คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : 05
05
กลับมาที่ห้องแห่งความมืดนี้อีกครั้ง หน้าทีวีตั้งโต๊ะขนาดเล็กมีร่างของเด็กหนุ่มผมแดงที่กอดเข่าตัวเองซุกหน้าลงกับซอกเข่าแน่นอย่างเจ็บปวดรวดร้าว หน้าจอทีวีฉายภาพเด็กหนุ่มผมฟ้ายิ้มแย้มแจ่มใสมีความสุข ซึ่งสิ่งที่มีความสุขนั้นก็คือความอบอุ่นที่เขามอบให้
แต่ร่างบางกลับมองเป็นว่าความอบอุ่นนั้นมาจากคนอื่น..
จู่ๆภาพหน้าจอก็ดับไปแปรเปลี่ยนเป็นภาพคลื่นไม่มีสัญญาณและการปรากฏตัวของคุโรโกะที่จู่ๆก็เข้ามาอยู่ที่นี่อีกครั้งอย่างมึนงง คุโรโกะมองร่างหนุ่มผมแดงที่กอดเข่าตัวเองแน่นคล้ายกับว่ากำลัวเจ็บปวดทรมาน คุโรโกะสาวเท้าเดินไปใกล้ โน้มตัวแตะไหลอีกฝ่ายเบาๆ
“เอ่อ…คุณเป็นอะไรหรือมากหรือเปล่าครับ ?”
เอ่ยเอื้อนเสียงหวานถามร่างที่นั่งนิ่ง ผมสีแดงที่เอาแต่ซุกหน้าลงกับซอกเข่าอย่างขมขื่น คุโรโกะเอียงคอมองรู้สึกไม่ดีกับอาการแปลกๆของหนุ่มตรงหน้า จึงทิ้งตัวนั่งลงข้างๆอีกฝ่าย แม้จะไม่รู้จักกันก็ตาม แต่เขากลับรู้สึกเป็นห่วงขึ้นมาจับใจ
“คุณครับ ไม่เป็นอะไรนะครับ เดี๋ยวผมนั่งเป็นเพื่อนนะ” เอ่ยออกมาพร้อมรอยยิ้มสดใสบางๆ อาคาชิค่อยๆขยับหน้าออกห่างจากเข่าของตัวเอง เหลียวตาสีแดงคมช้ำมองคุโรโกะที่นั่งแนบชิดข้างๆตน
เท็ตสึยะยังคงอ่อนโยนเสมอ…
แม้ตัวเองจะยังบอบช้ำก็ตาม..
อ่อนโยนได้ตลอดเวลาแม้กระทั้งกับคนที่ไม่รู้จัก…
“เท็ตสึยะ…..”
เงยหน้าสบตาสีฟ้าของอีกฝ่ายอย่างปวดร้าว คุโรโกะยิ้มตอบเล็กน้อย ก่อนที่จะชะงักเมื่อเห็นใบหน้าหล่อเหลาของอีกฝ่ายชัดๆ คุโรโกะตาเบิกกว้างอัตโนมัติ ทุกความรู้สึกในตอนนี้ของเขาไปก่อนสมองที่จะสั่งการเสียอีก
“อาคาชิคุง ?”
“…”
อ่า อาคาชิคุงเหรอ ?
ชื่อใครงั้นเหรอ ?
ชื่อของคนคนนี้เหรอ?
อาคาชิคุงคือชื่อของคนตรงหน้านี้สินะ ?
เอ๊ะ เขารู้สึกนึกย้อนไปตนอดีตสมัยเด็ก
อาคาชิคุง ? อ้าวตอนเด็กเหมือนเขาเคยเรียกชื่อแบบนี้ของใครบางคน
ตอนเด็กเขามีเพื่อนชื่ออาคาชิด้วยงั้นเหรอ ?
ทำไมรู้สึกคุ้นเคยมากมายขนาดนี้ ?
