ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SM Sweet Review รับวิจารณ์นิยาย

    ลำดับตอนที่ #74 : Send: STATUS สถานะรัก ป่วนหัวใจยัยเพื่อนสนิท (S)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 81
      1
      3 ม.ค. 60

    STATUS สถานะรัก ป่วนหัวใจยัยเพื่อนสนิท

    นักวิจารณ์ S

    อยากก้มลงกราบไรต์รัวๆ หวังว่าจะไม่โกรธกันที่ละทิ้งงานวิจารณ์ข้ามปีเยี่ยงนี้ เรากลับมาแล้ว ฮึกฮือ ไหนๆ ก็ไหนๆ สวัสดีปีใหม่ครับผมมม เปิดมาโอ้ววว ยินดีด้วยที่ผ่านหน้าใสน้า มิน่าทำไมถึงปิดเนื้อหาตอนแรก อุอิ งั้นเราไปเริ่มกันเลยเนอะ


    ชื่อเรื่อง (10/10)

    มีความมุ้งมิ้งสูง...คือเข้ากับสไตล์นิยายมากบอกเลย แนวแจ่มใสจริงๆ รักหวานแหววคิ้วท์ๆ แล้วก็บ่งบอกถึงเนื้อเรื่องดีค่ะ เอาไปเลยเต็มๆ

     

    การตกแต่งบทความ (2.5/5)

    มาพูดถึงหน้าแรกก่อนนน เราอยากจะบอกว่าไรต์ทำดีมากที่เอาเรื่องติดหน้าใสมาแปะ เพราะเปิดมาแล้วมันทำให้ attract คนให้อยู่อ่านได้เลย แบบว่า...เรื่องนี้มันต้องมีดีอะไรอ่ะ ฉะนั้นเราต้องอ่าน พวกคำพูดนี่ยกมาของตัวละคร ก็ถือว่าน่าสนใจค่ะ รวมถึงการมีโปสเตอร์ไรงี้ด้วย แต่ว่าเราว่าไรต์ควรทำคำโปรยให้มันเด่นหน่อย เพราะมันเป็นส่วนหลักที่เกี่ยวกับเรื่องของเรา ให้นักอ่านรู้ว่ามันเกี่ยวกับอะไร ปรับให้ตัวหนังสืออยู่ตรงกลาง ใส่สีให้ตัวอักษรไรหน่อยเน้นข้อความสำคัญๆ หรือเอามันมาไว้ต้นๆ ของหน้าบทความก็ได้ค่ะ ตอนนี้รู้สึกต้องเลื่อนลงไปมากพอสมควรกว่าจะเจอคำโปรยเนอะ

    แล้วก็อยากแนะนำให้ใช้โค้ดสองคอลลัมน์ด้วยอ่า คือเห็นไรต์จะมีแบบ Writer’s Status กับแลกแบนเนอร์ที่จัดไว้ริมขวาใช่ม้า ซึ่งเราคิดว่ามันจะไม่เปลืองพื้นที่ดีถ้าใช้โค้ดสองคอลลัมน์เอาพวกนี่มาอยู่ในระดับโรว์เดียวกัน อันนี้แค่รสนิยมส่วนตัวว่ามันสวยกว่าของเรานะไรต์ ไรต์ลองดูตามความชอบไรต์แหละเนอะ

    ส่วยเนื้อหานั้นอยากบอกว่า...มันอ่านยากมากอ่า TOT ขนาดตัวอักษรอะไรงี้ดีนะคะ แต่ธีมนี่เลือกใช้ คิดว่ามันเหมาะกับตกแต่งหน้าแรกมากกว่า เพราะว่าตัวอักษรมันสีจางมาก อ่านแล้วต้องเพ่ง ตาแห้งเลยทีเดียว แนะนำว่าหาธีมใหม่ที่สีเข้มๆ หน่อย หรือไม่ก็ปรับตัวอักษรเป็นสีดำก็ได้เนอะ

    ปล. อิมเมจพระเอกโดนใจมากเคอะ พอดูเรื่อง Blood มาแทบจะกรี๊ดเวลาเห็นรูปนาง ฮ่าๆๆ

                                                                                                              

    บทบรรยาย (12/20)

