมปราณถอยห่างไปสองสามเชียะ
สาวอารมณ์ร้อนไม่หยุดแต่เพียงเท่านั้น    หล่อนใช้เท้าขวาดีดยันไปเบื้องหลัง  แล้วเท้าซ้ายเป็นแกนค้ำยัน  หมุนร่างของตนเตะตวัดเป็นจักรผันไปเบื้องหน้า
ใบมีดที่ส้นรองเท้าของมันทิ้งรอยแผลจาง ๆ ไว้บนหัวไหล่ของชั้นรอยหนึ่ง
\"เล่นสกปรกชัด ๆ\"  สภาพที่ต้องต้านรับกับของมีคม  พุ่งฉวัดเฉวียนไปมาด้วยความเร็วของเพลงเตะ  ทำให้ชั้นมือไม้ปั่นป่วน
\"ไม่นิ  ชั้นก็แค่ทำตามกฏ\"  ฟูโรเนะยิ้มเยาะ  และเพิ่มความเร็วของตนให้สูงยิ่งไปอีก  ปลายเท้าของเธอเหลือเพียงเงาวูบวาบที่สะบัดไปมา  แต่หากท่านไปสัมผัสเข้าคงได้แผลเหวะหวะเป็นแน่
\"อีกอย่าง  อาวุธของชั้นด้อยกว่าแกมาก\"    ถึงจะพูดเช่นนั้น แต่สาวผมแดงก็ยังรับมือกับไลท์เซเบอร์บินได้สบาย
ชั้นรีบดึงกระตุกเส้นเอ็นที่ร้อยดาบไว้  ให้มันกลับมาอยู่ในมืออีกครั้ง      ฟูโรเนะ  ไม่ยอมให้ตั้งตัว  หล่อนสะบัดปลายเท้าเตะเหนือหัวสามชั้น  รองเท้าและคมมีดของหล่อนคงทำจากโลหะพิเศษ  เพราะไม่หลอมละลายเมื่อเจอกับแสงเลเซอร์ที่ถูกใช้ในการต้านรับเพลงเตะราวพายุของหล่อน
ด้วยความฟลุ๊คหรืออะไรก็ตามแต่    ประกายดาบของชั้นทิ้งรอยไหม้ไว้ที่ข้างเอวของนังไซเรนตาสีน้ำทะเล  เป็นสายเล็ก ๆ
\"อยากให้ชั้นเอาจริงใช่มั้ย\"  ดวงตาสวยของหล่อนเบิกกว้างอย่างโกรธจัด    ชั้นผงะถอยหลังด้วยลมพายุที่พัดออกจากร่างของฟูโรเนะ
หล่อนกางแขนทั้งสองออก  และลอยตัวขึ้นไปในอากาศเบื้องบนช้า ๆ  ลมรุนแรงพัดหมุนวนรอบ ๆ ตัวและปะทะกับชั้นจนต้องยกแขนปิดใบหน้า
\"ลองชิมนี่หน่อยเป็นไง      อะต๊า อะต๊า อะต๊า  เพลงเตะวายุกระซิบ\"  หล่อนระดมเท้าจากบนอากาศราวกับเหาะเหินได้ดั่งใจ  พลังวายุคมกริบที่แฝงอยู่ในเพลงเตะ  กรีดจนเกิดแผลตามแขนและร่างของฉันจำนวนมาก
ชั้นเห็นว่าไม่ได้การ  จึงแบ่งพลังจากดาบเลเซอร์เป็นม่านแสงที่ฝ่ามือ
\"หนอยยัยตัวแสบ  คิดว่าแค่นี้จะทำไรชั้นได้รึไงยะ\"      ชั้นตวัดฝ่ามือให้แยกเป็นเงานับพันนับหมื่นรับมือกับเพลงเตะวายุกระซิบของฟูโรเนะ
ฉับพลัน  มวลหมอกเมฆ  ก่อตัวล้อมบดบังทัศนวิสัยของนังตัวแสบ    ฝ่ามือเคลือบเลเซอร์ซุกซ่อนในม่านหมอกระดมตบไปที่ใบหน้าของนังนั่นแบบไม่ยั้ง  \"โฮะโฮะโฮะ  เห็นฤทธิ์ฝ่ามือเมฆาล่องลอยรึยังยะ  ชิมนี่อีกซะ  เมฆาไร้จีรัง!!!\"    ฝ่ามือทั้งสองข้างของชั้นสะบัดตบซ้ายและขวาโดยที่แฝงความจริงเท็งลวงล่อไว้ในเพลงตบ
\"ยังอ่อนด้อยนัก\"    เสียงเหิ้ยมดังจากเบื้องหลังของชั้น  พร้อม ๆ กับที่ชั้นพบว่ากำลังตบกับอากาศอยู่
ฟูโรเนะรวบพลังวายุกลับคืนจนชั้นแทบเสียหลัก  พร้อม ๆ กับสลายเมฆาที่ปกคลุมบริเวณนั้นอยู่ด้วย
\"เตรียมใจรับกระบี่เซียนซะ\"  หล่อนชักเซเบอร์สีเงินออกมาอีกครั้ง    ทันใด  รอบข้างทั่วบริเวณล้วนหยุดนิ่ง  ราวกับภาพสโลว์โมชั่นถึงที่สุด
ความโคลงเคลงจากคลื่นลม  รวมทั้งสภาพธรรมชาติเคลื่อนไหวเมื่อครู่ราวกับมายา  เพราะว่าขณะนี้  ทุกสิ่งล้วนหยุดนิ่ง
ริมฝีปากของฟูโรเนะขยับเบา ๆ  พลังปราณกระบี่ที่กดดันชั้นอยู่จนทำให้รู้สึกได้ถึงความสิ้นหวัง  ความเจ็บปวดท่วร่างที่เกิดจากรอยแผลซ้ำแล้วซ้ำเล่าในห้วงมิตินี้ทำให้ชั้นแทบกรี๊ด
