ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic KNB] Translucent (AkaKuro)

    ลำดับตอนที่ #6 : 05

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 742
      19
      5 มิ.ย. 58

    05



           กลับมาที่ห้องแห่งความมืดนี้อีกครั้ง หน้าทีวีตั้งโต๊ะขนาดเล็กมีร่างของเด็กหนุ่มผมแดงที่กอดเข่าตัวเองซุกหน้าลงกับซอกเข่าแน่นอย่างเจ็บปวดรวดร้าว หน้าจอทีวีฉายภาพเด็กหนุ่มผมฟ้ายิ้มแย้มแจ่มใสมีความสุข ซึ่งสิ่งที่มีความสุขนั้นก็คือความอบอุ่นที่เขามอบให้

     

     

    แต่ร่างบางกลับมองเป็นว่าความอบอุ่นนั้นมาจากคนอื่น..

     

     

    จู่ๆภาพหน้าจอก็ดับไปแปรเปลี่ยนเป็นภาพคลื่นไม่มีสัญญาณและการปรากฏตัวของคุโรโกะที่จู่ๆก็เข้ามาอยู่ที่นี่อีกครั้งอย่างมึนงง คุโรโกะมองร่างหนุ่มผมแดงที่กอดเข่าตัวเองแน่นคล้ายกับว่ากำลัวเจ็บปวดทรมาน คุโรโกะสาวเท้าเดินไปใกล้ โน้มตัวแตะไหลอีกฝ่ายเบาๆ

     

     

    เอ่อคุณเป็นอะไรหรือมากหรือเปล่าครับ ?

     

     

    เอ่ยเอื้อนเสียงหวานถามร่างที่นั่งนิ่ง ผมสีแดงที่เอาแต่ซุกหน้าลงกับซอกเข่าอย่างขมขื่น คุโรโกะเอียงคอมองรู้สึกไม่ดีกับอาการแปลกๆของหนุ่มตรงหน้า จึงทิ้งตัวนั่งลงข้างๆอีกฝ่าย แม้จะไม่รู้จักกันก็ตาม แต่เขากลับรู้สึกเป็นห่วงขึ้นมาจับใจ

     

     

    คุณครับ ไม่เป็นอะไรนะครับ เดี๋ยวผมนั่งเป็นเพื่อนนะ เอ่ยออกมาพร้อมรอยยิ้มสดใสบางๆ อาคาชิค่อยๆขยับหน้าออกห่างจากเข่าของตัวเอง เหลียวตาสีแดงคมช้ำมองคุโรโกะที่นั่งแนบชิดข้างๆตน

     

     

    เท็ตสึยะยังคงอ่อนโยนเสมอ

     

     

    แม้ตัวเองจะยังบอบช้ำก็ตาม..

     

     

    อ่อนโยนได้ตลอดเวลาแม้กระทั้งกับคนที่ไม่รู้จัก

     

     

    เท็ตสึยะ…..”

     

     

    เงยหน้าสบตาสีฟ้าของอีกฝ่ายอย่างปวดร้าว คุโรโกะยิ้มตอบเล็กน้อย ก่อนที่จะชะงักเมื่อเห็นใบหน้าหล่อเหลาของอีกฝ่ายชัดๆ คุโรโกะตาเบิกกว้างอัตโนมัติ ทุกความรู้สึกในตอนนี้ของเขาไปก่อนสมองที่จะสั่งการเสียอีก

     

     

     

     

    อาคาชิคุง ?

     

     

     

     

    “…”

     

     

    อ่า อาคาชิคุงเหรอ ?

     

     

    ชื่อใครงั้นเหรอ ?

     

     

    ชื่อของคนคนนี้เหรอ?

     

     

    อาคาชิคุงคือชื่อของคนตรงหน้านี้สินะ ?

     

     

    เอ๊ะ เขารู้สึกนึกย้อนไปตนอดีตสมัยเด็ก

     

     

    อาคาชิคุง ? อ้าวตอนเด็กเหมือนเขาเคยเรียกชื่อแบบนี้ของใครบางคน

     

     

    ตอนเด็กเขามีเพื่อนชื่ออาคาชิด้วยงั้นเหรอ ?

     

     

    ทำไมรู้สึกคุ้นเคยมากมายขนาดนี้ ?

