คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ✉ จดหมายฉบับที่2 ✉ จดหมายที่ถูกส่งคืน
✉ จดหมายฉบับที่2 ✉ จดหมายที่ถูกส่งคืน
"ข้าวผัดกุ้งได้แล้วนะ...35บาทจ้า"เสียงของคุณป้าแม่ค้าดังขึ้นทำให้ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งโครงหน้าเรียวยาวสมส่วนดูคมเข้มและนัยตาสีเขียวอมน้ำตาล...ผิวออกแทนนิดๆตามสไตล์ลูกครึ่งลุกขึ้นมาจากที่นั่งแล้วตรงไปยังแม่ค้าคนนั้นพร้อมยื่นเงินไปให้แบบพอดีแล้วรับถุงนั้นมาก่อนจะเดินออกไปโดยไม่สนสายตาของบรรดาชายหญิงที่มองตามกันให้ควัก
ชายหนุ่มเดินมาเรื่อยๆไม่นานนักก็ถึงคอนโดสูงเกือบ30ชั้นที่อาศัยอยู่เพียงลำพังเมื่อไม่นานมานี้หลังจากที่จบมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ
ตึ๋ง~
เสียงลิฟท์ดังขึ้นบ่งบอกว่าถึงที่หมายแล้ว...ร่างสูงก็ก้าวออกมาจากลิฟท์แล้วเดินตรงไปที่ห้องอย่างรวดเร็ว
กริ๊ก!
ผมไขกุญแจเข้าไปแล้วล๊อคกลอนทันทีจากนั้นก็เดินเข้าไปในห้องผ่านห้องรับแขกทางด้านด้านไปจนไปถึงห้องครัวขนาดเล็ก...ผมทำอาหารไม่เป็นนอกจากต้มมาม่าเพราะงั้นไม่จำเป็นที่ต้องมีห้องครัวขนาดใหญ่เลยสักนิด
หลังจากกินข้าวเย็นเรียบร้อยผมก็มานั่งลงที่โซฟาด้านหน้าพร้อมกับเปิดทีวีดูไปเรื่อยๆ
"น้องโอ๊คจะเป็นไงบ้างนะ"ผมมองขึ้นไปบนเพดานแล้วนึกถึงหน้าน้องสาววัย12ที่อยู่กับแม่ที่ชลบุรี
ใช่แล้วผมเป็นคนชลบุรีแต่มาเรียนต่อที่กรุงเทพฯพอจบก็เลยหางานทำที่นี่ซะเลยเพราะมีเพื่อนฝูงอยู่แถวนี้เยอะพอสมควร
และเขาคิดว่าการที่ต้องอยู่ห่างคงไม่มีปัญหาอะไรเพียงแค่กลับไปเยี่ยมบ้านบ้างก็ทำให้ผมได้กำลังจากแม่และน้องสาวมามากทีเดียว
เมื่อก่อนผมก็กลับบ้านเดือนละครั้งสองครั้งอย่างสม่ำเสมอตามเวลาที่ว่างแต่พอเริ่มทำงานกลับไม่มีเวลากลับบ้านมาสามเดือนกว่าแล้ว...
ผมคิดถึงน้องสาววว
ผมคิดถึงแม่
แต่จะติดต่อไปหาก็ไม่ได้แล้วเพราะเมื่อสองอาทิตย์ก่อนตอนที่ผมไปเที่ยวผับกับเพื่อน...ดิน...หนึ่งในเพื่อนของผมมันดันเมาซะเละแถมเพื่อนคนอื่นดันทิ้งมันไว้กับเขาซะงั้นก็เลยต้องแบกกันกลับแต่เพื่อนดินดันสะดุ้งขึ้นมาแล้วควักโทรศัพท์ผมแล้วขว้างไปกลางถนนสุดแรงเกิด...เสียงของโทรศัพท์ที่ถูกเหยียบดังติดกันจนผมแถบจะตบหัวเพื่อนรักที่เมาอยู่ข้างๆนี่ซะทีแต่คิดอีกทีไว้รอตื่นค่อยจัดการทีเดียวคงง่ายกว่าเลยตัดสินใจพามันไปส่งก่อนจะกลับคอนโดตัวเอง
หลังจากนั้นล่ะที่นึกได้ว่าข้างในโทรศัพท์มีเบอร์บ้านกับเบอร์แม่ผมอยู่...ผมแทบจะออกไปจัดการไอ้เพื่อนรักในทันทีแต่ก็ต้องตัดใจเพราะมันดึกมากแล้ว...วันต่อมาที่เจอกันผมก็แทบจะไล่เตะมันเลยทีเดียว...ถึงสุดท้าสมันจะรับผิดชอบโดยการซื้อโทรศัพท์กับซิมให้ก็เถอะแต่เข้าไหมว่า...
