| คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น |
|
|
|
 |
หาก ใครกำลังจะควักกระเป๋าจ่ายตังค์ เพื่อซื้ออาหารแปลกๆ ที่อ้างว่าใช้ "นาโนเทคโนโลยี" โดยเติมสารที่สุดพิสดารและไม่เคยอยู่ในเมนูอาหารของคุณมาก่อน โปรดหยุดคิดและพิจารณาให้ดี ทั้งนี้นักวิชาการนาโนเทคระบุว่าสารพิเศษที่จะเติมในอาหารได้ต้องเป็นสาร ชีวภาพที่กินได้เท่านั้น
ดร.ณัฐพันธุ์ ศุภกา นักวิชาการและหัวหน้าหน่วยบริการวิเคราะห์ทดสอบ ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) ให้ สัมภาษณ์ระหว่างการสัมมนา "นาโนเทคโนดลยีเพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรมอาหาร" ณ โรงแรมสยามซิตี เมื่อวันที่ 30 เม.ย.51 ว่าปัจจุบันมีการนำนาโนเทคโนโลยีไปใช้กับอุตสาหกรรมอาหารมากขึ้น โดยอยู่ในรูปแบบของ "แคปซูลนาโน" ที่ช่วยเก็บสารอาหารหรือวิตามินสำหรับผสมลงในเครื่องดื่ม
ทั้ง นี้วิตามินบางชนิดที่ละลายในน้ำมัน เมื่อนำไปผสมลงเครื่องดื่มโดยตรง ก็จะได้เครื่องที่ขุ่นดูไม่น่าบริโภค แต่หากบรรจุลงแคปซูลนาโนก่อน ก็จะได้เครื่องดื่มที่ใส หรือบางครั้งใช้เก็บรักษาสารอาหารที่สลายตัวได้ง่ายอย่างวิตามินซี
"อย่าง ไรก็ดีสินค้าที่ใช้กับอาหารต้องเป็นสารชีวภาพทั้งหมด ไม่เติมสารที่ไม่ใช้กับอาหาร อย่างน้ำนาโนหรือน้ำแร่ที่อ้างว่าเติม "ซิลเวอร์นาโน" (nanosilver) ซึ่งไม่ใช่สารชีวภาพ เป็นต้น" ดร.ณัฐพันธุ์ยกตัวอย่าง ซึ่งแม้จะผ่านกระบวนการนาโนเทคโนโลยี แต่ก็ไม่ปลอดภัย เพราะการนำสารจำพวกเงินมาผสมลงไปในน้ำดื่ม หากรับประทานเข้าไปอาจก่ออันตรายต่อร่างกายได้
นอกจาก นี้ ยังมีผลิตภัณฑ์น้ำดื่มหลายชนิดที่อ้างว่าสามารถฆ่าเชื้อโรคภายในร่างกายได้ แต่ไม่ได้ผ่านการรับรองความปลอดภัยของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เนื่องจากโฆษณาเกินจริง และบางชนิดไม่ได้มีกระบวนการนาโนเทคโนโลยี เป็นเพียงการนำเกลือมาผสมเท่านั้น
"ทั้งนี้จะมีคุณสมบัติที่เป็นนาโนได้ นอกจากขนาดที่เล็กระดับนาโนแล้ว ต้องมีคุณสมบัติที่เกิดขึ้นหลังจากขนาดที่เล็กลง เช่น ทองเมื่อเป็นอนุภาคใหญ่ก็ค่อยทำปฏิกิริยากับสารอื่น แต่เมื่อมีขนาดเล็กลงก็เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาที่ดี และขนาดที่เล็กลง มีความถูกต้อง แม่นยำและควบคุมได้" ดร.ณัฐพันธุ์กล่าว
ใน ส่วนของการเก็บสารอาหารต่างๆ ลงแคปซูลซึ่งเรียกว่า "เอนแคปซูเลชัน" (encapsulation) นั้น ดร.อิสรา สระมาลา นักวิจัยศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) สามารถใช้กระบวนการผลิตง่ายๆ ซึ่งมีอยู่แล้วในอุตสาหกรรมที่เรียกว่า "การเป่าแห้ง" (spray dry) โดยจะผสมสารที่ต้องการกับสารที่ต้องการใช้เป็นเปลือกหุ้ม แล้วเป่าผ่านลมร้อน สารที่ทำหน้าที่เป็นเปลือกจะหดตัวแล้วหุ้มสารที่ต้องการไว้กลายเป็นแคปซูล ขนาดเล็ก แต่ทั้งนี้ก็อาจมีการปรับปรุงรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ในกระบวนการผลิต
"ตัวอย่างของสารที่นำไปบรรจุลงแคปซูล นาโน เช่น สารออกฤทธิ์ในมะระขี้นก ซึ่งเดิมอาจจะใช้วิธีกลบกลิ่นและรส แต่เมื่อกินไปแล้วก็ยังคงมีรสขมและกลิ่นเหม็นเขียวของมะระขี้นกอยู่ เมื่อนำไปเคลือบแคปซูลก็ทำให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่เหมือนอาหารเสริมหรือนำไปทำ เป็นอาหารอื่นอย่างไอศครีมได้ หรือเคลือบน้ำมันปลาเพื่อกลบกลิ่นคาว เป็นต้น" ดร.อิสรากล่าว
นอกจากนาโนเทคโนโลยีมีบทบาทใน การบรรจุสารอาหารลงแคปซูลเพื่อลดข้อ จำกัดของอาหารในหลายๆ ด้านแล้ว ยังมีการประยุกต์ใช้กับบรรจุภัณฑ์สำหรับอาหาร ซึ่งอาจจะเป็นพลาสติกที่ช่วยกำจัดเชื้อแบคทีเรีย โดยปัจจุบันเทคโนโลยีดังกล่าวอยู่ในขั้นของการวิจัย หรืออาจจะพัฒนาเป็นบรรจุภัณฑ์ฉลาดที่สามารถระบุสถานภาพของอาหารและผัก-ผลไม้ ต่างๆ ได้ว่าอยู่ในสภาพที่รับประทานได้หรือไม่
ทั้ง นี้นาโนเทคมีงานวิจัยที่เกี่ยวกับอาหารทั้งที่เริ่มทำแล้วและ กำลังจะทำคือ การผลิตแคปซูลนาโนเก็บกลิ่นคาวของน้ำมันปลาซึ่งได้เริ่มมาครึ่งปีและทราบ วิธีเก็บกลิ่นแล้ว ขณะนี้อยู่ในขั้นการตรวจวิเคราะห์ประสิทธิภาพการกักเก็บกลิ่น และกำลังจะวิจัยบรรจุภัณฑ์ที่สามารถระบุสภานภาพของอาหารได้กับอุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์ที่จะตรวจจับสารตกค้างในอาหาร. |
|
|
ขอบคุณแหล่งที่มา/http://www.manager.co.th
ความคิดเห็น