ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พี่มาร์คขี้อ่อย #Markbam

    ลำดับตอนที่ #26 : chapter23

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.23K
      17
      28 เม.ย. 58

    เเก้ไขคำผิด



    Bambam Part


         ผมเดินตามทั้งสองคนเข้าไปเงียบๆ ยองเเจกับพี่มาร์คพูดคุยกันทั่วไป ส่วนผมก็มองสำรวจไปทั่ว โรงเเรมนี้ผมเคยมากับยูคยอม ตอนที่บ้านของยูคยอมจัดงานการกุศลอะไรสักอย่าง ผมเลยมาช่วยงานด้วย เป็นโรงเเรมที่ค่อนข้างเเพงเลยหล่ะ เเต่การบริการหรือการจัดงานก็ออกมาดีคุ้มกับเงินที่เสียไปอยู่นะ เเล้วที่สำคัญอาหารของโรงเเรมนี้อร่อยสุดๆ

     

    "เดี๋ยวยองเเจพาเเบมไปรอพี่ก่อนนะ เดี๋ยวพี่มา"

    "ได้ครับ"

    ยองเเจเดินนำผมไปที่ลิฟต์เเละกดหมายเลขชั้นที่ 18

     

    ติ๊ง!

     

    ผมกับยองเเจเดินไปตามทางเดิน ยองเเจไม่ได้พูดอะไรกับผม เพียงเเค่เดินนำไปที่ห้องๆนึง เเล้วเเสกนนิ้ว

     

    "เข้าไปนั่งรอกันเถอะ"

     

         ภายในห้องถูกจัดอย่างเรียบหรู เฟอร์นิเจอร์ภายในถูกต้องเเต่งด้วยสีขาว เเล้วตรงกำเเพงยังมีรูปถ่ายขนาดใหญ่ที่ประกอบด้วยคน 6 คนในภาพ หนึ่งในนั้นคือคนที่ผมรู้จักดี อย่างพี่มาร์ค เเล้วถ้าจำไม่ผิด มีมี๊ของพี่มาร์คในภาพ เเละหนึ่งคนที่ผมต้องเบิกตากว้าง

     


    'คุณต้วน'

     


    "อี้เอิน ต้วน"

    "หืม? พูดอะไรเเบม"

    "พี่มาร์คเป็นลูกของคุณเรย์มอนหรอ"

    "ใช่สิ ทำไมอ่ะ จะบอกว่าพี่มาร์คหล่อเหมือนพ่อเขาใช่มั้ย"

    "ไม่ใช่ ยองเเจ พี่มาร์คอยู่ไหน"

    "คงไปหาป๊ามั้ง"

    "เเจรู้มั้ยว่าอยู่ที่ไหน"

    "ชั้น 20 ทำไมหรอ"

    ผมว่าผมมีเรื่องต้องคุยกับพี่มาร์คเเล้วเเหละ

     

     

     

     

    ชั้น 20

    ผมเดินวนไปวนมาที่ชั้น 20 ที่ดูเงียบสงบ มีเงียบเลขาหน้าห้องที่คอยมองผมเป็นระยะ

     

    กล้าๆหน่อยสิว่ะเเบม

     

    เฮ้อออ เอาว่ะเป็นไงเป็นกัน

     


    "มาหาใครคะ"

    "ผมมาหาคุณต้วน ครับ"

    "นัดไว้รึเปล่าค่ะ"

    "เปล่าครับ เเต่ผมมีเรื่องด่วน"

     

    กริ๊งงงงง


    "สักครู่นะคะ"

    "ค่ะๆ ท่าน ได้ค่ะ"

    เธอรับโทรศัพท์อยู่เเป๊ปนึงก่อนจะมองหน้้าผมเเล้วส่งยิ้มให้

     

    "คุณใช่คุณเเบมเเบมรึเปล่าคะ?"

    "ครับ"

    "งั้นเชิญค่ะ"

    เธอผายมือไปที่ประตู พร้อมกับเปิดให้ผม ผมสูดลมหายใจสองสามที ก่อนจะก้าวเข้าไปในห้อง

     

         โต๊ะกลางห้องที่มีชายวัย 50 นั่งอยู่บนเก้้าอี้ ท่าทางที่สง่า เเละน่าเกรงขาม ทำให้ผมต้องก้มหน้าและมองไปรอบๆห้อง กลับไปพบกับอีกคนที่ผมคิดว่าจะอยู่

     

         คุณต้วนเงยหน้าขึ้นมา เมื่อเห็นว่าเป็นผมที่ยืนอยู่ ก็ยิ้มให้ เเละลุกจากเก้าอี้

     


    "เอ่อ...สวัสดีครับ คุณต้วน"

    "เรียกอะไรอย่างนั้นเล่า เเบม เราคนกันเอง เรียกป๊าสิ"