ผมจำเบอร์ที่บ้านไม่ได้!!!
แต่เหมือนว่าจะยังโชคดีเพราะแม่ส่งพวกเสื้อผ้าที่บ้านมาให้ผมเพิ่มก็เลยนึกขึ้นได้ว่าส่งจดหายไปหาก็ละกัน..ถึงมันจะดูโบราณไปหน่อยแต่ก็เป็นวิธีที่ใช้ได้เลยทีเดียว
ผมรีบเขียนจดหมายบอกแม่ทันทีว่าสบายดีไม่ต้องห่วงและผมเปลี่ยนเบอร์ใหม่แล้วพร้อมทั้งถามสารทุกข์สุขดิบของแม่และน้องสาวสุดที่รักด้วย
วันต่อมาผมก็ตรงไปที่ทำการไปรษณีย์ทันทีแต่ช่วงบ่ายนี่คนเยอะสุดๆทุกอย่างมันช่างเร่งรีบและแออัดจนผมแทบจำไม่ได้ว่าเขียนทะเบียนบ้านไปถูกรึป่าว
แต่ผมมั่นใจนะว่าถูกน่ะ
"ป่านนี้คงได้รับจดหมายแล้วมั้ง..."ผมพึมพัมแล้วลุกขึ้นปิดทีวีก่อนจะเดินเข้าไปในห้องแล้วล้มลงบนเตียงอย่างเพลียๆ...ในไม่ช้าสติผมก็ดับไป
......................................
........................
...........
...
.
เช้าวันต่อมาผมก็ตื่นมาอาบน้ำเพื่อเตรียมตัวไปทำงานตามปกติ...วันหยุดช่างผ่านไปเร็วเสมอเผลอแป๊บๆนี่ก็วันจันทร์อีกแล้ว
วันนี้ผมแต่งกายด้วยเสื้อเชิตสีฟ้าและกางเกงขายาวสีน้ำเงินก่อนออกจากบ้านและไม่ลืมที่จะรีบกินนมกับขนมปังที่อยู่ในตู้เพื่อลองท้อง...
