คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ทรยศ 8
Song::: DAVICHI (다비치) - BE WARMED (녹는 중) (FEAT. VERBAL JINT)끝난 줄 알았어 คืทนึน จุล อัลรัซซอ ฉันคิดว่ามันจบลงแล้ว 친구들 이말해줬던 이별 의공식 그대로라서 ชินกูดึล อีมัลแฮจวอตอน อีบยอล แรกงชิค คือดัลรอลาซอ เพราะว่าเพื่อนของฉันคอยพร่ำบอกว่านี่คือรูปแบบของการเลิกรา 전활 꺼놨어 จอนฮวัล กอนวัซซอ ฉันปิดโทรศัพท์มือถือ 이대로 몇일만 버티면 난 너같은거 잊을 줄 알았어 อีแดโร มอนชีมัน บอจีมอน นัน นอกัททึนกอ อิทจุล อัลรัซซอ ด้วยความคิดที่ว่าหากผ่านไปสักวันสองวัน ตัวฉันก็คงลืมเลือนคุณไปได้เอง
นับวันมันยิ่งเลยเถิดกับความสัมพันธ์ของผมและเซโล่ ผมจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าผมเปลี่ยนสรรพนามเรียกมันตั้งแต่เมื่อไหร่ และไม่รู้ว่าสิ่งที่ผมทำไปมันมีความหมายอะไร ผมไม่รู้ว่าเด็กนี่มันรักผมบ้างรึเปล่า ผมไม่รู้..ไม่รู้อะไรเลย
ผมอยากเป็นเหมือนคนที่พึ่งเกิดมาใหม่ๆเมื่อสามนาทีก่อน ไม่รู้ว่าตัวเองชื่ออะไรเกิดมาทำไมเพื่ออะไรและใครที่ผมควรจะทำดีด้วย ไม่รับรู้อะไรสักอย่าง เหอะ ก็อยากให้เป็นแบบนั้นอะนะเสียอย่างเดียวที่ผมเกิดมาแล้วยี่สิบปี และนั่นก็ไม่ใช่ประเดน
ประเดนอยู่ที่ผมขับรถมาที่มหาลัยเรียบร้อยแล้ว ซึ่ง...ไอ่เด็กนั่นก็ขับรถไปโรงเรียนแล้วเหมือนกัน เช้ามาเราก็ไม่พูดอะไรกันเหมือนมีบางอย่างอยู่ในใจที่ต้องทำ
ใช่ ผมมีบางอย่างที่ต้องทำและเด็กนั่นก็เหมือนมีบางอย่างที่ต้องทำ อะไรหรอ เอ่อ ผมก็ไม่รู้และไม่อยากรู้ ผมว่าการไม่รับรู้บางอยางมันก็ดีกว่านะ
เพราะฉะนั้นอะไรที่ผมไม่รู้ผมก็ต้องการไม่รู้ต่อไป อยากได้มีอารมณ์พิศวาสมาบอกกันเลย ไม่ต้องการอย่างแรง เมื่อวานก่อนมันทำให้ผมสติหลุดลอยนอกจากพูดไม่คิดแล้วยังคิดไปเรื่อยอีก คิดละแม่งอยากย้อนเวลาไปตบปากตัวเอง พอบรรยากาศมันเงียบมันก็ทำให้ผมฟุ้งซ่านอย่างเช่นตอนนี้
ผมกำลังสร้างหลักฐานที่อยูว่าผมน่ะมามหา’ลัยแล้ว ไม่ได้โดดเรียนไปอยู่ที่อื่น แบบที่พวกเด็กทีไม่รู้จักบุญคุณพ่อแม่ที่ท่านอุส่ามาส่งก็ทำเป็นเข้าโรงเรียนพอท่านไปก็ออกนอนโรงเรียนไปเที่ยวเตร่
ผมน่ะมีระดับมากกว่านั้น ผมจอดรถไว้ที่ลานจอดรถและเดินขึ้นตึกไปอย่างปกติ ใช่ปกติ ถ้ามันจะไปปกติตรงที่ผมเจอใครบางคนนั่นแหละ
“อั้ยยะ ! จองแดฮยอนมาเรียน ฝนต้องตกเป็นไข่เยี่ยวม้าแน่ๆเลย”เสียงแหบๆที่ฟังแล้วดูมีเสน่ห์ของรุ่นพี่คนหนึ่งที่ผมรู้จักแซวขึ้น
ผมกรอกตาอย่างเซ็งๆก่อนจะหันไปโค้งหัวน้อยๆให้ ผมมองร่างที่เกือบบางเดินล้วงกระเป๋ากางเกงมากอดคอผม ดูจากสภาพแล้วคงสบายดี
