ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC B.A.P] ทรยศ ; โล่แด [2]

    ลำดับตอนที่ #9 : ทรยศ 11

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 443
      1
      14 ต.ค. 56

     

     ผมเป็นเพียงเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น อารมณ์ของผมนั้นแปรปรวนได้ง่ายถึงผมพยายามจะควบคุมมันก็ตามและผมยังสติหลุดได้บ่อยๆ แม่บอกว่าผมเป็นคนใจเย็นแต่ผมคิดว่าใจผมไม่เย็นอย่างที่แม่พูดสักเท่าไหร่

    ผมคิดว่าการที่ผมโมโหและฟิวส์ขาดเหตุการณ์แบบนี้มันเกิดขึ้นไม่บ่อยนักเพราะชีวิตของผมก็ไม่ได้เครียดอะไรมาก และถ้าไม่มีอะไรไปกระตุ้นผมผมก็จะไม่อาระวาดผมคิดว่าผมคุมตัวเองได้ ใช่ผมคิดว่าผมทำได้ดีเชียวล่ะ

    ผมจอดรถไว้ที่หน้าบ้านพอเดินเข้ามาก็ไม่เห็นรถของพี่แดฮยอนผมรู้สึกหงุดหงิดเล็กๆแต่ก็ไม่ได้อะไรกับเรื่องนี้มาก ผมเดินเอาถุงเค้กไปใส่ไว้ในตู้เย็น ครับ..ผมใส่มันทั้งถุงนี่แหละ -_-;

     

    เหมียว~

     

    ผมปิดประตูตู้เย็นแล้วนั่งยองๆมองแมวน้อยที่ผมซื้อให้พี่แดฮยอน มันโตขึ้นรึเปล่านะ ผมยื่นมือไปสัมผัสหัวของมันเบาๆและมันก็คอเคลียกับมือผมอย่างน่ารักน่าเอ็นดู ผมเลยอุ้มมันขึ้นมาและพาไปยังพื้นพรมหน้าโซฟาห้องรับแขก

    ทิ้งตัวลงนั่งขัดสมาธิและวางแมวน้อยให้นอนงาย ดูขาเล็กๆของมันพยายามตะเกียดตะกายไปมาบนอากาศแล้วก็ต้องหลุดหัวเราะออกมา

    ความจริงแล้วผมเป็นคนที่ร่าเริงมากๆเลยทีเดียว แต่พอผมอยู่กับพี่แดฮยอนก็ต้องตีหน้านิ่งไม่ยิ้มแย้มอะไรสักเท่าไหร่ มันก็เหมือนเวลาคุณต้องการให้ใครสักคนเคารพและยอมเชื่อฟังคุณนั่นแหละ ถ้าคุณไม่ตีหน้าโหดใครที่ไหนจะยอมเชื่อฟังคุณ ผมก็เลยต้องโหดต้องเย็นชา ทั้งๆที่ผมไม่ได้เป็นแบบนั้น

     

    ผมน่ารักใช่ม้า ~

     

    เรื่องนี้พ่อผมสอนเองแหละว่าให้รู้จักสร้างภาพขึ้นมาบ้าง ไม่ใช่ว่ามีอารมณ์เดียว บุคลิกเดียว พ่อบอกว่ามันน่าเบื่อ นั่นก็จริงแหละครับ ความน่ารักของผมทำให้ผมถูกหลอกบ่อยๆ อย่างเช่นวันที่ผมจับกบมาแล้วเอาไปให้พ่อดู พ่อบอกว่าถ้าผมจูบมันมันจะกลายร่างแหละ

     

    ครับ ...ผมทำมัน

     

    คิดแล้วอยากจะล้วงคออ้วก ผมมันซื่อจริงๆตอนนี้พ่อไม่อยู่แล้ว ผมก็ไม่อยากคิดอะไรมาก เรื่องมันผ่านไปแล้ว พ่อผมไปดีแล้ว แม่บอกให้ผมทำใจยอมรับความจริงผมคิดว่าเรื่องนี้ผมอาจจะพอทำได้ง่ายๆไม่กี่เดือนก็หาย แต่แม่อาจจะทำใจยาก แต่เปล่าเลยแม่ทำใจได้เร็วกว่าผมเสียอีก

    คิดว่ามันแปลกๆมั้ยล่ะ แต่ผมก็เลือกที่จะเงียบ ผมไม่รู้ว่าพ่อไปอยู่ไหนไม่รู้อะไรเลย แม่ไม่เคยพูดเรื่องนี้กับผมสักครั้งตั้งแต่ตอนที่แม่บอกว่าพ่อเค้าไม่อยู่แล้วนะ อ่า ..นั่นแหละ รายละเอียดไม่มี ไม่มีประโยคขยายความเลยสักประโยค

     

    ผมรู้สึกเสียใจอยู่นะที่เป็นตัวปัญหาที่ทำให้พี่แดฮยอนเป็นเด็กมีปัญหา จริงๆแล้วพี่แดฮยอนไม่มีปัญหาหรอก พี่เค้าวิ่งเข้าใส่ปัญหาต่างหาก

     

    ผมปล่อยแมวน้อยให้นอนอยู่บนพรมแล้วลุกขึ้นเดินไปหยิบหนังสือทั้งหลายพร้อมกับปากกาเน้นคำ ผมพร้อมมากที่จะอ่านหนังสือ คือผมจะอ่านไปพอให้สอบผ่านเท่านั้นแหละครับ ผมไม่ค่อยจะหวังเกรดเยอะอะไรแบบนี้หรอกครับ บางวิชาผมว่าไม่ควรเอามาสอนด้วยซ้ำนะครับ

     

    ผมโกยกองหนังสือไปวางไว้ตรงปลายเตียงแล้วหยิบผ้าเช็ดตัวอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ โดยไม่ได้สนใจเสียงโทรศัพท์ที่นอนสั่นอยู่บนเตียงเลย

     

     

    End Zelo part

     

     

     

     

    ผมกำลังขับรถออกจากคอนโดของยองแจ ผมคิดว่าน่าจะกลับบ้านดีกว่า ผมอยากนอนพักมากเลยตอนนี้ เรื่องของพี่ฮิมชานทำเอาผมอยากกระโดดน้ำตายให้ปลายฉลามกิน

     

    Rrrrrr

     

    พูดถึงแมวแมวก็มา แหม.. ผมล้วงโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดรับสาย

     

    ว่าไงครับ

     

    (ตอนนี้ว่างปะ มีนัดที่ไหนรึยัง)

     

    พี่ฮิมชานรัวคำถามใส่ผม ทำเอาผมหัวเราะออกมา ว่างครับ พี่มีไรรึป่าวผมเลี้ยวเข้าจอดที่ข้างทางเผื่อจะต้องเปลี่ยนเส้นทาง จะได้ไม่เสียเวลา

     

    (วันนี้ที่สนามมีแข่งแหละ มาดูมั้ยงานนี้มีของเพียบ)

     

    อืม กี่ทุ่มครับผมถามพลางยกโทรศัพท์ออกจากหูมาดูเวลา ตอนนี้ห้าโมงแล้ว ผมอยากไป

    (อุ่นเครื่องสามทุ่มแหละ สนามที่เดิมเลย)

     

    ได้เลยครับ แล้วเจอกันครับผมวางสายแล้วออกรถขับตรงไปยังบ้านของผม มีเวลาอีกตั้งเยอะ ผมควรจะหาอะไรกินมั้ยนะ..?

