คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #27 : ศึกชิงกุ้งนาง(5)
สมัยก่อนก็เคยแย่งผู้ชายที่มาติดพันกุ้งนาง ยิ่งเห็นว่าหวงอรสินีก็ยิ่งอยากได้ ยิ่งอยากแย่ง
“พ่อจ๋าช่วยฉันด้วย ไอ้นั่นมันซ้อมพวกฉัน”
เป้ดีใจเหมือนเห็นพระ ลุกขึ้นไปหลบหลังกำนันแอ๊ดพร้อมกับฟ้องราวกับเด็กห้าขวบ ไม่เหลือมาดนักเลงโตอย่างเมื่อครู่
“ใครมันซ้อมเอ็ง”เสียงห้าวถามลูกชาย แม้จะรู้สันดานเกเรเป็นอย่างดี แต่ก็ไม่มีครั้งไหนที่เป้จะยับเยินได้ถึงขนาดนี้
“ไอ้ล่ำนั้นไงที่มันเล่นงานฉันกับพรรคพวก”
กำนันแอ๊ดต้องกลืนน้ำลายพูดไม่ออกใช่ว่าชอบให้ลูกมีเรื่องระรานใคร ไม่อยากกระทบตำแหน่งกำนันของตน ยิ่งคนตรงหน้าเป็นถึงปลัดด้วยแล้ว
“ที่ลูกชายผมมีสภาพแบบนี้เป็นฝีมือของปลัดหรอกเหรอ”
ความข้องใจและไม่อยากจะเชื่อว่าปลัดคนเดียวจะสามารถจัดการไอ้สามคนได้ มั่นใจว่าจะต้องมีคนอื่นรวมด้วยโดยเฉพาะคนของไอ้แสน
“ก็จริงอย่างที่ลูกชายกำนันบอก ผมไม่ขอแก้ตัว”ธนาตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“แต่ผมไม่เชื่อ ต้องมีคนอื่นร่วมด้วยปลัดบอกมาดีกว่า”
กำนันแอ๊ดปลายตาไปที่จ่อยและกุ้งนางอย่างไม่ค่อยเป็นมิตรนัก ใช่ว่าอยากทะเลาะกับเด็กแต่เป็นเพราะเขากับพ่อของหล่อนไม่กินเส้นกันต่างหาก
“ก่อนที่จะกล่าวหาคนอื่น ถามลูกชายตัวดีของเอ็งก่อนดีไหม” เสียงห้าวห้วนเรียกความสนใจของคนทั้งหมด กุ้งนางจึงรีบปล่อยมือจากแขนของธนาทันที
“เอ็งเกี่ยวอะไรด้วย”ชี้หน้าถามคนที่เคยเป็นเพื่อน
“ไม่เกี่ยวได้ไงก็เหตุมันดันมาเกิดในพื้นที่ของข้า แถมคนของข้าก็เกี่ยวข้องด้วย”
“คนของเอ็งทำให้ลูกข้าใช่ไหม”
เพราะมั่นใจว่าปลัดคนเดียวคงไม่สามารถเล่นงานลูกชายกับพรรคพวกได้เพียงคนเดียว ต้องเป็นฝีมือของเจ้าจ่อยและกุ้งนางลูกสาวตัวร้ายของมันร่วมด้วย
“ก็คนของเอ็งมันมาวอแวกับคนของข้าก่อน ช่วยไม่ได้นี่หว่า”กำนันแสนสวนทันควัน
“จะไม่มากไปเหรอไอ้แสน บ้านเมืองมีขื่อมีแป ใช่ว่าไม่พอใจใครแล้วก็จะทำยังไงก็ได้”คิดว่าลูกชายถูกคนของแสนรุมทำร้ายก็ยิ่งโกรธจัด
“จะเอายังไงครับคุณปลัดจะให้ผมแจ้งตำรวจเลยหรือเปล่า”กำนันแสนหันไปถามธนา
“คนที่สมควรจะแจ้งตำรวจน่าจะเป็นฝ่ายข้า แหกตาดูสารรูปไอ้พวกนี้ก่อน”ฝ่ายเสียหายนะพวกเขาจึงชี้มือไปที่หน้าของเป้และพรรคพวก