เสียงของฟูโรเนะที่เพิ่งเดินทางเข้ามาถึงใบหูชั้นพร้อม ๆ กับ  คลื่นลมที่พัดต่อตามปกติ
\"กระบี่ที่ 13  ไร้เทียมทานมิอาจต้าน\"  ชั้นเจ็บปวดจนแทบหลุดเป็นชิ้น    แต่ยังพอมีแรงเหลือไว้ฝากคำได้อยู่เป็นประโยคสุดท้าย
\"เฮอะเฮอะ  ถึงแกจะชนะชั้นได้  แต่แกชนะพี่ปริศนาไม่ได้แน่นอน    แค่ความคิดแกยังตามไม่ทันเลย  ว่าทำไมที่รักชั้นถึงไม่มาต้อนรับแกด้วยตนเอง  อ่อก...\"
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ฟูโรเนะมีสีหน้าตกใจราวกับนึกถึงเรื่องหนึ่งได้  เธอรู้สึกถึงจิตสังหารเบื้องหลัง  จึงหมุนตัวกลับไปอย่างรวดเร็ว
ทว่า  เสียงเบา ๆ จากฝีเท้ากระทบแผ่นไม้กลับเกิดขึ้น ณ จุดที่กิมฮวยอยู่เมื่อครู่
ผมซึ่งประคองกิมฮวยในสภาพเลือดโชก  กำลังจ้องหล่อนด้วยแววตาโกรธแค้น ณ ที่นั้น
\"คุณคงจะต้องชดใช้กับเรื่องที่เกิดขึ้น...\"  ผมส่งร่างของกิมฮวยให้กับคนสนิทที่ติดตามมาด้วย
\"อย่าดีกว่าค่ะ  คุณชนะชั้นไม่ได้หรอก\"  ดูท่าหล่อนจะมั่นใจในกระบี่ที่ 13 มาก
\"ไหน ๆ ชั้นก็กำจัดตัวกวนให้แล้ว  เรามาสนุกกันดีกว่าค่ะสุดหล่อ\"
\"อืม..น่าสน\"    (นักอ่านคนที่ XX :  ไอ้ปริศนา  ไอ้เลว  ว่าที่ภรรยาเจ็บปางตายยังคิดเรื่องนี้ได้อีก)
ผมเผยยิ้มเจ้าเล่ห์    \"เสียดายแต่ว่า......ผมชอบข่มขืนมากกว่า    ไม่ชอบพวกใจง่ายทอดร่างให้\"
ผมกระโจนเข้เปประชิดตัวหล่อน  และมุ่งจู่โจมทำลายเท้าร้ายกาจคู่นั้นทิ้ง
ฟูโรเนะถลันหลบด้วยท่วงท่าประดุจลมพริ้วเมฆไหว    \"สุรานำเสนอไม่ชอบ  ชอบสุราจับกรอก  แล้วเราจะได้เห็นดีกัน\"
เราทั้งคู่  ปะทะหมัดเท้ากันในระยะประชิด  จนเกิดเสียงลมอื้ออึงขึ้น    \"สุราจับกรอก  คือคุณอยากโดนข่มขืนแล้วใช่มั้ย\"
\"ไม่รู้สิคะ ...แล้วแต่จะคิด\"  หล่อนพลันพลิกกายเข้าสู่อ้อมอกผมด้วยท่าทียั่วยวน  ก่อนใช้ปลายมีดที่ซุกในแขนข้างซ้ายแทงท้องน้อยผมจากจุดอับ
\"ต่ำช้าจริง ๆ\"  ผมหงายตัวพลิกเตะมือของหล่อนได้อย่างหวุดหวิด  หล่อนกระโจนตัวจ้วงแทงลงมาใส่ผมซึ่งหงายอยู่กับพื้น
ผมพลิกตัวรอดไปได้อีกครั้ง  ดีดตัวขึ้นมาและจับแขนของหล่อนฟาดทุ่มข้ามศีรษะไปด้านหลัง
\"อิปป้ง\" 
หล่อนดีดตัวปราดขึ้นมาอีกครั้ง  นัยน์ตาวาวโรจน์ดุจนางสิงห์บาดเจ็บ
วายุก่อตัวเป็นรูปอีกครั้ง    หล่อนคงทราบดีแล้วว่าระยะประชิดตัวสู้ผมไม่ได้
หล่อนลอยตัวขึ้นกลางอากาศ    อืม  ระยะโจมตีของผมพอดี
ผมผนึกยันต์ด้วยนิ้วมือแล้วโคจรพลังเพลิงน้ำแข็งทันที
\"ฝ่ามือเทพยูไล  พระโยกขุนเขา!!!\"
พลังปราณระเบิดจากเรื้อเรือจนไม้แตกปลิวว่อน  ปะทุกระแทกกระทั้นขึ้นไปบนอากาศ  ฟูโรเนะ  พยายามต้านด้วยเพลงเตะวายุกระซิบอย่างสุดฤทธิ์  แต่ผลที่ได้คือหล่อนต้องร่วงลงมาราวกับนกปีกหัก
ฟูโรเนะไม่ยอมถอดใจ  หล่อนปาดโลหิตที่กระอักมาทางมุมปากทิ้ง  แล้วใช้เพลงเตะวายุกระซิบอีกครั้ง
ผมไม่อยากรุนแรงกับสาวสวยมากนักจึงผนึกยันต์ท่าแรก
\"ฝ่ามือเทพยูไล  ปฐมแสงธรรม!!!\"    แสงเจิดจ้าพลันบังเกิดขึ้นจากพลังฝ่ามือ    ฟูโรเนะหลับตาลงและโจมตีเข้าสู่แกนกลางของแสงนั้น