“สวัสดีครับ พี่ฮิมชาน ไม่ได้เจอกันนาน” ผมทักทายตามภาษาคนไม่ได้เจอกันนานอย่างที่ว่านั่นแหละ
“อ่าฮะ นายไม่เจอพี่หรือพี่ไม่เจอนายล่ะเนี่ย ได้ข่าวว่าไปท่าเรือมาหรอ” คำถามนี้ทำให้ผมถึงกับหยุดชะงักไปพักหนึ่ง ก็พึ่งคิดถึงมันเมื่อกี้นี้เองทำไมมันย้อนมาเร็วจังวะ
“ก็นิดหน่อยครับ”ผมกลั้นใจตอบไปก่อนจะเดินต่อ พี่ฮิมชานเหล่มองผมก่อนจะทอดสายตาไกลออกไป เหมือนพี่เค้าจะไม่สงสัยมากนะ”พี่ล่ะ เหมือนเดิมรึเปล่า”
“ฮ่ะๆ ก็ยังเหมือนเดิม พี่ยังรอนายอยู่นะใช้โอกาสที่มีให้เป็นประโยชน์หน่อยสิ” รอยยิ้มกว้างจนตาหยี๋นั้นทำให้ผมรู้สึกแสบตาไปหมด แม่งจะสดใสอะไรนักหนา
“พี่รีบงั้นหรอครับ”
“แล้วแต่ยองแจอะสิ เจอกันแล้วหนิ”
ผมนิ่งเงียบไป พี่ฮิมชานมองผมก่อนจะเอ่ยบางอย่างที่ทำให้ผมอยากหายไปจากโลกนี้
”ยองแจไม่เคยปล่อยนายไป นายก็รู้จะทำปิดหูปิดตาไปถึงเมื่อไหร่ล่ะ หลอกตัวเองมีความสุขมากหรอแดฮยอน พี่ไม่รู้ว่าทะเลาะอะไรกันนะแต่พี่ไม่ต้องการให้เราหลอกตัวเอง”
“...ผมตัดใจไปแล้ว เราจบกันไปแล้ว ตอนนี้ที่ผมทำอยู่ผมทำเพื่อพี่นะ”
“งั้นหรอ..พี่ขอโทษแค่อยากให้นายรับรู้อะไรบ้าง”
“ครับ ผมรู้ ...รู้ตั้งแต่เมื่อวันนั้นแล้ว”ผมหลบตาต่ำ เมื่อต้องพูดสิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกแปลกใจจนไม่เป็นทำอะไรเมื่อวานนี้
“นายเห็นพี่ที่ท่าเรือ?”พี่ฮิมชานถามด้วยน้ำเสียงประหลาดใจก่อนจะปล่อยแขนออกจากคอผม
“ไม่ใช่..ผมเห็นคนของพ่อที่ให้มาดูแลผมเค้าอยู่ฝั่งเดียวกับยองแจ”ผมเงยหน้ามองพี่ฮิมชานดูเหมือนจะอึ้งเหมือนกัน”ทั้งพ่อและยองแจต่างจับตาดูผมมาตลอด..ผมตัดขาดจากยองแจแล้วแต่ไม่รู้ว่าพ่อจะใช้คนของยองแจ”
(하지만 내 안의 내가)
“ยินดีต้อนรับ”
คำทักทายเหมือนกับว่าการมาเยือนของผมนั้นช่างน่าปิติยินดียิ่งกว่ารู้ว่าหลินปิงได้อยู่ที่ไทยต่อ แต่เสียใจที่ผมไม่ได้รู้สึกยินดีเท่าไหร่กับการที่ต้องมาอยู่ในที่เดิมๆที่ผมเคยอยู่
“ไม่ดีใจหน่อยหรอ ที่ได้กลับมาหาฉัน” เสียงที่ผมได้ยินแล้วอยากจะเอาสำลีอุดหูไว้เพราะไม่ต้องการได้ยินยังคงพุ่งทิ่มแทงหัวใจของผมต่อไป
“ฉันแค่เอาของมาให้” ผมตอบกลับเสียงเรียบก่อนจะวางกระดาษที่บ่งบอกลัษณะของมือขวาไว้บนโต๊ะ
“ฉันคิดถึงนายนะแดฮยอน”
ผมยังคงทำตัวปกติและแถมด้วยการทำหูทวนลมไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับคำพูดเมื่อกี้ แววตาของผมแข็งกร้าวและพยายามไม่แสดงความรู้สึกมาก ให้มันเหมือนด้านชา...