ผมขับมอเตอร์ไซค์มาจนถึงบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งผมทำหน้าที่เป็นหนึ่งในโปรแกรมเมอร์ของบริษัท...และแน่นอนว่าผมจบวิศวะคอมมาด้วยเกรดที่ค่อนข้างสูงเลยมีบริษัทหลายแห่งมาชักชวนให้ผมไปอยู่ด้วย
แต่เพราะบริษัทเป็นของรุ่นพี่ที่รู้จักกันแถมยังใกล้คอนโดผม...สวัสดิการก็ดีเลยทำให้ผมตกลงทำงานที่นี่แถบจะทันที
ผมสวัสดีพนักงานบ้างหัวหน้าบ้างหรือใครๆก็ตามที่ผมเดินผ่านผมก็จะทักทายหมด
ผมน่ะเป็นคนที่เป็นมิตรกับทุกๆคนนะแต่ที่ผมไม่ชอบเลยก็คือมามองผมด้วยสายตาแบบว่าจะกลืนกินผมเข้าไปทั้งตัวนั่นน่ะ...บอกตรงๆเลยนะว่าแบบนั้นผมไม่ไหว
ผมขึ้นลิฟท์มาจนถึงชั้น4ซึ่งเป็นที่ทำงาน...เมื่อเดินตรงไปยังห้องใหญ่ที่มีประตูเป็นกระจกที่มองเห็นข้างได้...และถ้าผลักประตูเข้าไปก็เจอกับคอมพิวเตอร์กว่า10เครื่องที่หันหน้าชนกันและมีบ้างอันที่มีคนนั่งอยู่แล้ว
"ไงมาเช้านี่พีช"ผมทักหนึ่งในเพื่อนที่พากันแห่มาทำงานที่นี่ก่อนจะนั่งลงที่คอมพิวเตอร์ประจะตัว
"แกก็มาเช้านะไอ้เทม"พีชหันมาทักผมโดยที่มือยังไม่หยุดกดคีย์บอร์ด
"มีงานเหรอ?"ผมถามแล้วชะโงกหน้าไปดูที่หน้าจอของพีช
โปรแกรมสำหรับเขียนโปรแกรมถูกเปิดขึ้นพร้อมกับโค้ดพิเศษต่างๆที่พีชสร้างขึ้นมาเองโดยเฉพาะ
"ใช่...เค้าให้สร้างระบบเครือข่ายในการเชื่อมโยงของหน่วยงานทั้งหมดในบริษัทน่ะ"พีชตอบโดยที่สายตายังไม่ล่ะจากคอมพิวเตอร์
"หืม~...งั้นเดี๋ยวแกสร้างโครงสร้างระบบแล้วส่งต่อมาให้ฉันเลยเดี๋ยวจะจัดการต่อให้"ผมบอกพีชแล้วเริ่มเปิดคอม
"ได้"
หลังจากเลิกงานแล้วผมก็ตรงกลับคอนโดทันที...ถ้าถามว่างานเสร็จไหมถ้าใครเป็บโปรแกรมเมอร์ก็คงรู้นะ
ใครมันจะสร้างโครงสร้างระบบเครือข่ายเสร็จในวันเดียวได้บ้างเล่า...ไม่มีหรอกอย่างน้อยๆน่ะอาทิตย์นึงนู้นถึงแม้จะไม่ได้ทำคนเดียวก็เถอะ
เพราะงั้นวันนี้ทั้งวันผมเลยนั่งเล่นเกมส์อย่างเดียวไงล่ะ...สบายเลยแต่ถ้าเสร็จการสร้างระบบโครงสร้างแล้วส่งมาให้ผมนะ...อย่าหวังว่าตอนนั้นผมจะได้นอนเลย
ผมจอดมอเตอร์ไซค์ไว้ที่เดิมใต้คอนโดก่อนจะเดินขึ้นไปบนคอนโด...ผมอยู่ชั้นที่14เมื่อถึงหน้าห้องผม ก็ต้องมองซองสีน้ำตาลที่แลบออกมาจากที่ใส่จดหมายห้องของตน
"...?"ผมมองซองนั้นอย่างงงๆใครส่งมานะ
"อ่า~...คุณแม่กับน้องโอ๊คแน่ๆเลย"ผมหยิบซองเอกสารสีน้ำตาลแล้วรีบเดินเข้าห้องก่อนจะเร่งฝีเท้าก่อนจะนั่งลงบนโซฟาที่ห้องรับแขก
"จะเขียนมาว่ายังไงน้าา~"ผมแกะซืองเอกสารก่อนจะเปิดดูสิ่งที่อยู่ข้างใน
"...ซองจดหมาย?"ข้างในซองมีซองอีกที...หรือว่าน้องโอ๊คแกล้งอะไรผมอีกล่ะ
ผมหยิบซองจดหมายด้านในออกมาแล้วมองอย่างงงๆ
ผมมองไปยังชื่อที่อยู่ผู้ส่ง
‘นาย ธีราทร ภูมิทักษา
225/8 ม.6 ต.xx ถนนxxx
เขตxxx กรุงเทพฯ 10200’
"...ห๊ะ?"ผมมองชื่อตนเองที่เขียนอยู่บนชื่อที่อยู่ผู้ส่ง...ผมเลยลองมองชื่อที่อยู่ผู้รับบ้าง
‘นางสาว สวรรยา ภูมิทักษา
263/56 ม.3 ต.xxx ถนนxxx
อ.เมือง จ.ชลบุรี 20000 ’
"....??"นี่มันชื่อน้องสาวเขานี่...จะว่าไปนี่มันจดหมายที่ผมส่งไปหาแม่และน้องสาวนี่นา
ทำไมถึงส่งกลับมาให้ล่ะ...ผมมองดูซองจดหมายอย่างงงๆก่อนจะวางลงบนโต๊ะข้างหน้า...แล้วผมก็หันกลับมาดูภายในซองเอกสารสีน้ำตาลอีกเผื่อว่าจะมีอะไรอยู่...
