สัตว์ทะเลแสนสวย
เขียนโดย
nemocrazy
ในบรรดาชนิดปลาที่พบในแนวปะการังนั้น ประมาณ 25% ของชนิดปลาในแนวปะการังทั้งหมด จัดเป็นชนิดที่พบแพร่กระจายกว้างขวาง โดยพบได้ตั้งแต่บริเวณมหาสมุทรอินเดียฝั่งตะวันตก เรื่อยไปจนถึงหมู่เกาะตอนกลางของมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งเรียกรวมเขตนี้ว่า Indo-Pacific Region และชนิดปลาจำนวนไม่น้อย มีการแพร่กระจายที่แคบกว่า คือเป็นชนิดที่พบเฉพาะมหาสมุทรอินเดีย หรือเฉพาะฝั่งตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิก ขณะที่บางชนิดปรากฏพบเฉพาะที่ (endemic) ในเขตภูมิภาคแคบ ๆ เช่นเฉพาะในทะเล แดง เฉพาะในหมู่เกาะฮาวาย หรือเฉพาะทางตอนใต้ของญี่ปุ่นเหล่านี้ เป็นต้น ซึ่งความแตกต่างในการแพร่กระจายของชนิดสืบเนื่องจาก ปัจจัยต่าง ๆ หลายประการ ได้แก่ การกระจาย และการเคลื่อนที่ของแผ่นเปลือกโลกในยุคโบราณ ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของ ระดับน้ำทะเลในยุคน้ำแข็ง ต่อแหล่งที่อยู่ และชนิดพันธุ์ปลา ประวัติศาสตร์ทางวิวัฒนาการของชนิดปลา ความสามารถในการแพร่กระจายพันธุ์ของปลา และการมีอยู่ของแหล่งที่อยู่อาศัยหรือสภาพทางสมุทรศาสตร์ที่เหมาะสมต่อการ เข้ามาตั้ง ถิ่นฐาน ดำรงชีพ และสืบพันธุ์ของปลา เป็นต้น
ปลาแต่ละชนิดที่พบในแนวปะการัง ล้วนมีเรื่องราวที่น่าสังเกต และศึกษาได้ไม่รู้จบ หากท่านได้เฝ้าสังเกตอย่างใกล้ชนิดแล้ว จะพบ ว่าปลาแต่ละชนิดมีแง่มุม และวิถีการดำเนินชีวิตที่น่าสนใจมาก เมื่อใดก็ตามเมื่อท่านได้มีโอกาสดำน้ำลงไปสัมผัสโลกแห่งท้องทะเล เหนือแนวปะการัง และได้แบ่งปันเวลาสักเล็กน้อยเพื่อเรียนรู้ และเฝ้าสังเกตพฤติกรรมการเป็นอยู่ของปลา และสัตว์อื่น ๆ ในแนวปะ การัง จะช่วยให้การดำน้ำของท่านแต่ละครั้งมีคุณค่าน่าจดจำยิ่งขึ้น
ขณะดำน้ำชมปะการัง หากท่านสังเกตตามพื้นผิวแนวปะการัง จะสามารถพบเห็นปลาสลิดหิน (Damselfish) จับจองพื้นที่เฉพาะตัว ตามกอปะการัง และจะจับไล่ปลาชนิดอื่น ๆ แม้จะมีขนาดใหญ่กว่าที่บุกรุกเข้ามาหาอาหารในอาณาเขตของมัน และแม้แต่ผู้บุกรุก อย่างเม่นทะเลหนามดำ ก็จะถูกปลาเจ้าของอาณาเขตขับไล่ได้โดยการงับหนามเม่นทะเลให้ขาด ซึ่งจะทำให้เม่นทะเลล่าถอยออก ไปในที่สุด ตามกอดอกไม้ทะเล (Sea anemone) จะพบปลาการ์ตูน (Anemone fish) ว่ายน้ำคลอเคลียตามหนวดดอกไม้ทะเลโดย ไม่ได้รับอันตรายจากเข็มพิษของหนวดดอกไม้ทะเล ซึ่งปกติจะใช้สำหรับจับปลาอื่นเป็นอาหาร และบ่อยครั้งที่เราจะสังเกตเห็นปลา พยาบาล (Cleaner wrasse) เวียนว่ายอยู่เฉพาะพื้นที่เล็ก ๆ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นสถานีอนามัย