คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : เจ๋งพอไหม ?
แม้จะผ่านพ้นแต่ละวันมาได้อย่างยากลำบาก
แต่ชีวิตของขนมเทียนในฐานะนักเรียนแลกเปลี่ยนในประเทศสหรัฐอเมริกานี้
ก็ได้เข้าสู่อาทิตย์ที่ 2 เสียแล้ว แม้อะไรๆ หลายอย่างจะยังไม่เข้าที่เข้าทางมากนัก
แต่อย่างน้อยเพื่อนในห้องก็เริ่มหันมาคุยกับเธอหน่อยล่ะนะ...
ถือว่าโชคยังเข้าข้างอยู่บ้าง...//แอบคิดเข้าข้างตัวเองในใจเบาๆ
แต่ดูเหมือนว่า
เรื่องที่พวกเพื่อนๆ เธอสนใจนั้น จะเข้าใจยากไปสักนิด...
-Kanomtain
Part-
“เธอขี่ช้างไปโรงเรียนรึเปล่า
?”
“นี่ๆ
ที่บ้านเธอมีรถไฟฟ้าไหมอ่ะ”
“เธอช่วยสอนมวยไทยให้ฉันหน่อยได้ไหม
ฉันอยากเป็นแบบ ใครน้า...บัวขาว! ใช่ป่ะ!?”
และอีกคำถามสารพัดที่เพื่อนๆ
ถาโถมเข้ามาอย่างไม่หยุดหย่อน... ให้ตายเหอะ!!! ขนมเทียนคนนี้อยากตะโกนตอบกลับไปจังเลยว่า
What da f*ck!!? คำถามสิ้นคิดหรือยังไม่ทันได้คิดนี่มันอะไรกั๊นนนนนนนนนนนน
แต่หน้าตาเหลอหลาที่อยากรู้จริงๆ ของพวกเขาก็ทำเอาฉันโกรธไม่ลง จะโทษพวกเขาอย่างเดียวก็ไม่ได้สิ
ในเมื่อประเทศฉันโปรโมทการท่องเที่ยวต่อสายตาชาวโลกที่ก็มีแต่ขี่ช้าง ขึ้นเขา
ดำน้ำ ปลูกปะการัง บลาๆๆ
เห็นดังนั้น ฉันจึงสูดลมหายใจเข้าลึกลึ๊กก
เพื่อปรับหยินหยางในร่างกายให้สมดุล(?) ก่อนจะฉีกยิ้มบางๆ
แบบในนางเอกละครหลังข่าวที่ม๊าชอบดู
“ฉันนั่งวินไปโรงเรียนน่ะ
เอ้ยย!”
ทันที่ที่พูดคำว่า
‘วิน’ ออกไปก็ทำเอาดวงตาของพวกเขาเบิกโพล่ง ไม่ได้ๆ
มันต้องมีคำที่ดีกว่านี้สิ...
“เอ่อ...ฉันหมายถึงมีคนขับรถไปส่งน่ะ
แฮะๆ”
ฉันว่าพลางเกาหัวแล้วหัวเราะแห้งๆ นี่ไม่ได้โกหกจริงๆ นะ ก็...ก็ลุงต๋อง
วินหน้าปากซอยแกชอบไปรับ-ส่งฉันประจำเลยนี่ มันก็เหมือนๆ กันใช่ม้า...
“ว้าววววววววววว!!
ขนาดนั้นเชียววว”
ทันทีที่พวกเขาได้ยินคำตอบก็ร้องประสานเสียงออกมาเป็นเสียงเดียวกัน
แม้หน้าตาจะดูไม่ค่อยเชื่อถือสักเท่าไหร่ แต่ก็พยักหน้าเข้าใจรับ โดยไม่ถามอะไรเซ้าซี้ต่อไปอีก
ดีมากค่ะลูก
“แล้วก็ที่ประเทศฉันมีรถไฟฟ้านะ
กำลังจะมีรถไฟฟ้าความเร็วสูงด้วย แต่ก็เอ่อ...ไม่รู้ว่าจะสร้างเสร็จเมื่อไหร่...”
