ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักซาดิสส์ของคุณกิมฮวย

    ลำดับตอนที่ #33 : สนธิสัญญาสงบศึก

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 81
      0
      7 ก.ย. 48





       ติ๋ง........ติ๋ง.....



    เสียงของเหลวหยดกระทบผิวหิน  ก้องสะท้อนไปในป่าเงียบสงัด



    เสียงของฟูโรเนะหายไปแล้ว  รวมทั้งกิมฮวย  บุคคลที่ผมคาดว่ากำลังตามมาด้วย



    เสียงทุกชนิดหายไปราวกับกดปุ่ม mute  เหมือนกับว่า  สถานที่แห่งนี้  ...อยู่คนละมิติกับป่าเมื่อครู่





    ใบของพืชตระกูลบอนชนิดหนึ่ง   แผ่กว้างแผ่นหนา   เส้นลายสีเงาเงินของมันสะท้อนแสงราง ๆ แม้ในคืนที่มืดสนิท

    ของเหลวข้นหนืดสีคล้ำ  กำลังรินใหลจากใบบอนนั้น



    ผมป้ายนิ้วชี้เพื่อสัมผัสพิสูจน์    ความมืดมิดเป็นอุปสรรคต่อจักษุประสาท   ทว่า...ผมได้กลิ่นคาวเลือดจากของเหลวนั้น



    กอบอนหนาทึบ  แหลกยับด้วยความร้อนรนดั่งไฟ    ซากสังขารของฟูโรเนะ....ไม่สิ  แค่คาดหวังว่าจะมี



    หลังกอนั้นเป็นพื้นหินแข็ง  ประกอบเป็นส่วนหนึ่งของหุบเหวเบื้องล่าง    ลึกล้ำลงไปมิอาจหยั่ง

    ผมชะโงกศีรษะ  มองลงไปในความมืดมิด    ปลายเท้าข้างหนึ่ง   สัมผัสกับกึ่งอากาศกึ่งพื้น





    ทันใดนั้น  ผมก็ได้ยินเสียงกรีดร้องของกิมฮวย!!





    หลังจากนั้น









    ผมก็นึกเสียใจ  ว่าทำไมไม่เหยียบพื้นตรงที่มั่นคงกว่านี้...





    -----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------





    ฟูโรเนะขยี้เปลือกตาสีฟ้าจางของหล่อนเบา ๆ   เพื่อลดความระคายเคืองจากแสงจ้าเบื้องหน้า    หล่อนใช้นิ้วทั้งห้าปิดบังแสงจากดวงไฟในมือของผม



    \"ใคร   ใครกัน ?\"  สาวผมแดงถามด้วยความงุนงง



    ผมวางไฟฉายลงกับพื้น  แล้วย่อตัวลงจับไหล่ทั้งสองของเธอไว้



    \"ผมเอง  ปริศนาไง   จำกัปตันปริศนาของคุณได้มั้ย\"    



    ฟูโรเนะเบะปากเหมือนจะร้องไห้  แล้วโผเข้าหาอ้อมกอดที่ผมกางรอรับไว้  หล่อนสะอึกสะอื้นเหมือนลูกนกตกน้ำ   จนผมสงสัยว่าอะไรที่ทำให้หญิงแกร่งอย่างเธออ่อนแอได้ขนาดนี้



    \"มัน....มัน  น่ากลัว....ชั้น..ชั้น  แทบไม่เชื่อว่าตรงหน้าเป็นคุณจริง ๆ    มันเหมือนฝัน    ฮึ๊ก  ชั้น  ...ชั้นไม่รู้จะพูดยังไง\"



    ผมต้องปาดน้ำตาให้เธอเบา ๆ เมื่อเธอพยายามบอกเล่าประสบการณ์โหดร้ายที่ผ่านมา



    \"ไม่เป็นไรแล้วครับ  ไม่เป็นไรแล้ว    ผมอยู่ตรงนี้แล้วนี่ไง    ไม่ใช่ความฝันหรอก\"    ผมจับมือของเธอให้สัมผัสกับผิวแก้มของผม

    \"ไม่เชื่อลองหยิกแก้มดูเลย  ว่าผมมีตัวตนจริงรึป่าว\"



    \"ไม่ ไม่   ...ชั้นเชื่อใจคุณ   แต่มันน่ะ   ปีศาจร้ายที่พระเจ้าสาปส่ง    มันลากชั้นลงมาที่นี่\"    หล่อนเริ่มคุมสติได้  หลังจากที่ฟื้นสติสมประดีขึ้นมา  และให้รายละเอียดแก่ผมมากขึ้น



