ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พี่มาร์คขี้อ่อย #Markbam

    ลำดับตอนที่ #30 : chapter27

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.05K
      17
      5 พ.ค. 58

    เเก้ไขคำผิด


    Chapter 27

     

    Bambam Part

     

              ผมกลับมาบ้านนานเเล้วเเหละ หลังจากกินข้าวเเละไปส่งยองเเจที่บ้าน วันนี้พี่คุณน่าจะค้างที่บริษัท เพราะนี่ก็สองทุ่มเเล้วหล่ะครับ พี่คุณยังไม่กลับมาเลย

     

     

         ผมกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียงเพราะไม่รู้จะทำอะไร ตามชีวิตของคนเเมน ที่จะไม่มีอะไรทำ ผมหยิบโทรศัพท์บนหัวเตียงกดเข้าเกมต่อสู้ที่โหลดมาตั้งนานเเล้วยังไม่เคยเล่นสักที เเจ้งเตือนไลน์เด้งอยู่ตลอดเวลาที่ผมเล่นเกมจนเเบตโทรศัพท์ใกล้หมด ผมเลยเอาไปชาร์ต เเต่ก็ยังยื่นเล่นจนเริ่มเมื่อยนิ้ว

     

     

     

    ติ๊งงง

     

         ข้อความถูกส่งมาตอนที่จะวางโทรศัพท์ ผมกดปลดล็อกหน้าจอตัวเองเเละเลื่อนไปที่หน้าที่มีไอคอนเขียวๆ มีเเจ้งเตือนปรากฏอยู่ตรงไอคอนเกือบสองร้อย

     

     

     

     

    คุณพระ!!

     

     

     

              ไอ้เเบมอยากจะเอามือทาบอก เเจ้งเตือนเกือบสองร้อยนี่ของอี้เอินทั้งนั้นเลยครัช เเต่เเบมเเคร์มั้ย ตอบเลยว่าไม่ ถ้าคิดจะส่งมาขนาดนี้ เเล้วถ้ามีเรื่องด่วนจริงๆคงโทรมาเเล้ว เเต่ตอนนี้พี่เเบมคนเเมน ไม่มีอารมณ์จะเปิดอ่านหรอกครับ ขี้เกียจตอบด้วย เมื่อยนิ้ว ปวดนิ้วมาก ไว้พรุ่งนี้หล่ะกันเนอะ คุณอี้เอิน

     

     

              ผมหยิบผ้าเช็ดตัวพาดบ่าเเละวิ่งเข้าห้องน้ำไปชำระร่างกายตัวเองให้หอมๆ จริงๆวันนี้ก็มันส์ดีนะ ผมนี่เต้นทั้งวันเลย นับถือคนตีกลองจริงๆ ตีมันส์ดี ผมนี่เต้นได้ทุกเพลง ทุกท่า เหมือนตัวเองเกิดมาเพื่อการเต้นโดยเฉพาะ เเต่ก็เเอบเมื่อยเหมือนกัน รู้งี้ซื้อยาเเก้ปวดมากินก็ดี เเต่ไม่เป็นไรหรอกครับ เดี๋ยวอาบน้ำเสร็จ เเล้วเข้านอนก็ง่วงเอง

     

     

     

              ครึ่งชั่วโมงในห้องน้ำ ทำให้ผมรู้สึกสดชื่นมาก ผมเอาผ้าเช็ดตัวออกไปตากที่ระเบียงเเล้วกลับมาทิ้งตัวลงนอน คืนนี้พอเเค่นี้เเหละ ผมง่วง

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    YUGYEOM Part

     

              ที่ร้านเนื้อย่างที่พี่จินยองพาผมมา ตอนนี้ขวดโซจูเกือบสิบขวดวางระเกะระกะเต็มโต๊ะไปหมด ตอนเเรกผมคิดว่าจะกินกันเเค่สามคน ที่ไหนได้พอมาถึงสักพัก เพื่อนพี่จินยองที่ชื่อเเจ็คสันก็มาเหมือนกัน เเล้วยังพามาอีก 2 คน กลายเป็นว่าตอนนี้ที่โต๊ะมี 6 คนนั่งกินเนื้อย่างเเละกระดกโซจูราวกับน้ำเปล่าอยู่

     

