ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    { Spider-Man } ทำไงดี! เมื่อฉันเป็น เพื่อนบ้าน สไปเดอร์แมน!

    ลำดับตอนที่ #4 : เจ๋งพอไหม ?

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 6.32K
      718
      21 เม.ย. 62


    เจ๋งพอไหม ?


    -100%-




              แม้จะผ่านพ้นแต่ละวันมาได้อย่างยากลำบาก แต่ชีวิตของขนมเทียนในฐานะนักเรียนแลกเปลี่ยนในประเทศสหรัฐอเมริกานี้ ก็ได้เข้าสู่อาทิตย์ที่ 2 เสียแล้ว แม้อะไรๆ หลายอย่างจะยังไม่เข้าที่เข้าทางมากนัก แต่อย่างน้อยเพื่อนในห้องก็เริ่มหันมาคุยกับเธอหน่อยล่ะนะ...

     

     


              ถือว่าโชคยังเข้าข้างอยู่บ้าง...//แอบคิดเข้าข้างตัวเองในใจเบาๆ

     

     

              แต่ดูเหมือนว่า เรื่องที่พวกเพื่อนๆ เธอสนใจนั้น จะเข้าใจยากไปสักนิด...

     

     



              -Kanomtain Part-

     

     

              “เธอขี่ช้างไปโรงเรียนรึเปล่า ?

     

     

              “นี่ๆ ที่บ้านเธอมีรถไฟฟ้าไหมอ่ะ”

     

     

              “เธอช่วยสอนมวยไทยให้ฉันหน่อยได้ไหม ฉันอยากเป็นแบบ ใครน้า...บัวขาว! ใช่ป่ะ!?

     

     

              และอีกคำถามสารพัดที่เพื่อนๆ ถาโถมเข้ามาอย่างไม่หยุดหย่อน... ให้ตายเหอะ!!! ขนมเทียนคนนี้อยากตะโกนตอบกลับไปจังเลยว่า What da f*ck!!? คำถามสิ้นคิดหรือยังไม่ทันได้คิดนี่มันอะไรกั๊นนนนนนนนนนนน แต่หน้าตาเหลอหลาที่อยากรู้จริงๆ ของพวกเขาก็ทำเอาฉันโกรธไม่ลง จะโทษพวกเขาอย่างเดียวก็ไม่ได้สิ ในเมื่อประเทศฉันโปรโมทการท่องเที่ยวต่อสายตาชาวโลกที่ก็มีแต่ขี่ช้าง ขึ้นเขา ดำน้ำ ปลูกปะการัง บลาๆๆ

             

     

              เห็นดังนั้น ฉันจึงสูดลมหายใจเข้าลึกลึ๊กก เพื่อปรับหยินหยางในร่างกายให้สมดุล(?) ก่อนจะฉีกยิ้มบางๆ แบบในนางเอกละครหลังข่าวที่ม๊าชอบดู

     

     

              “ฉันนั่งวินไปโรงเรียนน่ะ เอ้ยย!

     

              ทันที่ที่พูดคำว่า วินออกไปก็ทำเอาดวงตาของพวกเขาเบิกโพล่ง ไม่ได้ๆ มันต้องมีคำที่ดีกว่านี้สิ...

     

     

              “เอ่อ...ฉันหมายถึงมีคนขับรถไปส่งน่ะ แฮะๆ”

     

              ฉันว่าพลางเกาหัวแล้วหัวเราะแห้งๆ นี่ไม่ได้โกหกจริงๆ นะ ก็...ก็ลุงต๋อง วินหน้าปากซอยแกชอบไปรับ-ส่งฉันประจำเลยนี่ มันก็เหมือนๆ กันใช่ม้า...

     

     

              “ว้าววววววววววว!! ขนาดนั้นเชียววว”

     

              ทันทีที่พวกเขาได้ยินคำตอบก็ร้องประสานเสียงออกมาเป็นเสียงเดียวกัน แม้หน้าตาจะดูไม่ค่อยเชื่อถือสักเท่าไหร่ แต่ก็พยักหน้าเข้าใจรับ โดยไม่ถามอะไรเซ้าซี้ต่อไปอีก

     

     

              ดีมากค่ะลูก

     

     

              “แล้วก็ที่ประเทศฉันมีรถไฟฟ้านะ กำลังจะมีรถไฟฟ้าความเร็วสูงด้วย แต่ก็เอ่อ...ไม่รู้ว่าจะสร้างเสร็จเมื่อไหร่...”