ไม่แน่ว่าน้องสาวผมอาจจะแกล้งโดยการใส่จดหมายที่ผมเขียนกลับมาพร้อมกับจดหมายอีกฉบับก็เป็นได้
"...หือ~...กระดาษอะไรเนี่ยะ"
พอมองเข้าไปภายในก็เจอกับกระดาษแผ่นหนึ่ง...ผมหยิบมันขึ้นมาอย่างสงสัยแล้วมองดูกระดาษแผ่นนั้นอย่างสงสัย
"ไม่เห็นมีอะไรเลย...อ๊ะ"ผมพึมพำหลังจากมองแผ่นกระดาษที่ว่างเปล่าก่อนจะลองพลิกดูอีกด้านนึงแล้วก็ต้องชักงักเมื่อเห็นข้อความบางอย่างบนกระดาษ
'คุณเขียนที่อยู่ผู้รับผิด'
ข้อความสั้นๆที่เขียนด้วยลายมือที่สวยงามทำให้หัวใจผมกระตุกขึ้นอย่างไม่ขาดคิดและเผลอยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว
ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะมีคนที่ยอมลงทุนส่งจดหมายที่ส่งผิดไปกลับมาให้อยู่อีก
สังคมในปัจจุบันมักจะมีแต่คนที่เห็นแก่ตัวอยู่เสมอ...ถ้าไม่รู้จักก็ไม่อยากยุ่งให้เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นกับตัวเอง
ผมเองก็เป็นหนึ่งในคนแบบนั้น...ผมไม่ค่อยชอบอะไรที่มันวุ่นวายแต่ที่บอกว่าผมเป็นมิตรจริงนะ...ผมทักทายทุกคนแต่อย่างที่บอกว่าผมไม่ค่อยชอบเป็นฝ่ายไปสนิทกับคนอื่นก่อน...อาจเพราะสีตาสีเขียวอมน้ำตาลของผมที่ทำให้ถูกล้อตั้งแต่เด็กก็ได้เลยทำให้ผมไม่ค่อยจะไว้ใจใคร
เมื่อก่อนที่ผมเด็กๆอาจจะเพราะว่าสีตาแปลกและเค้าโครงหน้าของผมที่ค่อนข้างดีทำให้ผมเกือบถูกผู้หญิงคนนึงปล้ำ...หลายๆคนคงคิดว่าไม่เห็นเป็นไรแต่สำหรับผมมันกลายเป็นความหลังที่ไม่มีวันลืมของเขาหลังจากนั้นผมก็พยายามหลีกเลี่ยงไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายที่มักจะวส่งสายตาแบบว่าอยากกลืนกินผมทั้งตัวนั่นเสมอ
ดังนั้นผมพึ่งเคยเจอคนแบบนี้เป็นครั้งแรก...ผมพลิกซองเอกสารเพื่อดูชื่อที่อยู่ผู้ส่งด้วยรอยยิ้มที่ฝุดขึ้นมาโดยที่ผมไม่รู้สึกตัว
‘นาย วรนัตร รัตรนเทวา
263/56 ม.3 ต.xxx ถนนxxx
อ.เมือง จ.ชลบุรี 20000 ’
" ...วรนัตร รัตรนเทวา"ผมอ่านชื่อนั้นแล้วพึมพำเบาๆ
'อยากรู้จัก'
ความคิดนึงของเขาฝุดขึ้นมาทำเอาต้องรีบสบัดหัวแทบจะทันที...ผมที่ไม่ค่อยชอบไปวุ่นวายกับใครกลับรู้สึกอยากรู้จักคนที่ส่งจดหมายนี่ขึ้นมา