     

     

    นั่นใครน่ะ ?เด็กผู้ชายผมสีแดงวิ่งมาหาเขา ?

     

     

    ทำไมรู้สึกโหยหาเด็กคนนี้จัง

     

     

    อาคาชิคุงเหรอ ?อาคา……อึก

     

     

    อึก…….ปวด…” หน้าหนาวนิ่วหน้าเจ็บปวดที่ศีรษะแล้วกุมหัวสีฟ้าตัวเองแน่น

     

     

    เท็ตสึยะ ? อาคาชิตาโตกว้างเมื่อจู่ๆร่างบางก็เอ่ยชื่อตนออกมาทั้งๆที่เขาบอกให้คุโรโกะลืมฝันในทุกคืนไปแล้วหลงเหลือแค่ความอบอุ่นไว้แท้ๆ แต่ทำไมอีกฝ่ายกลับรู้ชื่อและจำชื่อตนได้ ?

     

     

     

    หรือว่าจะจำเรื่องของเขาได้แล้ว!!!

     

     

     

    คุณคุณชื่ออาคาชิคุงเหรอ….”

     

     

    “…”

     

     

    อาคาชิเงียบไปเมื่อดวงตาสีฟ้าหม่นหมองชอนตามองด้วยแววตาสับสนในใจ สั่นไหวเสียจนเขาเองก็หวั่นๆใจ...

     

     

    คุณเหมือนเด็กในความทรงจำของผม

     

     

    “!!!” อาคาชิเบิกตากว้างเมื่อปากบางขยับเอ่ย

     

     

    มัน..มันเลือนรางไปหมดอึก.. ผมนึกอะไรไม่ออกเลย อึ้ก!!!”

     

     

    อาคาชิที่เห็นคุโรโกะกุมศีรษะตัวเองอย่างบ้าคลั่ง ก็รีบดึงร่างบางเข้ามาในอ้อมกอดของตน จับท้ายทอยอีกฝ่ายกดซบลงกับอกของตนแน่น คุโรโกะเบิกตากว้าง จู่ๆความทรงจำมากมายที่ไม่ปะติดปะตอกันก็ไหบเข้ามาเป็นสาย

     

     

    เด็กผู้ชายผมแดง ?

     

     

    ยิ้มแย้มแล้วยื่นบาสมาให้เขา ?

     

     

    เรากำลังเล่นบาสด้วยกัน

     

     

    เอ๊ะ ? นั่นพ่อแม่ของเขานี่ ?

     

     

    นอนอยู่บนเตียงแล้วผ้าขาวปิดหน้า ?

     

     

    เขาในตอนนั้นร้องไห้อึก..ร้องไห้

     

     

    ใครน่ะ ? ใครเดินมากอดเขาจากด้านหลังน่ะ ?

     

     

    ผมสีแดงเหรอ ?

     

     

    อา….อาคาชิ ?

     

     

    ไม่ต้องรีบเท็ตสึยะ นายจะต้องจำมันได้……” ลูบหัวอีกฝ่ายเบาๆ เปล่งเสียงหล่อเหลาที่สั่นครือเต็มไปด้วยความดีใจ คุโรโกะน้ำตาคลอเบ้าเสียอย่างนั้นอย่างไม่ทราบสาเหตุ

     

     

    นี่เขาดีใจอะไรงั้นเหรอ ?

     

     

    ทำไมรู้สึกดีใจแปลกๆ

     

     

    อึกดีใจ..ดีใจเหลือเกิน

     

     

    ฮึก…” โอบกอดอีกฝ่ายตอบซบหน้าหวานลงกับอกอีกฝ่ายแนบชิด อ้อมกอดที่อบอุ่นนี้มันอยู่คู่กับเขามาตลอดตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว..