เสียงปลายเท้าปะทะกับฝ่ามือดังถี่ยิบ
ผลปะทะครั้งนี่คือทั้งคู่เสมอกัน
\"เฮอะ  เก่งแต่ใช้พลังขี้โกง  มาเจอนี่หน่อยมั้ย\"
\"มีลูกเล่นอะไรอีก  แสดงให้หมดสิครับ\"    ผมท้าทาย
ฟูโรเนะผนึกยันต์ด้วยนิ้วมือบ้าง  แต่เป็นรูปแบบพิศดารที่ผมไม่เคยพบเห็นมาก่อน
\"แยกเงาพันร่าง!!!\"    ฉับพลัน  ฟูโรเนะนับร้อยก็ปรากฏล้อมผมไว้รอบ ๆ บริเวณ  ในท่าที่พร้อมโจมตี
\"คงรู้นะคะ  ถ้าร่างทั้งหมดของชั้นใช้กระบี่ที่ 13  อะไรจะเกิดขึ้น\" 
\"ใช่ผมรู้  ผมอาจจะพ่ายแพ้  แต่...\"  ผมลอบผนึกยันต์ขึ้นอีกครั้ง
\"ศึกยังไม่จบ  อย่าเพิ่งนับศพทหาร  รับมือซะ  ฝ่ามือเทพยูไล  แสงธรรมส่องหล้า!!!\"      ประกายแสงของโคมธรรมปธีป  กระจายไปทั่วบริเวณ  และระเบิดตัวออกอย่างต่อเนื่อง  แสงเจิดจ้าปกคลุมไปทั่วบริเวณพร้อม ๆ กับพลังที่กระจายตัวอย่างนุ่มนวล
\"สกิลหมู่ที่ได้ผลดี  คุณว่ามั้ย\"    ผมยักคิ้วให้กับฟูโรเนะที่เหลือเพียงตัวคนเดียวในสภาพบอบช้ำ
\"ชั้นยังไม่ยอมแพ้หรอก  ให้ตายสิ\"  หล่อนกัดปลายนิ้วให้เลือดไหลซึมออกมา  และจารึกอักรขะพิเศษลงบนพื้นเป็นวงไสยเวท
\"ด้วยพันธสัญญาแห่งโลหิตข้า  เพื่อมอบร่างชั่วคราวแก่เจ้า  ขอเจ้าจงอยู่ภายใต้อาณัฐ  คาถาเชิญ!!!\"      หมอกควันทึบก่อตัวรอบ ๆ ฟูโรเนะ    สายฟ้าแลบแปลบปลาบ  เมื่อเงาดำทะมึนของผู้เฝ้าประตูนรกปรากฏบนเรือเอฟเวอร์อีเวิล  ความใหญ่โตของมันทำให้เรือเอียงลาดไปเล็กน้อย
อาคันตุกะเขี้ยวคมน้ำลายไหลยืดจากศีรษะทั้งสามของมัน    นัยน์ตาสีแดงเพลิงทะลุทะลวงจากออร่าสีดำซึ่งคุกรุ่นระเหยอยู่รอบ ๆ เซอบีรัส
เจ้าของเสียงคำรามในคอที่ทำให้คุณหายใจไม่ทั่วท้อง  อยู่ห่างจากเบื้องหน้าผมไม่กี่เมตร
\"กลัวแล้วหล่ะสิ    ตัวสั่นเข้าไป  กับความมืดมนถึงที่สุดของนรก  แต่ไม่ต้องห่วง  ชั้นไม่เอาคุณถึงตายหรอก  อย่างน้อยคุณต้องมาเป็นเครื่องเล่นให้ชั้นก่อนสักเดือน\"
ผมไม่ตอบ    ไลท์เซเบอร์ในมือที่ถูกกุมไว้มั่น  แทนคำตอบดีอยู่แล้ว
ยมทูตสามหัวก้าวเท้าเข้าใกล้ผม  จนกลิ่นเหม็นเน่าจากซากศพโชยกระทบจมูกอย่างจัง  มันตวัดเขี้ยวงับผมด้วยความเร็วที่เหลือเชื่อ  ผมผงะถอยหลัง  และใช้ไลท์เซเบอร์ยันเขี้ยวของมันไว้  แขนที่สั่นระริกต้านแรงกดดันจากหันหนึ่งในสามของมันคงเป็นที่สังเกตได้สำหรับฟูโรเนะ
หล่อนไม่ปล่อยโอกาสงาม ๆ  เช่นนี้เป็นแน่
ทันใด  หล่อนปรากฏตัวจากด้านหลังผมซึ่งกำลังพันตูกับเซอบีรัสอยู่  เซเบอร์เงินในมือของหล่อนเงื้อและเตรียมที่จะสังหารผมเต็มพิกัด
หล่อนคงจะได้รับชัยชนะสมประสงค์  หากว่ากระบวนท่าที่ผมเตรียมไว้ไม่ถูกใช้ออกมา
ในชั่วพริบตา  ศีรษะทั้งสามของเซอร์บีรัสก็กลิ้งลงมาจากร่าง    แววตาของฟูโรเนะไม่เชื่อถือในความพ่ายแพ้  เมื่อหงส์เพลิงสีสันสดใสร่อนผ่านเบื้องหลังของหล่อน
\"อาส์  คุณคงรู้สึกได้ใช่มั้ย  ถึงลมหายใจของสุซาคุ\" 
ฟูโรเนะล้มลงกับพื้น    ขณะที่ผมยังยืนนิ่งคิดอยู่
\"คุณชนะแล้ว  อยากทำอะไรก็เชิญ    อยากฆ่าชั้นมากใช่มั้ย  มาฆ่าซะสิ  ฮือฮือ\"    หล่อนร้องไห้เป็นเด็ก ๆ
\"..ผมกำลังเสียดายอยู่\"
