Fate Series - ข้อมูลของเหล่าเซอร์แวนท์

ลำดับตอนที่ #66 : Lancelot : อัศวินจอมบ้าคลั่ง

Berserker : แลนเซล็อต (Lancelot)

อัศวินจอมบ้าคลั่ง

 

          แลนเซล็อต หรือรู้จักกันในนามอัศวินแห่งทะเลสาบ ผู้เป็นดั่งสัญลักษณ์ในแง่ลบของตำนานอาเธอร์ ขึ้นชื่อว่าเป็นอัศวินที่แข็งแกร่งที่สุดในเหล่าอัศวินโต๊ะกลมทั้งหลาย เขาเป็นคนที่ซื่อสัตย์ต่อกษัตริย์อาเธอร์เป็นอย่างมากในฐานะอัศวินโต๊ะกลมคนหนึ่ง จุดตกต่ำของแลนเซล็อตเริ่มต้นที่เขาได้ตกหลุมรักกับราชินีของอาร์เธอเรียนามว่า กวินเนเวียร์ (Guinevere) เล่ากันว่าเรื่องราวแห่งความรักของเดียร์มุด (Diarmuid Ua Duibhne) และ กรอนเนีย (Grainne) เป็นต้นแบบเรื่องราวระหว่าง กวินเนเวียร์และแลนเซล็อต

          แลนเซล็อตเกิดและเติบโตในฝรั่งเศส หลังจากสูญเสียพ่อแม่ในตอนเด็ก เขาถูกเลี้ยงดูโดยเหล่าภูติแห่งทะเลสาบไนมูเอ (Nimue) ต่อมาจึงได้รับฉายาว่าอัศวินแห่งทะเลสาบ อยู่มาวันหนึ่ง เขาได้ยินเรื่องราวของกษัตริย์อาเธอร์ผู้ยิ่งใหญ่ ทำให้เขาศรัทธาในตัวของราชาแห่งอัศวินเป็นอย่างมาก เขาเริ่มเตรียมตัวพร้อมที่จะเดินทางเข้าไปในบริเตนเพื่อพบเจอกับราชาผู้ยิ่งใหญ่ด้วยสายตาของตัวเอง

          เขาได้พบกับกษัตริย์อาเธอร์ทันทีที่ได้เหยียบแผ่นดินบริเตนท่ามกลางสงครามที่เกิดขึ้นน มันได้สร้างความรู้สึกประทับใจที่ฝังลึกลงในจิตใจของเด็กผู้ชายอย่างเขาเป็นอย่างมาก ทั้งการกวัดแกว่งเหวี่ยงดาบใส่ศัตรูของเธอ มันทำให้ความคิดของเขาต่อตัวของอาร์เธอเรียเปลี่ยนไป เคล็ดลับในการต่อสู้ทั้งวันทั้งคืนนั้น ไม่ใช่แค่เฉพาะพละกำลัง แต่เป็นความเชื่อมั่นที่ไม่สั่นคลอน เขาได้ร่วมสู้รบไปกับอาเธอร์เรียจนจบสงคราม ฝีมือของเขาทำให้แลนเซล็อตได้รับเกียรติให้ได้พูดคุยกับอาร์เธอเรียในฐานะเพื่อนได้และเขาได้ถูกชวนไปยังคาเมล็อตในฐานะแขกผู้มีเกียรติ ต่อมาไม่นาน เขาก็เริ่มหวังที่จะอยากที่จะเป็นอัศวินโต๊ะกลม และสุดท้าย เขาก็ได้กลายเป็นอัศวินโต๊ะกลมในที่สุด

          แลนเซล็อตได้สร้างประโยชน์มากมาย ทั้งการที่ปกปิดชื่อจริงของเขาและการปลอมตัวไปแข่งม้าเพื่อเกียรติของเพื่อนของเขา หลังจากที่เขาตกกับดับของศัตรูและเผชิญหน้ากับศัตรูด้วยมือเปล่า ทำให้เขาได้พิสูจน์ชัยชนะที่แท้จริงด้วยฝีมือของเขาเอง

