ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สวัสดีครับ...ผมคือลูกแมวครึ่งแวมไพร์! [ Yaoi ]

    ลำดับตอนที่ #14 : Chapter 11 :: เขาคือ(อดีต)น้องสาว

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 999
      2
      3 มิ.ย. 55


    อัพสดๆอีกแล้ว= =

    ----------------------------------------------------







    Chapter 11

    เขาคือ(อดีต)น้องสาว

     

     

      

     

    "เธอเป็นใคร?" เอเรสถามเด็กสาวที่กำลังดื่มเลือดอยู่อย่างไม่ไว้วางใจ  ฉับพลัน สีหน้าไร้อารมณ์ของเด็กสาวก็กลับเป็นสีหน้าที่ดูมีชีวิตชีวาทันทีหลังดื่มเลือดเสร็จ  จึงทำให้ทั้งสองคอมเฟิร์มว่าเด็กคนนี้เป็นแวมไพร์.. แต่กลิ่นมันไม่ไม่ใช่... มันมีกลิ่นมนุษย์ เธอคือลูกครึ่งมนุษย์กับแวมไพร์!!

    "พี่เอเรสจำน้องไม่ได้เหรอ?" เด็กสาวพูดราวเคยเจอเอเรสมาก่อน เฮสเทียหันไปมองเอเรสด้วยความสงสัย แต่เอเรสส่ายหน้า

    "ข้าไม่เคยมีเพื่อนเป็นแวมไพร์ผู้หญิงนะ" เด็กสาวมุ่ยหน้า ก่อนจะดึงคอเสื้อ โชว์ลำคอของตนเองให้ดู "แล้วพี่จำสิ่งนี้ได้ไหมล่ะคะ"

    ลำคอของเธอ... มีรูสองรูอยู่ เป็นรอยแวมไพร์กัด.. "!!"

     "น้องมีสายเลือดของพี่เอเรสกับครอบครัวของน้องอยู่ พี่ลองคิดดีๆสิคะ เมื่อ 3 ปีก่อน" เอเรสมองหน้าเด็กสาว

    หน้าแบบนี้มันคุ้นๆนะ.. มันหน้าเหมือน... "…แอ๊กซิส"

    "เสียมารยาท! น้องเป็นผู้หญิงนะ แถมเด็กคนนี้ยังรู้จักแอ๊กซิสอีกต่างหาก.. และก็  หน้าเธอเหมือนแอ๊กซิสในรูปแบบผมยาวเลย ทว่าหน้าของเธอออกแนวหวานกว่าเล็กน้อย

    "ข้าไม่ได้หมายความว่าอย่างงั้น!"

    "คุณห.. เอ่อ..เอเรส เจ้าเคยแบ่งสายเลือดให้มนุษย์กลายเป็นแวมไพร์ด้วยเรอะ?" เฮสเทียสะกิด เอเรส ยิ่งทำให้เอเรสคิดมากไปใหญ่.. เขานึกย้อนไปในอดีต ในชีวิตเขาเคยแบ่งสายเลือดให้คนหนึ่ง..เมื่อสามปีก่อน

    และเขาคนนั้น..คือเด็กสาวอายุ 13 ปี ผมสีน้ำเงิน นัยน์ตาสีคาราเมล ...

    "แต่คนที่ข้าให้สายเลือดไปผมสั้นนะ ไม่ได้ผมยาว" เอเรสทำหน้างุนงงกวนประสาทเด็กสาว(?)

    "แน่สิคะพี่!! ผ่านมาสามปีแล้ว น้องยังไม่ได้ตัดผมเลยสักครั้งเดียว... ฮะ...ฮัดชิ้ว!!" เด็กสาวเผลอจามขึ้นระวังพูด แล้วตัวสั่นเพราะความหนาวขึ้นมา เอเรสถอนหายใจ

    "เฮสเทีย พาตัวเล็กนี่ไปอาบน้ำที" เอเรสสั่งเฮสเทีย เด็กสาวก็แว๊กขึ้นทันที

    "น้องไม่ได้ชื่อตัวเล็กนะ!!"

    "ชื่อนี่แหละดีแล้ว อายุ13ปีแล้วซะเปล่า(เทียบกับมนุษย์) ดันตัวเล็กเหมือนเด็กป.4" เอเรสล้อเลียน เด็กสาวดิ้นว๊ากใส่จนเฮสเทียต้องรั้งไว้ แล้วพาไปอาบน้ำ  เอเรสกอดอก พลางเอ่ยขึ้นกับตนเอง

     

    "เฮ้อ.. ในที่สุดก็ตื่นขึ้นแล้วเหรอ ซีริน..."







     

     

     

             "ซีรินอาบน้ำช้าชะมัด" เอเรสนั่งบ่นอยู่ในห้องรับแขก เฮสเทียยิ้มแห้ง ช่วยไม่ได้นี่นา เด็กสาวผมน้ำเงินหรือ 'ซีริน' เธอเป็นผู้หญิง คงไม่แปลกที่จะอาบน้ำนานๆ ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสามปีที่ผ่านมาเธออาบน้ำเสียครั้งรึยัง...

     "ทำไมเจ้าถึงให้สายเลือดกับเด็กคนนั้น?" จู่ๆเฮสเทียก็โพล่งถามขึ้น  เอเรสจิบโอวัลติน(ต่อไปชาสินะ?)ช้าๆสบายๆ เหมือนหูทวนลมที่เฮสเทียพูด "เอ่อ...คุณหนู...เอเรส..."

      "ข้าได้ยินน่า" เขาจิบโอวัลตินหมดถ้วยในห้าวินาที(จิบหรือซด?) "ข้าเผลอฆ่าเขาน่ะ ข้ารู้สึกผิด  อยากให้เขาฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง จึงแบ่งสายเลือดให้ เอ้อ.. ข้ายังไม่เคยเล่าเหรอ?"

      เอเรสรีบปิดปากทันที! ลืมไปเลยว่าเรื่องนี้เป็นความลับ!! จะไปเคยเล่าให้ฟังได้อย่างไรเล่า!!! มันส์แล้วสิพะยะค่ะ เฮสเทียเหล่ตามาจ้องเอเรสอย่างจับผิด

     "สามปีก่อน...เจ้าไม่ได้ฆ่าแค่สองคนนั้นหรอกเหรอ?"  เอเรสเหงื่อไหลพลั่กๆ  ใน ระหว่างที่เขาไม่รู้จะแก้ตัวอย่างไรดี ซีรินก็เดินมาพร้อมผ้าเช็ดตัวผืนเล็กบนหัว ใส่ชุดนอนของเอเรสตอนตัวเล็กเท่าเธอ.. (ชุดนอนชาย ผู้หญิงใส่จะเป็นไรไป?)

       เธอหอบแฮ่กๆ ก่อนจะมาทำท่ายืนเท้าสะเอว ทำแก้มป่องเหมือนไม่พอใจอะไรเสียอย่าง "กว่าจะเจอ.. บ้านอะไรเนี่ย กว้างเป็นเขาวงเวียนเลยนะ!"

    "เขาวงกต.." เฮสเทียแก้ให้ เอเรสยิ้มแห้ง นี่มันนิสัยแอ๊กซิสตอนเด็กๆชัดๆ

            "นั่นแหละๆ  เดินหลงตั้งนานแน่ะ ห้องรับแขกเนี่ย! ทำไมไม่สร้างป้ายบอกเหมือนในห้างบ้าง" ซีรินโวยวาย

      "อุตส่าห์เดินจากเมืองxxxมาถึงที่นี่ได้ นับประสาอะไรกับปราสาทของข้าจะหลงได้ล่ะ..." เอเรสเกาคางล้อเลียนเด็กสาว

        "ก็เดินมา3ปีอะ!! คิดดูบ้างสิคะ! ต้องเดินมาไกลแสนล้านกิโลฟาเรนไฮน์บลาๆๆๆ เจอเซเว่นไม่รู้กี่สิบแห่งกว่าจะบลาๆๆ แว๊กก บ่นๆๆๆ ฉอดๆๆๆ!!!"