ท้ายประโยคนั้นฉันหันมากระซิบกับตัวเองเบาๆ
ค่ะ พูดแล้วรู้สึกน้ำตามันรื้นๆ นะ เห็นเขาออกข่าวมานานแล้ว แต่ก็ไม่ได้ติดตามอะไรมากมายนัก
เลยไม่รู้ว่าเริ่มโครงการแล้วหรือยัง...ฮรึก
“ส่วนแบบพี่บัวขาวน่ะ
ฉันสอนให้ไม่ได้หรอก ฉันต่อยมวยไม่เป็น”
แล้วคำตอบของฉันก็ทำให้พวกเขาประสานเสียงออกมาอีกครั้ง
“อ้าว...”
สีหน้าสลดนั้นทำเอาฉันรู้สึกผิดขึ้นมานิดๆ
ซะแล้วสิ ตอนเป็นเด็กป๊าม๊าก็ส่งเรียนเทควันโดจนได้สายแดงมาซะได้(มีอวด) รู้งี้...เลือกเรียนมวยไทยแต่แรกแล้ว
และทันทีที่พวกเขาได้คำตอบสุดท้ายจากฉัน
ก็พากันกลับไปนั่งที่ราวกับหมดเรื่องน่าสนใจที่จะซักไซ้ต่อ อ้าวเห้ย!
นี่มันทำอย่างกับมาหาผลประโยชน์จากฉันเลยนี่หว่า
อิหยังวะ...?
แต่ช่างเถอะ
ฉันเริ่มชินกับคนที่นี่บ้างแล้ว ส่วนตอนกลางวันก็เช่นเคย นั่งกินข้าวคนเดียวยั่วๆ
จ้า...ก็เหงานะ แต่มันก็สบายใจเหมือนกันนะ กินมื้อกลางวันพลางเปิดเพลง Sunflower
– Post Malone, Swae Lee มันก็ทำให้มีความสุขไปอีกแบบเหมือนกันนะ
แต่เฮ้ๆ
! อย่าพึ่งคิดว่าชีวิตฉันโดดเดี่ยวขนาดนั้น ฉันก็มีเพื่อนคุยกับเขานะ อย่างน้าเอมิลี่
เจ้าชูการ์ เอ่อ...ก็ถือว่าเพื่อนล่ะน่ะ แล้วก็...
คนที่นั่งข้างๆ ฉันนี่ไง
“เรียนเสร็จแล้วเธอกลับบ้านเลยไหม
?”
เด็กหนุ่มข้างๆ
หันมาถามพลางหมุนปากกาในมืออย่างไม่มีท่าทีที่จะหยุด ฉันละสายตาจากสูตรคณิตบนกระดานซึ่งเป็นวิชาสุดท้ายของวันนี้
ก่อนจะตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
“อื้ม
กลับเลย”
“แล้วกลับยังไง
?”
เขายังคงหมุนปากกาพลางใช้ปากยู่ยี่นั้นพูดไปมาไม่หยุด
ถึงฉันจะเป็นคนชอบพูดในระดับหนึ่ง แต่ก็ขอยอมแพ้เขาคนนึงละกัน
“เดินกลับอ่ะ
ทำไมเหรอ ?”
“ก็เปล่า...ว่าแต่
KT”
อ๋อ...ไม่ต้องแปลกใจ
นั่นชื่อย่อฉันเองค่ะ เพื่อนในห้องรวมถึงครูที่สอนบอกว่าชื่อฉันเรียกยาก
เวลาจะเรียกให้ตอบคำถามที่ก็ทำเอาเขาเหนื่อยใจแล้วต้องเปลี่ยนคนตอบ ปีเตอร์จึงเสนอให้ใช้ชื่อ
‘KT’
ที่ย่อมาจาก ‘Kanomtain’ นั่นเอง
และฉันก็คิดว่ามันเจ๋งดีเหมือนกัน ถึงจะยังรู้สึกแหม่งๆ บางครั้งก็ตาม
“หื้ม
?”