\"จะมาเสียดายชั้นทำไม  ชั้นมันก็แค่นังแพศยาร่านสวาทไร้ค่าสำหรับคุณอยู่แล้วนี่  กระซิก ฮึ้ก ฮึ้ก\"  หล่อนตัดพ้อต่อว่า
\"ผมแค่เสียดายว่า  ท่าเมื่อกี้ของผมเท่ห์มาก  น่าจะหากล้องวิดีโอ  มาถ่ายอัดไว้    เรามาแสดงกันอีกรอบดีมั้ยหล่ะ  ผมจะได้ให้ลูกน้องไปเตรียมกล้อง\"    ผมพูดหน้าตาย  เรียกเสียงหัวเราะคิกจากสาวผมแดงขี้แยเมื่อครู่
หล่อนดีดตัวปราดราวกับไม่บาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย  ทำให้ผมแปลกใจมาก
\"ช่างเถอะ  ยกนี้คุณชนะไป  แต่เดี๋ยวก็รู้ว่าใครจะได้หัวเราะทีหลังกันแน่\"  ฟูโรเนะส่งจูบให้ผมแล้วกระโจนลงน้ำเพื่อกลับเรือของตน
\"ผมไม่ใส่ใจกับผลแพ้ชนะหรอกนะ  แล้วเธอจะได้รู้ว่าการพ่ายแพ้ที่งดงามที่สุดเป็นแบบไหน\"  ผมรำพึงเบา ๆ กับความมืดข้าง ๆ
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
to be continued.
       
          สภาพบรรยากาศที่มืดสนิทอยู่แล้ว  ยิ่งทวีความมืดมนเข้าไปอีกเมื่อพายุขนาดใหญ่ก่อตัว  รวมกันเป็นมวลหนาทึบ  กักเรือสองลำไว้ในใจกลางตาพายุ
\"อิโนมิซุโปรดักชั่นภูมิใจเสนอ ........      ลานประลองวายุเมฆา\"  เสียงแหลมใสดังจากเครื่องกระจายเสียงฝั่งตรงข้าม  คงเป็นฟูโรเนะสุดสวยของผมแน่ ๆ
\"สำหรับกฏของการประลองนะคะ    ใช้อาวุธและเล่ห์กลได้ทุกอย่าง  ทำทุกวิธีทางที่จะทำให้ศัตรูพินาศได้ทั้งนั้น  และการจะหยุดยำคู่ต่อสู้หรือไม่นั้น  ขึ้นกับความพอใจของผู้ชนะ  มีข้อบังคับเพียงข้อเดียวคืออย่าออกจากเขตตาพายุนี่\"
\"พี่ปริศนาคิดว่านังนั่นเป็นใครคะ  ทำไมปล่อยมันมากำหนดอะไรปาว ๆ แบบนี้\"    สาวน้อยข้าง ๆ กระตุกแขนเสื้อผมจนขาดครึ่งด้วยความไม่สบอารมณ์
\"อ๋อ  ก็เขาเป็นผู้เหย้า  ปล่อยเขากำหนดจัดการอะไรไปสิ  ดีเสียอีก  เราไม่ต้องลำบากทำเอง
แล้วอีกอย่างนะ\"    ผมลดเสียงเบาลงหน่อยหนึ่ง  \"ถ้าหากเราเอาชนะพวกนั้นได้ทั้ง ๆ ที่มันได้เปรียบเต็มประตู  มันจะยิ่งเจ็บใจ    ซึ่งพี่เชื่อว่ากิมฮวยจะยิ่งสะใจด้วยเช่นกัน\"  ผมจบด้วยยิ้มเจ้าเล่ห์
\"พร้อมรึยังครับ    ผมจะปิดตาแล้วนับหนึ่งถึงสิบน้า  รีบ ๆ เตรียมตัวรับความพ่ายแพ้ให้ดี ๆ\"    เสียงที่ถูกกรอกผ่านโทรโข่งทะลุทะลวงความอื้ออึงของลมพายุได้อย่างน่าอัศจรรย์
\"หนึ่ง......สอง.....สาม......\"          พลัน  เสียงกระหึ่มดุจมังกรคำรามจากกระบอกปืนใหญ่ก็ดังจากเรือรบอิโนมิซุ
\"ผมก็ไม่คิดว่าคุณจะรอจนถึง 10 อยู่แล้วหล่ะ\"    แสงเลเซอร์จากเรือโกโรโกโสถูกยิงกราดเข้าปะทะและต่อต้าน  ต้องขอบคุณเทคโนโลยีของกิมฮวย  ที่ทำให้เรือของเรามีแสนยานุภาพสูงอย่างน่าเหลือเชื่อ
\"เดินหน้าเต็มกำลังหักซ้าย ที่แปดนาฬิกา  เล็งปืนไปที่สิบหนึ่งนาฬิกา  มุมเงยสามสิบหกองศา ยี่สิบสองลิปดา  ยิงได้\"
เสียงบัญชาการรบอื้ออึงจากคนของผม  เนื่องจากผมแทบไม่มีความรู้ด้านการควบคุมเรือ  จึงมอบหน้าที่ให้ต้นหนคนเก่าควบคุมแทน
เรือรบอิโนมิซุพยายามใช้เรือนร่างอันใหญ่โตของมันไล่บดขยี้  เรือเอฟเวอร์อีเวิลของผมอย่างเมามันส์
แต่ฝ่ายผมเองนั้นก็เต็มไปด้วยกะลาสีชำนาญการซึ่งนำพาให้เรือของเราหลบรอดไปได้อย่างหวุดหวิด   
