คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #22 : Gentle Park - CHAPTER 18
CHAPTER 18
ชานยอลตื่นขึ้นมาในช่วงเช้ามืดของอีกวันในสถานีอนามัยประจำหมู่บ้าน.. พร้อมกับอาการปวดหัวเล็กน้อยเท่านั้น ส่วนตุ่มแดงที่ขึ้นตามตัวก็ค่อยๆหายไปจนเกือบหมดแล้ว
“พี่ชานยอลเป็นไงบ้างครับ” คนตัวเล็กที่นั่งเฝ้าอยู่ข้างเตียงตลอดทั้งคืน เอ่ยถามออกมาด้วยความเป็นห่วง
“ขอน้ำ”
แบคฮยอนรีบไปรินน้ำและประคองตัวชานยอลขึ้นให้ดื่มน้ำในทันที ตอนนี้ที่นี่ไม่เหลือใครแล้วนอกจากเขา กว่าหมอจะมาอีกทีก็คงตอนเช้านู้นแหละ ....เมื่อคืนทั้งคืนคนตัวเล็กไม่กล้าที่จะหลับเพราะกลัวว่าถ้าชานยอลอาการแย่กว่าเดิมจะไม่มีใครรู้
“ ปะ เป็นยังไงบ้างครับ” แบคฮยอนไม่รู้ว่าทำไมเสียงตัวเองถึงสั่น แบคฮยอนไม่รู้ว่าทำไมน้ำตาถึงไหลออกมา...แต่เขารู้แค่ว่าตอนที่ชานยอลหลับไป เขากลัวเหลือเกิน...เขารู้สึกเหมือนชานยอลจะหายไป
“หมาน้อยร้องไห้ทำไม...เป็นห่วงพี่หรอ” ชานยอลยกมือขึ้นมาปาดน้ำตาให้คนตัวเล็ก และดึงเข้าไปกอดให้จมไปกับอกกว้าง
“เปล่าซักหน่อย ขะ แค่แสบตาเฉยๆ”
“เสียใจจังพี่นึกว่าห่วงพี่ซักอีก” คนตัวโตทำเสียงน้อยใจแล้วรีบยกมือขึ้นกุมหัวตัวเองอีกครั้ง
“ปะ ปวดหัวหรอ ฮึก” น้ำตาของแบคฮยอนที่พยายามกลั้นไว้ มันไหลลงมาอีกครั้งยามที่เห็นใบหน้าของชานยอลที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด
“ไหนบอกบอกไม่เป็นห่วงพี่ไง”
“แกล้งผมหรอ ไอ้พี่ชานยอลบ้า ฮืออ” แบคฮยอนปล่อยน้ำตาออกมาอย่างบ้าคลั่ง ไอ้พี่ชานยอลบ้า รู้ไหมว่าเป็นห่วงแค่ไหนตื่นมายังจะมาแกล้งกันได้ลงคอ ไม่! แบคฮยอนไม่สนุกด้วยหรอก!
“แบคฮยอน....พี่ขอโทษ ไม่เอาไม่ร้องนะ” ชานยอลดึงแบคฮยอนเข้าไปกอดอีกครั้ง แต่คราวนี้กับเป็นคนตัวเล็กที่กอดคนตัวโตไว้แน่นราวกับว่าชานยอลจะหายไป
“พี่ไม่เป็นไรแล้ว ไม่ต้องห่วงนะครับ” มือหนายกขึ้นลูบกลุ่มผมหนุ่มของคนที่อยู่ในอ้อมกอด พร้อมกับใจที่เต้นรัวอย่างไม่เป็นจังหวะ ชานยอลเผลอระบายยิ้มออกมาด้วยความดีใจ .... เขาดีใจจริงๆที่วันนี้แบคฮยอนเป็นห่วงเขา
ผิดกับคนตัวเล็กที่เอาแต่ร้องไห้ไม่หยุด ถึงแม้ชานยอลจะบอกว่าไม่เป็นไร แต่ใจแบคฮยอนก็ยังรู้สึกกลัวอยู่ดี...เขากลัวว่าสัมผัสนี้จะหายไป กลัวว่าจะไม่ได้เห็นหน้า กลัวจะไม่ได้ยินเสียง กลัวไปหมดทุกอย่าง
“พี่ชานยอล....”
“ครับ?”
“พี่ทำอะไรกับทำผม..พี่เข้ามาในชีวิตผมเพราะอะไรกันแน่” แบคฮยอนเงยหน้าขึ้นมาสบตากับคนตัวสูง ดวงตาเรียวสั่นไหวเพราะความกลัวบวกกับความสับสนในใจของตัวเอง
“บอกผมทีได้ไหม...ว่าทำไมผมถึงกลัวว่าพี่จะหายไป...”
