26//08//54
เขียนโดย
Lumiel S. Waneriar
พักนนี้รู้สึกไม่อยากออกไปไหนเลย....
รู้สึกอยากจะอยู่ในที่มืดๆ...ไม่อยากสู้แสงอาทิตย์เลย..
==============================
คณะ....และ...เด็กดี(รวมๆ)
ดูเหมือนทุกอย่างจะจบลงด้วยดี...เพราะ..ฉันทำต่อไปไม่ไหวแล้ว...
โกรธหรือ..มันก็ใช่..โกรธมาก..แต่พอนึกดีๆ...
ฉันมันผิดเอง..ล่ะ..ที่ทำหน้าที่ไม่ดี...พลาดซะเอง..
ปฏิกิริยา..ที่รับรู้..ต่างฝ่ายต่างเข้าใจกัน....
เเต่เบื้องหลังล่ะ..จะเก็บไปพูดอะไรลับหลังบ้าง?
ไม่รู้สิ...ฉันไม่ใช่นักพยากรณ์ซักหน่อย....
ต่อให้มันไม่จบ...ฉันก็ไม่อยากสนแล้ว......
ทุกครั้ง..ที่ฉันเปิดใจ...ทำไมทุกคนถึงเปลี่ยนไป....
ไม่...จะให้ฉันเชื่อใจต่ออีกงั้นเหรอ?
ทั้งๆที่ฉันเคยเชื่อใจ...มาก...แต่นี่สินะ...
คือผลของการที่ฉันยอมเชื่อใจใครสักคน ...หลายครั้ง....ที่ทุกอย่างมันเปลี่ยนไป...
กับคำว่าเชื่อใจ....ถ้าหากทุกคนเปลี่ยนไป..แค่เพราะคำว่าเชื่อใจ...
ฉันก็ขอไม่เชื่อใจใครอีกเลยดีมั้ย?....ฉันน่ะไม่สนหรอกนะว่าตัวเองจะเป็นยังไง
ยอมรับว่า...สำหรับคนอื่นแล้วฉันทุ่มเทให้มากกว่าตัวเอง...
มันถึงได้เจ็บกลับมายังไงล่ะ....
เปิดใจ?
เหอะ...น่าขำ...ฉันควรจะรู้ได้แล้ว..ว่าโลกของฉันมันต่างกัน..กับพวกเขา
เห็นได้ชัดเลย..ว่ามันแตกต่างขนาดไหน..พอฉันเปิดใจ..ยอมบอกอะไรๆมากขึ้น...
สุดท้าย..ทุกคนก็เริ่มที่จะหนีหายไปหมด...
คำพูด..จะให้ฉันไปปรับความเข้าใจเหรอ?....
ไม่ไหวแล้วล่ะ.....
ฉันกลัวว่า..หากฉันพูดอะไรออกไปอีก..ทุกอย่างมันจะยิ่งแย่ลงกว่าเดิม...
คำพูดฉัน..มันเป็นคำพุดสะบั้นสัมพันธ์จริงๆสินะ...
ไม่ว่าจะที่ไหนๆ..ต่อให้คำพูดธรรมดาๆ มันก็สะบั้นได้...
เอาเถอะ...จะมาผิดหวังตอนนี้มันก็ช้าไปแล้ว...
ทำไมตอนนั้นไม่พูดไปตรงๆล่ะ...?
นั่นสินะ....รู้สึกว่าความสัมพันธ์ระหว่างที่นี่กับฉัน มันเริ่มน้อยลงๆเรื่อยๆ..
คณะ..อีกไม่นานก็จบแล้ว..เด็กดี...ก็เหลืออยู่ไม่กี่คน...
บางทีฉันควรจะตาสว่างได้แล้ว...ว่าถึงเวลาต้องยอมรับความจริง
ฉันไม่รู้หรอกว่า..เขารู้สึกแบบที่เขียนมารึเปล่า...แต่พักนี้..
คำว่า"ดราม่า" มันทำให้ฉันเจ็บปวด...
อันที่จริง...ช่างมันเถอะ...ไม่ไหวแล้ว...ฉันเบื่อที่จะเล่นแบบนี้แล้ว..
มันตัวพวกเขานี่นะ...อะไรๆที่บอกไปแล้ว ก็บอกไปหมด..
ถ้าพวกเขายังดึงดันที่จะทำ...ก็ช่างมันเถอะ...ชีวิตของเขานี่นะ..