ความใหญ่โตของอิโนมิซุกลับเป็นอุปสรรค  เนื่องจากง่ายต่อการเล็งเป้าของฝ่ายเรา  พวกมันจึงถอนตัวจากวงประชิดและเปลี่ยนแผนใหม่
คลื่นใหญ่โต  และปั่นป่วน  เคลื่อนตัวแทบพลิกเอฟเวอร์อีเวิลให้คว่ำไปกับกระแสน้ำ    ทว่าสมดุลของอับเฉาเราดีเพียงพอที่จะหลบรอดจากความโหดร้ายของท้องทะเลนี้ได้
ฟูโรเนะให้สัญญาณ  พวกของตน    เพื่อปลดปล่อยเรือบดจำนวนหนึ่งแล่นออกมาจากดาดฟ้าเรือลงตามสะพานน้ำถึงเบื้องล่าง
หน่วยจู่โจมชั้นยอดในชุดพรางสีดำเข้ากับความมืด  ถูกบรรจุลงลำเรือคนแล้วคนเล่า  โดยมีเป้าหมายมาที่เรือเอฟเวอร์อีเวิลของเรา
ผมคาดว่า  ฟูโรเนะคงอยุ่ในลำเรือลำใดลำหนึ่งเป็นแน่  เห็นทีจะไม่ไปต้อนรับด้วยคนเองคงจะไม่ได้แล้ว   
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
\"เตรียมใจพ่ายแพ้แล้วใช่มั้ยคะ  กัปตันปริศนา\"    ดาบเสี้ยววงเดือนในมือของสาวผมสีเพลิงสะท้อนประกายวาววับแม้ในค่ำคืนที่มืดสนิทและปั่นป่วนเช่นนี้  พื้นไม้ลั่นเอี๊ยดอ๊าด โคลงเคลง
บุคคลในเงามืด  ก้าวออกมาตามคำท้า    \"เฮอะ หากว่าชั้นไม่มาแทนนี่หล่อนคงจัดการงาบพี่ปริศนาไปเรียบร้อยแล้วหล่ะสิ  เห็นคิดถึงกันเหลือเกิ้น\"
ฟูโรเนะหันขวับไปตามเสียง   
\"พี่ปริศนาเขาไม่มาหรอกย่ะ  ตัวประกอบกระจอก ๆ แบบนี้  ให้ชั้นจัดการยังรู้สึกว่าเกินความจำเป็นด้วยซ้ำ\"
\"โทษทีนะ  ชั้นไม่อยากฆ่าสัตว์สงวนมีนอ  อย่างแก\"    หล่อนเก็บดาบเข้าซองหนังข้างลำตัว  ทำให้ชั้นจี๊ดขึ้นมาทันที
ฉึก !!  เสียงวัตถุบางอย่างปักลงบนพื้น  พร้อมกับกลิ่นเหม็นไหม้ของเห็ดราที่ถูกความร้อนแรงแผดเผา
ไลท์เซเบอร์ขนาดยาวใหญ่พิเศษ  ถูกเขวี้ยงไปปักระหว่างปลายเท้าทั้งสองของฟูโรเนะ
หล่อนเลิกคิ้วสูงชันด้วยความโกรธ    \"แกทิ้งอาวุธเองนะ\"    หล่อนดีดตัวปราดพุ่งมาเบื้องหน้าของชั้นพร้อม ๆ กับโลหะวาววับในมือ
ฉับพลัน  ไลท์เซเบอร์ถอนตัวลอยจากพื้นอย่างปาฏิหาริย์    มันพุ่งฉวัดเฉวียนเข้าปกป้องชั้นจากการโจมตีสายฟ้าแลบของนังนั่น
ฟูโรเนะพลันเปลี่ยนรูปแบบการโจมตีกลางอากาศ  หล่อนพลิกตัวเตะกราดเข้าที่ท้องน้อยของชั้น  ทำให้ชั้นต้องยุบยุบตัวย่อกระดูก  และเกร็งลมปราณถอยห่างไปสองสามเชียะ
สาวอารมณ์ร้อนไม่หยุดแต่เพียงเท่านั้น    หล่อนใช้เท้าขวาดีดยันไปเบื้องหลัง  แล้วเท้าซ้ายเป็นแกนค้ำยัน  หมุนร่างของตนเตะตวัดเป็นจักรผันไปเบื้องหน้า
ใบมีดที่ส้นรองเท้าของมันทิ้งรอยแผลจาง ๆ ไว้บนหัวไหล่ของชั้นรอยหนึ่ง
\"เล่นสกปรกชัด ๆ\"  สภาพที่ต้องต้านรับกับของมีคม  พุ่งฉวัดเฉวียนไปมาด้วยความเร็วของเพลงเตะ  ทำให้ชั้นมือไม้ปั่นป่วน
\"ไม่นิ  ชั้นก็แค่ทำตามกฏ\"  ฟูโรเนะยิ้มเยาะ  และเพิ่มความเร็วของตนให้สูงยิ่งไปอีก  ปลายเท้าของเธอเหลือเพียงเงาวูบวาบที่สะบัดไปมา  แต่หากท่านไปสัมผัสเข้าคงได้แผลเหวะหวะเป็นแน่
\"อีกอย่าง  อาวุธของชั้นด้อยกว่าแกมาก\"    ถึงจะพูดเช่นนั้น แต่สาวผมแดงก็ยังรับมือกับไลท์เซเบอร์บินได้สบาย
