[SF] That kiss ... (JunHyuk) - [SF] That kiss ... (JunHyuk) นิยาย [SF] That kiss ... (JunHyuk) : Dek-D.com - Writer

    [SF] That kiss ... (JunHyuk)

    โดย iimm

    ไม่ได้ทะเลาะ สาบาน ไม่ได้คุยอะไรกันเลยตั้งแต่เมื่อคืนเลยต่างหาก..

    ผู้เข้าชมรวม

    2,521

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    2.52K

    ความคิดเห็น


    32

    คนติดตาม


    28
    หมวด :  นิยายวาย
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  24 เม.ย. 57 / 15:56 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    [SF] That kiss ... (JunHyuk)
     
    เป็นภาคต่อของเรื่องก่อนๆๆๆ เนอะ ^^
    SF ทุกเรื่อง เรื่องจะต่อกันอยู่น้า
    ใครยังไม่ได้อ่านอันก่อนๆ ลองอ่านดูก่อนโนะ
    เพื่ออรรถรสที่ดีขึ้น กิกิ ^^
     
    Enjoy reading จ้า 
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      วันนี้ผมเบื่อ  ผมเสียใจ ผมน้อยใจ ผมไม่อยากกลับคอนโด ไม่อยากเจอ ไม่อยากคุยอะไรด้วยทั้งนั้น

      จุนฮเว ทำไมต้องผิดสัญญา..

       

       

      “ฮัลโหล พี่จิน..  วันนี้วันศุกร์ พี่กลับบ้านไปหาแม่รึเปล่า ผมกลับด้วย...”  พี่จินฮวานได้โปรด ผมอยากกลับบ้านจริงๆ

      [นึกอะไรอยากกลับบ้านเนี่ยเรา?  ไปด้วยกันก็ได้ วันอาทิตย์บ่ายๆค่อยกลับมา ]

      “ครับ.. ผมรออยู่ใต้คณะนะ”

      [ เห้ย กลับไปรอคอนโดก็ได้ คนไข้เยอะ พี่ยังเก็บเคสไม่หมดเลย ]

      “ไม่เอา..”

      [ เป็นอะไรรึเปล่าดงฮยอก..? ]

      “...........”

      [ ทะเลาะกับจุนเน่เหรอ? ]

      “ก็ไม่เชิง...    พี่รีบไปตรวจคนไข้เถอะครับ ผมรอได้ แค่นี้นะ”

       

      .

      .

      .

      ไม่ได้ทะเลาะ  สาบาน

      ไม่ได้คุยอะไรกันเลยตั้งแต่เมื่อคืนเลยต่างหาก..

       

       

      -     -     -     -     -     -    -     -     -     -     -     -     -     -  

       

       

      ตึ่งๆๆ   ตึ่งๆๆๆ 

      นี่จะเคาะประตูทำไมวะ ดึกดื่นขนาดนี้ เดี๋ยวก็โดนข้างห้องด่าเอา กุญแจก็มี ทำไมไม่ไขเข้ามา?

      เดือดร้อนผมต้องลุกจากโต๊ะหนังสือด้วยความไม่เข้าใจว่าทำไมจุนฮเวไม่ไขประตูเข้ามาเอง…

       

      “..............”   ภาพที่เห็นหลังจากเปิดประตูนั่นตอบคำถามในใจผมได้ดีทีเดียว

      “ดะ.. ดงฮยอกคือ..  พี่ไม่ได้ตั้งใจให้มันเมาขนาดนี้นะ คือเล่นเกมส์กัน.. แล้วจุนเน่มันแพ้บ่อย ก็เลย...”

      “พี่ฮันบินพอเหอะ...”