     

     

    อยากจะขอบคุณอีกฝ่าย

     

     

    แม้ไม่รู้ว่าทำไมต้องขอบคุณ

     

     

    อยากกอดตอบอีกฝ่ายในความเป็นจริง

     

     

    แม้ไม่รู้ว่าเจ้าตัวอยู่ที่ไหน

     

     

    เท็ตสึยะ……” คลายอ้อมกอดแล้วเชยคางอีกฝ่ายให้สบตามองกับตน ทั้งคู่สบมองกันไปมาอย่างหวานซึ้ง ระยะห่างของใบหน้าค่อยๆละระยะลงจนในที่สุดปากทั้งสองก็ค่อยๆประทับกันอย่างอ้อยอิ่งและอ่อนโยน

     

    มือหนาประคองใบหน้าอีกฝ่ายเงยสูงลองรับรสจูบที่ร้อนแรงแต่อ่อนโยนและเชื่องช้าปลอบใจ คุโรโกะเคลิบเคลิ้มอย่างลืมตัว เผลอจูบตอบอีกฝ่ายตามอารมณ์ที่กำลังชักนำทาง

     

     

    อาคาชิผลักร่างบางให้ล้มลงนอนราบกับพื้น ถลกเสื้อที่เอวขึ้นเผยหน้าท้องสาวซีด วางมือหนาทาบลงแล้วลากไล้ไปมาเบาๆ

     

     

    ผมกลัวเหลือเกินกลัวว่านายจะหายไปจากผมตลอดกาล

     

     

    ผมกลัวการสูญเสียที่สุด…”

     

     

    ผมกลัวจริงๆผมอยากให้นายรู้เรื่องของผมด้วยตัวของนายเอง…”

     

     

    แม้มันจะลำบากและต้องใช้เวลา แต่ผมก็อยากให้นายยอมรับในตัวตนที่โปร่งแสงในตอนนี้ของผม

     

     

    ผมไม่อยากโดนนายขยะแขยง ที่โดนคนไร้ซึ่งร่างกายอย่างผมปกป้องนายมาตลอด

     

     

    จำผมให้ได้สักทีเท็ตสึยะ….”

     

     

    รีบจำผมให้ได้ในตอนที่ใจนายยังไม่ให้ใครอื่น

     

     

    รีบจำให้ได้ก่อนที่ผมจะไม่มีสิทธิ์ครอบครองใจของนายได้อีก…”

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    เฮือก!!!”

     

     

    คุโรโกะสะดุ้งตาตื่นขึ้นมา ใบหน้าชื้นเหงื่อเปียกชุ่มทั่วไปทั่งหน้า ดวงตาสีฟ้าตื่นตระหนกสั่นไหวตกใจกับฝันที่ตนพึ่งฝั่นไปเมื่อครู่นี้

    เอื้อมมือมาขยี้ผมสีฟ้าแน่นแล้วนึกถึงฝันที่ผ่านมาเมื่อครู่นี้ก่อนที่จะตื่น

     

     

    หนุ่มผมแดง ?

     

     

    เด็กหนุ่มผมแดงในวัยเด็กด้วย ?

     

     

    ทั้งสองเป็นคนคนเดียวกันเหรอ ?

     

     

    อึก!! นึกอะไรไม่ออกอีกแล้ว!!

     

     

    ทำไมรู้สึกโหยหา

     

     

    รู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาด

     

     

    อ้อมกอดที่แสนอ่อนโยนนั่นมาจากคนคนนั้นงั้นเหรอ ?

     

     

    อ่าใช่งั้นเหรอ

     

     

    แล้วเขาเป็นใครกันละ ?

     

     

    เขาอยู่ที่ไหน ? บ้านอยู่ตรงไหน ?

     

     

    ความทรงจำแปลกๆปรากฏขึ้นมาเสียเฉยๆ

     

     

    เขากำลังวิ่งเล่นกับเด็กผู้ชายผมสีแดง ?

     

     

    ใครกันอีกละเนี้ย

     

     

    นึกอะไรไม่ออกอีกแล้ว….

     

     

    อ่านั่นสินะ..

     

     

    คนคนนั้นบอกว่าค่อยๆคิด ไม่ต้องรีบ

     

     

    อ่า..งั้นสินะ

     

     

    ค่อยๆพยุงร่างกายลุกขึ้นอีกครั้ง มองนาฬิกาบนฝาพนังทำให้รู้ว่าตอนนี้เป็นเวลาเกือบห้าทุ่มเช่นเดิม เขามักจะเผลอหลับในเวลานี้เสมอๆ และมักจะฝันถึงใครบางคนอีกด้วยเช่นกัน มันเป็นแบบนี้ทุกครั้งในตอนที่เขาหลับ และมักจะตื่นขึ้นมาด้วยอาการงุนงงและสงสัย เหมือนมีความทรงจำมากมายเกี่ยวกับเด็กผมแดงในวัยเด็กหายไปอย่างไม่ทราบสาเหตุ