    \"มันหน้าตาเป็นยังไง   ลองอธิบายรูปร่างมันได้มั้ยครับ\"



    นัยน์ตาของเธอพลันเบิกกว้างและจ้องค้างข้ามไหล่ผมไป   ผมหันหลังเหลียวตามช้า ๆ



    \"มันหน้าตาแบบนั้นเลย...\"   เสียงกระซิบเบา ๆ ที่เล็ดรอดจากไรฟันของหล่อนระบุชัดว่าสิ่งมีชีวิตหน้าตาน่าเกลียดนั้น  เป็นตนเดียวกับที่ลากหล่อนลงมาในเหวนี่    





    -----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------



    พักโฆษณา................................





    -----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------





       เขี้ยวสีคล้ำ  เปื้อนน้ำลายเป็นฟองฟูมสั่นระริก  ตามการสั่นสะเทือนเนื่องจากเสียงครางเบา ๆ ในลำคอของมัน

    ผิวหนังสีเขียวคล้ำบวมฉุราวกับพรายทะเลแช่อิ่ม  ประกอบกับรูปลักษณ์เน่าเฟะของศพใกล้เน่า   ขนาดที่ลูกเรือเอฟเวอร์อีเวิลยังชิดซ้าย

    ดวงตาถลนโปนจนแทบหลุดออกมานอกเบ้าของมัน  เป็นสีขาวซีดไร้แววตาดำ  คงจะเนื่องเพราะโปรตี นที่เปลี่ยนสภาพไป



    แต่อะไรกันหล่ะที่ทำให้มันยังเคลื่อนไหวได้เช่นนี้.....



    \"ซอมบี้\"    ฟูโรเนะคราง



    ไม่ต้องบอกก็รู้หรอก   เพราะป้ายแขวนคอมันเขียนไว้ชัด ๆ  \"Zombie\"  คาดว่าผู้ที่สร้างมันขึ้นมาคงเกรงว่าผู้พบเห็นจะไม่รู้จัก  จึงต้องมีการระบุสปีชี่ส์ไว้ให้ชัดเจน





    \"ยินดีต้อนรับแขกผู้มีเกียรติทุกท่านเข้าสู่รังปลวก\"   เสียงห้าวทุ้มดังก้องสะท้อนจากทุกมุมของอุโมงค์อันมืดมิด



    \"พวกท่านคือผู้ที่ได้รับการคัดสรรมาอย่างดี   เพื่อมาร่วมในการผจญภัยอันน่าตื่นตะลึง  ชนิดที่ท่านไม่เคยนึกไม่เคยฝันมาก่อน



    นั่นก็คือ



    แอ่น แอน แอ๊น   แอน แอน แอ่น   แอ๊น แอน...   วิ่งสู้ฟัดจิกกัดซอมบี้  ครับท่าน



    โดยกติกามีอยู่ว่า     ทุกท่านจะต้องบุกฝ่าอุปสรรคต่าง ๆ ภายในรังปลวก  ไล่ตามเบาะแสเพื่อไปยังเป้าหมายที่เรากำหนดให้ในแต่จุดเรื่อย ๆ    ซึ่งศัตรูตัวฉกาจของท่านจะเป็นเหล่าอดีตสิ่งมีชีวิต  ซึ่งติดเชื้อไวรัส  s   ไวรัส  e   และไวรัส x   หรือเรียกในนาม  ชีวสังหาร



    ท่านมีทางเลือกง่าย ๆ อีกทางหนึ่ง     ที่จะหยุดยั้งอุปสรรคสำคัญนี้   คือค้นหาตัวนางพญา ผู้ถูกฝังไมโครชิพควบคุมเหล่าชีวสังหารไว้ในกล้ามเนื้อหัวใจ  และฆ่าเธอซะ     เธอ  หรือเขา   แฝงตัวอยู่ในพวกคุณแล้วตอนนี้    ขอให้ระวังให้ดี ๆ    คนข้าง ๆ คุณอาจจะหันมาแว้งกัดได้ทุกขณะ



    ผมจะคอยดูอย่างสนุกสนานว่า  ท่านจะเลือกอะไร  ระหว่าง  หาตัวนางพญาให้เจอแล้วเชือดทิ้ง    หรือสังหารทุกคนที่พบหน้าจนกว่าจะเหลือท่านคนเดียว   หึหึหึ