“บอกผมทีได้ไหม...ว่าทำไมผมถึงชอบให้พี่กอด...”
“บอกผมทีได้ไหม...ทำไมผมถึงชอบจูบของพี่...”
“บอกผมที่สิพี่ชานยอล...บอกหน่อยว่าผมเป็นอะไร ฮึกกก” เมื่อได้ยินดังนั้นชานยอลถึงกับยิ้มกว้างด้วยความดีใจ มือหนายกขึ้นมาประคองใบหน้าของแบคฮยอนเอาไว้ริมฝีปากหนาเคลื่อนมาซับน้ำตาให้คนตรงหน้าอย่างอ่อนโยน ดวงตาคู่โตทอดมองเข้าไปในตาของแบคฮยอน...เฝ้ามองเงาของเขาที่อยู่ในดวงตาที่สั่นไหว.......ในที่สุดเขาก็เขาใกล้ใจของแบคฮยอนจริงๆซักที^^
“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าแบคฮยอนเป็นอะไร...แต่ที่แบคฮยอนพูดมา”
“มันเป็นอาการเดียวกับที่พี่เป็น” ชานยอลเคลื่อนใบหน้าเข้าไปหาแบคฮยอนช้าๆ แบคฮยอนได้แต่รอฟังในสิ่งที่คนตัวสูงจะพูดพร้อมกับใจที่เต้นรัว
“....................”
“สำหรับพี่....พี่เรียกมันว่ารัก !” เมื่อได้ยินดังนั้น สิ่งรอบตัวของแบคฮยอนเหมือนหยุดการเคลื่อนไหว เขาไม่ได้ยินเสียงแมลงด้านนอกที่เคยส่งเสียงร้องดังสนั่น เขาไม่รู้สึกถึงความหนาวแม้อุณหภูมิวันนี้เกือบจะติดลบ.. แบคฮยอนได้ยินแต่เสียงหัวใจของตัวเองที่กำลังเต้นแรงเหมือนจะทะลุออกจากอก..สายตาของเขาตอนนี้มองไม่เห็นอะไรนอกจากใบหน้าของชานยอล
“แล้วแบคฮยอนล่ะครับ..เรียกมันว่าอะไร ^^” พี่ชานยอลหยุดใบหน้าไว้แค่ตรงนั้น สัมผัสลมหายใจที่ลดรินอยู่ที่ปลายจมูกของผม ทำให้ผมนึกหมั่นไส้รุนพี่ตัวสูงคนนี้นัก จะจูบก็รีบจูบสิ ลีลาอยู่ได้ !
“พี่จะจูบไหม? ถ้าไม่......” ไวเท่าความคิดรีบเข้าเคลื่อนใบหน้าเขาไปหาพี่ชานยอลทันที ไม่รู้อะไรดลใจให้ผมบ้าขนาดนี้แต่วินาทีนี้ผมไม่สนอะไรทั้งนั้น ไอ้พี่ชานยอลบ้าพี่มาทำอะไรกับใจผมเนี่ย!! ผมแอบเห็นพี่เขายกยิ้มด้วยแหละ และด้วยความหมั่นไส้ผมเลยแอบกัดปากพี่เขาไปหนึ่งที
“โอยยย หมาน้อยพี่เจ็บนะ” พี่ชานยอลผละออกมาทำหน้ามุ่ยใส่ผม...ทำไมชอบทำตัวให้เสียบรรยากาศแบบนี้นะ ไอ้พี่โย่งบ้าเอ้ยยยย
“อย่างนี้ต้องถูกทำโทษ” ไม่รอช้าริมฝีปากผมก็ถูกครอบครองโดยพี่ชานยอลอีกครั้งจนได้...แต่ครั้งนี้มันเป็นจูบที่ทำให้ผมอยากจะร้องไห้ที่สุด สัมผัสอ่อนโยนที่พี่ชานยอลมอบให้ ทำให้ผมฉุกคิดว่าผมได้เสพติดสิ่งแบบนี้ไว้ซะแล้ว....และถ้าวันหนึ่งมันหายไป แล้วผมจะทำยังไง..