นั่นใครน่ะ ?เด็กผู้ชายผมสีแดงวิ่งมาหาเขา ?
ทำไม…รู้สึกโหยหาเด็กคนนี้จัง…
อาคาชิคุงเหรอ ?อาคา……อึก
“อึก…….ปวด…” หน้าหนาวนิ่วหน้าเจ็บปวดที่ศีรษะแล้วกุมหัวสีฟ้าตัวเองแน่น
“เท็ตสึยะ ?” อาคาชิตาโตกว้างเมื่อจู่ๆร่างบางก็เอ่ยชื่อตนออกมาทั้งๆที่เขาบอกให้คุโรโกะลืมฝันในทุกคืนไปแล้วหลงเหลือแค่ความอบอุ่นไว้แท้ๆ แต่ทำไมอีกฝ่ายกลับรู้ชื่อและจำชื่อตนได้ ?
หรือว่าจะจำเรื่องของเขาได้แล้ว!!!
“คุณ…คุณชื่ออาคาชิคุงเหรอ….”
“…”
อาคาชิเงียบไปเมื่อดวงตาสีฟ้าหม่นหมองชอนตามองด้วยแววตาสับสนในใจ สั่นไหวเสียจนเขาเองก็หวั่นๆใจ...
“คุณ…เหมือนเด็กในความทรงจำของผม”
“!!!” อาคาชิเบิกตากว้างเมื่อปากบางขยับเอ่ย
“มัน..มันเลือนรางไปหมด…อึก.. ผมนึกอะไรไม่ออกเลย อึ้ก!!!”
อาคาชิที่เห็นคุโรโกะกุมศีรษะตัวเองอย่างบ้าคลั่ง ก็รีบดึงร่างบางเข้ามาในอ้อมกอดของตน จับท้ายทอยอีกฝ่ายกดซบลงกับอกของตนแน่น คุโรโกะเบิกตากว้าง จู่ๆความทรงจำมากมายที่ไม่ปะติดปะตอกันก็ไหบเข้ามาเป็นสาย
เด็กผู้ชายผมแดง ?
ยิ้มแย้มแล้วยื่นบาสมาให้เขา ?
เรากำลังเล่นบาสด้วยกัน
เอ๊ะ ? นั่นพ่อแม่ของเขานี่ ?
นอนอยู่บนเตียงแล้วผ้าขาวปิดหน้า ?
เขาในตอนนั้นร้องไห้…อึก..ร้องไห้
ใครน่ะ ? ใครเดินมากอดเขาจากด้านหลังน่ะ ?
ผมสีแดงเหรอ ?
อา….อาคา…ชิ ?
“ไม่ต้องรีบเท็ตสึยะ นายจะต้องจำมันได้……” ลูบหัวอีกฝ่ายเบาๆ เปล่งเสียงหล่อเหลาที่สั่นครือเต็มไปด้วยความดีใจ คุโรโกะน้ำตาคลอเบ้าเสียอย่างนั้นอย่างไม่ทราบสาเหตุ…
นี่เขาดีใจอะไรงั้นเหรอ ?
ทำไมรู้สึกดีใจแปลกๆ…
อึก…ดีใจ..ดีใจเหลือเกิน…
“ฮึก…” โอบกอดอีกฝ่ายตอบซบหน้าหวานลงกับอกอีกฝ่ายแนบชิด อ้อมกอดที่อบอุ่นนี้มันอยู่คู่กับเขามาตลอดตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว..