ชีวิตของฉันมันก็ของฉัน...อะไรที่บอกไปแล้ว..มันก็เอากลับคืนมาไม่ได้...
ที่พูดไปทั้งหมด..(ย้อนหลังไดอารี่ด้วย)..มันก็คือความรู้สึกของฉันนั่นล่ะ...
ถ้าหาก..ฉันยอมรับข้อตกลงนั้น...ก็คง...ได้เวลาไปจริงๆสินะ..
กลับไปสู่โลกของตัวเอง..ไม่ต้องเห็นใจใคร..เอาแค่เรารอดก็พอ...
ไม่ต้องมานั่งแคร์ความรู้สึกใคร!!
ไม่จำเป็นสักนิด......
ความจริง...มันก็รู้สึกแปลกแยกอยู่แล้วล่ะที่เด็กดีน่ะ...คนอื่นเขาก็มัธยมต้น-ปลาย
แค่ช่วงวัยก็...ก็ทำไงได้ล่ะ...มันผูกพันธ์ไปแล้ว..
เหลือแค่สภาสินะ...ที่ฉันยังไม่รู้สึกแปลกแยก...
เอาเถอะ...พักนี้ฉันแค่น้อยใจ...
ฉันไม่น่าตีค่าความสัมพันธ์ที่เว็บเด็กดีสูงเกินไปเลย.....
มันงี่เง่าจริงๆ...
พอกันที!!
ฉันจะอยู่ถึงแค่สิ้นปีนี้ก็พอ สำหรับที่เด็กดี!!!
หลังจากนั้นก็...ถ้ามันมีวาสนาก็อาจได้เจอกันอีก ที่นี่...
ข้อตกลงวันนั้น...ไม่สนแล้วว่า คุณอา..จะผ่อนผันให้บ้างไหม..
แต่ถ้าไม่..ก็ดี!!! ไม่ต้องมาอาลัยอาวรณ์กันอีก!!
จบกันเสียที..ต่อให้ไม่มี..เรื่องของซิลเวีย กับ พวกเด็กงี่เง่านั่น..
ฉันก็มีเรื่องให้ไปอยู่ดีสินะ..?
-------------------------------------------------------------
ถึงแม้ว่าจะแสดงละครก็เถอะ...แต่..เดี่ยวนี้ฉันเริ่มจะไขว้เขวแล้ว...
ว่าอันไหนละคร..อันไหนของจริง...
ช่างมันเถอะ...ไม่อยากจะนั่งวิเคราะห์อีกแล้ว..
นั่นสินะ..จะว่าไปฉันก็....
จะว่าไป..ที่ไหนๆ ..ฉันก็เป็นได้แค่คนนิสัยไม่ดี ไร้หัวใจสินะ..
ความใจดีของฉัน..มันถูกคนอื่นมองข้ามกันไปหมด...
เวลามันเปลี่ยน ...อะไรๆก็เปลี่ยนสินะ...
เพราะงี้ไงล่ะ..ฉันถึงไม่อยากผูกพันธ์ ไม่อยากบอกอะไรง่ายๆ
เพราะพอพวกเขาเปลี่ยนไป...มันจะเจ็บมากกว่าเดิม
ช่างมันเถอะ....ฉันเองก็ยอมรับว่า..ไม่ค่อยจะเชื่อใจใครเขานักหรอก...
ไม่เข็ดเลยสินะ...พอเชื่อใจใครมากๆ สุดท้ายก็เป็นแบบนี้กันหมด...
ช่างมันเถอะ....ไม่ไหวแล้วล่ะ..จะอะไรๆก็ช่าง...
ก็ได้แต่ต้องภาวนาใช่มั้ย?
ภาวนาให้ทุกอย่างกลับมาเหมือนเดิม?.....
ไม่หรอก...ฉันไม่เชือ่ว่ามันจะเหมือนเดิม....
------------------------------------------------------------------
"อา...การหมางเมินที่แสนเกลียด....การไม่ไว้ใจซึ่งกันและกัน...ความรู้สึกลับหลังที่แสนเศร้า
รอยยิ้มที่แสนเย็นชา...ความสัมพันธ์ที่พังทะลาย...มันจะยังคงเหมือนเดิมได้อีกหรือ?
ถึงเวลาที่ปีกคู่นั้นต้องโบกบินอีกทีแล้วสินะ...
หากความไว้ใจ..ถูกตอบแทนแบบนี้...ข้าก็ต้องยอมรับมันอย่างเดียวสินะ?