    "เอ่อ...ครับ"

    "มาหาป๊าเเบบนนี้มีเรื่องอะไรรึเปล่า"

    "ป๊าครับ เเบมขอถามหน่อย"

    "มีอะไรหล่ะ ป๊าว่าไปนั่งที่โซฟาก่อนดีกว่า อยากทานอะไรมั้ย"

    "ไม่ครับ ผมเเค่มาถามป๊าเฉยๆ พี่มาร์ค เอ่อ ไม่ใช่สิ อี้เอิน ต้วน คือลูกชายของป๊าใช่มั้ยครับ"

    "ฮ่าๆ เเสดงว่าเจอกันเเล้วใช่มั้ย ป๊าก็นึกว่าไอ้มาร์คมันจะไม่สนใจ ที่ไหนได้ ร้ายไม่เบานะเนี่ย เเล้วนี่เรามายังไง มากับใคร"

    "เอ่อ... เเบมมากับ...."

     

     

     

     

    เเก๊ก

     


    "มากับผมเองเเหละป๊า"

    "นี่อย่าบอกนะว่าจีบน้องติดเเล้ว"

    "ยังหรอกป๊า มาร์คว่าจะพาน้องมากินข้าวเฉยๆ ไม่คิดว่าน้องจะมาหาป๊า"

     

    เดี๋ยวนะ!!! พี่มาร์ค ผมกำลังโดนหลอกอยู่ใช่มั้ย

     

    "พี่มาร์ค เเบมมีเรื่องจะคุยกับพี่"

    "คุยกันในนี้ก็ได้ ป๊าอยากรู้"

    ถ้าป๊าอยากรู้ผมจะไม่ไหวหน้าเเล้วนะ

     

     

    ผัวะ!!

     

    "เฮ้ย!!"

    "พี่รู้จักผมก่อนหน้านี้เเล้วใช่มั้ย"

    "อืม ^____^"

     

    ผัวะ


    "เเล้วทำไมพี่ไม่บอกผมว่าพี่เป็นใครว่ะ"

    "ก็พี่บอกไปเเล้วว่าพี่ชื่ออะไร ก็นึกว่าจะนึกออก"

    "เเบมไม่เคยรู้ชื่อพี่ ไม่สิ เเบมไม่เคยสนใจด้วยซ้ำว่ามีพี่อยู่บนโลก โอ๊ยยยย นี่พี่จะมาพรากอิสระภาพผมเเล้วใช่มั้้ย ผมยังไม่พร้อมหรอกนะ อีกอย่าง ผมยังเรียนไม่จบ"

    "พี่ก็ไม่ได้บังคับเเบมเลยนะ พี่รอได้"

    "หึ่ย!! นี่ผมหนีพี่ไม่พ้นจริงๆสินะ"

    "เเล้วจะหนีทำไมเล่า ยังไงพี่ก็จะตามหาเราให้เจออยู่ดี"

    "โถ่เว้ยยย ผมเกลียดพี่ว่ะ"

    "เดี๋ยวพี่จะทำให้เรารักพี่เองไม่ต้องห่วง"

    "มั่นใจไปเถอะ ผมไม่มีทางหวั่นไหวกับพี่หรอก"

    "เเล้วที่ผ่านมา..."

    "อันนั้นมัน มาร์ค รุ่นพี่ที่คณะ ไม่ใช่มาร์คที่เป็นคู่หมั้นในอนาคตของผม"

    "หึ!! ยังไงก็คนๆเดียวกันนั้นเเหละ"

    "เอ่อ....ป๊าขอเเทรกนิดนึงนะ เเบมเเบม ป๊าว่าลุกออกจากตัวมาร์คก่อนมั้ย ถ้าเลขาป๊าเปิดประตูมา ป๊าคิดว่าคนคงพูดกันทั้งโรงเเรม"

     

    ไม่ต้องสงสัยหรอกครับว่าผมพูดอะไรกัน เอาเป็นว่าผมจะเล่าให้ฟังอย่างละเอียด

     

     

     

         เมื่อตอนวันเกิดผมเมื่อผมครบ 12 ปี ของขวัญของผมมีเยอะจนนับไม่ถ้วน เเต่มีเพียงนึงชิ้นที่ผมไม่รู้ว่ามันเป็นของใคร ข้างในกล่องเป็นเเหวนเงินที่ถูกสลักตัวอักษรที่มีคำว่า TUAN ผมคิดว่ามันไม่ใช่ของผม ผมเลยวางมันไว้ เเล้วก็ลืมมันไป

     