ฉันครางรับในลำคอรอฟังว่าเขาจะพูดอะไรต่อ
“เธอรู้จัก
Spider-Man
ไหม ?”
ฮึกกกกก
!!!
และคำถามที่ถูกเอ่ยออกมาจากปากของ
Spider-Man
ก็ทำเอาฉันชะงักกึก จะให้ตอบกลับไปยังไงดีว่า ‘อ๋อ รู้สิ ก็นายไง’ ‘อ๋อ รู้ ทำไมเหรอ?’ หรือจะชิงตอบ ‘ไม่รู้’ ไปซะเลย
และสุดท้าย...
“อื้ม”
สั้นๆ
คำเดียวจบ...
“จริงดิ!?
เธอคิดว่าเขาเจ๋งไหม ?”
น้ำเสียงเริงร่าบวกกับดวงตาแวววับนั่นมันอะไร!?
นี่เขาคาดหวังให้ฉันตอบว่า ‘เจ๋งโคตรๆ’
อะไรแบบนี้อยู่แล้วไม่ใช่หรอกเร๊อะ!? ฉันถึงกับเผลออมยิ้มอย่างนึกเอ็นดูให้กับความอยากรู้อยากเห็นถึงความ
‘So cool!’ ของเจ้าตัว ก่อนจะกระแอมคีพลุคเล็กน้อย
“ก็...ใช้ได้นะ”
และคำตอบที่ดูไม่ค่อยใส่ใจของฉันก็ทำเอาดวงหน้าของคนที่ถามหม่นลง
ก่อนที่จะพยักหน้าน้อยๆ แล้วหันกลับไปตั้งใจเรียนดังเดิม
ถึงจะรู้สึกผิดที่ไม่พูดออกไปตามที่เขาหวัง แต่ฉันไม่อยากให้เขาเหลิงเกินไปนี่น่า
ยิ่งอยู่ในวัยคึกคะนองแบบนี้เดี๋ยวก็ได้อยากทำอะไรเกินตัวขึ้นมา
หรืออาจจะมีความคิดอยากเป็นอย่าง Iron Man / Captain
America / Holk และบลาๆๆๆๆๆ ซึ่งฉันไม่ได้ดูถูกว่าเขาทำไม่ได้ แต่ตอนนี้ฉันคิดว่าแค่เขาทำตัวเป็น
‘Spider-Man เพื่อนบ้านผู้แสนดี’ มันก็น่ารักสมวัยมากพอแล้ว
ทันทีที่เสียงออดหมดเวลาดังขึ้น
ฉันก็รีบเก็บข้าวของลงกระเป๋าแล้วเดินออกจากห้องอย่างว่องไว เพราะวันนี้มีภารกิจที่ต้องทำน่ะสิ
และฉันจะชักช้าอยู่ใยไปไม่ได้ เดี๋ยวจะไม่ทันการณ์เอา!!!
.At the Supermarket.
และ
ภ า ร กิ จ ที่ฉันว่านั่นก็คือ...
การมาซื้อของลดราคาให้ทันนั่นเองจ้า
!!!
“น่าจะครบแล้วนะ”
ฉันทวนรายการทั้งหมดที่น้าเอมิลี่ส่งมาทางแชท
พอตรวจดูเรียบร้อยแล้วจึงนำไปจ่ายเงินเป็นอันเสร็จสิ้นภารกิจ
เคลียร์
!
“ขึ้นรถบัสแล้วลงป้ายxxx โอเค ถึงแล้วสินะ”
ฉันจัดการแบกข้าวของทั้งหมดลงรถทันทีที่ถึงป้ายตามที่น้าเอมิลี่บอก
ก่อนจะยืนเคว้งอยู่ท่ามกลางคนพลุกพล่านเนื่องจากเป็นเวลาเริ่มเย็นแล้ว
คนทยอยเลิกงานกัน แต่แล้วเหงื่อเม็ดโตก็ผุดขึ้นมาทั่วกรอบหน้า ทั้งๆ ที่อากาศออกจะเย็นสบายเสียด้วยซ้ำ...