ชั้นรีบดึงกระตุกเส้นเอ็นที่ร้อยดาบไว้  ให้มันกลับมาอยู่ในมืออีกครั้ง      ฟูโรเนะ  ไม่ยอมให้ตั้งตัว  หล่อนสะบัดปลายเท้าเตะเหนือหัวสามชั้น  รองเท้าและคมมีดของหล่อนคงทำจากโลหะพิเศษ  เพราะไม่หลอมละลายเมื่อเจอกับแสงเลเซอร์ที่ถูกใช้ในการต้านรับเพลงเตะราวพายุของหล่อน
ด้วยความฟลุ๊คหรืออะไรก็ตามแต่    ประกายดาบของชั้นทิ้งรอยไหม้ไว้ที่ข้างเอวของนังไซเรนตาสีน้ำทะเล  เป็นสายเล็ก ๆ
\"อยากให้ชั้นเอาจริงใช่มั้ย\"  ดวงตาสวยของหล่อนเบิกกว้างอย่างโกรธจัด    ชั้นผงะถอยหลังด้วยลมพายุที่พัดออกจากร่างของฟูโรเนะ
หล่อนกางแขนทั้งสองออก  และลอยตัวขึ้นไปในอากาศเบื้องบนช้า ๆ  ลมรุนแรงพัดหมุนวนรอบ ๆ ตัวและปะทะกับชั้นจนต้องยกแขนปิดใบหน้า
\"ลองชิมนี่หน่อยเป็นไง      อะต๊า อะต๊า อะต๊า  เพลงเตะวายุกระซิบ\"  หล่อนระดมเท้าจากบนอากาศราวกับเหาะเหินได้ดั่งใจ  พลังวายุคมกริบที่แฝงอยู่ในเพลงเตะ  กรีดจนเกิดแผลตามแขนและร่างของฉันจำนวนมาก
ชั้นเห็นว่าไม่ได้การ  จึงแบ่งพลังจากดาบเลเซอร์เป็นม่านแสงที่ฝ่ามือ
\"หนอยยัยตัวแสบ  คิดว่าแค่นี้จะทำไรชั้นได้รึไงยะ\"      ชั้นตวัดฝ่ามือให้แยกเป็นเงานับพันนับหมื่นรับมือกับเพลงเตะวายุกระซิบของฟูโรเนะ
ฉับพลัน  มวลหมอกเมฆ  ก่อตัวล้อมบดบังทัศนวิสัยของนังตัวแสบ    ฝ่ามือเคลือบเลเซอร์ซุกซ่อนในม่านหมอกระดมตบไปที่ใบหน้าของนังนั่นแบบไม่ยั้ง  \"โฮะโฮะโฮะ  เห็นฤทธิ์ฝ่ามือเมฆาล่องลอยรึยังยะ  ชิมนี่อีกซะ  เมฆาไร้จีรัง!!!\"    ฝ่ามือทั้งสองข้างของชั้นสะบัดตบซ้ายและขวาโดยที่แฝงความจริงเท็งลวงล่อไว้ในเพลงตบ
\"ยังอ่อนด้อยนัก\"    เสียงเหิ้ยมดังจากเบื้องหลังของชั้น  พร้อม ๆ กับที่ชั้นพบว่ากำลังตบกับอากาศอยู่
ฟูโรเนะรวบพลังวายุกลับคืนจนชั้นแทบเสียหลัก  พร้อม ๆ กับสลายเมฆาที่ปกคลุมบริเวณนั้นอยู่ด้วย
\"เตรียมใจรับกระบี่เซียนซะ\"  หล่อนชักเซเบอร์สีเงินออกมาอีกครั้ง    ทันใด  รอบข้างทั่วบริเวณล้วนหยุดนิ่ง  ราวกับภาพสโลว์โมชั่นถึงที่สุด
ความโคลงเคลงจากคลื่นลม  รวมทั้งสภาพธรรมชาติเคลื่อนไหวเมื่อครู่ราวกับมายา  เพราะว่าขณะนี้  ทุกสิ่งล้วนหยุดนิ่ง
ริมฝีปากของฟูโรเนะขยับเบา ๆ  พลังปราณกระบี่ที่กดดันชั้นอยู่จนทำให้รู้สึกได้ถึงความสิ้นหวัง  ความเจ็บปวดท่วร่างที่เกิดจากรอยแผลซ้ำแล้วซ้ำเล่าในห้วงมิตินี้ทำให้ชั้นแทบกรี๊ด
เสียงของฟูโรเนะที่เพิ่งเดินทางเข้ามาถึงใบหูชั้นพร้อม ๆ กับ  คลื่นลมที่พัดต่อตามปกติ
\"กระบี่ที่ 13  ไร้เทียมทานมิอาจต้าน\"  ชั้นเจ็บปวดจนแทบหลุดเป็นชิ้น    แต่ยังพอมีแรงเหลือไว้ฝากคำได้อยู่เป็นประโยคสุดท้าย
\"เฮอะเฮอะ  ถึงแกจะชนะชั้นได้  แต่แกชนะพี่ปริศนาไม่ได้แน่นอน    แค่ความคิดแกยังตามไม่ทันเลย  ว่าทำไมที่รักชั้นถึงไม่มาต้อนรับแกด้วยตนเอง  อ่อก...\"
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ฟูโรเนะมีสีหน้าตกใจราวกับนึกถึงเรื่องหนึ่งได้  เธอรู้สึกถึงจิตสังหารเบื้องหลัง  จึงหมุนตัวกลับไปอย่างรวดเร็ว
ทว่า  เสียงเบา ๆ จากฝีเท้ากระทบแผ่นไม้กลับเกิดขึ้น ณ จุดที่กิมฮวยอยู่เมื่อครู่
ผมซึ่งประคองกิมฮวยในสภาพเลือดโชก  กำลังจ้องหล่อนด้วยแววตาโกรธแค้น ณ ที่นั้น