"...ไม่เข้าใจตัวเองเลยแหะ"
ผมวางซองเอกสารสีน้ำตาลไว้บนโต๊ะพร้อมกับซองจดหมายที่ตนเองส่งไปไม่ถึงแล้วเดินเข้าไปในห้องนอนพร้องกับกระดาษสีขาวแผ่นสี่เหลี่ยมที่มีข้อความสั้นๆเขียนอยู่...ผมนำกระดาษแผ่นไปเก็นไว้ในลิ้นชักภายในห้องก่อนจะออกไปกินข้าวเย็นและอาบน้ำเข้านอนในที่สุดแต่สุดท้ายในหัวผมกลับคิดถึงคนที่ชื่อ วรนัตร รัตรนเทวา อยู่ตลอดจนกระทั่งหลับไป
.................................................
...............................
.............
....
..
.
พอวันรุ่งขึ้นผมก็ได้ตัดสินใจที่จะส่งจดหมายไปขอบคุณคุณ วรนัตร พร้อมกับจดหมายที่จะส่งไปให้แม่และน้องสาว...และแน่นอนว่าผมเขียนที่อยู่ใหม่เรียบร้อยแล้วครั้งก่อนผมเขียนเลขที่บ้านหายไปตัวนึงแต่ครั้งนี้ผมทบทวนอยู่หลายรอบจนแน่ใจ
ส่วนจดหมายที่จะส่งให้คุณ วรนัตร นั้นผมก็ได้ใช้เวลาตลอดช่วงเช้าในที่ทำงานในการเขียนจดหมายฉบับนึงขึ้นมาจนสำเร็จแม้จะถูกเพื่อนพีชบ่นว่าเลิกขยี้หัวและส่งเสียงน่ารำคาญสักทีก็เถอะ
ก็จะให้ทำไงได้ล่ะก็ผมนึกไม่ออกนี่นาว่าจะเขียนอะไรดีน่ะ...สุดท้ายก็ได้แค่นี้แหละ
ผมออกไปส่งจดหมายตอนช่วงบ่ายแบบไม่ต่องลางานเพราะที่ทำการไปรษณีย์อยู่ข้างๆบริษัทผมนี่เอง
ใช้เวลาไม่นานในการส่งจดหมายทั้งสองฉบับเป็นแบบลงทะเบียนและด่วนพิเศษ...จะว่าไปคุณ วรนัตร ก็ส่งจดหมายคืนมาให้ผมแบบด่วนพิเศษเหมือนกันนี่นา..แปลว่าเขาอาจรู้ว่าเป็นจดหมายสำคัญรึป่าวนะ...แต่เท่าที่ดูซองจดหมายก็ไม่ได้มีล่องลอยว่าถูกเปิดเลย
"เป็นคนดีจริงๆนะคุณ วรนัตร รัตรนเทวา"ผมพึมพำหลังจากออกมาจากที่ทำการไปรษณีย์โดยที่ภายในหัวคิดถึงแต่ชื่อของคนที่ยอมลงทุนส่งจดหมายมาคืนตนเองเท่านั้น
ทั้งๆที่ไม่เคยรู้จักกัน
ทั้งๆที่ไม่เคยได้เจอหรือสนิทกัน
แต่ทำไมผมถึงเผลอยิ้มขึ้นมาทุกครั้งที่นึกถึงคุณนะ
คุณ วรนัตร รัตรนเทวา
.............................................................................
มาอัพตอนที่2แล้วนะค่ะ
หวังว่าจะถูกใจไม่มากก็น้อยนะค่ะ
ความคิดเห็น