                เอเรสกับเฮสเทียนั่งดูเด็กสาวพูดแจกน้ำลายรัวกระเด็นใส่ พลางคิดด้วยความเห็นเดียวกันว่า

         ...นี่ขนาดพูดคุยกันครั้งแรกนะเนี่ย

     

     "พอ โอเค ข้าเข้าใจ แต่.. เล่ามาซิ สามปี? ข้าคิดว่าข้าผลึกเจ้าไว้ที่ภูเขา กว่าจะออกมาได้อย่างน้อยน่าจะประมาณหนึ่งปีนี่นา?" เอเรสยุติการบ่นยาวเหยียดของซีริน แล้วเข้าเรื่องทันที เด็กสาวกอดอกเบ้ปาก เหมือนกับเอเรสพูดอะไรผิดไปเสียอย่าง

      "สายเลือดพี่เอเรสพลังมันน้อยซะทีไหน ผ่านไปครึ่งปีก็พังผลึกได้แล้วล่ะ"

                 ชักไม่พอใจกับพลังของตนเองแล้วสิ...

    "ข้ามีพลังพังผลึกเสียที่ไหนเล่า" เอเรสยื่นมือปัดๆ กับอีกมือกุมขมับ เหนื่อยจริงกับเด็กนี่  เอ่อ..แต่เขาโกหกไม่เนียนเลยนะ.. ถ้าไม่มีพลังพังผลึก แล้วเอาพลังสร้างผลึกนั่นมาจากไหน?

      "พี่เอเรสไม่ต้องมาโกหก เพราะพี่นั่นแหละ ทำให้น้องมีสามสายเลือด!!" เด็กสาวชูนิ้วสามนิ้ว เพราะคำพูดเสียงดังของซีรินจึงทำให้คนรับใช้แอบมามองอย่างอยากรู้อยากเห็น  ว่าไงนะ? ตั้งสามสายเลือด โม้แล้วน้อง มันจะเป็นไปได้ไง!!

    "หืม?" น้ำเสียงของเอเรสเหมือนจะสนใจ ตรงข้าม สีหน้าเขากลับเบื่อหน่ายเต็มทน

    "สายเลือด มนุษย์ แวมไพร์ และปีศาจ  สายเลือดปีศาจมีพลังในการใช้ธาตุและเวท จึงทำลายได้" สาวน้อยผมน้ำเงินเน้นย้ำคำว่าปีศาจให้เอเรสสะดุ้ง  "ยอมรับเสียเถอะว่า พี่เอเรสมีสายเลือดปีศาจอันน่าขยะแขยงอยู่ด้วย นี่จึงเป็นอีกเหตุผลที่เผ่าแวมไพร์เกลียดพี่.."

        "สามหาวน่า!!" เฮสเทียลุกขึ้นตวาดใส่เด็กสาวด้วยน้ำเสียงกร้าว เอเรสผงะแทบทำแก้วโอวัลตินตก  คนใช้ทุกคนที่แอบฟังอยู่แทบล้มทับประตู

     "ไม่เอาน่า เฮสเทีย.. ซีรินไม่ได้มีเจตนาจะว่าร้ายข้าหรอก แค่ซีรินมันซื่อ(บื้อ)พูดมาโดยไม่รู้สถานการณ์เท่านั้น..อย่าว่าซีรินเลย" เอเรสรั้งเฮสเทียไว้ ซีรินยืนนิ่งเฉยไม่สะทกสะท้านกับคำตวาดของเฮสเทีย เมื่อเห็นเฮสเทียโดนรั้งจึงแลบลิ้นใส่อีกด้วย  ทำเอาเฮสเทียขวัญเสีย

     "เห็นว่าเป็นคำขอร้อง(?)ของเอเรสนะเนี่ย ข้าถึงไม่จับตี" เฮสเทียว่าอย่างอารมณ์เสีย ซีรินแอบหัวเราะในลำคอ เอเรสเห็นดังนั้นก็อดถอนหายใจไม่ได้

          แต่ก็อย่างที่ซีรินว่า....ปีศาจเป็นเผ่าที่ไม่ถูกกับแวมไพร์ในตอนนี้เสียเท่าไหร่ และเอเรสก็มีสายเลือดของปีศาจสายเลือดบริสุทธิ์อยู่ด้วย   แวมไพร์ครึ่งปีศาจ...  สายเลือดบัดซบชัดๆ  แต่เพราะมีสายเลือดแบบนี้.. เขาถึงค่อนข้างแข็งแกร่ง แต่มันเกินไป  เพราะเหตุนี้เอเรสจึงไม่เคยแสดงพลังของปีศาจออกมา เว้นเหตุจำเป็นจริงๆ  ..คิดแล้ว เกลียดตนเอง  พ่อแม่ของเขาเป็นใครกันแน่นะ? ทำไมต้องให้สายเลือดนี้ผสมอยู่ด้วย.. อย่างน้อยสายเลือดปีศาจแล้ว ก็น่าจะปีศาจทั้งร่างเลยสิ อย่างน้อยเหล่าปีศาจก็รักเขา แต่เป็นครึ่งๆกลางๆแบบนี้.. นอกจากแวมไพร์จะไม่ยอมรับแล้ว..ปีศาจยังค่อนข้างเกลียดเขาเลย...แม้จะเป็นจำนวนน้อย

    "เอ่อ...ว่าแต่พี่เอเรส พี่แนซิสอยู่ไหน?" เด็กสาวเอียงคอถาม พลางชะโงกดูซ้ายขวาประกอบ ทั้งที่รู้ว่าเขาไม่ได้อยู่ที่นี่

              "แนซิส?" เฮสเทียทวนคำ "ใคร?"

       "นิแอซิส.. แอ๊กซิส" เอเรสกล่าวกับตนเองเบาๆ "หมายถึงแอ๊กซิสสินะ"

    "น้องติดนิสัยชอบเรียกพี่แอ๊กซิสว่า พี่แนซิสน่ะ ไม่ก็เรียกพี่แอ๊ก" ซีรินอธิบายยิ้มๆ

            เรียกแบบนั้น มันยิ่งทำให้เจ้าตัวที่ไม่มั่นใจเรื่องชื่อ ไม่มั่นใจตนเองยิ่งไปอีกสิ...

               "พี่เอเรส ไปหาพี่แนซิสด้วยกันเถอะ! บอกทางไปก็ได้ น้องจะไปหาเอง!" เด็กสาวยิ้มแป้น กระโดดโลดเต้นไปมา (เพื่ออะไร?)

    "ไม่อนุญาต" เอเรสพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบอย่างเด็ดขาด

    "ทำไมอ่า" เด็กสาวทำหน้าเศร้าอย่างเห็นได้ชัด

      "เจ้าน่ะ ตาย ไปแล้ว จะไปหลอกพี่แนซิสของเจ้าให้ตกใจตายเรอะ?" ซีรินสะอึกกับคำพูดของเอเรส  แล้วทำหน้าสะอื้น จะร้องไห้ "แล้วน้องตายเพราะใครล่ะ!!"

    "เพราะข้าไง แล้วจะทำไม?" เอเรสพูดเสียงเย็น แล้วเปลี่ยนเรื่องทันที "เฮสเทีย พาเด็กนี่ไปสำรวจเส้นทางปราสาท จะได้หลงทางอีก ส่วนข้าจะไปนอน เพราะพรุ่งนี้ต้องไปโรงเรียน"

    "โรงเรียน?" ซีรินทวนคำ "แวมไพร์ต้องไปโรงเรียนเหรอ?"