“ไม่คิดว่าเลิกกับฉันแล้วจะกลายเป็นเมียคนอื่น”
“พูดแบบนี้หมายความว่าไง” ผมชักจะมีน้ำโห คนอุส่าเก็บความรู้สึกมาได้ตั้งนาน แววตาของผมยังไม่เปลี่ยนแปลง จ้องมองไปยังคนพูดที่มีสายตาว่างเปล่าเหมือนกับผมแต่มันกลับสั่นสะท้านเหมือนกำลังกลัว..กลัวในสิ่งที่กำลังจะพูด
“ฉันเป็นเมียนายแต่นายกลับไปเป็นเมียคนอื่น ฉันจะดีใจหรือเสียใจดีล่ะ”
“กูไม่ได้เป็นเมียใคร จำใส่หัวซะยูยองแจ!”ผมตะโกนใส่หน้าของยองแจที่เอาแต่ยิ้มเยาะผมในตอนนี้ หลอกลวงและเสเสร้งสิ้นดี
“งั้นหรอ ฉันไม่ได้โง่ขนาดนั้นนะแดฮยอน”
“เอ่อ กูก็ไม่ได้โง่เหมือนกัน” ผมตอบกลับไป เบือนหน้าหนีไปอีกทางเพื่อปรับอารมณ์อยากฆ่าคนให้เป็นปกติ”ไม่มีอะไรแล้วใช่มั้ย”
ผมหมุนตัวเตรียมจะเดินออกจากห้องโสโครกนี้ ไม่อยากอยู่หายใจในนี้นานหรอก แต่ยองแจกลับคว้าแขนของผมเอาไว้
“รอก่อนสิ ฉันต้องให้คนตรวจสอบแล้วก็หาเหยื่อล่อ”
“จะให้กูเป็นเหยื่อล่อรึไง” ผมหันหน้าไปถาม และแค่นหัวเราะออกมา ยองแจยังคงจับแขนผมไว้และบีบเบาๆเหมือนไม่ต้องการปล่อยผมไป
“เปล่า...แค่อยากอยู่กับนาย”
ผมมองยองแจที่น้ำตาเริ่มคลอออกมาแล้วก็ต้องถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ และทำในสิ่งที่ผมรู้สึกเกลียดตัวเองเอามากๆ
“อือ”
ผมตอบตกลง ยองแจยิ้มออกมาก่อนจะพาผมไปนั่งลงที่โซฟา ที่นี่คือห้องในคอนโดของยองแจ แน่นอนว่าผมเคยอยู่ที่นี่กับยองแจมาก่อน
ผมมองร่างบางที่เมื่อก่อนมันอวบนุ่มนิ่มน่ากอดแต่ตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว คงเพราะเสียใจไม่ต่างจากผมเดินไปโทรศัพท์ด้านนอกห้อง ผมเดาว่ายองแจคงเสียใจมากก็เลยกินไม่ได้นอนไม่หลับจนผอมขนาดนี้ ผมว่าเราทั้งคู่อาจจะมีบางอย่างที่เหมือนและแตกต่างกันเกินไปที่จะอยู่ร่วมกัน
มาถึงตอนนี้ผมก็อยากนึกถึงเรื่องราวเก่าๆของผมกับยองแจที่ผมปิดผนึกมันมานาน เปลือกตาที่หนักอึ้งของผมปิดลงช้าๆ เมื่อผมหลับตาลงเรื่องราวต่างๆก็เริ่มฉายขึ้นมาเหมือนกำลังดูหนังเรื่องหนึ่งเลยล่ะ แต่มันไม่ค่อยสนุกเท่านั้นเอง...