\"คุณคงจะต้องชดใช้กับเรื่องที่เกิดขึ้น...\"  ผมส่งร่างของกิมฮวยให้กับคนสนิทที่ติดตามมาด้วย
\"อย่าดีกว่าค่ะ  คุณชนะชั้นไม่ได้หรอก\"  ดูท่าหล่อนจะมั่นใจในกระบี่ที่ 13 มาก
\"ไหน ๆ ชั้นก็กำจัดตัวกวนให้แล้ว  เรามาสนุกกันดีกว่าค่ะสุดหล่อ\"
\"อืม..น่าสน\"    (นักอ่านคนที่ XX :  ไอ้ปริศนา  ไอ้เลว  ว่าที่ภรรยาเจ็บปางตายยังคิดเรื่องนี้ได้อีก)
ผมเผยยิ้มเจ้าเล่ห์    \"เสียดายแต่ว่า......ผมชอบข่มขืนมากกว่า    ไม่ชอบพวกใจง่ายทอดร่างให้\"
ผมกระโจนเข้เปประชิดตัวหล่อน  และมุ่งจู่โจมทำลายเท้าร้ายกาจคู่นั้นทิ้ง
ฟูโรเนะถลันหลบด้วยท่วงท่าประดุจลมพริ้วเมฆไหว    \"สุรานำเสนอไม่ชอบ  ชอบสุราจับกรอก  แล้วเราจะได้เห็นดีกัน\"
เราทั้งคู่  ปะทะหมัดเท้ากันในระยะประชิด  จนเกิดเสียงลมอื้ออึงขึ้น    \"สุราจับกรอก  คือคุณอยากโดนข่มขืนแล้วใช่มั้ย\"
\"ไม่รู้สิคะ ...แล้วแต่จะคิด\"  หล่อนพลันพลิกกายเข้าสู่อ้อมอกผมด้วยท่าทียั่วยวน  ก่อนใช้ปลายมีดที่ซุกในแขนข้างซ้ายแทงท้องน้อยผมจากจุดอับ
\"ต่ำช้าจริง ๆ\"  ผมหงายตัวพลิกเตะมือของหล่อนได้อย่างหวุดหวิด  หล่อนกระโจนตัวจ้วงแทงลงมาใส่ผมซึ่งหงายอยู่กับพื้น
ผมพลิกตัวรอดไปได้อีกครั้ง  ดีดตัวขึ้นมาและจับแขนของหล่อนฟาดทุ่มข้ามศีรษะไปด้านหลัง
\"อิปป้ง\" 
หล่อนดีดตัวปราดขึ้นมาอีกครั้ง  นัยน์ตาวาวโรจน์ดุจนางสิงห์บาดเจ็บ
วายุก่อตัวเป็นรูปอีกครั้ง    หล่อนคงทราบดีแล้วว่าระยะประชิดตัวสู้ผมไม่ได้
หล่อนลอยตัวขึ้นกลางอากาศ    อืม  ระยะโจมตีของผมพอดี
ผมผนึกยันต์ด้วยนิ้วมือแล้วโคจรพลังเพลิงน้ำแข็งทันที
\"ฝ่ามือเทพยูไล  พระโยกขุนเขา!!!\"
พลังปราณระเบิดจากเรื้อเรือจนไม้แตกปลิวว่อน  ปะทุกระแทกกระทั้นขึ้นไปบนอากาศ  ฟูโรเนะ  พยายามต้านด้วยเพลงเตะวายุกระซิบอย่างสุดฤทธิ์  แต่ผลที่ได้คือหล่อนต้องร่วงลงมาราวกับนกปีกหัก
ฟูโรเนะไม่ยอมถอดใจ  หล่อนปาดโลหิตที่กระอักมาทางมุมปากทิ้ง  แล้วใช้เพลงเตะวายุกระซิบอีกครั้ง
ผมไม่อยากรุนแรงกับสาวสวยมากนักจึงผนึกยันต์ท่าแรก
\"ฝ่ามือเทพยูไล  ปฐมแสงธรรม!!!\"    แสงเจิดจ้าพลันบังเกิดขึ้นจากพลังฝ่ามือ    ฟูโรเนะหลับตาลงและโจมตีเข้าสู่แกนกลางของแสงนั้น
เสียงปลายเท้าปะทะกับฝ่ามือดังถี่ยิบ
ผลปะทะครั้งนี่คือทั้งคู่เสมอกัน
\"เฮอะ  เก่งแต่ใช้พลังขี้โกง  มาเจอนี่หน่อยมั้ย\"
\"มีลูกเล่นอะไรอีก  แสดงให้หมดสิครับ\"    ผมท้าทาย
ฟูโรเนะผนึกยันต์ด้วยนิ้วมือบ้าง  แต่เป็นรูปแบบพิศดารที่ผมไม่เคยพบเห็นมาก่อน
\"แยกเงาพันร่าง!!!\"    ฉับพลัน  ฟูโรเนะนับร้อยก็ปรากฏล้อมผมไว้รอบ ๆ บริเวณ  ในท่าที่พร้อมโจมตี
\"คงรู้นะคะ  ถ้าร่างทั้งหมดของชั้นใช้กระบี่ที่ 13  อะไรจะเกิดขึ้น\" 
\"ใช่ผมรู้  ผมอาจจะพ่ายแพ้  แต่...\"  ผมลอบผนึกยันต์ขึ้นอีกครั้ง
\"ศึกยังไม่จบ  อย่าเพิ่งนับศพทหาร  รับมือซะ  ฝ่ามือเทพยูไล  แสงธรรมส่องหล้า!!!\"      ประกายแสงของโคมธรรมปธีป  กระจายไปทั่วบริเวณ  และระเบิดตัวออกอย่างต่อเนื่อง  แสงเจิดจ้าปกคลุมไปทั่วบริเวณพร้อม ๆ กับพลังที่กระจายตัวอย่างนุ่มนวล
\"สกิลหมู่ที่ได้ผลดี  คุณว่ามั้ย\"    ผมยักคิ้วให้กับฟูโรเนะที่เหลือเพียงตัวคนเดียวในสภาพบอบช้ำ
