nextstep_10
ดู Blog ทั้งหมด

ไต้หวันขายนาโนเกลื่อน เตือนนำเข้าระวังของไม่จริง

เขียนโดย nextstep_10
LightCarnival Of LightBud LightWac LightMonorail LightTrack LightFlexible Track LightPendant Track LightGreen LightLed LightGrow LightRope LightDiamonds In Black LightNight LightShades Of LightMiller LightPicture LightLed Rope LightReading LightLed Grow LightLed Night LightBook LightSolar Power LightRemote Control LightSolar Flood LightBright LightFlagpole LightLed Recessed LightSolar Powered Umbrella LightPorch LightLed Zeppelin In The LightChristmas Holiday LightSewing Machine LightLed Auto LightSolar Led Motion LightHps LightMilk Glass Pendant LightMotion LightLed Flood LightSolar Powered Security LightT5 LightLed Reading LightExterior Motion Activated Wall LightSolar Shed LightGrill LightWall Mount Reading Light18 Blue Led Rope LightSolar Powered Flood LightGlass Wall Sconce LightEvictor Strobe Light
นัก วิชาการนาโนเทคเตือนไต้หวันขายสินค้านาโนเกลื่อน เอกชนนำเข้าต้องดูให้ดี พร้อมเล่าประสบการณ์ทัวร์แฟร์ “ไต้หวันนาโนเทค” ชี้นาโนชีวภาพไต้หวันไม่ทิ้งห่างไทยมาก ยังมีหวังตามตามทัน
       
       วานนี้ (30 พ.ย.) ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) ร่วมกับสถาบันวิจัยและพัฒนาเพื่ออุตสาหกรรม และฝ่ายส่งเสริมและสนับสนุนอุตสาหกรรม แห่งสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จัดสัมมนาเรื่อง “พัฒนามูลค่าเพิ่มอุตสาหกรรมไทยด้วยนาโนเทคโนโลยี” ณ โรงแรมสวิส โฮเต็ล เลอคองคอร์ด ซึ่งมีเป้าหมายให้ภาคอุตสาหกรรมได้ร่วมกำหนดทิศทางการวิจัยที่นำไปถึงผลงาน สู่ท้องตลาด โดยมีผู้ประกอบการจากภาคอุตสาหกรรมเข้าร่วมประมาณ 60 คน
       
       ทั้งนี้ ดร.ณัฐพันธุ์ ศุภกา นักวิชาการจากนาโนเทคได้เล่าประสบการณ์ที่ไปร่วมงาน “Taiwan Nana Tech 2005” ณ ประเทศไต้หวันซึ่งจัดขึ้นเมื่อเดือน ก.ย.ที่ผ่านมาว่าความก้าวหน้าทางด้านนาโนเทคโนโลยีชีวภาพที่ประเทศไต้หวัน ไม่ได้มีเทคโนโลยีที่ทิ้งห่างประเทศไทยมากนัก ซึ่งหากไทยจะตามให้ทันก็คงไม่ยาก ที่น่าสนใจคือไต้หวันมีจุดเด่นตรงที่สามารถนำงานวิจัยออกสู่อุตสาหกรรมได้ มาก โดยไม่ได้ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงนักแต่สามารถต่อยอดได้มากซึ่งจะเน้นเทคโนโลยี กลางน้ำเป็นหลัก พร้อมทั้งยกตัวอย่างการผลิตยาจะเน้นเรื่องการนำส่งยามากกว่าการหาสารออก ฤทธิ์ใหม่
       
       อย่างไรก็ดี ดร.ณัฐพันธุ์ตั้งข้อสังเกตว่าเทคโนโลยีด้านการผลิตยาของไต้หวันสามารถใช้กับ คนได้แล้วจึงไม่แน่ใจว่าจะเชื่อถือได้หรือไม่ เพราะการผลิตยาต้องมีกระบวนการทดสอบประสิทธิภาพไม่ต่ำกว่า 10 ปี ไม่ว่าจะเป็นยาประเภทใดก็ตาม พร้อมทั้งชี้ปัญหาว่าทางไต้หวันมีอิสระในการขายสินค้านาโนเทคโนโลยีมากเกิน ไป บางอย่างจะเป็นสินค้านาโนเทคโนโลยีจริงหรือไม่ก็ไม่ทราบ จึงเตือนผู้ประกอบที่นำเข้าสินค้าเหล่านี้ว่าต้องดูให้ดีและระวังให้มาก
       