     

              ท้ายประโยคนั้นฉันหันมากระซิบกับตัวเองเบาๆ ค่ะ พูดแล้วรู้สึกน้ำตามันรื้นๆ นะ เห็นเขาออกข่าวมานานแล้ว แต่ก็ไม่ได้ติดตามอะไรมากมายนัก เลยไม่รู้ว่าเริ่มโครงการแล้วหรือยัง...ฮรึก

     

     

              “ส่วนแบบพี่บัวขาวน่ะ ฉันสอนให้ไม่ได้หรอก ฉันต่อยมวยไม่เป็น”

     

              แล้วคำตอบของฉันก็ทำให้พวกเขาประสานเสียงออกมาอีกครั้ง

     

     

              “อ้าว...”

     

              สีหน้าสลดนั้นทำเอาฉันรู้สึกผิดขึ้นมานิดๆ ซะแล้วสิ ตอนเป็นเด็กป๊าม๊าก็ส่งเรียนเทควันโดจนได้สายแดงมาซะได้(มีอวด) รู้งี้...เลือกเรียนมวยไทยแต่แรกแล้ว

     

     

              และทันทีที่พวกเขาได้คำตอบสุดท้ายจากฉัน ก็พากันกลับไปนั่งที่ราวกับหมดเรื่องน่าสนใจที่จะซักไซ้ต่อ อ้าวเห้ย! นี่มันทำอย่างกับมาหาผลประโยชน์จากฉันเลยนี่หว่า

     

     

              อิหยังวะ...?

     

     

              แต่ช่างเถอะ ฉันเริ่มชินกับคนที่นี่บ้างแล้ว ส่วนตอนกลางวันก็เช่นเคย นั่งกินข้าวคนเดียวยั่วๆ จ้า...ก็เหงานะ แต่มันก็สบายใจเหมือนกันนะ กินมื้อกลางวันพลางเปิดเพลง Sunflower – Post Malone, Swae Lee มันก็ทำให้มีความสุขไปอีกแบบเหมือนกันนะ

     

     

              แต่เฮ้ๆ ! อย่าพึ่งคิดว่าชีวิตฉันโดดเดี่ยวขนาดนั้น ฉันก็มีเพื่อนคุยกับเขานะ อย่างน้าเอมิลี่ เจ้าชูการ์ เอ่อ...ก็ถือว่าเพื่อนล่ะน่ะ แล้วก็...

              คนที่นั่งข้างๆ ฉันนี่ไง

     

     

              “เรียนเสร็จแล้วเธอกลับบ้านเลยไหม ?

     

              เด็กหนุ่มข้างๆ หันมาถามพลางหมุนปากกาในมืออย่างไม่มีท่าทีที่จะหยุด ฉันละสายตาจากสูตรคณิตบนกระดานซึ่งเป็นวิชาสุดท้ายของวันนี้ ก่อนจะตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

     

     

              “อื้ม กลับเลย”

     

     

              “แล้วกลับยังไง ?

     

              เขายังคงหมุนปากกาพลางใช้ปากยู่ยี่นั้นพูดไปมาไม่หยุด ถึงฉันจะเป็นคนชอบพูดในระดับหนึ่ง แต่ก็ขอยอมแพ้เขาคนนึงละกัน

     

     

              “เดินกลับอ่ะ ทำไมเหรอ ?

     

     

              “ก็เปล่า...ว่าแต่ KT

     

              อ๋อ...ไม่ต้องแปลกใจ นั่นชื่อย่อฉันเองค่ะ เพื่อนในห้องรวมถึงครูที่สอนบอกว่าชื่อฉันเรียกยาก เวลาจะเรียกให้ตอบคำถามที่ก็ทำเอาเขาเหนื่อยใจแล้วต้องเปลี่ยนคนตอบ ปีเตอร์จึงเสนอให้ใช้ชื่อ ‘KT’ ที่ย่อมาจาก ‘Kanomtain’ นั่นเอง

              และฉันก็คิดว่ามันเจ๋งดีเหมือนกัน ถึงจะยังรู้สึกแหม่งๆ บางครั้งก็ตาม

     

     

              “หื้ม ?

     

              ฉันครางรับในลำคอรอฟังว่าเขาจะพูดอะไรต่อ

     

     

              “เธอรู้จัก Spider-Man ไหม ?

     

     

     

     

              ฮึกกกกก !!!

     

     

     

     

              และคำถามที่ถูกเอ่ยออกมาจากปากของ Spider-Man ก็ทำเอาฉันชะงักกึก จะให้ตอบกลับไปยังไงดีว่า อ๋อ รู้สิ ก็นายไง’ ‘อ๋อ รู้ ทำไมเหรอ?’ หรือจะชิงตอบ ไม่รู้ไปซะเลย

     

     

              และสุดท้าย...