    "เเจ็คสันกลับกัน ง่วงว่ะ" พี่เทาบอกพี่เเจ็คสันที่เเทบลงไปนอนบนโซฟาอยู่เเล้ว 

    "เออๆ เอากุญเเจไปดิ่ ไม่ไหวเเล้วว่ะ ขับกลับมีหวังเททั้งคันเเน่" เขาโยนกุญเเจออกมา ให้พี่เทารับ เเต่ดูเหมือนจะไม่ตรงเป้าหมาย มันเลยร่วงไปที่พื้นเเทน

    "เดี๋ยวพี่ขับให้หล่ะ พวกนายสองคนดูจะดื่มหนักทั้งคู่" พี่คังจุนที่เห็นสภาพพี่ๆทั้งสองคนเป็นคนอาสาเอง จริงๆในบรรดาพวกผมที่นั่งกิน จะมีเเค่ผมเเล้วก็พี่คังจุนเนี่ยเเหละ ที่เเทบไม่เเตะโซจู

    "โอเค๊"

    สามคนนั้นเดินออกจากร้านไป พี่เเจ็คสันกับพี่เทากอดคอกันไป หวังจะพึ่งพิงกัน เเต่ผมว่า จะพากันล้มมากกว่านะสิ

     

     

    "กลับกันมั้ยจินยอง" พี่เเจบอมถามคนข้างๆที่เอนหัวมาซบไหล่ตัวเอง 

    "อืม กลับก็กลับ นายก็กลับบ้านได้เเล้ว ยูคยอม เดี๋ยวฉันกลับกับเเจบอม ขับไหวรึเปล่า" เขาพยักหน้าให้พี่เเจบอมช้าๆเเล้วหันมาบอกผม

    "อืม ผมไม่ได้ดื่มอะไรนี่ครับ"

    "เเจบอมจ่ายตังค์ด้วย"

    "อืม"

    พี่เเจบอมจัดการเรื่องค่าอาหาร ส่วนผมกับพี่จินยองก็เดินออกจากร้านมารอที่รถ

     

    "พี่ไหวป่าวว่ะเนี่ย" ผมถามคนที่ยืนพิงรถ พี่จินยองดูเหมือนจะล้มลงไปที่พื้นยังไงไม่รู้ 

    "ไม่ไหว เเต่เเจบอมขับ ไม่ต้องห่วงหรอก"

    "ผมว่าผมไปส่งพี่สองคนดีกว่า เดี๋ยวค่อยกลับมาเอารถ"

    "ไม่ต้องๆ นายกลับไปเถอะ ดึกมากเเล้ว" พี่จินยองโบกมือไล่ให้ผมไปที่รถตัวเอง พอดีกับพี่เเจบอมเดินออกมาจากร้าน ผมเลยหันไปพูดกับคนที่เมาน้อยกว่าเเทน

    "เดี๋ยวผมไปส่งพวกพี่หล่ะกัน เเล้วเดี๋ยวกลับมาเอารถตัวเองอีกที"

    "เอางั้นก็ได้ ฉันก็คิดว่าตัวเองเริ่มมึนๆเเล้วเหมือนกัน" ผมรับกุญเเจจากพี่เเจบอมมาถือเเล้วขึ้นไปประจำในตำเเหน่งคนขับ พี่เเจบอมจัดการพยุงร่างพี่จินยองให้นอนเบาะหลัง ส่วนตัวเขาเองมานั่งข้างคนขับเเล้วคอยบอกทาง

     

     

     

    "ขอบใจที่มาส่งนะ นายจะขึ้นไปดื่มกาเเฟหน่อยมั้ยหล่ะ ขับกลับดึกมันอันตราย หรือไม่ก็นอนนี้ เดี๋ยวตอนเช้าไปส่งที่หน้าร้าน"

    "ไม่เป็นไรดีกว่า ผมกลับหล่ะนะ"

    "เดี๋ยวยูคยอม"

    "????"