     

     

    ผมจอดรถไว้ที่หน้าบ้านแล้วเดินลั้นลาเข้ามาในบ้าน วันนี้รถไม่ติดแหละ ผมโคตรจะมีความสุข

    ผมเดินผ่านห้องนั่งเล่นและกำลังจะตรงไปยังห้องครัวก็เกือบจะฆาตรกรรมแมวซะแล้ว

    อาจู จูเลีย จูลี่ อยู่บ้านเหงาปะ เราไปหาอะไรกินกันผมอุ้มแมวน้อยขึ้นมาแล้วตรงไปยังห้องครัวทันที นี่ก็ไม่รู้ว่าแม่บ้านลีจินไปอยู่ที่ไหน ผมไม่อยากรบกวนแกมากหรอกนะ ผมวางแมวน้อยไว้บนโต๊ะกินข้าวแล้วเปิดตู้เย็นออกดูว่ามีอะไรกินบ้าง

     

    และผมก็ต้องตาโตกับกล่องใบหนึ่ง ซึ่งสัญชาตญาณบอกว่ามันคือกล่องเค้ก ! อยากกรี๊ดจัง แบบว่าดีใจง่ะ เค้กของใครหว่า เสร็จจองแดฮยอนล่ะ

     

    ผมค่อยๆหยิบมันออกมาเสมือนวามันเป็นแก้วบางๆถ้าจับแรงแล้วมันจะแตกสลาย พอผมหมุนตัวกำลังจะเดินเอากล่องไปวางไว้บนโต๊ะผมก็เจอผู้ชยคนหนึ่งนั่งเท้าคางมองผมอยู่ที่โต๊ะ โดยมีจูเลียพยายามกัดนิ้วยาวๆทีกระดิกไปมานั่น

     

    กลับมาแล้วหรอผมเอ่ยออกไป และเดินเอากล่องเค้กมาวางไว้ก่อนจะเดินไปหยิบจานและส้อมโดยไม่สนใจสายตาที่จ้องมองมายังผม

     

    ฮะ ผมกลับมาแล้ว เค้กนั่น..

    ของนายหรอผมพูดสวนขึ้นมา

     

    ครับผมซื้อมาจุนฮงคลี่ยิ้ม ให้พี่

     

    ผมแทบจะล้มทั้งยืน ให้ตายเมื่อกี้ผมหูฝาดรึป่าว ไอ่เด็กนี่เนี่ยนะบอกว่าซื้อเค้กมาให้ผม ผมมองดูกลองเค้กอย่างลังเล มันจะมียาพิษรึเปล่านะ ?

     

    ผมไม่ใส่อะไรลงไปหรอก พี่กินได้จุนฮงลุกขึ้นมาแล้วเดินมาเปิดกล่องเค้กอย่างไม่รีบร้อน ผมมองดูอย่างไม่เข้าใจ ทำไมต้องมาทำดีกับผม ?

     

    นายหวังอะไรจากฉันรึเปล่าผมกอดอกแล้วมองคนตัวสูงนิ่ง จุนฮงเกะกลองเค้กเสร็จก็มันมายิ้มให้ผมอีกครั้ง

    คำขอบคุณล่ะมั้งครับที่ผมอยากได้

    ใบหน้าแววตาและรอยยิ้มอันใสซื่อนั่นทำให้ผมนิ่งค้างไปหลายวิ และเกินคำคำหนึ่งในหัวว่า

     

    เด็กนี่แม่งน่ารัก

     

    ผมยังคงตีหน้านิ่ง สายตาก็ชำเลืองมองเค้กที่ดูเหมือนกับว่ามันกำลังเรียกร้องหาผมอย่างไงอย่างงั้น ให้ตายน่ากินเป็นบ้า

    พี่อยากกินชิ้นไหน

     

    อา..ชิ้นนั้นบลูเบอรี่เยอะจังเลยน้ำลายจะไหล อุ้บ!” ผมตะคุบปากตัวเองที่จู่ๆก็เผลอคิดออกมาซะดัง พูดรัวเหมือนคนละเมอ ให้ตายสิน่าอาย น่าอาย

    หึจุนฮงหัวเราะในลำคอก่อนจะค่อยๆหยิบเค้กชิ้นที่ผมว่ามาใส่จานให้พร้อมเกะพลาสติกหุ้มเค้กออกให้ ส้อมที่ผมไปหยิบมาเมื่อกี้ถูกส่งมาให้ตรงหน้า ผมมองส้อมสลับกับหน้าของเด็กนี่ก่อนจะตัดสินใจรับส้อมมาแล้วตัดเค้กเข้าปาก

     

    อา...โคตรหวาน อร่อยจัง

     

    ผมเคี้ยวตุ่ยๆก่อนจะนั่งลงแล้วขยับจานเค้กเข้ามาหาตัว แล้วตัดกินอย่างเอร็ดอร่อย จูเลียเดินเข้ามาหาผมอย่างสงสัย มันคงจะอยากกินบ้างอะนะ แน่นอนว่าผมไม่ให้เสียใจนะแมวน้อย

    แมวกินของหวานไม่ได้รู้ปะจุนฮงอุ้มจูเลียออกไปจากโต๊ะ ผมคาบส้อมเอาไว้แล้วเดินตามจุนฮงไปด้านนอก เค้าพึ่งสังเกตว่าเด็กนี่เปลี่ยนเป็นชุดไปรเวทธรรมดาแล้ว จะไปไหนนะ ?