อยากจะขอบคุณอีกฝ่าย
แม้ไม่รู้ว่าทำไมต้องขอบคุณ
อยากกอดตอบอีกฝ่ายในความเป็นจริง
แม้ไม่รู้ว่าเจ้าตัวอยู่ที่ไหน
“เท็ตสึยะ……” คลายอ้อมกอดแล้วเชยคางอีกฝ่ายให้สบตามองกับตน ทั้งคู่สบมองกันไปมาอย่างหวานซึ้ง ระยะห่างของใบหน้าค่อยๆละระยะลงจนในที่สุดปากทั้งสองก็ค่อยๆประทับกันอย่างอ้อยอิ่งและอ่อนโยน
มือหนาประคองใบหน้าอีกฝ่ายเงยสูงลองรับรสจูบที่ร้อนแรงแต่อ่อนโยนและเชื่องช้าปลอบใจ คุโรโกะเคลิบเคลิ้มอย่างลืมตัว เผลอจูบตอบอีกฝ่ายตามอารมณ์ที่กำลังชักนำทาง
อาคาชิผลักร่างบางให้ล้มลงนอนราบกับพื้น ถลกเสื้อที่เอวขึ้นเผยหน้าท้องสาวซีด วางมือหนาทาบลงแล้วลากไล้ไปมาเบาๆ
“ผมกลัวเหลือเกิน…กลัวว่านายจะหายไปจากผมตลอดกาล”
“ผมกลัวการสูญเสียที่สุด…”
“ผมกลัวจริงๆ…ผมอยากให้นายรู้เรื่องของผมด้วยตัวของนายเอง…”
“แม้มันจะลำบากและต้องใช้เวลา แต่ผมก็อยากให้นายยอมรับในตัวตนที่โปร่งแสงในตอนนี้ของผม”
“ผมไม่อยากโดนนายขยะแขยง ที่โดนคนไร้ซึ่งร่างกายอย่างผมปกป้องนายมาตลอด”
“จำผมให้ได้สักทีเท็ตสึยะ….”
“รีบจำผมให้ได้ในตอนที่ใจนายยังไม่ให้ใครอื่น”
“รีบจำให้ได้…ก่อนที่ผมจะไม่มีสิทธิ์ครอบครองใจของนายได้อีก…”
“เฮือก!!!”
คุโรโกะสะดุ้งตาตื่นขึ้นมา ใบหน้าชื้นเหงื่อเปียกชุ่มทั่วไปทั่งหน้า ดวงตาสีฟ้าตื่นตระหนกสั่นไหวตกใจกับฝันที่ตนพึ่งฝั่นไปเมื่อครู่นี้
เอื้อมมือมาขยี้ผมสีฟ้าแน่นแล้วนึกถึงฝันที่ผ่านมาเมื่อครู่นี้ก่อนที่จะตื่น
หนุ่มผมแดง ?
เด็กหนุ่มผมแดงในวัยเด็กด้วย ?
ทั้งสองเป็นคนคนเดียวกันเหรอ ?
อึก!! นึกอะไรไม่ออกอีกแล้ว!!
ทำไมรู้สึกโหยหา
รู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาด
อ้อมกอดที่แสนอ่อนโยนนั่นมาจากคนคนนั้นงั้นเหรอ ?
อ่า…ใช่งั้นเหรอ …
แล้วเขาเป็นใครกันละ ?
เขาอยู่ที่ไหน ? บ้านอยู่ตรงไหน ?
ความทรงจำแปลกๆปรากฏขึ้นมาเสียเฉยๆ
เขากำลังวิ่งเล่นกับเด็กผู้ชายผมสีแดง ?
ใครกันอีกละเนี้ย…
นึกอะไรไม่ออกอีกแล้ว….
อ่า…นั่นสินะ..