     

    อานี่ก็เป็นอีกวันสินะที่เขาได้มานอนที่ห้องพยาบาลนี่อีกครั้งเพราะเรื่องทะเลาะวิวาทอย่างลับๆของเขากับคนในห้องคนเดิมๆ คุโรโกะมองตัวเองตามร่างกายที่ปรากฏบาดแผลฟกช้ำแบบเดิมและแบบใหม่

     

     

    เขาก็มาโรงเรียนแบบเดิมตามปกติแท้ๆอ่าไม่คิดว่าจะโดนรุมเตะแบบนั้นอีกครั้งก่อนที่จะโดนทำร้าย ความทรงจำก็ขาดๆหายๆไปอีกครั้ง และตื่นขึ้นมาอีกครั้งในที่ใหม่อย่างปริศนาทุกๆครั้ง

     

     

    มีแต่เรื่องปริศนามากมายเต็มไปหมด

     

     

     

    หนุ่มผมแดงคือใครในอดีตของเขางั้นเหรอ ?

     

     

    ความอบอุ่นที่ได้มานั้น มาจากคนคนนั้นงั้นเหรอ ?

     

     

    ทำไมความทรงจำในวัยเด็กก็ขาดๆหายๆไปเหมือนกันกับตอนนี้ ?

     

     

    ทำไมอีกฝ่ายถึงอยากให้นึกถึงเรื่องของตัวเองได้ ?

     

     

    อ่ามีแต่คำถามที่ไม่มีคำตอบเต็มไปหมด….

     

     

    ปวดหัวจริงๆ

     

     

    จะว่าไปมีสิ่งๆเดียวที่เขาจำได้ขึ้นใจ

     

     

    ความอ่อนโยนในยามที่กอดใครสักคนในความฝัน

     

     

    มันเหมือนความอบอุ่นในยามที่ตนท้อแท้ไม่มีผิดเพื้ยน

     

     

    หรือว่าความอบอุ่นที่ว่านั้นจะมาจาก……

     

     

    ครืด

     

     

    คุคุโรโกะคุง…”

     

     

    เสียงประตูเลื่อนออกขัดความคิดของร่างบางบนเตียง ปรากฏหญิงสาวผมน้ำตาบตัดสั้นปรกใบหน้าและดวงตาคล้ายกับเป็นบุคคลที่ไม่อยากจะให้เปิดเผย คุโรโกะมองตามหญิงสาวที่มาเยี่ยมตนแล้วเอียงคอสงสัย

     

     

    แฟนของชายหนุ่มที่มามีเรื่องกับตนอยู่บ่อยครั้ง

     

     

    คุโรโกะรีบหันหน้าหนีหญิงสาวที่มักเข้ามาตีสนิทตนจนทำให้ตนมีเรื่องเจ็บตัวอยู่บ่อยครั้ง คุโรโกะกัดปากแน่นกำผ้าห่มห้องพยาบาลจนเกิดริ้วรอยผ้ายับ เธอก้าวเข้ามาใกล้จนหยุดอยู่ที่ข้างเตียง กุมมือทั้งสองของตนยืนนิ่งแสดงสีหน้ารู้สึกผิดออกมาอย่างเต็มประดา

     

     

    “…”

     

     

    ฉันฉันขอโทษแทนแฟนของฉันด้วยนะ….”

     

     

    “…”

     

     

    ฉันฉันขอโทษจริงๆนะคุโรโกะคุง!!!”  

     

     

    เธอโน้มโค้งขอโทษกับเขาอย่างมีมารยาทและรู้สึกผิดเต็มประตู คุโรโกะเหลียวตามามองอีกฝ่ายที่ร่างกายสั่นระริกรู้สึกผิดจริงๆ

     

     

    อ่าเขาก็ไม่ได้ใจร้ายที่จะไม่ยกโทษให้….