    เอาหล่ะ  เกมสตาร์ทแล้ว   ขอให้ท่านโชคร้าย....  ด้วยความปรารถนาดีจาก  ซากากิ  โคจิโร่\"





    สิ้นเสียง     ซอมบี้เบื้องหน้าฟาดแขนเน่า ๆ ของมันใส่ผมทันที  เล็บคมกริบของมันเฉียดท้องแขนผมซึ่งกระโดดหลบได้ทันจนเป็นรอยเลือดซิบ



    \"ระวังค่ะ  ของเหลวในตัวมันปนเปื้อนเชื้อไวรัส\"



    เหมือนมันฟังรู้เรื่อง  และทราบว่าผมเกรงกลัว   มันถ่มน้ำลายใส่ผมทันที       เสลดสีช้ำเลือดช้ำหนองถูกยิงจากปากเหวอะหวะถี่ยิบราวปืนกล



    \"ให้ตายสิ\"   พร้อมคำสบถ    ไม้หน้าสามลึกลับในมือผมก็ฟาดลงไปกลางกระหม่อมของมัน  เศษมันสมองสีเน่ากระจายออกมาพร้อมกับเสียงดังโพล๊ะ    เสนาะหูดีจริง



    ผมไม่พอใจแต่เพียงเท่านั้น   ไม้ในมือถูกเหวี่ยงกระหน่ำซัดฟาดลงไปยังร่างสยองอย่างเมามันส์    ชิ้นเนื้อที่กระจายออกจากชีวสังหารเปื้อนติดเสื้อผมราวห่ าฝน   ทว่า  มันยังคงเดินทื่อเข้ามาหาผมอยู่ดี



    \"สั_ด  ลงหลุมดี ๆ ไม่ชอบ   ชอบให้กรูออกแรงนัก\"    ไม้หน้าสามอันเดิมถูกหวดอย่างเต็มแรงไปยังก้านคอเละ ๆ ของมัน  ความคมและความรุนแรงถึงขนาด   ส่งให้หัวของมันหลุดออกจากตัวกลิ้งหลุนไปปะทะกับผนังหิน



    ร่างของมันผงะนิดหน่อย   ก่อนที่จะถูกส่งลงไปกองกับพื้นด้วยลูกเตะฟาดขาลงจากเบื้องบน



    ฉัวะ



    แขนสีเขียวคล้ำถูกดึงกระชากออกจากร่าง   ตี นที่ค้ำยันอยู่บนยอดอกเป็นจุดหมุนอย่างในในการฉีกกระชากสังขาร



    \"ฮ่าฮ่าฮ่า   สะใจมั้ยไอ้ตัวไม่รู้จักตาย   อย่างแกมันต้องเจอแบบนี้..\"    ผมคว้าเอาก้อนหินขนาดเท่าหัวควา-ยทุ่มกระแทกใส่ร่างของมันให้แหลกเละ    แต่เซลล์ของมันยังคงเต้นระริกอย่างน่ารังเกียจ   แขนอีกข้างของมันคว้าหมับที่ข้อเท้าของผม



    ความอดทนผมถึงขีดสุด   ปืนพ่นไฟถูกคว้าจากเป้หลัง   มาปัดกระแทกแขนของมันออก   และเล็งไปที่กลางลำตัวของมัน

      \"แม่ม   ยังไม่ตายอีก  อยากเจอของจริงนักใช่มั้ย\"

    อานุภาพเพลิงร้อนแรง  เผาผลาญให้เศษเนื้อน่าขยะแขยงกลายเป็นจุลวิจุล



    ค่ำคืนนั้น  เสียงหัวเราะโรคจิตดังก้องไปทั่วทั้งอุโมงค์ไต่ไปตามหุบเหว  และสะท้อนไปทั่วป่าทึบเป็นเวลานานเลยทีเดียว....





    ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------





    ลึก  และไกลออกไปอีกแห่งในรังปลวก       ห้องโถงกว้างขนาดใหญ่ที่ก่อตัวขึ้นจากโลหะและซีเมนต์  ลักษณะคล้ายห้องเก็บอาวุธ



    ร่างสองร่างนอนเหยียดยาวอยู่บนพื้นกลางห้องโถงนั้น    ไฟสว่างจ้าจากเพดานส่องกระทบใบหน้าสาวน้อยน่ารักบนพื้น



    ชั้นขยี้ตาให้ชินกับแสงจ้า   หลังจากการสลบอันยาวนาน     ตัวห่ะไรมันลากชั้นลงมาที่นี่วะเนี่ย   ชั้นค่อย ๆ ไล่เรียงทบทวนความทรงจำก่อนที่จะถูกขัดจังหวะด้วยเสียงแผดจากลำโพงกระจายเสียงซึ่งซ่อนอยู่ภายในโถงนี้



    \"พวกท่านคือผู้ที่ได้รับการคัดสรรมาอย่างดี   เพื่อมาร่วมในการผจญภัยอันน่าตื่นตะลึง  ชนิดที่ท่านไม่เคยนึกไม่เคยฝันมาก่อน........\"



    \"มันพล่ามอะไรกันน่ะ\"



    สมาธิที่ชั้นอุตส่าห์รวบรวมต้องพังทลายเพราะเสียงจากคนงัวเงียเพิ่งตื่น  แถมยังไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเล้ย



    \"มีหูมั้ยคะ    ถ้าคาดว่า  หรือพอจะนึกออกว่าตนเองมี  ก็กรุณาตั้งใจฟังหน่อย    และ...หยุดมลภาวะทางเสียงที่จะทำให้ชั้นประสาทแดกด้วย\"



    \"เฮ้ย  ไรกัน   พูดสองสามคำหาว่าเป็นมลภาวะ   แล้วที่ตาลุงหนวดบ่นผ่านเสียงตามสายหล่ะ ??\"



    ทำไมตาบ้านี่งี่เง่าอย่างน่าสมเพชเช่นนี้นะ



    \"หึหึ     มันต่างกันตรงที่ว่า   นายมีเงาหัวให้ชั้นได้จิกกัดยังไงหล่ะ    นายลองใช้สมองที่มีอยู่น้อยนิดตรองดูนะ  ว่าชั้นจะไปเสียเวลาด่าคนที่มองไม่เห็นตัวตนทำแป๊ะอะไรหล่ะยะ\"



    \"อ้าว  พูดหมา หมา แบบนี้ก็สวยเดะ     อยากเจอกันอีกรึไง\"  



    ถุยส์ไอ้ขี้แพ้ชวนตีเอ๊ย!!



    \"นี่นาย    ความคิดของนายวนไปแค่เรื่องกิน  นอน   แล้วก็กัดกันแย่งคู่ผสมพันธุ์รึไงยะ   ถึงจ้องแต่คอยจะหาเรื่องชั้นนี่     จำใส่กระโหลกหนา ๆ ไว้เลยนะ  ว่าอารยะชนน่ะ  เขาชนะกันที่สมอง  ไม่ได้ชนะกำลังถึกควา_ยอย่างนาย   โดยเฉพาะอย่างยิ่ง   ในสถานการณ์ที่อันตรายล่อแหลมต่อทั้งคู่แบบนี้\"



    ตานั่นทำหน้าเอ๋อ เพราะเถียงไม่ออกแม้แต่คำเดียว    เฮอะ   ต้องให้นางเอกอย่างชั้นสั่งสอนหน่อยถึงจะรู้สำนึก



    \"เออ  ผมแพ้      แต่ว่าช่างหัวแม่มมันเถอะ   มาดูทางนี้หน่อยสิ\"



    นิรนามกวักมือสาวน้อยสุดสวยอย่างชั้นให้ไปยลอาวุธสงครามชนิดหนึ่ง  เอ๊ะไม่ใช่สิ  หลายชนิด



    \"ท่าทางของพวกนี้น่าจะใช้ต่อต้านชีวสังหารได้\"



    ป๊าบ!!!



    พัดโลหะแบบที่ตลกใช้เล่นในคาเฟ่  (เอ  นั่นมันพัดกระดาษนะหนู)    ร่อนลงสัมผัสหนังศีรษะของนิรนามอย่างแผ่วเบา

    ยังให้ชายหนุ่มโอดครวญอย่างน่าสงสาร    สงสัยโรคกลัวกิมฮวยของเขากำเริบอีกแล้ว   หลังจากที่ว่างเว้นระยะมานาน



    \"หัดแหกตาดูซะมั่งสิยะ  ว่าของพวกนี้จะใช้ทำไรได้  งมงายชัด ๆ\"      ชั้นชี้กราดไปยังแส้หวายลงอาคม  ข้าวสารเสก  และน้ำมนต์ขันใหญ่หยดเทียนลอยฟ่องตรงหน้า