    "ข้าไปในฐานะมนุษย์ ไปอยู่กับพี่แนซิสของเจ้าไง" เอเรสลุกขึ้น แล้วเดินออกจากห้อง

    "ม..ไม่นะ.." ซีรินเอ่ยเสียงสั่น "พี่จะลอบฆ่าพี่แนซิสเหมือนครอบครัวของน้องเหรอ? ไม่นะ!!"

    "...ลืม   เฮสเทีย พาเด็กคนนี้ไปให้ห่างจากห้องข้าด้วย ข้าชักรำคาญ" เอเรสสั่งเฮสเทียก่อนจะปิดประตูออกไป และแน่นอนว่า คนใช้พากันหลบเอเรสกันเป็นมดแตกฟูง

               "...."

               "...."    และห้องเต็มไปด้วยความเงียบ..

        "..ข้า.. เฮสเทีย ข้าชื่อเฮสเทีย พี่เลี้ยงของเอเรส" เฮสเทียเป็นฝ่ายแนะนำตัวก่อน ซีรินจึงหันไปแนะนำตัวบ้าง แต่มันถึงกับทำให้เฮสเทียช๊อค

    "น้องชื่อ ซีริน เป็น(อดีต)น้องสาวของพี่แนซิสค่ะ!"  ซีรินยิ้มกว้างจนตาหยี

    "..........................................."  โลกช่างฉิบหาย... เมื่อกี๊เขาตวาดน้องสาวของคนรักของคุณหนูของเขา(ของ เยอะจริง) เหรอเนี่ย!!!!!!




     

     



              "ไม่เชื่อเหรอคะ? น้อง เป็นน้องสาวของพี่แนซิสจริงๆนะ! น้องโดนพี่เอเรสฆ่าง่ะ! แต่แล้วก็มาทำให้น้องกลายเป็นแวมไพร์ซะเฉย แถมไม่ใช่แค่แวมไพร์นะ ที่น้องสำรวจตนเองมา มันมีสายเลือดปีศาจด้วย! แล้วก็นะ บลาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ"  ซีรินร่ายยาวในระหว่างทางที่เฮสเทียพาเดินสำรวจเส้นทางปราสาท  หา รู้ไม่ว่าเฮสเทียเขาแทบไม่ฟังเธอเลยเสียนี๊ด เขาก็อยากรู้เหมือนกันว่าแอ๊กซิสมีน้องสาวขี้โม้แบบนี้รำคาญมากแค่ไหน... เฮสเทียชักรำคาญ.. ยกมือห้ามให้ซีรินหยุดพูด(โม้)  แล้วเริ่มเข้าเรื่อง..

         "นี่ คือห้องอาหาร นั่นห้องน้ำ นั่นห้องประชุม ซึ่งนานๆจะใช้ ส่วนห้องที่เป็นแถวๆติดกันนั่นคือห้องพักของคนรับใช้ ซึ่งที่จริงเคยเป็นห้องพักของอัศวินสมัยสงครามของแวมไพร์และปีศาจอยู่ แล้วนั่น.." เฮสเทียจึงร่ายยาวกลับใส่เด็กสาว  พร้อมชี้ห้องไปเรื่อยๆ ประกอบ
     
       "เดี๋ยวๆๆๆ!  ว่าไงนะคะ? สมัยสงครามแวมไพร์กับปีศาจ?" เด็กสาวขัดเฮสเทีย "แบบนั้นมนุษย์ไม่ตายไปหมดเหรอเนี่ย? เอ.. จะว่าไปข่าวเรื่องนี้ยังไม่มีด้วยซ้ำ"

       "คงไม่มีใครบ้าไปสู้กันในเมืองของมนุษย์หรอกขอรับ" เฮสเทียพูดน้ำเสียงประชด


             เมื่อเฮสเทียบอกเส้นทางเสร็จ เด็กสาวก็พูดชวนขึ้นทันที  "พี่เฮสเทีย ไปเดินเล่นข้างนอกกันเถอะ"

       "ข้าไม่ว่างถึงขนาดมาเดินเล่นกับเจ้า เฮสเทียตอบเรียบๆ เขารู้สึกไม่ชอบเด็กคนนี้เอาเสียเลย  แต่ทันใดนั้น เด็กสาวก็น้ำตาคลอ พร้อมจะร้องไห้ได้เต็มที่ "พี่..เฮสเทีย... จะให้น้องออกไปคนเดียวเหรอคะ? ถ้าน้องเกิดหลงทาง หรือเจอศัตรู(?)ขึ้นมา.."

       เฮสเทียชักรู้สึกหมดความอดทน แต่ก็ได้แต่ข่มอารมณ์ไว้.. คิดซะ.. เธอคือเอเรสตอนเด็กๆ(??) เธอคือเอเรส... อาเมน เขาคิดแบบนั้นไม่ได้!! เอเรสของเขาแม้จะเอาแต่ใจ อย่างไรก็ดูน่ารักกว่าเด็กผู้หญิงจอมขี้โม้คนนี้เยอะเอาเหอะ...  "เจ้าก็ร่ายบทสวดบ่นของเจ้าไป เดี๋ยวพวกนั้นก็ทนไม่ไหวถอยไปเอง เดินทางมาสามปีมิใช่เรอะ? แผลซะแผลยังไม่มี... เว้นลำคอ เขาแอบสงสัยจริงๆ แผลที่ลำคอน่ะ? ผ่านมาสามปี ทำไมยังทิ้งรอยไว้อยู่อีก?  คงตั้งใจรักษารอยไว้เพื่อเอามาเป็นหลักฐานให้เอเรสแหง ๆ...

         "แหงะ แต่พี่เอเรสบอกให้พี่เฮสเทียดูแลน้องไม่ใช่เหรอ?"เด็กสาวแบะปาก (ไอ้น้ำตาคลอๆมันหายไปไหนฟะ?)

               "บอกเมื่อไหร่?"  โกหกตายไม่สวยนะ ไอ้เด็กบ้า เอ่อ.. ซีริน เฮสเทียอยากพูดแบบนี้จริงๆ..

          "...ถึงไม่บอก แต่สมมุติว่าถ้าน้องหายไป พี่เฮสเทียไม่คิดหรือว่าพี่เอเรสจะโกรธ?"

          "เหตุใด เอเรสต้องโกรธข้า? เจ้ามันก็แค่เด็กสามสายเลือด" และเป็นเพียงเด็กแปลกหน้าขี้โม้... หรือว่าที่เอเรสจะโกรธ เพราะเธอเป็นว่าที่น้องสาว(?)ของเขา?  อืม...

      "งั้นน้องจะไปฟ้องพี่แนซิส!! ให้พี่แนซิสดุให้กระจายเลย!!" เด็กสาวพูดราวเป็นเรื่องสนุก(?) "รู้มั้ย? ตอนที่น้องโดนรุ่นพี่แกล้ง พี่แนซิสแว๊กใส่กระจุยเลยแหละ! พร้อมฟาดหนังสือให้ทีนึง ฮ่าๆๆ"

                   ...พอจะนึกภาพออก

       "นี่เจ้าอายุ13จริงๆ..เหรอ?" เฮสเทียถอนหายใจ

    "หน้าเด็กเหรอคะ?" ซีรินยิ้มดีใจ

    "ซื่อบื้อ พูดจา ราวกับเด็กอายุเจ็ดขวบ" เฮสเทียทำสีหน้าเบื่อหน่ายแล้วเข้าห้องตนเอง "ห้องเจ้าอยู่ฝั่งตรงข้าม...ไปพักซะ อาทิตย์จะขึ้นแล้ว.."