거짓말처럼 차갑게 얼었던 나의맘
เมื่อ 2 ปีก่อน
“แดฮยอน นี่ยองแจลูกชายของเพื่อนพ่อ รู้จักกันไว้นะ”
ผมมองผู้ชายที่ยืนตรงข้ามผมด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ซึ่งไม่ต่างกับผมที่มีใบหน้ายิ้มแย้มแต่กลับดูจืดจางไปเมื่อคนตรงหน้ายิ้มกว้างขึ้น
“สวัสดีนะยองแจ” ผมเอ่ยทักทาย ก่อนหน้านี้พ่อบอกว่าอายุเราก็ไล่เลี่ยกันไม่ต้องนับเป็นพี่เป็นน้องก็ได้ ซึ่งผมก็เป็นคนไม่ค่อยชอบนับพี่นับน้องกับใครเท่าไหร่ ยิ่งถ้าสนิทกันมากถึงอายุต่างกันสักสิบปีผมก็ไม่อยากเรียกพี่
“สวัสดีแดฮยอน ดีใจจังที่ได้เป็นเพื่อนกับนาย”
หลังจากที่เราเริ่มพูดคุยผมก็รู้ว่าเค้าพูดมากพอๆกับผมเลยหล่ะ แถมยองแจยังร้องเพลงเพราะเหมือนผมด้วย และผมก็ชอบให้เค้าร้องเพลงให้ผมฟัง
นานวันเข้าผมก็รู้สึกว่าเรามีความรู้สึกดีๆให้แก่กัน สิ่งนั้นคงเรียกว่าความรัก ใช่ ผมเริ่มรักยองแจรักในสิ่งที่ยองแจเป็นถึงยองแจจะไม่ได้สวยเหมือนใครไม่ได้หุ่นดีหรือสิ่งอื่นๆที่เพียบพร้อม แต่ผมรักยองแจที่เป็นยองแจคนที่ซื่อสัตย์และจริงใจกับผม
วันหนึ่งเราก็พลาดมีอะไรกัน แน่นอนว่าผมเป็นฝ่ายเริ่มแต่ยองแจก็ไม่ได้ขัดขืนอะไรเพราะเค้ารักผมและผมก็รักเค้า เรามีอะไรกันโดยไม่ได้ฝืนใจทำมัน
ผมไม่ใช่พวกชอบใช้ความรุนแรง แต่ยองแจเป็นแบบนั้นเค้าดูมีความสุขเมื่อเห็นผมทรมาณก็ผมเป็นมาโซคิสหนิแตยองแจออกจะซาดิส ของเล่นต่างๆยองแจซื้อมาทั้งนั้น ตอนแรกผมก็ตกใจและหลังๆมาผมก็ยอมรับได้และปล่อยให้ยองแจทำตามที่ต้องการ
แน่นอนว่าเรารักกันโดยที่ผู้ใหญ่ไม่รู้ พ่อของยองแจเปิดโรงเรียนฝึกบอดี้การ์ด ซึ่งพ่อผมก็ได้คนของโรงเรียนนั้นมาเป็นบอดี้การ์ดให้ตัวพ่อและตัวผมเอง รวมถึงทุกคนในบ้าน ผมไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ายองแจแอบจ้างบอดี้การ์ดมาคนหนึ่งให้ติดตามดูแลชีวิตของผม ถึงผมรู้ก็แกล้งทำเป็นไม่รู้
เมื่อ 1 ก่อน
ผมกับยองแจเรารักกันดี จนมาถึงวันที่เค้าบอกว่าเค้าเป็นหัวหน้ากลุ่มลีนิน และผมก็ตัดสินใจบอกเค้าเหมือนกันว่าผมอยู่ฟีนิกส์ ยองแจเจรจาตกลงของสัมพันธมิตรกัน ซึ่งฟีนิกส์ก็ตกลงเพราะลีนินเป็นกำลังสำคัญให้ฟีนิกส์ได้ จะเห็นได้ว่าลีนินเก่งเรื่องการต่อรอง ซึ่งถ้ามีไว้การติดต่อค้าขายก็จะเป็นเรื่องง่าย