         จนตอนที่ผมอายุได้ 15 ตอนนั้นผมมกลับไปเยี่ยมบ้านที่ไทย ผมก็เข้าไปนอนในห้องนอนของม๊าเหมือนกับทุกครั้ง เเล้วสายตาเจ้ากรรมดันเหลือบไปเห็นกระดาษที่เป็นสัญญาอะไรสักอย่างที่เป็นภาษาอังกฤษ ผมอ่านมันอยู่นานถึงรู้ว่ามันเป็นสัญญาของตระกูลต้วนเเละภูวกุลเเล้วเเหวนวงนั้นก็กลับเข้ามาในหัวผมอีกครั้ง ผมรีบถามม๊าเกี่ยวกับสัญญาอะไรเนี่ย ที่ระบุถึงเด็กของสองตระกูลที่เกิดในลำดับที่สาม ถ้าเป็นของภูวกุลเด็กคนนั้นก็คือ ผม ส่วนตระกูลต้วน ผมไม่ได้ใส่ใจว่าเป็นใคร

     

         ทุกอย่างถูกเปิดเเผยให้ผมได้กระจ่างตอนอายุ 18 ในงานวันเกิดผม ที่ถูกจัดขึ้นที่ไทย มีผู้ชายท่าทางใจดีเดินเข้ามาคุยกับผม ตอนนั้นผมคิดว่าเขาเป็นเพียงเพื่อนคุณพ่อ เเต่มันไม่ใช่ เมื่องานวันเกิดจบลง ม๊าก็เรียกผมเข้ามานั่งคุยพร้อมกับคุณลุงใจดีคนนั้น เขาเล่าทุกอย่างให้้ผมฟังว่า ผมต้องเเต่งงานกับลูกชายเขา เขาไม่ได้รีบร้อนให้เเต่งเลยตามสัญญาที่ระบุไว้ว่า เมื่อผมอายุ 18 เมื่อไหร่ ผมจะต้องเเต่งงาน เขาขอให้ผมเรียนจบก่อน เขาถึงจะจัดงานให้ เขาไม่ได้บอกว่าลูกเขาชื่ออะไร หน้าตาเป็นเเบบไหน ซึ่งผมก็ไม่ได้อยากรู้ เเล้วตอนนั้นผมก็รับไม่ได้ด้วยที่จะถูกคลุมถุงชนอะไรเเบบนี้ ผมจำได้เเค่ว่า ผมขอให้ยูคยอมจองตั๋วเครื่องบินให้ผมบินคืนนั้นเลย ผมไม่ฟังเหตุผลอะไรจากม๊า ผมเเค่อยากจะทำใจ ผมไม่ติดต่อม๊าเกือบสามเดือน จนม๊าบินมาหาผม เเละบอกให้ผมทำตามสัญญาบ้าๆนั้นไม่งั้นพวกเราทั้งหมดจะเดือดร้อน

     

     

         ตอนเเรกผมก็ไม่เชื่อ เเต่ม๊าบอกว่าธุรกิจของเรากำลังจะพังลง ความหวังทั้งหมดของบ้านผม มันอยู่ที่ผมคนเดียว ใจจริงผมก็อยากให้ยูคยอมช่วยผมนะ เเต่มันเยอะจนเกินไป เยอะมากจนผมไม่คิดจะขอความช่วยเหลือจากมัน

     

         คุณลุง ไม่สิ ป๊าต้วนท่านใจดีกับผมมาก ไม่ได้วุ่นวายอะไรในชีวิตผม ท่านให้ผมใช้ชีวิตที่อิสระ เเล้วยังเป็นคนส่งเสียผมเองด้วย เพราะม๊าวุ่นวายกับธุรกิจเเละพยายามจะฟื้นตัว ผมขอให้ป๊าบอกกับคุณว่าที่คู่หมั้นผมว่า อย่าพึ่งปรากฎตัว ซึ่งป๊าก็รับปาก เเล้วเขาก็ไม่เคยปรากฏตัวจริงๆ เเต่ที่ไหนได้ ผมดันมาเจอเขาเอง เเล้วที่สำคัญเขารู้ว่าผมคือคู่หมั้นเขาตั้งเเต่เเรก

     

     

         ไม่น่าหล่ะ เขาถึงรู้ชื่อจริง นามสกุลจริงของผม รู้อีกว่าผมมีบ้านอยู่ที่ไทย เเล้วที่น่าปวดหัวไปกว่านั้น คือ พี่คุณ วันนั้นผมไม่เชื่อหรอกว่าพี่มาร์คเเค่ไปคุยกับพี่คุณ

     

     

    "พี่มาร์ค"

    "หืม???"