    มาเริ่มกันที่บทนำ (ใช่ไหมมม มันอยู่ตอนที่หนึ่ง แต่อยู่ก่อนบทหนึ่งเริ่มม)        

    อย่างแรกของย่อหน้าแรก เฮ้ยยยยย มันแนวว่ะแก >< เปิดเรื่องได้ดีมากค่ะ ชอบย่อหน้าแรกมากที่เขียนไดอารี่ คือมันเก๋อ่ะ

    แต่เราขอชี้แนะไรหน่อยจากที่เหลือเนอะ เราอยากพูดถึงคำซ้ำที่ไรต์ใช้หน่อย เพราะอ่านย่อหน้าต่อมาแล้วสะดุดจริงๆ กับคำว่า ที่ ...ที่กำลังเคาะประตู...เด็กชายที่เป็นเจ้าของห้อง...สมุดที่ตัวเองกำลังเขียนอยู่...หาที่ซ่อน...เด็กสาวที่เคาะประตูอยู่... ในไม่กี่บรรทัดนี้มีคำว่า ที่ อยู่ถึงห้าครั้ง ส่วนใหญ่ไรต์จะใช้คำนี้เป็นคำขยายของประโยค แบบ คนนี้ที่ทำแบบนั้น อะไรงี้ใช่ม้า เราว่ามันสามารถปรับประโยคให้เป็นรูปแบบอื่นที่ไม่ต้องใช้คำนี้ได้อ่ะค่ะ หรือบางทีตัดออกไปเลยก็ยังได้ อย่าง เด็กชายที่เป็นเจ้าของห้อง ตรงที่เราขีดเส้นใต้ มันหายไปมันก็ไม่มีผลกระทบไรกับประโยค แล้วก็ เด็กหญิงที่เคาะประตูอยู่ ตรงนี้ก็เหมือนกันเพราะว่าคนอื่นได้ทราบแล้วว่าเด็กผู้หญิงนั้นเป็นคนเคาะประตู แต่เอาจริงๆ ท่อนนี้เราว่าเปลี่ยนคำว่า เด็กหญิง เป็น คนฝ่าย หรือคำอื่นก็ได้นะ เพราะสรรพนามที่ไรต์ใช้เรียกสองคนนี้ก็ซ้ำกันในส่วนที่เหลือของบทเหมือนกัน เป็น เด็กชาย กับ เด็กสาว อ่านแล้วมันอาจจะแบบ...มีความมึนๆ เด็กชาย เด็กสาว มันก็เป็นคำที่แบบ...มีความใกล้เคียง คือมันมีคำว่า เด็ก เหมือนกันง่ะ อ่านเร็วๆ อาจเกิดอาการเบลอเล็กน้อย ฮ่ะๆ อันนี้ปรากฏตลอดบทเลย ลองแก้ๆ ดูว่าจะใช้สรรพนามอื่นบ้างได้ไหมนะคะ เรื่องของการใช้ ที่ ซ้ำเหมือนกันเน่อ เจอบ่อยทีเดียวค่ะ

    ส่วนย่อหน้าต่อมา ไรต์เปลี่ยนไปเรียกผู้ชายว่า เด็กหนุ่ม...เอาละ เด็กชายกับเด็กหนุ่มมันให้ฟีลต่างกันอยู่นา เด็กชายเราจะนึกถึงว่า เด็กน้อย...วัยสักห้าหกขวบได้ เด็กหนุ่มที่โตละ ฉะนั้นแนะนำให้ไรต์เปลี่ยนคำว่าเด็กชายใช้คำอื่นดีกว่า เพราะมันเป็นสรรพนามแรกในเรื่องด้วย มันเป็น First Impression! ตอนเราอ่าน เราติดภาพไปละว่าอ้อ นี่ตอนพระนางยังละอ่อนอยู่ แต่เห็นว่าฝ่ายหญิงอยู่มัณยมเลยแอบงงตะหงิดใจหน่อยๆ

     