          เมื่อเซอร์ ทริสทัน (Tristan) ได้ออกมาจากปราสาทพร้อมกับพูดว่ากษัตริย์อาเธอร์ไม่เข้าใจความรู้สึกของผู้อื่นหรอก คำพูดเหล่านั้นได้กระทบกับจิตใต้สำนึกของแลนเซล็อต เขาหวังว่าอยากจะช่วยแบ่งเบาภาระของอาร์เธอเรียเหมือนกับคำของของกวินเนเวียร์ พวกเขาได้พูดคุยกันและได้เริ่มรู้จักกันมากขึ้นในฐานะเพื่อนและในที่สุด ทั้งคู่ก็มีใจให้กัน หลังจากที่แลนเซล็อตได้รู้จักกับเธอ เขาได้รู้เกี่ยวกับความลับของกษัตริย์อาเธอร์ว่า แท้จริงแล้ว เธอเป็นผู้หญิง เธอแต่งงานเพื่อที่จะได้ปกปิดความลับของตัวเธอเอง ส่วนกวินเนเวียร์เอง เธอประสงค์ที่จะสละชีวิตของเธอในฐานะผู้หญิงคนหนึ่งเพื่อที่จะได้รักษาการปกครองแบบที่ตัวเองต้องการ

          เมื่อแลนเซล็อตและราชินีมีใจต่อกัน เขาตัดสินใจที่จะหนีจากคาเมล็อตไปพร้อมกับเธอ แต่ด้วยความซื่อสัตย์ที่เขามีต่ออาร์เธอเรียและหน้าที่ที่คอยเฝ้ารอเขาอยู่ ทำให้ศัตรูทางการเมืองของกษัตริย์อ้างเรื่องนี้เพื่อสร้างความแตกแยก อากราเวน (Agravain) ผู้ซึ่งร่วมมือกับมอร์แกน เลอ เฟย์ (Morgan Le Fay) เปิดเผยความสัมพันธ์ระหว่างเขาและกวินเนเวียร์ต่อสาธารณชน ราชินีได้รับคำสั่งให้ถูกประหารชีวิต แลนเซล็อตที่หวังจะช่วยเธอจึงได้ฆ่าเหล่าอัศวินที่ได้ติดตามมา ไม่ว่าจะเป็นพี่น้องของกาเวน (Gawain) อย่างกาเร็ธ (Gareth) และกาเฮริส (Gaheris) หลังจากนั้น เขาก็ได้หนีออกมา

          แลนเซล็อตผู้เคยเป็นอัศวินผู้สมบูรณ์แบบ กวินเนเวียร์ ราชินีผู้ซึ่งทำให้คนรักของเธอต้องทรยศต่อหน้าที่ และอาร์เธอเรีย ผู้ซึ่งโทษเรื่องราวเหล่านี้ว่าเป็นความผิดของตัวเอง ทุกคนต่างมีความเจ็บปวดทรมานเป็นอย่างมาก แม้ว่าอาร์เธอเรียจะยกโทษให้กับแลนเซล็อต แต่กาเวนที่สูญเสียน้องชายไปกลับเกลียดชังตัวเขามาก

          ความแตกแยกของเหตุการณ์นี้ทำให้บริเตนเข้าสู่ยุคสงครามกลางเมือง ประเทศถูกแผดเผาไปด้วยไฟแห่งสงคราม แลนเซล็อตนั้นยังมีความต้องการที่จะช่วยเหลืออาร์เธอเรียในสงครามแคมแลนน์ (Camlann) เพื่อรับใช้ราชาของเขา แต่กาเวนที่ปฏิเสธความช่วยเหลือของเขาทำให้บริเตนและอาร์เธอเรียได้พบกับจุดจบ

          เมื่อแลนเซล็อตได้ทราบถึงข่าวการตายของอาร์เธอเรีย เขาได้จมดิ่งลงไปสู่ความสิ้นหวังและหนีออกมาด้วยความบ้าคลั่ง เมื่อเขาได้กลายเป็นวิญญาณวีรชน เขาจะถูกอัญเชิญออกมาในฐานะเบอร์เซิกเกอร์ผู้คุ้มคลั่ง แลนเซล็อตเบอร์เซิกเกอร์จะปรากฏตัวในชุดเกราะสีดำดูน่าเกรงขามพร้อมกับแสงสีแดงที่ผ่านออกมาจากร่องตาของหมวกเหล็ก เป็นชุดเกราะที่ประณีตและแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่าเป็นชุดเกราะที่ไร้เทียมทาน มันเต็มไปด้วยลายแกะสลักและรอยขีดข่วนนับไม่ถ้วน เป็นชุดที่เหล่าอัศวินเห็นต่างก็อิจฉา 