     

     

              “อื้ม”

     

              สั้นๆ คำเดียวจบ...

     

     

              “จริงดิ!? เธอคิดว่าเขาเจ๋งไหม ?

     

              น้ำเสียงเริงร่าบวกกับดวงตาแวววับนั่นมันอะไร!? นี่เขาคาดหวังให้ฉันตอบว่า เจ๋งโคตรๆอะไรแบบนี้อยู่แล้วไม่ใช่หรอกเร๊อะ!? ฉันถึงกับเผลออมยิ้มอย่างนึกเอ็นดูให้กับความอยากรู้อยากเห็นถึงความ ‘So cool!’ ของเจ้าตัว ก่อนจะกระแอมคีพลุคเล็กน้อย

     

     

              “ก็...ใช้ได้นะ”

     

              และคำตอบที่ดูไม่ค่อยใส่ใจของฉันก็ทำเอาดวงหน้าของคนที่ถามหม่นลง ก่อนที่จะพยักหน้าน้อยๆ แล้วหันกลับไปตั้งใจเรียนดังเดิม ถึงจะรู้สึกผิดที่ไม่พูดออกไปตามที่เขาหวัง แต่ฉันไม่อยากให้เขาเหลิงเกินไปนี่น่า ยิ่งอยู่ในวัยคึกคะนองแบบนี้เดี๋ยวก็ได้อยากทำอะไรเกินตัวขึ้นมา หรืออาจจะมีความคิดอยากเป็นอย่าง Iron Man / Captain America / Holk และบลาๆๆๆๆๆ ซึ่งฉันไม่ได้ดูถูกว่าเขาทำไม่ได้ แต่ตอนนี้ฉันคิดว่าแค่เขาทำตัวเป็น ‘Spider-Man เพื่อนบ้านผู้แสนดี มันก็น่ารักสมวัยมากพอแล้ว

     

     

              ทันทีที่เสียงออดหมดเวลาดังขึ้น ฉันก็รีบเก็บข้าวของลงกระเป๋าแล้วเดินออกจากห้องอย่างว่องไว เพราะวันนี้มีภารกิจที่ต้องทำน่ะสิ และฉันจะชักช้าอยู่ใยไปไม่ได้ เดี๋ยวจะไม่ทันการณ์เอา!!!

     

     

     

     

              .At the Supermarket.

     

     

     

     

           และ  ภ า ร กิ จ  ที่ฉันว่านั่นก็คือ...

     

     

              การมาซื้อของลดราคาให้ทันนั่นเองจ้า !!!

     

     

              “น่าจะครบแล้วนะ”

     

              ฉันทวนรายการทั้งหมดที่น้าเอมิลี่ส่งมาทางแชท พอตรวจดูเรียบร้อยแล้วจึงนำไปจ่ายเงินเป็นอันเสร็จสิ้นภารกิจ

     

     

              เคลียร์ !

     

     

              “ขึ้นรถบัสแล้วลงป้ายxxx โอเค ถึงแล้วสินะ”

     

              ฉันจัดการแบกข้าวของทั้งหมดลงรถทันทีที่ถึงป้ายตามที่น้าเอมิลี่บอก ก่อนจะยืนเคว้งอยู่ท่ามกลางคนพลุกพล่านเนื่องจากเป็นเวลาเริ่มเย็นแล้ว คนทยอยเลิกงานกัน แต่แล้วเหงื่อเม็ดโตก็ผุดขึ้นมาทั่วกรอบหน้า ทั้งๆ ที่อากาศออกจะเย็นสบายเสียด้วยซ้ำ...

     

     

              ฉันลงผิดป้าย !!!

     

     

              “ไอ้ขนมเทียนเอ้ยยยย เหมือนตอนอยู่ไทยไม่เปลี่ยนเลยเว้ยยยย!

     

              ว่าแล้วก็ทึ้งหัวตัวเองแรงๆ อย่างอารมณ์เสีย ถึงตอนนี้ผมมันจะฟูจนคนที่เดินผ่านไปมาเริ่มหันมอง แต่ฉันก็ไม่สนใจใดๆ ทั้งสิ้น ในใจร้อนรุ่มว่าจะหาทางกลับบ้านยังไง เพราะวันนี้น้าเอมิลี่กลับบ้านดึกเนื่องจากติดประชุม แล้วฉันจะทำยังไงดี!

     

     

              ไม่ได้ๆ สติหนอ ยุบหนอ พองหนอ...