ผมบอกยองแจว่าผมไม่ค่อยใส่ใจเรื่องกลุ่มนี้มากนักและยองแจก็รับได้อยู่แล้วถ้าผมจะเป็นคนเลว ยองแจไม่ถามผมสักครั้งว่าไปทำอะไรมาให้เจ็บตัว นั่นคงเป็นเพราะเค้ารู้อยู่แล้วไม่ว่าผมจะซมซานกลับมาแค่ไหนเค้าก็จะคอยอยู่ข้างๆผม
วันที่เรารู้ว่าใครอยู่กลุ่มไหนและเป็นอย่างไรมันก็รู้ได้แค่นั้น เพราะถึงทั้งสองฝ่ายจะจับมือกันก็ใช่ว่าจะบอกจุดอ่อนจุดแข็งให้อีกฝ่ายรับรู้ เรื่องนี้ไม่เป็นปัญหามากนัก
“แกมีอะไรกับยองแจแล้วใช่มั้ย”
ผมรู้สึกเหมือนโดนน้ำร้อนๆสาดเข้าหน้าเมื่อจู่ๆพ่อก็ถามขึ้นมาขณะที่ผมออกมาตีกลอฟกับท่าน ผมนิ่งเงียบไปสักพักก่อนจะตอบออกไป
“ครับ ผมมีอะไรกับยองแจแล้วเค้าเป็นเมียผม”
“เลิกกันซะ ตอนนี้พ่อของยองแจกำลังมีปัญหา” พ่อพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด
“พ่อเป็นเพื่อนกับคุณอาไม่ใช่หรอครับ”
“ก็ใช่.. แต่ฉันจำเป็นไม่งั้นเราจะพลอยซวยไปด้วยนะแดฮยอน” พ่อหันมาจับไหล่ของผมเอาไว้แน่น ดวงตาของพอสั่นไหวด้วยความกลัว”มันกำลังค้ายา มันผิดกฎหมายแกก็รู้แดฮยอนและมันกำลังจะโดนจับและถ้าตำรวจรู้เราไม่เหลือแน่ ฉะนั้นเลิกกันซะ”
จากวันนั้นผมก็ทำใจอยู่นาน ตั้งใจหลบหน้ายองแจเป็นอาทิตย์เชียวหล่ะ ก็รักกันมาเป็นปีจู่ๆจะให้เลิกกันมันตัดใจยากนะ และผมก็ตัดสินใจขับรถไปหายองแจที่คอนโดและบอกเลิกซะ ยองแจร้องไห้หนักมากและต้องการรู้ว่าทำไมผมถึงต้องเลิก ทั้งๆที่ยองแจก็รู้อยู่แก่ใจแล้ว ผมก็ได้แต่ขอโทษซ้ำแล้วซ้ำเล่า
จากนั้นไม่นาน พ่อของยองแจก็ถูกจับ ท่านยอมให้ตำรวจจับท่านเพียงคนเดียวและให้ปล่อยพวกเด็กในโรงเรียนที่ท่านเปิดสอนไปเพราะพวกนั้นไมรู้เรื่อง ยองแจต้องรับภาระที่หนักขึ้นจากที่ต้องดูแลกลุ่มลีนินแล้วยังต้องคอยบริหารไม่ให้โรงเรียนนั้นล่มจม แม่ของยองแจก็พยายามช่วยเหลือเต็มที่แต่เธอก็ดันมาป่วยลาโลกนี้ไปก่อน
ผมเฝ้ามองยองแจตลอด เวลาที่ผมเห็นเค้าร้องไห้ผมก็อยากจะเข้าไปปลอบเข้าไปกอดเค้าให้รู้วาผมยังอยูข้างเค้า แต่พ่อของผมสั่งห้ามไม่ให้ผมยุ่งเกี่ยวเด็ดขาด ผมก็ต้องทำผมแค่อยากให้พ่อรักผมและเห็นค่าในตัวผมบ้างเพราะระหว่างคบกับยองแจผมก็เป็นนักเลงหัวไม้ และเพื่อจะให้ยองแจไม่ต้องมาคอยเป็นห่วงผม แต่พอเลิกกันผมก็เลิกเรื่องชกต่อยและทำตัวเป็นคนดีขึ้นมาบ้าง หลังจากที่พ่อไม่ค่อยรักผมเท่าไหร่ก็กลับกลายมาเป็นรักและวางใจผมมากขึ้น ผมก็รู้สึกดีใจไม่น้อย
