[SF] :: Are you kidding me? (JunHyuk) - [SF] :: Are you kidding me? (JunHyuk) นิยาย [SF] :: Are you kidding me? (JunHyuk) : Dek-D.com - Writer

    [SF] :: Are you kidding me? (JunHyuk)

    โดย iimm

    "ไม่ล้อเล่นดิ..." "ใครล้อเล่น"

    ผู้เข้าชมรวม

    2,807

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    5

    ผู้เข้าชมรวม


    2.8K

    ความคิดเห็น


    33

    คนติดตาม


    28
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  20 เม.ย. 57 / 17:18 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้

    เป็น SF ที่ต่อจาก [SF] Sickness (JunHyuk) นะคะ
    แต่ใครยังไม่ได้อ่าน Sickness ก็อ่านรู้เรื่องอยู่นะ (แล้วพูดเพื่อ?5555555)

    Enjoy reading งับ :3




    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      พลั่ก!”

       

      “โอ้ย!”     ผมทรุดลงกับพื้นสะอาดๆของห้องซ้อมทันที มือข้างหนึ่งกุมพื้นที่บริเวณหางคิ้วเอาไว้

      “เห้ย จุนเน่กูขอโทษ !!!”

      “พี่บ๊อบบบบ  ทำบ้าอะไรวะ เจ็บ!!” 

      “พวกมึงมีปัญหาส่วนตัวกันป่ะเนี่ย อย่าตีกันดิ 555555555” ปากหาเรื่องแบบนี้มีคนเดียวครับ คิมฮันบิน..

       

      สถานการณ์ในห้องซ้อมเต้นวุ่นวายมาก เต้นกันจนเลือดตกยางออก..

      คือไม่ใช่อะไรครับ  แค่ซ้อมเต้นแล้วไอ้พี่บ็อบเหวี่ยงแขนมาโดนหางคิ้วผม  แค่นั้น

      แค่นั้นจริงๆครับ! แค่นั้นนนนนนนนนนนนนน  TT_______TT

       

      “ไหนมึงเอามือออกดิ๊จุนเน่”   พี่บ็อบพยายามแกะมือผมออก เพื่อจะดูแผล

      “โอ้ยพี่เบาๆดิวะ ไม่ต้องเลย เดี๋ยวผมเอามือออกเอง”    ผมค่อยๆเอามือออกจากบริเวณที่โดนข้อศอกไอ้พี่บ็อบฟาด

      “เลือด..   จุนเน่มึงคิ้วแตก และกูไม่ชอบเลือด รีบทำให้มันหยุดเดี๋ยวนี้”

      “ทำไมพี่พูดงี้วะ   แล้วนั่นจะไปไหน!??  ไอ้พี่บ็อบ อย่านิสัยยยย” 

      ผมแหกปากแสดงอาการไม่พอใจใส่คนอายุมากกว่า  ที่ตอนนี้วิ่งหายออกไปนอกห้องเรียบร้อยแล้ว

      พี่บ็อบแม่-ง...  ทิ้งผมให้ต่อสู้กับความเจ็บปวดแสนสาหัส(?) เพียงลำพัง

      .

      .

      “จุนฮเวลุก  ไปหาหมอ”   ผมหูฝาดรึเปล่า? คนแบบพี่ฮันบินอ่ะนะ จะใจดีพาผมหาหมอ

      “กินอะไรมาพี่ ทำไมดูใจดีผิดปกติ 5555555”

      มึงเลิกพูดมากน่า ไปหาหมอได้แล้ว”

      “คิ้วแตกเฉยๆพี่  ไม่เป็นไร”

      “ คือหมอของมึงรออยู่ข้างนอกครับน้องรัก  ไม่อยากไปหาก็ตามใจ”

      “พี่ว่าไงนะ..”

      .

      .

      .

      “ดงฮยอก!”   ผมโถมตัวเข้ากอดคนตัวเล็กทันทีที่เจอกัน  คิดถึงชะมัด

      “ปะ.. ปล่อยก่อน แล้วเสียงดังทำไม อยู่ใกล้กันแค่นี้”

      “คิดถึง”

      “จุนเน่โคตรตอแหล”

      “พูดไม่เพราะ!!!!   เดี๋ยวโดน”

      “อะไร”

      “เดี๋ยวบอกตอนกลับห้อง... รู้กันสองคนไง คิคิคิ”

      “พูดบ้าอะไร ไหนขอดูคิ้วหน่อย”    คิมดงฮยอกกำลังเขินใช่ไหมครับ? 555555555 เปลี่ยนเรื่องเร็วเชียว

      “รู้ได้ไงว่าคิ้วแตก”  ผมถามพลางก้มหน้าลงเล็กน้อย เพราะหมอเตี้ยกว่าผม

      “พี่ฮันบินโทรมาตาม”

      “อ่า.. อย่างงี้นี่เอง”

       มือเล็กๆกำลังไล่ไปตามหางคิ้ว เพื่อสำรวจความเสียหายที่ไอ้พี่บ็อบได้ทำไว้ แล้วดงฮยอกก็วุ่นวายในการทำแผลให้ผมอย่างเบามือ  มีแฟนเป็นหมอมันดีแบบนี้นี่เอง คิคิ

       

      ว่าแต่เมื่อไหร่หมอจะทำแผลเสร็จครับ? 

