ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ๓ ๒ ๑... >> ที่มาของสุภาษิต สำนวน คำพังเพยไทย

    ลำดับตอนที่ #26 : หมวด ย

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.9K
      2
      9 ม.ค. 53

    หมวด ย

    ยื่นแก้วให้วานร 
              หมายถึง เอาของมีค่าหรือของดีไปให้กับคนที่ไม่รู้จักค่าของของนั้น ทำให้เปล่าประโยชน์ความหมายอย่างเดียวกับ “ไก่กับพลอย”

    ยกเมฆ
             สำนวนคำพังเพยคำนี้เป็นคำที่สร้างขึ้นมาเพื่อใช้ในการกล่าวถากถาง เยาะเย้ยโดยตรง จะมีสำนวนที่คล้ายๆ กันอยู่อีกสำนวนหนึ่งคือ “ดั้นเมฆ” เพียงแต่หมายถึงการเดาส่ง ไม่ใช่พูดส่งๆ พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานให้คำนิยามไว้ว่า คือ “การเดาเอา นึกคาดเอาเอง หรือกุเรื่องขึ้น” ที่มาของสำนวนยกเมฆนี้มาจากความเชื่อในลางบอกเหตุที่ปรากฏในก้อนเมฆบนท้องฟ้า ซึ่งผู้ที่ใช้วิธีนี้มากที่สุดคือพวกหมอดู ที่จะใช้วิธียกเมฆในการทำนาย

    ย่างสามขุม
             สำนวนคำพังเพยคำนี้โบราณนำกิริยาของนักมวยเข้ามาเปรียบเทียบ ให้เห็นลักษณะของกิริยาที่เดินเป็นก้าวเป็นจังหวะยักเยื้องเป็นสามเส้า หรือ สามท่า อย่างคนฟันดาบหรือนักมวยในสังเวียน ความหมายของ “ย่างสามขุม” ก็คือ เดินจ้องเขม็งเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อเข้าใส่ นั่นแหละ

    ยาหม้อใหญ่
             คำพังเพยสำนวนนี้ใช้ยาสมุนไพรเข้ามาเปรียบเทียบ ซึ่งถือว่าเป็นคำพังเพยโบราณที่มีความหมายออกไปทางคำนามประกอบคุณศัพท์ คือ หม้อ และใหญ่ ความหมายของพังเพยคำนี้คือ น่าเบื่อหน่าย น่าเอือมระอา ไม่น่ายินดี เพราะยาหม้อใหญ่นั้นจะมีตัวยาสมุนไพรจำนวนมาก และจะมีทั้งความขมและขื่น ไม่พึงประสงค์จะปรุงกินง่ายๆ

    ยกตนข่มท่าน
             คำพังเพยสำนวนนี้ถือว่าเป็นนามธรรม เพราะจะเป็นเรื่องของคำพูด ทำนองยกย่องตัวเอง ข่มขู่ผู้อื่น พูดทับถมผู้อื่น เพื่อแสดงให้เห็นว่าตัวเองมีความเหนือกว่า กิริยาอย่างนี้โบราณสอนไว้ว่า ถ้ามีอยู่ในผู้ใดก็จะไม่มีใครเขามาร่วมสังฆกรรมเสวนาด้วย

    ยื่นหมูยื่นแมว
             สำนวนคำพังเพยคำนี้โบราณประสงค์จะกล่าวให้เป็นการยืนยันว่าจะทำหรือไม่ทำ นำเอาหมูกับแมวมาเปรียบเป็นอุปมาซึ่งคุณค่าอาจแตกต่างกัน แต่เมื่อเป็นประสงค์ของทั้งสองฝ่าย ก้เอามาแลกกันได้ โดยทั้งสองฝ่ายต่างได้รับในสิ่งที่ต้องการในเวลาเดียวกัน

    ยุ่งเหมือนยุงตีกัน
             สำนวนนี้โบราณมองธรรมชาติของสัตว์เอามาสร้างเป็นอุปมาเปรียบเทียบ ยุงนั้นจะมีจำนวนมากจนเรียกว่า บินว่อนไปหมด เมื่อเวลายุงเกิดอารมณ์โกรธจะเข้าตีกันก็จะเห็นว่ามันชุลมุนวุ่นวาย ใช้เปรียบเปรยเป็นการว่ากล่าวโดยเฉพาะ เป็นสำนวนของผู้ใหญ่หรือผู้อาวุโสใช้กัน ความหมายก็คือ มัน ยุ่งเหยิงสับสนปนเปกันจนดไม่ได้

    ยืมจมูกคนอื่นหายใจ
             โบราณใช้สำนวนคำพังเพยนี้สั่งสอนคนว่า เกิดเป็นคนจะต้องทำทุกอย่างด้วยตนเอง จึงจะประสบผลสำเร็จได้ การอาศัยไหว้วานผู้อื่นให้ทำให้ ไม่สะดวกเหมือนลงมือทำด้วยตนเอง มีบางสำนวนกล่าวว่า “พึ่งจมูกคนอื่นหายใจ” หรือ “เอาจมูกคนอื่นมาหายใจ” มันไม่คล่องเหมือนหายใจด้วยตัวเอง

    ย้อมแมวขาย
             โบราณถือง่าแมวคือเพื่อนที่ซื่อสัตย์ชนิดหนึ่งของมนุษย์ เพราะแมวนั้นอยู่ใกล้ชิดมนุษย์ที่สุด จึงเอาแมวยกเป็นมาเป็นอุทธาหรณ์ว่า การที่ตกแต่งของไม่ดี โดยมีเจตนาให้ผู้อื่นเชื่อว่าดีอย่างนี้ เหมือนจับแมวมาย้อมขน ให้ได้สีตามโฉลกเพื่อจะขายได้ราคาแพง เป็นเรื่องหลอกลวงโบราณไม่เชื่อถือ

    ยกตัวขึ้นเหนือลม 
              ปัดความผิดให้พ้นตัว ยกตนเหนือคนอื่น

    ยกภูเขาออกจาอก 
              โล่งอก หมดวิตกกังวล

    ยกหางตนเอง 
              ยกตนเองว่าดีว่าเก่ง

    ยิ้มด้วยปาก ถากด้วยตา 
              เยาะเย้ยด้วยกิริยาท่าทาง

    ยืนกระต่ายสามขา 
              พูดยืนยันอยู่คำเดียวไม่เปลี่ยนแปลง

    ยื่นแก้วให้วานร 
              ให้ของมีค่าแก่คนที่ไม่รู้คุณค่า

    ยื่นหมูยื่นแมว 
              แลกของกันโดยต่างฝ่ายส่งยื่นและรับในเวลาเดียวกัน

    ยุให้รำตำให้รั่ว 
              ยุให้แตกหรือผิดใจกัน

    ขอขอบคุณที่มาจาก
    9bkk.com 
    elearning.spu.ac.th
    salanluck.awardspace.com

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×