“ก็เพราะแบบนี้ไง ถึงได้ถามคุณปลัดว่าจะเอายังไงดี แต่ถ้าเอ็งยืนยันจะเป็นฝ่ายแจ้งความก็อย่ามาหน้าแตกที่หลังก็แล้วกัน”สายตาที่มองศัตรูอย่างเย้ยหยัน
“พวกเอ็งและปลัดต่างหากที่จะเดือดร้อน ไอ้เป้เอ็งกับพรรคพวกไปโรงพักกับข้า”
กำนันแอ๊ดกวักไม้กวักมือเรียกคนของตนไม่ทันได้เห็นอาการของเป้ที่ถึงกับสะดุ้งเมื่อได้ยินคำว่า ‘โรงพัก’เพราะเรื่องมันชักจะบานปลายกันใหญ่ ไม่คิดว่าจะเจอตอเข้าอย่างจัง
“พ่อจะไปทำอะไรที่โรงพัก”น้ำเสียงอ่อยกระซิบถาม
“ก็ไปแจ้งความสิไอ้ลูกโง่ หรือจะยอมเจ็บตัวฟรี”ตะคอกใส่ลูกชาย หัวเสียกับความไม่เอาไหนของมันนัก
“ไม่ต้องก็ได้มั้ง แค่เจ็บตัวคนละนิดคนละหน่อยเอง จริงไหมพวกเอ็ง”
เป้หันไปถามศักดิ์กับแดง ถ้าเรื่องไปถึงโรงพักคนผิดคงไม่พ้นพวกเขา
“ใช่จ้ะลุงแค่นี้เรื่องเล็กน้อย พวกฉันไม่เจ็บเท่าไรหรอก”ศักดิ์รีบออกตัวแต่กำนันบ้านทุ่งมะยมยังไม่เฉลียวใจ
“พวกเอ็งจะกลัวอะไรยังไงกฎหมายก็ไม่ได้มีไว้คุ้มครองคนผิด จริงไหมไอ้แสน”เขาหันไปถามอริด้วยคิดว่าเป็นต่อ
“ก็จริงกฎหมายไม่มีไว้คุ้มครองคนผิด แล้วคุกก็ไม่มีไว้ขังหมา ลองถามคนของเอ็งหรือยังว่าเรื่องราวมันเป็นยังไง”บอกอย่างนึกสมเพชฝ่ายตรงข้าม
“นั้นสิพ่อ เรายังไม่รู้ว่าเรื่องมันเป็นยังไง เกิดพลิกล็อคขึ้นมาจะแย่เอานะ” อรสินีเตือนสติบิดาเพราะพอรู้สันดานพี่ชายของตนดี
“เอ็งมีปัญหาอะไรกับปลัดไหนลองบอกมาสิ”พอเริ่มเอะใจจึงถามลูกชายที่ยืนหน้าหดพูดไม่ออกขึ้นมาทันที
“เอ่อ..คือว่า...”พอเห็นเป้ทำท่าตะกุกตะกัก กำนันแอ๊ดจึงพอเดาได้และยิ่งทำให้เขาฉุนจัด “พูดไม่ออกแบบนี้แสดงว่าพวกเอ็งเป็นฝ่ายเริ่มก่อนใช่ไหม”
ยิ่งได้ฟังเรื่องราวจากปากน้ำหวานที่เล่าเป็นฉากๆ เห็นภาพยิ่งกว่าละครก่อนข่าวก็ยิ่งรู้สึกอับอาย ดูท่าคดีจะพลิกเสียแล้ว
“ฉันกลับพี่จ่อยเป็นพยานได้ ลูกชายลุงหาเรื่องเล่นงานคุณปลัดก่อน แต่ที่สภาพยับแบบนี้ก็เพราะสู้คุณปลัดไม่ได้”
“หาเรื่องให้กูปวดกบาลแล้วไหมล่ะ”
ได้ฟังจากปากของน้ำหวานอรสินีตาวาว เกิดความอิจฉาที่กุ้งนางมีผู้ชายทั้งหล่อแถมยังเป็นถึงปลัดมาติดพัน
“ก็ใครใช้ให้มันมาวอแวน้องกุ้งนางของฉัน ก็แค่จะขู่ให้มันกลัวเอง” เป้เสียงอ่อยแต่คนเป็นพ่อเดือดปุดที่ต้องเสียหน้า
“ทำงามไส้แล้วไหมล่ะ มีเรื่องกับใครเสือกไม่มี ดันไปมีเรื่องกับปลัด ไอ้ลูกเวร! มึงมากันตั้งสามคนแท้ๆ ยังสู้คนคนเดียวไม่ได้” กำนันแอ๊ดยกมือขึ้นหวังจะเคาะกบาลลูกชายตัวดีสักเป้ก!
ความคิดเห็น