     

     

    ไม่เป็นไรครับ….ต่อจากนี้ก็ช่วยเลิกยุ่งกับผมสักทีเถอะนะครับ

     

     

    เธอรีบกลับมายืนตัวตรงก่อนที่จะแสดงสีหน้าสงสัยออกมาอย่างเห็นได้ชัด

     

     

    เอ๋ ? แต่ฉันอยากรู้จักเพื่อนของคุโรโกะคุงนะ

     

     

    เพื่อน ? ผมไม่มีเพื่อนหรอกนะครับ

     

     

    อ้าว ก็คนที่ผมสีแดงสวยแล้วเดินกับคุโรโกะคุงบ่อยๆไง

     

     

    ผมผมไม่----”

     

     

    เขาเท่มากเลยนะตอนนั้น อยู่เป็นเพื่อนกับคุโรโกะคุงตลอดเวลา ทั้งจับมือ ทั้งกอด ทั้งช่วยเหลือมากมาย ฉันรู้สึกประทับใจความเท่ของเขามาก

     

     

    “…”

     

     

    นี่ๆ เขาชื่ออะไรงั้นเหรอ ?

     

     

    จู่ๆลมจากด้านนอกก็พัดเข้ามาด้านในห้องพยาบาลที่คุโรโกะนอนอยู่ ความแรงของลมทำให้ผ้าม่านปลิวสไวไปมาตามแรง ก่อนที่หลังผ้าม่านจะปรากฏร่างของหนุ่มผมสีแดงยืนมองเหตุการณ์ตรงหน้านิ่งเงียบ สลับมองดวงตาสีฟ้าสั่นไหวสับสน

     

     

    “…ผมผมไม่รู้…”

     

     

    ไม่มีไม่มีใครเดินมากับผมทั้งนั้น…”

     

     

    คุณคงตาฝาด….”

     

     

    ใช่จะไปมีได้ยังไงกัน

     

     

    ก็เขาอยู่คนเดียวมาตลอดนี่

     

     

    ไม่มีใครทั้งนั้น….

     

     

    เอ๊ะผมแดงเหรอ

     

     

    อาคาชิ…..คุง ?

     

     

    ทำไมต้องมีชื่อของอาคาชิคุงปรากฏขึ้นมาบนหัวอยู่ตลอดๆด้วย ?

     

     

    ทั้งๆที่ ?ไม่อาจจะรู้ได้ว่าใช่หรือเปล่า

     

     

    ลางสังหรณ์เหรอ

     

     

     

     

     

    เท็ตสึยะ

     

     

     

     

     

     

    หือ ? เมื่อกี้คุณเรียกชื่อผมเหรอ

     

     

    คุโรโกะสะดุ้งเมื่อจู่ๆก็มีเสียงเรียกชื่อเขาดังขึ้น คุโรโกะมองซ้ายขวาไปมาไม่พบต้นตอเสียง จึงหันมามองหญิงสาวตรงหน้าแทน เพราะพวกเขาอยู่กันสองคน

     

     

    เอ๊ะ เปล่านะ!! ฉันยังไม่ได้พูดอะไรเลย

     

     

    แต่เมื่อกี้ผมได้ยิน-------”

     

     

    ผมรักนาย เท็ตสึยะ

     

     

    ผมจะรอเวลาที่นายจำผมได้

     

     

    จนถึงตอนนั้น อย่าไปรักใครก่อนเลย…”

     

     

    เมื่อกี้เสียงใครน่ะ!!!!”

     

     

    คุโรโกะหันซ้ายขวาไปมามองหาเสียงที่ดังขึ้นมาอีกครั้งชัดเจนว่าเป็นเสียงของชายหนุ่ม คุโรโกะเหงื่อแตกพลั่กจนหญิงสาวเริ่มหวาดระแวงตามบ้าง เธอรีบเดินออกจากห้องไปทิ้งคุโรโกะให้อยู่ตามลำพังกับความหวาดกลัวแปลกๆนี้

     

     

    “….อาคาชิคุงเสียงเหมือน..เสียงเหมือนคนคนนั้นในความฝันของเราเลย….”

     

     

    อ่า..ทั้งเสียงและทำนองการพูด

     

     

    เหมือนกันมากอ่า..ความอบอุ่นนี้สัมฟผัสด้านหลังตัวเขาอีกแล้ว

     

     

    เขาชอบมันจัง

     

     

    เหมือนปริศนาต่างๆเริ่มจะคลายลงแล้วแม้จะเล็กน้อยก็ตาม..