ฉันลงผิดป้าย
!!!
“ไอ้ขนมเทียนเอ้ยยยย
เหมือนตอนอยู่ไทยไม่เปลี่ยนเลยเว้ยยยย!”
ว่าแล้วก็ทึ้งหัวตัวเองแรงๆ
อย่างอารมณ์เสีย ถึงตอนนี้ผมมันจะฟูจนคนที่เดินผ่านไปมาเริ่มหันมอง แต่ฉันก็ไม่สนใจใดๆ
ทั้งสิ้น ในใจร้อนรุ่มว่าจะหาทางกลับบ้านยังไง เพราะวันนี้น้าเอมิลี่กลับบ้านดึกเนื่องจากติดประชุม
แล้วฉันจะทำยังไงดี!
ไม่ได้ๆ
สติหนอ ยุบหนอ พองหนอ...
สูดลมหายใจเข้าออกตามจังหวะเพื่อเรียกสติและดับอารมณ์คุกกรุ่นในจิตใจ ใช่ค่ะ...ธรรมะช่วยคุณได้ ก่อนจะหอบข้าวของอันพะรุงพะรังเดินไปหาแผนที่ป้ายรถ เพราะที่นี่จะมีแผนที่และบอกจุดเริ่มต้น-สิ้นสุดของรถโดยสารเป็นระยะๆ ตามเเนวตลอดทาง
เมื่อเห็นแล้วก็ไม่ลืมที่จะแชะภาพเก็บไว้
ก่อนจะเดินไปตามทางเพื่อไปยังป้ายรถของคันที่ฉันต้องนั่ง แต่เอาจริงๆ
แผนที่นี่ก็ยุ่งซะเหมือนยุงตีกัน หรือฉันซื่อบื้อเองนะ...?
“เฮ้!”
เสียงเรียกราวกระซิบดังขึ้นขณะที่ฉันเดินเข้ามาในตรอกซึ่ง(น่าจะ)เป็นทางลัดจะตัดไปยังถนน
ฉันรีบหันขวับมองรอบตัวก็ไม่มีใครทั้งสิ้น คุณพระ...ลูกเริ่มกลัวแล้วนะคะ
ให้ตายเหอะ!
ไหนใครบอกว่าจะเห็นผีตอนตี 3 ไง นี่ยังไม่ทัน 6 โมงเย็นด้วยซ้ำ!
“มีอะไรให้ช่วยไหม ?”
และเสียงราวกระซิบนั้นก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง!
แต่ครั้งนี้มันดังมาจากด้านหลัง! ฉันกำถุงในมือแน่น ถ้าใครเข้ามาแตะตัวฉันแม้แต่นิดเดียว
ฉันพร้อมเตะตวัดหลังอย่างที่เรียนเทควันโดมาเลยนะ!!!
วันนี่ม๊าจะต้องไม่เสียใจ
ที่ได้เห็นลูกป้องกันตัวจากการเรียนเทควันโดที่ม๊าเสียเงินไป!!!
“ฉัน...เอง”
แต่เสียงที่ขาดหายคล้ายไม่มั่นใจว่าจะพูดอะไรออกมานั้น ก็ทำให้ฉันต้องทำใจดีสู้เสือหันไปเผชิญหน้า
และภาพตรงหน้าก็ทำเอาหัวใจของฉันแทบหล่นวูบเลยค่ะ...
“Spider-Man
!!!”
พระเจ้า!
นี่มันยังกับในหนังที่ฉันดูไปเลยนี่หว่า! เพื่อนบ้านผู้แสนดียืนอยู่ตรงหน้าฉันตัวเป็นๆ
และก็เอ่อ...เป็นเพื่อนร่วมห้องของฉันด้วย
ปีเตอร์
พาร์กเกอร์!!!
“เธอ...ลำบากอยู่ใช่ไหม
?”