คนคนนั้นบอกว่าค่อยๆคิด ไม่ต้องรีบ…
อ่า..งั้นสินะ…
ค่อยๆพยุงร่างกายลุกขึ้นอีกครั้ง มองนาฬิกาบนฝาพนังทำให้รู้ว่าตอนนี้เป็นเวลาเกือบห้าทุ่มเช่นเดิม เขามักจะเผลอหลับในเวลานี้เสมอๆ และมักจะฝันถึงใครบางคนอีกด้วยเช่นกัน มันเป็นแบบนี้ทุกครั้งในตอนที่เขาหลับ และมักจะตื่นขึ้นมาด้วยอาการงุนงงและสงสัย เหมือนมีความทรงจำมากมายเกี่ยวกับเด็กผมแดงในวัยเด็กหายไปอย่างไม่ทราบสาเหตุ
อา…นี่ก็เป็นอีกวันสินะที่เขาได้มานอนที่ห้องพยาบาลนี่อีกครั้งเพราะเรื่องทะเลาะวิวาทอย่างลับๆของเขากับคนในห้องคนเดิมๆ คุโรโกะมองตัวเองตามร่างกายที่ปรากฏบาดแผลฟกช้ำแบบเดิมและแบบใหม่
เขาก็มาโรงเรียนแบบเดิมตามปกติแท้ๆ…อ่า…ไม่คิดว่าจะโดนรุมเตะแบบนั้นอีกครั้ง…ก่อนที่จะโดนทำร้าย ความทรงจำก็ขาดๆหายๆไปอีกครั้ง และตื่นขึ้นมาอีกครั้งในที่ใหม่อย่างปริศนาทุกๆครั้ง
มีแต่เรื่องปริศนามากมายเต็มไปหมด
หนุ่มผมแดงคือใครในอดีตของเขางั้นเหรอ ?
ความอบอุ่นที่ได้มานั้น มาจากคนคนนั้นงั้นเหรอ ?
ทำไมความทรงจำในวัยเด็กก็ขาดๆหายๆไปเหมือนกันกับตอนนี้ ?
ทำไมอีกฝ่ายถึงอยากให้นึกถึงเรื่องของตัวเองได้ ?
อ่า…มีแต่คำถามที่ไม่มีคำตอบเต็มไปหมด….
ปวดหัวจริงๆ…
จะว่าไปมีสิ่งๆเดียวที่เขาจำได้ขึ้นใจ…
ความอ่อนโยนในยามที่กอดใครสักคนในความฝัน…
มันเหมือนความอบอุ่นในยามที่ตนท้อแท้ไม่มีผิดเพื้ยน
หรือว่าความอบอุ่นที่ว่านั้นจะมาจาก……
ครืด…
“คุ…คุโรโกะคุง…”
เสียงประตูเลื่อนออกขัดความคิดของร่างบางบนเตียง ปรากฏหญิงสาวผมน้ำตาบตัดสั้นปรกใบหน้าและดวงตาคล้ายกับเป็นบุคคลที่ไม่อยากจะให้เปิดเผย คุโรโกะมองตามหญิงสาวที่มาเยี่ยมตนแล้วเอียงคอสงสัย
แฟนของ…ชายหนุ่มที่มามีเรื่องกับตนอยู่บ่อยครั้ง…
คุโรโกะรีบหันหน้าหนีหญิงสาวที่มักเข้ามาตีสนิทตนจนทำให้ตนมีเรื่องเจ็บตัวอยู่บ่อยครั้ง คุโรโกะกัดปากแน่นกำผ้าห่มห้องพยาบาลจนเกิดริ้วรอยผ้ายับ เธอก้าวเข้ามาใกล้จนหยุดอยู่ที่ข้างเตียง กุมมือทั้งสองของตนยืนนิ่งแสดงสีหน้ารู้สึกผิดออกมาอย่างเต็มประดา
“…”
“ฉัน…ฉันขอโทษแทนแฟนของฉันด้วยนะ….”
“…”
“ฉัน…ฉันขอโทษจริงๆนะคุโรโกะคุง!!!”
เธอโน้มโค้งขอโทษกับเขาอย่างมีมารยาทและรู้สึกผิดเต็มประตู คุโรโกะเหลียวตามามองอีกฝ่ายที่ร่างกายสั่นระริกรู้สึกผิดจริงๆ…
อ่า…เขาก็ไม่ได้ใจร้ายที่จะไม่ยกโทษให้….