    "วันนั้นที่่เจอพี่คุณพี่โดนอะไรบ้าง"

    "ก็ไม่หนักหรอก"

    "หมายความว่าไง"

    "ก็โดนซ้อมเกือบสองชั่วโมง"

    "พี่โง่รึเปล่าเนี่ย ทำไมพี่ไม่บอกไปว่า พี่เป็นใคร พี่โง่ให้พี่คุณซ้อมพี่เนี่ยนะ"

    "ก็สนุกดีนะ จริงๆพี่คุณเขาก็รู้อยู่เเล้วนะ ว่าพี่เป็นใคร เเถมวันนั้นพี่ยังได้พิสูจน์ตตัวเองอีก"

    "พิสูจน์????"

    "อืม พี่คุณบอกว่า ถ้าพี่ยังสามารถมีชีวิตอยู่ต่อไป เเเละยังกล้ากลับมาเจอเเบมได้ เขาจะยอมรับในตัวพี่"

    "หมายความว่า พี่คุณก็ยอมรับในตัวพี่เเล้วสิ"

    "ตอนเเรกเหมือนจะไม่ เเต่เขาก็ไม่รู้จะรั้งเพื่ออะไร ในเมื่อเเบมก็ต้องเป็นของพี่อยุูดี"

    "อยากโดนอีกสักหมัดมั้ยครับ"

    "พอเเล้วจ๊ะ"

    "เห็นอย่างงี้ป๊าก็ดีใจนะ"

     

    "ดีใจที่ลูกชายป๊าเก่ง หาลูกสะใภ้ป๊าเจอก่อนงายเเต่งใช่มั้ยหล่ะ มาร์คก็บอกป๊าเเล้วว่าจะห้ามมาร์คทำไม ในเมื่อยังไงมาร์คก็คอยมองน้องอยู่ดี"

    "เดี๋ยวพี่มาร์ค หมายความว่าไง"

    "พี่รู้จักเราตั้งเเต่เราเกิดเเล้ว อ่อ ไอ้ยูคก็ด้วยนะ พี่รู้จักมันตั้งเเต่เด็กเเล้ว เเล้วที่สำคัญ พี่ยังฝากมันดูเเลเเบมเเทนพี่ด้วย"

    "หมายความว่าไง"

    "ใครเขาจะปล่อยให้คู่หมั้นตัวเองมีเเฟนไปหล่ะ พี่ก็หวงของพี่นะ"

    "ยูคยอมรู้จักพี่หรอ"

    "อืมมม บ้านเราใกล้กันขนาดนั้น ไม่รู้จักกันสิเเปลก นี่เเบมไม่เเปลกใจหรอ ว่าทำไมเวลาเเบมไปไหนกับพี่ คนดูเเลเเบมถึงไม่เข้ามาห้าม เข้ามากันเลยสักนิด ยกเว้นวันที่เจอพี่นิชคุณ"

    "......"

    "อย่าเงียบไปสิเด็กน้อย"

    "พี่มันร้ายกาจชะมัด นี่พี่ตามผมมาตั้งเเต่เด็กเเล้วหรอ ที่ผมไม่มีใครมาจีบเพราะเเบบนี้ใช่มั้ย ไอ้ยูคนะไอ้ยูค ไอ้เพื่อนเลว อย่าให้เจอนะ!!"

    "นี่ไงพี่กำลังจะชดเชยให้เเบม เหงามา 18 ปีเเล้วไม่ใช่หรอ มาเป็นเเฟนกันมา เดี๋ยวพี่จะชดเชยให้"

    "ตลกหรอ!! ยังไม่เคลียร์เรื่องที่มาเเกล้งจีบเเบมเลยนะ พี่จะจีบเเบมทำไม"

    "ก็เเค่อยากให้เเบมรักพี่ที่มาจากใจ ไม่ใช่มาอยู่กับพี่เพราะสัญญานั้น"

    "อยากให้เเบมซึ้งกับคำพูดของพี่ใช่มั้ย"

    "เเล้วซึ้งป่ะหล่ะ"

    "ไม่เลยสักนิด เเต่ทำมาขนาดนี้เเล้ว ก็ลองทำต่อไปก็ได้นะ ถ้าทำไม่ได้ก็เลิกความคิดที่จะแต่งงานกับแบมเถอะ"

    "โถ่เเบม ใจอ่อนกับพี่เถอะ เเค่พี่ตามเรามา 18 ปี ยังไม่พออีกหรอ"

    "ทำไม เเค่นี้ก็ป๊อดเเล้วหรอ"

    "ป่าว พี่เเค่กลัวว่าจะออกจากชีวิตเเบมไม่ได้ต่างหาก พี่อ่อยมาขนาดนี้เเล้ว พี่ไม่ยอมง่ายๆหรอก"

    "พูดดีไปเถอะ"

    "ป๊าว่า พวกเราไปกินข้าวกันเถอะ ยองเเจเขารอจนไส้จะขาดเเล้วมั้ง"

     

     

     

    -








     



    ------------------------------------------------------------

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×