    นายจะไปไหนปะผมดึกส้อมออกจากปากแล้วถมออกไป แบบเวลาใครถามจะได้ตอบถูก

     

    ไปธุระนิดหน่อย ผมไปนะ อ่อ ถ้ากินไม่หมดเก็บใส่ตู้เย็นไว้ล่ะเดี๋ยวผมมากิน

     

    นายไม่ได้กินหรอก ชเวจุนฮง

     

    ผมพยักหน้าก่อนจะโบกมือไล่ให้มันไปไหนก็ไป ผมไม่ได้เป็นห่วงมันสักหย่อย ก็ถามไว้เผื่อใครมาถามผมว่าอีเด็กเปรตมันไปไหน ก็เท่านั้นแหละ

     

    ก็..ก็เท่านั้นแหละ มองทำไมเล่า !

     

    ผมรีบหมุนตัวกลับไปนั่งกินเค้กต่อ ความจริงแล้วผมก็กินไม่เยอะหรอก อยากกินอันไหนก็กินมันแค่คำสองคำแล้วเก็บไว้ที่เดิม ดูทุเรทเนอะว่ามั้ย ฮ่าๆ แต่ช่างเถอะ เค้าซื้อมาให้ผมแน่นอนว่ามันเป็นของผมทั้งหมด

     

    ผมทำตัวเอื่อยๆไปเรื่อยๆก่อนจะมองดูนาฬิกาที่บอกเวลาว่าตอนนี้สองทุ่มแล้ว ผมควรไปอาบน้ำเตรียมตัวได้แล้ว ยังไม่ทันจะก้าวขึ้นบันได โทรศัพท์ของผมก็แผดเสียงขึ้นมาเสียก่อน

     

    ว่าไงครับ

     

    (นี่คนเริ่มเยอะแล้วนะ มีแต่หมาป่า ฉันล่ะเซ็ง นี่พี่กลายเป็นนกน้อยในฝูงหมาป่าแล้วนะ มานั่งเป็นเพื่อนพี่เร็วๆสิ)

     

    ผมหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะก้าวขึ้นบันไดด้วยความรวดเร็ว

     

    ครับๆ ผมจะไปเดี๋ยวนี้แหละ ขอครึ่งชั่วดมงครับคนสวย

     

    (เอ่อ)

     

    พี่ฮิมชานตอบสั้นๆก่อนจะตัดสายไป ผมโยนโทรศัพท์ไว้บนเตียงก่อนจะจัดการอาบน้ำอย่างรวดเร็วพร้อมที่จะไปนั่งเล่นชิวๆเป็นเพื่อนพี่ฮิมชาน งานนี้ที่ผมยอมไปไม่ใช่เพราะผมสนใจรางวัลอะไรมากมายหรอก ผมสนใจว่าพี่ฮิมชานจะไปเป็นรางวัลของใครมากกว่า J

     


     

    ผมเซ็ทผมหน้าม้าที่เริ่มยาวมากแล้วให้เข้าที่ สะบัดไปมาสองสามทีแล้วก็ยิ้มให้ตัวเองให้กระจก ก่อนจะเดินไปหยิบเอาโทรศัพท์แสนรักมาใส่กระเป๋ากางเกงไว้แล้วเดินควงกุญแจรถออกห้องไป

     

    คุณแดฮยอนคะ เอ่อ..คือ คุณไอยูเธอหายไปน่ะค่ะแม่บ้านลีจินเดินเข้ามาหาผมแล้วเอ่ยบอกอย่างหวาดๆ

     

    ช่างเธอเถอะครับ วันนี้ผมกลับดึกนะครับ

     

    อ่อค่ะ คุณผู้หญิงคงยังไม่กลับเร็วๆนี้นะคะ

     

    ครับ ไว้ผมจะโทรหาแม่ผมยิ้มกว้างให้เธอก่อนจะเดินออกมาขึ้นรถแล้วออกรถไปยังสถานที่ที่นัดกันไว้

     

    ผมคิดว่าผู้หญิงคนนั้นหายไปซะได้ก็ดีไม่อยากให้เดินเข้าเดินออกทำกับว่าบ้านผมเป็นบ้านของตัวเอง ถ้าเป็นไปได้ก็ไม่ต้องกลับมามันจะดีมากๆน่ารำคาญ

     

     

    ผมขับมาถึงสนามแข่งรถแล้ว ความจริงที่นี่มีสนุกสนามให้คุณเลือกแข่งนะ ซึ่งนั่นหมายความว่ามันใหญ่มากๆยังไงล่ะ ถ้าเกิดใครไม่เคยมาก็หลงร้อยเปอร์เซ็นต์ผมคิดว่าอย่างงั้นนะ แน่นอนว่าจองแดฮยอนคนนี้ก็หลงมาแล้วเหมือนกัน

     

    ที่นี่เป็นของใครผมก็ไม่รู้หรอกแต่รู้ว่าพี่ฮิมชานรู้จักกับเจ้าของที่นี่นิดหน่อย พี่เค้าว่ามาอย่างนั้นผมก็ไม่อยากถามเยอะหรอก เอาเป็นว่าผมสามารถเข้าออกได้ง่ายๆไม่ต้องโดนตรวจนั่นนี่มากนัก ที่มีระบบรักษาความปลอดภัยดีเยี่ยม

     

    ผมยิ้มให้กับคนตรวจคนเข้าก่อนจะเดินผ่านเข้าไปอย่างง่ายดาย เพราะว่าผมมาที่นี่บ่อยเหมือนกัน เวลาไม่มีเงินที่นี่แหละที่หาเงินของผมล่ะ

     

    ผมเดินตรงไปยังฝั่งของสนามแข่งซึ่งด้านขวาเป็นสนามแข่งจักรยานฟิกเกียร์ด้านซ้ายเป็นสนามแข่งสเก็ตบอร์ด ซึ่งพอผมมองไปก็เห็นอะไรบางอย่างตรงนั้น ผู้ชายตัวสูงๆกับชุดไปรเวทที่พึ่งเห็นไปเมื่อตอนเย็นกับผมสีควัญบุหรี่ที่ไปยอมมาเมื่อไหร่ไม่รู้

     

    ไม่...ไม่ใช่หรอกผมเอ่ยออกมาเบาๆแล้วตีหน้าผากตัวเองไปหนึ่งทีก่อนจะเดินต่อ ไม่รู้เหมือนกันว่าผมจะหลอกตัวเองไปทำไมว่านั่นไม่ใช่ ชเว จุนฮง ที่พึ่งเจอกันก่อนออกจากบ้านไปกำลังสไลด์สเก็ตบอดลงมาจากเนินสูงๆนั่น

     

