ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Unlove_รวมพลคนหมดรัก(Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #5 : ยกที่4 : หลบหมัด

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 691
      22
      11 ม.ค. 58




    ยกที่4 : หลบหมัด







    Men’ Part

     

    “มันยากตรงไหนวะ มึงก็เอาค่าที่หาได้จากตอนแรกมารวมกันกับอันสุดท้าย มันก็ได้คำตอบเท่ากับ 192 ไง”

    “มึงอ่านโจทย์ดีๆดิ๊การ์ด มันไม่ต้องรวม!

    “มึงคนสอน?

    “กูคนเรียน?!

    “งั้นมึงก็ดูเฉลยที่อาจารย์บอกดิ๊!

    “...”

    “ไง คำตอบอ่ะ อาจารย์เฉลยว่าไง?

    “...192 = =

    “กูบอกแล้ว...เถียงกูอีกอ่ะ!

     

       พักรบครับ...ศึกหนักกว่าคือสอบปลายภาค!!!!!!!

       ไอการ์ดคงทนเห็นความโง่บรมในฟิสิกส์ของผมไม่ได้อ่ะครับ มันเลยต้องผันตัวมาเป็นติวเตอร์ให้ผม =3=

       ส่วนไอมีน...

       ...ตอนไอวิชติวน่ากลัวกว่าการ์ดเป็นร้อยเท่าครับ ตอนแรกมันงอแงจะขอติวกับไอการ์ดด้วย...แต่แน่นอนว่าไอวิชลากตัวไปตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ วันนี้วันอาทิตย์ ผมยังไม่เห็นแม้แต่เงาขี้เล็บมันเลย = =

     

       อ่า...

       รู้นะครับว่าสงสัย ว่าต่อจากตอนนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง...

       ‘หลงเหรอ...โต๊ะเราอยู่ข้างบนนะ อย่าลืมสิ

       ตอนได้ยินคำพูดนี้ผมแทบทรุด...ไอการ์ดเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เมื่อก่อน...มันเก่งไปซะทุกเรื่องจนน่าโมโห

       มันรู้ตลอดว่าผมคิดอะไร รู้สึกยังไง...

       มันรู้แน่ๆว่าผมรู้สึกยังไง...มันยังพูดแบบนี้...

       ผมหายใจเข้าและหายใจออกช้าๆ...ตอนนี้ไม่มีใครอยู่ข้างผมแล้ว มีนก็ช่วยอะไรผมไม่ได้

       มีแต่ผมคนเดียว...มีแค่เราคนเดียว...

       จะหัวอ่อนฟังมันทุกอย่างเหมือนเดิมตามที่ใจหนึ่งต้องการ หรือจะยืนด้วยขาตัวเอง ทำตามใจอีกด้านของตัวเองบ้างล่ะเม่น...

       ...มึงทนมาสี่ปี มึงจะยอมให้มันกลับมามีผลต่อจิตใจง่ายๆแบบนี้เหรอวะ...

       ...ขี้เกียจจะคิดแล้ว...

      ‘ไม่เป็นไร ...เพราะกูไม่สนใจแล้วผมยิ้มให้การ์ด ยิ้มอย่างสดใสที่สุดเท่าที่จะสดใสได้ไม่สนใจทั้งมึงทั้งเหตุผลนั่นแหละ…’

       ผมจะไม่สนแล้ว!!!

     

     

       ‘...สี่ปีที่ผ่านมากูรักแต่มึง...แล้วกูจะเอาเวลาไหนไปหาคนใหม่วะเม่น

     

       บอกตรงๆว่าผมก็รักมัน รอแต่มัน...สี่ปี ผมมีแค่มัน...

     

       แต่ผมแค่น้อยใจ มันบอกว่าผมไม่พร้อมจะฟังเหตุผล...ผมรักแต่มันมาเจ็ดปีตั้งแต่ม.1  หนึ่งในสามของชีวิตผม ผมมองแค่มัน รอแค่มัน ผมยังไม่พร้อมอีกเหรอวะ?!

       ต้องให้ผมไปพัฒนาอะไรอีก ถึงจะพร้อมเท่าที่มันต้องการ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

     

    มึงก็พูดแต่ปากป่ะวะ...มีน้ำมาคั่นเวลาด้วยนี่?!’

    ถามกูยัง ว่ากูรักน้ำมั้ย?’ มันพูดพลางเหลือบตาหน่อยๆ เหมือนไม่อยากจะตอบ

    กูควรถาม? ไม่รักแล้วคบทำไม?!  แล้วพอกูถามมึงก็บอกว่ากูไม่พร้อมจะฟังเหตุผลอยู่ดีป่ะผมพูด มองไอการ์ดที่ตักเนื้อที่มันหั่นแล้วใส่จานผม

    ...รอมึงปิดเทอมเดี๋ยวกูจะพามึงไปเจอคำตอบถึงที่เลยจริงๆ

    ไปไหน =”=’ ผมถาม

    ไปเจอคำตอบไง...