          ระหว่างชีวิตของเขา เขาเป็นตัวแทนของอัศวินในอุดมคติ แต่หลังจากที่เขาได้เปลี่ยนแปลงไป ความบ้าและความโกรธได้กลืนกินตัวของเขา เขามีใบดำที่ดูมืดมนขึ้น เสมือนกับคนตายที่ยังมีชีวิตอยู่ เหมือนกับทุกอย่างมันถูกต้องสาปไปหมด แต่ถึงแบบนั้น เขาก็มีใบหน้าที่หล่อเหลาจนหลงใจสาวๆ หลายๆคน 

          ตัวตนของเขาถูกปกปิดภายใต้ชุดเกราะ มีเพียงแต่การเปิดเผยความจริงเท่านั้นที่สามารถรู้จักตัวตนของเขาได้ ไม่มีสิ่งใดเลยที่สามารถบ่งบอกได้ว่าเขาเป็นใครแม้แต่อาร์เธอเรียหรือกิลกาเมซก็ตาม ด้วยเหตุนี้ทำให้ร่างกายของเขาปกคลุมไปด้วยสิ่งที่คล้ายๆ กับเงาดำรอบตัว เมื่อความสามารถนี้หายไป เกราะเหล่านี้ก็จะสามารถบ่งบอกตัวตนของเขาได้อย่างง่ายดาย เขาเป็นวีรชนที่ขาดความเป็นวีรชน ไม่มีสัญญาณแห่งเกียรติยศในตัวของเขาเอง ด้วยสมบัติวีรชนของเขาทำให้เขามีความใกล้เคียงกับแอสซาซินเสียมากกว่า

          ในฐานะเบอร์เซิกเกอร์ ความคิดและสติของเขาจมอยู่ภายใต้ความบ้าคลั่ง ทำให้เขาขาดความสามารถในการพูดคุยและคิดวิเคราะห์ เขาไม่มีอะไรเลยนอกจากความหิวโหยในเลือดและความอยากฆ่า ความเกลียดชังจำนวนมากที่อยู่ภายใต้จิตใจของเขายังสามารถบ่งบอกได้ง่ายแม้ว่าเขาจะซ่อนตัวอยู่ก็ตาม เขาสามารถต่อสู้ได้ด้วยความสามารถอันเก่งกาจของเขา แลนเซล็อตยังคงจำกษัตริย์ของเขาได้อยู่ตลอดเวลา ทำให้เขามองเห็นเธอเป็นศัตรูและทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะได้สู้กับเธอ เขาจะตะโกนชื่อของเธอตลอดเวลาด้วยน้ำเสียงที่ไม่เหมือนมนุษย์

          แลนเซล็อตนั้นขึ้นชื่อเรื่องความซื่อสัตย์ที่มีต่อตัวของอาร์เธอเรียในฐานะคนที่เป็นเพื่อนกับเธอ เธอเชื่อใจว่า ถึงแม้กองทัพของเธอจะแตกแยกแต่ในหัวใจของพวกเขาก็ยังเป็นหนึ่งเดียวกัน เป็นสิ่งที่ถือเป็นหลักของเหล่าอัศวินและกษัตริย์ที่ควรยึดมั่นเอาไว้ อาร์เธอเรียตกใจที่เขาปรากฏตัวในคราบของเบอร์เซิกเกอร์ว่าทำไม อัศวินผู้ยึดมั่นในกฏเกณฑ์อย่างเขาถึงได้กลายเป็นสัตว์ประหลาดจอมบ้าคลั่งได้เช่นนี้