    \"ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง\"   ชายหนุ่มบ่นอุบอิบ



    \"ไร!!  มีปัญหาไรอีก  พูดจาให้มันเต็มเสียงหน่อยสิเว้ยเฮ้ย  เดี๊ยะแม่ปั๊ด\"   พูดว่าเดี๋ยว  แต่พัดในมือฟาดลงไปกลางกบาลเรียบร้อยแล้ว



    \"นี่เธอ  ชักจะมากไปแล้ว\"    นิรนามปัดพัดออกจากหัวเขาด้วยความโกรธเกรี้ยว   \"คำก็ข่มขู่  สองคำก็ข่มขู่  เป็นผู้หญิงยิงเรือหัดทำตัวให้สมเป็นกุลสตรีซะมั่งสิ  ไม่ใช่เอาแต่โหวกเหวกโวยวายตะคอกใส่หน้าผู้ชายแบบนี้\"



    ชั้นพ่นลมหายใจออกทางจมูกพรืดด้วยความขัดใจ   \"ชิชะ  ชั้นจะตะคอกใส่พวกที่ทำตัวไม่สมชายเท่านั้นแหละย่ะ  มีอะไรก็ไม่กล้าพูดอิดออดอยู่ได้  เห็นแล้วรำคาญตาโว้ย\"



    นิรนามข่มอารมณ์ลง   ท่าทางเขาเหมือนกำลังนับหนึ่งถึงสิบในใจ   \"อยากฟังชัด ๆ ใช่มั้ย\"   เขาถอนหายใจเบา ๆ  \"เอาหล่ะ  ผมจะบอก  เตรียมฟังดี ๆ นะ..\"



    \"เธอมันโง่    โง่.....โง่........โง่\"     เสียงสะท้อนของเขาก้องไปในห้องโถงเป็นเอคโคไล่ถึงเสียงโซปราโน่



    \"โง่อย่างไม่น่าให้อภัย\"   ชายในชุดคลุมสีดำพร้อมกับหมวกนักมายากล  ปรากฏตัวอย่างลึกลับ   และกล่าวเสริมคำพูดของนิรนาม  



    เขาบิดหนวดเรียวงามบนริมฝีปากให้เป็นเกลียวอ่อน ๆ



    \"หวัดดี ซากากิ  ไม่ได้เจอกันนานนะครับ\"



    ป๊าบ!!!



    พัดเหล็กด้ามเดิมฟาดลงตรงที่เดิม



    \"นายจะบ้าเหรอ  ไปทักศัตรูทำไมยะ\"



    นิรนามปรายตามองชั้นด้วยหางตาด้วยความดูถูก  \"อย่างเธอน่ะ  พ่อแม่  คงจะไม่เคยสั่งไม่เคยสอนคำว่า มารยาทหรอกนะ   หรืออาจจะเคยบอกสอน  แต่เสือ_กไม่เคยจำ\"



    \"ชั้นจะทำอะไรมันไปหนักหัวนายตรงไหน   พ่อแม่__ง นายสอนเรื่องมารยาทให้ชั้นรึไง  ถึงได้เดือดร้อนนัก\"



    นิรนามง้างหมัดจะชกหน้าชั้นซึ่งตั้งการ์ดรออยู่แล้ว     ทว่า  ไม้เท้าสีดำสนิทเข้ามากั้นกางระหว่างเราสองคนไว้



    \"จะรีบร้อนไปไหนครับ  เก็บลมหายใจของคุณไว้เล่นเกมของเรากันดีกว่านะ\"



    ชั้นใช้เวลา 0.23 วินาทีตรองดูก็เห็นจริง   จึงยอมปล่อยเป้าหมายเดิมชั่วคราวก่อน  



    \"แกมาที่นี่ทำไม??\"



    \"โอ๊ะโอ๋  สาวน้อย  อย่ารีบร้อนสิ   ผมอุตส่าห์เอาใจช่วยคุณเป็นพิเศษเชียวนา  ถึงพวกคุณมาเริ่มต้นที่คลังเก็บอาวุธสุดยอดของเรา\"



    \"ไอ้ของพวกนี้มันสุดยอดตรงไหนไม่ทราบยะ   หมอผีกำมะลอแถว ๆ บ้านชั้นก็มีของพวกนี้กันเกร่อ\"



    นิรนามสะกิดสีข้างชั้น \'เบา ๆ\' ด้วยหมัดหนัก ๆ ของเขา     \"นี่เธอจะเงียบรอฟังสักนาทีได้มั้ยห๊า    เถียงคำไม่ตกฟากเหลือเกินนะ\"