       

      กูจุนฮเวก็คือกูจุนฮเว...  ความจริงแล้วผมไม่เคยว่าเรื่องกินเลย จะเหล้า วอดก้า ไวน์ เบียร์ ห่าเหวอะไรก็ช่าง แค่อย่าเมาจนหมดสภาพแบบนี้  ...ผมเหนื่อยมาเยอะแล้วนะ เช็ดอ้วกให้ตั้งแต่ม.ปลาย นี่คบกันก็นึกว่าจะแคร์ผมมากขึ้น  แต่เปล่าเลย..

       

      “ดงฮยอกอ่า...  พวกพี่ขอโทษ”

      “...ช่างเหอะ ผมชินแล้ว”

      ผมรู้ว่าน้ำเสียงของผมมันไม่ได้หมายความอย่างที่พูดแม้แต่น้อย..   ผมแทรกตัวเข้าไปช่วยพี่ฮันบินพยุงจุนฮเว เอาแขนข้างหนึ่งของมันพาดไหล่ผมไว้  แล้วค่อยๆพาเข้าไปนอนในห้อง

       

      โอเค.. ทั้งกลิ่นเหล้า  ทั้งกลิ่นบุหรี่..   

       

      “งั้นพี่กลับนะ ป่านนี้จินฮวานก็คงโมโหไม่ต่างกัน...”   ไม่หรอก.. พี่ฮันบินไม่ได้เมาเลย แล้วพี่จินใจดีกว่าผมเยอะ

      “ครับ.. ขอบคุณที่พาจุนฮเวมาส่งครับ”

      “ดงฮยอกใจเย็นๆนะ.. มันคงไม่ได้ตั้งใจหรอก อย่าดุมันเยอะนักนะ พี่ขอล่ะ..”

      “ครับ....”       ผมจะพยายาม..

      .

      .

      .

      ผมเดินเข้าห้องน้ำ และกลับเข้าห้องนอนอีกครั้งพร้อมกับกะละมังใส่น้ำอุ่น

      ผ้าขนหนูถูกมือเล็กบรรจงชุบน้ำอุ่น แล้วเช็ดไปทั่วใบหน้าและลำคอของคนที่หลับไม่รู้เรื่องอย่างเบามือ..

       

      จับใบหน้าหล่อพลิกให้หันไปอีกข้าง เพื่อจะได้เช็ดสะดวกขึ้น.. แต่การกระทำทั้งหมดแทบหยุดชะงัก เมื่อสายตาเหลือบไปเห็นรอยแดงๆที่ต้นคอขาว..

       ผมก็ไม่ได้โง่ขนาดที่ดูไม่ออกว่ารอยบ้านั่นเกิดจากอะไร..    ไหนจะรอยลิปสติกบนปากนายอีก...

       

      นี่เมาขนาดไหนกัน?

       

      คนเมาทำอะไรก็ได้ ไม่ผิดงั้นสิ?  จะจูบใครก็ได้ หรือยอมให้คนอื่นทำอะไรก็ได้งั้นเหรอครับ?

      งั้นถ้าผมทำบ้าง...  ก็ได้ใช่ไหมครับ?

       

      ผ้าขนหนูถูกโยนใส่กะละมังอย่างไม่ใยดีอีกต่อไป

      พี่ฮันบินครับ   ผมทำตามที่พี่ขอแล้วนะ..

      ผมไม่ได้ดุจุนเน่เลย ไม่ได้ดุสักคำเดียว...

      ไม่มีคำพูดอะไรใดๆหลุดลอดออกมาจากปากผมทั้งนั้น

       

      -     -     -     -     -     -    -     -     -     -     -     -     -     -    

       

                     

                ทันทีที่รู้สึกตัว ผมก็รู้สึกได้ถึงอาการเมาค้างจากเมื่อคืน.. อ่า.. หนักหัวชะมัดเลยให้ตาย

      เดี๋ยวนะ.. แล้วผมกลับมาห้องตัวเองได้ยังไง?  ดงฮยอกคงไม่ได้ตากฝนออกไปรับเหมือนคราวที่แล้วใช่ไหม?

       

      แปลก...