     

     

    อ่าสีแดง

     

     

    อื้มสีแดงเหมือนสีผมคางามิคุงเลย

     

     

    อ่าคางามิคุง

     

     

    อึก ? ความอบอุ่นหายไปซะแล้ว ?

     

     

    ทำไมจู่ๆถึงหายไปกัน ?

     

     

    อ้อมกอดเหมือนอาคาชิคุงเลย….

     

     

    แต่เราไม่เคยเห็นอาคาชิคุง

     

     

    เอ๊ะ ? หรือจะเป็นคางามิคุง ?

     

     

    อ่าใช้..ต้องใช่แน่ๆ ก็คางามิคุงก็มีผมสีแดงนี่

     

     

    ความอบอุ่นต้องมาจากคางามิคุงแน่ๆ

     

     

    ตอนนี้เขาคิดถึงคางามิ ไทกะเหลือเกิน

     

     

    อยากจะเจอคนอ่อนโยนแบบนั้นอีกสักครั้ง

     

     

    อึกอยากจะเป็นเพื่อนกับอีกฝ่าย

     

     

    ร่างบางคิดแล้วก็ยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว คิดถึงร่างหนาที่พึ่งรู้จักกันไปเมื่อวานนี้ ค่อยๆพยุงร่างแล้วเดินออกจากห้องไปทิ้งเพียงความว่างเปล่าไว้แค่ด้านหลังของฉาก

    บนเตียงปรากฏร่างของหนุ่มผมแดงที่น้ำตาร่วงโรยเปื้อนเตียงอีกครั้งอย่างปวดร้าว

     

     

    อ้อมกอดที่มอบให้

     

     

    มันคืออ้อมกอดของเขาแท้ๆ

     

     

    แต่ทำไมทำไมกัน ทั้งๆที่เขาพยายามใกล้ชิดอีกฝ่ายมากถึงขนาดนี้

     

     

    แต่ทำไมอีกฝ่ายกลับไม่เคยที่จะรู้

     

     

    ทั้งๆที่กำลังนึกเรื่องของตนออกแท้ๆ

     

     

    แต่กลับมีชายคนอื่นมาบังหน้าและความทรงจำทุกอย่างเสียจนหมดสิ้น

     

     

    ไม่ว่ายังไงนายก็ไม่อาจจะมองเห็นผมงั้นเหรอ….”

     

     

    ผม…..ฮึกกผมต้องพยายามอีกนานแค่ไหน…”

     

     

    นายถึงจะมองเห็นผม เห็นตัวตนที่ไร้ร่างกายของผม!!”

     

     

    “…ผมถนุถนอมนายมาตลอด 10 ปีผมไม่ยอมแน่…”

     

     

    ผมไม่ยอมให้คนอื่นมาขโมยไปได้ง่ายๆหรอก...”

     

     

    ผมไม่ยอมเป็นผู้ที่โดนทิ้งไว้ด้านหลังคนเดียวแน่…”

     

     

    ทุกความรู้สึกคนเราสามารถที่จะรับรู้มันได้โดยการสัมผัส

     

     

    ความรู้สึก ความคิด ความใจดี และต่างๆสามารถที่จะสัมผัสมันได้

     

     

    แม้มันจะไม่มีตัวตนก็ตาม แต่ก็สามารถทำให้รู้ว่าใครกำลังสื่อมันออกมา

     

     

    ซึ่งแตกต่างกับคนที่ไร้ซึ่งร่างกายอ่า ความรู้สึกรักมากมายพูดถ่ายทอดออกมา

     

     

    แต่ไร้ซึ่งร่างกกายของผู้ที่สื่ออารมณ์นั้นๆออกมา

     

     

    มันเจ็บปวดเหลือเกินที่โดนมองข้าม

     

     

    มันชั่งไม่ยุติธรรมทุกคนมักจะมองสิ่งที่มองเห็นก่อนอยู่แล้วเสมอ

     

     

    อ่าความจริงข้อนี้ทำให้อาคาชิ เซย์จูโร่เจ็บเหลือเกิน

     

     

    แม้จะรักมากมายแค่ไหนก็ไม่อาจจะส่งไปถึงร่างบางนั้นได้เลย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×