ภาวะโลกร้อน มีผลกระทบกับทั้งอุณหภูมิของโลก ภัยพิบัติ เช่นน้ำท่วม พายุเฮอร์ริเคน ทำให้ฤดูต่างๆ ผิดเพี้ยน ไปจนถึงเอลนิโญ ลานิญา ส่งผลให้ภูมิอากาศแปรปรวน หรือแม้กระทั่งฤดูหนาวที่โตเกียวปีที่แล้วก็ไม่มีหิมะตก !
หลังจากที่ภาพยนตร์เรื่อง An Inconvenient Truth เข้าฉาย ซึ่งบรรยายโดย Al Gore อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐ และผู้ที่ลงสมัครเข้าชิงประธานาธิบดีกับ Bush ในปี 2000 ได้ทำให้เกิดกระแสตื่นตัวในเรื่องของภาวะโลกร้อน(Global Warming) หรือ ภาวะภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง (Climate Change) กันมากขึ้น แต่ในเมืองไทย คนที่ให้ความสนใจในเรื่องนี้ ยังคงน้อยอยู่มาก ไม่ต้องพูดถึง คนที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตประจำวันของตน เช่น ลดการใช้รถ ลดการใช้พลังงาน ลดปริมาณขยะ เพื่อลดปริมาณ CO2
สหประชาชาติ ให้ความสนใจในเรื่องนี้อย่างยิ่ง โดยได้ก่อตั้งองค์การ IPCC หรือ คณะกรรมาธิการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยความเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ "ไอพีซีซี" (Intergovernmental Panel on Climate Change : IPCC, www.ipcc.ch) ซึ่งมีหน้าที่แก้ปัญหาภาวะโลก้รอน และภาวะภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงในอนาคตโดยเฉพาะ (Climate Change)
เมื่อไม่นานมานี้ ได้มีการประชุมอย่างเคร่งเครียด เป็นเวลา 24 ชม. กับตัวแทนกว่า 100 ประเทศ และได้ออกรายงานล่าสุด ซึ่งเป็นฉบับที่ 2 เกี่ยวกับผลกระทบของภาวะโลกร้อนในอนาคต ซึ่งพบว่าคนที่โดนผลกระทบมากที่สุด กลับเป็นคนยากจนในแถบแอฟริกา ทั้งๆที่ไม่ได้เป็นตัวการทำให้โลกร้อนเลยซักนิด ขนาดที่ตัวการคือประเทศอุตสาหกรรมใหญ่ๆต่างหาก รายงานนี้คาดว่าคนที่เดือดร้อนจะมีนับพันล้านคนทีเดียว
รายงานฉบับที่ 3 ของ IPCC จะทำการประชุมกันที่กรุงเทพ ในช่วงระหว่าง 30 เมษา - 4 พฤษภา และจะเผยแพร่รายงานในวันที่ 5 พฤษภา
รายงานเรื่องภาวะโลกร้อนฉบับที่ 2 ของสหประชาชาติ
http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9500000040515
ในภาพยนตร์เรื่อง An Inconvenient Truth ได้นำเสนอข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์อย่างที่คนธรรมดาเข้าใจง่าย
โดยเริ่มจากการอธิบายให้คนเข้าใจสาเหตุของภาวะโลกร้อน และแสดงให้เห็นว่า ปัญหาได้ลุกลาม รุนแรกขึ้นมาถึงขั้นไหนแล้ว ต่อไปนี้จะเป็นข้อมูลจาก An Inconvenient Truth ครับ
http://www.whyworldhot.com/global-warming/co2-now-and-past/
นี่คือภาพกราฟของ ปริมาณ CO2 หน่วยเป็น ppm (เส้นสีแดง) และอุณหภูมิ (F)(เส้นสีฟ้า) ย้อนหลังไปกว่า 650000 ปี

การสร้างกราฟนี้ ใช้เทคนิคการขุดชั้นน้ำแข็ง ซึ่งวิธีนี้ จะสามารถหาปริมาณ CO2 ที่อยู่ในหิมะ ที่ตกในปีนั้นๆ ได้เลยทีเดียว

ในอดีต 650000 ปีที่ผ่านมา กราฟมีการขึ้นๆลงๆตลอด ตามอุณหภูมิของโลก
เราได้ผ่านยุคน้ำแข็งมาแล้วหลายครั้ง จากภาพ ยังไม่เคยมีช่วงใดเลยที่ปริมาณ CO2 สูงกว่า 300 ppm
แต่ภาพต่อไป (จุดสีเหลือง) แสดงถึงระดับ CO2 ในปัจจุบัน ซึ่งสูงกว่า CO2 อย่างเห็นได้ชัด