     

     

              สูดลมหายใจเข้าออกตามจังหวะเพื่อเรียกสติและดับอารมณ์คุกกรุ่นในจิตใจ ใช่ค่ะ...ธรรมะช่วยคุณได้ ก่อนจะหอบข้าวของอันพะรุงพะรังเดินไปหาแผนที่ป้ายรถ เพราะที่นี่จะมีแผนที่และบอกจุดเริ่มต้น-สิ้นสุดของรถโดยสารเป็นระยะๆ ตามเเนวตลอดทาง

     

     

              เมื่อเห็นแล้วก็ไม่ลืมที่จะแชะภาพเก็บไว้ ก่อนจะเดินไปตามทางเพื่อไปยังป้ายรถของคันที่ฉันต้องนั่ง แต่เอาจริงๆ แผนที่นี่ก็ยุ่งซะเหมือนยุงตีกัน หรือฉันซื่อบื้อเองนะ...?

     

     

              “เฮ้!

     

    เสียงเรียกราวกระซิบดังขึ้นขณะที่ฉันเดินเข้ามาในตรอกซึ่ง(น่าจะ)เป็นทางลัดจะตัดไปยังถนน ฉันรีบหันขวับมองรอบตัวก็ไม่มีใครทั้งสิ้น คุณพระ...ลูกเริ่มกลัวแล้วนะคะ

     

     

              ให้ตายเหอะ! ไหนใครบอกว่าจะเห็นผีตอนตี 3 ไง นี่ยังไม่ทัน 6 โมงเย็นด้วยซ้ำ!

     

     

     

     

              “มีอะไรให้ช่วยไหม ?

     

              และเสียงราวกระซิบนั้นก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง! แต่ครั้งนี้มันดังมาจากด้านหลัง! ฉันกำถุงในมือแน่น ถ้าใครเข้ามาแตะตัวฉันแม้แต่นิดเดียว ฉันพร้อมเตะตวัดหลังอย่างที่เรียนเทควันโดมาเลยนะ!!!

     

     

    วันนี่ม๊าจะต้องไม่เสียใจ ที่ได้เห็นลูกป้องกันตัวจากการเรียนเทควันโดที่ม๊าเสียเงินไป!!!

     

     

    “ฉัน...เอง”

     

    แต่เสียงที่ขาดหายคล้ายไม่มั่นใจว่าจะพูดอะไรออกมานั้น ก็ทำให้ฉันต้องทำใจดีสู้เสือหันไปเผชิญหน้า และภาพตรงหน้าก็ทำเอาหัวใจของฉันแทบหล่นวูบเลยค่ะ...

     

     

    Spider-Man !!!

     

    พระเจ้า! นี่มันยังกับในหนังที่ฉันดูไปเลยนี่หว่า! เพื่อนบ้านผู้แสนดียืนอยู่ตรงหน้าฉันตัวเป็นๆ และก็เอ่อ...เป็นเพื่อนร่วมห้องของฉันด้วย

    ปีเตอร์ พาร์กเกอร์!!!

     

     

    “เธอ...ลำบากอยู่ใช่ไหม ?

     

    น้ำเสียงของเขาคือปีเตอร์ เพื่อนที่นั่งข้างฉันและเพื่อนบ้านติดกันแน่นอน ฉันจำเขาได้แม่น และฉันก็เชื่อว่าเขา...จำฉันได้เช่นกัน

    แต่ฉันก็รู้เหตุผลอยู่หรอก...ว่าเขาไม่ต้องการเปิดเผยตัวกับใคร ว่าเขาเป็นอะไร

    เพราะฉะนั้น...ฉันก็ต้องเล่นตามน้ำไปสินะ

     

     

     

     

    “ฉันหลงทาง”

     

    ว่าพลางปลดล็อคหน้าจอแล้วยื่นให้หมอนั่น อ่ะ-เอ่อ...Spider-Man ดู ฉันแอบได้ยินนะว่าเขาแอบหัวเราะออกมาเบาๆ ! ก่อนจะรีบกระแอมเสียงเข้ม เก๊กท่าขรึม ถ้าให้ฉันเดาภายใต้ชุดนั้นหมอนั่นต้องพยายามปั้นหน้าตึงอยู่แน่ๆ เลย

     

     

    “อ๋อ ทางมันไปอย่างงี้นะ...........”