“แบคฮยอน ชานยอล”เสียงบุคคลที่สามเอ่ยขึ้นจึงทำให้ผมผละออกมาทันที บานประตูห้องพักคนไข้ถูกเปิดออกโดยฝีมือของประธานค่ายตัวสูง พร้อมกับการปรากฏตัวของคนอีกสามคน
“ไอ้ชานยอลฟื้นแล้วหรอวะมึง”
“ไอ้ห่าทำคนอื่นเป็นห่วงแทบแย่”
“แบคฮยอน...” ลู่หานเดินมาหาผมด้วยสีหน้าเป็นกังวัล
“ร้องไห้หรอ” เพื่อนหน้าหวานเดินมาใกล้พร้อมกับกระซิบถามให้ได้ยินกันสองคน
“เปล่าฉันหาวน่ะ น้ำตาเลยไหล” ถึงสีหน้าลู่หานจะทำเหมือนไม่เชื่อคำพูดของผมนัก เอ่ออ! มันไม่เชื่อนั้นแหละ แต่จะทำไงได้ผมไม่รู้จะเล่าให้ฟังยังไงนี่หน่า
“เป็นไงบ้างว่ะมึง” เซฮุนเอ่ยถามชานยอล จึงเรียกความสนใจจากลู่หานไปอยู่ที่อาการของชานยอลมากกว่าจะจับผิดแบคฮยอน
“เกือบดี”
“เอ้าไอ้เห้!! พวกกูอุส่าเป็นห่วงเดินตากลมมาหามึงตั้งแต่เช้ามืด ดูมึงทำหน้าต้อนรับพวกกูสิ อย่างกับส้นตีน”จงอินรู้สึกสงสัยกับอาการของเพื่อนตัวสูงตั้งแต่พวกเขาเข้ามา ชานยอลก็ทำอย่างกับจะกินหัวเขาซะอย่างนั้น.....กูมาขัดจังหวะมึงหรอว่ะ เหมือนชานยอลจะอ่านใจของจงอินออก
“เออ!” ทีนี่ก็ถึงบางอ้อ คิมจงอินถึงกับหัวเราะชอบใจ ที่แท้ก็กำลังสวีทกันอยู่นี่เอง
“เออๆๆ อาการดีขึ้นก็ดีแล้ว ทุกคนกลับเถอะไอ้ชานยอลมัยจะได้พักผ่อน”
“พึ่งจะมา มึงจะกลับแล้วหรอวะ” คริสเอ่ยแย้งขึ้น
“พรุ่งนี้เราก็จะกลับแล้วนะเฮีย ถ้าไม่รีบไปทำงานเดี๋ยวก็เสร็จไม่ทันหรอก”
“เออจริงของมึง งั้นก็พักซะนะชานยอล จะได้หายไวๆ ส่วนเรื่องงานไม่ต้องเป็นห่วงทุกคนเข้าใจ เขาไม่ว่ามึงอู้หรอก” ผมส่งยิ้มบางๆให้ผู้เป็นพี่ อันที่จริงผมก็ใกล้จะหายดีแล้วแหละ แต่ไหนๆจะมีคนเฝ้าน่ารักขนาดนี้ซักที ปาร์คชานยอลขอให้อาการป่วยให้เป็นประโยชน์หน่อยละกัน ^^
“’งั้นผมไปด้วยครับ พี่ชานยอลป่วยทุกคนคงเข้าใจ แต่ผมที่สบายดีแบบนี้ไม่ควรเอาเปรียบคนอื่น” เอ้า!! คนดีของพี่จะทิ้งพี่แบบนี้ไม่ได้นะ ผมรีบส่งสายตาไปอ้อนวอนไอ้จงอินยกใหญ่ มันได้แต่มองผมแล้วทำหน้าเหนื่อยๆ
“ไม่เป็นไรหรอกแบคฮยอนอยู่ดูไอ้ชานยอลนี่แหละ เกิดมันตายกระทันหันขึ้นมาจะได้มีคนรู้” อ้าวไอ้เพื่อนเวร!! มึงจะช่วยรึมึงจะแช่งกูกันแน่ครับ
“แต่..”
“อยู่เป็นเพื่อนพี่ไม่ได้หรอ” เวลานี้ผมไม่สนอะไรทั้งตั้งแหละครับ น้ำหูน้ำตามีเท่านั้นบีบออกมาให้หมด แล้วทำหน้าตาให้ตาให้น่าสงสารสุดๆ จนไอ้เซฮุนถึงกับต้องส่งสายตาด่าผมยกใหญ่
“แต่คนอื่น..”