    เชอะ   อีตาบ้าเข้าข้างลุงหนวด  เป็นปี่เป็นขลุ่ยเชียว



    \"น้ำมนต์นั่น  เป็นเซรุ่มแก้เชื้อไวรัส  s , e และ x  ได้ชะงัด     ส่วนหวายอาคมสามารถกำเนิดรังสีพิเศษที่ทำลายโครงสร้างเซลล์ชีวสังหารได้โดยง่าย    และข้าวสารเสก  อันนี้สำคัญมาก   หากถูกซัดด้วยความเร็วสูง  และสัมผัสกับของเหลวทางชีวภาพ  มันจะระเบิดออกอย่างรุนแรง     แค่นี้เพียงพอให้เรียกว่าอาวุธสุดยอดมั้ยครับ\"



    ชั้นไม่หมดข้อสงสัยแต่เพียงเท่านี้  \"แล้วถ้าหากนายหลอกชั้นจะทำไงหล่ะ\"



    \"หึหึ\"   ลุงหนวดยังคงบิดหนวดไม่เลิก   มีอะไรกันนักหนานะไอ้หนวดนั่นน่ะ  \"ผมเสียใจอย่างยิ่งที่กล่าวได้เพียงแค่ว่า   กลัวก็อย่าใช้  ถ้าจะใช้ก็อย่ากลัว\"



    \"อ๋อหรอ\"   ชั้นกำข้าวสารขึ้นมากำมือหนึ่ง   \"ถ้าหากชั้นขอทดลองความสามารถของมันซะเดี๋ยวนี้หล่ะเป็นไง\"    



    พลันเมล็ดข้าวพุ่งวาบดุจประกายไฟ  ตามหลักอาวุธลับที่ชั้นถนัดดี



    \"สงสัยว่า  คุณคงต้องไปทดลองกับเหล่าชีวสังหารเองแล้วหล่ะครับ\"    ซากากิกล่าวหลังจากที่เขาเอาผ้าคลุมสีดำกันเมล็ดข้าวไว้ได้ทั้งหมด



    ร่างของเขาจางหายไป  ราวกับละลายปนกับอากาศ  โดยไม่เปิดโอกาสให้ชั้นพูดหรือทำอะไรอีก





    \"ฮ่าฮ่าฮ่า    ผมหล่ะชื่นชมความฉลาดและความเก่งกล้าของเธอจริง ๆ เลย\"



    ชั้นรู้นะยะว่าประชดน่ะ



    \"เอาเถอะ  ผมขอเก็บน้ำมนต์นี่ไว้หล่ะกัน   ส่วนหวายอาคมกับข้าวสารเสกเธอเอาไปเถอะ\"    นายนี่เปลี่ยนเรื่องได้หน้าตายจริงนะ



    \"ไม่เอาอ่ะ  ชั้นจะเอาน้ำมนต์\"  ชั้นดื้อแพ่ง  เพราะอยากขัดใจตาขี้เก๊ก



    \"ยัยโง่เอ๊ย    ข้าวสารของเธอใช้กับกระบวนท่ามั่วทีฮวย โหวกิมตั้ม(บุปผาพิรุณ  พราวนภา)   ท่าซัดอาวุธลับที่รงอานุภาพที่สุด

    แล้วหวายอาคมน่ะ  ประยุกต์กับท่าดาบของไลท์เซเบอร์ที่เธอถนัดได้นี่\"



    ชั้นมองนิรนามอย่างไม่ไว้ใจ   \"ชั้นไม่ค่อยเชื่อหูเลย  ว่านายคิดทำอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อชั้นได้ด้วย\"



    \"เอาน่า   เราต้องไว้ใจกันนี่  ไม่เช่นนั้นคงไม่รอดจากที่นี่หรอก   เธอเป็นคนพูดเองไม่ใช่เหรอว่า  ในสถานการณ์ที่อันตรายล่อแหลมต่อทั้งคู่แบบนี้  ต้องใช้สมองแก้ปัญหาเท่านั้น\"    นิรนามเผยรอยยิ้มกว้างดูอบอุ่น   และยื่นมือขวาออกไปเบื้องหน้า



    ชั้นหน้ามุ่ย  แต่ก็ยอมยื่นมือออกมาจับกับเขา    \"พันธมิตรชั่วคราวนะ\"



    \"ได้เลย   แค่ครั้งนี้เท่านั้น\"







    -----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------







    to be continued



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×