     

    เขาอธิบายพลางยกไม้ยกมือมาประกอบเพื่อให้ฉันเข้าใจอย่างละเอียด แล้วมันก็ได้ผล เพราะมันดูเข้าใจง่ายมากกว่าแผนที่บนป้ายนั่นซะอีก ฉันพยักหน้าอย่างเข้าใจ ก่อนจะรู้สึกตัวว่าตัวเองต้องรีบกลับบ้านได้แล้ว โดยไม่ลืมที่จะ...

     

     

    “ขอบคุณนะ”

     

    เอ่ยพลางยิ้มส่งไปให้บางๆ และพูดคำว่า ปีเตอร์ต่อท้ายในใจ ถ้าเขาไม่อยากบอกใคร ฉันก็จะทำตามที่เขาต้องการ เพราะฉันก็ไม่ใช่พวกปากโป้งอยู่แล้วซะด้วยสิ ก่อนจะหันหลังเพื่อเตรียมเดินทางไปต่อ

     

     

    “เดี๋ยว !

     

    เสียงร้องทักจากคนด้านหลังทำเอาฝีเท้าของฉันชะงักหยุด

     

     

    “ถ้าทำได้ดีมากๆ ในภาษาไทยพูดว่ายังไง ?

     

    แล้วคำถามของเขากถึงกับทำให้ฉันต้องร้อง

     

     

    “หื้ม...?

     

    ออกมาด้วยความสงสัย ก่อนจะกระตุกยิ้มน้อยๆ

     

     

     

     

    หึ...พลาดท่าซะเองนะ

     

     

     

     

     

     

    “รู้ได้ยังไงว่าฉันเป็นคนไทย ?

     

    และก็ได้ผล เจ้าตัวมีท่าทีนิ่งงันเหมือนพึ่งคิดอะไรบางอย่างได้ ก่อนจะโพล่งตอบกลับมา

    เหมือนเด็กกำลังกลบเกลือนความผิด

     

     

              “ก็...หน้าเธอเหมือนคนเอเชียไง”

     

              และเหตุผลนั้นก็ทำเอาฉันหลุดหัวเราะ ! นี่เขาจะเห็นคนเอเชียแล้วทักว่าเป็นคนไทยไปทั่วอย่างนี้ไม่ได้นะ!!! แต่ก็เอาเถอะ...ฉันจะทำเป็นไม่ได้ยินตั้งแต่แรกก็แล้วกันนะ

     คุณ Spider-Man J

     

     

    “ก็ประมาณแบบว่า...”

     

    ฉันคิดพลางสรรหาคำที่คิดว่า(น่าจะ)เจ๋ง เพราะจะให้พูดว่า ดีมาก!’ อะไรแบบนี้มันก็ดูโหลไป ใครๆ ก็พูดกันได้ อีกทั้งถ้าเป็นเขาที่เป็นพวกชอบทำอะไรเจ๋งๆ แล้วล่ะก็...

    คงจะต้องเป็นคำนี้ ละมั้ง ?

     

     

    ?

     

     

     

    .

     

     

     

    .

     

     

     

    .

     

     

     

    .

     

     

     

    .

     

     

     

    .

     

     

     

    .

     

     

     

    .

     

     

     

    .

     

     

     

    .

     

     

     

           “มาลี สวยมาก !





    -----

     หายไปนานเสียจนจะข้ามเดือน ขอโทษเจ้าาาาาาา ช่วงนี้เบื่อๆ เลยหาหนัง การ์ตูน ซีรี่ย์ดูยาวๆ เลย ฮืออออออออออ

    เเต่ไรท์ก็มาอัพเเล้วน้าาา คิดถึงม้ากกกกมากกก5555 ความกาวของเรื่องยังมีไม่จบไม่สิ้นจ้า กำลังรอชม Spider-Man Far From Home เลย 3 ก.ค. เจอกันจ้า เเต่ก่อนหน้านั้น 24 เมษา เรามีนัดกับ ENDGAME นะ!! 5555 ไรท์กะว่าจะไปดูอยู่(ถ้าว่าง) ใครที่ได้ดูก็อย่ามา(แอบ)สปอยล์เหมือนน้องทอมเราเด้อออ มาเวลเขาขอละน้า5555 ยังไงก็อย่าลืมติดตามชีวิตอันวุ่นๆ ป่วงๆ ของน้องหนมเทียนกันต่อนะคะทุกคน! ตอนนี้ไปละ ไปปั่นวิว BP วนไปจ้าาาา 

    Let's Kill This Love! 

    ปล.สาวๆที่งาน Coachella เผ็ชเกินเบอร์มากเเม่ พริกทั้งสวนก็เอาไม่อยู่ !!!!!!!!!!

    ขอบคุณค่ะ  

    .   อย่าพึ่งเบื่อกันนะ   .


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×