    นี่ไม่ใช่เรื่องตลกเลยนะ ให้ตาย ถ้ามันมาเห็นเค้าจะเป็นยังไง แค่คิดว่าจะทำหน้ายังไงใส่มันก็ปวดหัวแล้วให้ตายเถอะ

     

    ผมรีบเดินผ่านตรงนั้นไปอย่างรวดเร็ว ไม่รู้สิผมแค่ไม่อยากเจอหน้ามันตอนนี้ พอผมเดินทะลุผ่านมาผมก็เริ่มมองหาคนสวยของผมที่เร่งเร้าผมให้มาเร็วๆ ผมมองนาฬิกาดิจิตอลใหญ่ที่เอาไว้บอกเวลาการแข่งขันก็พบว่าผมมาก่อนเวลาตั้งสิบนาทีแน่ะ

     

    ผมกวาดสายตามองหาพี่ฮิมชาน ไม่รู้เหมือนกันว่าวันนี้พี่แกใส่ชุดอะไรมาและผมก็เห็นผู้ชายคนหนึ่งโบกไม้โบกมือมาทางผมอยู่บนสแตนที่ไม่ค่อยมีคนมากนัก ผมยิ้มก่อนจะวิ่งไปทางสแตนนั้น

     

    มาช้าจัง จองแดฮยอนเสียงบนงุ้งงิ้งลอยมาระหว่างที่ผมก้าวเข้าไปนั่งข้างๆ

     

    แหม ก็ต้องเสริมหล่อนิครับว่าแล้วก็สะบัดผมหน้าม้าให้เข้าที่อีกที

     

    พี่ฮิมชานส่ายหน้าไปมาอย่างเอือมๆก่อนจะหันไปโบกมือให้คนโน้นทีคนนี้ทีที่เดินผ่านไปมา วันนี้พี่ฮิมชานใส่เสื้อมีฮูดแขนยาวสีเหลืองเรียบๆไม่มีลายกับกางเกงขาเดฟที่น่าจะเรียกว่าเศษผ้ามากกว่ากางเกงนะ แหม่ เล่นขาดเป็นซี่ๆจนยาวจนเห็นขาขาวๆนั่นจนจะหมดทั้งขาแล้ว

     

    ก็อย่างนี้แหละครับมีดีก็ต้องโชว์

     

    พี่ย้อมผมใหม่หรอครับผมถาม

     

    อือ สีน้ำตาลอ่อน เป็นไงดีปะ

     

    ก็ดีครับ น่ารักดี

     

    ผมยิ้มก่อนจะเอื้อมมือไปเกลี่ยผมด้านหน้าของพี่ฮิมชานออก อีกฝ่ายก็ไม่ว่าอะไรได้แต่ยิ้มให้อย่างเดียว

     

    พี่บอกว่าที่นี่มีแต่หมาป่างั้นหรอครับผมชัดมือกลับแล้วถามออกไป

     

    ก็ใช่น่ะสิ นายรู้ป่าวว่าทำไมพี่ต้องมานั่งตรงนี้ สปอทไลท์สว่างจ้าจนแสบตาไปหมดแล้วเนี่ยพี่ฮิมชานหันมาและเริ่มโวยวาย

     

    ไม่รู้อะครับผมตอบหน้าตาย ก็ไม่รู้จริงๆนี่หว่า

     

    ดูสแตนฝั่งโน้นสิ นั่งกันเป็นฝูงขนาดนั้นถ้าพี่เข้าไปก็โดนขย้ำตายสิ พี่ยิ่งเป็นแค่กระต่ายน้อยน่ารักอยู่พี่ฮิมชานชูสองนิ้วไว้ข้างๆแก้ม มันคงเป็นท่าที่พี่ฮิมชานคิดว่าน่ารักเวอร์ๆใช่มั้ยล่ะครับ อืม ผมก็ว่ามันน่ารักนั่นแหละครับ

     

    เพราะอย่างนั้นผมเลยอดไม่ได้ที่จะขโยหอมแก้มขาวๆนั้นไปหนึ่งที พอหอมเสร็จก็หัวเราะออกมาอย่างมีความสุข

     

    นายนี่นิสัยไม่ดีเลยนะพี่ฮิมชานย่นจมูกก่อนจะหันไปทักทายคนมาใหม่ที่ดูเหมือนจะยืนดูลาดราวนานแล้ว

     

    สวัสดีครับฮิมชาน มานานแล้วหรอทำไมไม่ไปนั่งด้วยกันล่ะคนมาใหม่ว่า

     

    แหม่ ไปนั่งกับนายฉันจะรอดหรอเอ็น

     

    ไม่มีใครทำอะไรนายหรอก พวกของผมน่ะเฟรนลี่ที่สุดแล้วยกเว้นพ่อสิงโตคนนี้

     

    คนมาใหม่ที่ชื่อเอ็นดึงแขนอีกคนที่ยืนทำหน้านิ่งไร้อารมณ์สุดๆให้เข้ามาใกล้ๆแล้วโบกมือทักทายพี่ฮิมชานเล็กน้อย ก่อนหมอนั่นจะดึงแขนออกแล้วไปยืนที่เดิม

     

    เย็นชาจังนะ

     

    เลโอยังเหมือนเดิมเลยนะพี่ฮิมชานยิ้มหวานให้ทั้งคู่ก่อนจะหันมาแนะนำทั้งคู่ให้ผมรู้จักนี่แดฮยอนรู้จักกันไว้ก็ดีนะ นี่เอ็นกับเลโอ เค้าเป็นเพื่อนพี่

     

    สวัสดีครับ ผมแดฮยอนยินดีที่ได้รู้จักครับผมส่งยิ้มให้ทั้งคู่อย่างเป็นมิตร และก็ได้รอยยิ้มที่แสนจะเป็นมิตรจากพี่เอ็นคนเดียว ส่วนพี่เลโอแต่พยักหน้ารับรู้แค่นั้น นี่คนหรือหุ่นยนต์อะบอกผมทีเถอะ T^T

     

    ผมไปก่อนนะ เดี๋ยวอี้ฟานมาพี่เอ็นบอกก่อนจะโบกมือแล้วลากพี่เลโอให้เดินตามไปยังสแตนอีกฝั่งทางขวาของผม

     

    อ้าว พี่เอ็นไม่ได้อยู่วูฟหรอครับผมสะกิดถามพี่ฮิมชานด้วยความสงสัย เพราะฝั่งสแตนของวูฟอยู่ทางด้านซ้ายของผม

     