\"ชั้นยังไม่ยอมแพ้หรอก  ให้ตายสิ\"  หล่อนกัดปลายนิ้วให้เลือดไหลซึมออกมา  และจารึกอักรขะพิเศษลงบนพื้นเป็นวงไสยเวท
\"ด้วยพันธสัญญาแห่งโลหิตข้า  เพื่อมอบร่างชั่วคราวแก่เจ้า  ขอเจ้าจงอยู่ภายใต้อาณัฐ  คาถาเชิญ!!!\"      หมอกควันทึบก่อตัวรอบ ๆ ฟูโรเนะ    สายฟ้าแลบแปลบปลาบ  เมื่อเงาดำทะมึนของผู้เฝ้าประตูนรกปรากฏบนเรือเอฟเวอร์อีเวิล  ความใหญ่โตของมันทำให้เรือเอียงลาดไปเล็กน้อย
อาคันตุกะเขี้ยวคมน้ำลายไหลยืดจากศีรษะทั้งสามของมัน    นัยน์ตาสีแดงเพลิงทะลุทะลวงจากออร่าสีดำซึ่งคุกรุ่นระเหยอยู่รอบ ๆ เซอบีรัส
เจ้าของเสียงคำรามในคอที่ทำให้คุณหายใจไม่ทั่วท้อง  อยู่ห่างจากเบื้องหน้าผมไม่กี่เมตร
\"กลัวแล้วหล่ะสิ    ตัวสั่นเข้าไป  กับความมืดมนถึงที่สุดของนรก  แต่ไม่ต้องห่วง  ชั้นไม่เอาคุณถึงตายหรอก  อย่างน้อยคุณต้องมาเป็นเครื่องเล่นให้ชั้นก่อนสักเดือน\"
ผมไม่ตอบ    ไลท์เซเบอร์ในมือที่ถูกกุมไว้มั่น  แทนคำตอบดีอยู่แล้ว
ยมทูตสามหัวก้าวเท้าเข้าใกล้ผม  จนกลิ่นเหม็นเน่าจากซากศพโชยกระทบจมูกอย่างจัง  มันตวัดเขี้ยวงับผมด้วยความเร็วที่เหลือเชื่อ  ผมผงะถอยหลัง  และใช้ไลท์เซเบอร์ยันเขี้ยวของมันไว้  แขนที่สั่นระริกต้านแรงกดดันจากหันหนึ่งในสามของมันคงเป็นที่สังเกตได้สำหรับฟูโรเนะ
หล่อนไม่ปล่อยโอกาสงาม ๆ  เช่นนี้เป็นแน่
ทันใด  หล่อนปรากฏตัวจากด้านหลังผมซึ่งกำลังพันตูกับเซอบีรัสอยู่  เซเบอร์เงินในมือของหล่อนเงื้อและเตรียมที่จะสังหารผมเต็มพิกัด
หล่อนคงจะได้รับชัยชนะสมประสงค์  หากว่ากระบวนท่าที่ผมเตรียมไว้ไม่ถูกใช้ออกมา
ในชั่วพริบตา  ศีรษะทั้งสามของเซอร์บีรัสก็กลิ้งลงมาจากร่าง    แววตาของฟูโรเนะไม่เชื่อถือในความพ่ายแพ้  เมื่อหงส์เพลิงสีสันสดใสร่อนผ่านเบื้องหลังของหล่อน
\"อาส์  คุณคงรู้สึกได้ใช่มั้ย  ถึงลมหายใจของสุซาคุ\" 
ฟูโรเนะล้มลงกับพื้น    ขณะที่ผมยังยืนนิ่งคิดอยู่
\"คุณชนะแล้ว  อยากทำอะไรก็เชิญ    อยากฆ่าชั้นมากใช่มั้ย  มาฆ่าซะสิ  ฮือฮือ\"    หล่อนร้องไห้เป็นเด็ก ๆ
\"..ผมกำลังเสียดายอยู่\"
\"จะมาเสียดายชั้นทำไม  ชั้นมันก็แค่นังแพศยาร่านสวาทไร้ค่าสำหรับคุณอยู่แล้วนี่  กระซิก ฮึ้ก ฮึ้ก\"  หล่อนตัดพ้อต่อว่า
\"ผมแค่เสียดายว่า  ท่าเมื่อกี้ของผมเท่ห์มาก  น่าจะหากล้องวิดีโอ  มาถ่ายอัดไว้    เรามาแสดงกันอีกรอบดีมั้ยหล่ะ  ผมจะได้ให้ลูกน้องไปเตรียมกล้อง\"    ผมพูดหน้าตาย  เรียกเสียงหัวเราะคิกจากสาวผมแดงขี้แยเมื่อครู่
หล่อนดีดตัวปราดราวกับไม่บาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย  ทำให้ผมแปลกใจมาก
\"ช่างเถอะ  ยกนี้คุณชนะไป  แต่เดี๋ยวก็รู้ว่าใครจะได้หัวเราะทีหลังกันแน่\"  ฟูโรเนะส่งจูบให้ผมแล้วกระโจนลงน้ำเพื่อกลับเรือของตน
\"ผมไม่ใส่ใจกับผลแพ้ชนะหรอกนะ  แล้วเธอจะได้รู้ว่าการพ่ายแพ้ที่งดงามที่สุดเป็นแบบไหน\"  ผมรำพึงเบา ๆ กับความมืดข้าง ๆ
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
to be continued.
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น