    มาบทหนึ่งบ้าง

    เราอยากพูดถึงความเท่อย่างนึงในบทนี้ อุอิ คือไรต์เขียนว่าหัวใจเราเต้นแรงได้เพราะอะไรบ้าง แล้วไรต์ใช้การรีพีทรูปประโยคว่า อาจจะเกิดจากความ...โน่นนี่นั่น คือมันเท่มากค่ะ ชอบค่ะ ฮ่าๆๆ แต่ว่าต่อมาไรต์ก็ใช้เทคนิคนี้อีกครั้ง กับประโยคว่า ฉันอาจจะใจเต้นแรงเพราะ... ซึ่งเรามาใช้ตรงนี้มันไม่ค่อยเหมาะ เนื่องจากเราใช้เทคนิคนี้ไปติดๆ กันก่อนหน้าแล้ว และประโยคที่เรารีพีทมันค่อนข้างยาวอ่ะ นักอ่านจะอ่านประโยคนี้แล้วเบื่อได้ หรือขี้เกียจ สุดท้ายก็อ่านข้ามไปดูส่วนสุดท้ายเลยแทนว่าสรุปใจเต้นเพราะอะไร คือ...ส่วนตัวคิดว่าประโยคที่ใช้รีพีทมันไม่ควรจะยาว ฉะนั้นแนะนำว่า เอาแค่คำว่า เพราะ ก็พอค่ะ ใส่ไปก่อนหน้าว่า คง/อาจจะ/เป็นไปได้ว่า ครั้งนึง แล้วต่อด้วย

    เพราะกำลังนอนทับอยู่บนร่างผู้ชายคนหนึ่ง

    เพราะผู้ชายคนนี้กำลังกอดฉันอยู่...บลาๆ เนอะ

    มีคำผิดเล็กน้อย

    อาจะ > อาจจะ

    มหาลัย > มหาลัย/มหาวิทยาลัย

    หลัง ๆ ให้เคาะเว้นวรรคด้วยน้า เห็นบางที่เว้น บางที่ไม่เว้นน

    ละเอียดอะไรประมาณนั้น > ปานนั้น (หรือเปล่าเอ่ย?)

    ซีรีย์ > ซีรีส์

    ห้ะ > ฮะ

    ประครอง > ประคอง

    อืม...เราว่าไรต์ย้ำว่าแว่นสีชามากไปนิดนึงงง คือเหมือนเราให้ข้อมูลนักอ่านว่าแว่นมันสีชา แต่พูดขึ้นมาหลายๆ ทีว่าแว่นสีชาๆ มันก็สะดุดนิดหน่อยตอนอ่าน เพราะงั้นช่วงหลังๆ ตัดออกเลยก็ได้ค่ะ

    เรื่องคำซ้ำยังมีอยู่หนา หลายที่เหมือนกันแต่ขอยกตัวอย่างให้ดูแทนนะคะ

    พร้อมเอามือตีแขนหมอนี่รัวๆ จนหมอนี่ต้องยอมปล่อยมือตัวเองออก เช่นแบบนี้เนอะ เปลี่ยนสรรพนามหน่อยจะได้อ่านได้อย่างลื่นๆ จ้า

    ตอนที่พูดถึงลิปสติกที่เลอะหน้าอ่ะค่ะ เราว่ามันไม่ค่อยเคลียร์ คือเรางงด้วยแหละตอนที่แตงกว่าบอกว่า “ไอ้ทีลิปสติก” เราไม่เข้าใจว่านางต้องการสื่อไร ตอนแรกนึกว่าเป็นฉายาทีเหรอ? ไรงี้ด้วยซ้ำ เพิ่งมาตะหงิดตรงที่บอกว่ามันเลอะหน้าไปแล้ว เราเลยกลับไปอ่านใหม่เพราะงงๆ ถึงได้เก็ท (อันนี้อาจเพราะสมองนักวิจารณ์ช้าด้วย งุงิ) อยากให้ใส่เติมไปอ่า ว่า ไอ้ทีลิปสติกเลอะ ไรงี้ก็ได้ค่ะ เอาแค่พอเข้าใจ

    อ้อ แล้วก็ตรงช่วงนี้เราว่าคำว่า ลิปสติก มันแอบซ้ำเยอะด้วย...ฮึ่ม เปลี่ยนไปใช้คำอื่นก็ได้นะ อย่างตอนเช็ดออกให้ ก็บอก เช็ดคราบสีแดงออก อะไรแบบนี้