    อยู่กับไร้สังกัดน่ะ เป็นกลุ่มเงียบๆไม่มีพิษภัยแต่สมาชิกไม่ธรรมดาพี่ฮิมชานหันมาตอบด้วยสีหน้าเรียบๆ

     

    อ๋อ แล้วทำไมคนเยอะจังครับ หรือว่าเป็นคนที่แข่งนัดใหญ่

     

    อื้อใช่ อี้ฟานน่ะ พอดีพี่รู้จักนิดหน่อยเลยมาเป็นกำลังใจ

     

    ผมพยักหน้าเข้าใจก่อนจะเห็นว่ามีคนเดินมาหาพี่ฮิมชานอีกแล้ว พี่ฮิมชานมีคนรู้จักเยอะมากแถมยังเป็นคนที่เข้ากับคนง่าย แถมยังเสน่ห์แรงอีก ผมปล่อยให้พี่ฮิมชานคุยกับคนแปลกหน้าไปเรื่อยๆ ในหัวก็คิดบางอย่างไปเรื่องจนหวนคิดถึงเรื่องในอดีตระหว่างผมกับพี่ฮิมชาน

     

    ผมกับพี่ฮิมชานเคยคบกัน คบกันในระหว่างที่ผมมียองแจอยู่แล้ว

     

    ถ้าคิดให้ดีคือผมเป็นคนผิดเองที่ไปจีบพี่ฮิมชานก่อน ผมมันเลวเองทั้งๆที่ตัวเองมียองแจอยู่แล้วแต่ก็ยังไปจีบพี่ฮิมชาน

     

     

    ถ้าย้อนเวลาไปได้ผมคงเลือกที่จะอยู่นิ่งๆไม่ตอบรับคำท้าของเพื่อนตัวแสบ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    เฮ้ย จองแดฮยอนคิดว่ามึงแน่แค่ไหนวะเสียงยานคางของคนที่เริ่มเมาด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ดังขึ้นกลางวงเรียกในคนที่กำลังดื่มหันมาสนใจกันเป็นแถบ

     

    แน่กว่ามึงก็แล้วกันแอลโจ หึแดฮยอนที่เริ่มเมาไม่ต่างอะไรกับกับคนที่เริ่มบทสนธนาตอบกลับไปพร้อมยกแขนที่รู้สึกว่ามันหลักกว่าปกติพาดไหล่เพื่อนรักไว้

     

    มึงเห็นพี่คนนั้นปะ คนที่สวยๆอะกูจองไว้นานแล้วนะ อึกเสียงยานคางขาดช่วงไปพักหนึ่งก่อนจะเริ่มพูดต่อ กูอยากรู้ว่ามึงมีน้ำยาแค่ไหน

     

    คนโดนท้าทายยกยิ้มมุมปากก่อนจะมองไปตามนิ้วที่ยกขึ้นมาชี้ไปยังเป้าหมายที่ได้หมายตาเอาไว้ ร่างบางที่ยืนอยู่เฉยๆในมือมีแก้วน้ำสีสวยอยู่ สายตากวาดมองไปเรื่อยเปื่อยเหมือนคนที่ไม่มีอะไรทำและแล้วสายตานั้นก็เลื่อนมาสบตาเข้ากับจองแดฮยอนที่จ้องมองไปพอดี

     

    เค้ามองมึงอะแดฮยอนแอลโจใช้ศอกกระทุ้งสีข้างแดฮยอนเรียกความสนใจจากเพื่อนร่วมวงได้เป็นอย่างดีเมื่อเห็นว่าเหยื่อเริ่มสนใจเบ็ดที่หย่อนลงมาแล้ว

     

    เดี๋ยวมึงก็รู้แอลโจว่ากูมีน้ำยารึป่าวจบคำพูดของแดฮยอนก็มีเสียงโห่แซวดังขึ้น

     

    แดฮยอนส่งแก้วให้แอลโจก่อนจะลุกขึ้นเต็มความสูงเดินตรงไปยังเป้าหมาย มือเรียวสอดเข้าโอบเอวบางเอาไว้หลวมๆก่อนจะเอ่ยทักทาย

     

    สวัสดีครับ มาคนเดียวหรอครับ

     

    มองฉันตั้งนานยังไม่รู้อีกหรอว่ามาคนเดียวริมฝีปากบางยกยิ้มบางๆให้คนแปลกหน้า มีอะไรรึป่าว

     

    ชื่ออะไรครับ ผมแดฮยอนร่างโปร่งขยับเข้าไปชิดร่างบางมากกว่าเดิม พลางแอบสูดดมกลิ่นหอมของคนในอ้อมแขน

     

    ชื่อฮิมชาน ฉันแก่กว่านายใช่มั้ยมือเรียวแกว่งแก้วไปมาอย่างรู้สึกเบื่อหน่าย สองสามวันนี้มีแต่เด็กมาจีบเค้าอย่างน่าเบื่ออะไรแบบนี้นะ

     

    ครับผมเด็กกว่า ไปกับผมได้มั้ยแดฮยอนเอ่ยปากชวนฮิมชาน ร่างบางยิ้มก่อนจะแกะมือที่โอบเอวเค้าอกแล้วถอยหลังไปหนึ่งก้าว

     

    คงไม่ง่ายขนาดนั้นนะฮิมชานขยิบตาให้แดฮยอนหนึ่งทีแล้วเดินหายไปกับกลุ่มคนทิ้งแดฮยอนหัวเราะเบาๆกับตัวเองอยู่อย่างนั้น

     

    เกิดมายังไม่เคยเจอใครทิ้งให้หน้าแตกแบบนี้มาก่อนเลย

     

    นั่นเป็นจุดเริ่มต้นทำให้แดฮยอนตามสืบและติดตามฮิมชานจนิมชานตกลงคบกับแดฮยอนโดยที่ฮิมชานไม่รู้ว่าแดฮยอนมียองแจอยู่แล้ว

     

    แต่ความลับไม่มีในโลก วันหนึ่งฮิมชานก็ได้รู้ว่าแดฮยอนมียองแจแล้วด้วยความบังเอิญ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เลยจบลงแต่คำว่าพี่น้องมาจนถึงทุกวันนี้

     

     

     

    ผมไม่รู้ว่าพี่ฮิมชานคิดอะไรอยู่ ผมไม่รู้ว่าพี่ฮิมชานรักผมแบบไหน แต่คำพูดของพี่ฮิมชานเมื่อตอนเช้ามันทำให้ผมหนักใจและคิดมาก คิดว่าพี่เค้ายังรอให้เรากลับไปเป็นเหมือนเดิม เป็นคนรักกัน ผมกับพี่ฮิมชานคบกันหลายเดือนเหมือนกัน ผมยอมรับว่าอึดอัดไม่น้อยที่ต้องคอยโกหกยองแจ แต่เมื่อผมเริ่มผมก็ต้องรับผิดชอบ