    "นายมายุ่งกับจินยองทำไม ที่ถามไม่ได้หวงจินยองมันหรอกนะ เเต่ฉันอยู่กับมันมานาน ถ้านายเห็นว่ามันใจดีกับนายวันนี้ วันต่อๆไปมันอาจจะเป็นอีกคนเหมือนว่านายไม่เคยรู้จักเลยก็ได้ ฉันไม่ได้กันนายอออกจากเพื่อนฉันนะ เเค่พูดให้นายเผื่อใจไว้ ยังไงถ้าคิดจะรู้จักมัน ก็มาบ่อยๆหล่ะกัน"

    "ผมกลับเเล้วนะ ดูเเลเขาด้วย"

    "อืม"

    พี่เเจบอมเปิดประตูหลังเเล้วพยุงร่างพี่จินยองที่หลับไปตั้งนานเเล้วให้เข้าคอนโด ส่วนผมก็เดินออกมาเรียกเเท็กซี่กลับไปเอารถที่ร้านเเล้วขับกลับคอนโด

     

     

     

    บางทีพี่จินยองที่พี่มาร์คเเนะนำก็อาจจะเป็นของตอบเเทนที่มาร์คอยากให้ผู้จักเขาจริงๆก็ได้

     

     

     

    ก็ลองดูสักทีจะเป็นไรไป

     

     

     

     

     

     

    Bambam Part

     

              ผมตื่นมาในตอนเช้า วันนี้ผมตื่นเช้ากว่าทุกๆวันเลยเเหละ อาจจะเพราะหลับลึกเพราะว่าตัวเองเหนื่อยจากเมื่อวาน ผมก้าวเข้าห้องน้ำเเเละอาบน้ำเสร็้จโดยวันนี้ทำสถิติอยู่ที่ 3 นาที 29 วินาที เเล้ววิ่งลงไปกินข้าวเช้า

     

     

              วันนี้ผมใส่เสื้อยืดสีดำเเละมีชื่อวงเกาหลีวงหนึ่งที่ดังอยู่ในขณะนี้ เสื้อตัวนี้ผมได้มาตอนที่ยูคยอมมันเบื่อจะอยู่คอนโดมั้งเเล้วมันเห็นป้ายคอนเสิร์ตวงนี้จะจัดขึ้น มันเลยไปจองบัตรคอนเอาไว้ เเล้วพอผมไป ก็เป็นคอนเสิร์ตที่สนุกดี ผมเลยซื้อเสื้อจากคอนเสิร์ตนี้มาด้วย

     

    "วันนี้พี่คุณจะกลับมาทานข้าวเย็นมั้ยครับ"

    "น่าจะไม่ค่ะ เมื่อวานคุณนิชคุณโทรมาบอกว่าจะกลับมาอีกทีสองสามวัน คุณนิชคุณคงจะเร่งทำงานให้เสร็จไวๆน่ะคะ"

    "ทำไมต้องรีบด้วยหล่ะครับ"

    "เห็นบอกว่าอยากจะพักผ่อนค่ะ"

     

     

              คำว่า พักผ่อนของพี่คุณคงจะไปเที่ยวที่ไหนสักที่เเบบหยุดยาวเเหละมั้ง เเล้วก็ทิ้งน้องให้อยู่บ้านอย่างเดียวดาายสินะ ผมว่าผมไปอยู่ห้องไอ้ยูคยอมช่วงที่พี่คุณไม่อยู่ดีกว่า ไปอยู่กับมันอย่างน้อยก็มีเพื่อน

     

     

    "คุณเเบมเเบมค่ะ"

    "ครับ"

    "เมื่อวานพี่เห็นมีรถที่เคยมาส่งคุณเเบมเเบมจอดอยู่หน้าประตูด้วยค่ะ จอดอยู่นานเลย พอสี่ทุ่มก็ขับออกไป"

    "ครับ"

    ผมตักข้าวต้มเข้าปากสองสามคำ เเล้วดื่มนมในเเก้วจนหมด ก่อนจะวิ่งขึ้นไปบนห้อง

     

     

     

     

     

    เเจ้งเตือนสามร้อยข้อความ ทำให้ผมต้องรีบกดเข้าไปดู

     

    เเบมเเบม ทำไรอยู่อ่ะ

    Mark 20:15



    เงียบจัง

    Mark 20:18



    คุยกับพี่คุณอยู่หรอ

    Mark 20:22

    หรือหลับ

    Mark 20:23

    โดนยึดโทรศัพท์ป่ะเนี่ย

    Mark 20:24

    เเบมเเบมตอบพี่หน่อยยยยย

    Mark 20:25




    เเบมเเบมมมมมมม

    Mark 20:27.