คอยให้ปลาชนิดอื่น ๆ เช่น ปลานกแก้ว ปลานกขุนทอง ปลาสลิดทะเล ปลากะรัง ฯลฯ แวะเวียนให้ปลาพยาบาลช่วยกำจัดปรสิตหรือตัวเบียน ซึ่งเกาะอยู่ตามเหงือกหรือ เกล็ดตามลำตัว นอกจากนี้บนพื้นทรายที่ว่างระหว่างกอปะการัง เรายังสามารถพบปลาบู่ขนาดเล็กอาศัยร่วมอยู่ในรูเดียวกันกับกุ้งดีด ขัน ขณะที่ออกจากรูมาหาอาหารภายนอก ปลาจะส่งสื่อหรือสัญญาณเตือนภัยให้กุ้ง ผ่านทางการสัมผัสระหว่างหางปลากับหนวดกุ้ง ขณะเดียวกันกุ้งก็มีหน้าที่ปรับแต่งรูให้เรียบร้อย โดยจะขนย้ายกรวดทราย และซากเปลือกหอยที่ทับถมในรูออกมา เหล่านี้เป็นตัว อย่างที่ท่านสามารถพบเห็นได้ไม่ยากนัก
องค์ประกอบชนิดและปริมาณปลาที่พบเห็นในเวลากลางวัน และกลางคืน ยังมีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ในเวลากลางวันจะ พบว่าปลาส่วนใหญ่เวียนว่ายในมวลน้ำ และพื้นผิวปะการัง เพื่อหาอาหาร และดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ โดยปลาที่พบเห็นเด่น ๆ ได้แก่ ฝูงปลาสลิดหิน ปลานกขุนทอง ปลานกแก้ว ปลากะพง ปลาขี้ตังเบ็ด และปลาผีเสื้อ เป็นต้น และเมื่อถึงเวลาพลบค่ำ ปลาเหล่านี้จะ หยุดกิจกรรมต่าง ๆ แยกตัวเพื่อหาที่พักผ่อน โดยเข้าหลบซ่อนตัวตามหลืบซอกปะการัง ในขณะที่กลุ่มปลาที่มีพฤติกรรมหากินใน เวลากลางคืน จะเริ่มทยอยออกจากที่ซ่อนตัวสู่มวลน้ำเหนือแนวปะการัง แทนที่กลุ่มปลาดังกล่าว โดยปลากลุ่มนี้ได้แก่ปลาอมไข่ ปลากระดี่ทะเล ปลาตาหวาน และปลาข้าวเม่าน้ำลึก เป็นต้น
สำหรับแนวปะการังของหมู่เกาะสุรินทร์และสิมิลัน จัดเป็นบริเวณที่พบปลาหลากหลายที่สุดของประเทศไทย ทั้งนี้เนื่องจากเป็นบริเวณที่มีแนวปะการังพัฒนาดี อยู่ในสภาพแวดล้อมที่น้ำใสสะอาด และพร้อมทั้งมีความหลากหลายของแหล่งที่อยู่อาศัย ทั้งที่เป็นแนวปะการังริมฝั่ง โขดหินปะการัง หรือกองหินใต้น้ำต่าง ๆ ในการดำน้ำแต่ละครั้งอาจพบปลาได้มากถึง 80-100 ชนิด ซึ่งผู้สนใจจำแนกชนิดปลาสามารถที่จะศึกษา และทำความรู้จักชนิดปลาต่าง ๆ เหล่านั้นได้ไม่ยาก ด้วยการสังเกตรูปร่าง ลักษณะภายนอก รูปแบบลวดลาย และสีสัน รวมทั้งพฤติกรรมของปลาเหล่านั้น
ปลาที่สามารถพบได้ตามแนวปะการังบริเวณนี้ มีไม่ต่ำกว่า 600 ชนิด จากกลุ่มปลา 70 วงศ์ โดยปลาบางวงศ์ อาจมีมากถึง 100 ชนิด อย่างไรก็ตามโดยทั่วไปแล้วพบว่า 60-70% ของชนิดปลาที่พบจะจำกัดอยู่เฉพาะกลุ่มปลาประมาณ 10-15 วงศ์ ซึ่งได้แก่ปลาสลิดหิน ปลานกขุนทอง ปลาผีเสื้อ ปลาสินสมุทร ปลากะรัง ปลานกแก้ว ปลาขี้ตังเบ็ด ปลาบู่ และปลาตั๊กแตนหิน เหล่านี้เป็นต้น
แจ้ง Blog ไม่เหมาะสม
18 มี.ค. 53
256
0
ความคิดเห็น