ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พี่มาร์คขี้อ่อย #Markbam

    ลำดับตอนที่ #48 : chapter 45

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.15K
      11
      28 ก.ค. 58
















              ผมนั่งหงอยๆอยู่คนเดียว รอพี่มาร์คเดินไปซื้อกาเเฟจากร้านกาเเฟที่มีโลโก้สีเขียว นั่งมองคนเดินผ่านไปผ่านมา ลากกระเป๋าเดินทางใบโตผ่านหน้าผมไป

     

    "ซึมอะไรหล่ะ หืม?" พี่มาร์คเดินกลับมาพร้อมกับยื่นเเก้วช็อกโกเเลตมาตรงหน้าผม ผมรับมาถือไว้เเล้วดูดเข้าไปอึกใหญ่

     

    "ป่าว ไม่ได้เป็นอะไร"ผมส่ายหน้า พี่มาร์คนั่งลงข้างๆเเล้วลูบหัวผมเบาๆ วางมือไว้บนหัวผมเเล้วโยกไปมา

     

    "ไม่เศร้าดิ คุยกันเเล้วไม่ใช่หรอครับ"ผมหันไปมองหน้าพี่มาร์คที่มองผมอยู่

     

              ก็เออ รู้ว่าคุยกันเเล้ว เเต่พอถึงวันที่ต้องเดินทางจริงๆผมก็อดที่จะใจหายไม่ได้นะ ไม่ใช่ใกล้ๆกันเลยนะ เดินทางมากกว่าครึ่งวันกว่าที่เราจะได้เจอกันอ่ะ

     

    "เปลี่ยนใจไปด้วยกันมั้ยครับ"ผมก็อยากจะตอบตกลงอ่ะนะ เเต่ถ้าตกลงตอนนี้มันจะไปทันอะไรเล่า

     

              อยากจะงอเเงนะ เเต่ก็ไม่อยากทำให้พี่มาร์คลำบากใจ เขาต้องไปฝึกงานอ่ะ T_T พี่มาร์คมีหน้าที่ มีสิ่งที่ต้องรับผิดชอบ ผมจะมาทำตัวงี่เง่าไม่ได้ เเค่ห่างกันเอง ไม่เป็นไรหรอกมั้ง ความเหงาไม่ทำให้ใครตายหรอก

     

     

    "จำสัญญาที่ทำกันไว้ได้รึเปล่า" ผมหันไปจ้องใบหน้าหล่อของอีกฝ่าย พี่มาร์คยิ้มบางๆเเล้วยื่นมือมากุมมือผมไว้ที่ตัก

     

    "จำได้สิครับ ไปถึงต้องโทรหาเเบมทันที ถึงที่พักก็โทรหาอีกรอบ ทานข้าวครบสามมื้อ ก่อนจะนอนโทรคุยกัน ที่สำคัญห้ามมีกิ๊ก งดอ่อยทุกกรณี คุยกับผู้หญิงเเละผู้ชายน่ารักได้ไม่เกินสามประโยค ยกเว้นเรื่องงานที่คุยได้ยาวๆ เเล้วก็...."

     

    "บอกทุกคนว่ามีเเฟนเเล้ว ชื่อเเบมเเบม กันต์พิมุกต์ กำลังจะเเต่งงานกัน"

     

    "ถูกต้องงงงงง"พี่มาร์คฉีกยิ้มกว้าง ดึงผมเข้าไปกอด โยกตัวเบาๆเหมือนกับจะปลอบผม

     

     

              จำสัญญาที่ทำไว้ด้วยกันได้ ไม่เหมือนกับทำตามสัญญาหรอกนะครับ ผมไม่รู้ว่าพี่มาร์คจะรักษาสัญญาเเละทำตามสัญญามั้ย ผมอยากจะไว้ใจเข้าให้มาก พอๆกับที่เขาจะไว้ใจผมเหมือนกัน

     

     

              ห่างๆกันบ้าง จะได้มีช่วงเวลาที่คิดถึงกันมากๆ เเละจะได้รู้ว่าระยะทางไม่ใช่อุปสรรคต่อความรักของเรา

     

     

    "ขอจูบที" ผมรีบเอามือปิดปากพี่มาร์คไว้เเน่นๆ เเล้วก้มลงไปจูบหลังมือตัวเองที่กั้นระหว่างปากเราทั้งคู่เอาไว้ ผละออกช้าๆเเล้วมองตากันนิ่งๆ