ทำไมกันล่ะ?...ทำไม..
สุดท้ายแล้ว ใครเปลี่ยนไปกันแน่!!!!"
ไม่คิดเลยนะ...ว่าสุดท้าย คำพูด..นี้มันจะได้ใช้เข้าจริงๆ...
บทกวีงี่เง่า...ของAcostoria I
เอาเถอะ...
ชีวิตจริงไม่มีกุญแจสีขาว คอยรีไรท์ให้...ก็ต้องก้มหน้ารับความจริง...
มีแต่กุญแจสีดำ..ที่นำมาแต่ความพินาศ...
ชีวิตฉัน...มันก็เริ่มจะเดินหน้าไปแบบนิยายเข้าจริงๆ...
เอางั้นสินะ....ถ้ามันเหมือนกันจริงๆ...
ก็ดี...อย่างน้อยๆ..ฉันก็รู้ว่าอะไรรออยู่บ้าง?
อาจจะดูงี่เง่าที่มองอะไรแบบนี้...แต่สำหรับฉัน..หนังสือคือเพื่อนเเท้...
ที่อย่างน้อย..ก็อยู่กับฉันทุกเวลา..ไม่เคยหักหลังกัน...
ถึงมนุษยสัมพันธ์ฉันจะยำแย่..ก็ตาม...
------------------------------------------------------------------
ความฝันเมื่อคืนมันช่างตอกย้ำความจริง....
สุดท้ายฉันก็โดดเดี่ยวแม้ในความฝันสินะ?
ถึงในความฝันฉันจะดูอาการหนักก็เถอะ...
ฉันเคยปฏิญาณไว้ว่า...ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น..ฉันจะไม่ทำอะไรมาตุภุมิของตัวเอง..
แต่เวลามันกลับทำให้ฉันตระหนักว่า...
ถ้าหาก...มาตุภูมิก็ยังทอดทิ้งฉันอีก....ฉันก็คงต้องทอดทิ้งบ้างสินะ....
อุดมการณ์ของฉันใครจะหาว่าบ้าก็ตามใจ..
ยังไงๆ..ฉันก็วางแผนไว้แล้ว..ต่อให้สำเร็จ..ฉันก็ไม่คิดจะอยู่นานหรอก..
อย่างน้อยๆ ก็แค่ตายตกตามกัน...ถือซะว่าแทนคำขอโทษ..
ที่อาจจะไม่มีใครสนใจ....
ขอโทษ ที่ทรยศหักหลังหลายๆคนที่เคยห้าม...
หรือต่อให้ไม่สำเร็จ...ฉันก็ไม่อยู่มันหรอก....
คราวนี้ต่อให้ใครมาช่วยทัน..ฉันก็จะพยายาม..กลับไปตายให้ได้...
เอาสิ...ถ้าฆ่าตัวตายมันบาปนัก..ต้องมาฆ่าตัวตายอีก 7 ชาติ..
ฉันก็ยอม!!!
เอาเลย..ยังไงๆฉันก็ทำความดีไม่ขึ้นอยู่แล้ว...
เอาให้มันบาปหนา ชนิดกู่ไม่กลับไปเลย...
ถ้าฮิตเลอร์ล้างเผ่าพันธุ์ยิว ฉันก็จะล้างเผ่าพันธุ์คนที่มันอยู่ฝั่งตรงข้ามกับฉันเอง!!
ต่อให้ไม่สำเร็จ..ก่อนหน้านี้ฉันก็ทำมาบ้างแล้วล่ะน่า...
ถึงมันจะดูแย่...แต่ใช่...
ฉันจะเน้นปริมาณ!!
ไ อ้พวกคนดีที่ไหนมันจะมาขัดขวางก็ตามใจ!!
ฉันจะได้ฉุดลงไปด้วยกันให้หมด!!
ถ้าหากความฝันคือสิ่งที่สะท้อนเบื้องลึกในจิตใจคนเรา
งั้นตอนนี้จิตใจเบื้องลึกของฉันกำลังคิดถึงสิ่งนี้สินะ?
ถึงแม้ทุกอย่างมันจะพังทลายลงไป..ซ้ำแล้วซ้ำเล่า..
ฉันก็ยังจะหวัง..หวังว่าครั้งต่อไป..มันจะไม่พังทลายลงอีก....
====================================================================
Auf wiedersehen
แจ้ง Blog ไม่เหมาะสม
26 ส.ค. 54
58
0
ความคิดเห็น