    "ค่ะ... ไม่ช้ายยย!!!  นี่พี่เฮสเทียหมายความว่าไงคะ!? บ่นๆๆๆๆ ด่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ฉอดๆๆๆๆ มะลุกมะลิกกุ๊กกุ๊ย!!"   ซีรินโวยวายต่อท้ายด้วยประโยครัวไม่เป็นภาษา

     

       อุตส่าห์ คิดว่าเอเรสโตแล้ว ไม่เอามาเอาใจทนกับการงอแงๆแบบนี้... ดันมีเด็กมาใหม่ให้เลี้ยงอีก ซ้ำยังเป็นผู้หญิง  แค่คิดก็เหนื่อยแล้ว... มันเฮสเทียรู้สึกปวดหัวขึ้นมาโดยปริยายเลยทีเดียว  เอ่อ... ช่างเถอะเนอะ  ตอนนี้เขาต้องไปอาบน้ำให้สบายใจก่อน... สินะ?

    "อ้าว... เอเรส?"  เฮสเทียชะงักการถอดเสื้อ(จะไปอาบน้ำ) เมื่อเห็นว่า.. มีร่างหนึ่งอยู่ใต้ผ้าห่ม  เอเรสนั่นเอง..

    "...เอเรส" เฮสเทียเรียกชื่อซ้ำ หากแต่ร่างถูกร่างชื่อยังนิ่ง... เหมือนจะหลับสนิท แถมเข้าห้องผิดอีกต่างหาก "เอเรส ไม่ลุก ข้าจะ..เฮสเทียดึงผ้าห่มขึ้น ยื่นตัวไปใกล้ๆเอเรส  และ...

    "..อะ...อ๊า!!"  เอเรสสะดุ้งตื่นทันที  แล้วบิดตัวน้ำตาเล็ด "โอ๊ย!! พอแล้ว.. ฮ่าๆๆ พ๊อ!!"

           ก็ทำการจี้เอวเอเรสทันที.. นี่แหละไม้เด็ด เอเรสบ้าจี้น่ะ..

    "หลับสนิทจริงๆนะนี่.." เฮสเทียเปลี่ยนจากจี้เอวมาเป็นกอดเอเรสเหมือนตุ๊กตาตัวใหญ่แทน เอเรสมองร่างเฮสเทียเปลือยส่วนบนอย่างพินิจ ก่อนจะเหล่ตาใส่ "เจ้าถอดเสื้อมาในห้องข้าทำไมเนี่ย!!"

                                  ...นั่นไง..แม่นแล้ว

     "เจ้าต่างหาก นี่มันห้องข้า มานอนห้องข้าทำไมขอรับเนี่ย?" เฮสเทียยิ้ม  ใช้หน้าพิงตัวเอเรสที่กอดอยู่ ชักง่วง..

    "..อ้าว.." เอเรสขยี้ตามองรอบๆห้องอีกที "แล้วห้องข้าทำความสะอาดศพนั่นเสร็จแล้วเรอะ?" ยังจะแก้ตัวอีก...

    "เสร็จแล้วขอรับ เอเรสหลับมาสองวันนะ ลืมแล้วเหรอ"

    "แล้วเมื่อไหร่จะปล่อยข้า" เอเรสดันตัวเฮสเทียออก "เจ้าจะไปอาบน้ำสินะ ไปสิ "

    "ขอรับ" ..แต่เฮสเทียก็ยังแน่นิ่ง

    "..." เอเรสมองเฮสเทียที่ยืนนิ่งแล้วมุ่นคิ้ว "ทำไมยังไม่ไปอาบน้ำอีก?"

      "แล้วเอเรสจ้องข้าถอดกางเกงแบบนี้ ข้าคงกล้าถอดอยู่หรอกนะ.." เฮสเทียยิ้มเจื่อน ทำให้เอเรสเพิ่งรู้สึกตัว เออ.. ลืม  นี่เขาจะเฝ้าไปอาบน้ำด้วยอีกเหรอเนี่ย?

    "ขออภัยยิ่งยวด" เอเรสหัวเราะแห้งๆ แล้วรีบวิ่งออกไปทันที

    "...ที่จริงน่าจะชวนไปอาบน้ำด้วยกัน.. อาทิตย์ขึ้นแล้วนี่นะ.. สงสัยวันนี้คงไปโรงเรียนสาย" เฮ สเทียบ่นกับตนเอง  ปราสาทแห่งนี้ห่างจากเมืองมากกก  ย้ำว่ามาก  อยู่ในที่ที่ไม่มีบ้านเมือง มนุษย์อยู่... โอกาสไปโรงเรียนสายมีมากถึงเก้าสิบเปอร์เซ็นต์

     

     

     

      "ฮ้า พระอาทิตย์ขึ้นสวยจัง..." เอเรสยืนมองดวงอาทิตย์จากทางหน้าต่าง ยิ้มบางๆอย่างมีความสุข  ก่อนจะรู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่าง....

     

    "=[]=   เออ!! ลืมไป นี่ข้ากำลังอยู่ในร่างแวมไพร์ไม่ใช่เรอะ!!!"  แวมไพร์ประสาทยืนดูพระอาทิตย์ขึ้น!!  อยากตายรึไงห๊ะ!!  เอเรสก่นด่าตนเอง(?) ก่อนจะหลับตาลง เริ่มปลดปล่อยพลังและแปลงเป็นร่างชายหนุ่มผมสีเหลืองอร่าม เขาค่อยๆลืมตาขึ้นพร้อมกับนัยน์ตาสีมรกตสวยงาม  เขายืนมองกระจก  "หึๆๆ ไนท์ วันนี้ต้องรับบทเป็นไนท์..."

       เขาท่องแบบนี้สามครั้งก่อนจะรับบทเป็นร่างมนุษย์อย่างสมบูรณ์ทุกครั้ง เพราะนี่จึงทำให้เขาความไม่แตกมาตลอดห้าปี..สินะ?

    "...แอ๊กซิส" เขาอดคิดถึงเรื่องแอ๊กซิสไม่ได้  ตั้งแต่ความแตก...  ไม่รู้ว่าความสัมพันธุ์ของเขาจะยังคงเหมือนเดิมรึเปล่าไม่เป็นไร.. เดี๋ยวก็ดีเอง... 

     

     

     

      และ วันนี้ก็เป็นวันที่เงียบง่ายอีกเช่นเคย ไม่นับกับที่ผมเกือบโดนรถเฉียวระหว่างหาวนอน... ในระหว่างที่ผมกำลังรอสัญญาณไฟจราจรคนเดินให้เขียวอยู่นั้น..

         "แอ๊กซิส!" เสียงหนึ่งเรียกผม ผมเหลือบมองซ้ายมองขวา และพบกับ ชายผมน้ำตาลครีม ดวงตาสีเหลืองเข้มจ้องมาที่ผม โบกมืออยู่ถนนฝั่งตรงข้ามอย่างเริงร่า  เมื่อไฟจราจรคนเดินเขียว ผมจึงวิ่งไปทักทาย.. ลูคัส

         "ไฮ ลูคัส" ผม ทักทายสั้นๆ  ตั้งแต่ไนท์ไม่มาโรงเรียน รู้สึกว่าผมจะสนิทกับลูคัสมากขึ้น เพราะไม่มีไนท์คอยมองจะตบหัวเขาอยู่  ผมเคยถามไนท์ว่าทำไมถึงไม่ค่อยชอบลูคัส ไนท์มันก็บอกว่า 'ซื่อบื้อเกิน' ...เอ่อ จริงเหรอ?

      "ลูกหมาสามตัวเมื่อวานนั่นยังกลัวฉันอยู่เลยงะ" ลูคัสบอก  ลูกหมาสามตัวในกล่องนั่นเหรอ?