      ผมไม่ชอบอยู่ใกล้ดงฮยอกแบบนี้เลยให้ตาย

      มันใกล้ไป..

      คือมันแบบ

      ปากบางๆนั่น..

      มันอยากจะ...

      .

      .

      .

      “หยุดมองแบบนั้นสักทีน่า”   หมอตัวเล็กพูดพลางแปะพลาสเตอร์ให้ผม อ่า.. เจ็บชะมัด T_T

      “ดูออกเหรอ?”

      “ถ้าแค่นี้ดูไม่ออก คงไม่ต้องเรียนมันละ หมออ่ะ”

      “เหรอ.. งั้นทำได้ใช่ไหม?”

      “อะไร”

      “ไหนบอกดูออก ขี้โม้”

      .

      .

      .

      “ทำได้..    แต่ที่ห้องมันโอเคกว่า”      

       


      ใครบอกว่าหมอน่ารักใสใสไร้เดียงสาครับ  ผมรบกวนยกเว้นดงฮยอกไว้คนนึงนะครับ ขอบคุณครับ.

       

      -      -     -     -     -     -     -     -     -     -     -      -     -     -     -     -     -     -     -     -     -      -     -     -     -     -     -     -     -     -     -      -     -     -     -     -     -     -     -    

       

      เช้านี้ที่โรงอาหารคณะครับ  หลังจากเดินไปส่งตัวเล็กที่ตึกเรียน ผมก็มาหาข้าวเช้าทานกับฮันบินฮยอง

      โอเค..
      ผมดูเหมือนไม่มีเพื่อนใช่ป่ะ..

      จริงๆคนที่ไม่มีเพื่อนคือพี่ฮันบินนะครับ 55555555 แม่-งไปแลกเปลี่ยนเมืองนอกมา เลยตกรุ่นมาเรียนกับผม

       

      “ไงมึง  ไอ้เด็กคิ้วแตก 5555555555   ปากแบบนี้ นี่คิมฮันบินของแท้ -_-

      “พี่ฮันบินมึงหุบปาก วันนี้ไอ้พี่บ็อบโดนเอาคืนแน่”

      “มึงจะไปทำอะไรมันได้  กล้ามแขนมัดเดียวมึงยังไม่มีเลย”

      “พี่ฮันบินมึง..”

       

      “อ้าว จุนเน่”  ยังด่าไอ้พี่ฮันบินไม่ทันจบ ก็มีเสียงเล็กๆของบุคคลที่สาม เข้ามาทักทาย

      “อ้าวววว พี่จินฮวาน สวัสดีครับ”  คิมจินฮวาน..  พี่ชายคิมดงฮยอก

      “ไงเรา ไม่เจอตั้งนาน  ตอนนั้นยังตัวเท่าดงฮยอกอยู่เลย ตอนนี้ดงฮยอกตัวเล็กไปเลย ฮ่าฮ่า”

      ครับ..  บ้านผมกับบ้านดงฮยอกสนิทกัน เราโตมาด้วยกัน

      ส่วนพี่จินฮวานก็เรียนหมอ ปี4แล้ว และต้องไปฝึกงานที่ รพ. นอกเมือง

       

      “พี่สบายดีมั้ยครับ? กลับมาเยี่ยมบ้านเหรอ แล้วเจอดงฮยอกรึยัง?”

      “เจอกันแล้ว  รอบนี้พี่กลับมาอยู่นี่เลย ฝึกงาน รพ. ของมหาลัย”

       

      แกร๊ง’       เสียงช้อนหล่นกระทบจาน   จานพี่ฮันบิน..