    กูไม่ไปผมพูด

    กูจะทำให้มึงไป!’

       ผมมองไอการ์ดที่วางช้อนลงแล้วมองหน้าผมนิ่ง เหมือนจะยืนยันคำพูดที่เพิ่งพูดออกมา...

       ถามว่าผมแคร์มั้ย...

    ทำได้ก็ตามใจ!!!’

       ไม่เลย!!!!!!!

     

    ...ผมขอมองมันดิ้นรนกับท่าทีของผมอีกนานก็แล้วกัน...

     

       แต่อาทิตย์นี้ขอพักยกก่อน...มันกำลังจะสอบ ต้องการคนช่วยชีวิต!

       ผมเล่นตัวไม่ได้ เข้าใจตรงกันนะ!!!

     

    “ที่โน้นสอนฟิสิกส์ด้วยเหรอวะ” ผมถามไอการ์ดที่นั่งดูดโกโก้อยู่ข้างผม

    “เหอะ! ไม่สอนว่ะ...แต่อ่านแล้วง่าย พอจะสอนมึงได้อ่ะ...” การ์ดยิ้ม ...เอาตรงๆมันก็ไม่ได้เปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนเท่าไหร่ ยังยิ้มง่าย คุยเก่ง...

    “แล้วทำไมไม่กินกาแฟอ่ะ...เมื่อก่อนกูกินโกโก้ล่ะบ่นกูจัง ว่ากินอะไรเหมือนเด็ก”

    “ก็มึงไม่ชอบกลิ่นกาแฟนี่ กูจำได้ กูเลยกินโกโก้ไง มึงได้กินด้วย =w=

       ...ไหมล่ะ ไม่ดีต่อหัวใจไหมล่ะ?...

    “แล้วนี่มาอยู่ตั้งสามสี่อาทิตย์ ค่าโรงแรมไม่แพงตายเลยรึไงวะ”

    “โรงแรมของลุงอ่ะ พักฟรีไม่ต้องเสียเงิน =w= “ กูล่ะหมั่นไส้พวกบ้านรวย...

       ผมเหลือบมองชีทภาษาอังกฤษที่วางอยู่ข้างๆตัว...จิ๊บหายละ!

       วิชาต่อไปภาษาอังกฤษ! เป็นวิชาที่ผมโคตรเกลียด แต่แม่ม...เผือกเป็นวิชาภาษาบ้านพ่อของไอการ์ด!!!!

       มันไม่ได้เป็นลูกครึ่งนะครับ แต่ที่เรียกวิชาภาษาบ้านพ่อเนี่ย เพราะไอการ์ดมันโคตรเก่งภาษาอังกฤษ!

        เวลาไอการ์ดติววิชานี้โดยเฉพาะติวให้คนโง่วภาษาแบบผมแล้วด้วยเนี่ย หึ! วิชก็วิชเหอะ...ยังต้องสยบต่อไอห่านที่นั่งดูดโกโก้อยู่ข้างๆผมเลย

       ...ผมยังจำความสยองตอนมันติวอังกฤษให้ผมตอนม.ต้นได้ไม่ลืมเลือน...

       ...ขอเปลี่ยนไปเรียนกับไอไนท์แทนได้มั้ยวะเนี่ย...

       แต่ไอการ์ดมันเฝ้าผมทั้งวันมาตั้งสองสามวันละ ทำไงดีวะเนี่ย...ผมเกาหัวแกรก

    “เป็นไร?”  มันถาม...ผมมองหน้าไอการ์ดหน่อยๆ

      เอาวะ หนีเป็นหนี! อิสระรอกูอยู่!!!

      ถึงมึงจะเป็นผู้มีพระคุณก็เหอะนะการ์ด แต่กูทนมองหน้ามึงมาสองวัน สยองจนกูอยากจะบีบคอตัวเองตาย ขอกูไปที่ชอบๆแบบที่ไม่ต้องมีมึงพ่วงไปด้วยเหอะ...

       อีกอย่าง...กูไม่อยากเจอความผวาเวลามึงสอนตอนม.ต้นอีกแล้ว...สุมาเต๊อะ!!!!