    ที่ไรต์บรรยายบหน้าของที เราว่าประโยคมันขาดๆ ไม่ค่อยสมูธอ่า เหมือนไรต์จะลิสต์ออกมาเลยว่ามีอวัยวะอะไรมั่ง แบบ ปากงี้ เว้นวรรค จมูกงี้ เว้นวรรค ผิววี้ คือเราว่าใส่คำเชื่อม หรือบรรยายให้มันต่อการ เหมือนไหลแบบสายน้ำ *^* ได้นะคะ ใช้คำเชื่อมอย่างเช่น ทั้งยังมี รวมถึง ดวงตา...เข้ากับโครงหน้า...  หรือ รับกัน  อะไรแบบนี้อ่ะค่ะ ให้คำบรรยายเราดูเป็นชิ้นเป็นก้อนเดียวกันนิดนึง เนื่องจากกำลังบรรยายสิ่งเดียวกันอยู่เนอะ (นั่นคือใบหน้าพระเอกกก)

    มีบางฉากที่เราว่าไรต์สามารถบรรยายได้มากกว่านี้หน่อย ไม่งั้นอารมณ์คนอ่านมันกระโดดไปนิดนึง แบบเอ...น่าจะมีไรตรงกลางอ่ะ ฮ่าๆ ยกตัวอย่างตอนที่ทีเมา แล้วไปรับอ่ะค่ะ ไรต์บรรยายสั้นๆ เลยว่า เออ ก็ขับรถไปรับกลับมาแค่นี้ แต่เราว่ามันจะทำให้คนอ่านสมูธกว่าถ้าหากบอกด้วยว่าไปถึงแล้ว หาทีเจอตรงไหนของร้าน สภาพเป็นไง ทำไมมันเป็นงี้ได้ อ่ะค่ะ จะได้ไปตัดฉับไป (ความจริงเราเอาเรื่องนี้ไปไว้ต้ำหัวข้อดำเนินเรื่องด้วย)

     

    ต่อๆ ไปก็ค่อนข้างซ้ำแล้วอ่า ประเด็นเดิมกับบทต่อๆ ไปคือเรื่องคำซ้ำ กับความสมูธซะเป็นส่วนใหญ่ เสริมนิดนึงเป็นภาพรวม เราอยากให้ไรต์เขียนไดนามิกให้บาลานซ์เรื่องเหตุการณ์ อย่างเหตุการณ์เล็กๆ ก็ไม่ต้องบรรยายเยอะ เหตุการณ์ใหญ่ๆ ก็บรรยายมากหน่อยเพื่อดึงอารมณ์                                                                            

     

    โครงเรื่อง/ความน่าสนใจ (12/20)

    โครงเรื่องน้านนนน มันดูเป็นอะไรที่ไม่มีอะไรนะ แบบก็เพื่อนสนิทชอบกัน ดูเป็นพล็อตที่หาได้ทั่วไปมากๆ แต่!! ไอ้พล็อตแบบนี้แหละค่ะที่ทำให้คนอยากอ่าน เพราะมันเกิดขึ้นในชีวิตคนเรา ฉะนั้นคนอ่านก็คอนเน็คกับเรื่องได้อย่างดี แล้วก็อยากรู้ด้วยว่ามันจะลงเอยยังไง

    เอ้อ เราขอพูดถึงส่วนนึงที่ตัวเองติดใจหน่อย ก่อนบอกชอบตอนเมา เราว่าควรมีโมเม้นต์อะไรด้วยกันก่อนอ่า ไม่งั้นคนอ่านไม่อิน (หรือเฉพาะไรต์?) แบบ...มันเหมือนพระนางยังไม่ได้ทำไรด้วยกันเลย แค่อ่านคำบอกเล่าเฉยๆ ว่าเออ สนิทกันนะ เป็นเพื่อนกันนะ แต่เราอยากให้ไรต์บิ้วด์เรื่องมาหน่อยว่าสนิทกันได้ไง สนิทกันนี่ทำได้ให้กันมาบ้าง ให้คนอ่านเห็นจริงๆ อ่ะค่ะ แบบเป็นเหตุการณ์เลยอ่าไม่ใช่แค่นางเอกเล่า