      "ก็มันยังไม่ไว้ใจนายน่ะสิ เดี๋ยวมันก็ยอมรับว่านายเป็นเจ้าของเองแหละหน่า" ผมปลอบลูคัส   ผมก็หาเรื่องคุยกับลูคัสไป ปกติลูคัสจะมาโรงเรียนกับรถยนต์พร้อมแม่ แต่วันนี้ทั้งพ่อทั้งแม่ทั้งพี่ไม่ว่างกันหมด จึงต้องเดินมาโรงเรียน และเพราะงั้นจึงเจอกับผมไงล่ะ..   เอาล่ะ ถึงโรงเรียนแล้ว

        ผม เดินเข้ามาโรงเรียนตามปกติ ไม่ลืมสวัสดีคุณครู และเดินไปอาคาร.. (อาคารอยู่หลังโรงเรียน ต้องเดินผ่านอาหารหนึ่งไป  และอาคารก่อสร้างก็อยู่ข้างอาคารผมอีก คงนึกแปลนออกกันนะครับ?)   และระหว่างที่ผมเดินผ่านสนามฟุตบอล (อยู่ข้างอาคารหนึ่ง ผมไม่อยากเข้าอาคาร จึงไปทางสนาม คงเข้าใจนะครับ) ผมก็เห็น... ชายคุ้นหน้าคนหนึ่ง... เดินอยู่ในอาคาร

    "ไนท์!!" ผมเรียกเขา  เขาหันมามองผมกับลูคัส แล้วโบกมือเชิงทักทาย แต่ไม่มีแม้แต่ยิ้มให้...  และเขาก็เดินเข้าอาคารโดยไม่รอพวกผม

     "นี่.." ลูคัสสะกิดผม "ทะเลาะกันเรื่องอะไรเหรอ?"

            จริงด้วยผมเคยบอกเรื่องทะเลาะกับไนท์ให้ลูคัสรู้นี่นา

    "นิดหน่อย.."

    "ไม่นิดล่ะ ปกติไนท์จะเข้ามาตบฉันแล้วหาว่าฉันมาสนิทกับนายได้ยังไง อะไรประมาณนี้ไม่ใช่เหรอ?" ลูคัสบอกจากประสบการณ์ตั้งแต่ม.4ของเขา (เพราะเพิ่งอยู่ห้องเดียวกันตอนม.4) ผมยิ้มแห้ง "ไม่รู้สิ.."

          ไอ้ไนท์มันโกรธอะไรฉันวะครับ!?   คนที่โกรธคือฉันต่างหาก!? หรือว่า.. ที่ไนท์ไม่พูดกับผม เพราะกลัวผมจะโกรธ? อาจจะใช่ก็ได้นะ..

     

     

              ไนท์.. ผมเรียกไนท์ที่กำลังเก็บกระเป๋าไว้บนโต๊ะข้างหน้าผม เขาหันมาหาผมแวบหนึ่งแล้วทำท่าเลิกลั่กก่อนจะรีบเดินออกไปนอกห้อง ...ไว้คุยกันทีหลังนะ

    ...ผมยืนค้าง ไอ้หมอนี่มันเป็นอะไรวะครับ!?  มันหลบหน้าผมจริงๆเหรอ!?  ทำไมเนี่ย หรือต้องให้ผมไปกอดมันแล้วบอกว่า เมื่อครั้งก่อนฉันพูดเล่น ฉันไม่ได้เกลียดนาย!!’ งั้นเหรอ?  ก็ตอนนั้นผมพูดไปเพราะอารมณ์จริงๆ.. ผมไม่อยากให้เป็นแบบนี้เลยนะ..

    เครียดเหรอแอ๊กซิส ลูคัสทักผมที่ยืนเหม่อในท่าวางกระเป๋าอยู่  นี่ผมเหม่อประหลาดสินะ?

         ฉันไม่ได้เครียดเสียหน่อย แค่คิดว่ามันโกรธฉันเรื่องอะไรต่างหาก ผมตอบ

    ฉันว่า..ฉันเป็นห่วงนะ ลูคัสเอ่ยเสียงแผ่ว ถึงฉันจะอยากเป็นเพื่อนกับนาย แต่ยังไงฉันก็อยากให้นายสองคนสนิทกันด้วย

    ไอ้หมอนี่...มันเป็นผู้ชายจริงเหรอวะ!? โครตอ่อนไหวเลย!!  ผมอยากอุทานออกมาแบบนี้จริงๆ..

     ผมยิ้มแล้วตบไหล่ลูคัสเบาๆ นายไม่ต้องห่วงหรอกน่า ฉันยังสนิทกับไนท์อยู่...นายไม่ต้องมาเป็นห่วงแทนหรอก

      แต่ว่า...บางทีไนท์อาจจะโกรธนายเพราะนายสนิทกับฉันมากขึ้นก็ได้..”   นอกจากหน้าตาจะหวานคลับคล้ายผู้หญิงแล้ว ยังจะนิสัยนางเอกอีก!!  เอ...หรือว่าที่ไนท์ไม่ชอบลูคัสอาจเป็นเพราะลูคัสนิสัยเหมือนนางเอก?  (?????)

          “-_-“  ไม่มีอะไรจะพูด

    ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ

       ...เปล๊า ผมบอกปัดๆ

     

     

     

     

       ซ่า ซ่า

    ไนท์ล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำอาคาร... ช่วงเช้าไม่ค่อยมีคนเข้าห้องน้ำ ดีเหมือนกัน ทุกคนจะได้ไม่เห็นเขายืนหอบอยู่คนเดียวเหมือนคนบ้า.. เสียฟอร์มแย่

            ที่เขาไม่ทักแอ๊กซิสแล้ววิ่งหนีมา.. เพราะเขากำลังเหนื่อยต่างหาก เหนื่อยขนาดไม่มีแรงยิ้มและพูดเลย... รู้อะไรไหม? ปราสาทของเอเรส(จงคิดไว้ในใจ.. เอเรสกับไนท์ ไม่ใช่คนเดียวกัน!! เข้าใจไหม <---นี่คือภาวะยอมรัความจริงไม่ได้?)อยู่ไกลจากเมืองนี้มากๆ  ทีแรกเขาขับมอเตอร์ไซค์มาด้วยความเร็ว 130กม./ชม. (ตายรึยัง?) แล้วน้ำมันหมดที่เมืองข้างๆของข้างๆของข้างๆเมืองนี้  เขาถีบมอเตอร์ไซค์ทิ้งด้วยความอารมณ์เสีย (เจ็บเท้าไหม?) แล้วใช้เท้าวิ่งด้วยความเร็วแสงมาจนถึงที่โรงเรียน... เหนื่อยแทบจะสลบคาประตูโรงเรียนไป.. แต่ก็ยังพยายามไม่หอบ  เก๊กเดินไปอย่างสง่าสมชื่อ(?)  แค่เก็บสีหน้าเหนื่อยก็จะจะแย่แล้ว.. ดันเจอแอ๊กซิส จะยิ้มก็ยิ้มไม่ออก... เขาถึงรีบเดินขึ้นอาคารไปเก็บกระเป๋า แล้วรีบมาห้องน้ำนี่แหละ.. มาหอบให้เต็มที่!! (???)

            กริ๊งงงงงงงงงงงงงงงงงง   เสียงกริ่งดังขึ้น แสดงว่าถึงเข้าแถวเคารพธงชาติแล้ว

       เข้าแถวแล้วสินะ... ไนท์รีบวิ่งออกจากห้องน้ำ.. และเกือบลื้นเพราะห้องน้ำเปียก  กรรม  เมื่อไปถึงสนามก็เห็นว่าทุกคนเข้าแถวกันหมดแล้ว  ไนท์เห็นแอ๊กซิสยืนอยู่ปลายแถวจึงรู้สึกว่า นั่นเป็นแถว ม.5/2

    แอ๊กซิส ไนท์วิ่งมาเข้าแถว  ทักแอ๊กซิสแล้วยิ้มร่า โดยแอ๊กซิสก็ทำหน้างงๆนิดหน่อย

     ไนท์..”