    “การ์ด กูขอไปห้องน้ำแปปนะ” ผมพูด

    “อือ...แล้วนั่นมึงจะถือชีทไปทำไม” ไอการ์ดดึงชีทในมือผมออก “เดี๋ยวก็เปียกน้ำหรอก”

    “อ๋ออออ ลืมๆ ใจมาก เดี๋ยวมานะ!

       พูดเสร็จผมก็โกยอ้าวมาทางห้องน้ำแล้วหลบขึ้นห้องเลยครับ...

       เกมส์แรกเริ่มได้!!!

       ขอนอนซักยี่สิบนาทีก็ยังดี...ผมคิดพลางเปิดประตูห้อง

    “อ้าว! มึงไม่ได้ไปติวแคลที่คณะเหรอวะ...”

    “อือ...ไอไผ่มันติวจนเสร็จแล้วว่ะ เม่น กูขอไรหน่อยดิ” ไอบาสมองผมหน้าเครียด เกิดอะไรขึ้น?

    “ได้ดิ มีไรป่ะวะ ทะเลาะกับไผ่เหรอ?” ผมถาม...นานๆทีจะเห็นไอบาสหน้าเครียดขนาดนี้

    “มึงช่วยลงไปติวกับไอการ์ดให้เสร็จเลย!!! กูพนันกับไอไผ่ไว้ว่ามึงจะหนีติวอังกฤษของไอการ์ดมั้ย กูแม่มก็ใจปล้ำเข้าข้างมึงไม่ลืมหูลืมตาเลยเนี่ย เมื่อกี้ไอการ์ดโทรมาหากู บอกว่าถ้ามึงขึ้นมาก็บอกให้มึงกลับลงไปด้วย เหลืออีกหนึ่งวิชา...ภาษาอังกฤษใช่มะ?

       ผมพยักหน้าพร้อมยิ้มแหยๆให้ไอบาส

    “มึงลงไปเหอะนะ กูไหว้ล่ะ ถ้ากูแพ้พนัน ไอไผ่จะให้กูไปนั่งติวอังกฤษกับไอการ์ดอ่ะ กูไม่เอานะเม่น เชี่ยการ์ดตอนติวอังกฤษแม่มน่ากลัวยิ่งกว่าหมาแถวบ้านกูอีก”

    “เอ้า! ขนาดมึงยังกลัว แล้วกูไม่กลัวเหรอวะ” ผมโวย ไอบาสทำหน้าเหมือนจะร้องไห้แล้ววิ่งมากอดขาผม

    “เหอะนะ...กูขออออออออ เพื่อสวัสดิภาพช่องทางด้านหลังกูด้วยยยยยยย”

       ผมร้องโอยเบาๆเมื่อได้ยินไอบาสพูดอย่างนั้น...

       ...นี่มึงมั่นใจในกูมากเกินไปละบาส พนันไอไผ่ไปเยอะขนาดนั้น!!!!!!!

       เกมส์แรก...

       ...แพ้ตั้งแต่ยังไม่ทันเริ่ม!!!

     

    Card Part

     

      ผมมองเม่นที่เดินกลับมาพร้อมหน้าบึ้งหน่อยๆ ขำนิดๆที่มันถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะนั่งลงที่เดิม

      
       ...เกมส์แรก ชนะ...

    “ห้องน้ำเต็ม?

    “เหอะ!!! แล้วทำไรอยู่...ฟังเพลงเป็นกับเขาด้วย!

    “ก็เห็นคนแถวนี้ชอบ เลยต้องฟังบ่อยๆ อยากรู้ว่ามันเพราะยังไง” ผมยื่นไอโฟนให้คนข้างๆดูหน้าจอ

    LeeSSang(리쌍) _ Tears(눈물)

    “ที่ฟังอ่ะ รู้ความหมายบ้างป่ะ?” เม่นเลิกคิ้วสูง

    “ก็พอรู้บ้าง...” ผมตอบ “...เรียกร้องกันและกันมากเกินไป แค่ไม่เจอกันแปปเดียวก็พะว้าพะวงพอปล่อยมือ...”

       ผมหยุด...มองเม่นหน่อยๆ

    “พอปล่อยมือ แล้ว?” เม่นถาม ผมมองหน้าเม่นนิ่ง

    “ติวต่อเหอะ...ภาษาอังกฤษนะ” ผมถือชีทแล้วคิด...

       เพลงไม่ได้ตรงไปซะทุกอย่าง...แต่บางประโยค ก็โดนจนน่าตกใจ...

       เม่นฟังมันวนไปมาอยู่สามปี ฟังทั้งๆที่รู้ความหมาย...

       ...ฟังเพราะชอบ หรือฟังเพื่อตอกย้ำตัวเองให้เจ็บกว่าเดิม...

