ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เหลี่ยมรักเสน่ห์ร้าย

    ลำดับตอนที่ #34 : ป่วยการเมือง(2)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.35K
      19
      20 ธ.ค. 64

    “ยัยตัวแสบมาทุบฉันทำไมเนี่ย”คนป่วยแกล้งโวย

    “ถามได้ก็กำลังไล่ไข้ให้ไงละ”เธอบอกเสียงเขียวมือยังกำหมัดค้าง

    “ทุบจนเกือบช้ำในที่เรียกว่าไล่ไข้”เขาทำตาพราวมองคนในอ้อมแขน

    “คนป่วยเป็นไข้หื่นอย่างคุณ ควรเจอหนักกว่านี้”

    หญิงสาวผลักร่างหนาออกลุกจากเตียงเมื่อรู้ว่านอนให้เขากอดเป็นนานสองนานธนานึกเสียดายไออุ่นจากกายสาว

    “ไหนลุงพร้าวบอกว่าเป็นไข้อาการหนักปางตาย ฉันก็เห็นปกติดี”น้ำเสียงกระด้างน้ำเสียงบ่งบอกถึงความไม่พอใจ

    “ปกติที่ไหน ปวดหัวจะแย่”ธนาล้มตัวลงนอนจากนั้นก็พูดต่อ “เธอมันใจร้ายเห็นอยู่ว่าป่วยยังลงไม้ลงมือ ถ้าตายคงสมใจเธอสิ”คนตัวโตกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ตัดพ้อ

    “ใครใช้ให้มาทำทะลึ่งกับฉันก่อน”

    “ฉันทำทะลึ่งใส่เธอตอนไหน”คนป่วยยังแถไปได้อีก

    “ก็ทั้งกอดทั้งหอม” หญิงสาวหน้าตึงกับความหน้ามึนของคนป่วย

    “เรื่องกอดนะ ฉันไม่เถียงแต่เรื่องหอมฉันไม่ได้ตั้งใจ” ธนาตอบแบบมึนๆ ยอมรับผิดเพียงครึ่งเดียว

    “พูดแบบนี้มันหมายความว่าไง”

     นึกถึงคำพูดหยาบคายที่เคยว่าเธอตัวเหม็น แต่ยังไม่วายหาเรื่องกอดจูบทุกครั้งเมื่อได้โอกาส คนเจ้าเล่ห์! ถ้ามียาพิษมาด้วยคงป้อนใส่ปากให้กินไปแล้ว

    “ทำไมต้องเสียงดังคนมันป่วยไข้กำลังขึ้นก็ต้องมีเพ้อบ้าง ละเมอบ้างเป็นธรรมดา ใครจะไปตั้งใจเธอเข้าใจผิดหรือเข้าข้างตัวเองไปหรือเปล่า”

    “ยังจะมีหน้ามาว่าฉันอีก”คนเหลืออดอยากทุบคนป่วยให้น่วมคาเตียงแต่ก็เลือกที่จะวางถุงยาไว้ที่โต๊ะข้างเตียง

     “ยาในถุงนั้นอยากจะกินเม็ดไหนก็เลือกกินเอาตามสบาย”

    จากที่ตั้งใจจะดูแลเพื่อเอาบุญ แต่กลับถูกคนชีกอฉวยโอกาส แล้วยังทำหน้าด้านกวนประสาท ขืนอยู่ต่อคงต้องฆ่าเขาตายคามือ ถ้าไม่อยากติดคุกก็บอกกับตัวเองว่าควรกลับเสียดีกว่า

    “จะกลับจริงเหรอ”ธนาลุกขึ้นนั่ง แต่จังหวะที่กระโจนลงจากเตียง ขาดันพันกับผ้าห่ม

     โครม!! 

    หญิงสาวหันกลับมาก็เห็นธนาลงไปนอนฟุบกับพื้น ความเป็นหวงทำให้ลืมลูกเล่นก่อนหน้านี้ประคองศีรษะของเขาวางบนตัก

    “คุณเป็นยังไงบ้าง”

     “ก็เจ็บสิ”คนตัวโตตอบเสียงอ่อย

    “ใครใช้ให้คุณซุ่มซ่าม”กล่าวเหมือนตำหนิแต่น้ำเสียงไม่จริงจัง

    “ใครว่าซุ่มซ่ามฉันหน้ามืดต่างหาก ตั้งแต่เช้ายังไม่ได้กินอะไรเลย พอลุกขึ้นมันก็วูบไปเฉยๆ” 

    เรื่องอะไรจะบอกเพราะความรีบร้อนจะลงจากเตียง จนทำให้ขาสะดุดกับผ้าห่มจนหกล้มหน้าคะมำคว่ำกับพื้นไม่เป็นท่าแบบนั้น

    “แล้วใครใช้ให้คุณอดข้าวอดน้ำล่ะ”

    “ไม่มีใครใช้ให้อดแต่มันกินไม่ลงรู้สึกขมปร่าไปหมด ”

    น้ำเสียงอ่อยๆเหมือนคนหมดแรง ทำให้กุ้งนางอยากจะสมน้ำหน้า แต่พอเห็นว่าหน้าผากของเขามีรอยแดงและเริ่มจะโนขึ้นมาเล็กน้อยก็อดสงสารไม่ได้

    “ฉันว่าลุกขึ้นก่อนดีกว่า”กุ้งนางพยุงร่างหนาให้ลุกขึ้นนั่ง

    “ไม่ไหวอ่ะ…ช่วยประคองหน่อยได้ไหม” ธนาทำท่าโงนเงนจนกุ้งนางต้องประคองเขาไปที่เตียงจึงไม่ทันเห็นอีกฝ่ายกำลังแอบอมยิ้ม

    “เห็นลุงพร้าวบอกว่าเอาข้าวต้มมาให้ แต่ปลุกเท่าไรคุณก็ไม่ตื่นทานสักหน่อยนะ”

    เมื่อรู้ว่าธนาไม่ยอมกินข้าวกินปลาจนหน้ามืด หญิงสาวก็อดห่วงไม่ได้ ส่วนธนาธนามองชามข้าวสลับกับหน้าสวยของหญิงสาว

    ‘ใครจะลุกขึ้นมากินเองเขารอให้คนมาป้อนอยู่นี้ไง’

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×