     

              ดวงตาคู่นี้ที่ชอบมองผม ดวงตาที่ทำให้ผมเขินเวลาที่ถูกมอง ดวงตาที่ทำให้ผมกลัวเวลาถูกดุเมื่อทำผิด ดวงตาที่เเสดงความรู้สึกมากมายให้ผมรับรู้ได้โดยไม่ต้องเอ่ยปากพูด

     

    "โชคดีนะครับพี่มาร์ค ดูเเลตัวเองดีๆด้วย" ผมลุกขึ้นยืนเตรียมตัวจะกลับ ผมไม่อยากนั่งรอจนเขาเดินหายไป ผมกลัว กลัวใจตัวเอง กลัวจะวิ่งไปกอดเเล้วไม่ให้เขาไป กลัวตัวเองไม่มีเหตุผล กลัวเอาเเต่ใจตัวเอง เเละกลัวพี่มาร์คยอมตามใจ

     

    "กลับเเล้วนะพี่มาร์ค"ผมพยายามยิ้ม ยิ้มที่มีความสุขที่สุดให้คนตรงหน้าสบายใจ พี่มาร์คยืนขึ้นเต็มความสูง เเล้วขยับเข้ามาใกล้ ดึงผมเข้าไปกอดเเน่นๆอีกครั้ง

     

    "ดูเเลตัวเองดีๆนะเเบม พี่เป็นห่วงเรานะ รักเรามากด้วย เเฝดของพี่" ผมพยักหน้าในอ้อมกอดของเขา ไม่อยากจะร้องไห้หรอกนะ

     

    "กลับบ้านดีๆนะ ถึงเเล้วโทรมาบอกด้วย" พี่มาร์คคลายอ้อมกอดออกช้าๆ ความเย็นที่คอทำให้ผมก้มลงไปมอง สร้อยสีเงินที่มีเเหวนคล้องเอาไว้อยู่ที่คอผมเมื่อไหร่ไม่รู้

     

    "พี่ก็มีเหมือนกัน ดูสิว่าชอบมั้ย" ผมก้มมองดูเเหวนที่สลักภาษาที่ผมคุ้นตา ภาษาไทยสลักลงบนเเหวนเงิน คำว่า

     

    'ต้วนน้อย&เเฝด'

     

     

    ทำให้ผมยิ้มออกมา พี่มาร์คก็ยิ้มเหมือนกัน ยิ้มจนเห็นเขี้ยวทั้งสองข้างชัดเจน

     

    "ขอบคุณนะครับ ไปเเอบทำตอนไหนเนี่ย"

     

    "ตอนเเบมหลับอยู่ พี่ออกไปทำมาตอนที่เราไปไทยด้วยกัน มันอาจจะเบี้ยวๆไปหน่อยนะ ถึงมันจะไม่มีราคาอะไรมากมาย เเต่ความตั้งใจของพี่กับเเหวนทั้งสองวง มันมีค่ากว่าเเหวนเพชรอีกนะ เพราะพี่ใช้ใจทำ"

     

    "เลี่ยนอ่ะ นึกว่าจะต้องจากกันเศร้าๆซะเเล้ว มาร์ค ต้วนนี่มันมาร์ค ต้วนจริงๆ เเบมไปเเล้วนะ บ๊ายบ่าย" ผมโบกมือลาพี่มาร์คเป็นครั้งสุดท้ายเเล้วรีบวิ่งออกจากสนามบินเลย

     

     

              ผมยืนรอหน้าสนามบินโทรตามยูคยอมให้มารับ หลายนั้นก็พึ่งมาส่งพี่จินยองเมื่อวานนี้เหมือนกัน พี่จินยองบินไปญี่ปุ่นพร้อมกับพี่เเจบอมเลย เขาสองคนฝึกงานที่เดียวกัน ส่วนพี่มาร์คก็ไปกับพี่เเจ็คสัน เเต่พี่เเจ็คสันเหมือนจะเดินทางพรุ่งนี้

     

     

              รถยนต์ที่เเสนคุ้นตาขับมาจอดข้างหน้าผม ผมก้าวไปนั่งที่เบาะข้างคนขับ ยูคยอมหน้าตาดูเพลียๆอย่างเห็นได้ชัด

     

     

    "เป็นไรอ่ะยูค ทำไมหน้าตาดูหมองๆอย่างงี้ว่ะ" ผมใช้มือจับหน้าผาก จับตัวยูคยอม มันก็อุ่นๆเหมือนคนจะไม่สบาย