       

      ปกติถ้าผมยังไม่ตื่น แล้วดงฮยอกต้องออกไปเรียน จะมีโพสท์อิทแปะอยู่บนหัวเตียงเสมอ ว่าวันนี้เค้าเข้าเรียนกี่โมง เลิกเรียนกี่โมง  อาหารเช้าได้เตรียมไว้ให้ผมรึเปล่า  ดงฮยอกน่ารัก.. เขาจะเขียนบอกผมแบบนี้เสมอๆ

      แต่วันนี้ไม่มี...

      .

      .

       

       

                      ตกเย็นหลังเลิกเรียน ชีวิตของผมและพวกพี่ๆในชมรม ก็จะขังตัวเองอยู่ในห้องซ้อม รวมถึงวันนี้ด้วย

      “ฮันบินฮยอง เมื่อคืน.. ผมกลับห้องยังไง?” ถามแบบกล้าๆกลัวๆในคำตอบที่จะได้มา

      “กูไปส่งเอง”

      “เห้ออออ สบายใจขึ้นมาหน่อย นึกว่าพี่โทรตามดงฮยอกมารับผม ไม่งั้นผมโดนหมอบ่นยาวแน่ๆ”

      “แล้วนี่โดนดุเยอะรึเปล่า?  เมื่อวานดูสีหน้าดงฮยอกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ตอนเห็นสภาพมึง”

      “ไม่นะ.. ไม่ได้ดุอะไร”

      “............”

      “ไม่ได้พูดอะไรเลยมากกว่า”

      “............”

      “จะว่าไป.. ยังไม่เห็นหน้าเลย ตั้งแต่เมื่อคืนน่ะ”  ผมรู้สึกได้เลย.. ว่าขาดอะไรไป ดงฮยอกหายไปไหน?

      “อ้าวเหรอ มึงคงหลับไม่รู้เรื่องเองมั้ง...    ว่าแต่คอมึงไปโดนอะไรมา?”

      “อะไรนะ? คอ..?”  ผมวิ่งไปส่องกระจกในห้องซ้อมอย่างรวดเร็ว

       

      .......เชี่ยละ  อย่าบอกนะว่าดงฮยอกเห็นแล้ว?  



      ผมตามหาดงฮยอกทั้งวัน โทรหาก็ไม่ติด เพื่อนคณะเดียวกันกับดงฮยอกก็บอกว่าเห็นแค่แป๊บเดียว แล้วก็ไม่รู้ว่าหายไปไหน

       


      ให้ตายเถอะ.. ผมเข็ดไปอีกนานเลย

      ดงฮยอกไม่เคยทิ้งผมไปแบบนี้ ปกติเค้าจะบ่นผมมากกว่า..

      ผมชอบนะ.. อย่างน้อยก็ดีกว่าที่เค้าหายไปแบบบนี้ ผมทำอะไรไม่ถูกเลย

       

      ดงฮยอก..  ขอโทษ

       

      -     -     -     -     -     -    -     -     -     -     -     -     -     -

       


             “แม่ครับ คิดถึงจัง”  พอถึงบ้านผมก็วิ่งไปกอดแม่ทันที ครอบครัวคือดีที่สุดแล้วจริงๆ

      “ไงลูก ไม่กลับบ้านตั้งนาน ได้ข่าวมีคนดูแลแล้ว ไม่ยอมมาหาแม่เลยนะ”  แม่ลูบหัวผม พร้อมกับหัวเราะเบาๆ

       

      “..........ใครบอกเนี่ย”

      “แม่ของฝั่งนู้นบอกมา.. เค้าบอกว่าลูกชายเค้าดูเป็นผู้เป็นคนขึ้นนะ หลังจากต้องมาดูแลหมอดงฮยอก..”

      “เห๊อะ เป็นผู้เป็นคนอะไร เมื่อวานเมาเป็นหมาเลย  อุ๊บ!