     

    แต่บอกตรงๆว่าตอนนี้ผมยังไม่รู้เลยว่าผมต้องรับผิดชอบอะไร

     

    เฮ้ยๆแดฮยอนดูนั่นดิ มีคนตบกันไปดูเร็ว

     

    แล้วผมก็โดนพี่ฮิมชานกระชากแขนให้ลุกขึ้นตามไปดู อะไรนะ ? คนตบกันงั้นหรอ พอตั้งสติได้ก็รีบสาวเท้าตามคนตรงหน้าให้ทัน ตอนนี้เกิดการมุงดูเป็นวงล้อมและก็ดูเหมือนว่าไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่งด้วย

     

    เหมือนแต่ละกลุ่มจะมีกฎว่าถ้าไม่ใช่พวกตัวเองห้ามเข้าไปยุ่ง ฟินิกส์ก็เช่นกันห้ามยุ่งถ้าไม่ใช่นกน้อยในรังของตัวเอง ผมยึดมั่นในกฎนะครับ ฮ่ะฮ่ะ

     

    มองไม่เห็นเลยอะพี่ฮิมชานพยายามชะเง้อมอง ส่วมผมก็เช่นกันแต่มันก็ดูจะไร้ผลเพราะคนแม่งโคตรเยอะ และแถวนี้ก็เป็นสแตนฝั่งวูฟด้วย

     

    แดฮยอนมานี่ๆ

     

    พี่ฮิมชานเรียกผมให้เดินตามไปและก็เดินขึ้นไปยังสแตนที่สูงที่สุด อ่อ ลืมบอกไปครับว่าที่กำลังีเรื่องกันอยู่ก็บนสแตนนี่แหละครับไม่ใช่ที่พื้นแต่อย่างใด และตอนนี้เสียงก็ดังมากๆผมตื่นเต้นนะบอกตรงๆ

    ที่กำลังทะเลาะกันอยู่เป็นผู้หญิงกับผู้ชาย เดี๋ยวสิอย่าบอกนะว่า...

     

    ผู้ชายตบผู้หญิงแดฮยอนดูสิๆ

     

    ผมพยายามเพ่งมองลงไปก็เริ่มเห็นชัดขึ้น มีผู้หญิงคนหนึ่งกำลังโดนจิกผมให้เงยหน้าขึ้นมา และนั่นทำให้ผมหัวเราะพรืด

     

    ฮะฮ่าๆๆๆๆ นั่นมันโอ้ยตลก ฮ่าๆๆๆผมหัวเราะอย่างบ้างคลั่งไม่สนใจบางคนที่หันมามองผมแต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร

     

    จะมีอะไรล่ะ ก็ผู้หญิงที่โดนตบน่ะคือ...

     

    ไม่มีปัญญาหาผัวเองรึไง อีไอยูอีหน้าด้าน!!!

     

    เสียงแหลมที่ยิ่งกว่าเหมือนผู้หญิงถูกเปร่งออกมาเสียงดัง ผมพยายามหยุดหัวเราะแล้วมองดูเหตุการณ์ต่อ

     

    นั่นมัน ...พี่ฮีชอลพี่ฮิมชานเอ่ยออกมาด้วยความตกใจ

     

    มีอะไรหรอครับ

     

    ก็เจ๊ฮีชอลคนนี้ไม่ธรรมดาน่ะสิ ใครก็ไม่กล้ามีเรื่องด้วย

     

    ผมเห็นด้วยนะ เพราะตอนนี้พี่ฮีชอลได้ทำการกระชากผมของไอยูแล้วเหวี่ยงไปมาเหมือนกับว่าหัวคนเป้นลูกโป่งเบาๆที่จะเหวี่ยงไปไหนก็ได้ และแล้วร่างของไอยูก็ลงไปกองอยู่ที่พื้น เสียงสะอื้นที่ดูไม่เป็นธรรมชาติดังขึ้นเรียกความสงสารจากคนที่มุงอยู่

     

    มึงไม่ต้องมาร้องไห้ ตอแหล!” ฮีชอลตะหวาดลั่น เจ็บมากมั้ย

     

    ฮีชอลลงไปนั่งยองๆข้างๆแล้วเอ่ยถามเสียงเรียบ ไอยูไม่ตอบอะไรและเบือนหน้าหนีไปทางอื่นแต่แล้วก็ถูกมือเรียวบีบกรามเอาไว้แน่น ถึงฮีชอลจะเหมือนผู้หญิงขนาดไหนแต่ก็ยังเป็นผู้ชายย่อมมีแรงมากกว่าอยู่แล้ว

     

    ถ้าไม่ตอบ ก็ดี...หึ รู้สึกดีมากมั้ยเป็นชู้กับผัวกับเมียคนอื่นอะ ห๊า!” ฮีชอลปล่อยมือออกจากใบหน้าหวานนั้นอย่างแรง

     

    ก็ไม่รู้สิ เค้าไม่ดูแลกันเองนิปล่อยมาเพ่นพล่านทำไมล่ะ

     

    เพี๊ยะ!!

     

    เสียงตบฉาดใหญ่ดังขึ้น พร้อมกับใบหน้าหวานที่หันไปตามแรงตบ ที่มุมปากนั้นมีเลือดไหลออกมาแสดงว่าแรงที่ตบนั้นมีมากขนากไหน

     

    โง่ต่ำนี่ฉันแค่มาสั่งสอนนะฮีชอลลุกขึ้นก่อนจะปัดเสื้อ แต่ยังไม่ทันจะก้าวไปไหนก็ถูกไอยูดึงไหล่ให้หันกลับไปและรับฝ่ามือที่ฝาดลงมาอย่างแรงไม่แพ้กัน

     

    เพี๊ยะ !