    ถึพล็อตมันจะมีอะไรมากกว่าแค่เพื่อนชอบกันแพลนๆ แต่บทแรกๆ มันยังไม่ค่อยมีอะไร คือคนอ่านจะเข้าใจว่ามันมีแค่นั้นจริงๆ เราลงลดคะแนนลงไปหน่อยเนอะ เราว่าไรต์ยกฉากพีคๆ หรือดราม่าๆ ฉากมีปมไรขึ้นมาหน่อยให้คนแบบ เฮ้ย! เรื่องนี้มันมีอะไรว่ะ มาไว้บทแรกแล้วย้อนความไรงี้ก็ได้ค่ะ เพื่อเพิ่มความน่าสนใจเข้าไปอีก

     

    ตัวละคร (14/20)

    นางเอกนั้นมีความแก่น ฮ่าๆๆๆ แบบ ดูถึกๆ นิดนึงด้วยอ่ะ ดูเป็นคนที่เราไม่แปลกใจถ้าเกิดจะซื่อบื้อที่ไม่รู้ว่าพระเอกชอบอ่ะ เออ ไรต์ทำได้ดีมากค่ะ เล่าเหตุการณ์จากมุมมองนาง และทำให้เข้าใจได้ว่าไอ้คาแร็คเตอร์แบบนี้แหละที่จะซื่อบื้อ! ส่วนพระเอกนั้น อื้ม...กวน ฮ่าๆๆ แต่เป็นการกวนที่แบบ โคตรจะแนวเพื่อนสนิท เพื่อนสมัยเด็กเลยอ่ะ แบบเข้ากับเนื้อเรื่องดีเลย เพราะงั้นขอชื่นชมคาแร็คเตอร์ที่สร้างน้า

    แต่ว่านิสัยพระนางเราว่ามันดูเด็กๆ อ่า ไม่เหมือนคนเรียนจบแล้ว งื้อออ หรือเพราะไรต์อยากโชว์ให้ดูว่าพระนางเวลาอยู่ด้วยกันแล้วบุคลิกเป็นเด็ก (แบบมุ้งมิ้ง ให้มันดูน่ารัก) อันนี้ก็อีกเรื่องเนอะ

     

    เราขอยกตัวอย่างเหตุการณ์นิดหน่อยแล้วกัน ตรงที่เราว่าตัวละครรีแอคไม่เหมาะกับสถานการณ์ พูดถึงไม่หมดเนอะเพราะเดี๋ยวยาวไป ฮ่าๆๆ

    ตอนที่ทีมาหาแตงกวาวันรับปริญญา คือเนื่องจากเท้าความไว้ว่าลืมๆ กันไปแล้ว แบบไม่อยู่ในการดำเนินชีวิตสักเท่าไหร่แล้ว และทั้งยังบอกด้วยว่าคนที่แรกแตงกวาว่าแตงไทยนั้นไม่ได้มีแต่ทีชา เราเลยแอบตะหงิดว่า แล้วนางเอกคิดถึงพระเอกขึ้นมาได้ไงว่า เฮ้ย...หมอนั้นก็ไม่ได้อยู่ไทยแล้ว งั้นใคร? ไรเงี้ย คือทำไมถึงนึกถึงพระเอกขึ้นมาล่ะ? ไรงี้เนอะ อยากเสริมมมม ว่าถ้าจะใช้แบบนี้ว่าแบบ เออ พระเอกเรียกนางเอกว่าแตงไทย งั้นในบทนำ ตอนเรียกชื่อก่อนบอกว่าจะไปต่างประเทศ ก็ให้เรียกว่าแตงไทยไปเลยได้นะ ถือเป็นการบิ้วด์คาแร็คเตอร์ด้วย ว้ายๆ พระเอกเขามีชือเรียกนางเอกเรา //น่ารักๆ ไป

    แตงกวาตอนที่อธิบายให้ทีฟังว่าทำไมถึงได้ยุ่งนึก นางพูดถึงเรื่องรับน้อง ทำแสตนเชียร์ ไรงี้ใช่เปล่า ซึ่งเรื่องพวกนี้มันทำตั้งแต่ปีหนึ่งปีสองใช่ป่ะ (เท่าที่เราเข้าใจมานะ) แล้วเราว่าปีสี่อ่ะ พอคิดถึงเรื่องยุ่งๆ มันไม่น่าจะมีเรื่องนี้โผล่มาเยอะมากอ่ะ มันน่าจะนึกถึงแบบ ปีสี่ งานยุ่ง จะจบแล้วก็ต้องมีพวก intern เป็นงานเป็นการอะไรแล้วมากกว่า