     

    "นี่คิดถึงเขาจนไข้กินเลยหรอ ห่างกันเเค่วันเดียวเองนะ"

     

    "รอดูของตัวเองเถอะ เดี๋ยวรู้เลยเเบม"

     

    "คนอย่างไอ้เเบม ไม่มีทางเหงา ไม่มีทางเศร้าอยู่เเล้ว เชื่อได้"

     

    "ให้มันจริงเถอะเเบม เเบมกับพี่มาร์คตัวติดกันมากกว่า ยูคกับพี่เนียร์อีกนะ ไม่คิดถึง ไม่เศร้าเลยคงเป็นไปไม่ได้อ่ะ"

     

    "มันก็ต้องมีบ้างเเหละ เเต่คนอย่างไอ้เเบม ไม่มีทางฟูมฟายเด็ดขาด"

     

    "หึ!"



    30%









    ทำไม

     

     

     

     

     

     

    ทำไม

     

     

     

     

     

     

     

     

    ทำไม

     

     

     

     

     

     

     

    ทำมายยยยยยย

     

     

     

              พี่มาร์คน่าจะถึง LA เเล้วนะ ทำไมยังไม่โทรหาผมอีกอ่ะ ไลน์ไปก็ไม่อ่าน ส่งข้อความไปก็ไม่ตอบกลับมา โทรหาก็ไม่มีคนรับ ไหนบอกว่าจำสัญญาที่ทำกันได้ไง คนนิสัยไม่ดี คนหลอกลวง ไอ้พี่บ้า

     

     

              ผมเดินไปเดินมาในห้องตัวเอง มองโทรศัพท์ที่รอพี่เขาโทรมาบอกว่าตัวเองถึงเเล้ว ผมจำได้เวลาได้ดีเลยหล่ะว่าพี่มาร์คจะถึงประมาณบ่ายสองโมง เเต่นี่มันสี่โมงเย็นเเล้วนะครับ ทำไมเขายังไม่โทรหาผมอีก

     

     

              ได้!!! จะทำอย่างนี้กับไอ้เเบมใช่มั้ย เออ คอยดู พี่จะต้องรีบโทรหาผมเลยหล่ะพี่มาร์ค

     

     

              ผมหยิบโทรศัพท์ กระเป๋าตังค์ตัวเองเเล้ววิ่งลงไปข้างล่าง พี่คุณยังไม่กลับจากที่ทำงานเลย ในบ้านเลยเงียบเชียบขนาดนี้

     

     

              ผมวิ่งไปหาคนขับรถเเล้วบอกให้เขาพาไปที่ๆหนึ่ง ที่ๆพี่มาร์คต้องเดือดเเน่ๆ

     

     

              ผมยืนเคาะประตูห้องของใครคนนึงที่ผมรู้จักดี เราเคยเจอกันตอนที่ผมเเอบชะเเว้บไปที่ตึกสถาปัตย์

     

     

    "อ้าว เเบม มาหาพี่มีอะไรรึเปล่าครับ" ผมฉีกยิ้มให้คนที่เปิดประตูออกมา พี่เขาเปิดทางให้ผมเข้าไปด้านใน

    "ทำงานอยู่หรอครับ" ผมมองเเบบที่พี่เขาร่างเอาไว้หลายเเผ่น

    "ไม่ใช่หรอก พี่เอาของที่บริษัทที่ฝึกงานมาลองดูน่ะ เขาให้พี่เอาเเบบเก่าๆที่บรษัทเคยออกเเบบกลับมาดู"

    "ที่บริษัทพี่ฝึกงาน โอเคมั้ยครับ"

    "ดีเลยนะเเบม พี่ๆเขาน่ารักกันทั้งนั้น อีกอย่างมีคนที่จบจากมหาลัยเราไปทำงานที่นี่ด้วย พี่เขาเลยคอยช่วยเหลือพี่ตลอดเลย"

    "ดีจัง เเล้วพี่คิดจะสอบชิงทุนไปฝึกงานต่างประเทศหรอครับ"

    "จริงๆพี่ก็อยากนะ เเต่คิดไปคิดมา ไม่เอาดีกว่า พี่ว่าอยู่เกาหลีก็ดีอยู่เเล้ว ส่วนงานที่ต่างประเทศ รอให้พี่มีประสบการณ์สะสมไว้เยอะๆก่อน ค่อยว่ากัน เเบมทานอะไรมารึยัง พี่ว่าจะทำกับข้าว ทานด้วยกันมั้ย"