       

      ผมรีบเอามือปิดปากไว้ แต่คงไม่ทันแล้ว..

      “......ว่าแล้วเชียว ว่าต้องมีอะไร ไม่งั้นไม่มาหาแม่หรอก ใช่มั้ยจินฮวาน” แม่หันไปถามพี่ชายผม นั่นก็ตอบรับกันดีเหลือเกิน

       

      “โธ่..  แม่อ่ะ....”   ก็ตอนนี้ผมไม่โอเคนี่ครับ ขออยู่บ้านสัก2วันนะ ผมโกรธ ไม่อยากเจอหน้ามันเลย ให้ตาย

      .

      .

      .

      วันนี้ผมเจริญอาหารมากที่สุดในรอบสองเดือนเลยก็ว่าได้..  ข้าวฝีมือแม่ยังไงก็ยังเป็นที่หนึ่งสำหรับผมเสมอ  คงต้องกลับมาบ่อยๆแบบพี่จินฮวานบ้างแล้ว อยู่คอนโดกินแต่ข้าวกล่อง
      แถมกินกับจุนฮเวแค่สองคนเอง  

       

      อีกละ  คิดถึงอีกแล้ว

      อะไรนักหนา นายช่วยออกไปจากสมองสัก 2-3 ชั่วโมงจะได้ไหม...

       .
       
       .

       


      ติ๊งต่อง  ติ๊งต่อง’    ใครเป็นบ้ากดออดเวลานี้วะ ฝนตกหนักขนาดนี้ มีธุระอะไรด่วนรึไง

      “เดี๋ยวผมไปเปิดเองครับ”   แม่กับพี่จินฮวานกำลังทานข้าวอย่างเอร็ดอร่อย ผมเลยอาสาเดินไปเปิดประตู

       

      .

      .

      “ดงฮยอก..”

      “จุน...      มาทำไม กลับไปเลย!” 

      “เฮ้ เดี๋ยวสิ อุตส่าห์ขับรถมาถึงนี่ มันไม่ใกล้นะ”

      “เออไง แล้วมาทำไม”    ไกลก็ไม่ต้องมา ไม่ต้องมาให้เห็นหน้าเลย ไอ้คนผิดสัญญา

      “โธ่.. ดงฮยอก  ขอโทษ..”   ไม่ต้องมาทำหน้าตาแบบนี้ คิดว่าน่าสงสารมากรึไง

       

      “ดงฮยอก จุนเน่มารึเปล่าลูก พาเข้ามาในบ้านก่อนเร็ว ฝนตกหนัก เดี๋ยวป่วยพอดี” แม่ตะโกนมาจากข้างใน

      “แม่รู้ไง ว่ามันจะมา”

      “จุนเน่โทรมาหาแม่เอง ถามว่าดงๆอยู่มั้ย จะเข้ามาหา แล้วก็บอกคิดถึงแม่ด้วย ไม่ได้แม่เจอนานเลย ”

       

      “จุนฮเว..  ร้ายนักนะ”  

      .

      .



      “เป็นไง.. จุนฮเวลูก อาหารแม่ยังใช้ได้อยู่ใช่มั้ย?” เออดี.. สรุปผมยังเป็นลูกแม่ไหมครับ? คุยกับผมบ้าง

      “อร่อยที่สุดอยู่แล้วครับ ^-^” ขอรางวัลหน้าตาตอแหลแห่งชาติให้จุนฮเวหน่อยครับ

      “แล้วจะค้างที่นี่ด้วยรึเปล่าลูก?”

      “โอ.. ผมเกรงใจมากเลยครับ ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวขับรถกลับคอนโดก็ได้ แหะๆ ^^’” ขอรางวัลเรื่องคำพูดตอแหลเพิ่มอีกหนึ่งที่ครับ

      “โอย ไม่เอาๆ แม่ไม่ให้กลับ ดึกดื่นแล้ว นอนนี่นะลูกนะ”

      “ครับผม ขอบคุณแม่มากครับ ^^

      .