    เราว่าอารมณ์ตัวเองละครบางทีไรต์น่าจะใส่มากกว่านี้นิดนึงอ่า แบบรีแอคชั่นมันไม่น่าจะเรียบๆ ได้ น่าจะโอเว่อร์กว่าที่บอกมา อย่างตอนที่ทีเมา แล้วโทรมาบอกให้ไปรับหน่อย แตงกวาน่าจะแบบ ฮะ? อะไรนะ!? แบบ เงิบ งง วดฟ ถามจริง? อะไรงี้มากกว่าแบบ โอเคๆ เดี๋ยวไปรับอ่ะ

    แล้วเราคิดว่าพอพระนางมาเจอกันหลังจากไม่ได้เจอกันหกปีนี่แบบ เขาน่าจะไม่แยกกันง่ายๆ อย่างนั้นอ่า เหมือน...นี่มันไม่ได้เจอมาหกปีแล้วนะ! แถมรีแอคชั่นตอนเจอของทั้งคู่ก็ค่อนข้างตื่นเต้นเลยอ่ะที่เจอกัน เราเลยว่าแบบมันควรมีโมเม้นต์อยู่ด้วยกันต่อหน่อย นั่งคุยกันยาวๆ เลย หรือไม่ถ้าทีจำเป็นต้องไปหาเพื่อนจริงๆ ก็อยากให้แตงกวารั้งๆ ไว้หน่อย อารมณ์แบบ แกจะไม่อยู่กับฉันหน่อยเหรอวะ ไม่ได้เจอกันมาตั้งนานนะเว้ย ไรงี้หน่อยอ่า ไม่งั้นมันดูไม่ค่อยคิดถึงกัน ฮ่ะๆๆ (ความเห็นส่วนตัวเน่อ)

     

    การดำเนินเรื่อง (13/20)

    โดยรวมๆ เลยสำหรับเรา คิดว่าเรื่องไดนามิกเหตุการณ์ หรือการเน้น  การดึงอารมณ์จากการดำเนินเรื่อง มันได้มากกว่านี้อ่า คือจะมีบางฉากที่เราคิดว่า เฮ้ย มันเป็นฉากที่ใหญ่ มันเป็นฉากที่สำคัญพอควร แต่ว่าที่อ่านมันสั้นนิดเดียว (อาจจะไม่นิดเดียวขนาดนั้น แต่ก็สั้นกว่าที่คิดว่าควรจะอ่า)

    หรือบางฉากที่เป็นจุดเชื่อมที่ไม่ได้สำคัญกับเนื้อเรื่องหรอกจริง แต่มันกระโดดข้ามอารมณ์ไปสักหน่อยตอนอ่านหากไม่ใส่ดีเทลอะไรเข้าไปเลยก็เหมือนกัน มันสั้นไปหน่อย

    แต่ถ้าพูดถึงฉากที่ไม่มีผลต่อเนื้อเรื่องแต่ใส่ยาวเหมือนกันก็มีนะ แต่อันนั้นเราชอบซะส่วนใหญ่ เพราะยกตัวอย่างเช่นบทสนทนาของพระนาง เออ มันไม่มีไรเลยจริง แต่อันนี้เหมือนไรต์บิ้วด์คาแร็คเตอร์ตัวละครให้ดูว่าสองนางเล่นกันน่ารักดี

     

    ความประทับใจจากนักวิจารณ์ (3/5) ที่วิจารณ์ไปจากความรู้สึกนักวิจารณ์ล้วนๆ ฉะนั้นขอให้ไต์พิจารณาเอาตามสมควร ส่วนที่ชอบอย่าตัดออก ส่วนที่เห็นด้วยก็ค่อยนำไปปรับปรุงเนอะ เอสเอาใจช่วยและขอแสดงความยินดีอีกครั้งกับยี่สิบคนสุดท้ายของหน้าใสเนอะ ^^

    รวมคะแนน (66.5/100) 




    ชื่อ :
    ชื่อเรื่องพร้อมลิ้งค์ :
    รู้สึกยังไงเมื่อเห็นผลการวิจารณ์ :
    ให้เครดิตและกดโหวตให้หน่อยน้า :
    มีไรอยากพูดเพิ่มเติมไหมเอ่ย :

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×