ความสุขของผมมีอยู่เพียงน้อยนิด ในใจของผมกำลังพยายามลืมยองแจมันทั้งเจ็บปวดและทรมาณแต่ก็ได้ความรักของพ่อมาช่วยทำให้ผมตัดใจได้เร็วขึ้น แต่ใช่ว่าผมจะลืมทั้งหมด จนมาถึงวันหนึ่งวันที่พ่อพาผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาในบ้านเธอมีลูกชายเข้ามาด้วย
นั่นแหละวันที่ผมดีแตกกลับกลายเป็นคนเลวเหมือนเดิม ลืมทุกสิ่งที่เคยทำมาลืม ลืมไปทั้งหมดว่าความสุขมันเป็นยังไง ผมกลับไปมีเรื่องชกต่อยบ้างเที่ยวกลางคืนเมาเป็นหมาหรือแม้เรื่องเที่ยวผู้หญิงผมก็ทำ
แต่แล้ววันหนึ่งผมก็เห็นแม่ร้องไห้ ผมอยากจะเข้าไปต่อยหน้าผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพ่อของผมเสียจริงๆ แม่ขอร้องให้ผมทำตัวดีๆเพื่อท่านแน่นอนว่าผมก็ยอมทำ แต่แค่เลิกชกต่อยเลิกเที่ยวหญิงแต่ก็ยังเที่ยวกลางคืนเหมือนเดิมแต่ที่ดีหน่อยคือผมไปเป็นนักร้องอยู่ในผับแห่งหนึ่งซึ่งผมไปประจำ เพราะฉะนั้นก็ได้ทั้งเที่ยวทั้งดื่มและได้เงินอีก เรื่องนี้พ่อผมไม่รู้ท่านรู้แค่ว่าผมมันเลว !
เด็กที่เป็นลูกติดของเมียน้อยพ่อชื่อ ชเว จุนฮง พ่อของมันตายไปแล้วแต่ทิ้งธุรกิจร้านขายเสื้อผ้าให้แม่มันดูแลและแม่มันก็เสือกอยากได้คนมาช่วยมันดูแล และที่ซวยก็คงเป็นพ่อผมที่ตกหลุมพรางของยัยนั่น ธุรกิจของมันก็ขึ้นๆลงๆไม่ตามน้ำผมก็ไม่ได้จะเสือกอะไรมาก รู้ไปก็รกสมองเปล่าๆ
แต่ที่พ่อโอ๋ลูกคนใหม่มากๆก็เพราะเวลาไปออกงานก็มักจะมีคนถูกออกถูกใจ ในหน้าตาและบุคลิคของจุนฮง เลยไม่คนสนใจธุรกิจของพ่อและของเมียน้อยพ่อมากขึ้น ต่างจากผมที่ไปไหนก็มีแต่คนรังเกียจเพราะไปก่อวีรกรรมไว้เยอะ พ่อเลยไม่ค่อยให้ผมออกงาน