      เกือบสายไป ไนท์เกาหัว ยิ้มแหะๆ แล้วยืนตรงเตรียมเคารพธงชาติ

     

     

     

             เมื่อถึงเวลาพักเที่ยง..

     

       ผมค่อนข้างงงกับไนท์จริงๆ ตอนแรกทำเหมือนหลบหน้าผม แต่มาตอนเข้าแถวกับยิ้มร่าให้ผมเสียงั้น อะไรเนี่ย??

    ไนท์ไปกินข้าวกันมั้ย ผมไปทักไนท์ ไนท์ที่กำลังทำงานค้างอยู่หันมามองผมแบบงงๆ

        ปกติฉันต้องเป็นคนชวนนายนี่นา?

    ก็แค่อยากชวนให้รู้ว่า..นายโกรธฉัน..รึเปล่า เท่านั้น ผมบอกไปตามตรง  ไนท์วางดินสอแล้วยิ้ม

    ฉันจะไปโกรธนายได้ไงล่ะ นายต่างหาก เกลียดฉันแล้วไม่ใช่เหรอ? ไนท์ย้อนผม ผมสะอึกไปทันที.. แล้วตอบอย่างลอกแลก

    ..ฉัน ฉันจะไปเกลียดนายได้ไง! เรา..เราเป็นเพื่อนกันนะ ฉันเกลียดไม่ลงหรอก

          ทันใดนั้น ไนท์ก็ลุกขึ้นจับผมกอดทันที ท่ามกลางเสียงซุบซิบนินทาของเพื่อนแสนประเสิร์ฐทั้งหลาย

    น่ารักจริงๆ  ไนท์จูบหน้าผากผม ผมหน้าขึ้นสีระเรี่ยไปโดนปริยาย นี่มันอะไรเนี่ย!!!

                          อะ..อะ..

      หน้าแดงแล้วรู้มั้ย ไนท์ยิ้มมุมปาก

               ผัวะ!!!

     ไม่รอช้า.. ผมเอาหนังสือพจนานุกรมบนโต๊ะไนท์มาฟาดใส่หัวมันทันที

            สมองแกประสาทกลับหรือเป็นบ้าอะไรห๊ะ!!!”

       ฮึๆๆ ไนท์หัวเราะพลางลูบหัวตนเองป้อยๆ   ยังไม่สึกนึก!! เห็นไหม!! ทุกคนมองมาที่ผมกับไนท์กันหมดแล้ว!! ไอ้พวกสาววายมันก็จิ้นกันหมดแล้วเนี่ย! (??)

      ฮิๆ.. ฮะๆๆๆลูคัสเดินแทรกพวกผม(อีกแล้ว?)พลางปิดปากพยายามกลั้นหัวเราะไว้ ผมไม่รู้ว่าตนเองยังหน้าแดงอยู่รึเปล่า... แต่ที่รู้ๆคือไนท์ยังไม่หยุดหัวเราะ ไม่อายบ้างรึไง ไอ้บ้า!!!

    “…หัวเราะอะไรนักหนา?  ผมอยากถีบไนท์ตกหน้าต่าง...

    เอ่อ.. คืนดีกันแล้วสินะ ดีใจด้วยนะ ลูคัสยิ้มหวาน เอ่อ...พูดไม่ออกอีกแล้ว

       แล้วนี่แก ตอนนี้ฉันไม่มาแกสนิทกับแอ๊กซิสถึงขนาดนี้แล้วเรอะ!!” ไนท์กระชากคอเสื้อลูคัสแล้วโยนไปที่อื่น(???) จนลูคัสไปนอนฟุบกับพื้น..

             ไนท์!! ทำไมถึงไม่ชอบลูคัสเนี่ย??

    ทำไมน่ะเหรอ.. ก็มันดันน่ารักกว่านายไง!!! เห็นแล้วขัดหูขัดตา!” ไนท์ชี้ไปที่ลูคัสที่นอนแอ้งแม้งอยู่

          เหตุผลมันช่าง...

       ...ลูคัส เราไปกินข้าวกันสองคนดีกว่า ไม่ต้องไปสนใจคนบ้าหรอก ผมพยุงลูคัสลุกขึ้น แล้วดึงเขาไปทันที

        เฮ้ยยยย ฉันไปด้วย!!” ไนท์

        ฉันไม่มีเพื่อนที่ไม่มีเหตุผลแบบนาย!” ผมกระแทกเสียงใส่ แล้วเผ่นมันทันที ฮ่าๆๆ ผมเอาขำๆนะครับ  ไอ้มันก็เล่นยืนนิ่งทำหน้าเหมือนโดนแฟนทิ้งอยู่... พร้อมมีใบไม้ที่เพื่อนเอามาให้พัดผ่านหน้ามันเป็นเอฟเฟ็ค  บ้ารึเปล่าเนี่ย! (ไม่รู้ว่าไนท์บ้า หรือ เพื่อนคนที่เอาใบไม้เอฟเฟ็คมาบ้า อะนะ)

      เฮ้! นี่ฉันโดนเพื่อนทิ้งเหรอเนี่ย?!” ไนท์พูดตอบย้ำตนเอง แล้วขยี้ผมจนยุ่ง ประมาณว่า ถ้าถึงมันขาดแล้วยังหล่อก็คงดึงไปนานแล้ว

      คนอย่างนาย ใครมันจะอยากอยู่ด้วยล่ะ.. ฉันรู้ว่านายน่ะรักแอ๊กซิส แต่ชีวิตมันต้องอกหักบ้าง…” เพื่อนชายคนหนึ่งเอามาตบไหล่ล้อเลียนไนท์  ไนท์หันควับไปทำตาขวางให้มันแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นเยือก

        อกหักบ้านแม่แกสิ และเพื่อนชายคนนั้นต้องกระดึ๊บออกนอกห้องทันที..เพราะทนสายตาบาดคมที่ฆ่าคนได้ไม่ไหวอย่างไนท์..

     

        ฮือๆๆ ไนท์ชอบแอ๊กซิสงั้นเหรอ! ไม่นะ.. ผู้หญิงดีๆอย่างฉันก็มีอยู่เยอะไป! ทำไมต้องไปชอบผู้ชายด้วย!!” ผู้หญิงในห้องคนหนึ่งร้องโอดโอยกับเพื่อนทั้งสอง

    ไม่ยอม!! ไม่ยุติธรรม ที่ไนท์ปฏิเสธฉันเพราะชอบแอ๊กซิสงั้นเหรอ!” ผู้หญิงอีกคนร้องโหวกแหวก

            แบบนี้... และอีกคน...

                 ยอมให้ไม่ได้!!!!!!!” ผู้หญิงทั้งสามประกาศลั่นจนทุกคนในห้องสะดุ้ง

     จริงสิๆ  ไปวางแผนแกล้งแอ๊กซิสซะอีกมั้ย?” หญิงนัมเบอร์วันกระซิบ

     ดีๆๆ เราทำเป็นถือถังน้ำอยู่สะดุดทำให้น้ำสาดใส่หน้าแอ๊กซิสดีมั้ย? หญิงนัมเบอร์ทูกระซิบต่อ

    เอ๋ แบบนั้นไม่ใช่ว่าเดี๋ยวพอไนท์มาเห็น จะสวีตยิ่งกว่าเดิมอีกนะ? หญิงนัมเบอร์ทรีค้าน

          ยังไงล่ะ? นัมเบอร์ทูถาม

     แบบประมาณว่า ไนท์เห็นว่าแอ๊กซิสเสื้อเปียกหมดแล้ว จึงพาไปห้องน้ำ แล้วถอดเสื้อแอ๊กซิสออกแล้วอ้างว่าเสื้อเปียกมั้ง?   และหลังจากนั้น..” นัมเบอร์วันตอบแทนนัมเบอร์ทรี

    ไนท์ก็ถือโอกาสปล้ำแอ๊กซิส!! ม่ายยยยยยยย นัมเบอร์ทรีโอดโอย

             เพ้อกันไปเยอะแล้วนะเจ้าสามสาว…” ไนท์เข้ามาแทรกทั้งสามนัมเบอร์ด้วยเสียงเย็น

    กรี๊ดดดดดดดดดดดด!!”  สามสาวแทบวิญญาณออกจากร่าง

     

               ....เขาไม่คิดสั้นถึงขนาดจะทำเพื่อนสนิทเสียความบริสุทธิ์ตั้งแต่อายุไม่ถึงสิบแปดนะรู้ไว้ซะด้วย!!!(อายุถึงสิบแปดค่อยทำ?) ไอ้พวกเพ้อทั้งหลาย!!!