      “เห้ยผมเกือบลืม  นี่พี่ฮันบินครับ เรียนคณะเดียวกันกับผม..พี่ฮันบิน นี่พี่จินฮวาน” ผมทำหน้าที่แนะนำคนสองคนให้รู้จักกัน


      “รู้แล้ว”    

      “อ้าว พี่รู้จักกันเหรอ”

      “ยิ่งกว่ารู้จัก”     แล้วไอ้พี่หน้าโหดมันก็ลุกออกจากตรงนั้นไปเลยครับ เป็นบ้าอะไรวะ

      “เอ่อ......”     ผมไม่รู้จะต้องพูดอะไรต่อ ตอนนี้คำถามมากมายผุดขึ้นมาเต็มหัวผมไปหมด

      “งั้นพี่ไปก่อนนะจุนเน่  ต้องไปขึ้นไปดูคนไข้บน รพ. แล้ว ดีใจที่ได้เจอ :)" พูดพลางยิ้มให้ผมเล็กน้อย แต่ทำไมแววตาพี่ไม่ยิ้มเลย..?

      “อะ.. โอเคครับพี่  ไว้เจอกันใหม่นะครับ ฝากสวัสดีคุณแม่ด้วยครับ”

       

      .

      .

      .

       

       

      “เมื่อตอนเช้าพี่เป็นบ้าอะไรวะ เดินออกไปงั้น โคตรเสียมารยาทเลย”   ผมถามฮันบินฮยองด้วยน้ำเสียงตำหนิ ระหว่างทางเดินไปห้องซ้อม

      “.......จินฮวาน”

      “ก็ใช่ไง พี่จินฮวาน ที่เราเจอเมื่อเช้า”

      “แฟนเก่ากู.....”

      “เห้ยยยยยยยยยยย!!”

      “เค้าทิ้งกู..”

      “ว่าไงนะ”

      “ไปตั้งปีนึง..”

      “พี่พูดบ้าอะไรวะ”

      “กูเดินหนีเค้าแบบนั้น  มันไม่เจ็บเท่าตอนที่เค้าเดินหนีกูไปปีนึงหรอก”

      “.....ดงฮยอกไม่เห็นเล่าให้ผมฟัง”

      “ดงฮยอกไม่รู้เรื่อง ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพี่ตัวเองมีแฟน”

      “แล้วเลิกกันทำไม?”

      “หมอ..เป็นพวกเหตุผลเยอะ   เรามันพวกใช้อารมณ์เยอะ  ถึงได้เรียนคนละคณะ มึงก็ระวังไว้เถอะ กับดงฮยอกอ่ะ...

      ความต่างสุดขั้วทางความคิด มันทำให้เราไม่เข้าใจกันเท่าไหร่”

       

      “พี่พูดอะไร ผมไม่เข้าใจ”

      “เดี๋ยวก็เข้าใจ มึงไม่ต้องรีบ”

      “อ่าวพี่ นี่แช่งคู่ผมป่ะเนี่ย ไม่ตลกนะโว้ย”

      “กูป่าว กูแค่อยากบอกว่า ถ้าวันนึงเกิดทะเลาะกัน มึงลองมีเหตุผลบ้าง อย่าใช้แต่อารมณ์ อย่าทำเหมือนกูไง”

      “แล้วพี่จะยังไงเนี่ย ซึมทั้งวันเชียว”

      “ไม่รู้.. แต่เห็นหน้าจินฮวานวันนี้แล้วคิดถึงชะมัด”

      “คิดถึงก็ไปหาดิ อยู่ใกล้แค่นี้เอง พี่อย่าโง่ 555555555

      “อ่าวไอ้เชี่ยนี่ หลอกด่ากู”

       

      ตั้งแต่ผมสนิทกับไอ้พี่ฮันบินมา เพิ่งเห็นว่ามึนซึมวันนี้แหละ ที่สำคัญแฟนเก่าไม่ใช่ใคร คิมจินฮวานพี่ชายคิมดงฮยอก..

      หึ..  ผมว่าผมมีเรื่องต้องคุยกับดงฮยอกแล้วล่ะ

       

      -      -     -     -     -     -     -     -     -     -     -      -     -     -     -     -     -     -     -     -     -      -     -     -     -     -     -     -     -     -     -      -     -     -     -     -     -     -     - 

      ตอนนี้ 4ทุ่ม 50 นาที  ซ้อมตั้งแต่เย็นถึงดึก ข้าวก็ยังไม่ได้กิน พอไอ้พี่ฮันบินบอกว่าเลิกซ้อมได้ ผมแทบพุ่งตัวทะลุประตูออกจากห้องซ้อม แล้วขับรถกลับห้องด้วยความรวดเร็ว

      ก็คิดถึงหมอ ไม่เห็นแปลก.

       

       

      “กลับมาแล้วครับบบบ!!!!   แค่กๆๆๆ”  

      “ตะโกนทำบ้าอะไร  คอพังหมดแล้วเห็นมั้ย”  ดงฮยอกดุอีกแล้วครับ T^T

      “ซ้อมเยอะอ่ะ เจ็บคอหมดละเนี่ย”

      “นั่งรอนี่นะ แปบนึง”   

      คนตัวเล็กกลับมาพร้อมไฟฉายและแผ่นกดลิ้นที่พวกหมอชอบใช้กัน.. มีของแบบนี้อยู่ในห้องด้วยรึไง จะเปิดคลินิกเหรอ?