     

     

    เเล้วก็เป็นเเบบนี้อยู่เกือบ 200 ข้อความ จนผมมาสะดุดอยู่ที่ข้อความ

     


     

    ไม่ตอบพี่ เป็นอะไรรึเปล่า

    Mark 21:15




    พี่ไปหานะ

    Mark 21:33






    เเบมเเบมพี่อยู่หน้าบ้านเเล้ว

    Mark 21:48

    ห้องที่ยังเปิดไฟอยู่ใช่ห้องเเบมรึเปล่า

    Mark 21:50





    น่าจะเป็นเเบมนะ พี่จำรูปร่างเเบมได้

    Mark 22:12





    ถ้าไม่ได้เป็นอะไร พี่ก็สบายใจเเล้ว

    Mark 22:30

     

     

    ข้อความสุดท้ายของพี่มาร์ค คงจะเป็นข้อความเดียวกับเสียงที่ผมได้ยินก่อนจะเข้านอนสินะ


     

              ถามว่าตอนนี้ผมรู้สึกยังไงกับพี่มาร์คหรอ ถ้า ณ เวลานี้คงจะรู้สึกผิดนะที่ไม่ตอบเขาจนเขาต้องขับรถออกมาาดึกขนาดนั้น เเต่ถ้าถามถึงความรู้สึกที่มีต่อพี่มาร์ค ผมก็ไม่เเน่ใจตัวเองอ่ะ

     

     

              ช่วงเเรกก็มีหวั่นไหวเเหละครับ เพราะผมไม่เคยโดนใครจีบนานขนาดนี้ ผมให้เขาไปเเล้วเกือบครึ่งนึงเลยนะ ยิ่งตอนที่รู้ว่าเขาคือคู่หมั้นของผม เเล้วเขายังพยายามจะจีบผมเพื่อให้ได้หัวใจผมอีก บอกเลยว่าหัวใจผมเต้นเเรงมาก

     

     

              เเต่ผม...คิดว่านะ ผมยังอยากรักษา เเละยืดเวลาที่เขาจะจีบผมออกไปอีก 




              ความคิดนึงของผมคือ ยังไงเราก็ต้องเเต่งงานกันอยู่เเล้ว ผมไม่รีบที่จะคบกับเขาในสถานะเเฟนหรอนะ ผมยังอยากอยู่ในสถานะศึกษาดูใจกันไปอีกเรื่อยๆ ไม่อยากมีข้อผูกมัดหรือจำกัดความสัมพันธ์ตัวเองกับคนอื่น 



              ผมรู้สึกว่าพี่มาร์คยังเจ้าชู้อยู่ เขาไม่มีวันเลิกง่ายๆหรอก ซึ่งผมก็คิดว่า การที่ผมเป็นเเฟนกับเขา เขาจะเลิกเลย มันไม่มีทางเป็นไปได้ เเล้วอีกอย่างผมคิดว่าผมไม่ใช่ประเภทที่จะต้องไปสู้รบตบมือกับใครเรื่องพวกนี้หรอกนะ

     

     


    ผมยังอยากให้เรามีอากาศหายใจเป็นของตัวเองอยู่บ้าง

     

     


    เเต่ตอนนี้ผมคงต้องโทรไปง้อเขาก่อน เป็นสิ่งเเรก

     

     

     

     

    ผมกดโทรศัพท์โทรหาพี่มาร์คอยู่นาน จนเขารับสาย เเต่ปลายสายกลับไม่ใช่เขา เป็นเสียงผู้หญิงคนนึง

     


    (ฮัลโหล)

           เสียงปลายสายเป็นเสียงผู้หญิงที่ผมไม่คุ้นเคย ซึ่งมันก็เเน่นอนอยู่เเล้วว่า ผมจะคุ้นได้ไง ในเมื่อปกติมันเป็นเสียงพี่มาร์ค เเต่วันนี้ ไม่ใช่ 

     

    "ฮะ...ฮัลโหลครับ"

     

     

    (จะคุยกับมาร์ครึเปล่าค่ะ)

     

     

    "ครับ"

     

     

    (มาร์คนอนอยู่ที่เตียง เดี๋ยวปลุกให้หล่ะกัน)

     

     

    "มะ...ไม่ต้องหรอกครับ ให้เขานอนเถอะ"

     

     



    (ทำไมหล่ะจ๊ะ หนูเเบม มี๊ว่ามาร์คอยากคุยกับเรา)

     

    "สะ...หวัดดีครับ"

    (เสียงเเบมเเบมน่ารักจัง มี๊นึกว่าคนอื่นโทรหามาร์คซะอีก)

     

              ให้ผมตอบตามความจริงมั้ย ใครก็ได้เก็บเศษหน้าผมที ผมคิดว่าผู้หญิงที่รับสายจะเป็นคนอื่น