น้ำเสียงของเขาคือปีเตอร์
เพื่อนที่นั่งข้างฉันและเพื่อนบ้านติดกันแน่นอน ฉันจำเขาได้แม่น และฉันก็เชื่อว่าเขา...จำฉันได้เช่นกัน
แต่ฉันก็รู้เหตุผลอยู่หรอก...ว่าเขาไม่ต้องการเปิดเผยตัวกับใคร
ว่าเขาเป็นอะไร
เพราะฉะนั้น...ฉันก็ต้องเล่นตามน้ำไปสินะ
“ฉันหลงทาง”
ว่าพลางปลดล็อคหน้าจอแล้วยื่นให้หมอนั่น
อ่ะ-เอ่อ...Spider-Man ดู ฉันแอบได้ยินนะว่าเขาแอบหัวเราะออกมาเบาๆ
! ก่อนจะรีบกระแอมเสียงเข้ม เก๊กท่าขรึม
ถ้าให้ฉันเดาภายใต้ชุดนั้นหมอนั่นต้องพยายามปั้นหน้าตึงอยู่แน่ๆ เลย
“อ๋อ ทางมันไปอย่างงี้นะ...........”
เขาอธิบายพลางยกไม้ยกมือมาประกอบเพื่อให้ฉันเข้าใจอย่างละเอียด
แล้วมันก็ได้ผล เพราะมันดูเข้าใจง่ายมากกว่าแผนที่บนป้ายนั่นซะอีก
ฉันพยักหน้าอย่างเข้าใจ ก่อนจะรู้สึกตัวว่าตัวเองต้องรีบกลับบ้านได้แล้ว
โดยไม่ลืมที่จะ...
“ขอบคุณนะ”
เอ่ยพลางยิ้มส่งไปให้บางๆ
และพูดคำว่า ‘ปีเตอร์’ ต่อท้ายในใจ
ถ้าเขาไม่อยากบอกใคร ฉันก็จะทำตามที่เขาต้องการ
เพราะฉันก็ไม่ใช่พวกปากโป้งอยู่แล้วซะด้วยสิ ก่อนจะหันหลังเพื่อเตรียมเดินทางไปต่อ
“เดี๋ยว !”
เสียงร้องทักจากคนด้านหลังทำเอาฝีเท้าของฉันชะงักหยุด
“ถ้าทำได้ดีมากๆ
ในภาษาไทยพูดว่ายังไง ?”
แล้วคำถามของเขากถึงกับทำให้ฉันต้องร้อง
“หื้ม...?”
ออกมาด้วยความสงสัย
ก่อนจะกระตุกยิ้มน้อยๆ
หึ...พลาดท่าซะเองนะ
“รู้ได้ยังไงว่าฉันเป็นคนไทย
?”
และก็ได้ผล
เจ้าตัวมีท่าทีนิ่งงันเหมือนพึ่งคิดอะไรบางอย่างได้ ก่อนจะโพล่งตอบกลับมา
เหมือนเด็กกำลังกลบเกลือนความผิด
“ก็...หน้าเธอเหมือนคนเอเชียไง”
และเหตุผลนั้นก็ทำเอาฉันหลุดหัวเราะ
!
นี่เขาจะเห็นคนเอเชียแล้วทักว่าเป็นคนไทยไปทั่วอย่างนี้ไม่ได้นะ!!!
แต่ก็เอาเถอะ...ฉันจะทำเป็นไม่ได้ยินตั้งแต่แรกก็แล้วกันนะ
คุณ Spider-Man J
“ก็ประมาณแบบว่า...”
ฉันคิดพลางสรรหาคำที่คิดว่า(น่าจะ)เจ๋ง เพราะจะให้พูดว่า ‘ดีมาก!’
อะไรแบบนี้มันก็ดูโหลไป ใครๆ ก็พูดกันได้
อีกทั้งถ้าเป็นเขาที่เป็นพวกชอบทำอะไรเจ๋งๆ แล้วล่ะก็...
คงจะต้องเป็นคำนี้
ละมั้ง ?
“ ? ”
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
“มาลี สวยมาก !”
ขอบคุณค่ะ ♥
. อย่าพึ่งเบื่อกันนะ .
ความคิดเห็น