    อย่าคิดว่าทำคนอื่นเป็นฝ่ายเดียว ฉันไปแย่งผัวแกรึไง

     

    หึ ไม่ได้แย่งผัวฉันหรอก แต่แกเป็นชู้กับเค้าไปทั่วหึ ถามจริงๆเถอะว่าไม่มีใครสั่งใครสอนเลยรึไงมีพ่อแม่มั้ย!?” ฮีชอลกร่นด่าออกไปอย่างไม่เกรงกลัวใคร

     

    แก!!!” ไอยูชี้หน้าคาดโทษก่อนจะง้างมือขึ้นเตรียมจะตบแต่ก็ต้องหงุดชะงักไปเมื่อเห็นสายตาของฮีชอลที่มองมาอย่างท้าทาย

     

    ลองตบดูอีกรอบสิ แต่รู้สึกตัวอีกทีเธอคงอยู่ในโรงพยาบาล หึ!” ฮีชอลพูดไว้แค่นั้นก่อนจะหันหลังกลับ แต่ก่อนจะก้าวเดินก็ได้ทิ้งประโยคที่ทำเอาแดฮยนหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง

     

    ใครจะเอาอีห่านี่เป็นเมีย คิดหนักหน่อยนะเพราะมันก็กะหรี่ดีๆนี่เอง




     

     

     

     

     

     

    การแข่งขันรอบอุ่นเครื่องมีทั้งหมด 5รอบ แต่ละรอบใครจะลงมาอุ่นเครื่องหรือลองแข่งเล่นๆก็ได้ นี่เป็นสิ่งที่พี่ฮิมชานบอกผมมา แน่นอนว่าการแข่งมันก็ต้องมีของรางวัลอยู่แล้ว

     

    คู่แรกแข่งแบบธรรมดาสามรอบ รางวัลก็มาจากพิธีกรตัวขาวๆที่ยืนอยู่ตรงป้ายไฟบอกเวลาการแข่งขัน ผมพอรู่จักอยู่ว่าชื่อ อิลฮุน รางวัลคือเรือสปีดโบ๊ทที่เจ้าตัวสั่งทำเป็นพิเศษ น่าสนใจแต่ผมก็ไม่ได้ลงแข่ง เพราะว่าผมขับไม่เป็นน่ะสิ จะเอามาให้เปลืองค่าที่จอดทำไม

     

    คู่ที่สองที่มาแข่งเป็นเลโอ กับใครสักคนที่ผมไม่รู้จัก รางวัลก็มาจากอิลฮุนคนเดิม เป็นที่ดินแห่งหนึ่งในประเทศเยอรมัน คิดว่าคนที่อยากได้คงมีแผนเปิดธุรกิจแน่ๆ ผมชักจะสงสัยแล้วว่าบ้านของอิลฮุนทำงานอะไร รวยนักรึไง

     

    “เลโอน่ะ พ่อเค้าเป็นนายหน้าขายที่ดินล่ะ ที่ดินทุกที่คือเม็ดเงิน” เป็นเอ็นที่เดินมานั่งข้างๆฮิมชาน

     

    “คุณเอ็นอายุมากกว่าผมรึป่าวครับ” ผมเอ่ยถามออกไป จะได้วางตัวถูกหน่อย

     

    “ฉันคิดว่ามากกว่านะ เรียกพี่ก็ได้ เลโอก็อายุเท่าฉันนะเรียกพี่เหมือนกันก็ได้” เอ็นยิ้มให้อย่างเป็นมิตร

     

    ผมยิ้มตอบก่อนะจมองไปยังสนามแข่งที่มีพี่เลโอยืนมองไปยังถนน สายตาดูเหมือนคนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างก่อนจะสะบัดหัวเบาๆแล้วเข้าไปนั่งประจำที่รถบีเอ็มสีดำขลับ ที่ข้างๆมีรถลัมโบกินี่สีเดียวกันจอดอยู่

     

    เสียงเจื้อยแจ้วของพิธีกรอารมณ์ดียังคงดังเรื่อยๆจนได้ยินเสียงปืนดังขึ้น รถสีดำสองคันพุ่งตัวออกไปอย่างรวดเร็ว พี่เอ็นมีสีหน้ายิ้มแย้มตลอดเวลา คงจะมั่นใจในตัวของพี่เลโอมาก

     

    ผมมองรถทั้งสองคันประชันความเร็วด้วยความตื่นเต้น ความเร็วที่มากกว่าปกติบนท้องถนนทั่วไปทำให้คนเชียร์อยู่รอบสนามค่อยๆลุกขึ้นลุ้นว่ารางวัลที่ดินจะตกเป็นของใคร

     

    และแล้วผลที่ออกมาคือพี่เลโอชนะไปได้อย่างฉิวเฉียดเพราะเทคนิกบางอยางในการเลี้ยวเข้าโค้งสุดท้าย

     

    พี่เอ็นลุกขึ้นปรบมือด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มมากกว่าเดิมแล้วเดินกลับไปทางเดิม เหมือนเค้าจะลืมว่ายังมีผมและพี่ฮิมชานยืนดูอยู่ด้วยตรงนี้

     

    “โห มันส์มากครับ ผมนี่ลุ้นจริงๆ ยังไงเดี๋ยวผมจะติดต่อไปเรื่องที่ดินนะครับ ต่อไปเป็นรอบที่หลายท่านรอคอย รอบนี้เปิดให้มีของเดิมพันครับจะเป็นรถของหวงหรือจะเป็นตุ๊กตาหน้ารถที่พกมาด้วยวันนี้ก็เอามาแลกกันได้เลยครับ แข่งรอบเดียวเสียวทั้งคืนเลยครับแหม่”

     

    ผมหัวเราะเบาๆแล้วเหลือบมองพี่ฮิมชานที่ทำหน้ายุ่ง

     

    “พี่สนใจมั้ยครับ โอกาสหาเงินทั้งที”

     

    พี่ฮิมชานเบะปากก่อนจะส่ายหน้าไปมา

     

    “ไม่เอา ขี้เกียจใช้กำลังขัดขืน”

     

    “งั้นก็สมยอมสิครับ”

     

    ผมหัวเราะออกมากับท่าทีเหมือนเด็กที่โดนพ่อแม่ขัดใจของพี่ฮิมชาน มันดูน่ารักดีนะในมุมของผม

     

    “ฉันช่วยนายได้นะแดฮยอน อยากแข่งปะ”

     

    ผมเลิกคิ้วเล็กน้อยก่อนจะยิ้มส่งเจ้าเล่ห์ให้พี่ฮิมชาน

     

    ร่างบางลุกขึ้นปัดเสื้อผ้าให้เข้าที่เข้าทางแล้วก็พยักหน้าเชิญชวนผมให้เดินไปทางที่พิธีกรหนุ่ม อิลฮุนกำลังหยอดลูกอ้อนใส่สาวๆที่เดินไปเดินมาอยู่แถวๆสนามแข่งรถ

     