     

     

     

      ตี้ด ตี้ด     มือถือของไนท์สั่น มีข้อความส่งถึงเขา.. เขาเปิดดู  ส่งมาจากเฮสเทียนั่นเอง..

       เห็นข้อความเฮสเทียทีไร เขาต้องนึกถึงตอนนั้นทุกที.. ตอนที่เขาเข้าเรียนที่นี่ครั้งแรกน่ะ  เฮสเทียโทร.มาหาแทบนาทีละครั้ง ส่งข้อความมาวันนึงนับพันข้อความ.. มักจะถามว่า เป็นอย่างไรบ้าง  เข้ากับที่นี่ได้ไหม  เรียนได้ไหม อะไรประมาณนี้   เหมือนพ่อแม่ที่เป็นห่วงลูกตอนลูกไปโรงเรียนวันแรกนั่นแหละ... แต่หลังจากเขาบอกว่ารำคาญ เฮสเทียก็ไม่ส่งมาอีกเลย..ถ้าไม่จำเป็น

         ไนท์เปิดข้อความอ่านดู  มันมีเขียนว่า..

      เอเรส... คงไม่ว่านะถ้าข้าลบความทรงจำของซีรินในตอนเป็นมนุษย์ให้หายไป เพราะตอนนี้เธอก็เหมือนมนุษย์ที่ตายไปแล้วและเกิดใหม่...ตามกฎเธอต้องลืมสิ่งก่อนหน้าที่จะตายให้หมด ข้าจึงลบความทรงจำของเธอไป และใส่ความทรงจำใหม่ว่าเธอเป็นน้องสาวของเจ้า คงช่วยไม่ได้ เธอมีสายเลือดของเจ้าอยู่ด้วย.. ขอโทษจริงๆนะถ้าเจ้าไม่พอใจ

     

            “ ………………… “  เขาจะเสียใจทำไม  แอ๊กซิสสิควรจะเสียใจ เอ่อ.. ที่สำคัญ

       เขาชื่อไนท์ต่างหาก!! ส่งผิดคนแล้ว!!  (ไม่ใช่ล่ะ)   เฮ้อ.. เขาคือเอเรสสินะ 

     ไนท์ ทำอะไรอยู่จู่ๆแอ๊กซิสกับลูคัสก็มาทักจนเขาหัวใจแทบวาย

         ข้าเปล่า!! อุ๊บ..” โธ่!! เพราะมนต์สะกดจิต(ที่พูดกับตนเองที่กระจก)แตก สมาธิก็ไม่มี(?)จึงเผลอ.. เผลอ... อ๊ากกกก

      “?” ลูคัสทำหน้างงๆ ส่วนแอ๊กซิสก็ยิ้มเจื่อนออกมา

    ..กินข้าวเสร็จแล้วเหรอ? ไนท์เปลี่ยนเรื่อง

            อย่างที่เห็น แอ๊กซิสตอบเรียบๆ

    แล้วไนท์ไม่กินข้าวจะดีเหรอ..?” ลูคัสถามอย่างเป็นห่วง

    แกไม่มีสิทธิ์ห่วงฉันเขากินแค่เลือดอยู่อยู่ได้แล้ว..

    “…”  จู่ๆแอ๊กซิสก็ทำหน้าเบื่อหน่ายขึ้นมาทันที

            ทำหน้าแบบนั้นเดี๋ยวไม่น่ารักนะไนท์บอก

    ...พูดแบบนี้เดี๋ยวปากจะแตกนะ ^ ^” ..น่ากลัวชะมัด

       รักกันจัง ลูคัสยิ้มชอบใจ

       มองตรงไหนที่บอกว่ารักกันห๊ะ!!!” ไนท์กับแอ๊กซิสตะโคกเสียงให้ลูคัสพร้อมกันเป็นลำโพงสะท้อนซ้ายขวา...

        

     

                ถึงเวลากลับบ้าน... ห้องผมก็ดังระฆังแตกเหมือนเดิม.. จนผู้อ่านเริ่มชินกันแล้วสินะ แต่ผมไม่ชิน.. ไม่ชินที่ไอ้พวกนี้มันเสียงดังเพราะกำลังนินทาเรื่องผมกับไนท์ตอนเมื่อกลางวัน!!!

          เราดังทั่วทั้งสายชั้นแล้วนะแอ๊กซิส…”

    อร๊ากกกกกกกกก ยังกล้าพูดอีกเรอะ!! ไอ้เบี่ยงเบนเพศเอ๊ยยยยย ผมตวาดใส่ไนท์อย่างเหลืออด

       “?? ฉันหมายถึงห้องเราดังที่สุดในสายชั้นต่างหาก…” ไนท์แก้ให้ ผมแทบเก็บเศษหน้าไม่ทัน หันไปมองทุกคนที่หัวเราะคิกคักกันอยู่.. อายครับ!!! ก็ผมคิดว่าไนท์หมายถึงเรื่องเมื่อกลางวันนี่นา! ฮือ หน้าแตกเป็นสะเก็ดดาว (?)

          ฉันไปส่งที่บ้านนะ ไนท์บอก

    อืม…”     ฮืออออออ  (ยังร้องไห้อยู่เนื่องจากเมื่อกี๊ตะโคกใส่ดังพอควร)

     

     

       ผมกับไนท์เดินกลับบ้านด้วยกันเหมือนทุกๆครั้ง

    หิวชะมัด วันนี้นายทำอาหารให้กินอีกได้เปล่า ไนท์เลียปากประกอบ..ผมรู้ว่าผมทำอาหารอร่อยมาก(?) แต่.. ทำไมผมต้องทำให้มันกินอีกเนี่ย!?

       กินเลือดไปเหอะเลือดหมาด้วยก็น่าจะดี

       เลือดนายก็ท่าทางจะอร่อยดีนะ..” ไนท์เข้ามาดมใกล้ๆคอผม ..ผมแทบผงะไป

     อย่าแม้แต่จะคิด!” ผมตบหัวมันด้วยความอารมณ์เสีย แค่เซมินอสคนเดียวก็จะตายแล้ว!

                    พูดเล่นน่า..

      ผมมาหยุดที่ไฟจราจรคนเดินที่เดิม  มันเป็นสี่แยกน่ะนะ ผมแอบคิดว่า ถ้าสักวันไฟจราจรที่นี่พังจะเป็นอย่างไร... คงไม่พักไปโรงเรียน เพราะที่นี่รถวิ่งกันเร็วๆทั้งนั้น

         ...  ผมมองไปฝั่งตรงข้าม มีเด็กนักเรียนมากมายรอข้ามถนนอยู่เช่นกัน.. บ้างก็เดินผ่านไปผ่านมา... มีทั้งเด็กผู้หญิงตัวๆเล็กๆ น่ารักๆ ที่กำลังเดินจูงมือกับพี่ชายของตนเองอย่างยิ้มแย้มอยู่ด้วย..

                      ซีริน...