“ไม่เป็นไรครับ….ต่อจากนี้ก็…ช่วยเลิกยุ่งกับผมสักทีเถอะนะครับ”
เธอรีบกลับมายืนตัวตรงก่อนที่จะแสดงสีหน้าสงสัยออกมาอย่างเห็นได้ชัด
“เอ๋ ? แต่ฉันอยากรู้จักเพื่อนของคุโรโกะคุงนะ”
“เพื่อน ? ผมไม่มีเพื่อนหรอกนะครับ”
“อ้าว ก็คนที่ผมสีแดงสวยแล้วเดินกับคุโรโกะคุงบ่อยๆไง”
“ผม…ผมไม่----”
“เขาเท่มากเลยนะตอนนั้น อยู่เป็นเพื่อนกับคุโรโกะคุงตลอดเวลา ทั้งจับมือ ทั้งกอด ทั้งช่วยเหลือมากมาย ฉันรู้สึกประทับใจความเท่ของเขามาก”
“…”
“นี่ๆ เขาชื่ออะไรงั้นเหรอ ?”
จู่ๆลมจากด้านนอกก็พัดเข้ามาด้านในห้องพยาบาลที่คุโรโกะนอนอยู่ ความแรงของลมทำให้ผ้าม่านปลิวสไวไปมาตามแรง ก่อนที่หลังผ้าม่านจะปรากฏร่างของหนุ่มผมสีแดงยืนมองเหตุการณ์ตรงหน้านิ่งเงียบ สลับมองดวงตาสีฟ้าสั่นไหวสับสน
“…ผม…ผมไม่รู้…”
“ไม่มี…ไม่มีใครเดินมากับผมทั้งนั้น…”
“คุณคงตาฝาด….”
ใช่…จะไปมีได้ยังไงกัน…
ก็เขา…อยู่คนเดียวมาตลอดนี่…
ไม่มีใครทั้งนั้น….
เอ๊ะ…ผมแดงเหรอ…
อาคาชิ…..คุง ?
ทำไมต้องมีชื่อของอาคาชิคุงปรากฏขึ้นมาบนหัวอยู่ตลอดๆด้วย ?
ทั้งๆที่ ?ไม่อาจจะรู้ได้ว่าใช่หรือเปล่า…
ลางสังหรณ์เหรอ …
“เท็ตสึยะ”
“หือ ? เมื่อกี้คุณเรียกชื่อผมเหรอ”
คุโรโกะสะดุ้งเมื่อจู่ๆก็มีเสียงเรียกชื่อเขาดังขึ้น คุโรโกะมองซ้ายขวาไปมาไม่พบต้นตอเสียง จึงหันมามองหญิงสาวตรงหน้าแทน เพราะพวกเขาอยู่กันสองคน
“เอ๊ะ เปล่านะ!! ฉันยังไม่ได้พูดอะไรเลย”
“แต่เมื่อกี้ผมได้ยิน-------”
“ผมรักนาย เท็ตสึยะ”
“ผมจะรอเวลาที่นายจำผมได้”
“จนถึงตอนนั้น อย่าไปรักใครก่อนเลย…”
“เมื่อกี้เสียงใครน่ะ!!!!”
คุโรโกะหันซ้ายขวาไปมามองหาเสียงที่ดังขึ้นมาอีกครั้งชัดเจนว่าเป็นเสียงของชายหนุ่ม คุโรโกะเหงื่อแตกพลั่กจนหญิงสาวเริ่มหวาดระแวงตามบ้าง เธอรีบเดินออกจากห้องไปทิ้งคุโรโกะให้อยู่ตามลำพังกับความหวาดกลัวแปลกๆนี้
“….อาคาชิคุง…เสียงเหมือน..เสียงเหมือนคนคนนั้นในความฝันของเราเลย….”
อ่า..ทั้งเสียงและทำนองการพูด
เหมือนกันมาก…อ่า..ความอบอุ่นนี้สัมฟผัสด้านหลังตัวเขาอีกแล้ว…
เขาชอบมันจัง…
เหมือนปริศนาต่างๆเริ่มจะคลายลงแล้วแม้จะเล็กน้อยก็ตาม..