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวเฮียจัดการเอง เอาเป็นว่าฝากชานยอลด้วยล่ะกัน / ไปพวกพวกเรากลับได้แล้วชานยอลมันจะได้พักผ่อน” เยสสสส ผมนี่อยากจะลุกขึ้นไปกราบเฮียคริสจริงๆ ต้องอย่างนี้สิพี่ผม ค่อยสมกับเป็นประธานค่ายหน่อยออกตัวพูดปุ๊บ แบคฮยอนไม่มีขัด
หลังจากที่ทุกคนกลับไปตอนนี้ก็เหลือแค่ผมกับแบคฮยอน...ผมยังแปลกใจว่าเมื่อวานมีหมอให้ยาผมได้ยังไง ผมรู้มาว่าหมอที่นี่ชอบมาสายบางวันก็ไม่มาด้วยซ้ำดังนั้นวันนี้ผมจะได้อ้อนหมาของผมให้เต็มที่โดยไม่มีใครขัดล่ะ
“คนป่วยเขาทำหน้าตากันแบบนี้หรอ” เออ!! ลืมไปเลยว่าป่วย..ว่าแล้วก็ปวดหัวซักหน่อยดีไหมนะ
“พี่อย่าแกล้งป่วยอีกนะ รู้ไว้ซะว่าผมไม่สนุกด้วยหรอก” อึกกก!! สะอึกสิครับ แต่เห็นน้องเขาร้องไห้แบบนั้นแล้วผมก็ไม่กล้าสำออยให้น้องเขาเป็นห่วงหรอกครับ ถึงจะอยากให้แบคฮยอนแสดงความเป็นห่วงแค่ไหน แต่ถ้าแรกกับการที่ต้องเห็นน้ำตาของแบคฮยอนผมก็ไม่เอาหรอก
“อย่าทำหน้าดุใส่คนป่วยสิครับ” ผมดึงมือน้องเขาให้มานั่งข้างๆพร้อมกับกอดตัวเขาไว้แน่น
“หนาวอ่า”
“เหมือนพี่ยังไม่หายไข้นะตัวพี่ยังอุ่นๆอยู่เลย เดี๋ยวผมไปตามหมอดีกว่า” แบคฮยอนทำท่าจะลุกออกไปจนผมต้องกระชับเอวเขาไว้แน่น...ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ขอคบเลยดีไหมนะ
“ไม่ต้องหรอก..อยู่แบบนี้เดี๋ยวก็หาย”
“จะหายได้ยังไง พี่ชานยอลอย่าดื้อสิ” แง่งงงเขาดุผมอ่ะ ผมจะไปฟ้องแม่ ผมจะไปบอกให้แม่มาขอ ฮ่าๆๆมีความสุขจังโว้ยย
“แบคฮยอน...”
“ไม่ต้องมาทำเสียงอ่อนเลย ปล่อยได้แล้วผมจะไปตามหมอ”
“รู้รึเปล่าว่าพี่จีบเราอยู่”
“…….” อึก ! เงียบสิครับ
“ทำไมเงียบล่ะ ตกลงรู้รึเปล่ารึคิดว่าพี่แคร์เราเพราะเห็นเราเป็นรุ่นน้องคนหนึ่ง” แบคฮยอนนิ่งเงียบ ... เขานิ่งจนผมกลัว ที่ผ่านมาผมไม่ชัดเจนขนาดนั้นเลยหรอ
“มะ ไม่รู้”
“งั้นตอนนี้นี้รู้แล้วนะครับ...และเตรียมรับมือไว้เลยต่อจากนี้พี่จะลุยแล้ว”
ไม่! ไม่ต้องลุ้นครับ ผมยังไม่ขอคบหรอก สำหรับผมนี่ก็แค่การเริ่มต้นเท่านั้น...หนึ่งคือกลัวน้องเขาไม่ตกลง สองถ้าจะรักใครซักคนการจะพิสูจน์ให้เขาเห็นนั้น แค่ที่ผมทำมันยังไม่พอหรอก!! แบคฮยอนมีค่ากว่านั้น
.....................................................................................................
แก้คำผิด 3/10/2014
ตอนนี้เป็นไงบ้าง อิอิ
นี่ขอถามไรหน่อย..... ฟิคเรื่องนี้พอที่จะเปิดจองได้ไหมอ่ะ คือยังไงดีอ่ะมันเป็นฟิคเรื่องแรกที่จะแต่งให้จบไง คือเวลาตัวเองจะตัดสินใจซื้อฟิคซักเรื่อง ตัวเองคิดยังไงหรอ? แล้วฟิคเรื่องนี้ขาดอะไรไปบ้าง คืออยากรู้มากช่วยให้คำแนะนำหน่อยนะคะ เรายังขาดอะไรอีกเยอะ ส่วนความคิดเห็นและคำแนะนำของทุกคนจะเป็นส่วนเติมเต็มสิ่งที่ขาดในอนาคต
ขอบคุณล่วงหน้ามากๆๆเลยค่ะ
Twitter@chan_chan555 #ficGP
ความคิดเห็น