       ผมคิดถึงน้องสาวของผม.. น้องสาวที่ตายเพราะอุบัติเหตุพร้อมกับพ่อแม่... เธอเป็นเด็กที่ขี้โม้และชอบแกล้งผมอยู่บ่อยๆ แต่เธอก็รักผมมาก ผมรู้สึกเอ็นดูเธอมากๆ   ผมนึกไปถึงวันเกิดตอนผมอายุ14ปี...  เธอซื้อที่คาดผมหูแมวกับหางแมว มาติดไว้ แล้วมากอดผม บอกว่าเป็นของขวัญวันเกิด(?)  ซีรินรู้ว่าผมเป็นพวกคลั่งหูแมวมากจึงซื้อมาใส่ เอ่อ... ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นผมรับมาเป็นแฟนแหงๆ.... เฮ้ย ผมไม่ใช่พวกรักน้องสาวนะครับ!!! (โอตาคุจริงๆสินะ?)

     

     

     

    ...และจู่ๆผมก็เกิดช๊อกค้างไป

    ภาพตรงหน้าที่ทุกคนกำลังเดินอยู่.. เหมือนหยุดไป และโฟกัสไปที่เด็กสาวคนหนึ่งในฝั่งตรงข้าม

                   ....เด็กสาวตัวเล็กผมสีน้ำเงินเงางาม ตาสีน้ำตาลคาราเมล....

    ซ..ซ..ซี... ผมเบิกตากว้าง... รู้สึกว่าขาดสติขึ้นมาทันที... ร่างกายผมขยับ..ขยับเอง  ผมเห็นภาพตรงหน้ากำลังเข้าใกล้ผมเรื่อยๆ ผมกำลังวิ่งไปหามัน

     เฮ้ย!! ไฟจราจารยังไม่แดงนะ!!” 

             ปี้น!!!   รถยนต์ที่วิ่งมาด้วยความเร็วสูงบีบแตรใส่ ผมหันไปมอง รถคันนั้นกำลังพุ่งมาที่ผม...

     

     อะ..  ผมคิดว่าผมต้องโดนรถชนแน่แล้ว ผมหลับตาแน่น แต่จู่ๆผมก็โดนกระชากไปในอ้อมกอดของใครบางคน  

    ...อ้าว ทำไมผมไม่เจ็บเลยล่ะ?  รถมันน่าจะชนไปแล้วนี่... หรือผมตายแล้ว???

    โชคดีที่แอบลักวิชาการหยุดเวลาจากเซมินอสมาได้ หึๆๆ  เสียง...เสียงของไนท์ลอดผ่านหูผม ผมลืมตาขึ้นมองใบหน้าของคนที่กอดผมอยู่..

     น..ไนท์   ผมเพิ่งได้สติ แล้วมองรอบๆ... ทุกสิ่งทุกอย่างในเมืองนี้หยุดนิ่ง แม้แต่ลม มีเพียงผมกับไนท์เท่านั้นที่เคลื่อนไหวอยู่..

            ผมเห็นดวงตาสีมรกตของไนท์ กลายเป็นสีม่วง... แต่ผมยังคงสีเดิมอยู่ คงเป็นเพราะปลดปล่อยพลังออกมานิดนึงกระมัง?

     ซ..ซีริน  ผมหันไปมองเด็กสาวคนนั้นอีกครั้ง เธอ... เธอหายไปแล้ว?  ไนท์หยุดเวลาอยู่นี่นา แล้วเธอหายไปไหนกัน?

      หือ? ไนท์มองผม เหมือนไนท์จะค้างคากับชื่อที่ผมเรียกขึ้น  แต่ก็ไม่ถามอะไร ว่าแต่.. นายวิ่งมาทั้งที่ไฟจราจรคนเดินยังแดงได้ไง?

    ขอ..โทษ ฉันคงคิดมากไปหน่อยน่ะ

        ไนท์พาผมมาในถนนฝั่งตรงข้าม ทันใดนั้น โลกก็กลับมาเคลื่อนไหวได้เหมือนเดิม  ไนท์หันมาแตะหน้าผมแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง นี่นายเป็นอะไรรึเปล่า?

      เปล่า..   สรุปเมื่อกี๊ภาพหลอนสินะ?  หรือว่าเพราะผมมัวคิดถึงเธออยู่ ซีรินจึงไม่ได้ตายไปอย่างสงบ  หมายความนั่นวิญญาณเธอ? ไม่ล่ะๆๆ ไม่ใช่แน่

      ไม่สบายรึเปล่า ถ้าไม่สบายฉันไปเฝ้าไข้ให้ได้นะ เพราะอย่างไรเซมินอสคงเฝ้าไข้นายไม่ได้หรอกมั้งนี่นายเป็นห่วงจริงๆเหรอ?

      ถ้าฉันเป็นไข้จริงๆ ฉันยอมให้เซมินอสเฝ้าไข้ฉันยังดีกว่านายที่ชอบโรคจิตขึ้นมาดีกว่าเยอะ ผมแบะปาก  

    เรอะ ไนท์ทำหน้าไม่พอใจ เซมิลนี่.. แล้วก็เริ่มก่นด่าเซมินอสเสียงเบาเหมือนกระซิบเพื่อไม่ให้ผมได้ยินทันที...

          เอ้อ ไนท์ ผมทักไนท์ที่ก่นด่าเซมิลอยู่

     หืม?

    เมื่อกี๊..ขอบใจมากนะ ผมกล่าวขอบคุณเขา ไนท์ยิ้มขึ้นมาทันที แล้วขยี้หัวผม

    เฮ้ อย่าขยี้หัวฉันเซ่!”

    คราวหลังจะไปแบบบุ่มบ่ามอีกล่ะ

    อือ... คราวนี้ไม่ว่าจะเห็นภาพหลอนหรืออะไรผมก็จะมีสติอยู่ตลอดเวลา..ผมสัญญา!

    เฮ้ออออ ว่าแต่ ไอ้ภาพหลอน!! ทำเอาผมเกือบตาย! (คงเป็นพวกรักน้องสาวมากจนขาดสติ)

    เฮ้ย!?  หรือว่าซีรินต้องการให้ผมไปอยู่กับเธอ เธอจึงมาหาผม แล้วตั้งใจจะให้ผมถูกรถชนตาย จะได้ไปอยู่กับเธอ เนี่ย!!

    ...บ้าไปแล้ว เรานี่บ้าจริงๆ       

     

    ช่วงนี้งานเยอะมากๆ... เซ็งสุดๆ

    ช่วงนี้มันหัวตื้อไปหมด เขียนผิดตลอดเลย  นึกบทบรรยายไม่ออกอีกต่างหาก รู้สึกว่าฝีมือมันเสื่อมไป.. (เคยมีฝีมือด้วยเหรอ= =?)

    เอ่อ... ตามจริงมีมายด์ชอบเซมินอสที่สุดในเรื่องนะ แล้วเกลียดไนท์ที่สุดในเรื่อง.. แต่ทำไมมันต้องมาคู่กับแอ๊กซิสในตอนแรกๆด้วยเนี่ย!? ไม่เอาแล้วว! ต่อไปนี้ เปลี่ยนฉาก! เพราะเป็นกลางวันไนท์ถึงเด่น  เพราะงั้น กลางคืนเซมินอสต้องเด่น.. โอเค!

    ห๊ะ…? ว่าไงนะ กลางคืน เอเรสก็มายุ่งได้? ไม่ๆๆ

    แต่ไม่รู้ทำไม มีมายด์แต่งไปมา เคยเกิดคิดว่าอยากให้เอเรสคู่กับเซมินอสด้วยละ 555+ (สีม่วงเพื่อ?)

    บ้าไปแล้ว! บ้าไปแล้วจริงๆ! บ้าเหมือนแอ๊กซิสเลยตัวฉัน 555+

    ^.Me_My_Shining_.^





     

     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×