แต่แม่กลับพาผมออกงานกับท่านที่มีแต่พวกคุณหญิงคุณนายและพวกคุณหญิงทั้งหลายก็จะพาลูกสาวของเธอมาอวดด้วย แต่หารู้ไม่พวกลูกคุณหนูรู้จักผมในนามนักร้องสุดหล่อของผับแห่งหนึ่ง มันก็เลยทำให้ผมดูมีหน้ามีตาในหมู่คุณหญิงคุณนายมากกว่าพวกลุงทั้งหลาย ซึ่งผมก็ทำให้ลูกสาวแสนสวยของคุณหญิงมาแวะเวียนทำธุรกิจกับบริษัทของพ่อบ้าง เช่นฝึกเป็นเลขาเป็นพนักงานนั่นนู่นนี่เพื่อจะได้เจอผม แต่เสียใจด้วยที่ผมไม่เข้าบริษัทอ่ะนะ ทำให้มีรายได้ขึ้นสิบเปอร์เซนต์เลย อันนี้พ่อผมก็ไม่รู้เหมือนกัน
มันทำให้ผมรักแม่ของผมมากๆและเกลียดสองแม่ลูกนั่นมากเช่นกัน
사르륵 사르륵
ผมยังคงเรียนไปเรื่อยๆและสอบเข้ามหาลัยดังๆได้ แม่ของผมดีใจมากผมยังจำช่วงเวลาที่ผมกับแม่เดินเที่ยวที่เมียงดงได้ มันมีความสุขมากเลย ถึงจะไม่มีพ่อที่เอาแต่ขลุกอยู่กับเมียใหม่ แต่ผมก็มีความสุข
ผมใช้ชีวิตไปเรื่อยๆและมีคนพูดว่าเซโล่เป็นหนึ่งในสมาชิกวูฟ ซึ่งตอนนั้นผมก็ยังไม่รู้ว่าเป็นจุนฮง คงใช้ชื่อเซโลเป็นชื่อในวงการ ผมรู้ขณะทำงานอยู่ในผับและก็เจอกับมันเข้า เราทำเหมือนไม่รู้จักกันและก่อนกลับผมก็เรียกมันมาคุยหลังร้าน
“อย่าเอาเรื่องที่กูทำงานอยู่ที่นี่ไปบอกพ่อนะ”
“ครับ”
“ห้ามบอกใครเด็ดขาด”
“ผมไม่บอกหรอก แต่พี่จะกลัวทำไมในเมื่อพี่ทำงาน..”
“ไม่รู้อย่ามาพูด”
“ผมก็เห็นพี่ทำงานหนิ ไม่ได้เลวร้ายอะไรแถมได้เงินด้วย”
“พูดแบบนี้จะเอาไปบอกพ่อรึไง”
“ก็พี่พึ่งบอกผมว่าอย่าไปบอก”
“เวร...อย่าไปบอก ถ้ากูจับได้มึงตาย”
ผมอยากจะบอกทุกคนว่าเมื่อมี ชเว จุนฮงเข้ามาในชีวิตผม ผมกลับลืมใครบางคนไป ผมลืมคนที่ผมรักมากที่สุด คนที่ในชีวิตนี้ผมไม่คิดว่าจะลืมได้ ผมลืม ยู ยองแจ..
Talk ::
เรื่องนี้เนื้อหาค่อนข้างเยอะ ค่อยๆอ่านกันนะ
ไม่ทันแล้วมั้งอ่านจบละ ตอนนี้ก็เชื่อมในหลายๆตอนเลย
ใครอ่านตอนสี่ทันจะได้เปรียบและรู้เรื่อง เอ่อ ตอนเจ็ดด้วยต้องอ่านตอนสี่
น่าเสียดายที่มันถูกแบนไปแล้ว T^T
ตอนนี้ไม่ค่อยถนัดเพราะเรื่องเยอะ และก็ซับซ้อน(?)
บอกตรงๆถนัดแต่งเอ็นซี ๕๕๕๕๕๕
ตอนนี้ทำหลายๆคนตกใจรึเปล่า แด้เป็นทั้งเคะและเมะ
อิฉันก็อยากร้องไห้ค่ะ ยองแจก็นะ ตกใจไม่แพ้กัน
ตอนหน้าก็มีเรื่องให้ตกใจอีกค่ะ มันดูเป็นรักสามเศร้าเลยอะ
ว่าจะไม่ดราม่า แต่เอาเถอะ ขอบคุณที่ตามอ่าน
ไม่เข้าใจถามได้นะคะถ้าไม่เป็นการสปอยจะตอบ
ทวิตเตอร์ร์ร์ร์ @noonatzu
เวิ่นเว้อสกรีมเกี่ยวกับฟิค แท็กนี้นะคะ #ฟิคทรยศ |
CRY .q
ความคิดเห็น