    "ก็ได้ครับ" พี่เขาเดินเข้าไปในครัว ผมเลยเดินตามเข้าไป

    "จะทำอะไรอ่ะครับ"

    "เเกงกิมจิ หมูผัดกิมจิ เเล้วก็พี่จะทอดไก่ด้วย เเม่พี่เอากิมจิมาให้เยอะอ่ะ ช่วงนี้เลยมีเเต่เมนูที่มีกิมจิเป็นส่วนผสม"

    "ให้เเบมช่วยมั้ย" พี่เขาหันมายิ้มให้ผม เเล้วหยิบผ้ากันเปื้อนในลิ้นชักออกมาให้

    "พี่เซฮุนครับ ถ่ายรูปกัน" ผมยกมือถือขึ้นมาถ่าย เป็นรูปที่พี่เซฮุนยืนอยู่หน้าเเล้วมองกล้อง ส่วนผมก็อยู่ข้างๆพี่เขา

     

     

              ผมลงในอินสตราเเกรมของตัวเองพร้อมกับเเท็กพี่เซฮุน เข้า Facebook ของตัวเองเเล้วเช็คอินคอนโดของพี่เขา เเค่นี้ก็เรียบร้อย เชื่อสิ อีกไม่ถึงยี่สิบนาทีต้องมีคนโทรหาผม

     

     

    "เสร็จเเล้วเเบมเเบม มาทานกัน" พี่เซฮุนวางเเกงกิมจิลงบนโต๊ะ เเล้วตักข้าวให้ผมด้วย

    "ครับ"

    "เป็นไรรึเปล่า หน้าดูเซ็งๆ ไม่ชอบหรอ หรือพี่ทำไม่น่าทาน"

    "ป่าวครับ เเบมเเค่คิดอะไรนิดหน่อย อย่าไปสนใจเลยครับ"

    "เรื่องมาร์ครึเปล่า เห็นมีคนบอกว่ามาร์คไปฝึกงานไกลถึงเเอลเอเลยไม่ใช่หรอ"

    "ไม่เกี่ยวกับเขาหรอกครับ ไม่ต้องสนใจหรอกครับ เราทานข้าวกันดีกว่า"

    "ว่าเเต่เเบมมาหาพี่มีอะไรรึเปล่า"

    "เเบมไม่มีที่จะไปมั้งครับ ยองเเจก็ไปส่งพี่เเจ็คสัน ยูคยอมก็อาจจะกลับบ้าน พี่คุณก็ทำงาน เเบมเลยมาหาพี่ดีกว่า"

    "ดีเเล้วหล่ะที่มาหาพี่ พี่ก็กำลังเบื่อๆอยู่พอดี เอางี้มั้ยเดี๋ยวทานข้าวเสร็จพี่พาเราออกไปนั่งรถเล่น"

    "ก็ได้ครับ"

    "อยากไปจริงป่ะเนี่ย"

    "ครับ ^___^"

     

     

              เซ็งๆๆๆๆๆๆ ขนาดทำเเบบนี้เเล้วพี่มาร์คยังไม่ติดต่อผมกลับมาเลย ให้มันได้อย่างงี้สิ ไปทำงานที่นู้น เจอพวกฝรั่งอกตูมๆ ก็ลืมผมเลยใช่ไป ใช่สิ ผมมันหุ่นไม่ดี นิสัยก็เอาเเต่ใจ เขาก็คงจะเบื่อผมเเล้วเเน่เลย

     

     

    "เเบม ร้องไห้ทำไม" พี่เซฮุนเงยหน้าจากถ้วยข้าว ลุกจากเก้าอี้เเล้วมานั่งคุกเข่ากับพื้นอยู่ข้างๆผม

    "ป่าวครับ เเบมไม่ได้เป็นอะไร"

    "คิดถึงมาร์คหล่ะสิ เเล้วทำไมไม่โทรหาเขาหล่ะ"

    "โทรเเล้วครับ ทำทุกอย่างเเล้ว เขาก็ยังไม่ตอบกลับมาสักช่องทางเลย"