     

     

    "ครับ พี่มาร์คยังไม่ตื่นหรอครับ งั้นเเบมไม่กวนนะครับ"

     

     

    (เดี๋ยวสิหนูเเบม เดี๋ยวมี๊ปลุกให้ มาร์ค มาร์คตื่นได้เเล้วลูก มีคนโทรมา)

     

     

    (ฮัลโหล)

     

    "ฮัลโหลครับ พี่มาร์ค"

     

    (เเบมหรอ! เเบมใช่มั้ย)

     

    "ครับ"

     

    (เมื่อคืนเเบมโกรธอะไรพี่รึเปล่า ไม่ตอบไลน์พี่เลย เเล้วเป็นอะไรรึเปล่า โดนพี่คุณดุหรอ หรือโดนยึดโทรศัพท์)

     

    "พี่มาร์คไปอาบน้ำ ทานข้าวก่อนนะครับ เเล้วมารับเเบมด้วย เดี๋ยวเเบมเล่าให้ฟัง เเค่นี้นะครับ"

     

              ผมกดวางสายไปก่อนที่พี่มาร์คจะพูดอะไร เเค่รู้ว่าเขาไม่โกรธผมก็โอเคเเล้วนะ เเต่ถ้าบอกเหตุผลจริงๆเขาจะตีผมป่าวว่ะ คิดถูกคิดผิดเนี่ยที่ให้เขามารับ

     

     

     

     

    "เรื่องก็มีเเค่นี้เเหละครับ"

    "อืม"

    "นี่โกรธเเบมป่าวเนี่ย"

    "ป่าว"

    "เฮ้ยย พี่มาร์ค โกรธก็บอกว่าโกรธดิ่ อย่ามาทำเสียงเย็นชาเเบบนี้นะ"

    "ก็ไม่ได้ทำนี่"

    "ไม่ต้องมาตอบเเบบประหยัดคำพูดเลยนะ"

    "......"

    "พี่มาร์ค!! ถ้าโกรธก็บอกมา"

    "...."

    "งั้นก็จอดรถซะ เเบมจะลง"

    "เข้าใจพี่ยังอ่ะ เวลาที่พี่ไม่ตอบ รู้สึกยังไง พี่ไม่ได้โกรธนะ เเต่พี่เเค่เป็นห่วงเรา ณ ตอนนั้นพี่คิดมากจริงๆว่าเราเป็นอะไรรึเปล่า เเต่พี่ก็ผิดด้วยเเหละ เเทนที่จะโทรหาให้รู้ว่าเเบมเป็นไง เอาไว้คราวหน้าจะโทรหาหล่ะกันเนอะ"

    "ไม่โกรธเเบมจริงๆใช่มั้ย"

    "อืม ไม่โกรธหรอก เเต่ว่า มาทำสัญญากันดีกว่า"

    "สัญญาอะไร"

    "สัญญาว่าถ้ามีอะไรสำคัญ หรือใครคนใดคนนึงหายไป จะโทรหากัน พี่ไม่ได้ขอให้เเบมตามหาพี่นะ เเต่ว่าพี่จะทำหน้าที่ตามหาเเบมเอง ถ้าเเบมหายไป"

    "อย่างงั้นมันไม่เเฟร์นะ"

    "ไม่เป็นไร สำหรับพี่มันโคตรเเฟร์เลย"

    "เเฟร์ยังไง"

    "^___^"

     

    พี่มาร์คไม่ตอบอะไรเพียงเเต่ยิ้มเเล้วขับรถต่อไปจนถึงมหาลัย

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ----------------------------------------------------------------

     

    เอาเป็นว่า ตอนนี้น้องเเบมเรายังอยากอยู่สถานะที่ยังไม่ถึงขั้นตามหึงหวงกันหล่ะกันเนอะ เเต่พฤติกรรมทั้งคู่มันก็ไม่ใช่หรอก ในใจลึกๆก็หวงกันเเละกันนั้นเเหละ เเต่มาร์คจะชัดเจนกว่า เเบมจะออกเเนวคิดว่าควรทำเเบบนี้จะดีกว่า เเต่ลองให้มีเหตุการณ์ที่ต้องเเสดงท่าทีหึงหวงหล่ะก็ ไม่เเน่เหมือนกัน!!! อาจจะเป็นมากกว่ามาร์คอีกมั้ง 55555555555 รอดูกันต่อไปดีกว่า

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×