       

      “อ้าปาก”

      “หมออะไร ไม่เห็นใจดีกับคนไข้เลย”

      “จุนฮเว อ้าปาก”

      “ครับๆๆ ขอโทษครับ”    ไม่เห็นต้องทำหน้าดุขนาดนั้นเลยนี่  =..=

      .

      .

      “คอแดงจากไข้หวัดครั้งที่แล้ว แล้วไปร้องเพลงเยอะแบบนั้น อาจจะหายช้าหน่อย

      แต่ไม่ต้องห่วง มันไกลหัวใจ ไม่ตายหรอก”

       

      “เหรอ..  แต่ถ้าดงฮยอกอยู่ไกลหัวใจ นี่อาจตายนะ วิจัยเอง”  พูดแล้วยักคิ้วให้คนตัวเล็กตรงหน้าไปครั้งนึง

      “............. ไปอ้วกแป๊บนะ”

       

      55555555555555555555555555555555555 หน้าดงฮยอกเมื่อกี้โคตรตลกเลย ให้ตายดิ 

       

      .

      .
      .

      ตอนนี้พื้นที่บนตักผมถูกแทนที่ด้วยหัวสีน้ำตาลอ่อนของดงฮยอกไปเรียบร้อยแล้วครับ..

       

      ผมป่าวนะ..

      ผมแค่นั่งพิงหัวเตียง แต่งเพลงอยู่ดีๆ อีกคนอาบน้ำเสร็จ คว้าชีทเรียน ใส่แว่น แล้วล้มตัวเอาหัวมาหนุนตักผมเอง

      ดูทำเข้า..

      มานอนตักคนอื่นหน้าตาเฉย  แต่ไม่ยอมแม้แต่จะสบตาผมด้วยซ้ำ

      ตาเล็กไม่ละจากชีทเรียนสักนาทีเดียว  เออ.. ขยันเข้าไป

      ในเมื่อไม่สนใจกัน ผมจะไปทำอะไรได้  จริงไหม?

       

      แต่..

      หน้าใสๆใต้กรอบแว่นนี่มันโคตรน่ารักเลยว่ะ      อดใจไม่ไหวเลย เอื้อมมือไปบีบจมูกมันทีนึง

       

       “จุนเน่อย่ากวนดิ”

      “ก็ลุกไปอ่านดีๆดิวะ มานอนอยู่นี่ทำไม”

      “ทำไม นอนไม่ได้รึไง”

      “นอนอ่ะได้..  แต่คงไม่ได้อ่านหรอก..”   จมูกผมไปคลอเคลียอยู่ที่หน้าฝากอีกคนตอนไหนไม่รู้.. 

      .

      .

      .

      “ก็ไม่ได้กะมาอ่านเท่าไหร่หรอก...”

      “ว่าไงนะ”

      “.. จูบหน่อยได้มั้ย  วันนี้เหนื่อยจัง”  

      “คิมดงฮยอก..  ไม่ล้อเล่น ดึกแล้ว”

      “ใครล้อเล่น”

       

      จบคำพูดทีเล่นทีจริงของคนตัวเล็ก ผมก็ไม่สนอะไรทั้งนั้นแล้วครับ ไม่สนด้วยว่าล้อเล่นรึเปล่า


       “อะ..อื้ออ”  

      “ถอดแว่นได้มั้ย...”      คำพูดที่ชิดริมฝีปากเพียงแค่กระดาษกั้น..

      .

      .

      .

      “มันจูบไม่ถนัด..”

       .
       .

       .

       คืนนี้คงไม่ได้นอนแล้วมั้ง   ผมว่านะ.

       

       

       END.

       

      อย่าเพิ่งขว้างรองเท้ามานะคะ 5555555555555 ใจเย็นๆนะคะ ใจเย็นๆ

      ชอบ ไม่ชอบ ติชม อะไรยังไง เชิญตามสบายเลยฮะ ^^

      ส่วนคู่บีจิน เดี๋ยวตามมาโนะ ^-^

      ขอบคุณพระคุณที่เข้ามาอ่านกันนะ เค้ามือใหม่มากจริงๆ -////- ได้รับแนะนำเค้าดีใจนะ จะได้ไปปรับปรุงให้ดีขึ้น กิกิ^^

      >>> ไปสกรีมในทวิตได้นะคะ @kii_mm  555555555555 ไปกรี๊ดใส่หน้าได้เลย เต็มที่ๆ ^O^

      เลิฟๆทุกคนฮะ ม๊วฟฟฟ -3-

       

       

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×