มีร่มคันยักษ์กางปกคลุมโลกอยู่
ใจกลางนั้นมีหอคอยที่พวกเครื่องจักรคอยค้ำยันอยู่
ตามคาด เหล่าผู้คนไม่ได้รับแสงแดด และทนทรมารจากสิ่งร่วงลงมาที่เรียกว่า "ฝน"
แต่ทุกคนก็ไม่มีคำถามใด ๆ
เพราะมันเป็นสิ่งที่เกิดทุกวัน
จนกลายเป็นไม่มีอะไร
มันเป็น "กฏ" ง่าย ๆ แบบนี้แหละ
ร่มคนนั้นบดบังตะวัน ท้องฟ้ากำลังร่ำไห้
เมืองทั้งเมืองมองไม่เห็นอะไร ไม่เคยสงสัยอะไร
เธอไปที่ร่มแล้วถ่มน้ำลายใส่
มันหายไปกับสายฝนแล้วพวกเราก็จากไปอย่างเงียบ ๆ
ไม่ได้ยินใครพูดอะไร แต่เขาก็คว้าสายฝนเอาไว้
แล้วเขาก็จับมือฉันแล้วตรงไปยังที่ร่ม
แล้วเริ่มวิ่งไป
เราสองเคยสัญญาเอาไว้ว่า
"พวกเราจะเห็นท้องฟ้าแบบในหนังสือภาพนี้ด้วยกันนะ"
ในตอนนี้ดูเหมือนสายฝนจะซาหายไป
เช่นเดียวกับความโศกเศร้าที่เราลืมมันไป
หลังจากผ่านสายฝนที่เกิดขึ้นอย่างเหนื่อยาก ทั้งคู่ก็เข้ามาถึงที่หอคอย
ประตูยักษ์สองบานนั้นยากที่ขยับ แต่ทั้งคู่ก็ไม่ถอยกลับ
ใช่ว่าทุกคนจะเข้าไปได้
จะมีกุญแจหรือไม่มันไม่สำคัญ
จนถึงอีกด้านของประตู...
มุ่งตรงมาถึงขั้นบันไดหมุนยาววกวน
เปื้อนเปียกปอน ท่ามกลางหยาดฝนโปรย
เกือบจะร้องไห้ออกมาให้เห็นแล้ว
เธอนั้นช่างอ่อนโยน แล้วกุมมือฉันไว้
ถูกตามหลังด้วยเงามืดสีขาว
มันวิ่งผ่านกรงกั้นแถวหนึ่งไป
แต่ไม่มีเวลาที่จะถามหา
หรือต้องการใด ๆ
มือของฉันสั่นระรัว และเธอก็คอยปลอบโยนไว้
แต่ที่ฉันทำได้ ก็แค่คอยเฝ้าระวังให้เธอเท่านั้นเอง
ท่ามกลางความมืด ล้อเกียร์ส่งเสียงเยาะเย้ย
แต่ ดูสิ สายลมอ่อนเบาพัดผ่านแก้มของเธอไป
"ลมกำลังพัด..."
เด็กสาวเอ่ย
เด็กชายเห็นด้วยกับเธออย่างเงียบ ๆ
ไม่มีอะไรที่หยุดให้พวกเขาเดินได้
ดูเหมือนพวกเขาจะมาไกลมาก จนกว่าจะวิ่งได้อีก
ไม่มีใครตามหาพวกเขาเจอได้แน่ เพราะพวกเขาเป็นแค่ส่วนเล็ก ๆ เท่านั้นเอง...
ไม่มีใครตามหาพวกเขาเจอได้แน่...
ทันที่พวกเขาไล่ตามเงาสีขาวไม่ได้อีกต่อไป
ตอนที่มันจางหายก็เหมือนจะรู้สึกเศร้าเหลือเกิน
ท่ามกลางกลิ่นของสนิมและรอยเปื้อนสีดำ
ท้ายที่สุดแล้ว เหมือนว่าสีจะเริ่มสว่างขึ้น
ดูเหมือนว่าพวกเราจะได้ยินเสียงจากที่ไหนซักแห่ง
บางทีเราอาจจะคิดไปก็ได้ บางทีเราอาจจะลืมไป
แล้วยืนอยู่ที่ปลายทางของบันไดวกวน
มีประตูใบเล็กอยู่ข้างหน้า
ปกคลุมไปด้วยฝุ่นควัน
เหมือนเฝ้ารอมานานแสนนาน
"เปิดมันเถอะ"
"อือ"
ที่แห่งนั้นเหมือนว่าฉันจะเห็นได้ทุกสิ่งอย่าง
ดอกไม้บานหลากสี ท้องฟ้าสีครามกว้างใหญ่
ท่ามกลางโลกที่งามจับใจ มีเราสองคนเท่านั้น
อา... ฉันไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว
แล้วท้องฟ้าที่ถูกขังไว้อยู่ในหนังสือ
ก็กลับไปสู่ที่ของมัน แล้วจะไม่ถูกลืมอีกต่อไป
เธอให้มงกุฏดอกไม้ที่ทำอย่างลวก ๆ ให้ฉัน
เราทั้งคู่หัวเราะกัน ตอนที่ฉันอิงไหล่เธอ
ณ จุดสิ้นสุดของโลก ร่มก็ได้กางขึ้น
ตราบเท่าที่ยังมีโลกแบบนี้ก็ไม่เป็นอะไรหรอก
ตราบเท่าที่เธอยังอยู่เคียงข้าง ฉันก็ไม่เสียใจหรอก
บนเหนือสุดของร่มที่มีดอกไม้บาน
ด้วยสีหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความสุข
ทั้งคู่นั้นก็ค่อย ๆ หลับไปด้วยกัน
---------------------------------------------
เครดิต : http://torakiba.exteen.com/
ความคิดเห็น