อ่า…สีแดง…
อื้ม…สีแดงเหมือนสีผมคางามิคุงเลย…
อ่า…คางามิคุง…
อึก ? ความอบอุ่นหายไปซะแล้ว ?
ทำไมจู่ๆถึงหายไปกัน ?
อ้อมกอดเหมือนอาคาชิคุงเลย….
แต่เรา…ไม่เคยเห็นอาคาชิคุง…
เอ๊ะ ? หรือจะเป็นคางามิคุง ?
อ่า…ใช้..ต้องใช่แน่ๆ ก็คางามิคุงก็มีผมสีแดงนี่…
ความอบอุ่นต้องมาจากคางามิคุงแน่ๆ…
…ตอนนี้เขาคิดถึงคางามิ ไทกะเหลือเกิน
อยากจะเจอคนอ่อนโยนแบบนั้นอีกสักครั้ง…
อึก…อยากจะเป็น…เพื่อนกับอีกฝ่าย…
ร่างบางคิดแล้วก็ยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว คิดถึงร่างหนาที่พึ่งรู้จักกันไปเมื่อวานนี้ ค่อยๆพยุงร่างแล้วเดินออกจากห้องไปทิ้งเพียงความว่างเปล่าไว้แค่ด้านหลังของฉาก
บนเตียงปรากฏร่างของหนุ่มผมแดงที่น้ำตาร่วงโรยเปื้อนเตียงอีกครั้งอย่างปวดร้าว
อ้อมกอดที่มอบให้
มันคืออ้อมกอดของเขาแท้ๆ…
แต่ทำไม…ทำไมกัน ทั้งๆที่เขาพยายามใกล้ชิดอีกฝ่ายมากถึงขนาดนี้
แต่ทำไมอีกฝ่ายกลับไม่เคยที่จะรู้
ทั้งๆที่กำลังนึกเรื่องของตนออกแท้ๆ
แต่กลับมีชายคนอื่นมาบังหน้าและความทรงจำทุกอย่างเสียจนหมดสิ้น
“ไม่ว่ายังไงนายก็ไม่อาจจะมองเห็นผมงั้นเหรอ….”
“ผม…..ฮึกก…ผมต้องพยายามอีกนานแค่ไหน…”
“นายถึงจะมองเห็นผม เห็นตัวตนที่ไร้ร่างกายของผม!!”
“…ผมถนุถนอมนายมาตลอด 10 ปี…ผมไม่ยอมแน่…”
“ผมไม่ยอมให้คนอื่นมาขโมยไปได้ง่ายๆหรอก...”
“ผมไม่ยอมเป็นผู้ที่โดนทิ้งไว้ด้านหลังคนเดียวแน่…”
ทุกความรู้สึกคนเราสามารถที่จะรับรู้มันได้โดยการสัมผัส
ความรู้สึก ความคิด ความใจดี และต่างๆสามารถที่จะสัมผัสมันได้
แม้มันจะไม่มีตัวตนก็ตาม แต่ก็สามารถทำให้รู้ว่าใครกำลังสื่อมันออกมา
ซึ่งแตกต่างกับคนที่ไร้ซึ่งร่างกาย…อ่า ความรู้สึกรักมากมายพูดถ่ายทอดออกมา
แต่ไร้ซึ่งร่างกกายของผู้ที่สื่ออารมณ์นั้นๆออกมา…
มันเจ็บปวดเหลือเกินที่โดนมองข้าม
มันชั่งไม่ยุติธรรม…ทุกคนมักจะมองสิ่งที่มองเห็นก่อนอยู่แล้วเสมอ…
อ่า…ความจริงข้อนี้ทำให้อาคาชิ เซย์จูโร่เจ็บเหลือเกิน…
แม้จะรักมากมายแค่ไหน…ก็ไม่อาจจะส่งไปถึงร่างบางนั้นได้เลย…
ความคิดเห็น