    "เขาอาจจะเหนื่อยก็ได้ เเบมต้องเข้าใจมาร์คนะเกาหลีกับเมกามันไม่ใช่ใกล้ๆเลย เลิกร้องไห้ เเล้วทานข้าวดีกว่า เดี๋ยวพี่จะพาเราไปนั่งรถเล่น รับลมเย็นๆให้สบายใจจะดีกว่า"

     

     

              ตอนนี้ผมอยู่บนรถกับพี่เซฮุน หลังจากที่ผมโทรไปบอกพี่คุณว่าผมอยู่กับใครเรียบร้อยเเละก็ให้เบอร์พี่เซฮุนเอาไว้ ผมก็เลือกที่จะปิดโทรศัพท์เลย ถ้าการรอคอยเเบบล้มเเล้งต้องทำให้ผมเสียใจ สู้ผมไม่รับรู้อะไรดีกว่า ในเมื่อเขาไม่อยากจะสนใจผมก็ไม่เป็นไร

     

     

    "อยากได้อะไรมั้ย พี่จะลงไปซื้อน้ำ" ผมส่ายหน้า พี่เซฮุนเลยเดินเข้าไปในมินิมาร์ท

     

     

              เเรงสั่นจากโทรศัพท์ของเขา ทำให้ผมหันไปมอง ก็เห็นเบอร์โทรที่เป็นของพี่คุณ ผมเลยเสียมารยาทหยิบขึ้นมารับ

     

     

    "ฮัลโหลครับ นี่เเบมเองนะพี่คุณ"

    (คุยกันเองหล่ะกัน // ไอ้เเบม ปิดเครื่องทำไมว่ะ เนี่ยพี่มาร์คเขาโทรหาก็ไม่ติด พี่เขาจะบ้าตายอยู่เเล้วเนี่ย เเกเปิดเครื่องเดี๋ยวนี้เลยนะ)

    "อะไรของเเก ยูคยอม เเล้วนี่อยู่ไหนเนี่ย"

    (ก็พี่มาร์ค เขาโทรหาเเกไม่ติด ก็เเกเล่นบ้าอะไรว่ะ เช็คอินเเถวคอนโดพี่เซฮุน ไหนจะถ่ายรูปลงไอจีคู่กับเขา พี่มาร์คไม่บินกลับมาก็ดีเท่าไหร่เเล้ว ยิ่งเขาโทรหาเเกไม่ติด พอโทรหาฉัน ฉันว่าพี่เขาดูเดือดอยู่นะเว้ย เปิดเครื่องซะไอ้เเบม)

    "ไม่ ฉันไม่มีอารมณ์จะรับ เเค่นี้นะ"

    (ไอ้เเบม นี่ไม่ใช่เวลามางอนเขานะเว้ย เเกกับพี่เขาไม่ได้อยู่โซลนะ เเกน่ะอยู่โซลเเต่พี่มาร์คเขาอยู่เเอลเอ เเค่นี้เขาก็เเทบจะบ้าตาย เเกยังจะใจร้ายไม่รับโทรศัพท์เขาอีกหรอว่ะ นี่พึ่งห่างกันสองวัน เเกจะทะเลาะกันเเล้วหรอ อย่ามางี่เง่านะเเบม /// เเบมไม่อยากโทรก็อย่าบังคับสิยูคยอม)

    "เเบม พี่กลับมาเเล้ว" ผมตัดสายเเล้วส่งมือถือคืนพี่เซฮุน บอกเขาว่าพี่ชายผมโทรมา เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร

    "พี่เซฮุนครับ ช่วยไปส่งเเบมที่บ้านหน่อย พอดีว่าพี่ชายเเบมบอกให้รีบกลับน่ะครับ"

    "โอเค ได้สิ"

     

     

     

              ผมกลับมาถึงบ้านก็นั่งมองโทรศัพท์ตัวเอง ชั่งใจอยู่ว่าจะเปิดเครื่องดีรึเปล่า ผมรอเขาสองชั่วโมงฝยังรอได้ แค่นี้พี่มาร์คเขาไม่เป็นไรหรอก เขาจะได้รู้ด้วยว่า เวลาที่คนมารอให้เขารับมันเป็นยังไง

     

     

    แกอย่างี่เง่าได้มั้ยแบม

     

     

              โอ้ยยยยยย ออกไปสักทีดิว่ะ คำพูดของยูคยอมเนี่ย ผมไม่ได้งี่เง่าสักหน่อย ผมก็แค่ป็นห่วงเขา แต่เขากลับไม่นึกใจผมบ้างเลย ผมไม่ได้งี่เง่าสักหน่อย

     

     

    กริ๊งงงงงงงงงงงงงงง

     

     

     

    กริ๊งงงงงงงงงงงงง

     

     

    “ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมรับเอง” ผมบอกแม่บ้านที่จะวิ่งมารับโทรศัพท์ ผมเดินไปแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแนบหู

    “ฮัลโหล สวัสดีครับ”

    (แบม ทำไมไม่เปิดเครื่อง)

    “.......”