          ในอีกแง่หนึ่ง เขาก็เป็นเหยื่อของความถูกต้องของอาร์เธอเรียเหมือนกัน เธอชื่อว่าต้นตอของทั้งหมดมาจากการที่เธอปกปิดเพศของเธอ เขาโหยหาที่จะถูกลงโทษและเขาได้รับการให้อภัยจากคนที่เขาศรัทธามากที่สุด เหตุนี้เองทำให้เขาจึงเริ่มตกลงไปสู่ความบ้าคลั่ง ความผิดของเขาที่มีต่อเธอได้ทำให้เขาเปลี่ยนไป

ความสัมพันธ์กับเซอร์แวนท์ตนอื่น

อาร์เธอเรีย เพนดราก้อน (Artoria Pendragon)

          "อา.... เธอร์!!!!"

กาลาฮัด (Galahad)

          ".........????"

          แลนเซล็อตปรากฏตัวครั้งแรกในเฟท/ซีโร่ (Fate/Zero) เขาถูกอัญเชิญโดยมาโต้ คาริยะ (Matou Kariya) ในสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ครั้งที่ 4 เมื่อมาโต้ โซเคน (Matou Zouken) ได้ตัดสินใจว่าคาริยะขาดคุณสมบัติการเป็นนักเวท เขาจึงบังคับให้คาริยะอัญเชิญเบอร์เซิกเกอร์ออกมา ซึ่งแลนเซล็อตถูกเรียกว่า อัศวินดำ มาโดยตลอด เขายังปรากฏตัวในเฟท/แกรนด์ ออเดอร์ (Fate/Grand Order) ในบทออร์เลอ็อง : สงครามร้อยปีแห่งมังกรชั่วร้าย (Orleans: The Wicked Dragon Hundred Years' War) และซาโลม่อน : มหาวิหารแห่งกาลเวลา (Salomon : The Grand Time Temple) นอกจากนั้น ยังปรากฏตัวในเฟท/เอ๊กซ์เทลล่า ลิงก์ (Fate/Extella Link) อีกด้วย

ความสามารถเฉพาะคลาส

ความบ้าคลั่งขาดสติ (Mad Enhancement) C 

          เพิ่มสเตตัสทั้งหมดยกเว้น luck และ mana แลกกับการที่ไม่สามารถคิดและพูดได้อย่างถูกต้อง

ความสามารถเฉพาะตัว

ยอดนักสู้ตลอดกาล (Eternal Arms Mastership) A+ 

          มันคือความสามารถที่ทำให้ฝีมือการต่อสู้ไม่ลดลงเมื่อมีสภาพจิตใจไม่ปกติเช่น สับสน ตกใจ หรือ บ้าคลั่ง

ความต้านทานเวทมนตร์ (Magic Resistance) E (D) 

          ความเสียหายจากเวทย์มนต์ลดลง เพราะเขามีเครื่องประดับที่มีความสามารถเหมือนกับ Magic Resistance ระดับ D แต่ระดับของมันลดลงเพราะ Mad Enhancement

การปกป้องจากภูติ (Protection of the Fairies) A 

          มันจะเพิ่ม Luck ให้เขาหนึ่งระดับเมื่ออยู่ในสถานการณ์คับขัน จำกัดผลเฉพาะเมื่ออยู่ในการต่อสู้เท่านั้น

กระแสมานาไหลย้อน (Reverse Flow of Mana) A 

          ผลของความสามารถนี้ไม่แน่ชัด แต่อาจจะเป็นความสามารถในการดูดมานาจากมาสเตอร์ได้ตามต้องการโดยที่ไม่สนใจความต้องการของมาสเตอร์

สมบัติวีรชนที่ครอบครอง

"อาาาาาาา เธอออออออออร์!!!"