       นอก จากนี้ ดร.ณัฐพันธุ์ ยังได้บรรยายภาพรวมที่จะนำนาโนเทคโนโลยีไปใช้ในอุตสาหกรรมในหลายกลุ่ม อาทิ เฟอร์นิเจอร์ กระจก สิ่งทอ และเครื่องนุ่งห่ม เป็นต้น ตัวอย่างอุตสาหกรรมทางด้านเฟอร์นิเจอร์ ดร.ณัฐพันธุ์กล่าวว่ามีเทคโนโลยีทำพื้นผิวซุเปอร์ไฮโดรโฟรบิก (Super hydrophobic surface) ที่มีคุณสมบัติไม่ชอบน้ำ สามารถไปประยุกต์ใช้กับอุตสาหกรรมสิ่งทอ ผลิตผ้าไม่เปียกน้ำหรือเคลือบกระจกทำความสะอาดตัวเองได้ ด้วยการเคลือบสารไม่ชอบน้ำและมีโครงสร้างขรุขระในลักษณะเป็นหนามเล็กๆ ระดับนาโนเมตร 

  


  


  



ดร.ขัติยา ไกรกาญจน์

       การผลิตพอลิเมอร์แบบใหม่ที่สามารถแทรกซึมเข้าไปยังช่องว่างของ พื้น ผิว เช่น ผนังหรือสระว่ายน้ำ ป้องกันการรั่วซึมได้ เป็นอีกตัวอย่างที่ ดร.ณัฐพันธุ์ยกขึ้นมา นอกจากนี้ก็ยังมีนาโนเจล (nanogel) ที่พัฒนามาจากแอโรเจล (Aerogel) ซึ่งช่วยป้องกันความร้อน เนื่องจากมีส่วนผสมถึง 96 เปอร์เซ็นต์เป็นอากาศ และที่เหลือเป็นซิลิกอนไดออกไซด์ ทำให้ถ่ายเทความร้อนได้น้อยลง สามารถนำไปประยุกต์ในการทำฟิล์มติดกระจกกันร้อนได้
       
       ทั้ง นี้ ดร.ณัฐพันธุ์กล่าวถึงความร่วมมือของศูนย์แก่ภาคเอกชนว่าหากเอกชนใดมีปัญหา สามารถเข้าไปปรึกษาที่ศูนย์ได้ โดยอาจเป็นความร่วมมือในลักษณะการตรวจวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ หรือการวิจัยเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการตั้งโจทย์และความต้องการของภาคอุตสาหกรรม หรือหากบริษัทใดที่ห้องปฏิบัติการก็อาจส่งนักวิจัยไปประจำเพื่อให้ความช่วย เหลือได้
       
       ทางด้าน ดร.ขัติยา ไกรกาญจน์ ประธานคณะกรรมการเทคโนโนาโน สภาอุตสาหกรรมฯ กล่าวถึงความก้าวหน้าทางด้านนาโนเทคโนโลยีของไต้หวันในฐานะที่ได้ไปร่วมงาน ดังกล่าวเช่นกันว่า ขณะนี้ไต้หวันเป็นอันดับหนึ่งของโลกในการผลิตจอแอลซีดี ซึ่งใช้นาโนเทคโนโลยีมาปรับปรุงคุณสมบัติขงอจอให้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นมุมมองที่กว้างขึ้น ภาพที่คมชัดขึ้น เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาทางด้าน MEMs และ NEMs ซึ่งนำไปใช้กับการผลิตเซนเซอร์ พร้อมทั้งยกตัวอย่างว่าเครื่องวัดแอลกอฮอล์ก็จะมีขนาดเล็กลงและอาศัยแค่การ พูดก็สามารถวัดระดับแอลกอฮอล์ได้โดยไม่ต้องใช้ปากสัมผัสเครื่อง ซึ่งจะมีการพัฒนาเครื่องมือนี้ออกมาเยอะขึ้น


ขอบคุณแหล่งที่มา/http://www.manager.co.th

ความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็น