      .

      “แล้วก็....  คนแถวนี้โกรธอะไรก็ไปคุยซะ อย่าโกรธกันข้ามวัน เสียดายเช้าวันใหม่ที่สดใส มีอะไรคุยให้จบคืนนี้นะลูก..”

      “.....................”

      “.....................”

      “นะลูก... ดงฮยอก”     แม่เจาะจงผมทำไม คนที่ผิดมันนั่งหน้าเป็นอยู่โน่น ปัดโธ่...

      “..ก็ได้”  

       

       

       

      .

      .

      ถึงปกติจะนอนห้องเดียวกันทุกวัน..  แต่วันนี้มันไม่ปกติสักนิดเดียว

      ผมไม่พอใจ ผมโกรธ จุนฮเวดูออกแน่นอน..

      แต่ไม่เห็นจะทำอะไรเลย ไม่ง้อ ไม่พูดถึงเรื่องเมื่อคืนด้วยซ้ำ ถ้าจะเงียบแบบนี้ก็เชิญ ผมนอนละ

       

      .

      .

      .

       

                      สงสัยรอบนี้คุณหมอตัวเล็กคงจะโกรธผมจริงๆ...  เอาจริงผมก็ผิดอยู่ดี แก้ตัวยังไงก็ผิด ผิดตั้งแต่ยอมให้ไอ้พวกพี่บ้าลากออกไปกินเหล้าแบบนั้น   รู้ทั้งรู้ว่าดงฮยอกเป็นห่วงมาก..

      ผมนี่มันแย่จริงๆ

       

      “ดงฮยอก.. ลุกขึ้นมาก่อน  ผมเปียกอย่างนั้นจะนอนได้ยังไง เดี๋ยวไม่สบายนะ”   ประโยคแรกจากผม ตั้งแต่เข้ามาในห้องนี้

      “อย่ามายุ่ง”      เป็นไปตามคาดเลย.. เห้อ..

       

      “.............” 

       ผมไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่ตัดสินใจเลื่อนมือไปช้อนหลังคนตัวเล็ก บังคับให้ลุกขึ้นมานั่ง.. โดยที่มีผมนั่งซ้อนอยู่ด้านหลัง

       

      ผมสีน้ำตาลอ่อนที่เปียกอยู่ในตอนแรก ถูกเช็ดอย่างเบามือ.. โดยผมเอง..

      มันดูเก้ๆกังๆแปลกๆ เพราะด้วยความที่ผมไม่เคยทำอะไรแบบนี้.. แน่สิ ก็มีแต่ดงฮยอกที่เป็นคนทำให้ผมตลอด...

       

      ผมกำลังง้อนะ.. รู้สึกได้บ้างมั้ย..?

       

      “เสร็จแล้วใช่มั้ย? จะนอนแล้ว เลิกบังคับซะที”

       

      “ดงฮยอก.... ”   ผมเลิกเช็ดผมให้คนตัวเล็กแล้ว..

      ที่ทำตอนนี้คือเลื่อนมือทั้งสองข้างโอบรอบเอวของอีกคนพร้อมเอาคางเกยไหล่อีกคนไว้

      “.................”

      “...ดงฮยอกครับ  ขอโทษ..”

      “................”

      “จะไม่อธิบายว่ารอยต่างๆที่นายเห็นมันมาได้ยังไง  แต่ให้รู้ไว้ว่าจุนฮเวคนนี้ไม่ได้เต็มใจแน่นอน”

      “.................”

      “ส่วนเรื่องบุหรี่.. คงได้กลิ่นใช่มั้ย?”

      “................”

      “ไม่ได้สูบนะ ก็เลิกสูบตั้งแต่ที่คบกัน.. ไม่เคยผิดสัญญา..