For Someone's Glory ฟอร์ ซัมวันส์ กลอรี่ : ไม่ใช่ความรุ่งโรจน์ของตนเอง  

ประเภท : ต่อต้านบุคคล

ระดับ : B

          มันคือหมอกสีดำที่ปกคลุมรอบตัวเขาทำให้ตัวตนของเขาไม่สามารถถูกเปิดเผยได้ แม้แต่มาสเตอร์ก็ไม่สามารถมองเห็นสเตตัสของเขาได้ แม้เขาจะถอดหมวกเกราะออก ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะจดจำหน้าของเขา 

          แต่ความสามารถที่แท้จริงของมันก็การทำให้แลนเซล็อตสามารถแปลงร่างเป็นใครก็ได้ ซึ่งทุกอย่างจะเหมือนกับตัวจริง แต่เนื่องจากอยู่ในคลาสเบอร์เซิกเกอร์ การจะใช้ความสามารถนี้จึงต้องใช้ตราประกาสิทธิ์ในการสั่ง และถึงจะเลียนแบบได้เหมือนขนาดไหน การที่เขาเป็นเบอร์เซิร์กเกอร์นั้นทำให้มีท่าทีที่บ้าคลั่งและไม่สามารถพูดได้ และคงสภาพร่างแปลงไว้ได้ไม่นาน

มันเกิดจากตำนานที่แลนเซล็อตปลอมตัวไปเข้าร่วมการประลองเพื่อเพื่อนของเขา

Knight of Owner ไนท์ ออฟ โอนเนอร์ : อัศวินจักไม่สิ้นชีพขณะที่มือเปล่า 

ประเภท : ต่อต้านบุคคล 

ระดับ : A++

          ความสามารถในการเปลี่ยนสิ่งของที่จับให้กลายเป็นสมบัติวีรชนของเขา ซึ่งสิ่งของนั้นๆจะมีระบบเท่ากับสมบัติวีรชนระดับ D โดยสิ่งของนั้นต้องสามารถใช้เป็นอาวุธได้โดยใช้ความคิดของเขาเป็นพื้นฐานความสามารถนี้ถึงทำงาน มันจึงไม่เกิดผลกับสิ่งที่เขาไม่คิดว่าเป็นอาวุธ

แม้แต่สมบัติวีรชนของวีรชนคนอื่นก็จะกลายเป็นของเขาถ้าถูกจับและระดับมันก็จะคงเดิม ไม่ได้ลดลงมาเหลือ D แม้แต่สิ่งที่เป็นเวท ถ้ามันถูกเขาจับได้ มันก็จะเปลี่ยนเป็นของเขาทันที

สิ่งที่เขาจับจะกลายเป็นสีดำเพราะถูกปกคลุมตัวพลังเวทของแลนเซลอทและแม้จะปล่อยมือจากสิ่งของที่เขาจับ มันก็ยังจะเป็นของเขาอยู่ในระยะเวลาหนึ่ง นั้นทำให้เขาสามารถใช้สิ่งของต่างๆ มาโจมตีได้ มันเกิดจากตำนานที่เขาใช้กิ่งไม้เอาชนะศัตรูได้

Arondright อารอนไดรท์ : แสงแห่งทะสาบที่ไม่มีวันจางหาย

ประเภท : ต่อต้านบุคคล 

ระดับ : A++

          มันคือสมบัติวีรชนที่แท้จริงของเขา เมื่อเขาชักมันออกมา ไนท์ ออฟ โอนเนอร์ และ ฟอร์ ซัมวันส์ กลอรี่ จะถูกผนึกไว้ มันมีสเตตัสทุกอย่างของเขาขึ้นหนึ่งระดับและเพิ่มโอกาสสำเร็จเมื่อต้องวัดดวงขึ้น 2 เท่า มันจะมีความสามารถในการสร้างความเสียหายเพิ่มเติมแก่ศัตรูที่มีคุณสมบัติมังกร เช่น อาเธอร์เรียหรือซิกฟรีด

-------------------------------------------------------------------------

Facebook Fanpage : Kokowa ฉันแค่อยากแปล

https://www.facebook.com/KokowaTrans/

-------------------------------------------------------------------------

----------------------------------------------------------------------------------------------------------

ต่อกันยาวๆนะครับ กับประวัติของวีรชนท่านนี้ แลนเซล็อต ถ้าข้อมูลน้อยไปหรือผิดพลาดก็ขออภัย ณ ที่นี้ด้วยครับ เอาเป็นว่าใครที่ชอบก็อย่าลืมกดไลค์แฟนเพจ กดหัวใจ กดเรท กดแชร์ให้กับเรื่องนี้ต่อไปด้วยนะครับ