    (อยากให้พี่บินกลับไปหาเราตอนนี้เลยใช่มั้ย)

    “พี่อย่ามาทำเสียงแบบนี้ใส่แบมนะ”

    (แล้วที่แบมทำ แบมจะไม่ให้พี่โกรธรึไง ทำอะไรคิดถึงใจพี่บ้างดิว่ะ)

    “แล้วพี่หล่ะ พี่คิดถึงแบมบ้างรึเปล่า แบมบอกให้พี่โทรหา นี่มันกี่โมงแล้วพี่มาร์ค”

    (แล้วแบมรู้มั้ยว่าพี่ถึงที่นี่กี่โมง พี่เจออะไรบ้าง พี่จะบ้าตายอยู่แล้วนะเว้ยแบม แล้วแบมมาทำแบบนี้อีก ไว้แบมอารมณ์เย็นกว่านี้ก่อน แล้วค่อยทักพี่มาหล่ะกัน พี่ก็จะไปพักเหมือนกัน พี่เหนื่อย)

    “เออ อยากไปทำไรก็ไปทำเถอะ ฮึก”

    (โถ่เว้ยยยยย)

     

              ผมวางโทรศัพท์ลงแล้วรีบวิ่งขึ้นห้องตัวเอง กระโดดลงเตียงแล้วร้องไห้ออกมา

     

             

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     



    ---------------------------------Talk 30%----------------------------


    เราได้ทำการกดเร่งเวลาเเล้วหล่ะทุกคน 

    ในเมื่อเราเห็นว่าสองคนนี้จะใกล้เกินไปเเล้ว

    เราเลยส่งพี่มาร์คไปอยู่เเดนไกลซะเลย 

    ก็อยากให้รู้ อยากให้ลุ้นกันไง 

    ว่าใครจะงอเเงก่อนกัน

    พี่มาร์คจะทำตามสัญญาได้รึเปล่า

    เเละเเบมจะไม่คิดถึงจนป่วยเเบบยูคยอมมั้ย 

    รออ่านอีก 70% กันด้วยนะ




    ย้ำอีกครั้ง เหลืออีก 5 ตอนเเล้วนะ

    ใครยังไม่เม้นท์ก็รีบเม้นซะ 

    คนที่ไม่เคยเม้นเลย สนใจไปสตรีมเเท็ก #ฟิคขี้มาร์คขี้อ่อย มั้ย

    นี่ไม่ได้บังคับอะไร 

    เพราะไม่อยากบังคับ ถ้าบังคับให้เม้น บังคับสกรีมเเท็กกัน 

    เรื่องนี้คงดองอีกประมาณครึ่งปี 

    เพราะฉะนั้น เม้นกันเถิดครับ บางทีไรท์ก็อยากได้กำลังใจ 

    อีกอย่างจบเรื่องนี้ จะกล้าไปต่อเรื่องใหม่รึเปล่า ยังไม่รู้

    เริ่มหวั่นๆว่าจะไม่มีคนอ่าน 

    กะจะลบให้เหลือเเค่สามเรื่องเเล้วเนี่ย เฮ้ออออ


    ขอบคุณที่ติดตาม




    อ้อ ถ้าเราได้บัต่ร Fanmeet เราจะอัพเพิ่มอีก 3 ตอนรวด 

    อาจจะเป็นตอนที่ 48-50 หรือจะเป็น 51-53 (สเปเชี่ยลของเรื่องนี้) 

    ก็ได้ 





    Talk

    ขอโทษๆๆๆๆ ที่หายไปนาน ตั้งใจว่าจะรีไรท์ใหม่ เเต่มาคิดอีกทีเลยเปลี่ยนใจ มาลงให้จบก่อนดีกว่า พอจบ ค่อยรีไรท์ทั้งเรื่องใหม่จะดีกว่า

    ขอบคุณที่ยังมีคนรอฟิคจากเราน้าาาา ขอบคุณจริงๆ


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×