    “โอ๊ะๆๆ ดูนั่นสิใครเดินมากันน้า คนสวยประจำสนามพี่ฮิมชานนี่” เสียงของอิลฮุนทำให้ทุกคนในสนามหันมามองที่ผมเป็นจุดเดียว รู้สึกเขินนะแม้เค้าไม่จะได้มองผมก็ตาม เหอะเหอะ

     

    “น้องชายของพี่อยากแข่งรอบนี้”

     

    เสียงหวานเอ่ยบอกอิลฮุนพลางลากผมเข้ามาอยู่ใกล้ๆ

     

    “โอ้ว เห็นละอยากแข่งแทนเลยครับแหม่ มีใครสนใจมั้ยครับแข่งกับจอง แดฮยอนเดิมพันเป็นพี่ฮิมชานสุดสวย ฮิฮิ้”

     

    ผมไฮท์ไฟว์กับอิลฮุนเป็นการทักทาย ผมรู้แล้วล่ะ อิลฮุนเป้นรุ่งน้องที่คณะผมนี่เองเราคงรู้จักกันตอนมีค่าย

     

    ทั้งสนามเริ่มให้ความสนใจกับการแข่งรอบนี้ จะไม่ให้สนใจได้ยังไงล่ะก็คงข้างๆผมเนี่ยโคตรฮ็อต

     

    คนนอกอาจจะไม่รู้ว่าพี่ฮิมชานคนนี้ ทำงานรับจ้างเป็นของเดิมพันให้กับนักแข่งทุกประเภท เอาไว้โกงคู่แข่ง แต่การจ้างนี้ต้องจ่ายเงินเป็นเลขเจ็ดหลักขึ้นไปเท่านั้นพี่เค้าถึงจะยอมทำงานให้

     

    พี่ฮิมชานให้ได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น จับไม้จับมือ โอบกอดฟัดเหวี่ยง หอมแก้มหรือแม้แต่จูบพี่ฮิมชานก็ให้ได้แต่ มีอย่างเดียวที่พี่เค้ายังไมเคยให้ใคร เวอร์จิ้นอันล้ำค่าของพี่เค้าเอง

     

    ถึงจะโดนจ้างกี่ครั้ง ฝ่ายที่จ้างจะแพ้จะชนะก็ไม่มีใครเคยได้เห็นเรือนร่างที่ซ่อนอยู่ใต้เสื้อผ้านั้นเลยสักคน แม้แต่ผมด้วยก็เถอะ

     

    ไม่มีใครรู้ว่าพี่เค้ารอดมาได้ยังไง รู้แต่ว่าตอนนี้จอง แดฮยอนเครื่องร้อนขึ้นมานิดๆแล้ว

     

    “โว้วๆๆๆ ใจเย็นๆครับพี่ฮิมชานมีคนเดียวนะครับอย่าแย่งกันผมให้สิทธิพี่ฮิมชานเลิกดีกว่าครับว่าอยากให้พี่แดฮยอนแข่งกับใคร”

     

    ตอนนี้มีนักแข่งมากหน้าหลายตาที่เหมือนจะถูกใจพี่ฮิมชานตั้งแต่แรกกรูกันเข้ามาขอแข่งด้วยในรอบนี้ ผมอุส่าไม่ต้องจ่ายค่าจ้างพี่ฮิมชานแล้วนะ ทำไมทุกคนทำกับผมแบบนี้แต่ละคนนี่มันตัวเต็งไม่ใช่เรอะ

     

    แต่ละคนที่เข้ามาดูเป็นคนที่มีฝีมือทั้งนั้น ไม่ใช่แค่นั้นไอ่พวกหื่นกามก็รุมเข้ามาด้วย พี่ฮิมชานเอาแต่แจกยิ้มให้ทุกคนที่เดินเข้ามาโดยที่ไม่รู้เลยว่าการกระทำนั้นกำลังเรียกหายนะเข้ามา

     

    พี่ฮิมชานมองไปรอบๆก่อนจะหันไปบอกอิลฮุนด้วยท่าทีออดอ้อน

     

    “อิลฮุนอ่า พวกเค้าโกงกันรีป่าว ทำไมของเดิมพันของพวกเค้าไม่น่าสนใจเลย” พูดไปแขนเรียวที่คล้องเข้ากับแขนของพิธีกรหนุ่มที่กำลังถือไมค์อยู่จนต้องเปลี่ยนมาถืออีกข้างแทน

     

    “แหม่ แค่อยู่ข้างผมยังร้อนเลย คนสวยเค้าบอกไมพอใจอะครับพี่ๆลองเสนอมาทีละคนได้มั้ยครับ เอาแบบสมน้ำสมเนื้อหน่อย”

     

     

    งานนี้ไม่ใครก็ใครสักคนนี่แหละที่ต้องหมดตัว

     

     

    “หึหึ”

     

     

    ผมหัวเราะออกมา รู้สึกสงสารคนพวกนี้จริงๆที่กำลังโดนหลอก เหมือนแมงเม่าบินเข้ากองไฟเลย ผมมองดูรอบๆยังไม่มีใครน่าสนใจเลยจนสะดุดตาเข้ากับผู้หญิงคนหนึ่งเธอเดินควงมากับผู้ชายตัวสูง ผมว่าผมเจอของถูกใจแล้วล่ะ

     

    ผมเดินแหวกผู้คนที่กำลังเข้ามาขอท้าแข่งกับผม ไปยังที่ที่ผู้หญิงคนนั้นยืนอยู่เธอยิ้มหวานให้กับผม และดูเหมือนว่าผู้ชายที่มากับเธอกำลังต้องการให้ผมพูดคำนี้อยู่

     

     

     

     

     

     

    “ผมอยากแข่งกับคุณ”







     




    โอ่ยยย กว่าจะได้อัพ และก็ได้อัพแล้ว เย่ 555555
    พอดีกว่าข้อมูลในไดฟ์มันหายเกลี้ยงเลย ช้าหน่อยขอโทษนะ
    แล้วก็จะอัพอีกเรื่อยๆ พยายามอยู่ค่ะ
    วันนี้อัพวันเกิดมักเน่ล่ะ
    ฮปบด.นะคะสุดหล่อมักเน่ผู้น่ารัก ขอให้น่ารักแบบนี้ตลอดไป
    โตวันโตคืนสุขภาพแข็งแรงนะคะ เป็นที่รักของพี่ๆและเบบี้ตลอดไป

    ปล.ยังไม่ได้ปรับตัวหนังสือขอโทษนะคะมันแลคมากเลย ปรับไม่ได้จริงๆ

    CRY .q
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×