    “ติวมั้ยเนี่ย...กูทำใจนานนะ ติวอังกฤษกับมึงอ่ะ”

       ผมมองเม่นที่พูดหยอกผมยิ้มๆ...

       ผมรักรอยยิ้มนี้ขนาดไหน...ผมรอจะเห็นมันนานแค่ไหน ผมโหยหามันขนาดไหน

    “เออ การ์ด มึงจำตอนมึงติวอังกฤษให้ไอบาสได้มั้ย..............แล้วก็นะ......................”

       ผมฟังเสียงเม่น กลิ่นตัวที่หอมอ่อนๆ...กลิ่นแป้งที่เม่นใช้ประจำ เม่นไม่ชอบใช้น้ำหอม

       เม่นยังคงพูดถึงเรื่องเก่าๆ หัวเราะไปกับเรื่องที่ตัวเองเล่า

       ผมคิดถึงสิ่งเหล่านี้ขนาดไหน...

     

       ...ผมฝึกหนัก หนักจนอยากจะเลิก ท้อจนอยากถอยหลายครั้ง...

     

       แต่ผมจะล้มไม่ได้ ผมถอยไม่ได้

     

       ผมนั่งมองรูปคู่ที่ถ่ายกับเม่นทุกวัน ทุกคืน...ผมได้แต่ให้กำลังใจตัวเอง

     

       ถ้าผมหยุดลงตรงนี้...ผมก็จะตั้งตัวไม่ได้ ผมจะปกป้องเม่นไม่ได้ ผมจะกลับไปหาเม่นไม่ได้!!!

     

       ผมหยุดไม่ได้...ผมท้อใจจนต้องร้องไห้คนเดียวอยู่หลายครั้ง...

     

       บางครั้งก็เหนื่อย ล้าจนอยากได้กำลังใจ...คุยกับแม่หรือพ่อ สิ่งที่พูดปิดท้ายอยู่ทุกครั้งก็มีแต่เรื่องหมั้นหมายกับลูกสาวของป้าอารีย์

     

       อยากจะโทรไปหาเม่น ขอแค่ได้ยินเสียง ขอแค่ได้ยินเสียงที่คิดถึงเรียกชื่อซักครั้ง...ก็ไม่กล้า เสียใจจนต้องทุบอกตัวเอง ด่าตัวเองว่าโง่ตั้งกี่ครั้งที่ทิ้งมันออกมาโดยไม่บอกอะไรเลย

     

       ปล่อยให้เม่นรอ...โดยไม่รู้อะไรเลย

     

       ทำเม่นไว้เจ็บขนาดนี้...ทั้งเรื่องน้ำ ทั้งความงี่เง่าของตัวเอง...

     

       จะมีหน้าโทรไปหาเม่นเพื่อขอกำลังใจ...ผมทำไม่ได้...ผมทำไม่ได้!!!

     

       ในยามที่ทำได้แต่อดทน...มันก็ต้องอดทนเท่านั้น...ต้องอดทนและอยู่ด้วยตัวเองให้ได้!!!

     

    “การ์ด...”

    “...” ผมมองคนต้องหน้าที่มองหน้าผมแบบตื่นๆ

    “ร้องทำไมอ่ะ ไม่สบายป่ะ ปวดหัวมั้ย” เม่นที่ดูลุกลี้ลุกลนเอาทิชชูเช็ดน้ำตาให้ผม

    “เปล่า...ไม่เป็นไร เรียกกูอีกทีได้มั้ย” ผมถาม

    “...การ์ด...มึงร้องทำไมอ่ะ การ์ด...น่ะ พอเรียกแล้วน้ำตามึงยิ่งไหลอ่ะ!” เม่นเช็ดน้ำตาผมเรื่อยๆ พลางพึมพำถามว่าเจ็บอะไรตรงไหน ไม่สบายรึเปล่า

       ผมไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตัวเองร้องตอนไหน

    “...ขอบคุณ...”

       ผมพูดเบาๆ

     

       ...ขอบคุณที่ไม่ท้อถอย...

       ...ผมได้รับรางวัลจากการอดทนนั้นแล้วครับ...






     

    ****************************
    สงสารว่ะ 555555555555555

    สงสารการ์ดอ่ะ หน่วงเกิ๊น เรื่องนี้...
    เรื่องเม่นเป็นเรื่องที่กว่าจะลงตอนนึงนี่คิดแล้วคิดอีกอ่ะ
    แต่เราชอบนะ มันรู้สึกอัดแน่นดีอ่ะ =3=
    ยังไงก็ฝากคู่นี้ด้วยนะคะ ตอนหน้าสาวกวิชมีนเตรียมฟิน!!!=w=

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×