        ที่กลิ่นแรงเพราะเพื่อนที่ไปสูบกันหลายคน กลิ่นมันติดเสื้อ สาบานได้”

       
      .
      .

      .

      “เรื่องจูบคนอื่น...  จะรู้ได้ไงว่าจูบแบบไม่เต็มใจจริงๆ”  

      คนตัวเล็กคงไม่พอใจรอยบนคอผมจริงๆ .. ผมขอโทษ



      “ตอนนั้นเมามากๆ อยู่ๆก็มีใครไม่รู้มาจูบที่คอ.. ตอนแรกก็นึกว่าเป็นนาย..”

      “..............”

      “พอเขาเปลี่ยนมาจูบปาก เลยรู้ว่ามันไม่ใช่..  ดงฮยอกไม่เคยจูบแบบนี้..”

      “.............”

       

       

      “แล้วต้องเป็นแบบไหน..?”  ตัวเล็กหันหน้ามาถามพลางจ้องตาผมไม่กระพริบ

      “..........”


      .

      .

      “แบบนี้รึเปล่า....”       

       ไม่ทันได้ตั้งตัว ดงฮยอกเป็นฝ่ายแนบริมฝีปากบางลงบนริมฝีปากของผมอย่างไม่ลังเล  จูบของดงฮยอกวันนี้เต็มไปด้วยความเอาแต่ใจ..  ผมรู้สึกได้เลย.. หมอคนนี้กำลังเอาแต่ใจตัวเองมากๆ

       

      แต่ผมชอบนะ..

       

      “อะ..อื้ออ”   อีกคนกำลังจะขาดอากาศหายใจ..  

       

      เรื่องจูบ..  ต่อให้ดงฮยอกเริ่มก่อน.. ก็ต้องแพ้ผมอยู่ตลอดนั่นแหละน่า

       

       

      “ทำไมจูบวันนี้ดูเอาแต่ใจจังเลยครับ.. หื้ม?”

       พูดพลางจับอีกคนให้หันกลับมากอดกันดีๆ   มือข้างหนึ่งของผมก็ลูบผมสีอ่อนของดงฮยอกอยู่อย่างนั้น

      “.........”  

      “หวงเหรอ?”



      “.....อือ”      มือเล็กเอื้อมมือมาโอบกอดผมพร้อมกับซุกหน้าลงบนอก..  บอกแล้วใช่ไหมว่าดงฮยอกน่ารัก เชื่อผมเถอะ

       

      “คนดีไม่คิดมากนะ ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ”

      “ไม่ชอบรอยตรงคอนั่นเลย รอยจากใครก็ไม่รู้...  ทำไมต้องมาอยู่บนคอนายด้วย”

                     ได้ทีก็งอแงใหญ่เลย  ท่าทางจะอาการหนักนะเนี่ย..    

       

      “รอยที่คอมันมาจากใครก็ไม่รู้ใช่ไหมครับ...?"

      “...............”




      “งั้น....”    ผมเลื่อนหน้าไปกระซิบเบาๆข้างหูคนตัวเล็ก..

      .

      .

      .

       

      “ทำให้ใหม่สิครับ..  นะ”

       

       

       

      END.

      เรื่องนี้สั้นแปลกๆ เก๊าขอโทษ มันง่วงนิดนึงอ่ะ.. แง๊
      บอกกล่าวกันได้ เม้นได้นะ ฟรี ไม่เสียตัง ฮี่ฮี่
      ขอบพระคุณจากใจจริงที่เข้ามาอ่านนะคะ ^^
      ลงตอนตี 3 ทุกวันเลย ขอโทษ -/\- #ฟิคเพื่อคนนอนเช้า 555

      ยังไม่ได้เช็คคำผิด ถ้ามีผิดพลาดเม้นบอกเลย ขออภัยด้วยจ้า
      เดี๋ยวมาแก้ให้พรุ่งนี้นะคะ นอนแย้วว
      เลิฟฟฟ -3-

       

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×