และถ้าหากเรายังใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล (น้ำมัน ถ่านหิน) อยู่เช่นนี้ ภาพด้านล่างคือปริมาณ CO2 ที่คาดการณ์ไว้ในอีก 50 ปีข้างหน้า อีกเพียงแค่ 50 ปี อุณหภูมิของโลกจะสูงพอที่น้ำแข็งขั้วโลกละลาย ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น และเข้าท่วมพื้นที่ต่ำจำนวนมาก (กรุงเทพก็ถือว่าอยู่ต่ำ)
ข้อมูล และภาพของเมืองต่างๆ ที่จะถูกน้ำท่วมจากภาวะโลกร้อน
http://www.whyworldhot.com/global-warming/flood-city/

ได้มีอีกหลายข้อมูล ที่ตอกย้ำว่าโลกกำลังร้อนขึ้นจริง โดยธารน้ำแข็ง และภูเขาต่างๆ หิมะได้ละลายลงไปมาก
ภาพของภูเขา Kilimanjaro ภูเขาที่สูงที่สุดในแอฟริกา เมื่อปี 1970

ภาพต่อมา ถ่ายเมื่อปี 2000 เปรียบเทียบหิมะบนภูเขากับภาพแรก

และภาพล่าสุด ถ่ายในปี 2006 ซึ่งหิมะบนภูเขาหายไปมาก

ภาพ ธารน้ำแข็ง และภูเขาอื่นๆ ที่ถ่ายเปรียบเทียบกัน สามารภหาดูได้จากเว็บนี้ครับ
http://www.whyworldhot.com/an-inconvenient-truth-global-warming/#piclink
อย่างไรก็ดี มีนักวิทยาศาสตร์บางกลุ่ม กล่าวว่าสภาวะอากาศของโลก ได้เปลี่ยนแปลงไปโดยธรรมชาติ และได้มีทฤษฏีต่างๆ ออกมา แต่การที่เรา เผาผลาญเชื้อเพลิง ทำให้เกิด CO2 อย่างมหาศาลในปัจจุบัน จะไม่มีผลกับโลกนี้เลยหรือ ?
วิธีแก้ปัญหาโลกร้อน 10 อย่างง่ายๆ ที่คุณทำได้ด้วยตัวเอง
http://www.whyworldhot.com/stop-global-warming/ten-things-to-do/
คู่มือช่วยลด ภาวะโลกร้อน Ten Things To Do จาก An Inconvenient Truth ครับ
1. เปลี่ยนหลอดไฟ
การเปลี่ยนหลอดไปจากหลอดไส้เป็นฟลูออเรสเซนต์หนึ่งดวง จะช่วยลด คาร์บอนไดออกไซด์ ได้ 150 ปอนด์ต่อปี
2. ขับรถให้น้อยลง
หากเป็นระยะทางใกล้ๆ สามารถเดินหรือขี่จักรยานแทนได้ การขับรถยนตร์เป็นระยะทาง 1 ไมล์จะปล่อย คาร์บอนไดออกไซด์ 1 ปอนด์
3. รีไซเคิลให้มากขึ้น
ลดขยะของบ้านคุณให้ได้ครึ่งนึงจะช่วยลด คาร์บอนไดออกไซด์ ได้ถึง 2400 ปอนด์ต่อปี
4. เช็คลมยาง
การขับรถโดยที่ยางมีลมน้อย อาจทำให้เปลืองน้ำมันขึ้นได้ถึง 3% จากปกติ
น้ำมันๆทุกๆแกลลอนที่ประหยัดได้ จะลด คาร์บอนไดออกไซด์ ได้ 20 ปอนด์
5. ใช้น้ำร้อนให้น้อยลง
ในการทำน้ำร้อน ใช้พลังงานในการต้มสูงมาก การปรับเครื่องทำน้ำอุ่น ให้มีอุณหภูมิและแรงน้ำให้น้อยลง จะลด คาร์บอนไดออกไซด ์ได้ 350 ปอนด์ต่อปี หรือการซักผ้าในน้ำเย็น จะลด คาร์บอนไดออกไซด์ ได้ปีละ 500 ปอนด์
6. หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีบรรจุภัณฑ์เยอะ
เพียงแค่ลดขยะของคุณเอง 10 % จะลด คาร์บอนไดออกไซด์ ได้ 1200 ปอนด์ต่อปี
7. ปรับอุณหภูมิห้องของคุณ(สำหรับเมืองนอก)
ในฤดูหนาว ปรับอุณหภูมิของ heater ให้ต่ำลง 2 องศา และในฤดูร้อน ปรับให้สูงขึ้น 2 องศา จะลด คาร์บอนไดออกไซด์ ได้ 2000 ปอนด์ต่อปี
8. ปลูกต้นไม้
การ ปลูกต้นไม้ หนึ่งต้น จะดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 1 ตัน ตลอดอายุของมัน
9. ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ใช่
ปิดทีวี คอมพิวเตอร์ เครื่องเสียง และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ เมื่อไม่ใช้ จะลดคาร์บอนไดออกไซด์ได้นับพันปอนด์ต่อปี
และอย่างสุดท้าย
10. บอกเพื่อนๆของคุณเกี่ยวกับปัญหาภาวะโลกร้อน วิธีแก้ปัญหา และช่วยกันปฏิบัติ
ความคิดเห็น